ข่าว
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 19, 2010 11:44 am
กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ
: บมจ.หลักทรัพย์เอเชียพลัส
19 พ.ย. 53
กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ กฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ปัจจัยบวกที่แฝงอุปสรรค
คำแนะนำการลงทุนเท่ากับตลาด
กฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯบวกต่อใบอนุญาตใหม่ แต่ขวางธุรกิจปัจจุบัน จากงานสัมมนาเชิงวิชาการเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมหลังกฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ฉบับใหม่บังคับใช้ ขั้นตอนต่อไปคือ โดยคณะกรรมการ กสทช. ที่จัดตั้งมีหน้าที่กำกับดูแลทั้งกิจการโทรคมนาคม และกิจการวิทยุกระเสียง โทรทัศน์ และหากเป้นไปตามขึ้นตอนดังกล่าวข้างต้น คาดว่าเอกชนที่ชนะการประมูลใบอนุญาตใหม่ 3.9 บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz จะสามารถให้บริการได้เร็วสุดภายในก.ค. 2556 เนื่องจากต้องใช้เวลาติดตั้ง 6 เดือนหลังรู้ผลการประมูล นอกจากนี้ พรบ.จัดสรรคลื่นความถี่ดังกล่าวฯ ยังระบุให้ TOT และ CAT ต้องนำรายได้สัมปทานที่จัดเก็บจากภาคเอกชนทั้งหมด ส่งให้ภาครัฐเป็นเวลา 3 ปี ( เท่ากับ TOT และ CAT มี รายได้ค่าสัมปทานเดิมอีกเพียง 3 ปีเท่านั้น) หลังจากที่กสทช.จัดตั้ง ส่วนประเด็นที่มีความไม่ชัดเจน ของ พรบ.จัดสรรคลื่นความถี่มีผลบังคับใช้ คือ มาตรา46 ซึ่งระบะไว้ว่า ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคมเป็นสิทธิ เฉพาะตัวของผู้ได้รับใบอนุญาต ไม่สามารถโอนให้แก่ผู้อื่นได้ ผู้ได้รับใบอนุญาต สำหรับ ใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคม ต้องประกอบกิจการด้วยตนเอง จะมอบการบริหารจัดการทั้งหมดหรือบางส่วนหรือยินยอมให้บุคคลอื่นเป็นผู้มีอำนาจประกอบกิจการแทนมิได้ ด้วยเหตุนี้ จึงอาจจะต้องให้ศาลปกครอง เป็นผู้ตึความว่า ธุรกิจผู้ให้บริการที่เช่าโครงข่ายผู้อื่น (MVNO) สามารถดำเนินการได้หรือไม่ คาดใบอนุญาตใหม่ 3G จะเปิดให้ประมูลปลายปี 2555 ล่าช้ากว่าที่คาด ขณะที่รอคอยใบอนุญาตใหม่ 3.9G ผู้ประกอบการทุกรายดิ้นรน หาช่องทำธุรกิจ 3G เพื่อรองรับ พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้ Smart Phone อย่าง iPhone และ Blackberry มากขึ้น และทำให้แนวโน้มการใช้บริการ non-voice มีแนวโน้มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการ 3G ภายใต้สัมปทานเดิม หรือตั้งบริษัทย่อย เพื่อเป็นผู้ให้บริการที่เช่าโครงข่ายผู้อื่น (MVNO) รวมทั้งการศึกษาแนวทางการเข้าซื้อหุ้นจาก Hutch (TRUE, ADVANC) แต่ทุกช่องทางล้วนมีอุปสรรค โดยเฉพาะการให้บริการ 3G ภายใต้สัมปทานเดิม ซึ่ง ADVANC ได้ทดลองทำแล้วที่เชียงใหม่ พัทยา กรุงเทพเพียง 2-3 จุด แต่ ADVANC มีอุปสรรคที่ฐานลูกค้ามาก จึงมี Capacity ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องหยุดชะงักไป ขณะที่ TRUE MOVE ได้รับคลื่นความถี่ 850 จำนวน 5 MHz (จาก CAT และ DTAC อย่างละ 2.5 MHz) ขยายฐาน 3G ไป 1.2 พัน Cell size แล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ได้รับอนุญาตจาก CAT ให้สามารถทดลองใช้ได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้ใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ด้วยคลื่นความถี่ 850 ที่มีเพียง 5 MHz จึงไม่น่าจะเพียงพอที่จะรองรับในเชิงพาณิชย์ ขณะที่ DTAC มีความพร้อมสุดในการให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิม 850 ในเชิงพาณิชย์ เพราะมีคลื่นความถี่ดังกล่าว 10 MHz แต่ปัจจุบันได้รับอนุญาตจาก CAT ให้ทดลองใช้ 1.2 พัน Cellsize เช่นกัน โดย CAT ยังไม่มีที่ท่าตอบรับว่าจะอนุญาตให้ DTAC ให้บริการในเชิงพาณิชย์เมือไร ดังนั้นผู้ประกอบการทั้ง 3 รายจึงหันมาสนใจธุรกิจ MNVO ที่จะขอเช่าจาก TOT อย่างไรก็ตามมีเพียงบริษัทลูกของ ADVANC และ True Move ที่มีใบอนุญาต MNVO แล้ว ส่วน DTAC กำลังขอจาก กทช. ซึ่งกทช.