SUC Strike Back
-
- Verified User
- โพสต์: 160
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 1
บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบกำไรขาดทุน
สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2549 และ 2548
(หน่วย : พันบาท ยกเว้นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานแสดงเป็นบาท)
งบการเงินรวม
หมายเหตุ 2549 2548
รายได้
รายได้จากการขาย 4,602,421 4,188,115
รายได้อื่น
ดอกเบี้ยรับ 15,708 5,973
ค่าเช่ารับ 756 1,305
เงินปันผลรับ 2,800 -
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน8 79,082 12,646
อื่น ๆ 118,233 87,874
216,579 107,798
ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย 216,137 33,342
รวมรายได้ 5,035,137 4,329,255
ค่าใช้จ่าย
ต้นทุนขาย 3,923,492 3,757,768
ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 506,389 466,106
ค่าตอบแทนกรรมการ 4,739 4,807
รวมค่าใช้จ่าย 4,434,620 4,228,681
กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้และส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 600,517 100,574
ดอกเบี้ยจ่าย (28,356) (22,647)
ภาษีเงินได้นิติบุคคล (99,535) (49,099)
กำไรก่อนส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 472,626 28,828
(กำไร) ขาดทุนของบริษัทย่อยส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (20,732) 19,488
กำไรสุทธิสำหรับงวด 451,894 48,316
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน9
กำไรสุทธิ 1.56 0.17
จำนวนหุ้นถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (หุ้น) 290,012,306 290,012,306
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
งบกำไรขาดทุน
สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2549 และ 2548
(หน่วย : พันบาท ยกเว้นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานแสดงเป็นบาท)
งบการเงินรวม
หมายเหตุ 2549 2548
รายได้
รายได้จากการขาย 4,602,421 4,188,115
รายได้อื่น
ดอกเบี้ยรับ 15,708 5,973
ค่าเช่ารับ 756 1,305
เงินปันผลรับ 2,800 -
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน8 79,082 12,646
อื่น ๆ 118,233 87,874
216,579 107,798
ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย 216,137 33,342
รวมรายได้ 5,035,137 4,329,255
ค่าใช้จ่าย
ต้นทุนขาย 3,923,492 3,757,768
ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 506,389 466,106
ค่าตอบแทนกรรมการ 4,739 4,807
รวมค่าใช้จ่าย 4,434,620 4,228,681
กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้และส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 600,517 100,574
ดอกเบี้ยจ่าย (28,356) (22,647)
ภาษีเงินได้นิติบุคคล (99,535) (49,099)
กำไรก่อนส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 472,626 28,828
(กำไร) ขาดทุนของบริษัทย่อยส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (20,732) 19,488
กำไรสุทธิสำหรับงวด 451,894 48,316
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน9
กำไรสุทธิ 1.56 0.17
จำนวนหุ้นถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (หุ้น) 290,012,306 290,012,306
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 3
อ้าว เขาขายธุรกิจ โรงไฟฟ้า ไปแล้วหรือครับ
ไม่ได้ติดตามมานาน เห็นกำไร โตมากนึกว่า มาจากกำไรโรงไฟฟ้า แต่ไม่นึกว่ามาจากการขายนะเนี้ย
ไม่ได้ติดตามมานาน เห็นกำไร โตมากนึกว่า มาจากกำไรโรงไฟฟ้า แต่ไม่นึกว่ามาจากการขายนะเนี้ย
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
-
- Verified User
- โพสต์: 160
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 4
ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 254915/05/2549 18:26
SUC : ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2549
ที่ ป. 011/2549 15 พฤษภาคม 2549
เรื่อง นำส่งงบการเงิน
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย รายงานทางการเงิน 1 ฉบับ
บริษัทฯ ขอส่งรายงานและงบการเงินระหว่างกาลสำหรับงวด
สามเดือน ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2549 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2549
ซึ่งเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วมาพร้อมหนังสือฉบับนี้
