อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
poppo
Verified User
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เมื่อคุณเริ่มรักษาผู้ป่วย พึงสังวรณ์ไว้ว่า ขาข้างหนึ่งของคุณก้าวเข้าไปอยู่ในคุกแล้ว

ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กุสลานันท์ เลขาธิการแพทยสภา แถลงข่าวกรณีศาลจังหวัดทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีคำพิพากษาให้จำคุก พญ.สุทธิพร ไกรมาก แพทย์ประจำโรงพยาบาลร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราชเป็นเวลา 3 ปี ในข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต  จากการฉีดยาชาเข้าไขสันหลังเพื่อระงับความรู้สึกในการผ่าตัดไส้ติ่งคนไข้  โดยไม่ได้ควบคุมในประมาณที่เหมาะสม  จนทำให้เกิดอาการช็อคและเสียชีวิต

ทั้งนี้ ศ.คลินิก นพ.อำนาจ  กล่าวว่า คณะแพทยสภาขอแสดงความเสียใจและ ขอให้เรื่องดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ต่อไป ว่า หากมีการผ่าตัดใดๆ ที่จะต้องมีการดมยาสลบ หรือยาระงับความรู้สึกโดยฉีดเข้าช่วงไขสันหลัง จะต้องทำในโรงพยาบาลที่มีวิสัญญีแพทย์เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากคำพิพากษาในคดีนี้มีผลกระทบต่อวงการแพทย์และสังคม โดยเฉพาะวงการแพทย์จะมีผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะไทยยังขาดแคลนวิสัญญีแพทย์ รวมทั้งแพทย์จะเกิดความกลัวจนทำให้ไม่กล้าลงมือรักษา ซึ่งจะเป็นปัญหาได้ในอนาคตอันใกล้นี้  และทางแพทย์สภาได้เรียกร้องให้สังคมและนักกฎหมายช่วยพิจารณาว่า จะมีส่วนป้องกันและแก้ไขอย่างไรเพื่อให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ได้รับความช่วยเหลือ หรือความคุ้มครองจากการรับโทษทางอาญาในกรณีที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ทำนองดังกล่าวขึ้นอีก

จากมติชน

ต่อไปนี้ โรงพยาบาลไหนไม่มีหมอดมยา ห้ามดมยาผ่าตัด ไม่มีหมอเฉพาะทางผ่าตัด ห้ามผ่าตัด ไม่มีหมอทำคลอด ห้ามผ่าคลอด ไม่มีหมอกระดูก ห้ามใส่เฝือก

ไม่มีอะไรหรอกครับ แต่สงสารน้อง และเซ็งครับ

เพราะไอ้ที่น้องทำน่ะ (ดมยาผู้ป่วยเอง บล็อคหลังผู้ป่วยเอง แล้วก็ผ่าตัดเองด้วย) ตอนยังเป็นแพทย์ใช้ทุน ผมก็ทำมาหมดแล้ว เพียงแต่ผมไม่โชคร้ายเหมือนน้องเท่านั้นเอง :?  :?  :?
จงทนอด และอดทน
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 2

โพสต์

หมอดมยามีน้อยมากนะครับในประเทศเรา

บางจังหวัด ไม่มีสักคนเดียว

...

ได้แต่ขอเป็นกำลังใจให้คนดีในสังคมครับ

นักการเมืองที่กำลังจะบริหารประเทศ ถ้าเจียดเวลามาศึกษาปัญหาให้เข้าใจชัดเจน แล้วหาทางแก้ไขสักนิด จะดีมากเลยนะครับ

ลองไปอ่านใน www.thaiclinic.com/doctorroom ดูสิครับ

บางคน vote ให้ตรวจคนไข้ให้ช้าลง
ตรวจให้ละเอียดขึ้น

แต่ใครเคยทำงานหมอจริงๆบ้างหนอ

คนไข้ตาดำๆหลายคนรอเราอยู่

ผมเคยตรวจ 800 คน ใน 8 ชั่วโมง เฉลี่ย > 1คน/นาที

คนไข้หลายคนรอไม่ได้หรอกครับ

อย่าคิดแค่ผลิตแพทย์เพิ่ม(คิดได้แค่เปลือก) แต่ลืมแก้ปัญหาแบบ vi ครับ

บ่นตรงนี้ เพราะสมเพชบางอย่างอ่ะ โทษทีนะพี่ poppo

แต่เกลียดข่าวแบบนี้จัง สงสารทั้งคนไข้ และหมอ

หลายคนดีแต่คิดนโยบายที่เหมือนใช้ calcaneous มาใส่ในกะโหลกแทนสมอง

แล้วเอาแต่หน้า

..โอ๊ย บลาบลาบลา

เอาเป็นว่ายังยืนยันว่า

ความสุขในการดูแลคนไข้สักคน มันดีมากๆจนไม่ทราบจะบอกอย่างไรนะครับ

แต่สังคมต้องเข้าใจแพทย์บ้าง
เพราะดูเหมือนมีแต่คนบอกให้เข้าใจผู้ป่วย

และบางครั้งก็นำผู้ป่วยมาเพื่อเรียกร้องอะไรสักอย่าง
แล้วก็ take profit ตรงนั้นไป โดยคนๆนั้นไม่ได้อะไรเลย
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
poppo
Verified User
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอโทษเหมือนกัน ที่เอาข่าวนี้มาลง เพราะห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่น คงอยากอ่านอะไรที่ไม่ทำให้จิตตก แต่เห็นแบบนี้แล้ว รู้สึกเลยว่า อาชีพเราเสี่ยงจริงๆ คงต้องทำบุญทำทานให้มากๆ อย่าให้เจอเรื่องร้ายๆอย่างนี้เลย

