"รอ..."

[pak]

ชีวิตของคนเรา...มักจะวนเวียนอยู่กับคำว่า "รอ"

[pak]

บทความเรื่อง : "ตกรถ" กับ "ไม่รู้จักรถ"
By pak

ถ้าเรารู้ใน 3 ข้อหลักๆ ว่า...
1) เราอยู่ที่ไหน?
2) และเราจะไปไหน?
3) และรถเมล์แต่ละคันมีเส้นทางการเดินทางอย่างไร?
ผมเชื่อว่าเราจะ "ไม่หลงทาง" ครับ!!!

ผมคือคนที่นั่งอยู่ "บนรถ" ครับ
และภาพที่ผมเห็นจนชินตา คือ...

"บางครั้ง...ผู้คนมากมายแย่งยื้อกันเพื่อจะขึ้นรถ
แต่บางครั้ง...รถกลับโล่ง โหรงเหรง แทบจะไร้ผู้คน
...ทั้งๆที่เป็นบนรถคันเดียวกันแท้ๆ!!!"

มีบ้างครับ...ที่ผมเห็นคน "รีๆรอๆด้อมๆมองๆ" จะขึ้นรถ...แต่ก็ไม่ขึ้น
เพราะเค้าไม่แน่ใจครับ ว่าปลายทางของรถที่ผมนั่งอยู่จะไปที่ใด?

มีบ้างครับ...ที่ผมเห็นคนขึ้นๆลงๆเปลี่ยนรถไปเรื่อยๆ
น่าจะเป็นเพราะ เค้าไม่มีข้อมูลมากพอเกี่ยวกับเส้นทางการเดินรถครับ ทำให้เค้าไม่มั่นใจ
ข้อมูลที่เค้าได้มาจากการถามคนแถวๆนั้น ก็ไม่เพียงพอจะทำให้เค้าเชื่อมั่นได้ครับ

แต่บนรถที่ผมนั่ง มันก็ไม่ได้มีแต่สิ่งที่ผมต้องการหรอกนะครับ
บางครั้งรถก็เสียบ้าง ยางแตกบ้าง ความร้อนขึ้นสูงบ้าง
...ก็ต้องซ่อมกันไปตามเรื่องตามราวครับ แต่ผมก็ยังคงนั่งอยู่ "บนรถ" คันนั้น
เพราะผมยังมีปลายทางในใจของผม และผมเชื่อว่ารถคันนี้กำลังจะวิ่งไปที่จุดๆนั้น

ผู้โดยสารหลายท่าน ขึ้นมาบนรถ เราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน แล้วก็จากกันไป
บางครั้งผมก็รู้สึกว่าเพื่อนเยอะ บางครั้งก็รู้สึกเหงาๆนะ
แต่รถคันนี้ มัน "อิสระ" ครับ ใครจะขึ้นหรือลงที่ป้ายไหน...ก็ย่อมได้เสมอ

คำว่า "ตกรถ" สำหรับผมแล้ว...มันไม่ใช่ที่สิ่งน่ากลัวอะไรเลยครับ
หากเพียงเรารู้ว่า เราอยู่ที่ไหน? และเราจะไปไหน? และรถแต่ละคันมีเส้นทางอย่างไร?
อีกซักพัก รถคันหลังยังจะตามกันมาอีกเยอะแยะมากมายอยู่แล้วครับ

ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า "เราตกรถ"
ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า "เราอยู่บนรถ" หรือ "เรายังไม่ได้ขึ้นรถ"
ปัญหาที่แท้จริง คือ เรารู้จัก "รถแต่ละคัน" ดีเพียงพอหรือยัง?
...ก็เท่านั้นเองครับ


pak
(^_^)

[pak]

1.
ภาพที่ชินตา
มองดู
เข้าใจ

2.
อ่อนไหว สายลม
ฝนพรม แผ่วเบา
สายน้ำ วันเวลา

3.
มีอยู่ ได้มา จากไป
ความสุขคืออะไร
...ค้นหา

4.
ลุ่มหลง เบื่อหน่าย
ปล่อยวาง ว่างเปล่า
...กระซิบเบาๆอยู่ภายในหัวใจ

[pak]

ผมกำลังพยายามเขียนบทความที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งของผม เรื่อง "อลาดินกับตะเกียงวิเศษ" กับมุมมองเรื่องหุ้น Turnaround
...เร็วๆนี้ครับผม

[sirimethagul]

ไปให้สุดขอบฟ้า
จะไม่มองย้อนมา จะมุ่งไปให้ถึงดวงดาวที่ฝันใฝ่
ไม่ว่ามันจะใกล้จะไกลสุดขอบฟ้า
จะไม่มีใครมาหยุด หรือมีแรงมาฉุดเรา
ตราบใดที่เรานั้นไม่หยุดเรา
ต้องลองดู





ถ้าหากขอบฟ้าไม่มีจริง
ทุกสิ่งที่เราทิ้งไป มันจะคุ้มค่าไหมที่ต้องแลกด้วยความเชื่อเรา
ถ้าหากวันนั้นไม่ลองดู
วันนี้คงไม่รู้ว่าเราจะยืนอยู่ที่ได ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเสียดาย
ที่ไม่ได้ทำ

[pak]

Break My Target Already Krub!!!

