รุ้งกินน้ำ
- Crested Jay
- Verified User
- โพสต์: 253
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5432
คิดไม่ออกจริงๆ เพราะยอดที่ 3 ของปัจจุบัน มันสูงกว่ายอดที่ 1 และ 2 (ไม่เหมือนของเก่า) Pattern ดูเหมือนคล้ายกัน แต่แตกต่างกัน ขอเดามั่วๆว่าหมียังไม่มาตอนนี้ครับpor_jai เขียน: พี่เจย์ครับ
คนสุพรรณเขาว่า
คิดอะไรไม่ออกบอกจองชัย
แต่ถ้าหาอะไรไม่ได้ค่อยบอกบรรหารครับ
ปล. ผมไม่มีความรู้เรื่องการดูกราฟทางเทคนิคเลย แต่เล่นแบดพอใช้ได้ครับ
- Crested Jay
- Verified User
- โพสต์: 253
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5436
ขอบคุณครับpor_jai เขียน: ส่วนเรื่องแบดรู้สึกคอแห้งวันไหน
ก็เชิญมาหาเอ็มสปอร์ตจิบแก้คอแห้งได้แถวห้วยขวางครับ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5438
ตัวเบากระบี่ มันดูแล้วสวยงามครับ
แต่จริงๆแค่
ออกหมัดดีๆลมปราณแน่นๆ
ก็ท่องยุทธจักรได้แล้วครับ...รับรอง
พอดีพี่เจย์เขาถามเรื่องหมีมา
จะให้บรรยายพื้นฐานหมี
ก็ต้องอธิบายกันจนหลับไปข้างนึง
อธิบายด้วยตัวราคาเลย
ก็เร็วกว่า...
แต่จริงๆแค่
ออกหมัดดีๆลมปราณแน่นๆ
ก็ท่องยุทธจักรได้แล้วครับ...รับรอง
พอดีพี่เจย์เขาถามเรื่องหมีมา
จะให้บรรยายพื้นฐานหมี
ก็ต้องอธิบายกันจนหลับไปข้างนึง
อธิบายด้วยตัวราคาเลย
ก็เร็วกว่า...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5440
คิดถึงน้องๆที่เคยมางานจิบเบียร์คุยกัน
outliersนี่ก็เป็นคนนึงที่พี่ยังจำหน้าได้อยู่
เดี๋ยวนี้ยังไปงานของเวบอยู่หรือเปล่า
ได้หุ้นอะไรก็มาโพสบอกกันมั่ง
ไม่ค่อยมีหุ้นให้ลอก เหงามือเป็นยิ่งนัก...
ส่วนเรื่องตัวละคร
พี่ป้อมน่าจะเป็นพวกเฒ่าทารกซะละมากกว่าครับ
ส่วนที่ว่าตัวเองชอบตวนอื้อ กระบี่หกชีพจรนั้น
อันตรายมากนะครับ
แผ่พุ่งพลังออกมั่ง ไม่ออกมั่ง
ส่วนเหล็งฮู้ชงก็หน้าโง่ไป(ไม่)หน่อย
กินแต่อุดมคติ สุดโต่งไปหน่อย อยู่กับคนอื่นลำบาก
แนะนำว่าถ้าสนใจ
ต้องหาที่เรียนกราฟนะครับ
รับรองได้ฉวัดเฉวียนสมใจแน่...ฮ่า...
outliersนี่ก็เป็นคนนึงที่พี่ยังจำหน้าได้อยู่
เดี๋ยวนี้ยังไปงานของเวบอยู่หรือเปล่า
ได้หุ้นอะไรก็มาโพสบอกกันมั่ง
ไม่ค่อยมีหุ้นให้ลอก เหงามือเป็นยิ่งนัก...
ส่วนเรื่องตัวละคร
พี่ป้อมน่าจะเป็นพวกเฒ่าทารกซะละมากกว่าครับ
ส่วนที่ว่าตัวเองชอบตวนอื้อ กระบี่หกชีพจรนั้น
อันตรายมากนะครับ
แผ่พุ่งพลังออกมั่ง ไม่ออกมั่ง
ส่วนเหล็งฮู้ชงก็หน้าโง่ไป(ไม่)หน่อย
กินแต่อุดมคติ สุดโต่งไปหน่อย อยู่กับคนอื่นลำบาก
แนะนำว่าถ้าสนใจ
ต้องหาที่เรียนกราฟนะครับ
รับรองได้ฉวัดเฉวียนสมใจแน่...ฮ่า...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- Outliers
- Verified User
- โพสต์: 527
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5441
ผมก็ยังไปงานจิบเบียร์ตามปรกติครับ
แต่ Q นี้ สงสัยเจอข่าว VI ทมิฬ ทำให้งานล่ม
เซ็งสุดๆ ไปเลย เพราะได้ข่าวว่า Q นี้น่าจะได้เจอพี่โจด้วย
ปรกติผมก็คอยลอกพี่ป้อมนี่นา
หลังๆพี่ดันหายตัวไป ไม่ยอมไปงาน
เห็บฉลาม ก็เลยไม่ม่เหาฉลามให้เกาะเลย 55
ปล. ชอบตวนอื้อเพราะหนีได้ไวครับ มีท่าเท้าอะไรซักอย่าง
เหล็งฮู้ชงนี่ถึงขนาดหน้าโง่เลยเหรอครับ ผมว่ามันออกจะเท่ห์ดี นอกลู่นอกทางดี
งั้นคงต้องเป็นแบบอุ๊ยเสี่ยวป้อ เสียบแล้วหนี 55
แต่ Q นี้ สงสัยเจอข่าว VI ทมิฬ ทำให้งานล่ม
เซ็งสุดๆ ไปเลย เพราะได้ข่าวว่า Q นี้น่าจะได้เจอพี่โจด้วย
ปรกติผมก็คอยลอกพี่ป้อมนี่นา
หลังๆพี่ดันหายตัวไป ไม่ยอมไปงาน
เห็บฉลาม ก็เลยไม่ม่เหาฉลามให้เกาะเลย 55
ปล. ชอบตวนอื้อเพราะหนีได้ไวครับ มีท่าเท้าอะไรซักอย่าง