ความคิดผม หมอจะผิดก็มีแต่กรณีที่ไม่มาดูคนไข้ในขณะที่ตัวเองอยู่เวรเท่านั้นแหละ

แต่ถ้าเขามาดู และรักษาอย่างสุดความสามารถเขาแล้ว แล้วผลออกมาไม่เลิศเลออย่างที่ผู้ป่วยและญาติคาดหวัง มันก็สุดวิสัยครับ

คนทั่วไปไม่เข้าใจคำว่า incidence ทางการแพทย์ ซึ่งหมายถึงมันอาจเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะทำอย่างได้มาตรฐานแล้วก็ตาม

ส่วนคุณปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ผมว่าเธอควรให้ลูกของเธอมาเรียนแพทย์ แล้วตอนใช้ทุนให้ส่งลูกตัวเองไปอยู่โรงพยาบาลชุมชนไกลๆดูบ้าง อย่ายัดเงิน อย่าใช้เส้นสายให้อยู่ในโรงพยาบาลใกล้ๆที่มีทุกอย่างพร้อม เธอคงจะเข้าใจสภาพชีวิตของแพทย์ใช้ทุนบ้าง
จงทนอด และอดทน
ภาพประจำตัวสมาชิก
poppo
Verified User
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 4

โพสต์

จำคุก3ปี หมอรพ.ร่อนพิบูลย์ผ่าไส้ติ่งตาย  
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2550 07:52 น.  
 
 
 ศาลจังหวัดทุ่งสง พิพากษาคดีผ่าตัดไส้ติ่งตายรพ.ร่อนพิบูลย์ หมอติดคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา แพทยสภามึนบอกผู้เสียหายให้มาร้องเรียนหมอผิดจริยธรรมใหม่ได้
 
 
 วานนี้ ( 6 ธ.ค.) ที่ศาลจังหวัดทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พนักงานอัยการจังหวัดทุ่งสง ซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์ ร่วมกับน.ส.ศิริมาศ แก้วคงจันทร์ บุตรของนางสมควร แก้วคงจันทร์ผู้ตายโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องในคดีอาญานพ.พีระ คงทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นจำเลยที่ 1 และพญ.สุทธิพร ไกรมาก แพทย์ประจำโรงพยาบาลฯ เป็นจำเลยที่ 2 เนื่องจากทำการผ่าตัดไส้ติ่งนางสมควรด้วยการฉีดยาชาเข้าไขสันหลังโดยประมาทเ ลินเล่อ เพราะไม่เตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์และยาแก้ไขภาวะแทรกซ้อน ทำให้ผู้ตายหยุดหายใจ สมองขาดเลือดและออกซิเจน จนกระทั่งเสียชีวิตในวันที 5 มิ.ย. 2545 ที่ผ่านมา โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมฟังคำพิพากษาเป็นจำนวนมาก
 
 โดยนางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดทุ่งสง พร้อมกับน.ส.ศิริมาศ แก้วคงจันทร์ บุตรของนางสมควร แก้วคงจันทร์ผู้ตายซึ่งเป็นโจทก์และญาติๆ โดยศาลมีคำตัดสินว่า เนื่องจากการที่จำเลยที่ 2 คือ พญ.สุทธิพร ไกรมาก เป็นแพทย์ผู้ฉีดยาระงับความเจ็บปวดเข้าไขสันหลังของนางสมควร ผู้ตายจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังทั้งวิสัยและพฤติการณ์เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านการแพทย์ที่ได้เรียนมา จักต้องฉีดยาเข้าไขสันหลังในจำนวนปริมาณที่เหมาะสมในระยะเวลาที่จำเลยที่ 1 นพ.พีระ คงทองผ่าตัดไส้ติ่งให้สำเร็จ
 
 ทั้งนี้ จำเลยที่ 2 อาจใช้ความระมัดระวังอย่างเพียงพอ โดยพฤติการณ์และวิชาชีพแต่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 อาจกระทำได้ แต่จำเลยที่ 2 หาได้ใช้ความระมัดระวังอย่างเพียงพอไม่ จำเลยที่ 2 ฉีดยาชาเข้าทางไขสันหลังของนงสมควร โดยมิได้ควบคุมปริมาณของยาให้เพียงพอกับการที่จะผ่าตัดจำเลยที่ 2 ฉีดยาระงับความเจ็บปวด ในปริมาณที่เหมาะสม เป็นเหตุให้ยาชาออกฤทธิ์ลุกลามไปทั้งตัวของนางสมควร จนเกิดอาการช็อคหัวใจหยุดเต้นทันที ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลวขาดอากาศหายใจ เป็นเหตุให้นางสมควรถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา
 
 การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้นางสมควรถึงแก่ความตายพยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำห นักรับฟังได้ตามคำฟ้องของโจทย์ ส่วนจำเลยที่ 1 นั้นไม่มีความผิดตามฟ้องดังได้วินิจฉัยมาแล้วก่อนหน้านี้จึงยกฟ้องจำเลยที่ 1 และพิพากษาให้ จำเลยที่ 2 มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 จำคุก 3 ปี
 
 วันนี้หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว น้องศิริมาศขอศาลว่าไม่ให้ใส่กุญแจมือ และไม่ให้ขังคุณหมอ ศาลท่านก็กรุณา และให้ประกันตัวหมอออกไปสู้คดี ซึ่งฝ่ายหมอมีสสจ.จังหวัดที่มีมติว่าหมอไม่ผิด สปสช.จังหวัด และเจ้าหน้าที่กระทรวงไปให้กำลังใจกันหลายคน คำพิพากษาของคดีนี้ศิริมาศจะนำไปยื่นให้ศาลฎีกาในคดีแพ่งต่อไปด้วยนางปรียน ันท์กล่าว
 
 ขณะที่นพ.อำนาจ กุสลานันท์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า กรณีที่มีการฟ้องร้องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการจริยธรรมของแ พทยสภามีจำนวนมาก
   
 จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คดีนี้ได้ดำเนินการตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของนพ.พีระ คงทอง ว่าคดีไม่มีมูล ถือว่าไม่มีความผิด แต่ไม่มั่นใจในส่วนของ พญ.สุทธิพร ซึ่งเป็นผู้กระทำการรักษาร่วมมีการพิจารณาร่วมด้วยหรือไม่ และมีเนื้อหาที่ร้องเรียนมาอย่างไรบ้าง ดังนั้นขณะนี้จึงได้ปรึกษาพิจารณาอยู่ว่าเป็นการร้องเรียนในครั้งเดียวกันหร ือไม่ อย่างไรก็ตามหากผู้เสียหายจะมาร้องเรียนต่อแพทยสภาใหม่อีกครั้งก็สามารถกระท ำได้
จงทนอด และอดทน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมเองพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวกับ หัตถการที่มีความเสี่ยงสูง

ถ้ามีผมไม่ย่างกรายเข้าไปเลย

รักษาคนไข้ เป็น family doctor  ใช้ปากรักษาอย่างเดียวก็หายเกือบหมด

ที่เหลือ ส่งไปให้หมออื่น เสี่ยงแทน

ผมขอโทษ...









ผมรู้ทันนานแล้ว  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 6

โพสต์

poppo เขียน:ขอโทษเหมือนกัน ที่เอาข่าวนี้มาลง เพราะห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่น คงอยากอ่านอะไรที่ไม่ทำให้จิตตก แต่เห็นแบบนี้แล้ว รู้สึกเลยว่า อาชีพเราเสี่ยงจริงๆ คงต้องทำบุญทำทานให้มากๆ อย่าให้เจอเรื่องร้ายๆอย่างนี้เลย

ความคิดผม หมอจะผิดก็มีแต่กรณีที่ไม่มาดูคนไข้ในขณะที่ตัวเองอยู่เวรเท่านั้นแหละ

แต่ถ้าเขามาดู และรักษาอย่างสุดความสามารถเขาแล้ว แล้วผลออกมาไม่เลิศเลออย่างที่ผู้ป่วยและญาติคาดหวัง มันก็สุดวิสัยครับ

คนทั่วไปไม่เข้าใจคำว่า incidence ทางการแพทย์ ซึ่งหมายถึงมันอาจเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะทำอย่างได้มาตรฐานแล้วก็ตาม
จิตตกซะบ้างก็ดีครับ
เรื่องทำบุญมากๆ
รักษาคนก็ทำบุญอยู่ในตัวมากมายอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องที่หมอว่าอยากให้คนโน้นคนนี้ทำอย่างโน้นอย่างนี้
คือจริงๆเราไปยุ่งกับเขาไม่ได้น่ะ
สิ่งที่เขาทำ ถ้ามันไม่ดี เดี๋ยวเขาก็เสวยกรรมนั้นเองแหละ
ไม่มีใครรอดหรอก
แหะ..ทำให้จิตใจเราไม่เป็นสุขเปล่าๆ
อย่างหมอนิวคืออย่างที่ผมทำกับชีวิตผม
ทำที่ตัวเอง
เองทำอย่างนี้กับข้าๆ ก็เลี่ยงๆซะ
เพราะเรื่องนี้เราทำที่ตัวเอง ทำไงก็ได้ครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
sattaya
Verified User
โพสต์: 1372
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เป็นกำลังใจให้คุณหมอทุกท่านครับ
สติมา ปัญญาเกิด
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ถ้าลงท้ายศาลฎีกาตัดสินจำคุก... ต่อไปจะไม่มีหมอคนไหนกล้าเสี่ยงช่วยชีวิตผู้ป่วยถ้าตัวเองไม่ชัวร์

ในอเมริกามีรัฐบางรัฐที่ไม่มีหมอสูติ คนไข้ต้องขับรถข้ามรัฐไปฝากท้องและทำคลอดที่รัฐอื่น

บางเมืองไม่มีหมอยอมผ่าสมอง เพราะเขาไม่สามารถรับภาระค่าเบี้ยประกันได้

คนไข้หลายคนก็ (ขอโทษที่ใช้คำนี้) ซวยไป

เพราะถ้าไม่รักษา แล้วอ้างว่าไม่มีความเชี่ยวชาญสามารถพอ คนไข้เกิดปัญหา ฟ้องร้องหมอไม่ได้เพราะอ้างว่าทำไม่เป็น เป็นข้ออ้างที่แย้งไม่ได้ แต่ถ้าทำไปแล้วเกิดเรื่องกลับกลายเป็นแกว่งเท้าหาเสี้ยน

ในอเมริกา มีคนถูกฟ้องทั้ง ๆ ที่ไปช่วยคนจมน้ำ ขึ้นมาเกิดปัญหาเป็นเจ้าชายนิทรา เหตุเพราะว่า "ช่วยช้าไป"

อนิจจา...
moonkiss
Verified User
โพสต์: 656
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 9