=====================================
My Target : >1% of Listed Shares
Company List Share : 675,037,500 Share
My Portfolio : 7,000,100 Share (1.036% of Listed Shares)

=====================================

ขอบคุณคุณแม่คุณพ่อและเพื่อนๆนักลงทุนๆท่าน...ที่เป็นกำลังใจและร่วมแบ่งปันความรู้กันมาตลอด
ขอบคุณบริษัทฯ...ที่ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง
ขอบคุณผู้บริหารและพนักงานทุกท่าน...ที่ทำงานอย่างเต็มความสามารถ
ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับ..."ความฝัน, ความหวัง และศรัทธา"
ขอบคุณจริงๆครับ

[torpongpak]

น้องพลับโตเร็วมากเลยนะครับ

ผมขอดึงเพลงเก่าที่พี่เคยPost มาฟังนิดนึงครับ พอดีฟังเพลงด้านบนของไทเท+น้าเเอ้ดเเล้วต่อมความฝันมันเป่งอันนี้เป็นPostที่พี่ท่านนึงเคยบอกผมด้วยความห่วงใยถึงหุ้นที่ผมถืออยู่ เเต่ผมก็ตอบกลับพี่เค้าไปด้วยเพลงนี้...
เพราะหุ้นตัวนี้เป็นตัวเดียวที่ผมพอจะเข้าใจมันเมื่อเทียบกับหุ้นหลายร้อยตัวอื่นๆในตลาด ซึ่งก่อนหน้านั้นหุ้นตัวนี้ก็ทำกำไรให้ผมมาตลอดจากการปันผล, เเจกWarrantเเละการarbitrageหุ้นไปเป็นWarrant...

ตามมาช่วย...
บริษัทนี้ที่ผมไม่ลงทุนเพราะดูตัวเลขง่าย ๆ เลย ROA/ROE NPM ต่ำเตี้ยเกือบติดดินแน่ะ อาจจะดีสำหรับเจ้าของ หรือพนักงาน แต่คงไม่ดีสำหรับผู้ถือหุ้น ถ้ายังทำกำไรได้แบบนี้ ฝากธนาคารก็ได้พอ ๆ กันเลย

เอ่อคือ...ผมถือหุ้น...ประมาณ50%ของPortครับ
ผมอาจจะมี"ความเชื่อ"(ที่เกิดจากการวิเคราะห์อย่างดีเเล้ว) เกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ต่างจากพี่เเฮะ เเต่การคิดต่างทำให้โลกสวยงามครับ



และการShareความเห็นกันช่วยทำให้ผม "ไม่ประมาท" และที่สำคัญคือห้าม "รัก" หุ้นเหมือนเพลงนี้นะครับ



ขอบคุณพี่...มากครับ

...จากวันนั้นหุ้นตัวนี้ราคาก็ตกลงเรื่อยๆ หุ้นทำ New Low(ในรอบ 2 ปี)ใหม่ทุกวัน ผมติดลบสูงสุดราว -42% เเต่สิ่งที่ผมทำคือการลงทุนเหมือนเป็นเจ้าของบริษัท ผมซื้อมันเพิ่มทีละนิด(เเบบกลัวๆ กล้าๆ ) ในขณะที่เจ้าของบริษัทจริงๆ ตะบี้ตะบันซื้อเพิ่มตลอด
วันนี้หุ้นตัวนี้ของผมค่อยๆกลับมา ตอนนี้มัน +17% เเล้ว ดีใจมากที่มี"ความเชื่อ"สิ่งที่เราวิเคราะห์ มี"ความเชื่อ"ในสิ่งทีเราฝัน...

[sirimethagul]

อัจฉริยะ สร้างกันได้

[sirimethagul]

[torpongpak]

ฝากไว้หนึ่งเพลงครับ เข้ากับอารมณ์ตอนนี้เเละเข้ากับคำว่า"รอ"
ถึงเเม้ชีวิตจริงมันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะบินกลับมาหาเราอีกครั้ง...


