หน้า 36 จากทั้งหมด 89
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 15, 2009 10:43 pm
โดย i_sarut
Diablo เขียน:=========================
เท่าที่รู้ ความแตกต่างของสองตัวนี้คือ เป็นประกันภัยและประกันชีวิตตามลำดับน่ัะครับ
ขอบคุณครับพี่ Diablo :P
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 16, 2009 12:17 am
โดย ลูกอิสาน
ball048 เขียน:รบกวนถามพี่ลูกอิสานตัว JMART น่ะครับ พี่มองยังไงครับ
จากที่ดูงบการเงินธุรกิจมือถือนี่ มาจิ้น ต่ำจริงๆครับ
และมีรายการรับพิเศษเป็นค่าส่งเสริมการขายจากบริษัทผู้ผลิตมือถืออีกต่างหาก ซึ่งถ้าเขายกเลิกจะมีผลกระทบกับกำไรอย่างมีนัยยะสำคัญ
ส่วนธุรกิจบริหารหนี้กับตามเก็บหนี้พอจะมีอนาคตไหมครับ เคยอ่านเจอ
คุณอดิศักดิ์ บอกว่าเน้นเฉพาะหนี้รายย่อย ซึ่งคุณอดิศักดิ์บอกว่าคนเราล้ม
แล้วก็ต้องลุก ไม่มีใครยอมติดเครดิตบูโร(black list)ไปตลอดชีวิต
แต่ถ้าพี่ยังไม่ได้ดูตัวนี้ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะพึ่งเข้าตลาด
ขอบคุณครับ
ผมเคยดูคร่าวๆตอนเข้าตลาดใหม่ๆ ดูยังไงผมก็มองไม่ออกว่า jmart มีอะไรดี อะไรเด่นที่จะสู้กับคู่แข่งได้
ธุรกิจของบริษัทมี 3 ส่วนคือ
ขายมือถือ รับจ้างทวงหนี้ และบริหารพื้นที่เช่า ก็ไม่ทราบว่าธุรกิจแต่ละส่วน synergy กันอย่างไร แต่หลักๆรายได้และกำไรก็มาจากการ
ขายมือถือ ประมาณ 90% ของรายได้ทั้งหมด บริษัทพยายามมีส่วนแบ่งตลาดมือถือประมาณ 10% ปัจจุบันเน้นการขายสินค้าแบรนด์ของตัวเองคือ j-phone เพราะมีมาร์จินสูงกว่าสินค้าแบรนด์อินเตอร์ รายได้จากการส่งเสริมการขายก็เป็นรายได้ปกติของธุรกิจขายมือถือครับเพราะเป็นรายการที่เกิดขึ้นเป็นสม่ำเสมอ ส่วน
ธุรกิจรับจ้างทวงหนี้ ปัจจุบันเน้นการซื้อหนี้(เสีย)มาบริหารเอง จากเดิมรับจ้างทวงหนี้เป็นหลักเพราะมาร์จินสูงกว่า จริงๆธุรกิจส่วนนี้ก็คงไม่ได้ดีมาก งานเครียดทั้งคนทวงและคนถูกทวง มีอัตราการลาออกของพนักงานสูงมาก ธุรกิจที่ไม่มี barrier เลยครับ ส่วน
ธุรกิจบริหารพื้นที่ เป็นการเช่าที่จากเจ้าของพื้นที่ บริษัทนำมาบริหารหาผู้เช่า ส่วนมากจะเป็นผู้เช่าที่ขายสินค้า it ปัจจุบันลูกค้าหลักเป็นกลุ่มบิ๊กซี รายได้ส่วนนี้ก็ไม่ได้ดีมาก มีการคืนพื้นที่บ่อยๆเพราะตกลงเรื่องค่าเช่าไม่ได้ อำนาจต่อรองของเจ้าของพื้นที่สูงกว่ามาก บริษัททำหน้าที่คล้ายๆโบรคเกอร์หรือนายหน้า ธุรกิจส่วนนี้ไม่มี barrier เช่นกัน
งวด 6 เดือนบริษัททำกำไรได้ประมาณ 45 ล้าน ผู้บริหารให้ข่าวว่ากำไรทั้งปีน่าจะมากกว่า 97 ล้านที่ทำได้ในปีที่ผ่านมา แต่ความเห็นผมไม่ค่อยแน่ใจครับว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า เพราะหลักๆบริษัทเน้นขายสินค้า j-phone ซึ่งการแข่งขันในตลาดมือถือค่อนข้างสูงอยู่แล้ว ธุรกิจหลักอื่นๆก็ไม่ได้มีกำไรมากมาย หนี้สิน/ทุนก็ขยับเป็นเกือบ 3 เท่า อัตราปันผลประมาณ 8% P/E ประมาณ 6 เท่า ที่ 1.8 บ/หุ้น รวมๆก็ถือว่าไม่แพง ไม่ถูก แต่มองผลประกอบการในอนาคตคงไม่ดีกว่านี้มากมาย แต่ถ้าซื้อเพราะหวังจะมีการไล่ราคาเหมือนหุ้นมือถืออื่นๆก็ไม่แน่ครับ เพราะถ้าดูข้อมูลในอดีตบริษัทที่ขายมือถือมีประวัติทั้งนั้น เช่น