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2549 มี
กำไรสุทธิตามวิธีส่วนได้เสียจำนวนเงิน 451.89 ล้านบาท เมื่อเปรียบ
เทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2548 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 48.32 ล้านบาท
บริษัทฯ มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 403.57 ล้านบาท ซึ่งแตกต่างกันเกินร้อยละ 20
ทั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจาก
1. บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น ในสัดส่วนที่มากกว่า
ต้นทุนขายและต้นทุนบริการที่เพิ่มขึ้น จำนวน 248 ล้านบาท ส่วนใหญ่
โดยสรุปเป็นผลจากการดำเนินงานของธุรกิจสิ่งทอในประเทศจีนที่มีผล
การดำเนินงานเต็มที่แล้ว ในขณะที่ไตรมาส 1 ของปี 2548 บริษัทดัง
กล่าวเพิ่งเริ่มการดำเนินงาน ตลอดทั้งจากธุรกิจพลังงานและการบริการ
ด้านการศึกษาในประเทศจีนด้วย รวม 135.3 ล้านบาท และจากธุรกิจกลุ่ม
พลาสติก ยางและโลหะ กับธุรกิจคอมพิวเตอร์ฯ ในประเทศไทย รวม 72.3
ล้านบาท สำหรับธุรกิจพลังงานในประเทศจีน บริษัทฯ ได้เคยรายงานมาตลอด
2 ปี ล่าสุดได้รายงานเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549 ตามหนังสือที่ ป.001/2549
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากกลางปี 2548 ที่ทางการได้อนุมัติให้ปรับราคา
ขายไฟฟ้าและไอน้ำตามสูตรการคำนวณได้
2. บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียของบริษัทร่วม
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2549 จำนวน 216.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182.79 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2548 ซึ่งมีจำนวน 33.34 ล้านบาท ทั้งนี้เกิดจาก
ธุรกรรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 52.6 ล้านบาท เพราะมีรายได้เงินปันผล
ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2549 ในขณะที่ปี 2548 มีรายได้เงินปันผลจากเงินลงทุน
ดังกล่าวในไตรมาส 2 ของปี 2548 นอกจากนี้มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก
บริษัทร่วมในประเทศจีนในธุรกิจกลุ่มพลังงานและอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเมื่อ
เทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2548 รวม 130.19 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุต่อเนื่อง
ตามที่กล่าวไว้แล้วในข้อ 1 ตอนท้าย
3. ตามที่บริษัทฯ มีรายการเงินกู้ระยะยาวเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ เมื่อสิ้น
งวดไตรมาส 1 ปี 2549 เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี
ที่แล้ว ทำให้บริษัทฯ มีรายการกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น
เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2548 จำนวน 66.44 ล้านบาท
4. เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2548 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่ม
จำนวน 40.28 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากสภาวะการณ์ค่าเชื้อเพลิง พลังงาน ค่าขนส่ง
ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นมาตลอด ทำให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายด้านนี้สูงขึ้นจำนวน 22.12
ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง
จำนวน 24 ล้านบาท ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอื่นเพิ่มขึ้น จำนวน
21 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกรรมที่สัมพันธ์กัน
5. จากผลของกำไรเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น
จำนวน 50.4 ล้านบาท
ในส่วนของรายการอื่นๆ มีความแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นางสาวศรีวารินทร์ จิระพรรคคณา)
กรรมการผู้อำนวยการ
SUC : ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2549
ที่ ป. 011/2549 15 พฤษภาคม 2549
เรื่อง นำส่งงบการเงิน
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย รายงานทางการเงิน 1 ฉบับ
บริษัทฯ ขอส่งรายงานและงบการเงินระหว่างกาลสำหรับงวด
สามเดือน ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2549 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2549
ซึ่งเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วมาพร้อมหนังสือฉบับนี้
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2549 มี