เราทั้งคู่มักจะพูดกันว่า"อะไรที่เกิดขึ้นเเล้วย่อมดีที่สุดเสมอ"
Life Go On

[pak]

Credit : Tansit Nilsuwankosit

[pak]

แรงบันดาลใจ...สำคัญมากนะครับ

[ปรัชญา]

ดูบางข้อของยูทูป ดูไม่ทันไว้จะเข้ามาดูใหม่ ขอบคุณครับคุณpak

[pak]

สวัสดีปีใหม่ 2555 นะครับ
ขอให้ทุกๆมีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง และที่สำคัญ "ขอให้มีความสุขมากๆในการลงทุน" นะขอรับ

สำหรับปีหน้า 2555 ของผม
ผมจะใช้กลยุทธ์ "Doing nothing" ครับผม
เพราะผมเชื่อมั่นว่า "สิ่งที่เราควรทำ เราได้ทำไปหมดครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว"
ที่เหลือคือ ประหยัดและสะสมเงินมาลงทุนเพิ่มเท่านั้นเองครับ
ปี 2555 ผมตั้งให้เป็น "ปีแห่งความถูกต้อง(สำหรับตัวผมเอง)" โดยผมจะพยายามตั้งใจทำงานประจำให้ดีที่สุด ,เลิกหมกมุ่นเรื่องหุ้นหรือดูราคาหุ้นมากจนเกินไป และจะพยายามทำตนเองให้มีประโยชน์ต่อตัวเอง, ผู้อื่น และองค์กรให้มากที่สุดครับ

คนเราแตกต่างกันที่มุมมอง แต่ที่สุดแล้วทุกคนต่างไขว่คว้าและค้นหาสิ่งที่เรียกว่า "ความสุข"
แต่ความสุขของคนเราอาจแตกต่างกันไปในรูปแบบและมุมมอง
ในวินาทีเดียวกัน แต่แตกต่างสถานที่กัน เช่น...

ที่ "เซ็นทรัลเวิลด์"


ที่ "พัทยา"


ที่ "วัดศิริวราวาส"


pak


ปล.
1. ฝากไว้ครับ ที่ http://zenhabits.net/the-art-of-doing-nothing/
2. หุ้นที่ผมจะสะสมในปี 2555 คือ
ให้น้ำหนักมาก คือ PAE และ BLAND-W3
ให้น้ำหนักปานกลาง คือ NC , FOCUS , GBX , IEC
ให้น้ำหนักน้อย คือ N-PARK (ซื้อไว้ดูเล่นไม่กี่พันบาทอ่ะนะครับ 555+)
แค่อยากให้รู้ในฐานะ "เพื่อน" โดยมิได้มีความคาดหมายอยากให้ผู้อื่นซื้อตามแต่อย่างใด!!!
แค่ "รู้" ก็พอครับ ไม่ต้อง "เชื่อ" จ้า

สุดท้ายเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับทุกท่าน และสำหรับตัวผมเองด้วยนะขอรับ
v
v

[beegirl]

วันนี้นำเอาเพลงเก่าทำนองไพเราะมาฝากค่ะ มาฟังกันได้แล้วค่ะ พี่ๆทุกคน

[pak]

[pak]

พรรคพวกส่งจดหมายเวียนผ่านอีเมล์มาให้....บอกว่าเป็น “สูตรแห่งชีวิตประจำวัน”
ที่ควรจะส่งต่อไปให้คนที่เรารัก, ห่วงใยและต้องการให้เขาหรือเธอมีความสุขทั้งกายและใจ...ทำนองเดียวกันที่ชาวชีวจิตมีความห่วงหาอาทรต่อกันอย่างไม่ลดละ

เพื่อนเรียกสูตรนี้ว่าเป็น Lifebook หรือเป็น “ตำราแห่งชีวิต” ซึ่งเหมาะเจาะกับเนื้อหาและคำแนะนำที่น่าสนใจยิ่ง
ทั้งง่ายและตรงไปตรงมา, ใครจะทำก็ได้, ไม่ทำก็ได้, เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล, ไม่บังคับยัดเยียดกัน, ไม่ต่อว่าต่อขานกัน, แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นจะทำอะไรให้กับชีวิตของตนเอง, ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าส่งเสริมสนับสนุนสมควรจะให้กำลังใจแก่กันและกันอย่างยิ่ง