twz mling bliss iec sim ...:lol: :lol:
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 16, 2009 7:30 am
โดย charun
[quote="กุหลาบงามหลังฝน"][quote="ลูกอิสาน"][quote="chanchai_lee"]สวัสดีครับ พี่โจ เพิ่งเข้ามาอ่านกะทู้นี้ได้ไม่นานครับ มีข้อสงสัยอยากถามพี่ครับ คือช่วงนี้ผมรู้สึกว่าอยากลงทุนในหุ้น แต่ผมค้นหาหุ้นที่ลงทุนไม่ได้ เพราะหุ้นที่เล็งเอาไว้ในลิสต์ของตนเอง ราคาไม่ลงมาให้ซื้อในช่วงที่ต้องการเพราะคิดว่า อาจมี MOS ไม่เพียงพอ พี่คิดว่าผมทำถูกไหมครับ แล้วพี่คิดเหมือนผมมั้ยว่าช่วงนี้ไม่น่าลงทุนเลย ขอคำชี้แนะด้วยครับ
ปล.แล้วพี่ๆที่หาดใหญ่จะจัดมีทติ้ง อีกมั้ยครับ เพราะคราวที่แล้วที่ ร้าน พีเบอร์รี่ไม่ได้ไปครับ
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 17, 2009 10:21 pm
โดย ลูกอิสาน
Diablo เขียน:อยากถามบ้างครับ
มุมมองต่อ AMATA นะครับ
จริงหรือเปล่าครับที่เวลาเศรษฐกิจฟื้น นิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำ จะกลับมาก่อนใครเพื่อน
คุณวิษณุ เครื่องาม ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการเมื่อต้นปีนั้น เป็นอย่างไรบ้าง
การที่กำไรดิ่งลงจนเป็นขาดทุน หากว่าขาดทุนไปจนถึงสิ้นปีหนี้สินที่ต้องชำระ ประมาณ 1พันล้านบาท จะทำอย่างไรครับอ่านผ่านตามาว่า มีการนำที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้น่ะครับ หมายความว่าเจ้าหนี้สามารถยึดที่ดินนั้นๆ คืนแทนเงินกู้ได้เหรอครับหรือผมเข้าใจผิดครับ
ขอบคุณมากครับ
รอบนี้ amata
โดนหนักกว่าเพื่อนครับ คุณวิกรมก็ยอมรับว่าตัดสินใจผิดพลาดที่ 2-3 ปีที่ผ่านมาสะสมที่ดินมากเกินไปและโครงสร้างรายได้กระจุกตัวอยู่กับการขายที่ดินเพียงอย่างเดียว พอขายที่ไม่ได้ ก็จุกซิครับ เพราะมีต้นทุนคงที่ รายได้บริการก็น้อยเกินไปไม่ cover ต้นทุนเหล่านี้ จะแตกต่างกับรายอื่นๆทั้ง rojna nncl hemraj พวกนี้มีรายได้อื่นๆเยอะ ทั้งขายน้ำ ขายไฟ โรงงานให้เช่า ทำคอนโด หลากหลายกว่า amata มาก
คำถามต่อมาคือเมื่อโดนกระทบมากที่สุด เวลาพื้นตัวจะฟื้นมากที่สุดหรือเปล่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่เมื่อไหร่จะฟื้นตัวก็ต้องดูกันไป แต่ผมไม่คิดว่าจะฟื้นตัวเร็วๆนี้ครับ เพราะการสร้างโรงงานมันต้องอาศัยความเชื่อมั่นค่อนข้างเยอะ ตอนนี้ฝุ่นยังฟุ้งอยู่เลย ใครจะกล้าลงทุน
ประเด็นเรื่องหนี้ที่กู้มาซื้อที่ดิน ก็คง rollover ไปครับ ขอแบงค์ยืดการคืนหนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะที่ผ่านมาประวัติกลุ่มนี้ก็ค่อนข้างดี เจรจาไม่ยาก แบงค์ก็เข้าใจ
เรื่องยึดที่ดินนี่เป็นไปได้น้อยมากๆๆ..