กำไรสุทธิตามวิธีส่วนได้เสียจำนวนเงิน 451.89 ล้านบาท เมื่อเปรียบ
เทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2548 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 48.32 ล้านบาท
บริษัทฯ มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 403.57 ล้านบาท ซึ่งแตกต่างกันเกินร้อยละ 20
ทั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจาก
1. บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น ในสัดส่วนที่มากกว่า
ต้นทุนขายและต้นทุนบริการที่เพิ่มขึ้น จำนวน 248 ล้านบาท ส่วนใหญ่
โดยสรุปเป็นผลจากการดำเนินงานของธุรกิจสิ่งทอในประเทศจีนที่มีผล
การดำเนินงานเต็มที่แล้ว ในขณะที่ไตรมาส 1 ของปี 2548 บริษัทดัง
กล่าวเพิ่งเริ่มการดำเนินงาน ตลอดทั้งจากธุรกิจพลังงานและการบริการ
ด้านการศึกษาในประเทศจีนด้วย รวม 135.3 ล้านบาท และจากธุรกิจกลุ่ม
พลาสติก ยางและโลหะ กับธุรกิจคอมพิวเตอร์ฯ ในประเทศไทย รวม 72.3
ล้านบาท สำหรับธุรกิจพลังงานในประเทศจีน บริษัทฯ ได้เคยรายงานมาตลอด
2 ปี ล่าสุดได้รายงานเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549 ตามหนังสือที่ ป.001/2549
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากกลางปี 2548 ที่ทางการได้อนุมัติให้ปรับราคา
ขายไฟฟ้าและไอน้ำตามสูตรการคำนวณได้
2. บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียของบริษัทร่วม
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2549 จำนวน 216.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182.79 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2548 ซึ่งมีจำนวน 33.34 ล้านบาท ทั้งนี้เกิดจาก
ธุรกรรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 52.6 ล้านบาท เพราะมีรายได้เงินปันผล
ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2549 ในขณะที่ปี 2548 มีรายได้เงินปันผลจากเงินลงทุน
ดังกล่าวในไตรมาส 2 ของปี 2548 นอกจากนี้มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก
บริษัทร่วมในประเทศจีนในธุรกิจกลุ่มพลังงานและอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเมื่อ
เทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2548 รวม 130.19 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุต่อเนื่อง
ตามที่กล่าวไว้แล้วในข้อ 1 ตอนท้าย
3. ตามที่บริษัทฯ มีรายการเงินกู้ระยะยาวเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ เมื่อสิ้น
งวดไตรมาส 1 ปี 2549 เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี
ที่แล้ว ทำให้บริษัทฯ มีรายการกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น
เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2548 จำนวน 66.44 ล้านบาท
4. เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2548 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่ม
จำนวน 40.28 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากสภาวะการณ์ค่าเชื้อเพลิง พลังงาน ค่าขนส่ง
ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นมาตลอด ทำให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายด้านนี้สูงขึ้นจำนวน 22.12
ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง
จำนวน 24 ล้านบาท ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอื่นเพิ่มขึ้น จำนวน
21 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกรรมที่สัมพันธ์กัน
5. จากผลของกำไรเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น
จำนวน 50.4 ล้านบาท
ในส่วนของรายการอื่นๆ มีความแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นางสาวศรีวารินทร์ จิระพรรคคณา)
กรรมการผู้อำนวยการ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 5
ไม่ใช่โรงไฟฟ้าที่จีนน่า
แต่เป็นโรงไฟฟ้าที่เมืองไทย
ที่กำลังเปิดดำเนินงานที่ราชบุรี
อ่านจะในรายงานประจำปี
ปีที่แล้วตีความหมายเจ้าตัวนี้ผิดอย่างแรง
ทำให้หลงประเด็น
ลืมคิดประเด็นที่มันย้ายฐานการผลิตสิ่งทอไปที่จีน
ทำให้ต้นทุนเรื่องแรงงานลุดลง
แต่เป็นโรงไฟฟ้าที่เมืองไทย
ที่กำลังเปิดดำเนินงานที่ราชบุรี
อ่านจะในรายงานประจำปี
ปีที่แล้วตีความหมายเจ้าตัวนี้ผิดอย่างแรง
ทำให้หลงประเด็น
ลืมคิดประเด็นที่มันย้ายฐานการผลิตสิ่งทอไปที่จีน
ทำให้ต้นทุนเรื่องแรงงานลุดลง
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 13
Book VALUE = 48.64 บาท/หุ้น .............................