สูตรที่ว่านี้มีง่าย ๆ อย่างนี้

๑. ดื่มน้ำให้มาก
๒. กินอาหารเช้าเหมือนราชา, รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น, ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า, และกลาง ๆ ตอนเที่ยงและตกเย็นแล้ว, ทำตัวเป็นยาจก, ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแห??ะ)
๓. กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน, พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
๔. ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E...นั่นคือ energy หรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือตือร้น และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ
๕. หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
๖. เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง, อย่าเครียดกันนักเลย
๗. อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
๘. นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้
๙. นอนวันละ 7 ชั่วโมง
๑๐.เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที, แล้วแต่จะสะดวก, ไม่ต้องเครียดกับมัน, วันไหนไม่ได้เดิน, ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
๑๑.ระหว่างเดิน, อย่าลืมยิ้ม

นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ, หากทำเป็นกิจวัตร, ชีวิตก็จะแจ่มใส, แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียดด้วยการรู้สึกผิดถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลาของตนเอาไว้

วันนี้ทำไม่ได้, พรุ่งนี้ทำก็ได้

แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการผัดวันประกันพรุ่ง, ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน


สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้

๑. อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
๒. อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
๓. อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
๔. อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
๕. อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
๖. จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร


แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ?

๑. อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสัก หน่อย
๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด


และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้, ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้

๑. ทำสิ่งที่ควรทำ
๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่ารื่นรมย์, จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุก จากเตียง, แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย...get up, dress up and show up.
๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?

และสุดท้ายที่สำคัญที่สุด

" ส่งบทความที่ต่อไปให้คนที่คุณรักและห่วงหาอาทรด้วย... "


ที่มา : From Forward mail

[beegirl]

ฝากเพลงนี้ให้พี่ๆฟังค่ะ

[pak]

"fashion is my life"
v
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ"
v
มนุษย์จะหลงเหลือสิ่งใดให้เชื่อ หากปราศจากแล้วซึ่ง "ศรัทธา"
v
"ราคาหุ้นคือสิ่งที่คุณต้องกำหนดเอง หาใช่ให้ผู้อื่นหรือตลาดมาเป็นผู้กำหนดให้ไม่!!!"
v
"ทะเลแห่งความอยาก ไม่อาจถูกเติมเต็มได้ด้วยเพียง...การได้มา"

[เอก]

ชอบ “สูตรแห่งชีวิตประจำวัน” ของคุณ PAK มากครับอ่านแล้วรู้สึกได้แง่คิดดีครับ

[torpongpak]

ฝากเพลงนี้ให้พี่ๆฟังค่ะ

เพิ่งไปดูหนังเรื่องนี้มาครับ น่ารักดี เเต่ยังห่างชั้นกับ กวนมึนโฮ เยอะมาก ดูไปเหมือนอ่านการ์ตูนไป ฮาไปอีกเเบบครับ

[pak]

My New Project
ที่ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 6&start=38

^ ^

[pak]

"ศพ" กับ "คนขายพวงหรีด"...มันอยู่ที่คุณจะเลือกเป็นอะไร???

[pak]

Credit บทความ : นำมาจาก FW Mail ครับ
============================================

เมื่อ ใดที่เรายกระดับจิต
ให้อยู่เหนือการเปรียบเทียบได้
สิ่งที่ช่วยยกระดับคุณค่าแห่งจิตใจก็คือ
เราจะไม่มีความแตกต่าง
จากสิ่งรอบข้างที่มี
เราจะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
ด้วยความถูกต้องเหมาะสม


หาก เรารู้จักทบทวนความผิดพลาด
ของตัวเราและคนที่เรารักได้
ยอมรับที่จะแก้ไขสิ่งผิด
ให้กลับมาเป็นความถูกต้อง
ย่อมทำให้บรรยากาศของชีวิตดีขึ้นได้
อย่างน้อยเราก็ชื่อว่าได้เรียนรู้
ที่จะเป็นผู้ยอมรับในการแก้ไขตนเอง
ด้วยใจที่เปิดรับ


ไม่ ว่าเราจะหนีไปไกลแสนไกล
เที่ยวจนตัวเองอ่อนล้า
แสวงหาจนตัวเองคิดว่าพอเพียง
ทว่าสุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่กับ
ความรู้สึกเงียบเหงาของตัวเองอยู่ดี


ยิ่ง เรียนรู้...
ท่ามกลางความว่างเปล่าของชีวิต
มากเท่าใดสิ่งที่ค้นเจอ....
กลับเพิ่มความเข้าใจให้ชีวิตมากขึ้น
ทำให้รู้ว่าในความว่างเปล่าที่เรามองไม่เห็น
แท้จริงแล้วยังมีความสุขอิงแอบอยู่ในนั้น