โพสต์

เจ็ดปีก่อนตอนใช้ทุนผม block และผ่าไส้ติ่งไปกว่าร้อย ในรพ.เล็กๆที่ไม่มีแม้แต่พยาบาลดมยา วันนั้นภูมิใจที่ทำให้คนไข้ที่มีทางเลือกในการรักษาน้อยหายป่วยได้ โดยไม่ต้องลำบาก refer ไปนอนรอไส้ติ่งแตกในจังหวัด
จนเดี๋ยวนี้ล่าสุดวันก่อนผมก็ยัง block เพื่อ c/s หรือ ผ่าไส้ติ่ง
เมื่อวานก็ยังทำ cesarian hysterectomy ในรพ.ชุมชนเล็กๆที่มีแค่พยาบาลดมยากะ specialist คนเดียว
หลังผ่าตัดวานนี้ 3 ชม. เสร็จห้าทุ่ม ข้าวไม่ได้กิน นำไม่ได้อาบ มาอ่าน thaiclinic แล้วท้อแท้จริงๆ วันนี้ใส่เสื้อดำไปราวด์แล้วครับ วันต่อๆไปก็จะใส่
ใครจะเข้าใจหัวอกเราไหมหนอ ส่วนใหญ่พวกเราไม่ได้ทำเพื่อเงิน เราทำเพื่อคนไข้ ค่าหัตถการ จะ block แล้ว c/s หรือ c/s หรือตัดไส้ติ่งอย่างเดียว ผมก็ได้ 400 บาท ผ่าเมื่อวานดีหน่อย c/s และทำหมัน ทำเสร็จแล้วแต่เลือดมันดันไม่หยุด มดลูกไม่แข็ง เพราะไอ้หนูที่เอาออกมันหนักตั้ง 4,830 กรัม ต้องตัดมดลูกได้มา 1200 บาท ค่าตัวแพงมากไหมนี่
ต่อไปจะระวังมากขึ้น จะทำเท่าที่จำเป็น หรือคนไข้มาขอร้องให้ทำเท่านั้น หรือไม่คงต้องกลับไปเรียนรึทำงานในเมืองซะแล้ว
ขอไว้อาลัยให้กับความสัมพันธ์แพทย์และผ้ป่วยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
moonkiss
Verified User
โพสต์: 656
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ชวนเพื่อน พี่ น้อง ลุง ป้าหมอ แถวๆนี้ ใส่ปลอกแขน หรือเสื้อสีดำไปทำงานกันสักพักเถอะครับ
อยากให้ปัญหามีทางออก ได้รับการแก้ไข เราคงต้องช่วยกัน
:oops:
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เห็นใจและเป็นกำลังใจให้พี่หมอทุกท่านครับ
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 12

โพสต์

moonkiss เขียน:ขอไว้อาลัยให้กับความสัมพันธ์แพทย์และผ้ป่วยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ยังครับพี่

ผมยังมั่นใจว่าผมมี pt-dr relation ที่ดีกับคนไข้ทุกคน

แต่ก็ต้องแลกกับความเห็นแก่ตัวครับ เพราะ หมอคนอื่นอาจจะต้อง load งานหนักขึ้น หรือคนไข้คนอื่นที่ไม่ใช่คนไข้ประจำผม ก็ต้องรอนานขึ้น

ผมตรวจ opd เป็นหลัก รอได้ก็รอไป ถึงเวลาพัก (ถ้าไม่เร่งด่วนจริงๆ) ผมก็ไม่แคร์ถ้าไม่ใช่คนไข้เก่าผมเอง

แค่ให้เวลามากขึ้น อะไรๆ ก็ดีขึ้น

ไม่อยากเข้าข้างตัวเองเลย แต่ปัจจุบัน ความล้มเหลว ของ pt-dr reation เกิดจากระบบมากกว่า
คือ
1. คนไข้ต้องการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แทบทุกเรื่อง ไม่ว่าเป็นเรื่องไร้สาระขนาดไหน
2. หมอเองก็อยากไปเรียนเชี่ยวชาญเฉพาะทางกันหมด ถึงขนาด จะเชี่ยวชาญ เฉพาะ หูซ้าย (หูขวา คอ จมูก กูไม่รับ) เพราะ เหตุผลอะไรหลายๆ อย่าง เช่น รู้สึกมั่นใจ คนไข้ให้เกียรติ ดังง่ายกว่า รวยง่ายกว่า ด่าหมอคนที่ส่งมาปรึกษาง่ายกว่า หรืออะไรก็ตามแต่
3. และอื่นๆ อีกมากมาย เบื่อจะพิมพ์ และหมอๆ เองก็คงรู้กันอยู่แล้ว

สองอย่างนี้ เพิ่ม load งานเป็นเท่าตัวโดยไม่รู้ตัว
คนไข้ที่เป็นหลายโรค บางทีหาหมอคนเดียวก็พอ แต่ ต้องไปหา แต่ละ specialist เพื่อความสบายใจ
หาสองหมอ ก็รอสองเท่า หมอเหนื่อยสองคน
หาสามหมอ ก็รอสามที หมอเหนื่อยสามคน
...

ถ้าจะแก้ ต้องไปแก้กันที่รากเหง้าของปัญหา

มิใช่ผลิตแพทย์เพียงเพื่อให้พอความต้องการ
(ฝากไปถึง ..... ที่คิดแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เอานโยบายขายความขี้เกียจให้คนไทยโดยไม่รู้ตัวมาใช้ด้วย)
แผ่วเบา
Verified User
โพสต์: 391
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 13

โพสต์

กระแสฟ้องร้องอย่างนี้
ผมเดาว่า  อย่างไรก็จะต้องเกิดขึ้นในเมืองไทย
แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเร็วขนาดนี้

อ่านจากคำพิพากษาแล้ว
ผมก็งงๆนะครับ
บอกว่าฉีดยาเกินขนาด
จะเกินได้ขนาดไหนเชียว
ในเมื่อ heavy xylocaine แอมพ์หนึ่ง
เขาผลิตมาสำหรับคนไข้หนึ่งคน
แอมพ์หนึ่งมี 2 ซีซี
คนหนึ่งก็ใช้ระหว่าง 1.5-2 ซีซีแล้วแต่น้ำหนักตัวหรือระยะเวลาในการผ่าตัด
หรือถ้าเป็น vial ก็มี 10 ซีซี
ใครจะอุตริไปดูดมาจาก vial มาทั้ง 10 ซีซี

ถึงใช้เกิน ก็ไม่ได้มีผลให้
"จนเกิดอาการช็อคหัวใจหยุดเต้นทันที "
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตแต่อย่างไร

อาการที่ว่านั้นเข้าข่าย "เกิดจากการแพ้ยา" มากกว่า
เพราะต่อให้ฉีดเข้าไปมากแบบคนบ้าเลือดจนไปกดระบบหายใจ
ก็ยังสามารถแก้ได้ด้วยการใช้ท่อช่วยหายใจจนกว่าจะหมดฤทธิ์ยานี่นา