ราคาที่พี่เจ๋งซื้อมา ไม่ถึง 0.5 เท่าของBOOK VALUEเลยนะ .................
ถ้าแบบนี้บอกว่าติดดอย .................
แล้วหุ้นVI ที่เทรดที่ P/BV 4-5 เท่า ไม่เอเวอเรสต์เหรอครับ ..............
ราคาที่พี่เจ๋งซื้อมา ไม่ถึง 0.5 เท่าของBOOK VALUEเลยนะ .................
ถ้าแบบนี้บอกว่าติดดอย .................
แล้วหุ้นVI ที่เทรดที่ P/BV 4-5 เท่า ไม่เอเวอเรสต์เหรอครับ ..............
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 17
ขายไปตั้งแต่ ขายทุนโรงไฟฟ้าในจีน ติดต่อกัน
ตอนนี้เลยไม่มี ตอนนี้จะกลับไปที่เดิมแล้วด้วย
แต่กำไรเท่าไหร่ ก็ไม่สน ตูจะปัน 1.5 ใครจะทำไม
ตอนนี้เลยไม่มี ตอนนี้จะกลับไปที่เดิมแล้วด้วย
แต่กำไรเท่าไหร่ ก็ไม่สน ตูจะปัน 1.5 ใครจะทำไม
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 18
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ขายไปตั้งแต่ ขายทุนโรงไฟฟ้าในจีน ติดต่อกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 19
ผมช่วยแก้ให้Jeng เขียน:อ้าว ตกลงไม่เหลือโรงไฟฟ้าแล้วเหรอโค้ด: เลือกทั้งหมด
ขายไปตั้งแต่ ขายทุนโรงไฟฟ้าในจีน ติดต่อกัน
"ขายไปตั้งแต่ ขาดทุนโรงไฟฟ้าในจีน ติดต่อกัน"
ถ้าด้วยเหตุนี้จริงๆ ถ้าเป็นแฟนพันธ์แท้จริงๆ ก็น่าจะซื้อกลับตั้งแต่ไตรมาสที่แล้วนะ เพราะเค้าเริ่มมีกำไรจากโรงไฟฟ้าในจีนแล้ว เนื่องจากสามารถปรับราคาขายได้ตามวัตถุดิบที่ผันแปร
-
- Verified User
- โพสต์: 893
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 20
ปันผล 1.25 บาท มา 6 ปีรวดเลยครับ ไม่ว่ากำไรจะบาทเศษๆ หรือขึ้นไป 4 บาทเศษๆCopyWriter เขียน:ขายไปตั้งแต่ ขายทุนโรงไฟฟ้าในจีน ติดต่อกัน
ตอนนี้เลยไม่มี ตอนนี้จะกลับไปที่เดิมแล้วด้วย
แต่กำไรเท่าไหร่ ก็ไม่สน ตูจะปัน 1.5 ใครจะทำไม
แต่เห็นใน 56-1 บอกว่าจะจ่ายไม่ต่ำกว่า 1/3 ของกำไร ถ้าปีนี้กำไรซัก 6 บาท ถ้าเค้ายังจ่าย 1.25 บาท เราประท้วงได้ไหมครับ
เรากำลังตามหา หุ้นดีๆ
หุ้นดีๆ ก็กำลังตามหาเราอยู่
หุ้นดีๆ ก็กำลังตามหาเราอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 15
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 22
SUCเดินหน้าขยายธุรกิจในจีน รุกร่วมทุน-ซื้อหุ้นเพิ่มทุน3บริษัท
'สหยูเนี่ยน' เดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศจีน เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน 'ยูเนี่ยน
เอ็นเนอร์ยี่ (ไชน่า)' มูลค่า 3.2 พันล้านบาท เพื่อลุยธุรกิจพลังงาน พร้อมร่วมทุน 2
บริษัทในจีนลุยธุรกิจปั่นด้ายและย้อมสีด้าย เพื่อผลประโยชน์ต่อเนื่องต่อธุรกิจสิ่งทอ
ในไทย
นางสาวศรีวารินทร์ จิระพรรคคณา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด
(มหาชน) หรือ SUC เปิดเผยว่า ที่ประชุมบริษัทมีมติอนุมัติให้เข้าทำสัญญาร่วมทุนและลงทุนใน
Shanghai Saha-Union Spinning Mill No. 7 Co., Ltd. (SUSM 7) ซึ่งจะจัดตั้งบริษัทที่
นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ถือหุ้นฝ่ายจีนที่ไม่มี
ความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัทฯ ในสัดส่วนการถือหุ้นของฝ่ายจีน 5% และฝ่ายไทย 50% โดยฝ่าย
ไทยเป็นการลงทุนของบริษัทฯประมาณ 18% และบริษัทย่อยชื่อ Saha-Union Investment
(China) Co., Ltd. ที่บริษัทถือหุ้น100% อีก 32%
ทั้งนี้ บริษัท SUSM 7 มี ทุนจดทะเบียน RMB 128 ล้าน เป็นเงินลงทุนของฝ่ายไทย
รวม RMB 64 ล้าน หรือประมาณ 345.6 ล้านบาท โดยมีลักษณะการประกอบธุรกิจเป็นโรงงาน
ปั่นด้าย และเป็นที่ยอมรับของตลาด และ บริษัทฯจะส่ง เงินลงทุนไปภายใน 90 วัน นับแต่ได้รับใบ
อนุญาตให้ประกอบธุรกิจ โดยแหล่งเงินทุนได้จากเงินทุนหมุนเวียนส่วนหนึ่งและจากการกู้ยืมกับ
สถาบันการเงินอีกส่วนหนึ่ง ทั้งนี้การลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเพื่อ ผลประโยชน์ต่อเนื่องกับธุรกิจ
สิ่งทอในประเทศไทย และขยายตลาดในประเทศจีนอีกทางหนึ่ง
ขณะเดียวกัน บริษัทก็ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าทำสัญญาร่วมทุนและลงทุนใน
Zhejiang Saha-Union Feilun Thread Industries Co., Ltd. ซึ่งมีที่อยู่ ในมณฑล
Zhejiang เมือง Jiashan ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ถือหุ้นฝ่าย
จีนที่ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัทฯ สัดส่วนการถือหุ้นของฝ่ายจีนเป็น 18% หรือ 7.2 แสน
เหรียญสหรัฐอเมริกา ส่วนบริษัทฯถือหุ้นสัดส่วน 37% หรือ US$ 1.48 ล้าน บริษัท ยูเนี่ยนเอ็น
เนอร์ยี่ (ฮ่องกง) จำกัด ถือหุ้นสัดส่วน 30% และ Saha-Union Investment (China) Co.,
Ltd.ถือหุ้นสัดส่วน 15% หรือ US$ 6 แสน รวมเป็นสัดส่วนของผู้ถือหุ้นฝ่ายไทย 82% US$
3.28 ล้าน หรือประมาณ 135.267 ล้านบาท
โดยบริษัทจะใช้บริษัทย่อยชื่อ Zhejiang Saha-Union Thread Industry Co.,
Ltd. (SUI) ซึ่งยังมิได้ประกอบกิจการ แต่ได้จดทะเบียนในมณฑล Zhejiang แล้ว และมีการ
ชำระทุนจดทะเบียนของฝ่ายไทยไปแล้วบางส่วนเป็นเงิน US$ 2.8 ล้าน มาดำเนินการเปลี่ยนชื่อ
เป็น Zhejiang Saha-Union Feilun Thread Industries Co., Ltd.และขายหุ้นในบริษัท
SUI ให้กับผู้ถือหุ้นฝ่ายจีน 18% ดังกล่าว โดยบริษัทร่วมทุนจะมีทุนจดทะเบียน US$ 4 ล้าน ทั้ง
นี้ลักษณะการประกอบธุรกิจของ Zhejiang Saha-Union Feilun Thread Industries Co.,
Ltd. เป็นโรงงานย้อมด้าย พร้อมบริหารงานให้มีความสามารถที่จะแข่งขันในอุตสาหกรรม ซึ่งการ
ลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเพื่อประโยชน์ต่อเนื่องกับธุรกิจสิ่งทอในประเทศไทยและขยายการตลาดใน