ถ้า เปรียบดวงตะวันให้แสงสว่างแก่โลก
เพื่อให้มนุษย์ได้มองเห็น
และเรียนรู้ที่จะสร้างชีวิตได้แล้ว
ดวงตะวันในใจฉันคือปัญญา
อันเป็นแสงสว่างภายในจิตใจ
ก็ควรเป็นแสงสว่างนำทางให้คนเรา
ได้ก้าวไปสู้ความสุขที่ยั่งยืนถาวร


การ เห็นชีวิต
โดยมีเวลาเป็นครูสอนให้ฉลาดขึ้น
จึงเป็นสิ่งที่ราควรใส่ใจที่จะเรียนรู้
อย่างน้อยก็ชื่อว่าได้ทำให้วันเวลา
ที่เหลืออยู่ดำเนินไปอย่างปกติสุข
และก้าวไปสู้ความสุขนิรันดร์
ด้วยความเข้าใจ


ชีวิต ที่เติมเต็มความสุขอันแท้จริงได้นั้น
ต้องเป็นชีวิตที่ผ่านความทุกข์
และความเจ็บปวดด้วยความเข้าใจ
เป็นลักษณะของการไม่ถอย ไม่สู้ ไม่อยู่ ไม่หนี
แต่เป็นเพียงสักว่ารับรู้แล้วก็ปล่อยวาง
และไม่เข้าไปคลอเคลียกับอารมณ์ที่ผุดขึ้นมาในใจ

============================================

[pak]

[kanok891]

บางคนอาจจะชอบเก็บหุ้นให้ครบๆก่อนแล้วจึงมาโพสต์เชียร์ใน THAIVI
แต่ผมว่าการกระทำแบบนั้น "ไม่ค่อยมีศักดิ์ศรี" อ่ะนะครับ!!!
โดนใจผมมากเลยครับ...ท่าน

[pak]

ท่ามกลางความเงียบงันแห่งการรอคอย
ผ่านทั้งการชื่นชมและการดูถูก
ทุกอย่างบนโลกบ้างหลอกลวง บ้างจริงแท้
...แต่ทุกอย่างล้วนต้องรอการพิสูจน์

ในระยะสั้น...มันคือ เกมส์
แต่ในระยะยาว...มันคือ การลงทุน
ฉันเชื่อในใจอย่างนั้น

ความรู้อยู่ในหัวสมอง และความมั่งคั่งอยู่ในพอร์ตการลงทุน
ทั้งสองอย่างนี้...โจรปล้นเอาไปไม่ได้ครับ
(^_^)

[pak]

ไม่ใช่แค่อีก 1 เดือน...แต่มันคงมากกว่าอีก 1 ปี

และคงไม่มีพลังใดจะหยิบยื่นให้แก่ฉัน นอกจากฉันจะสร้างมันขึ้นมาเอง...ระหว่างการรอคอยที่ยาวนานนี้

[pak]

"หัวใจอยู่ที่ไหน?"

ถามตัวเองว่า..."วันนี้เราใช้พลังในตัวเราเต็มที่หรือยัง?"
ถามตัวเองว่า..."วันนี้เราใช้ศักยภาพของสมองเกินครึ่งหรือเปล่า?"
ผมเชื่อว่า เรามีความสามารถมากกว่าที่ตัวเราคิด
หากเพียงแต่ "เราขาดแรงบัลดาลใจ" เท่านั้น

"พลังในตัวเรา" มีมากมาย แต่ "พลังในหัวใจของเรา" มีมากมายกว่านั้น
ทุกวันนี้เราใช้พลังนั้นไปกับสิ่งไหน
...เราใช้ไปกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ หรือใช้เพื่อพัฒนาตัวของเราเองกันแน่?

จงปลุกความคิดขึ้นมาครับ ปลุกพลังความคิดด้านบวก
ทำตัวเองให้มีค่าต่อคนรอบข้าง สร้างรอยยิ้มให้คนที่เรารักและเพื่อนร่วมงาน และทำสังคมแห่งนี้ให้น่าอยู่
จงปรารถนาจะเป็นผู้ให้ มากกว่าจะเป็นผู้รับ

เราไม่ใช่แค่นักเล่นหุ้นที่มีความบนราคาที่วิ่งไปวิ่งมาอย่างไม่มีเหตุผล
แต่เราคือนักลงทุนทั้งด้านการเงิน, ความหวัง และความฝัน

วันนี้เราได้ทำเต็มที่กับสิ่งรอบตัวแล้วหรือยัง???
...วันนี้ผมถามตัวเองแบบนั้นนะครับ

[beegirl]