ส่วนประเด็นคุณวิษณุ ผมไม่มีความเห็นครับ ไม่ทราบว่าท่านมีความรู้ความสามารถในการบริหารบริษัทเอกชนอย่างไร...
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 17, 2009 10:30 pm
โดย naris
[quote="charun"][quote="กุหลาบงามหลังฝน"][quote="ลูกอิสาน"][quote="chanchai_lee"]สวัสดีครับ พี่โจ เพิ่งเข้ามาอ่านกะทู้นี้ได้ไม่นานครับ มีข้อสงสัยอยากถามพี่ครับ คือช่วงนี้ผมรู้สึกว่าอยากลงทุนในหุ้น แต่ผมค้นหาหุ้นที่ลงทุนไม่ได้ เพราะหุ้นที่เล็งเอาไว้ในลิสต์ของตนเอง ราคาไม่ลงมาให้ซื้อในช่วงที่ต้องการเพราะคิดว่า อาจมี MOS ไม่เพียงพอ พี่คิดว่าผมทำถูกไหมครับ แล้วพี่คิดเหมือนผมมั้ยว่าช่วงนี้ไม่น่าลงทุนเลย ขอคำชี้แนะด้วยครับ
ปล.แล้วพี่ๆที่หาดใหญ่จะจัดมีทติ้ง อีกมั้ยครับ เพราะคราวที่แล้วที่ ร้าน พีเบอร์รี่ไม่ได้ไปครับ
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 17, 2009 10:38 pm
โดย ลูกอิสาน
daraneemui เขียน:เคยได้ยินว่าmakro ไม่น่าสนใจเพราะmaginต่ำ และจะเติบโตได้จากการขยายสาขาเท่านั้นซึ่งต้องใช้เงินลงทุนมาก คุณโจมีคว่มเห็นอย่างไรบ้างคะ
กลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง ส่วนใหญ่ก็มาร์จินต่ำทั้งนั้นครับ
อาศัยการขายได้หลายรอบมาทดแทน เช่นสินค้าชิ้นนึง บริษัทในอุตสาหกรรมอื่นๆอาจขายได้ 1 รอบหรือ 100 บาท/ปี กำไร 10 บาทหรือ10% แต่กลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง สินค้า 100 บาทเช่นกัน อาจจะกำไรแค่ 2-3 บาทหรือ 2-3% แต่อาศัยการขายได้หลายรอบใน 1 ปี สมมุติ 10 รอบ กำไรก็ 20-30% แล้ว สูงกว่ากันเยอะครับ การขยายตัวของกลุ่มนี้ก็ไม่ต้องอาศัยเงินทุนหมุนเวียนมากนัก เพราะอาศัยเงินของเจ้าหนี้การค้ามาหมุนได้ครับ ที่จริงผมเข้าใจว่า markro ก็มีการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม(SSS)นะครับ ลองตามตัวเลขดู การขยายสาขาถ้าไม่ซื้อที่ดิน อาศัยเช่าแทน ก็คงลงทุนไม่มาก
ที่จริงในกลุ่มนี้ทุกรายอยากจะขยายสาขาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ครับ เรื่องเงินทุนไม่ใช่ปัญหา D/E ยังต่ำเกือบทุกราย แต่มักมีปัญหาเรื่องกำลังซื้อ เรื่องทำเล เรื่องกฏหมายมากกว่าครับ..