ประเทศจีนอีกส่วนหนึ่ง
นางสาวศรีวารินทร์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ
ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท ยูเนี่ยนเอ็นเนอร์ยี่ (ไชน่า) จำกัด (UE-CHA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ
บริษัท โดยที่ UE-CHA ได้มีการลงทุนในธุรกิจพลังงานในประเทศจีนจำนวน 10 โครงการและ
อื่นๆ เป็นจำนวนเงินลงทุนประมาณ 3,765 ล้านบาท
ปัจจุบัน UE-CHA มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบ
กับเงินลงทุน ดังนั้นบริษัทในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นของ UE-CHA จำนวน 99.99% จะเพิ่มทุนใน
UE-CHA จำนวน 3,200 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการของ UE-CHA เสนอให้เพิ่มทุนเพื่อจัด
โครงสร้างเงินลงทุนและจำนวนทุนจดทะเบียนให้เหมาะสม
ที่มา : น.ส.พ.กระแสหุ้น
'สหยูเนี่ยน' เดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศจีน เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน 'ยูเนี่ยน
เอ็นเนอร์ยี่ (ไชน่า)' มูลค่า 3.2 พันล้านบาท เพื่อลุยธุรกิจพลังงาน พร้อมร่วมทุน 2
บริษัทในจีนลุยธุรกิจปั่นด้ายและย้อมสีด้าย เพื่อผลประโยชน์ต่อเนื่องต่อธุรกิจสิ่งทอ
ในไทย
นางสาวศรีวารินทร์ จิระพรรคคณา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด
(มหาชน) หรือ SUC เปิดเผยว่า ที่ประชุมบริษัทมีมติอนุมัติให้เข้าทำสัญญาร่วมทุนและลงทุนใน
Shanghai Saha-Union Spinning Mill No. 7 Co., Ltd. (SUSM 7) ซึ่งจะจัดตั้งบริษัทที่
นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ถือหุ้นฝ่ายจีนที่ไม่มี
ความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัทฯ ในสัดส่วนการถือหุ้นของฝ่ายจีน 5% และฝ่ายไทย 50% โดยฝ่าย
ไทยเป็นการลงทุนของบริษัทฯประมาณ 18% และบริษัทย่อยชื่อ Saha-Union Investment
(China) Co., Ltd. ที่บริษัทถือหุ้น100% อีก 32%
ทั้งนี้ บริษัท SUSM 7 มี ทุนจดทะเบียน RMB 128 ล้าน เป็นเงินลงทุนของฝ่ายไทย
รวม RMB 64 ล้าน หรือประมาณ 345.6 ล้านบาท โดยมีลักษณะการประกอบธุรกิจเป็นโรงงาน
ปั่นด้าย และเป็นที่ยอมรับของตลาด และ บริษัทฯจะส่ง เงินลงทุนไปภายใน 90 วัน นับแต่ได้รับใบ
อนุญาตให้ประกอบธุรกิจ โดยแหล่งเงินทุนได้จากเงินทุนหมุนเวียนส่วนหนึ่งและจากการกู้ยืมกับ
สถาบันการเงินอีกส่วนหนึ่ง ทั้งนี้การลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเพื่อ ผลประโยชน์ต่อเนื่องกับธุรกิจ
สิ่งทอในประเทศไทย และขยายตลาดในประเทศจีนอีกทางหนึ่ง
ขณะเดียวกัน บริษัทก็ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าทำสัญญาร่วมทุนและลงทุนใน