เหล็งฮู้ชงนี่ถึงขนาดหน้าโง่เลยเหรอครับ ผมว่ามันออกจะเท่ห์ดี นอกลู่นอกทางดี
งั้นคงต้องเป็นแบบอุ๊ยเสี่ยวป้อ เสียบแล้วหนี 55
The Miracle of 10,000 hrs
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5443
สวัสดีค่ะพี่ป้อม เวลาฝนฝึกดูจิตไปซักพัก ดูก็รู้ทันบ้าง รู้ไม่ทันบ้างpor_jai เขียน:แป๊คครับเรื่องไปเที่ยวนี่ผมก็ชอบนะ
เรียกว่าเดือนละครั้งเป็นต้องออกตจว.ไปดูโน่นกินนี่
แต่มีที่เที่ยวอยู่อีกทีนึงครับ
ไม่ต้องไปไหน
แต่ต้องหัดฝึกสติ
เหมือนหัดเล่นหุ้นหัดเล่นกีฬานี่แหละครับ
พอได้สติมาเป็นอุปกรณ์ดูใจได้แล้ว
ที่นี้ จะอยู่ที่ไหน
ก็อยู่กับกายกับใจตัวเองจริงไหมครับ
นั่งดูใจตัวเอง วิ่งไปวิ่งมา คิดโ่น่นฟุ้งนี่
บางทีมันก็สงบมีพลัง
เห็นสาวสวยราคะเกิด นั่งดูตัวราคะ มันทำงานยังไงหนอ
เล่นแบดแพ้เกิดโทสะ นั่งดูมัน เอ๋มันไม่ใช่เรานี่นา
ไปวิ่งต่างจังหวัด ถ้าดูแต่ลมหายใจ จิตก็ไปจับที่ปวดขาไม่ได้ วิ่งไปไหงสบ๊ายสบาย
ได้หุ้นดีใจ เสียหุ้นเสียใจ เสียความมั่นใจ ความมั่นใจนี่มันอะไรหนอ
อื่นๆอีกมากมาย
สำหรับผมก็ถือว่านี่เป็นการเที่ยวชนิดนึง
เพราะใจนี่เขาเก่งนะ เขาไม่ใช่ไปได้แค่ตจว. ตปท.
เขาเดินทางข้ามเวลา ไปมาได้ทุกหนแห่ง
เก่งเกินใครทั้งนั้น
ลองเที่ยวแบบนี้ดูมั่งไหมครับ
สนุกไปอีกแบบนึงเหมือนกัน
เห็นหลวงพ่อว่าแค่นี้ได้บุญมหาศาล
แนะ่ๆๆเห็นตัวโลภอยากได้บุญไหม...
แต่เรื่อง"ละ" ยังละไม่ได้เลยค่ะ
ฝนรู้สึกว่าตัวเองเป็นพวกถมใส่ตัวเองเท่าใหร่ก็ไม่พอ
จนวันนี้ มีเรื่องทำให้คิดได้ว่า
มีคนที่ยังเสียสละ ทำงานหนัก และ ลำบากกว่าฝนมากมาย
ชีวิตคนธรรมดาเงินเดือนหลักหมื่นว่าลำบาก
แต่ชีวิตคุณทหารใน 3 จว.ลำบากสุดๆ
ทำให้เรื่องหุ้น กลายเป็นเรื่องที่เล็กลงเรื่อยๆสำหรับชีวิตฝนเลย
แต่ถึงยังไง ฝนก็ยังโลภอยู่ดีค่ะ
พี่ป้อมมีวิธีละความโลภหรือกิเลสยังไงบ้างคะ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5444
เอาบทความที่ลุงฉโลกเขียมาฝากหมอฝน( คนเอามาให้ผมอ่านก็พี่ป้อมเอง 55 ) ..เรื่องโลภไม่โลภ นั้นเป็นเรื่องปกติที่มีอยู่ในทุกคน ขึ้นอยู่กับใครจะรู้เท่าทันมันก็เท่านั้นเอง
เรื่องไม่โกรธนี่ไม่ใช่ลุงไม่โกรธนะ โกรธ แต่ไม่โกรธ คืออย่างนี้ เจ้าความโกรธนี้มันก็เหมือนเปลวเทียนเวลาเราไหว้พระสวดมนต์ ลองดูเปลวเทียนซิ เปลวเทียนมันมีจริงๆหรือเปล่า ถ้ามีจริง เวลาเราดับเทียนแล้วเปลวเทียนมันหายไปไหน? มันไปอยู่ที่ห้องอื่นหรือเปล่า? เพราะถ้ามันมีจริงมันก็ต้องการที่อยู่ แต่ถ้าว่ามันไม่มีจริง เอานิ้วแหย่เข้าไปทำไมมันร้อน? ดังนั้น สภาพที่แท้จริงของเปลวเทียนนั้นเป็น สภาพที่เรียกว่า มีหรือไม่มี ไม่ได้ มันมี แต่มีเฉพาะเมื่อมีเหตุ เมื่อเหตุดับมันก็ดับ ไม่มีตัวตนที่แท้จริง ความโกรธก็มี แต่มีเฉพาะเมื่อมีเหตุ เมื่อเหตุดับมันก็ดับ ไม่มีตัวตนที่แท้จริง เหมือนเปลวเทียน ดูประหนึ่งว่ามีตัวตนจริง แต่ที่แท้มีจริงเพราะมีเหตุ ไม่ใช่มีจริงเพราะมีจริง
เมื่อจุดเทียนเราก็ว่าห้องพระสว่าง พอดับเทียนเราก็ว่าห้องพระนั้นมืด ตามความเป็นจริง ห้องพระไม่มืด ไม่สว่าง เปลวเทียนต่างหากที่สร้างความสว่าง ห้องไม่สว่าง ห้องก็อยู่เป็นห้องเฉยๆ จิตเราก็เหมือนกัน จิต ก็อยู่เฉยๆ ความโกรธมาเกิดที่จิตเพราะเหตุ เราก็ว่าจิตนี้โกรธ ความดีใจมาเกิดก็ว่าจิตนี้ดีใจ