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 17, 2009 10:46 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="ler109"]พี่โจครับ ผมรบกวนถามความเห็นพี่เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Eastw ครับ คือเท่าที่ผมศึกษามามีดังนี้ครับ ไม่ทราบว่ามีส่วนไหนที่น่าจะผิดหรือเปล่าครับ
Re: ถามพี่โจว่าSVIว่า........
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 17, 2009 10:58 pm
โดย ลูกอิสาน
jmb2511 เขียน:พี่ครับราคาsviจะเป็นเรับท่าไรหลังปันผล ขอบคุณมากค
ตอบแบบตรงๆก็ต้องเท่ากับ
ราคาก่อนxd หักปันผลครับ อาจจะลงกว่านี้ได้นิดหน่อยถ้าเครดิตภาษีเงินปันผลได้
ส่วนราคาที่ควรจะเป็น ก็ลองเปรีบบเทียบ
ระหว่างราคาหลังปันผล กับผลประกอบการดูครับ คร่าวๆตอนนี้มีหุ้นประมาณ 1655 ล้านหุ้น รวมหุ้นที่แปลงจากวอร์ล่าสุดแล้ว เปรียบเทียบกับกำไรปีนี้ประมาณ 600 ล้าน P/E ณ.ราคาก่อนปันผลที่ 2.66 บ.ประมาณ
5 เท่า ความเห็นผมยังไม่แพงครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการปีนี้ ปีหน้าด้วยครับ ว่าจะแย่ลงหรือเปล่า เพราะต้องกู้เงินค่อนข้างเยอะ..
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 18, 2009 12:10 am
โดย Diablo
ขอบคุณพี่โจมากครับ ที่สละเวลา
กลับมาทีเดียวตอบรวดเดียวหลายคำถามที่ทิ้งไว้เลยครับ :D
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 18, 2009 12:12 am
โดย Laziale
Eastw ที่พี่โจบอกว่ามี growth แน่นอนนี่ ผมเลยขอตั้งคำถามต่อครับว่าในการคำนวณ DCF นี่ พี่โจจะใส่ค่า g (growth) ให้กับหุ้นที่พี่คำนวณเป็นเท่าไหร่โดยยึดจากหลักอะไรบ้างครับถึงจะดู conservative ดี
และอยากรบกวนพี่โจช่วยยก case และจัดประเภทให้หน่อยครับ ว่าหุ้นกลุ่มธุรกิจหนึ่งๆควรจะมี g ประมาณเท่าไหร่ครับ ขอบคุณครับ :D
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 18, 2009 1:39 am
โดย ball048
ขอบคุณพี่ลูกอิสานมากครับสำหรับคำตอบ JMART
เห็นภาพเลยครับ
ในระหว่างรอพี่มาตอบ
ผมก็ไปลองนั่งดูรายงานประจำปีย้อนหลัง ก็เห็นว่า
ยอดขายทรงๆมาหลายปี แต่กำไรผันผวนมาก
พอมาไตรมาสนี้ถึงจะมีกำไรแต่ CFO ติดลบหนักเลยครับ
สงสัยเอาไปซื้อ JPhone ตุนไว้แน่ๆ
ที่ประกาศจ่ายปันผลนี่ น่าจะมาจากเงินกู้นะครับ
ดูจากคำตอบแล้วแสดงว่าพี่โจ ศึกษาหุ้นแต่ละตัวที่มีคนถามอย่างละเอียด
มากๆครับ แถมจับจุดเด่นจุดด้อยของหุ้นแต่ละตัวได้เก่งมากๆ
ขอยกย่องให้เป็น Peter Lynch เมืองไทยเลยครับ
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 18, 2009 10:47 pm
โดย charun
[quote="naris"][quote="charun"][quote="กุหลาบงามหลังฝน"][quote="ลูกอิสาน"][quote="chanchai_lee"]สวัสดีครับ พี่โจ เพิ่งเข้ามาอ่านกะทู้นี้ได้ไม่นานครับ มีข้อสงสัยอยากถามพี่ครับ คือช่วงนี้ผมรู้สึกว่าอยากลงทุนในหุ้น แต่ผมค้นหาหุ้นที่ลงทุนไม่ได้ เพราะหุ้นที่เล็งเอาไว้ในลิสต์ของตนเอง ราคาไม่ลงมาให้ซื้อในช่วงที่ต้องการเพราะคิดว่า อาจมี MOS ไม่เพียงพอ พี่คิดว่าผมทำถูกไหมครับ แล้วพี่คิดเหมือนผมมั้ยว่าช่วงนี้ไม่น่าลงทุนเลย ขอคำชี้แนะด้วยครับ
ปล.แล้วพี่ๆที่หาดใหญ่จะจัดมีทติ้ง อีกมั้ยครับ เพราะคราวที่แล้วที่ ร้าน พีเบอร์รี่ไม่ได้ไปครับ
Re: ถามพี่โจว่าSVIว่า........