Zhejiang Saha-Union Feilun Thread Industries Co., Ltd. ซึ่งมีที่อยู่ ในมณฑล
Zhejiang เมือง Jiashan ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ถือหุ้นฝ่าย
จีนที่ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัทฯ สัดส่วนการถือหุ้นของฝ่ายจีนเป็น 18% หรือ 7.2 แสน
เหรียญสหรัฐอเมริกา ส่วนบริษัทฯถือหุ้นสัดส่วน 37% หรือ US$ 1.48 ล้าน บริษัท ยูเนี่ยนเอ็น
เนอร์ยี่ (ฮ่องกง) จำกัด ถือหุ้นสัดส่วน 30% และ Saha-Union Investment (China) Co.,
Ltd.ถือหุ้นสัดส่วน 15% หรือ US$ 6 แสน รวมเป็นสัดส่วนของผู้ถือหุ้นฝ่ายไทย 82% US$
3.28 ล้าน หรือประมาณ 135.267 ล้านบาท
โดยบริษัทจะใช้บริษัทย่อยชื่อ Zhejiang Saha-Union Thread Industry Co.,
Ltd. (SUI) ซึ่งยังมิได้ประกอบกิจการ แต่ได้จดทะเบียนในมณฑล Zhejiang แล้ว และมีการ
ชำระทุนจดทะเบียนของฝ่ายไทยไปแล้วบางส่วนเป็นเงิน US$ 2.8 ล้าน มาดำเนินการเปลี่ยนชื่อ
เป็น Zhejiang Saha-Union Feilun Thread Industries Co., Ltd.และขายหุ้นในบริษัท
SUI ให้กับผู้ถือหุ้นฝ่ายจีน 18% ดังกล่าว โดยบริษัทร่วมทุนจะมีทุนจดทะเบียน US$ 4 ล้าน ทั้ง
นี้ลักษณะการประกอบธุรกิจของ Zhejiang Saha-Union Feilun Thread Industries Co.,
Ltd. เป็นโรงงานย้อมด้าย พร้อมบริหารงานให้มีความสามารถที่จะแข่งขันในอุตสาหกรรม ซึ่งการ
ลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเพื่อประโยชน์ต่อเนื่องกับธุรกิจสิ่งทอในประเทศไทยและขยายการตลาดใน
ประเทศจีนอีกส่วนหนึ่ง
นางสาวศรีวารินทร์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ
ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท ยูเนี่ยนเอ็นเนอร์ยี่ (ไชน่า) จำกัด (UE-CHA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ
บริษัท โดยที่ UE-CHA ได้มีการลงทุนในธุรกิจพลังงานในประเทศจีนจำนวน 10 โครงการและ
อื่นๆ เป็นจำนวนเงินลงทุนประมาณ 3,765 ล้านบาท
ปัจจุบัน UE-CHA มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบ
กับเงินลงทุน ดังนั้นบริษัทในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นของ UE-CHA จำนวน 99.99% จะเพิ่มทุนใน
UE-CHA จำนวน 3,200 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการของ UE-CHA เสนอให้เพิ่มทุนเพื่อจัด
โครงสร้างเงินลงทุนและจำนวนทุนจดทะเบียนให้เหมาะสม
ที่มา : น.ส.พ.กระแสหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 24
ทำไมไปลงทุนที่จีนอย่างเดียวล่ะ
เห็นตัวอื่นๆๆไปที่เวียดนาม
แต่ตัวนี้ลงทุนที่จีน
แล้วสิ่งที่ไปลงทุนจีนไม่ใช่เล็กๆๆ
โรงไฟฟ้าแบบนี้ โรงงานเสื้อผ้าแบบนี้
เอ๋น่าแปลกไหม ว่าโรงไฟฟ้าที่จีนตั้งกันง่ายๆที่ไหน
แล้วโรงไฟฟ้าที่เมืองไทยที่แถวโรงไฟฟ้าราชบุรีอีก