เหมือนเรา นั่งอยู่ หมาเดินผ่าน ก็เพราะมีเหตุให้มันเดินผ่านเหตุใดเหตุหนึ่ง เราก็รู้ว่าหมาปรากฏขึ้นเพราะเหตุ เราไม่ต้อง Become หมา แมวเดินผ่าเราก็ไม่ต้อง become แมว จิตเราก็มีสติรู้อยู่เฉยๆ ความโกรธมาเกิดขึ้นต่อหน้าเราเพราะเหตุ เราก็ไม่ต้องไป become angry ความสุขมาเกิดเพราะเหตุเราก็ไม่ต้องไป become happy ความทุกข์มาเกิดเพราะเหตุเราก็ไม่ต้องไป become sad เพราะถ้าอะไรมาเกิดต่อหน้าเราแล้วเราต้อง become สิ่งนั้น มันก็เป็นคนบ้าเท่านั้นเอง อีกหน่อยหมาเดินผ่านก็ต้อง become หมา
ดัง นั้นเมื่อมีเหตุทำให้ความโกรธเกิดขึ้น ลุงก็เห็นว่าความโกรธเกิดขึ้น ซึ่งไม่แปลกอะไร ก็มันมีเหตุมันก็เกิดเป็นธรรมดา แต่เราไม่เป็นผู้โกรธ ไม่ Become angry เพราะรู้ว่า anger มันเกิดเพราะเหตุ เดี๋ยวมันก็แปรเปลี่ยนและดับไป เอาเป็นสรณะไม่ได้ เรามาพิจารณาทั้งความพอใจและความไม่พอใจที่มีเหตุทำให้เกิดขึ้นในจิตของเรา มันเหมือนกัน คือมันเกิดแล้วก็แปรไปแล้วก็ดับ หาตัวตนที่แท้จริงไม่มีเลย ทั้งความพอใจและความไม่พอใจมันเหมือนกันทุกประการ ก็สิ่งสองสิ่งเหมือนกันทุกประการ เมื่อมันหมุนเวียนกันมาเกิดต่อหน้าเรา เราก็มีสติรู้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องเลือก Bliss is Choiceless awareness
ทำ ให้เห็นว่า Becoming นี้ ก็คือ ภาวะ นั่นเอง คือเกิด ภาวะ เป็นโน่นเป็นนี่ ภาวะ ก็คือ ภพ เกิดมาจากการหลงผิดคิดว่ามีตัวตนที่ แท้จริงก็เลย become จึงสมกับคำของพระที่ว่า อุปปาทานปัจยาภพ เพราะอุปปาทานนี่เอง ไปตู่ว่าความโกรธนี้เป็นเรา ก็เลย become โกรธ เมื่อ become แล้ว ภพ ก็สร้างชาติ คือสร้าง ผู้โกรธ เมื่อมีชาติ คือมี ผู้โกรธ ก็มีทุกข์ตามมาเป็นธรรมดา ถ้าเรามีสติ มีปัญญา เราก็รู้ทันเจ้า becoming process ตัวนี้เสีย หมาเดินผ่านก็อย่าไป become หมา ความโกรธเกิดขึ้น ก็เป็นเพียงความโกรธ อย่าไป become โกรธ คือความโกรธนั้นมีจริงแต่ไม่ใช่เรา ดังนั้นลุงถึงบอกว่า โกรธ แต่ไม่โกรธ แต่นี่เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ จะต้องสืบสาวขึ้นไปให้รู้ว่า เมื่อ becoming มันสร้าง ภพ อย่างนี้แล้ว อะไรหนอเป็นกำเนิดของ becoming ซึ่งเราเห็นแล้วว่าเป็นตัว อุปปาทาน นี่เอง เหตุเกิดของอุปปาทานก็มาจากตัณหา ความทะยานอยาก ตัณหานี้มีเหตุคือเวทนา และเวทนาก็มีเหตุมาจากผัสสะของอายัตนะ เจ้าสฬายัตนะก็มีเหตุมาจากนามรูป ซึ่งเกิดจากวิญญาณ ที่เกิดมีมาเพราะสังขาร อันมีเหตุเริ่มต้นคืออวิชชา ไม่รู้ตามความเป็นจริง เช่นไม่รู้ว่าอารมณ์ที่ปรารถนากับอารมณ์ที่ไม่ปรารถนาก็เกิดเช่นเดียวกัน เมื่อมีเหตุ แปรเปลี่ยนและดับไปเหมือนกันทุกประการ ก็สิ่งสองสิ่งเหมือนกันทุกประการ เมื่อมันหมุนเวียนกันมาเกิดต่อหน้า เรา เราก็มีสติรู้อยู่เฉยๆ Choiceless awareness ไม่ต้องไป become ทางใดทางหนึ่ง เมื่อตัด becoming process ได้ก็ตัดภพตัดชาติ มีความโกรธ แต่ไม่มีเจ้าของ
เรื่องไม่โกรธนี่ไม่ใช่ลุงไม่โกรธนะ โกรธ แต่ไม่โกรธ คืออย่างนี้ เจ้าความโกรธนี้มันก็เหมือนเปลวเทียนเวลาเราไหว้พระสวดมนต์ ลองดูเปลวเทียนซิ เปลวเทียนมันมีจริงๆหรือเปล่า ถ้ามีจริง เวลาเราดับเทียนแล้วเปลวเทียนมันหายไปไหน? มันไปอยู่ที่ห้องอื่นหรือเปล่า? เพราะถ้ามันมีจริงมันก็ต้องการที่อยู่ แต่ถ้าว่ามันไม่มีจริง เอานิ้วแหย่เข้าไปทำไมมันร้อน? ดังนั้น สภาพที่แท้จริงของเปลวเทียนนั้นเป็น สภาพที่เรียกว่า มีหรือไม่มี ไม่ได้ มันมี แต่มีเฉพาะเมื่อมีเหตุ เมื่อเหตุดับมันก็ดับ ไม่มีตัวตนที่แท้จริง ความโกรธก็มี แต่มีเฉพาะเมื่อมีเหตุ เมื่อเหตุดับมันก็ดับ ไม่มีตัวตนที่แท้จริง เหมือนเปลวเทียน ดูประหนึ่งว่ามีตัวตนจริง แต่ที่แท้มีจริงเพราะมีเหตุ ไม่ใช่มีจริงเพราะมีจริง