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 19, 2009 12:27 pm
โดย BABY TERMITE
ลูกอิสาน เขียน:
ตอบแบบตรงๆก็ต้องเท่ากับราคาก่อนxd หักปันผลครับ อาจจะลงกว่านี้ได้นิดหน่อยถ้าเครดิตภาษีเงินปันผลได้
ส่วนราคาที่ควรจะเป็น ก็ลองเปรีบบเทียบระหว่างราคาหลังปันผล กับผลประกอบการดูครับ คร่าวๆตอนนี้มีหุ้นประมาณ 1655 ล้านหุ้น รวมหุ้นที่แปลงจากวอร์ล่าสุดแล้ว เปรียบเทียบกับกำไรปีนี้ประมาณ 600 ล้าน P/E ณ.ราคาก่อนปันผลที่ 2.66 บ.ประมาณ 5 เท่า ความเห็นผมยังไม่แพงครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการปีนี้ ปีหน้าด้วยครับ ว่าจะแย่ลงหรือเปล่า เพราะต้องกู้เงินค่อนข้างเยอะ..
สงสัยจะขลังนะครับนี่...
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 19, 2009 3:33 pm
โดย ลูกอิสาน
ขอบอกข่าวกันนิดนึงนะครับ เห็นมาไถ่กันมา
vi หาดใหญ่และจังหวัดใกล้เคียง
ถ้าใครสนใจนัดเจอกันได้วันเสาร์ที่ 29 สิงหานี้
เวลา 11 โมงตรง ที่ร้านกาแฟพีเบอรี่ ถนนราษยินดี(30เมตร) ใกล้แยกตัดกับถนนเพชรเกษมใกล้ๆคาฟู)
จิบกาแฟ คุยกันเรื่องหุ้นสบายๆครับ...
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 19, 2009 6:36 pm
โดย dev935
ช่วยวิเคราะห์ TRC ให้หน่อยครับ เหมาะกับถือยาวไหม ทำไมช่วงหลังบริษัทลูกมีแต่ปัญหาตลอด สวนทางกับบริษัทแม่ ขอบคุณครับ
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 19, 2009 6:56 pm
โดย MANITS
ขอถามคุณลูกอีสานหน่อยครับ KYE มีจุดด้อยตรงไหนบ้างครับ q นี้กำไรกระโดดมากเลยครับ จาก 11.62/หุ้น เป็น 26.93/หุ้น หลัก ๆ ก็มาจากเงินปันผล 413 ล้าน จาก mitsubishi electric consumer product ที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 10% BV 142.50 /หุ้น ใน q นี้ แถมเงินสดในมือ 74.50 บาท/หุ้น ยังไม่รวมกับเงินปันผลค้ารับอีก 413 ล้านบาท
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 19, 2009 8:27 pm
โดย naris
[quote="charun"][quote="naris"][quote="charun"][quote="กุหลาบงามหลังฝน"][quote="ลูกอิสาน"][quote="chanchai_lee"]สวัสดีครับ พี่โจ เพิ่งเข้ามาอ่านกะทู้นี้ได้ไม่นานครับ มีข้อสงสัยอยากถามพี่ครับ คือช่วงนี้ผมรู้สึกว่าอยากลงทุนในหุ้น แต่ผมค้นหาหุ้นที่ลงทุนไม่ได้ เพราะหุ้นที่เล็งเอาไว้ในลิสต์ของตนเอง ราคาไม่ลงมาให้ซื้อในช่วงที่ต้องการเพราะคิดว่า อาจมี MOS ไม่เพียงพอ พี่คิดว่าผมทำถูกไหมครับ แล้วพี่คิดเหมือนผมมั้ยว่าช่วงนี้ไม่น่าลงทุนเลย ขอคำชี้แนะด้วยครับ
