Thai VI

ผมว่าคุณคิดถูกแล้วครับ

มีเงินค่อยมีรถดีกว่า ทนๆ ไปก่อน

ค่าใช้จ่ายรถเยอะ

รถ=ลด

เป็นกระทู้ที่ นาน มาแล้ว

แต่ผมจะมาฟันธงว่า

พี่ต้องซื้อรถให้แฟนครับ

ผมเองปัจุบันไม่ซื้อรถ(และไม่มีแฟน)  เพราะทราบถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งค่าเสื่อม

แต่เราจะเอา มาตราฐานตัวเองไปตัดสินใจแทนคนอื่นไม่ได้

โดยเฉพาะผู้หญิงที่เรารัก  

ขอให้คิดถึงอันตรายนับร้อยที่เกิดกับผู้หญิง ที่นั่ง มอไซ นั่งรถเมล์

ขนาดผมยังจะซัดกับแทกซี่หรือกระเป๋าก็บ่อยไป ไหนจะฝนตก อุบัติเหตุอีก

แต่ปัจจุบัน ผมยังไม่ซื้อ ผมรับได้  แต่ถ้าผมเป็นพี่ผมซื้อให้ เพราะนอกจากแฟนยังมีลูกอีก

ลองคิดดูนะครับ เป็นอิสระทางการเงินเร็วแต่เหลือแค่ตัวเอง

สู้เป็นอิสระช้าหน่อย แต่อยู่กันพร้อมหน้า
(ล่าสุดข่าวหนังสือพิมท์ ผู้ หญิงซ้อนมอไซค์ ตายครับ โจรมันถีบรถให้ล้มแย่งกระเป๋า เฮ้อ)

สู้ๆครับ


เป็นกำลังใจให้


สำหรับรถยนต์นั้นผมคิดว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ไปแล้วการเดินทางด้วยวิธีอื่นบางครั้งก็ไม่ปลอดภัย มีความเห็นดังนี้


ควรซื้อรถมือ 1 ราคาไม่แพงและผ่อนเอาครับ เนื่องจากเห็นเพื่อนๆที่ซื้อรถมือ 2 สภาพไม่ดีแล้วเห็นใจครับ เพราะต้องซ่อมเยอะ...ยังไงหก็คิดดีๆนะครับ

ประหยัดดีกว่าครับ ผมเองเคยอยากได้ Lexus คันเกือบ 4 ล้าน ผ่อนน่ะผ่อนไหว แต่มาคิดอีกที ใช้รถเก่าก็ดีครับ ไม่ต้องห่วงมาก เก็บเงินไว้ลงทุน บริจาคบ้าง สบายใจกว่าครับ วัตถุมันเป็นสิ่งภายนอกกาย อยากนั่งรถดี นั่งรถเพื่อน หรือเช่ารถมาขับเป็นช่วงสั้นๆ ก็อาจหายอยากน่ะครับ

อยากทราบว่าเจ้าของกระทู้ตัดสินใจอย่างไรครับ
1. ซื้อรถหรือไม่
2. ใช้เหตุผลอะไรอธิบายให้แฟนเห็นด้วย
3. ท่าทีของแฟนเป็นอย่างไร
4. หลักการณ์ของเจ้าของกระทู้ปรับลดให้อ่อนลงบ้างไม้
เป็นคำถามที่อยากรู้
ถ้าไม่ตอบก็ไม่เป็นไร
แต่อย่าตำหนิความอยากรู้ของผมเลย

ของผมก็คล้ายๆเรื่องนี้นะครับ
แต่เป็นการตัดสินใจของผมเองแหละครับ

คืออยากให้น้องไป work & travel ในช่วง SUMMER
แต่ก็ต้องหาเงินมาโชว์ใน statement
ผมก็เลยขายหุ้นเสียส่วนหนึ่ง
มานอนนิ่งๆไว้ในบัญชีของแม่ ( เพื่อเอาไปรับรองการขอวีซ่าให้น้อง )

เสียดายเหมือนกันครับ
เพราะถ้าไม่ขายป่านนี้เข้าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้เรียบร้อยแล้ว

แต่ผมก็คิดว่าช่างมันนะ
เราเป็นพี่ช่วยน้องหรือสร้างโอกาในการเรียนรู้ให้น้องได้ก็ทำไป

( ตอนผมเรียนก็อยากไปมาก แต่มีมีทุนไป แหะๆ )