เมื่อจุดเทียนเราก็ว่าห้องพระสว่าง พอดับเทียนเราก็ว่าห้องพระนั้นมืด ตามความเป็นจริง ห้องพระไม่มืด ไม่สว่าง เปลวเทียนต่างหากที่สร้างความสว่าง ห้องไม่สว่าง ห้องก็อยู่เป็นห้องเฉยๆ จิตเราก็เหมือนกัน จิต ก็อยู่เฉยๆ ความโกรธมาเกิดที่จิตเพราะเหตุ เราก็ว่าจิตนี้โกรธ ความดีใจมาเกิดก็ว่าจิตนี้ดีใจ
เหมือนเรา นั่งอยู่ หมาเดินผ่าน ก็เพราะมีเหตุให้มันเดินผ่านเหตุใดเหตุหนึ่ง เราก็รู้ว่าหมาปรากฏขึ้นเพราะเหตุ เราไม่ต้อง Become หมา แมวเดินผ่าเราก็ไม่ต้อง become แมว จิตเราก็มีสติรู้อยู่เฉยๆ ความโกรธมาเกิดขึ้นต่อหน้าเราเพราะเหตุ เราก็ไม่ต้องไป become angry ความสุขมาเกิดเพราะเหตุเราก็ไม่ต้องไป become happy ความทุกข์มาเกิดเพราะเหตุเราก็ไม่ต้องไป become sad เพราะถ้าอะไรมาเกิดต่อหน้าเราแล้วเราต้อง become สิ่งนั้น มันก็เป็นคนบ้าเท่านั้นเอง อีกหน่อยหมาเดินผ่านก็ต้อง become หมา
ดัง นั้นเมื่อมีเหตุทำให้ความโกรธเกิดขึ้น ลุงก็เห็นว่าความโกรธเกิดขึ้น ซึ่งไม่แปลกอะไร ก็มันมีเหตุมันก็เกิดเป็นธรรมดา แต่เราไม่เป็นผู้โกรธ ไม่ Become angry เพราะรู้ว่า anger มันเกิดเพราะเหตุ เดี๋ยวมันก็แปรเปลี่ยนและดับไป เอาเป็นสรณะไม่ได้ เรามาพิจารณาทั้งความพอใจและความไม่พอใจที่มีเหตุทำให้เกิดขึ้นในจิตของเรา มันเหมือนกัน คือมันเกิดแล้วก็แปรไปแล้วก็ดับ หาตัวตนที่แท้จริงไม่มีเลย ทั้งความพอใจและความไม่พอใจมันเหมือนกันทุกประการ ก็สิ่งสองสิ่งเหมือนกันทุกประการ เมื่อมันหมุนเวียนกันมาเกิดต่อหน้าเรา เราก็มีสติรู้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องเลือก Bliss is Choiceless awareness
ทำ ให้เห็นว่า Becoming นี้ ก็คือ ภาวะ นั่นเอง คือเกิด ภาวะ เป็นโน่นเป็นนี่ ภาวะ ก็คือ ภพ เกิดมาจากการหลงผิดคิดว่ามีตัวตนที่ แท้จริงก็เลย become จึงสมกับคำของพระที่ว่า อุปปาทานปัจยาภพ เพราะอุปปาทานนี่เอง ไปตู่ว่าความโกรธนี้เป็นเรา ก็เลย become โกรธ เมื่อ become แล้ว ภพ ก็สร้างชาติ คือสร้าง ผู้โกรธ เมื่อมีชาติ คือมี ผู้โกรธ ก็มีทุกข์ตามมาเป็นธรรมดา ถ้าเรามีสติ มีปัญญา เราก็รู้ทันเจ้า becoming process ตัวนี้เสีย หมาเดินผ่านก็อย่าไป become หมา ความโกรธเกิดขึ้น ก็เป็นเพียงความโกรธ อย่าไป become โกรธ คือความโกรธนั้นมีจริงแต่ไม่ใช่เรา ดังนั้นลุงถึงบอกว่า โกรธ แต่ไม่โกรธ แต่นี่เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ จะต้องสืบสาวขึ้นไปให้รู้ว่า เมื่อ becoming มันสร้าง ภพ อย่างนี้แล้ว อะไรหนอเป็นกำเนิดของ becoming ซึ่งเราเห็นแล้วว่าเป็นตัว อุปปาทาน นี่เอง เหตุเกิดของอุปปาทานก็มาจากตัณหา ความทะยานอยาก ตัณหานี้มีเหตุคือเวทนา และเวทนาก็มีเหตุมาจากผัสสะของอายัตนะ เจ้าสฬายัตนะก็มีเหตุมาจากนามรูป ซึ่งเกิดจากวิญญาณ ที่เกิดมีมาเพราะสังขาร อันมีเหตุเริ่มต้นคืออวิชชา ไม่รู้ตามความเป็นจริง เช่นไม่รู้ว่าอารมณ์ที่ปรารถนากับอารมณ์ที่ไม่ปรารถนาก็เกิดเช่นเดียวกัน เมื่อมีเหตุ แปรเปลี่ยนและดับไปเหมือนกันทุกประการ ก็สิ่งสองสิ่งเหมือนกันทุกประการ เมื่อมันหมุนเวียนกันมาเกิดต่อหน้า เรา เราก็มีสติรู้อยู่เฉยๆ Choiceless awareness ไม่ต้องไป become ทางใดทางหนึ่ง เมื่อตัด becoming process ได้ก็ตัดภพตัดชาติ มีความโกรธ แต่ไม่มีเจ้าของ
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5446
ท่าเท้าท่องคลื่นครับOutliers เขียน: ปล. ชอบตวนอื้อเพราะหนีได้ไวครับ มีท่าเท้าอะไรซักอย่าง
เรื่องมีตติ้งที่งดไปช่วงนี้ ก็น่าเสียดายอ่ะ ผมก็อยากเจอพี่โจเหมือนกัน
พี่พอใจมีกราฟไรดีๆ ก็แปะต่อนะครับ รอชม
You only live once, but if you do it right, once is enough.