ปล.แล้วพี่ๆที่หาดใหญ่จะจัดมีทติ้ง อีกมั้ยครับ เพราะคราวที่แล้วที่ ร้าน พีเบอร์รี่ไม่ได้ไปครับ
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 12:32 am
โดย navigator_p
ผมมือใหม่ครับ ขอปรึกษาการจัดพอร์ตครับ เพราะรู้สึกว่าตัวเองผิดพลาดแต่ไม่รู้จะแก้ยังไงครับ
ผมแบ่งเงิน 50% มาลงทุนในส่วนของ stock เพราะเงินส่วนนี้หวัง กระแสเงินสดจากปันผลเอามาใช้จ่ายครับ.และเก็บยาวได้ เพียงแต่แอบกังวลพื้นฐานของทั้ง 5 ตัวนี้ว่าจะเปลี่ยนเหมือนกับ pttar ที่เคยเตี้ยติดดินไหมครับ........นอกนั้นอยู่ใน money market fund เพื่อพักเงินครับ
1.tfund=ตัวนี้ผมลงทุนในสัดส่วนที่เยอะที่สุดครับ หรือเรียกได้ว่าเกือบทั้งพอร์ต อาจเป็นเพราะผมได้ปันผลจากตัวนี้มาสม่าเสมอที่สุด แต่พอเห็นงบ Q2 นี้ออกมาถ้าเข้าใจไม่ผิดเหมือนจะปันมากกว่ากำไรสุทธิ ตรงจุดนี้ผมไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ครับ
2.spf=ตัวนี้มีไม่มากครับ เพราะซื้อมาตอน ราคาตลาด รอให้ลงก็ไม่ลงครับ และเท่าที่ทราบมามีการประกันรายได้ก็เลยเก็บเข้าพอร์ตบางส่วนครับ
3.drt=ตัวนี้เล็งมาตั้งแต่ตอน บาทกว่าๆๆครับถ้าจำไม่ผิดแต่ก็ไม่กล้าซื้อจนมาได้ราคา สูงพอควร
4.csl
5.spali
=(4,5 เหตุผลเหมือนหุ้นตัวที่สามครับ คือพึ่งซื้อไปวันนี้เพราะหวังปันผลแต่พอเข้ามาอ่านในนี้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่ในบัดดล
.....................................................................................
ทุนผม ทั้ง 5 ตัวครับ
1.tfund=8.51
2.spf=7.11
3.drt=2.61
4.csl=3.45
5.spali=4.88
.....................................................................................
พี่โจว่าพื้นฐานทั้ง 5 ตัวนี้เป็นไงบ้างครับ ผมวิเคราะห์ไม่ค่อยเก่งครับ กลัวจะทั้ง 5 ตัวจะมีหุ้นเน่ามาด้วย และทั้ง 5 ตัวเหมาะที่จะถือยาว เพื่อรับปันผลยาวๆๆได้ไหมครับ
พี่โจว่าถ้าผมทำงานประจำอยู่ด้วย จำนวนหุ้นในระดับนี้ มากเกินไปไหมครับ ควรปรับลดไหมครับ
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 1:08 pm
โดย por_jai
ลูกอิสาน เขียน:ขอบอกข่าวกันนิดนึงนะครับ เห็นมาไถ่กันมา
vi หาดใหญ่และจังหวัดใกล้เคียง
ถ้าใครสนใจนัดเจอกันได้วันเสาร์ที่ 29 สิงหานี้
เวลา 11 โมงตรง ที่ร้านกาแฟพีเบอรี่ ถนนราษยินดี(30เมตร) ใกล้แยกตัดกับถนนเพชรเกษมใกล้ๆคาฟู)
จิบกาแฟ คุยกันเรื่องหุ้นสบายๆครับ...