ยังไม่ให้ใบอนุญาต เพราะเกรงว่าจะขัดมาตรา 44 ของพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ขณะที่ธุรกิจ MVNO ยังต้องรอการตึความจากศาลปกครองว่าจะขัดต่อมาตรา 44 ของพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่หรือไม่ จึงคาดว่าจะใช้เวลาอีกนาน ทำให้บริการ 3G ยังต้องรอการประมูลใบอนุญาต 3.9 บนคลื่นความถี่ใหม่ที่คาดว่าจะเกิดปลายปี 2555 อยู่ดี
คงนำหนัก เท่ากับตลาด แนะนำ "ซื้อ" ADVANC และ DTAC การดำเนินธุรกิจ 3G ของผู้ให้บริการมือถือปัจจุบันยังสะดุด จนกว่าจะเกิดการประมูล 3.9G อีกครั้งในปลายปี 2555 อย่างไรก็ตามเนื่องจากพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ที่กำลังมีผลบังคับใช้ ยังช่วยให้มั่นใจว่าใบอนุญาตใหม่ 3.9G จะเกิดขึ้นแน่ภายใน 2 ปีนี้ ฝ่ายวิจัยจึงคงน้ำหนัก "เท่ากับตลาด" โดยยังคงประเมินมูลค่า ADVANCE DTAC TRUE จากสัมปทาน 2G ปัจจุบัน เท่านั้น ได้ 104.52 บาท, 54 บาท และ 3.62 บาท และคงคำแนะนำ "ซื้อ" ADVANC และ DTAC เนื่องราคาหุ้นยังมี Upside ค่อนข้างมาก บวกกับเงินปันผลยังจูงใจ *****************************************************ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ดี บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัสไม่สามารถที่จะยืนยันหรือรับรองความถูกต้องของข้อมูลเหล่านี้ได้ ไม่ว่าประการใดๆ บทวิเคราะห์ในเอกสารนี้ จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงหลักเกณฑ์ทางวิชาการเกี่ยวกับหลักการวิเคราะห์ และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือพันธะผูกพันใดๆ กับ บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส ไม่ว่ากรณีใด
: บมจ.หลักทรัพย์เอเชียพลัส
19 พ.ย. 53
กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ กฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ปัจจัยบวกที่แฝงอุปสรรค
คำแนะนำการลงทุนเท่ากับตลาด
กฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯบวกต่อใบอนุญาตใหม่ แต่ขวางธุรกิจปัจจุบัน จากงานสัมมนาเชิงวิชาการเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมหลังกฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ฉบับใหม่บังคับใช้ ขั้นตอนต่อไปคือ โดยคณะกรรมการ กสทช. ที่จัดตั้งมีหน้าที่กำกับดูแลทั้งกิจการโทรคมนาคม และกิจการวิทยุกระเสียง โทรทัศน์ และหากเป้นไปตามขึ้นตอนดังกล่าวข้างต้น คาดว่าเอกชนที่ชนะการประมูลใบอนุญาตใหม่ 3.9 บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz จะสามารถให้บริการได้เร็วสุดภายในก.ค. 2556 เนื่องจากต้องใช้เวลาติดตั้ง 6 เดือนหลังรู้ผลการประมูล นอกจากนี้ พรบ.จัดสรรคลื่นความถี่ดังกล่าวฯ ยังระบุให้ TOT และ CAT ต้องนำรายได้สัมปทานที่จัดเก็บจากภาคเอกชนทั้งหมด ส่งให้ภาครัฐเป็นเวลา 3 ปี ( เท่ากับ TOT และ CAT มี รายได้ค่าสัมปทานเดิมอีกเพียง 3 ปีเท่านั้น) หลังจากที่กสทช.จัดตั้ง ส่วนประเด็นที่มีความไม่ชัดเจน ของ พรบ.