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5447
ขออนุญาตออกความเห็นเรื่องการลดละกิเลส
สติที่เจริญขึ้นอย่างดีแล้วจะทำให้เราเห็นกระบวนการการเกิดของทุกข์อย่างชัดเจน ตั้งแต่กระบวนการรับรู้ไปจนถึงการปรุงแต่งกลายเป็นความชอบใจไม่ชอบใจ การดึงความทรงจำต่างๆ ขึ้นมาปรุงแต่ง โดยเฉพาะการยึดมั่นถือมั่นใจในเรื่องบางเรื่อง ปรุงแต่งจนกลายเป็นทุกข์ เมื่อเราได้เจริญสติยิ่งก้าวหน้าขึ้นมาเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเห็นและเข้าใจทุกข์มากเท่านั้น เมื่อเห็นทุกข์ จิตก็จะเหนื่อยหน่ายอยากละวางทุกข์ทีละน้อยๆ ก็จะยิ่งเห็นความสำคัญของการเจริญสติเป็นหนทางในการดับทุกข์
เมื่อสติเจริญขึ้นอย่างดี เมื่อพบสิ่งหรืออารมณ์ที่ดี ที่สุข ที่ปราณีต ก็จะไม่เกิดความชอบใจถูกใจมากเกินไป ก็จะไม่เป็นเหตุให้ยึดติดในสุข ซึ่งจะเป็นเหตุแห่งทุกข์ในอนาคต
เมื่อพบกับสิ่งหรืออารมณ์ที่ไม่ดี ที่ทุกข์ ที่หยาบกระด้าง ก็จะไม่เกิดความไม่ชอบใจ ไม่เกิดความหงุดหงิดรำคาญใจ จนกลายเป็นความโกรธความพยาบาท ใจก็จะไม่ทุกข์แม้จนพบกับสภาวะทุกข์
เมื่อสติเจริญขึ้นสมบูรณ์ เราก็จะเข้าใจว่าสภาวะ อารมณ์ที่เกิดขึ้นในใจ ก็สักแต่เป็นสภาวะ เป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์ จึงทำให้การรับรู้ก็สักแต่รับรู้ ไม่ถูกเสริมอารมณ์ด้วยกิเลส จึงเหลือแค่การกระทำไปตามเหตุปัจจัยที่เหมาะสม และทำให้เราค่อยๆ ควบคุมกิเลสได้มากขึ้นเรื่อยๆ และหากวันนึงปัญญาเราแก่กล้ามากเพียงพอก็จะไถ่ถอนละกิเลสไปได้
ส่วนเรื่องการลดความโลภ นี่ควรเริ่มจากการทำทานเพื่อลดความตระหนี่ มีความคิดในขณะทำทานว่า เงินทองทรัพย์สินเหล่านี้ไม่ใช่ของเราอย่าชแท้จริง เมื่อเราตายก็เอาไปด้วยไม่ได้ ดังนั้นขณะมีชีวิตอยู่หากมันสามารถนำไปสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่นได้มากกว่า ก็ควรแบ่งมาทำทานเสียบ้าง
สติที่เจริญขึ้นอย่างดีแล้วจะทำให้เราเห็นกระบวนการการเกิดของทุกข์อย่างชัดเจน ตั้งแต่กระบวนการรับรู้ไปจนถึงการปรุงแต่งกลายเป็นความชอบใจไม่ชอบใจ การดึงความทรงจำต่างๆ ขึ้นมาปรุงแต่ง โดยเฉพาะการยึดมั่นถือมั่นใจในเรื่องบางเรื่อง ปรุงแต่งจนกลายเป็นทุกข์ เมื่อเราได้เจริญสติยิ่งก้าวหน้าขึ้นมาเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเห็นและเข้าใจทุกข์มากเท่านั้น เมื่อเห็นทุกข์ จิตก็จะเหนื่อยหน่ายอยากละวางทุกข์ทีละน้อยๆ ก็จะยิ่งเห็นความสำคัญของการเจริญสติเป็นหนทางในการดับทุกข์
เมื่อสติเจริญขึ้นอย่างดี เมื่อพบสิ่งหรืออารมณ์ที่ดี ที่สุข ที่ปราณีต ก็จะไม่เกิดความชอบใจถูกใจมากเกินไป ก็จะไม่เป็นเหตุให้ยึดติดในสุข ซึ่งจะเป็นเหตุแห่งทุกข์ในอนาคต
เมื่อพบกับสิ่งหรืออารมณ์ที่ไม่ดี ที่ทุกข์ ที่หยาบกระด้าง ก็จะไม่เกิดความไม่ชอบใจ ไม่เกิดความหงุดหงิดรำคาญใจ จนกลายเป็นความโกรธความพยาบาท ใจก็จะไม่ทุกข์แม้จนพบกับสภาวะทุกข์
เมื่อสติเจริญขึ้นสมบูรณ์ เราก็จะเข้าใจว่าสภาวะ อารมณ์ที่เกิดขึ้นในใจ ก็สักแต่เป็นสภาวะ เป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์ จึงทำให้การรับรู้ก็สักแต่รับรู้ ไม่ถูกเสริมอารมณ์ด้วยกิเลส จึงเหลือแค่การกระทำไปตามเหตุปัจจัยที่เหมาะสม และทำให้เราค่อยๆ ควบคุมกิเลสได้มากขึ้นเรื่อยๆ และหากวันนึงปัญญาเราแก่กล้ามากเพียงพอก็จะไถ่ถอนละกิเลสไปได้
ส่วนเรื่องการลดความโลภ นี่ควรเริ่มจากการทำทานเพื่อลดความตระหนี่ มีความคิดในขณะทำทานว่า เงินทองทรัพย์สินเหล่านี้ไม่ใช่ของเราอย่าชแท้จริง เมื่อเราตายก็เอาไปด้วยไม่ได้ ดังนั้นขณะมีชีวิตอยู่หากมันสามารถนำไปสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่นได้มากกว่า ก็ควรแบ่งมาทำทานเสียบ้าง
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5448
พี่ picatos มีวิธีทำทานแค่ไหนครับ ถึงจะลดความตระหนี่ และความ โลภในใจเรา
ต้องตั้งว่ากี่%ของรายได้ครับ เพราะบางครั้งหรือหลายครั้งที่เราทำทาน
ทำนิดเดียว สบายใจหน่อยนึงเงินยังเหลืออยู่ในกระเป๋าเราอีกเยอะ