จัดติดกันกับงานของเวบอย่างนี้
ผมจะไปได้อย่างไร
ผมอยู่กรุงเทพ ไม่รู้เข้าข่ายจว.ใกล้เคียงหรือเปล่้า
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 9:15 pm
โดย Jimmy
por_jai เขียน:
จัดติดกันกับงานของเวบอย่างนี้
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 9:26 pm
โดย hagrid
ผมอยู่แถวๆ ภาคเหนือตอนล่าง
ไม่รู้เมื่อไรจะมีการจัดงานบ้าง
(จริงๆ ยังไม่เคยรวมตัวกันเลย)
จะไปสงขลา ก็ไกลเกินไป
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 11:51 pm
โดย BABY TERMITE
por_jai เขียน:
จัดติดกันกับงานของเวบอย่างนี้
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 22, 2009 12:56 pm
โดย พอเพียง เพียงพอ
สวัสดีครับ
ผมเพี่ง Register เมื่อกี้ อยู่พัทลุง ไม่รู้จักคนที่เล่นหุ้นสักคนเดียว ได้แต่แอบอ่านตามเว็ปเอา
อยากไปจังแต่ ต้องไปธุระกรุงเทพฯ ช่วงดังกล่าว ไว้โอกาสหน้าไปแน่
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 22, 2009 2:18 pm
โดย ed_dy
อยากไปเหมือนกันค่ะ ไม่รู้จักใครเลย แล้วก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการลงทุนเท่าไหร่ แต่ชอบมาอ่านที่โพสต์ไว้ค่ะ อยากเป็นวีไอบ้าง แต่เริ่มไม่ค่อยถูกค่ะ
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 22, 2009 9:26 pm
โดย ลูกอิสาน
คนคอน เขียน:ถามความเห็นของพี่ลูกอิสาน เกี่ยวกับตัว CITY หน่อยครับ
ตัว
city นอกจากงบการเงินที่แข็งแกร่งแล้ว ผมยังมองไม่ออกจริงๆว่ามีอะไรที่น่าสนใจหรือเปล่า บริษัทผลิตโครงสร้างโลหะจำพวกชั้นวางของในโกดัง แท่นลำเลียง พาเลทเหล็ก ลูกค้าเป็นโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ และยังมีห้างค้าปลีก มีการจำหน่ายแปรรูปโลหะอีกเล็กน้อยๆ ผมยังจำได้ว่าสมัยที่ city เข้าตลาดใหม่ๆ ทำกำไรสุทธิได้ถึง 30%
คุ้นๆว่าหลังหักภาษีด้วยนะครับ ถือว่าสูงมากบริษัทให้เหตุผลว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ทำสินค้าแบบสั่งทำ (made to order) ทำให้สามารถเรียกกำไรสูงๆได้ แต่หลังจากเข้าตลาด อัตรากำไรที่ทำได้ค่อยๆลดลง ปีนี้เหลือ 14-15% ลดลงครึ่งนึง บริษัทก็ให้เหตุผลว่าต้องลดราคาเพื่อให้ได้ออเดอร์ครับ
จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมที่ไม่มี barrier มักจะมีรูปแบบอย่างนี้ครับ เมื่อไหร่ที่คู่แข่งเข้ามาแข่งขันได้ กำไรก็จะกลับคืนสภาพปกติ ถ้ามองในระยะสั้นๆยอดขายกำไรคงยังไม่ดีขึ้น เพราะสินค้าที่ผลิตมีอายุการใช้งานนาน ภาวะเศรษกิจปัจจุบันคงไม่มีการลงทุนใหม่ๆ สินค้าของบริษัทต้องพึ่งพาการขยายตัวของธุรกิจเอกชนค่อนข้างมาก และกลุ่มลูกค้าหลักคืออุตสาหกรรมยานยนย์ก็คงไม่ฟื้นตัวเลยครับ
ที่จริงบริษัทใช้วิธีตั้งบริษัทใหม่เพื่อขอสิทธ์ boi ให้ได้รับการยกเว้นภาษีครับ ตอนเข้าตลาดใหม่ๆก็ลงทุนตั้งบริษัทมาร์คเวิลไวด์ ตอนนี้เห็นแจ้งข่าวจะตั้งบริษัทใหม่อีกแล้วเหตุผลเหมือนเดิม...