แล้วถ้าไม่มีประวัติฉีดยาชาเข้าไขสันหลังแล้วแพ้ยา
แล้วหมอจะรู้ได้อย่างไรว่าใครจะแพ้บ้าง
มีคนเคยผ่าตัดสองครั้งในชีวิตสักกี่คนเชียว
แล้วถ้าผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตล่ะครับ
หมอจะทำอย่างไร
ในเมื่ออัตราการแพ้ยาในประชาชนทั่วๆไป น้อยกว่า 1 ใน หมื่นเสียอีก
งดผ่าตัดคนที่จะผ่าครั้งแรกหมดทุกเคสเลยหรือ

ว่าแต่มีประเทศไหนในโลก
ที่ลงโทษจนถึงขั้นติดคุกเหมือนเมืองไทยไหมครับ
ผมไม่ทราบจริงๆเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 14

โพสต์

อืม ฟังพี่แผ่วแล้วก็จริงแฮะ

แต่ยังไงก็ไม่ขอเสี่ยงดีที่สุด




แต่ยังไงพี่แผ่ว ก็ดูจะหลุดพ้น กรรม (เรียกงี้น่าเกลียดไปป่าวไม่ทราบ) ไปแล้วนี่ครับ

น่ายินดีที่สุดแล้ว.....
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ไม่ได้เป็นหมอ เข้ามาเห็นใจด้วยคนครับ

ขอบคุณ คุณหมอทั้งหลายด้วยครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 16

โพสต์

แผ่วเบา เขียน: ว่าแต่มีประเทศไหนในโลก
ที่ลงโทษจนถึงขั้นติดคุกเหมือนเมืองไทยไหมครับ
ผมไม่ทราบจริงๆเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน
ไม่ทราบเหมือนกันนะครับผม

...

อย่างน้อยผมก็อยากหวังให้วันต่อๆไปเป็นวันที่ดีขึ้น
เพราะคนเราอยู่ได้ด้วยความหวังครับ แม้นว่ามันจะยากสักหน่อย
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
ลุงทีม
Verified User
โพสต์: 689
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 17

โพสต์

จากการฉีดยาชาเข้าไขสันหลังเพื่อระงับความรู้สึกในการผ่าตัดไส้ติ่งคนไข้  โดยไม่ได้ควบคุมในประมาณที่เหมาะสม  จนทำให้เกิดอาการช็อคและเสียชีวิต
ถามง่ายๆครับ ผ่าตัดไส้ติ่งมีโอกาสตายมากน้อยแค่ไหนครับ...

ถ้ากรณีอย่างนี้จะบอกว่าหมอไม่ผิด ไม่ต้องรับผิดชอบผมว่าเกินไปหน่อยนะครับ ...ชีวิตคนนะครับไม่ใช่ของเล่น
...ใครคิดแบบนี้ผมอยากให้ลองเจอเข้ากับคนในครอบครัวตัวเองแล้วจะรู้สึกเองครับ

ผมเห็นด้วยในกรณีที่หมอ่ไม่ควรจะติดคุก  <มันดูหนักเกินไป>...แต่หมอคนนี้่ควรจะรับผิดชอบ...อาจจะตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้ป่วย และ ต้องทำงานรับใช้สังคม กี่ปีๆก็ว่าไป

ปล...ขอโทษนะครับ ไม่ได้เจาะจงว่าใคร แค่เขียนไปตามความรู้็สึกจากคนที่เคยเจอเหตุการณ์ คล้ายๆกันนี้กับคนในครอบครัวมาก่อน
ภาพประจำตัวสมาชิก
poppo
Verified User
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ผมว่าเจตนาคนฟ้อง และคนสนับสนุนให้ฟ้องคือทางกลุ่มเครือข่าย ต้องการให้เกิด great impact กับวงการแพทย์ไทย ว่าถ้าไม่สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ตามความคาดหวัง หรือทำให้ไม่พอใจ หรือมีข้อแทรกซ้อนซึ่งอาจตีความโดยศาลและทนายได้ว่าเกิดจากความประมาทของแพทย์ ก็อาจมีความผิดอาญาถึงจำคุกได้

แต่ผมว่า great impact ที่จะเกิดขึ้นคือ แพทย์จะไม่ยอมเอาตัวเข้าเสี่ยงในภาวะเป็นตายของผู้ป่วยอีก

อาจบอกว่าเกินความสามารถ (ที่จะทำให้โดยรับรอง 100% ว่าจะไม่มีข้อแทรกซ้อน)

คนลำบากคือชาวบ้านครับ

อีกหน่อยเป็นแค่ไส้ติ่งอักเสบ หรือคลอดลูกที คงต้องนั่งรถเข้าจังหวัดไปรักษา ลำบากทั้งผู้ป่วยและญาติ

ส่วนหมอก็จะหมดศรัธทาในอาชีพตัวเอง เกิดความระแวงต่อผู้ป่วย
จงทนอด และอดทน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 19

โพสต์

[quote="ลุงทีม"][quote]จากการฉีดยาชาเข้าไขสันหลังเพื่อระงับความรู้สึกในการผ่าตัดไส้ติ่งคนไข้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Eyore
Verified User
โพสต์: 606
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ลุงทีม เขียน: ถามง่ายๆครับ ผ่าตัดไส้ติ่งมีโอกาสตายมากน้อยแค่ไหนครับ...