น้อยครั้งน่ะครับที่ทำหมดกระเป๋าในจำนวนมากๆ
ยิ่งเศรษฐียิ่งทำน้อย% มากกว่าที่ตัวมี
ต้องตั้งว่ากี่%ของรายได้ครับ เพราะบางครั้งหรือหลายครั้งที่เราทำทาน
ทำนิดเดียว สบายใจหน่อยนึงเงินยังเหลืออยู่ในกระเป๋าเราอีกเยอะ
น้อยครั้งน่ะครับที่ทำหมดกระเป๋าในจำนวนมากๆ
ยิ่งเศรษฐียิ่งทำน้อย% มากกว่าที่ตัวมี
สงบสยบการเคลื่อนไหว
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5449
ผมคิดว่า...การทำทานเพื่อลดความตระหนี่ได้ คือ การทำทานที่ประกอบด้วยปัญญา ไม่ใช่ทำด้วยความงมงาย ด้วยความโลภ หรือทำเพื่อเอาหน้าเอาตาทางสังคมavatar2009 เขียน:พี่ picatos มีวิธีทำทานแค่ไหนครับ ถึงจะลดความตระหนี่ และความ โลภในใจเรา
ต้องตั้งว่ากี่%ของรายได้ครับ เพราะบางครั้งหรือหลายครั้งที่เราทำทาน
ทำนิดเดียว สบายใจหน่อยนึงเงินยังเหลืออยู่ในกระเป๋าเราอีกเยอะ
น้อยครั้งน่ะครับที่ทำหมดกระเป๋าในจำนวนมากๆ
ยิ่งเศรษฐียิ่งทำน้อย% มากกว่าที่ตัวมี
ทานที่ประกอบด้วยปัญญาในมุมมองของผม คือ ทานที่ทำด้วยจิตเจตนาที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและกรุณา กล่าวคือ ทำด้วยความรักต่อเพื่อนร่วมทุกข์ อยากจะให้เค้าพ้นจากความทุกข์ แบ่งปันสิ่งที่เรามีไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สมบัติ อวัยวะร่างกาย กำลังแรงกาย เวลา ความคิด ความเห็น คำพูดที่ดีๆ ตลอดไปจนถึงชีวิต ด้วยจิตที่ปรารถนาดีกับเพื่อนมนุษย์ และเห็นว่าสิ่งที่เรามีนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นของเรา เมื่อเราตายเราก็เอามันไปด้วยไม่ได้ และทำด้วยความหวังดีที่จะทำประโยชน์ต่อผู้อื่น โดยไม่เบียดเบียนตัวเอง ตามกำลังความสามารถตามความเหมาะสม
และเมื่อทุกครั้งที่เราทำทานด้วยความคิดเหล่านี้ ก็จะเป็นการย้ำกับตัวเองว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ของเราอย่างแท้จริง อยู่เรื่อยๆ... ใจของเราก็คลายความยึดมั่นถือมั่นว่าเราเป็นเจ้าของทรัพย์สินเหล่านั้นลง... ความตระหนี่ก็จะค่อยๆ ลดลง
สำหรับเรื่องทำทานเป็นกี่ % ของรายได้ หรือทรัพย์สินที่มีดี... ตามปกติ ผมจะทำทานเท่าที่ทำได้ตามโอกาสที่เอื้ออำนวย และตามความเหมาะสม มากกว่าการกำหนดเป็น % อันที่จริงแล้วการทำทานด้วยเงินเป็นแค่วิธีการหนึ่งของการทำทานเท่านั้น นอกจากทำทานด้วยเงินแล้วเรายังสามารถทำทานด้วยวิธีการอื่นๆ ได้ แถมยังได้บุญกุศลมากกว่าด้วย เช่น การบริจาคอวัยวะ บริจาคเลือด การลงมือลงแรงช่วยงานสาธารณะกุศล รวมไปถึงการให้ธรรมเป็นทาน เป็นต้น
ทั้งนี้ บุญกุศลที่เกิดขึ้น เกิดที่เจตนา... อย่างถ้าผมบริจาคเงินช่วยน้ำท่วม 5 พันบาท ผมกดคลิ๊กแค่ไม่กี่ที เงินโอนไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจตนาที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำเกิดขึ้นไม่กี่ขณะจิตก็จบสิ้นลง สู้ การเอาเงินไปซื้อข้าวของจำนวน 2-3 พันบาท เลือกสรรคิดว่าคนที่ทุกข์ยากต้องการอะไรที่จำเป็น ซื้อเสร็จขนไปบริจาคที่สภากาชาด หรือบางคนที่ไม่มีเงินแต่ลงมือลงแรงลงไปช่วยงานเค้าในการขนของ ไปช่วยคนที่ถูกภัยในท่วมในพื้นฐาน ลงไปลุยน้ำ แจกของ ผมเชื่อว่าอย่างหลังๆ จะได้กุศลมากกว่า เพราะ จิตเจตนาที่เป็นกุศลต้องเป็นเจตนาที่กล้าแข็ง ตั้งมั่นต่อเนื่องและยาวนานมากกว่า จึงจะทำได้สำเร็จ จึงมีกุศลมากกว่า เป็นต้น
สุดท้ายในการทำทาน ผมว่าเราอย่าไปเปรียบเทียบ หรือไปดูคนอื่นเลยครับว่าเค้าทำมากทำน้อยขนาดไหน... เพราะ แทนที่เราจะได้กุศลจากการทำทาน บางครั้งกลายเป็นว่าเรากลับได้อกุศลไปแทนซะ เพราะไปเป็นอิจฉาเค้าบ้าง ดูแคลนเค้าบ้าง ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วแต่ละคนก็ทำเหตุปัจจัยมาต่างกัน กำลัง ความเหมาะสม ณ ขณะหนึ่งๆ ก็แตกต่างกัน ซึ่งเราไม่มีทางรู้คนอื่นได้... ยิ่งไปดูคนอื่น ก็ยิ่งทำให้ใจเราเศร้าหมอง... ควรที่จะหันมาดูใจตัวเองรักษาให้ใจผ่องใสในทานนั้น ทั้งก่อนทำ ระหว่างทำ และหลังทำ จะเป็นประโยชน์กว่าครับ...