จัดสรรคลื่นความถี่มีผลบังคับใช้ คือ มาตรา46 ซึ่งระบะไว้ว่า ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคมเป็นสิทธิ เฉพาะตัวของผู้ได้รับใบอนุญาต ไม่สามารถโอนให้แก่ผู้อื่นได้ ผู้ได้รับใบอนุญาต สำหรับ ใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคม ต้องประกอบกิจการด้วยตนเอง จะมอบการบริหารจัดการทั้งหมดหรือบางส่วนหรือยินยอมให้บุคคลอื่นเป็นผู้มีอำนาจประกอบกิจการแทนมิได้ ด้วยเหตุนี้ จึงอาจจะต้องให้ศาลปกครอง เป็นผู้ตึความว่า ธุรกิจผู้ให้บริการที่เช่าโครงข่ายผู้อื่น (MVNO) สามารถดำเนินการได้หรือไม่ คาดใบอนุญาตใหม่ 3G จะเปิดให้ประมูลปลายปี 2555 ล่าช้ากว่าที่คาด ขณะที่รอคอยใบอนุญาตใหม่ 3.9G ผู้ประกอบการทุกรายดิ้นรน หาช่องทำธุรกิจ 3G เพื่อรองรับ พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้ Smart Phone อย่าง iPhone และ Blackberry มากขึ้น และทำให้แนวโน้มการใช้บริการ non-voice มีแนวโน้มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการ 3G ภายใต้สัมปทานเดิม หรือตั้งบริษัทย่อย เพื่อเป็นผู้ให้บริการที่เช่าโครงข่ายผู้อื่น (MVNO) รวมทั้งการศึกษาแนวทางการเข้าซื้อหุ้นจาก Hutch (TRUE, ADVANC) แต่ทุกช่องทางล้วนมีอุปสรรค โดยเฉพาะการให้บริการ 3G ภายใต้สัมปทานเดิม ซึ่ง ADVANC ได้ทดลองทำแล้วที่เชียงใหม่ พัทยา กรุงเทพเพียง 2-3 จุด แต่ ADVANC มีอุปสรรคที่ฐานลูกค้ามาก จึงมี Capacity ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องหยุดชะงักไป ขณะที่ TRUE MOVE ได้รับคลื่นความถี่ 850 จำนวน 5 MHz (จาก CAT และ DTAC อย่างละ 2.5 MHz) ขยายฐาน 3G ไป 1.2 พัน Cell size แล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ได้รับอนุญาตจาก CAT ให้สามารถทดลองใช้ได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้ใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ด้วยคลื่นความถี่ 850 ที่มีเพียง 5 MHz จึงไม่น่าจะเพียงพอที่จะรองรับในเชิงพาณิชย์ ขณะที่ DTAC มีความพร้อมสุดในการให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิม 850 ในเชิงพาณิชย์ เพราะมีคลื่นความถี่ดังกล่าว 10 MHz แต่ปัจจุบันได้รับอนุญาตจาก CAT ให้ทดลองใช้ 1.2 พัน Cellsize เช่นกัน โดย CAT ยังไม่มีที่ท่าตอบรับว่าจะอนุญาตให้ DTAC ให้บริการในเชิงพาณิชย์เมือไร ดังนั้นผู้ประกอบการทั้ง 3 รายจึงหันมาสนใจธุรกิจ MNVO ที่จะขอเช่าจาก TOT อย่างไรก็ตามมีเพียงบริษัทลูกของ ADVANC และ True Move ที่มีใบอนุญาต MNVO แล้ว ส่วน DTAC กำลังขอจาก กทช. ซึ่งกทช.ยังไม่ให้ใบอนุญาต เพราะเกรงว่าจะขัดมาตรา 44 ของพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ขณะที่ธุรกิจ MVNO ยังต้องรอการตึความจากศาลปกครองว่าจะขัดต่อมาตรา 44 ของพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่หรือไม่ จึงคาดว่าจะใช้เวลาอีกนาน ทำให้บริการ 3G ยังต้องรอการประมูลใบอนุญาต 3.9 บนคลื่นความถี่ใหม่ที่คาดว่าจะเกิดปลายปี 2555 อยู่ดี
คงนำหนัก เท่ากับตลาด แนะนำ "ซื้อ" ADVANC และ DTAC การดำเนินธุรกิจ 3G ของผู้ให้บริการมือถือปัจจุบันยังสะดุด จนกว่าจะเกิดการประมูล 3.9G อีกครั้งในปลายปี 2555 อย่างไรก็ตามเนื่องจากพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ที่กำลังมีผลบังคับใช้ ยังช่วยให้มั่นใจว่าใบอนุญาตใหม่ 3.9G จะเกิดขึ้นแน่ภายใน 2 ปีนี้ ฝ่ายวิจัยจึงคงน้ำหนัก "เท่ากับตลาด" โดยยังคงประเมินมูลค่า ADVANCE DTAC TRUE จากสัมปทาน 2G ปัจจุบัน เท่านั้น ได้ 104.52 บาท, 54 บาท และ 3.62 บาท และคงคำแนะนำ "ซื้อ" ADVANC และ DTAC เนื่องราคาหุ้นยังมี Upside ค่อนข้างมาก บวกกับเงินปันผลยังจูงใจ *****************************************************ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ดี บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัสไม่สามารถที่จะยืนยันหรือรับรองความถูกต้องของข้อมูลเหล่านี้ได้ ไม่ว่าประการใดๆ บทวิเคราะห์ในเอกสารนี้ จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงหลักเกณฑ์ทางวิชาการเกี่ยวกับหลักการวิเคราะห์ และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือพันธะผูกพันใดๆ กับ บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส ไม่ว่ากรณีใด