ผมเลยไม่อยากให้น้องพลาดโอกาสอะไรแบบนี้เหมือนผม
ก็เลย Hold Cash อยู่ในบัญชี saving ไว้นิ่งๆครับ
รอขอวีซ่าผ่าน ค่อยเอาเงินก้อนนั้นมาซ่าต่อ หุหุ

leonleon เขียน:ของผมก็คล้ายๆเรื่องนี้นะครับ
แต่เป็นการตัดสินใจของผมเองแหละครับ

คืออยากให้น้องไป work & travel ในช่วง SUMMER
แต่ก็ต้องหาเงินมาโชว์ใน statement
ผมก็เลยขายหุ้นเสียส่วนหนึ่ง
มานอนนิ่งๆไว้ในบัญชีของแม่ ( เพื่อเอาไปรับรองการขอวีซ่าให้น้อง )

ถ้าเรื่องวีซ่า ให้โบรคออกเอกสารแสดงมูลค่าพอร์ทก็ได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องโชว์เงินสดอย่างเดียวก้ได้

เจ้าของกระทู้เค้าตอบไปแล้วนะครับ
ทุกอย่างแฮบปี้เอนดิ้ง


[quote="Mr.Pig"]ก่อนอื่นครับ
ผมกราบขอบพระคุณในทุกความคิดเห็นและกำลังใจที่เพื่อนๆและพี่ใน Web VI หลั่งไหลให้มาผ่านทาง Board นี้ซึ่งทุกความเห็นนั้นผมได้น้อมรับและ
และที่สำคัญแต่ละความเห็นนั้นนั้นได้ทำให้ผมถอยออกมาหนึ่งก้าวและตั้งสติทบทวน

คุณ Mr. Pig ยินดี ด้วยครับ ทุกอย่าง win-win  :D


-----------------------------------------------------------------

--- ขอแบ่งปันความคิดต่อ พี่ ๆ และ เพื่อน ๆ  ---

ผมเคยดู ภาพยนต์ฝรั่งเรื่อง "Click" ในภาพยนต์ เรื่อง นี้ได้ให้แง่คิดเกี่ยวกับ การใช้ชีวิต การทำงาน และ ครอบครัว ได้ดีมาก (ตามความคิดของผม) ในภาพยนต์จะมี ประโยคทองอยู่ 1 ประโยค และ ผมก็ยังจำได้ดี "Family come first" ....

เรื่องย่อสั่น ๆ
...สามี ต้องการที่จะประสบความสำเร็จ ในหน้าที่ การงาน โดยหวังที่จะได้โปรโมท ในตำแหน่งที่สูงขึ้น รายได้มากขึ้น เพื่อครอบครัว แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่ หวังไว้ ... แล้ววันหนึ่ง ได้พบ รีโมท ที่สามารถจะข้ามกาลเวลาทุกสิ่งทุกอย่าง และ แล้วสิ่งที่ เขาผู้ชายต้องการ ก็ได้อย่างที่เขาต้องการทุกอย่าง แต่ การได้มาซึ่งความสำเร็จอย่างหนึ่ง ย่อมต้องสูญเสีย อะไรบางอย่างไป ...

พี่ ๆ เพื่อน ๆ ลองไปหาดูนะครับ ผมว่าเป็น ภาพยนต์ ที่ดีใช้ได้ และ สนุกไม่เครียด (ไม่ได้ค่าคอมมิชชั่นนะครับ และไม่ได้โปรโมทนะครับ.. อิอิ) .....

ร่วมแบ่งปันความรู้สึกดี ๆ ครับ  

 :8)

ขอบคุณ คุณ simpleBE
ที่เอาข้อความนี้มาให้อ่าน
ดีมากครับ
เจ้าของกระทู้เก่งมาก
อนาคตไปได้ดีแน่อน

Viewtiful Investor เขียน: คนโสดเข้ามาแอบอ่าน ไม่มีสาวให้ทะเลาะ ทำไงดีเนี่ย -_-'

ต้องไปทะเลาะกับหนุ่มๆแล้วล่ะครับ ขำๆนะครับ

ไฟต์ติ้ง!!!!  สู้ๆนะครับ  เป็นกำลังใจให้ครับ  อ่านแล้วบาดใจมากเข้าใจความรู้สึกของพี่เลยเพราะมันก็เกิดกับผมเหมือนกัน....แงๆ    


ของพี่เป็นรถ....แต่ผมเป็นบ้านอ่ะครับ....  :shock:

 :( มันน่าน้อยใจตรงที่.....เราเอาเงินเก็บที่สู้ทนประหยัดอดออม  เอามาลงทุนในหุ้น  เพื่อหวังให้มันงอกเงย  ไม่ได้เอาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย  เที่ยวเตร่  สำมะเรเทเมา  แต่กลับโดนด่าโดนว่า  เหมือนเป็นผีพนัน  ทำไมคนส่วนใหญ่รวมทั้งแฟนผมยังมองหุ้นว่าเป็นการพนันอยู่ก็ไม่รู้  พยายามชักชวนให้เค้าเปิดใจศึกษาดู  แต่ก็ไม่ได้ผล  สงสัยทางเดียวที่ทำได้คือ  อดทน  แล้วรอให้ผลงานที่ลงทุนไป  พิสูจน์ตัวมันเองครับ  :oops:

ขอผมทะเลาะกับเมียครับ
6 ปีที่แล้ว เมียผมเก็บเงินต้องฝากแบงค์อย่างเดียวเท่านั้น ส่วนผมเริ่มซื้อ LTF  เมียบอกว่า "ดีนะ เสียภาษีน้อยลง แต่ LTF คืออะไร " (แต่ก็ให้ซื้อ LTF ทุกปีเพราะลดหย่อนภาษีได้)

2 ปีที่แล้ว เริ่มขาย LTF  ได้ capital gain ภรรยาบอกว่า "ดี ขายแล้วขอหมดเลยนะ จะไปฝากแบงค์ " เราจะอธิบายว่านี่เป็นเงินลงทุนนะต้องลงทุนต่อ เมียบอกลงทุนมันเสี่ยงนะ (แต่ได้กำไรจะเอา)

ปีกลาย ว่าจะไม่ขาย LTF เพราะขาดทุน แต่ว่าต้นปีตกงานจำเป็นต้องขาย เมียบอกว่า "เห็นไหม บอกแล้วว่ามันเสี่ยง ขาดทุนจนได้ เราบอกว่า ถ้านับที่ได้ลดหย่อนภาษีไม่ขาดทุนนะ เมียบอก จำไม่ได้ แต่วันนี้  LTF มันขาดทุน

(ผมเริ่มศึกษาการลงทุนมาประมาณ 6 ปีแล้ว ตั้งแต่ซื้อ LTF จากนั้นซื้อหนังสือ ตีแตกของ ดร.นิเวศน์ มาอ่าน และอีกหลายๆ เล่ม ส่วนใหญ่เป็นเรื่องกองทุนรวม รวมทั้งดูทีวีช่อง Money Channel โดยเฉพาะ รายการ Money talk ช่วงเวลา 4 ทุ่ม แรกๆ เมียบ่น ดูอะไร  เราไม่มีเงินแสนเงินล้านอย่างเขา ดูไปก็แค่นั้น แต่ผมก็ดูเรื่อยๆ จนเมียเริ่มชิน
ดูไปดูมา เมียบอกว่า เออคนมีเงินเขาหัวเราะมีความสุขนะ ผมก็แยบว่าอยากมีเงินต้องให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม เมียบอกว่าให้มีเงินฝากแบงค์ก่อนซัก 1 ล้านบาท ///แล้วเมื่อไหร่จะมีเนี๊ย เงินเดือนก็น้อยนิด

กลางปีที่แล้วตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัว จึงขอตังเมีย 30000 บาท เพื่อซื้อกองทุนรวมหุ้น โดยให้เหตุผลว่าน่าจะได้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 5% ต่อปี ดีกว่าฝากแบงค์ เมียถามว่าไม่ขาดทุนแน่นะ ผมบอกว่ารับประกันไม่ขาดทุนแน่นอน
(ซื้อ 3 เดือน ขายได้กำไร 10%) เมียดีใจ บอกว่าดีกว่าฝากแบงค์เยอะเลย
ปีนี้ ขอตังเมีย 100000 บาท เพื่อมาลงทุนในห้น เมียบอกเอาไป 50000 บาทก่อน ขอดูฝีมือซิว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน

ปัจจุบันเมียเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าเล่นหุ้นกับลงทุนในหุ้นมันแตกต่างกัน แต่เงินเดือนออกก็จะเอาส่วนขอเงินเก็บไปฝากแบงค์อยู่ดี
เฮอ เมื่อไหร่จะมีอิสรภาพทางการเงินหล่ะเนี้ย

เป็นกระทู้ที่ดี กระทู้หนึ่งเลย

คุณค่า ที่สำคัญอยู่ตรงคำแนะนำแต่ละท่านที่โพสต์ไว้ ล้วนแต่กลั่นจากประสบการณ์ อันนี้หาซื้อที่ไหนไม่ได้เลย

เป็นเส้นบางๆ ที่บังตาเราจริงๆ

กระทู้นี้ คงเป็นกระทู้ของหนุ่ม VI ละนะ  :P
ถ้าจะให้ดี ต้องสอนให้ฝ่ายหญิงรู้จักการลงทุนไปด้วยกัน จะทำให้เขาเข้าใจมากขึ้น

ผมให้แฟนศึกษาหนังสือเกี่ยวกับVIอยู่
เธอยังอ่านไม่จบสักเล่มเลย
เวลาพูดอะไรด้วยเธอก็ไปไม่เข้าใจ
คงต้องใช้เวลาและความอดทน