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5450
ขอบคุณพี่ RONNAPUM พี่ picatos สำหรับบทความดีๆและความคิดเห็นดีๆค่ะ
เรื่องความโลภ ฝนรู้สึกว่า ความโลภของตัวเอง เป็นกิเลสที่หยาบกระด้างค่ะ
ความโลภยังเป็นกิเลสที่ใช้ ตัวเอง เป็นที่ตั้ง ยังอยากได้อยากเป็น ในสิ่งที่เกี่ยวกับตัวฝนเอง
เมื่อ 2-3 วันก่อนมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ค่อนข้างทำให้ฝนค่อนข้างมองตัวเองใหม่
บางคนเค้าก็มีความโลภนะ อยากให้ประเทศสงบ อยากให้คนอื่นๆอยู่กันแบบสงบ
ฝนมาคิดๆดู ฝนยังมีความโลภที่หยาบกระด้างจังเลยค่ะ
เรื่องความโลภ ฝนรู้สึกว่า ความโลภของตัวเอง เป็นกิเลสที่หยาบกระด้างค่ะ
ความโลภยังเป็นกิเลสที่ใช้ ตัวเอง เป็นที่ตั้ง ยังอยากได้อยากเป็น ในสิ่งที่เกี่ยวกับตัวฝนเอง
เมื่อ 2-3 วันก่อนมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ค่อนข้างทำให้ฝนค่อนข้างมองตัวเองใหม่
บางคนเค้าก็มีความโลภนะ อยากให้ประเทศสงบ อยากให้คนอื่นๆอยู่กันแบบสงบ
ฝนมาคิดๆดู ฝนยังมีความโลภที่หยาบกระด้างจังเลยค่ะ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5453
วันนี้ไปโพสซีรี่ส์นี้ไว้ในfb
ก็เลยถือโอกาสนำมาฝากแฟนานุแฟนกระทู้นี้ด้วย ตอนมันขึ้น
เช้าวันที่5พค53
มันโดดทีนึง20กว่าจุด
ใครกล้าตามมั่ง ยกมือขึ้น...ฮ่า..
ตอนปี52
เฮียวิชัยหรือพี่ยักษ์ที่พวกเราบางคนพอรู้จัก ร้อยวันพันปีไม่เคยบอกให้ผมซื้อหุ้น แถวๆเมษา52 เฮียเขาโทรมาหาก่อนตลาดเปิดนิดนึงให้ผมซื้อบ้านปูเช้าวันจันทร์ เต็มพอร์ต ตอนนั้นราคาน่าจะซัก260บาทได้ ผมก็ว่ากรูรวยแล้ว เซียนกระบี่มือหนึ่งบอกเอง มีหรือจะพลาด
ปรากฏว่ามันเปิดโดด9บาทครับ ผมไม่กล้าเข้าครับ อูยยอะไรหว่าต้องซื้อแพงอีก9บาท อย่างนี้ก็แย่สิ ฮ่า...ไม่ง่ายเลยนะครับ หุ้นเปิดโดดแล้วจะให้เรากล้าตามเนี่ย...ไม่รู้โพสแก้ตัวหรือเปล่า
ก็เลยถือโอกาสนำมาฝากแฟนานุแฟนกระทู้นี้ด้วย ตอนมันขึ้น
เช้าวันที่5พค53
มันโดดทีนึง20กว่าจุด
ใครกล้าตามมั่ง ยกมือขึ้น...ฮ่า..
ตอนปี52
เฮียวิชัยหรือพี่ยักษ์ที่พวกเราบางคนพอรู้จัก ร้อยวันพันปีไม่เคยบอกให้ผมซื้อหุ้น แถวๆเมษา52 เฮียเขาโทรมาหาก่อนตลาดเปิดนิดนึงให้ผมซื้อบ้านปูเช้าวันจันทร์ เต็มพอร์ต ตอนนั้นราคาน่าจะซัก260บาทได้ ผมก็ว่ากรูรวยแล้ว เซียนกระบี่มือหนึ่งบอกเอง มีหรือจะพลาด
ปรากฏว่ามันเปิดโดด9บาทครับ ผมไม่กล้าเข้าครับ อูยยอะไรหว่าต้องซื้อแพงอีก9บาท อย่างนี้ก็แย่สิ ฮ่า...ไม่ง่ายเลยนะครับ หุ้นเปิดโดดแล้วจะให้เรากล้าตามเนี่ย...ไม่รู้โพสแก้ตัวหรือเปล่า
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5454
วันนั้นมันเปิดโดดจาก760กว่าจุดไปโน่นเกือบๆ800
คนเดิมที่ยังถืออยู่ก็คิดว่าตรูได้ตังแน่แล้ว
แถมยังมีผู้กล้าเข้าไปซื้ออีกบางส่วน
เปิดโดดอย่างนี้ รวยยยย...