ถ้ากรณีอย่างนี้จะบอกว่าหมอไม่ผิด ไม่ต้องรับผิดชอบผมว่าเกินไปหน่อยนะครับ ...ชีวิตคนนะครับไม่ใช่ของเล่น
...ใครคิดแบบนี้ผมอยากให้ลองเจอเข้ากับคนในครอบครัวตัวเองแล้วจะรู้สึกเองครับ

ผมเห็นด้วยในกรณีที่หมอ่ไม่ควรจะติดคุก  <มันดูหนักเกินไป>...แต่หมอคนนี้่ควรจะรับผิดชอบ...อาจจะตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้ป่วย และ ต้องทำงานรับใช้สังคม กี่ปีๆก็ว่าไป

ปล...ขอโทษนะครับ ไม่ได้เจาะจงว่าใคร แค่เขียนไปตามความรู้็สึกจากคนที่เคยเจอเหตุการณ์ คล้ายๆกันนี้กับคนในครอบครัวมาก่อน
ขอให้ตามไปอ่านกระทู้นี้ครับ
แล้วค่อย discuss กันต่อครับ

http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp ... 1196962217

คำถามครับ
เห็นคนจะตกเขา
พยายามช่วยสุดชีวิต
หาเชือกเท่าที่มีมาช่วยดึง
แต่เชือกขาด
คนตกเขาตาย

คนช่วย สมควรตายตกตามกัน
หรือจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา
เนื่องจากประมาท
หรือไม่ครับ


ไม่มีหมอคนไหนเห็นชีวิตคนเป็นของเล่นหรอกครับ
เช่นกัน ไม่มีหมอคนไหนอยากให้คนไข้ตายหรอกครับ
Dr.T
Verified User
โพสต์: 1608
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ทำงาน ลงทุน เก็บเงินสักไม่เกินห้าปีสิบปี
แล้วลาออกไปเป็นนักลงทุนเต็มเวลากันดีกว่า

ให้ผิดพอจะเข้าใจ
ให้จำคุก ก็ยังพยายามอย่างสุดขีดที่จะเข้าใจ

แต่ไม่รอลงอาญานี่....
อย่าให้รู้ชื่อ และอย่าให้มาพานพบกันในหน้าที่ผมนะครับ ผู้พิพากษา

ผมหวังว่าผมจะได้รักษาท่านบ้าง โดยหลักมนุษยธรรมเดียวกับที่ท่านตัดสินจำคุกแพทย์ผู้ปฏิบัติงานตามจรรยาบรรณโดยไม่รอลงอาญา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 22

โพสต์

Dr.T เขียน:ทำงาน ลงทุน เก็บเงินสักไม่เกินห้าปีสิบปี
แล้วลาออกไปเป็นนักลงทุนเต็มเวลากันดีกว่า

ให้ผิดพอจะเข้าใจ
ให้จำคุก ก็ยังพยายามอย่างสุดขีดที่จะเข้าใจ

แต่ไม่รอลงอาญานี่....
อย่าให้รู้ชื่อ และอย่าให้มาพานพบกันในหน้าที่ผมนะครับ ผู้พิพากษา

ผมหวังว่าผมจะได้รักษาท่านบ้าง โดยหลักมนุษยธรรมเดียวกับที่ท่านตัดสินจำคุกแพทย์ผู้ปฏิบัติงานตามจรรยาบรรณโดยไม่รอลงอาญา
:lovl:
สุดยอดครับพี่

จริงๆมีอีกคนในใจ ที่รู้สึกประมาณนี้
คนเดียวจริงๆ...

ไม่อยากคิด แต่มันก็อดคิดไม่ได้

ไม่อยากบอกเลยว่าใคร ...

ผมว่าหมอหลายๆ คนก็คงรู้สึกเหมือนกัน...
ลุงทีม
Verified User
โพสต์: 689
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ทำงาน ลงทุน เก็บเงินสักไม่เกินห้าปีสิบปี
แล้วลาออกไปเป็นนักลงทุนเต็มเวลากันดีกว่า

ให้ผิดพอจะเข้าใจ
ให้จำคุก ก็ยังพยายามอย่างสุดขีดที่จะเข้าใจ

แต่ไม่รอลงอาญานี่....
อย่าให้รู้ชื่อ และอย่าให้มาพานพบกันในหน้าที่ผมนะครับ ผู้พิพากษา

ผมหวังว่าผมจะได้รักษาท่านบ้าง โดยหลักมนุษยธรรมเดียวกับที่ท่านตัดสินจำคุกแพทย์ผู้ปฏิบัติงานตามจรรยาบรรณโดยไม่รอลงอาญา
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ไปเล่นหุ้นดีกว่า อย่ามาเป็นหมอเลย...

ดูอย่างหมอ ยรรยง หมอบุญ แกก็เลิกอาชีพแกไปแล้วหลังจากจาก แกพบว่าอาชีพอื่นหาเงินได้ง่ายกว่าเหนื่อยน้อยกว่า...

:lol:  :lol:  :lol:
ลุงทีม
Verified User
โพสต์: 689
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ที่เขียนมาก็แค่อยากให้นึกถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายบ้าง...

อย่านึกถึงแต่ เงิน หรือ วัตถุนิยม หรือ ตัวเองมากไป จนลืมสามัญสำนึก หรือ คุณธรรมในใจ ที่ควรจะมีอยู่ในใจ โดยเฉพาะ ผู้ประกอบวิชาชีพ "หมอ" ที่มีแต่ชาวบ้าน ตาดำๆให้ความเคารพและนับถือ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Eyore
Verified User
โพสต์: 606
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ลุงทีมครับ
อ่านลิงค์ที่ผมทำให้รึยังครับ

คนไทยตายจากใส้ติ่งน้อยกว่าอเมริกาอีกนะครับ

ช่วยตอบคำถามผมด้วย

เห็นคนจะตกเขา
พยายามช่วยสุดชีวิต
หาเชือกเท่าที่มีมาช่วยดึง
แต่เชือกขาด
คนตกเขาตาย

คนช่วย สมควรตายตกตามกัน
หรือจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา
เนื่องจากประมาท
หรือไม่ครับ


ถามอีกอย่าง
แพทยคนนั้นตั้งใจช่วยผู้ป่วย
เห็นแก่เงินตรงไหนครับ
ทำงานมากขึ้นก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม
ตอนผมจบใหม่
เงินเดือนแพทย์จบใหม่ 8,190 บาท
ตอนนี้น่าจะประมาณ 9,000-10,000
เห็นแก่เงินตรงไหนครับ
ลุงทีม
Verified User
โพสต์: 689
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 26

โพสต์

คุยกันละเรื่องแล้วครับ...ผมว่าหยุดเถอะ...

link ที่อุตส่าห์ทำให้ก็ขอบคุณครับ แต่คงไม่เข้าไปเอาลิ้งส์มาเป็นตัวชี้นำหรอกครับ...
เพราะที่นั่นส่วนใหญ่มีแต่หมอคุยกัน ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปเถียงด้วย...