แต่ตัวนี้มีขายให้ต่างชาติไปปีที่แล้ว (กำไรมากเชียว ทำให้ไม่ชอบ)
เรื่องแปลกกๆๆของตัวนี้
เห็นตัวอื่นๆๆไปที่เวียดนาม
แต่ตัวนี้ลงทุนที่จีน
แล้วสิ่งที่ไปลงทุนจีนไม่ใช่เล็กๆๆ
โรงไฟฟ้าแบบนี้ โรงงานเสื้อผ้าแบบนี้
เอ๋น่าแปลกไหม ว่าโรงไฟฟ้าที่จีนตั้งกันง่ายๆที่ไหน
แล้วโรงไฟฟ้าที่เมืองไทยที่แถวโรงไฟฟ้าราชบุรีอีก
แต่ตัวนี้มีขายให้ต่างชาติไปปีที่แล้ว (กำไรมากเชียว ทำให้ไม่ชอบ)
เรื่องแปลกกๆๆของตัวนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 28
มาให้คิดต่อว่า
กิจการที่ทำ
มีเสื้อผ้า รองเท้า (อันนี้เป็นพวกแฟชั่น)
อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์พวกแขนhdd (เป็นอิเล็กโทรนิค)
ขายไฟฟ้า อันนี้เกี่ยวกับพลังงาน
โรงเรียน เกี่ยวกับการศึกษา
ทำกำไรแบบนี้โดยที่ไม่เพิ่มทุน ไม่ออกwarrent
มันทำได้ถือว่าสุดยอด ขนาดเจ้าปูนใหญ่ยังทำไม่ได้
แต่ตัวนี้มันทำได้
แปลกจริงๆ ของนับถือ
เพราะพวกหลักการลงทุนจะมีคำถามว่า
ลงทุนในธุรกิจที่ไม่ถนัด จะทำให้เกิดปัญหาได้
แต่ตัวนี้กลับเป็นผลดี น่าคิดว่า มันทำได้ไง
น่าศึกษาเป็นกรณีศึกษาไว้ครับ
กิจการที่ทำ
มีเสื้อผ้า รองเท้า (อันนี้เป็นพวกแฟชั่น)
อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์พวกแขนhdd (เป็นอิเล็กโทรนิค)
ขายไฟฟ้า อันนี้เกี่ยวกับพลังงาน
โรงเรียน เกี่ยวกับการศึกษา
ทำกำไรแบบนี้โดยที่ไม่เพิ่มทุน ไม่ออกwarrent
มันทำได้ถือว่าสุดยอด ขนาดเจ้าปูนใหญ่ยังทำไม่ได้
แต่ตัวนี้มันทำได้
แปลกจริงๆ ของนับถือ
เพราะพวกหลักการลงทุนจะมีคำถามว่า
ลงทุนในธุรกิจที่ไม่ถนัด จะทำให้เกิดปัญหาได้
แต่ตัวนี้กลับเป็นผลดี น่าคิดว่า มันทำได้ไง
น่าศึกษาเป็นกรณีศึกษาไว้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 29
ผมเดาว่า ต้นทุนการเงิน ถ้ากู้ในจีนได้จะต่ำหรือเปล่า
แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเขากู้ในจีนลงทุนหรือเปล่าฮิ
เพราะจีนจะเน้น ดอกเบี้ยฝากต่ำภายในประเทศ
เขานะ เพื่อให้ประชากร ใช้จ่ายมากขึ้น
เห็นว่า จะเน้นการบริโภคให้สมดุลกับการผลิต
สินค้าภายในประเทศ
ถ้าสำเร็จ สินค้าจากจีน จะมีราคาแพงขึ้น
การใช้พลังงานจะสูงขึ้น การเติบโต ทุกแขนง
จะโตขึ้นเป็น เท่า เลยคับ
อืม แล้ว ใครจะเข้าไปได้ประโยชน์ตรงนีได้บ้างละคับ
แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเขากู้ในจีนลงทุนหรือเปล่าฮิ
เพราะจีนจะเน้น ดอกเบี้ยฝากต่ำภายในประเทศ
เขานะ เพื่อให้ประชากร ใช้จ่ายมากขึ้น
เห็นว่า จะเน้นการบริโภคให้สมดุลกับการผลิต
สินค้าภายในประเทศ
ถ้าสำเร็จ สินค้าจากจีน จะมีราคาแพงขึ้น
การใช้พลังงานจะสูงขึ้น การเติบโต ทุกแขนง
จะโตขึ้นเป็น เท่า เลยคับ
อืม แล้ว ใครจะเข้าไปได้ประโยชน์ตรงนีได้บ้างละคับ