ปรากฏว่ารวยเหมือนกันครับแต่เป็นรวย(แต่__...ติดเรทนะครับอยากรู้มาถามได้ที่คอร์ตแบด)
ดูมันทำสิครับ
มันตุ๊บลงไปต่ำกว่า760อีกเหลือแถวๆ747 แหมทำเป็นเครื่องโบอิ้งเชียวนะเมิง...
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5455
อ้อ...ยังมะได้ขอบคุณเจ้าของรูปประกอบเลยครับ
ขมายรูปของจารย์ปลานิลจิ๋ว ณ สินธร มาบรรยายครับ ชัดเจนแจ่มแจ๋วดี
ที่บรรยายมาในซีรี่ส์นี้ก็จำๆจากจารย์ปลามาทั้งนั้นเลย...ฮ่า...
เหตุการณ์ต่อมา
ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก
หุ้นถูกตุ๊บตบซ้ำลงไปเหลือแถว720โน่น
เรียกว่าตบให้แน่ใจว่าพวกเม่าอย่างเมิงต้องคายหุ้นออกมาแน่นอน
รอบนี้ขึ้นเป็นเทรนด์เกือบๆตรงแหน่วไปประมาณ100จุกเอ๊ยจุดครับ
มีแต่วีไอมือตุ๊กแก ทุนถูกจริง อึดชนิดมีถังดำน้ำ5ถังเท่านั้นที่จะฝ่าด่านอรหันต์นี้มาได้
ขมายรูปของจารย์ปลานิลจิ๋ว ณ สินธร มาบรรยายครับ ชัดเจนแจ่มแจ๋วดี
ที่บรรยายมาในซีรี่ส์นี้ก็จำๆจากจารย์ปลามาทั้งนั้นเลย...ฮ่า...
เหตุการณ์ต่อมา
ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก
หุ้นถูกตุ๊บตบซ้ำลงไปเหลือแถว720โน่น
เรียกว่าตบให้แน่ใจว่าพวกเม่าอย่างเมิงต้องคายหุ้นออกมาแน่นอน
รอบนี้ขึ้นเป็นเทรนด์เกือบๆตรงแหน่วไปประมาณ100จุกเอ๊ยจุดครับ
มีแต่วีไอมือตุ๊กแก ทุนถูกจริง อึดชนิดมีถังดำน้ำ5ถังเท่านั้นที่จะฝ่าด่านอรหันต์นี้มาได้
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5456
จาก820ดูรูปนี้แล้วจะได้หายสงสัยว่าวีไอระดับเซียนรวยมาได้อย่างไร
จาก820มันวิ่งขึ้น(เกือบจะ)ทางเดียวมาจนถึง980
อีก160จุก
รวมกับรูปที่แล้วอีก100เป็น260จุกเข้าให้แล้ว
มันมาพักเหนื่อยแถวๆ986ครับ ณวันนั้นแถวๆ28พย2010 ออกท่าทางลังเล เอาไงดีหว่า
จะว่าไปเลิกเล่นตรงนี้ก็รวยแล้วครับ จากรูปแรกที่ผมโพสดัชนีอยู่แถวๆ760 ผ่านมา7เดือนได้มา200กว่าจุดอย่างชิล ชิล...ฮ่า...(ที่จริงก็มีช่วงชิลกับช่วงไม่ิชิลบ้างเหมือนกัน)
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5457
อ้าวเอาหละ ไม่ขงไม่ขายมันละ
ไม่ได้ร้อนเงินนี่หว่า
แถมหุ้นก็แค่พักนิดหน่อย
มะได้เขย่าอะไรเลย
วิ่งอยู่ในแบนด์ให้เล่น ซื้อล่างขายบนด้วยซ้ำ
เอานะ...ทนถือต่อไปละกัน
ดูสิจะได้อะไรมา...ฮ่า...
ของเก่า260บวกอีก60เป็น320pointแล้วล่ะ
ไม่ได้ร้อนเงินนี่หว่า
แถมหุ้นก็แค่พักนิดหน่อย
มะได้เขย่าอะไรเลย
วิ่งอยู่ในแบนด์ให้เล่น ซื้อล่างขายบนด้วยซ้ำ
เอานะ...ทนถือต่อไปละกัน
ดูสิจะได้อะไรมา...ฮ่า...
ของเก่า260บวกอีก60เป็น320pointแล้วล่ะ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 5460
ที่แปลกคือบาทวันนั้น
วันที่หุ้นอยุ่แถว760นั่นแหละ
วันแถวๆที่หุ้นจะเปิดโดดออกไป
เดือน3ปี2010
อัตราแลกเปลี่ยนตรงกันกะวันนี้เลย
ผิดแผกแตกต่างกันที่วันนั้นหุ้นเป็นขาขึ้น
แต่หุ้นตอนนี้เป็นขาขึ้นมาก่ายหน้าผาก...ฮ่า...
วันที่หุ้นอยุ่แถว760นั่นแหละ
วันแถวๆที่หุ้นจะเปิดโดดออกไป
เดือน3ปี2010
อัตราแลกเปลี่ยนตรงกันกะวันนี้เลย
ผิดแผกแตกต่างกันที่วันนั้นหุ้นเป็นขาขึ้น
แต่หุ้นตอนนี้เป็นขาขึ้นมาก่ายหน้าผาก...ฮ่า...
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า