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 22, 2009 11:07 pm
โดย ลูกอิสาน
Calcio 8 เขียน:รบกวนถามความน่าสนใจของ BGT จากพี่โจด้วยครับ ว่าจะพอมีประสิทธิภาพในการที่จะเติบโตไปได้อีกมากน้อยเพียงใด
ผมเคยสนใจ
bgt เพราะคาดหวังการเติบโตนี่หละครับ ซึ่งปรากฎว่ามีการเติบโตของยอดขายจริงจากการขยายสาขา
แต่กำไรนี่ซิครับกลับไม่โตตามไปด้วย ถ้าดูตัวเลขย้อนหลัง 2 ปีครึ่ง อัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 8% เหลือ 6% ทำให้แม้ยอดขายเพิ่มแต่ตัว bottom line แทบไม่เพิ่มเลยครับ เข้าใจว่าบริษัทเน้นการส่งเสริมการขายแบบลดราคา และอีกเหตุผลที่ผมเคยสนใจเพราะคาดหวังการเติบโตจากตลาดต่างประเทศ แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า โดยเฉพาะ
ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีศักยภาพมากที่สุดเพราะมีกลุ่มลูกค้าที่เข้ากับรูปแบบของสินค้าก็เงียบๆไป
บริษัทมีการซื้อหุ้นคืนจำนวนนึง ซึ่งไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลย เพราะราคาหุ้นตอนนั้นไม่ได้ราคาถูกมาก และเงินสดของบริษัทก็ไม่มีมีมากมาย เข้าใจว่าผู้บริหารหวังผลทางจิตวิทยามากกว่า เมื่อเร็วๆนี้บริษัทแจ้งการขายสินค้าแบรนด์ใหม่คือ
People market ซึ่งผมไม่คอ่ยเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะเป็นสินค้าระดับบน คงไม่ได้เสริมกำไรหรือยอดขายอย่างมีนัยยะ ความเห็นส่วนตัวตัวนี้อาจจะขาดทุนด้วยซ้ำ เพราะต้องมีต้นทุนการสร้างแบรนด์เยอะ น่าจะเอาเวลาทุ่มเทให้กับแบรนด์หลักจะดีกว่าครับ
ถ้ามองราคาตลาดที่ 1.70 มูลค่าตลาด 270 ล้าน เปรียบเทียบกับกำไรปีละประมาณ 40 ล้าน ก็ถือว่าไม่แพงครับ อยู่ในระดับที่ผมคิดว่าปลอดภัย แต่ถ้าหวังผลตอบแทนสูงๆ นักลงทุนต้องเรียกร้องการเติบโตของกำไรมากๆครับ และภาวะเศรษกิจอย่างนี้คงไม่มีผลดีกับสินค้าของบริษัทเท่าไหร่ เพราะสินค้าเสื้อผ้าสามารถยืดการซื้อได้หากคนซื้อรู้สึกรายได้ไม่ดี จากคำถามศักยภาพการเติบโต ผมคิดว่ามีครับ แต่คงต้องรอหน่อย..
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 22, 2009 11:16 pm
โดย ลูกอิสาน
BABY TERMITE เขียน:
จัดติดกันกับงานของเวบอย่างนี้
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 23, 2009 10:11 am
โดย por_jai
จริงด้วยครับ
เพื่อนผมมันว่าผมเรื่อย
มรึงนะแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นานโดยแท้...ฮ่า...
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 23, 2009 11:41 am
โดย daraneemui
ลูกอิสาน เขียน:
กลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง ส่วนใหญ่ก็มาร์จินต่ำทั้งนั้นครับ
อาศัยการขายได้หลายรอบมาทดแทน เช่นสินค้าชิ้นนึง บริษัทในอุตสาหกรรมอื่นๆอาจขายได้ 1 รอบหรือ 100 บาท/ปี กำไร 10 บาทหรือ10% แต่กลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง สินค้า 100 บาทเช่นกัน อาจจะกำไรแค่ 2-3 บาทหรือ 2-3% แต่อาศัยการขายได้หลายรอบใน 1 ปี สมมุติ 10 รอบ กำไรก็ 20-30% แล้ว
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 23, 2009 5:29 pm
โดย Jimmy
ลูกอิสาน เขียน:
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ เจอกันได้เลยครับที่ร้านวันที่ 29 นี้ มือใหม่มือเก่าไม่มีปัญหาครับ ใครถนัดคุยก็คุย ใครถนัดฟังก็ฟัง ใครจะกินก็กิน ครั้งนี้คงมีมือใหม่หน้าตาจุ๋มจิ๋มหลายท่าน เก่าๆอย่างพวกผมมันเป็นสนิมครับ...
พี่โจจิบเบียร์ ภาคใต้เนี้ยมีปีละครั้ง หรือว่าทุก Q ครับ เผื่อว่าครั้งหน้าไปได้