ทั้งหมดมา...ที่ผมอยากบอกคือ...V ข้างล่างนี้ครับ V

ลอกมาให้อ่านอีกรอบ...
ที่เขียนมาก็แค่อยากให้นึกถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายบ้าง...

อย่านึกถึงแต่ เงิน หรือ วัตถุนิยม หรือ ตัวเองมากไป จนลืมสามัญสำนึก หรือ คุณธรรมในใจ ที่ควรจะมีอยู่ในใจ โดยเฉพาะ ผู้ประกอบวิชาชีพ "หมอ" ที่มีแต่ชาวบ้าน ตาดำๆให้ความเคารพและนับถือ...

แต่ถ้าหมอคนนั้นไหนไม่ได้เป็นแบบที่ว่า...ก็ผ่านๆไปครับ
...เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้าโรงหมอ...ชาวบ้านตาดำๆ ก็ต้องเชื่อฟังหมอ...หมอบอกอะไร ก็ต้องเชื่อ...ใครๆก็ต้องกัวตายทั้งนั้นแหละครับ...จิงมั้ยครับ...
ถ้ามีคนอื่นที่สามารถช่วยให้ตัวเองพ้นจากความตายได้...ถามว่าเค้าจะมาหาหมอมั้ยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ลุงทีม เขียน:คุยกันละเรื่องแล้วครับ...ผมว่าหยุดเถอะ...

ทั้งหมดมา...ที่ผมอยากบอกคือ...V ข้างล่างนี้ครับ V

ที่เขียนมาก็แค่อยากให้นึกถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายบ้าง...

อย่านึกถึงแต่ เงิน หรือ วัตถุนิยม หรือ ตัวเองมากไป จนลืมสามัญสำนึก หรือ คุณธรรมในใจ ที่ควรจะมีอยู่ในใจ โดยเฉพาะ ผู้ประกอบวิชาชีพ "หมอ" ที่มีแต่ชาวบ้าน ตาดำๆให้ความเคารพและนับถือ...
เรื่องเดียวกันเลยครับ

เรากำลังมองทั้งในมุมของผู้เสียหาย และ หมอ

คำถามคือ เสียหาย เพราะ อะไร?

พี่ไอร์ เค้าก็มองให้เห็นมุมมองของหมอ เหมือนที่พี่ลุง พยายามให้เห็นมุมมองผู้เสียหาย

เสียหายเพราะ หมอ เห็นแก่เงิน จริง หรือไม่? ครับ พี่ลุง

เพราะ พอเกิดความเสียหาย คนก็ มักจะ

หาที่ลง หาคนผิด ไม่ได้คิด พิจารณาเหตุผล

ถ้าพิจารณาแล้ว และว่ากัน ก็ไม่ว่าอะไรครับ แต่ปรากฎว่า ในไทย 99% เป็นอย่างตัวใหญ่ข้างคนครับ
กลับกับ เมืองฝรั่งเค้า ที่มีอัตราการฟ้องร้องมาก และ อัตราสำเร็จสูงกว่า เมื่อเทียบกับจำนวนเรื่องร้องเรียน
ส่วนเมืองไทย ที่ผู้เสียหายได้เงินๆ ได้ ไม่ได้ได้เพราะ หมอผิดจริง นะครับ
ลองไปถามคนที่ได้ ดู ว่าเค้าเรียกว่าค่าอะไรครับ
...เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้าโรงหมอ...ชาวบ้านตาดำๆ ก็ต้องเชื่อฟังหมอ...หมอบอกอะไร ก็ต้องเชื่อ...ใครๆก็ต้องกัวตายทั้งนั้นแหละครับ...จิงมั้ยครับ...
เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้นทั้งหมดนะครับ

ผมว่าคนไข้หัวหมอ มากกว่า หมอเห็นแก่เงิน(จริงๆ) มากกว่ากันหลายเท่าตัว
ไอ้ก็ต้องเชื่อเนี่ยผมไม่เห็นด้วยเป็นกันทุกคน และไม่อยากให้เป็นด้วย

ผมเอง ยังบอกคนไข้ผมทุกคน ที่ชอบบอกว่า หมอว่าไงก็ว่างั้นเถอะ

พอเจอคำนี้ คนไข้ได้ฟังผม เลคเชอร์ อีกอย่างน้อย 15 นาที แน่นอน  :lol:

ชีวิต ป้าๆ ลุงๆ นะครับ คุณต้องตัดสินใจเอง
ก่อนตัดสินใจ ต้องเข้าใจก่อน
ต้องเข้าใจทุกเรื่องที่เป็น
ต้องเข้าใจมากกว่าที่ผมเข้าใจ ให้ได้ เพราะคุณเป็นแค่ไม่กี่โรค แต่ผมต้องรู้เป็นร้อยเป็นพันโรค
บลาๆๆๆๆ  :lol:

อ้างว่า หมอว่าไงก็ต้องเชื่อ พอเกิดอุบัติเหตุชีวิตขึ้นแล้ว ก็จะมาหาคนผิด
อย่างนี้ไม่ได้ครับ คนไทยเมืองพุทธ พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า อย่าเชื่อ เพียงเพราะเค้าเป็นหมอ
ต้องคิดหา (หรือแม้แค่ฟัง) เหตุผล แล้ว พินิจพิจารณา ก่อน หาคนผิดให้ได้มั้ย

ผมว่านี่เป็นมุมมองของหมอครับ

ส่วนมุมมองของผู้เสียหาย ก็คงได้ฟังเยอะแยะ เพราะ โฆษณากันทุกสื้ออยู่แล้ว

ปล. ไม่ได้ว่าใครเลยนะครับ โดยเฉพาะ พี่ลุง เด๋วจะแตกแยก

ผมแค่พยายามไกล่เกลี่ย ให้ทั้งสองฝ่าย ได้มองมุมของแต่ละคน

ไม่งั้น แต่ละคนก็จะ พยายามให้อีกฝ่ายมองมุมของตัวเอง
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 28

โพสต์

หมอนิว... ไปจ๊อกสวนลุมกันดีกว่า  :lol:
"Winners never quit, and quitters never win."
Ano
Verified User
โพสต์: 306
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ตอนนี้ระบบที่เป็นอยู่  เหมือนกับว่า  รัฐบาลส่งทหารไปรบ  แต่อาวุธไม่ครบมือ  และจำนวนทหารไม่เหมาะสมกับข้าศึก  เค้าก็ทำได้ตามสภาพที่เป็นอยู่และทรัพยากรที่จำกัดก็บีบเค้าทุกทาง  

ถ้าทหารคนนั้นทำสำเร็จ  ก็ได้แค่ค่าตอบแทนอันน้อยนิด  แต่ถ้าเค้าแพ้ขึ้นมา  เค้าต้องได้รับโทษอย่างงั้นหรือ???

รัฐบาลกำลังผลักภาระความรับผิดชอบให้แพทย์  ให้คน  ให้เครื่องมือมาแค่นี้  แต่จะเอาผลดีเลิศ  เป็นไปได้หรือ?

เห็นใจผู้ป่วย  เห็นใจญาติ  เห็นใจแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน  รวมทั้งเห็นใจตัวเอง  ที่ต้องทนทำงานในระบบที่อยุติธรรม

ถ้าจะฟ้อง  น่าจะฟ้องที่ระบบ--> ฟ้องรัฐบาลมากกว่าค่ะ  



เรื่องชักจะเครียดไฟลุก  น้องนิว  ลุงทีม  พี่Eyore ไปวิ่งสวนลุมตามที่พี่หวีชวนกันดีกว่าค่ะ
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย

โพสต์ที่ 30

โพสต์

หมอเห็นแก่เงิน ผิดด้วยหรือ  :lol:

ว้าแย่จังเป็นหมอก็หมดสิทธิ์รวยซิ

ผมว่าเรื่องเงิน รวย จน อย่าเอามาพูดดีกว่าครับ โดยส่วนมากของคน
ถ้ายังเป็นคนธรรมดาสามัญชน หรือหมอสามัญชน
ใครๆก็อย่างรวยทั้งนั้น รวยมากหรือน้อย หรือรวยพอดี
อาชีพก็ว่ากันตามอาชีพดีกว่า

ผมว่าจริงๆก็น่าเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะครับ
ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้รักษา ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ถูกรักษา(ลูกค้า)

น่าจะดูว่าเป็นเจตนาหรือประมาทอย่างไร ฉีดยาเกินขนาดจริงรึเปล่า
ถ้าไม่ใช่ก็ไม่น่าตัดสินจำคุกเลย
ถ้าใช่ ผมว่าก็น่าจะทำอะไรซักอย่าง เพราะสมัยนี้ต้องระวังนิด หมอเล่นหุ้นเยอะ จนบางครั้งสติไม่ค่อยมีกับงานเท่าที่ควร

ถ้าหมอผิดจริงๆ ผมว่าอันแรกเลยคือต้องปลดอาชีพหมอคนนั้นออก
ถ้าผิดแบบแรงๆเช่นเมาค้าง ก็น่าจะลงโทษแบบประมาท ลงโทษหนักนิดนึง
ถ้าทำความผิดจริงแล้วไม่มีการลงโทษ ต่อไปก็จะมีเคสอย่างนี้ออกมาอีกประจำ

ผมว่าไม่ว่าอาชีพอะไร ก็น่าจะไม่ต่างกันนะ เรื่องของความประมาท
การขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงความตายมีสิทธิติดคุกเหมือนกัน
การทำอุตสาหกรรมต่างๆ ถ้าสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น เป็นเหตุถึงแก่ความตาย ก็สิทธิ์ติดคุกได้เหมือนกัน
ผมว่าทุกอาชีพแหละครับ

เออ ว่าแต่ถ้ามาร์เก็ตติ้งบอกหุ้นเด็ด แต่มันไม่เด็ดจริง แล้วหุ้นมันตกเอาตกเอา
ทำให้ลูกค้าเสียหาย หรือช้ำใจตาย อย่างนี้ จะฟ้องได้ไม๊นี่

ผมว่าน่าเห็นใจนะครับ ทั้งสองฝ่าย แต่ก็คิดว่าหมอคงไม่ได้อยากให้คนไข้ตาย
ผมขอเป็นกำลังใจให้หมอด้วยคนนะครับ โดยเฉพาะหมอที่เล่นหุ้นด้วย
ยังทำอาชีพหมอด้วยนี่ จะทำให้สติไม่อยู่กับตัวหรืออารมณ์ผันผวนตามตลาดได้ง่ายรึเปล่า อย่าประมาทนะครับ
ถ้าจะลงทุนยึดหลักที่ดี ลงทุนระยาว กระจายความเสี่ยง นะครับ
อย่าให้กระทบกระเทือนกับอาชีพตนเองเลย

อีกอย่างผมเห็นว่าเงินเดือนหมอน่าจะมากขึ้นกว่านี้นะ
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง