เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 260
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 32
คุณ ^^ ครับ พอดีผมไม่รู้น่ะสิครับ ว่า ที่หุ้นลงมันเป็น panic หรือ crisis น่ะครับ ไม่ทราบว่า คุณ ^^ ใช้ indicator อะไรในการพิจารณาครับ ว่าเป็น panic หรือ crisis ครับ เพราะถ้า crisis จริงๆ มันก็ลงทุกตัวไม่เว้นแม่แต้กลุ่มค้าปลีกอยู่ดีหนิครับ^^ เขียน:ต้มไม่ต้มไม่รู้ รู้แค่ว่ากบไม่อยู่ในหม้อก็ไม่โดนต้มแน่ๆครับ
จะอยู่ลุ้นว่าตัวเองจะตายหรือไม่ตายทำไม
ฉะนั้นกบควรจะอยู่ถูกที่ ที่ไม่ใช่ในหม้อ และไม่ใช่ในท้องงู
เมื่อใดเห็นทุกข์ เมื่อนั้นเห็นธรรม
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 33
ที่ผ่านมามีแต่คนบ่นว่าหาหุ้นถูกๆ ลงทุนยากแล้ว
ผมว่ามันก็เป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีสำหรับ VI นะครับ
ผมว่ามันก็เป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีสำหรับ VI นะครับ
- ^^
- Verified User
- โพสต์: 519
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 34
ถ้าตัวเลขที่คุณเห็นในงบการเงินในการประเมินความเสี่ยง
คุณไม่ใส่Biasเกินไปจากการที่ถือหุ้น คุณก็รอดอยู่แล้วครับ
ดูความเสี่ยงในงบการเงินต้องดูแบบจ้อง และถอยออกมาดูว่าจะเกิดไรต่อ
PTL ที่เขาว่าดีนักดีหนา มีคนชวนผมซื้อตอน30บาท
ใช้แค่หลักการเงินธรรมดานะ สำหรับผม
หนี้สินหมุนเวียนต่อสินทรัพย์หมุนเวียน ผมเลิกดูเลย 3ต่อ1
คุณอาจจะบอกว่า อืม ก็เขาเตรียมไว้ฤดูกาลขาย
แต่ผมไม่ชอบครับ ผมParaniod
การที่มันมากขนาดนี้ แสดงว่าผู้บริหารกำลัง"เก็ง"
ถ้า"เก็ง"ผิด ได้เกร็งแน่
ฉะนั้นก่อนขายทางเลือกที่จะเกิดได้คือ
1.ขายออก กำไรมาก ตูรวย
2.ขายพอได้ แต่ไม่มาก ตูจนลงเพราะซื้อแพง
3.ขายไม่ออกเลย ตูขาดทุนหนัก
ลองคิดแบบมีทางเลือกครับ ว่าเขาทำแบบนี้ จะเกิดไรได้บ้าง
อย่าForwardไรให้มาก เราไปเติมแต่งมัน นั่นยังไม่เกิดขึ้นจริง
Panic คือ มันยังดี ดีนี่คือต้องดีแบบความจริงนะ ไม่ใช่ดีแบบความหวัง ดีแบบนี้แล้วลงแรง แบบนี้แหละ Panic
แต่ถ้าCrisis คุณต้องดูหุ้นคุณให้ออก ใครถือเยอะก็มีผล ถ้าฝรั่งถือเยอะ ฉะนั้นCrisisนอกมีผลถึงหุ้นคุณแน่นอน เพราะเหมือนเราซื้อกองทุน ถ้าหุ้นตกเราก็ไปขาย ฝรั่งที่เมกาก็เหมือนกัน ก็หุ้นที่นั่นตก เขาก็แค่ขายดิ ทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวกันเล๊ยย แบบนี้เรียกPanicจากข้างนอกส่งผลถึงหุ้นเรา ผีเสื้อกระพือปีก
ความหมายPanicที่ผมชอบมากคือ นิยามของคุณมนตรี หรือพี่Mon money
แกเคยไปออกMoney Channel แล้วพูดกรณีศึกษาว่า หุ้นค้าปลีกตัวหนึ่ง ปกติกำไรได้ขนาดนี้ ขอใช้คำว่าภาวะปกติ คือBase on โดยไม่ได้ใส่Growthอะไรทั้งนั้น
แล้วถ้าเห็นราคาหุ้นลงมาต่ำกว่านี้นะ ซื้อเลย
ความหมายคือ ถ้าคุณเห็นคนหนึ่งเปิดร้านขายข้าวได้วันละ2พันบาท เป็นCashFlowเห็นประจำเลยนะ ทั้งเดือนได้60000บาท
แล้วอยู่ๆคนขายบอก เอาไหม ที่ขายข้าว เราขายให้ 2หมื่นบาทพอ
คำถามคือ คนนี้จะหลอกคุณหรือเขากำลังเดือดร้อนอะไรบางอย่าง
ถ้าคุณไปเติมแต่ง ก็ เอ๊ะ ทำไมขายถูก หรือว่าอะไรไม่ดี
ทั้งที่ความจริงคุณเห็นประจำแน่ๆว่า เขาขายได้วันละ2พันบาท เดือนละ6หมื่น
แบบนี้แหละที่เรียกว่า มีPanic หรือภาวะชั่วคราว(ชั่วคราวของเขา ดันไปเล่นพนันบอล)
แต่ถ้าCrisis ก็คือ มีคนมาหลอกคุณนั่นแหละ เฮ้ยเอาไหมที่นี่ขายข้าวได้วันละแสน
แทบไม่มีคนเดินเลย แบบนี้แหละหลอกแล้ว นี่แหละCrisis
กลับมาเรื่องหุ้น ก็คือ คุณหากำไรปกติของเขาให้เจอ หรือกำไรช่วงแย่ๆก็ได้
แล้วก็ไม่Agrressiveเกินไป ค่อยๆโต
หากหุ้นตัวไหนอยู่ๆผิดวิสัย ปกติจะไม่ใช่แบบนี้ก็ให้ระวัง ถืออย่างระวัง
ดูตัวเลขความเสี่ยงการเงิน
สินค้าคงเหลือ จำนวนวันลูกหนี้ เจ้าหนี้การค้าว่าเพิ่มไหม
ดูการวิเคราะห์หุ้นของคุณChatChaiดูครับ เรื่องความเสี่ยง จากร้อยคนร้อยหุ้น
ในหุ้นWGครับ วิเคราะห์ละเอียดมากครับ เป็นแบบอย่างได้ดี
--ถ้าคุณรู้จักDE หรืออัตราส่วนการเงินด้านความเสี่ยงแล้วคุณไม่ได้ใช้ คุณจะรู้ไปทำไม--
หมายเหตุ ผมไม่รู้เรื่องอีกมากใส่ค่าWaccไรพวกนี้ ผมงงงวย ประเมินมูลค่าได้แค่พื้นฐาน และดูว่าอนาคตจะเป็นไง และหาจุดออก(ความเสี่ยงที่ควรรู้)แค่นั้น
รู้แค่เอาตัวรอดครับ ไม่ได้รู้ไปทุกอย่าง แต่ก็รักที่จะอยากรู้และถาม
เพราะยิ่งรู้ยิ่งพลิกแพลงได้หลายกระบวนท่า ฉะนั้นอย่ายึดติด
คำพูดผมอย่าเชื่อทุกคำนะครับ เพราะผมก็จะหาทางมาหลอกกินเงินคุณเหมือนกัน อิอิ
คุณไม่ใส่Biasเกินไปจากการที่ถือหุ้น คุณก็รอดอยู่แล้วครับ
ดูความเสี่ยงในงบการเงินต้องดูแบบจ้อง และถอยออกมาดูว่าจะเกิดไรต่อ
PTL ที่เขาว่าดีนักดีหนา มีคนชวนผมซื้อตอน30บาท
ใช้แค่หลักการเงินธรรมดานะ สำหรับผม
หนี้สินหมุนเวียนต่อสินทรัพย์หมุนเวียน ผมเลิกดูเลย 3ต่อ1
คุณอาจจะบอกว่า อืม ก็เขาเตรียมไว้ฤดูกาลขาย
แต่ผมไม่ชอบครับ ผมParaniod
การที่มันมากขนาดนี้ แสดงว่าผู้บริหารกำลัง"เก็ง"
ถ้า"เก็ง"ผิด ได้เกร็งแน่
ฉะนั้นก่อนขายทางเลือกที่จะเกิดได้คือ
1.ขายออก กำไรมาก ตูรวย
2.ขายพอได้ แต่ไม่มาก ตูจนลงเพราะซื้อแพง
3.ขายไม่ออกเลย ตูขาดทุนหนัก
ลองคิดแบบมีทางเลือกครับ ว่าเขาทำแบบนี้ จะเกิดไรได้บ้าง
อย่าForwardไรให้มาก เราไปเติมแต่งมัน นั่นยังไม่เกิดขึ้นจริง
Panic คือ มันยังดี ดีนี่คือต้องดีแบบความจริงนะ ไม่ใช่ดีแบบความหวัง ดีแบบนี้แล้วลงแรง แบบนี้แหละ Panic
แต่ถ้าCrisis คุณต้องดูหุ้นคุณให้ออก ใครถือเยอะก็มีผล ถ้าฝรั่งถือเยอะ ฉะนั้นCrisisนอกมีผลถึงหุ้นคุณแน่นอน เพราะเหมือนเราซื้อกองทุน ถ้าหุ้นตกเราก็ไปขาย ฝรั่งที่เมกาก็เหมือนกัน ก็หุ้นที่นั่นตก เขาก็แค่ขายดิ ทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวกันเล๊ยย แบบนี้เรียกPanicจากข้างนอกส่งผลถึงหุ้นเรา ผีเสื้อกระพือปีก
ความหมายPanicที่ผมชอบมากคือ นิยามของคุณมนตรี หรือพี่Mon money
แกเคยไปออกMoney Channel แล้วพูดกรณีศึกษาว่า หุ้นค้าปลีกตัวหนึ่ง ปกติกำไรได้ขนาดนี้ ขอใช้คำว่าภาวะปกติ คือBase on โดยไม่ได้ใส่Growthอะไรทั้งนั้น
แล้วถ้าเห็นราคาหุ้นลงมาต่ำกว่านี้นะ ซื้อเลย
ความหมายคือ ถ้าคุณเห็นคนหนึ่งเปิดร้านขายข้าวได้วันละ2พันบาท เป็นCashFlowเห็นประจำเลยนะ ทั้งเดือนได้60000บาท
แล้วอยู่ๆคนขายบอก เอาไหม ที่ขายข้าว เราขายให้ 2หมื่นบาทพอ
คำถามคือ คนนี้จะหลอกคุณหรือเขากำลังเดือดร้อนอะไรบางอย่าง
ถ้าคุณไปเติมแต่ง ก็ เอ๊ะ ทำไมขายถูก หรือว่าอะไรไม่ดี
ทั้งที่ความจริงคุณเห็นประจำแน่ๆว่า เขาขายได้วันละ2พันบาท เดือนละ6หมื่น
แบบนี้แหละที่เรียกว่า มีPanic หรือภาวะชั่วคราว(ชั่วคราวของเขา ดันไปเล่นพนันบอล)
แต่ถ้าCrisis ก็คือ มีคนมาหลอกคุณนั่นแหละ เฮ้ยเอาไหมที่นี่ขายข้าวได้วันละแสน
แทบไม่มีคนเดินเลย แบบนี้แหละหลอกแล้ว นี่แหละCrisis
กลับมาเรื่องหุ้น ก็คือ คุณหากำไรปกติของเขาให้เจอ หรือกำไรช่วงแย่ๆก็ได้
แล้วก็ไม่Agrressiveเกินไป ค่อยๆโต
หากหุ้นตัวไหนอยู่ๆผิดวิสัย ปกติจะไม่ใช่แบบนี้ก็ให้ระวัง ถืออย่างระวัง
ดูตัวเลขความเสี่ยงการเงิน
สินค้าคงเหลือ จำนวนวันลูกหนี้ เจ้าหนี้การค้าว่าเพิ่มไหม
ดูการวิเคราะห์หุ้นของคุณChatChaiดูครับ เรื่องความเสี่ยง จากร้อยคนร้อยหุ้น
ในหุ้นWGครับ วิเคราะห์ละเอียดมากครับ เป็นแบบอย่างได้ดี
--ถ้าคุณรู้จักDE หรืออัตราส่วนการเงินด้านความเสี่ยงแล้วคุณไม่ได้ใช้ คุณจะรู้ไปทำไม--
หมายเหตุ ผมไม่รู้เรื่องอีกมากใส่ค่าWaccไรพวกนี้ ผมงงงวย ประเมินมูลค่าได้แค่พื้นฐาน และดูว่าอนาคตจะเป็นไง และหาจุดออก(ความเสี่ยงที่ควรรู้)แค่นั้น
รู้แค่เอาตัวรอดครับ ไม่ได้รู้ไปทุกอย่าง แต่ก็รักที่จะอยากรู้และถาม
เพราะยิ่งรู้ยิ่งพลิกแพลงได้หลายกระบวนท่า ฉะนั้นอย่ายึดติด
คำพูดผมอย่าเชื่อทุกคำนะครับ เพราะผมก็จะหาทางมาหลอกกินเงินคุณเหมือนกัน อิอิ
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 42
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 36
roronoa เขียน:ส่วนตัวผ่านวิกฤติมา 2 ครั้ง
สำหรับผมไม่มีทางรู้ได้เลย หรือบางคนอาจจะรู้ หรืออาจจะรู้สึกได้
ว่าวิกฤติกำลังเกิดแล้วแต่ก็ไม่คิดที่จะทำอะไร
ส่วนตัว อยากแบ่งสถาณการณ์ดังกล่าวออกเป็น 3 step คือ
1. วิกฤติใน STEP แรกนี้ หุ้นของเราจะตกอย่างเร็วและแรง อาจะ 10% ถึง 30%
จนบางคนอาจกลัวและคิดว่านี่อาจจะเป็นวิกฤติแล้วก็ได้
ซึ่งนั่นแหละผมว่ามันคือสัญญาณ
แต่...จะมี VI สักกี่คนที่คิดว่ามันคือวิกฤติแล้วขายหุ้นออกมาหมด port เลย
ผมว่าน้อยมาก เพราะคิดว่า
โอ๊ยย ราคาขนาดนี้ใครจะกล้าขายฟะ แม่ม upside บานนน
ปั้นมาอย่างนาน เซ็งเป็ด ก้าบบๆๆ
อาการนี้จะมาพร้อมกับอาการคันไม้คันมือจะเริ่มมีมากขึ้น เกากันจนเป็นขี้กลาก
2. หุ้นค่อยๆ ซึมลงอย่างช้าๆ หรืออาจจะเรียกว่าช่วง ต้มกบ
ประมาณว่ากว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ววววว
ช่วงนี้หุ้นจะใช้เวลาในการลงสลับกับ rebound เป็นระยะ
แต่จะลงมากกว่าขึ้น คือซึมลงอย่างช้าๆ
ช่วงนี้ขอเรียกว่าช่วง super sale ถูกแล้วมีถูกกว่า
อารมณ์ประมาณว่า Lotus BigC แข่งกันลดราคา
หากคุณเห็นราคาที่อื่นถูกกว่า เรายินดีคืนเงินให้ 2 เท่า
ขนาดนี้เมิงยังกล้าขาย งั้นกรูขายถูกกว่าเว่ยย เอาดิ
แย่งกันขาย เมิงรึกรูจะตายก่อนกัน...
3. เป็นช่วงสะเด็ดน้ำ ราคาหุ้นเตี้ยติดดิน พร้อมกับ volume ที่เบาบาง
ราวกับอยู่ใน หนัง zombie เรื่องดัง dawn of the dead และ 28 days later
เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ ได้ติดเชื้อไวรัส zombie ไปแล้วค่อนเมือง
และในขณะเดียวกัน นักลงทุนส่วนน้อยที่ยังไม่ติดเชื้อเริ่มที่จะมีความหวังที่จะอยู่รอด
ได้ออกเสาะแสวงหาสถานที่ที่ดี ปลอดภัย และหาอาหารและน้ำเพื่อประทังชีวิต
พร้อมกับออกเดินทาง เพื่อเริ่มชีวิตใหม่
เขียนมาตั้งนาน ไม่รู้จะได้ประโยชน์รึเปล่า แต่อยากบอกว่า
ถึงแม้ในวิกฤติทุกครั้งจะมีคนติดดอยอยู่มากมาย
มันขึ้นอยู่กับว่า สุดท้ายแล้ว ท่านอยู่บนดอยอะไร
ดูอย่างเขาใหญ่กับวังน้ำเขียวปัจจุบัน ตอนนี้ราคาพุ่งปรี๊ดๆ
คนขายมีความสุข คนซื้อก็มีความสุข
แต่ถ้าท่านคิดจะอยู่บน ดอยหมึง (ขออภัย) ยิ่งอยู่ ยิ่งดึง ยิ่งเจ็บ ร่ำไป...
กด like หมื่นทีคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 38
ชอบ คุณ ^^
เขียนได้ดี อ่านง่าย
แต่ไม่รู้จะชมอย่างไร
เรียกชื่อไม่ถูก
เขียนได้ดี อ่านง่าย
แต่ไม่รู้จะชมอย่างไร
เรียกชื่อไม่ถูก
Blueplanet
-
- Verified User
- โพสต์: 42
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 39
viim เขียน:คุณ pla_072 กด like ส่วนไหนครับ มีที่ชอบเป็นพิเศษไหม รึว่าทั้งหมด แซวซะหน่อย
เรียนคุณ viim คะ
ชอบตรงที่เรียงลำดับ 3 steps ให้เห็นภาพคะ แต่ไม่แน่ใจว่าช่วงนี้เราอยู่ step ที่ 2 กันรึป่าวนะคะ ตอนนี้เลยจัดพอร์ตให้มีแต่หุ้นไม่เสี่ยงแล้วคะ เพราะหวั่นใจเรื่องหนี้ยุโรปไม่ใช่น้อยคะ เหอๆ
- simpleBE
- Verified User
- โพสต์: 2333
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 40
รอบนี้นักลงทุนรู้ตัวแล้วและน่าจะเตรียมตัวไว้พอสมควรdensin เขียน:วิกฤตที่รู้ก่อน คนเราจะเตรียมตัว ทำให้ผลกระทบไม่รุนแรง
วิกฤติที่กระทบแรง เพราะไม่รู้ตัว ถึงเวลามันก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว
แต่เรื่องผลกระทบคงไม่มีใครตอบได้ว่าจะแรงหรือไม่
จนกว่าจะถึงวันนั้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 260
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 41
ตอนนี้เป็นช่วง "เซ็งเป็ด" หรือ ช่วง "ต้มกบ" กันแน่ครับ จะได้ตั้งตัวถูกroronoa เขียน:ส่วนตัวผ่านวิกฤติมา 2 ครั้ง
สำหรับผมไม่มีทางรู้ได้เลย หรือบางคนอาจจะรู้ หรืออาจจะรู้สึกได้
ว่าวิกฤติกำลังเกิดแล้วแต่ก็ไม่คิดที่จะทำอะไร
ส่วนตัว อยากแบ่งสถาณการณ์ดังกล่าวออกเป็น 3 step คือ
1. วิกฤติใน STEP แรกนี้ หุ้นของเราจะตกอย่างเร็วและแรง อาจะ 10% ถึง 30%
จนบางคนอาจกลัวและคิดว่านี่อาจจะเป็นวิกฤติแล้วก็ได้
ซึ่งนั่นแหละผมว่ามันคือสัญญาณ
แต่...จะมี VI สักกี่คนที่คิดว่ามันคือวิกฤติแล้วขายหุ้นออกมาหมด port เลย
ผมว่าน้อยมาก เพราะคิดว่า
โอ๊ยย ราคาขนาดนี้ใครจะกล้าขายฟะ แม่ม upside บานนน
ปั้นมาอย่างนาน เซ็งเป็ด ก้าบบๆๆ
อาการนี้จะมาพร้อมกับอาการคันไม้คันมือจะเริ่มมีมากขึ้น เกากันจนเป็นขี้กลาก
2. หุ้นค่อยๆ ซึมลงอย่างช้าๆ หรืออาจจะเรียกว่าช่วง ต้มกบ
ประมาณว่ากว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ววววว
ช่วงนี้หุ้นจะใช้เวลาในการลงสลับกับ rebound เป็นระยะ
แต่จะลงมากกว่าขึ้น คือซึมลงอย่างช้าๆ
ช่วงนี้ขอเรียกว่าช่วง super sale ถูกแล้วมีถูกกว่า
อารมณ์ประมาณว่า Lotus BigC แข่งกันลดราคา
หากคุณเห็นราคาที่อื่นถูกกว่า เรายินดีคืนเงินให้ 2 เท่า
ขนาดนี้เมิงยังกล้าขาย งั้นกรูขายถูกกว่าเว่ยย เอาดิ
แย่งกันขาย เมิงรึกรูจะตายก่อนกัน...
3. เป็นช่วงสะเด็ดน้ำ ราคาหุ้นเตี้ยติดดิน พร้อมกับ volume ที่เบาบาง
ราวกับอยู่ใน หนัง zombie เรื่องดัง dawn of the dead และ 28 days later
เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ ได้ติดเชื้อไวรัส zombie ไปแล้วค่อนเมือง
และในขณะเดียวกัน นักลงทุนส่วนน้อยที่ยังไม่ติดเชื้อเริ่มที่จะมีความหวังที่จะอยู่รอด
ได้ออกเสาะแสวงหาสถานที่ที่ดี ปลอดภัย และหาอาหารและน้ำเพื่อประทังชีวิต
พร้อมกับออกเดินทาง เพื่อเริ่มชีวิตใหม่
เขียนมาตั้งนาน ไม่รู้จะได้ประโยชน์รึเปล่า แต่อยากบอกว่า
ถึงแม้ในวิกฤติทุกครั้งจะมีคนติดดอยอยู่มากมาย
มันขึ้นอยู่กับว่า สุดท้ายแล้ว ท่านอยู่บนดอยอะไร
ดูอย่างเขาใหญ่กับวังน้ำเขียวปัจจุบัน ตอนนี้ราคาพุ่งปรี๊ดๆ
คนขายมีความสุข คนซื้อก็มีความสุข
แต่ถ้าท่านคิดจะอยู่บน ดอยหมึง (ขออภัย) ยิ่งอยู่ ยิ่งดึง ยิ่งเจ็บ ร่ำไป...
เมื่อใดเห็นทุกข์ เมื่อนั้นเห็นธรรม
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 42
เรียกว่าคุณยิ้ม ได้ไหมครับblueplanet เขียน:ชอบ คุณ ^^
เขียนได้ดี อ่านง่าย
แต่ไม่รู้จะชมอย่างไร
เรียกชื่อไม่ถูก
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 44
หุ้นค่อยๆ ซึมลงอย่างช้าๆ หรืออาจจะเรียกว่าช่วง ต้มกบ
ประมาณว่ากว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ววววว
ช่วงนี้หุ้นจะใช้เวลาในการลงสลับกับ rebound เป็นระยะ
แต่จะลงมากกว่าขึ้น คือซึมลงอย่างช้าๆ
ช่วงนี้ขอเรียกว่าช่วง super sale ถูกแล้วมีถูกกว่า
อารมณ์ประมาณว่า Lotus BigC แข่งกันลดราคา
หากคุณเห็นราคาที่อื่นถูกกว่า เรายินดีคืนเงินให้ 2 เท่า
period นี้หล่ะครับ ที่เรากำลังอยู่ ต้มกบ
ต้้นพีเรียดจะขึ้นๆๆลงๆๆ ไซดเวย์ไม่หลุด
แต่สังเกตุดีๆๆ กลางพีเรียด มักจะมีเทศกาลเทกระจาด
ส่วนปลายพีเรียด มัก จะขายกันแบบทุกราคา
ถ้าให้ผมเดา อีก 3เดือน ก้เข้าสู่พีเรียด ตลาดเงียบ
หรือซอมบี้แล้ว
ส่วนช่วงซอมบี้รอบนี้น่าจะกินเวลา ไม่ต่ำกว่า 5-6เดือน
หรือสั้นกว่า
ประมาณว่ากว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ววววว
ช่วงนี้หุ้นจะใช้เวลาในการลงสลับกับ rebound เป็นระยะ
แต่จะลงมากกว่าขึ้น คือซึมลงอย่างช้าๆ
ช่วงนี้ขอเรียกว่าช่วง super sale ถูกแล้วมีถูกกว่า
อารมณ์ประมาณว่า Lotus BigC แข่งกันลดราคา
หากคุณเห็นราคาที่อื่นถูกกว่า เรายินดีคืนเงินให้ 2 เท่า
period นี้หล่ะครับ ที่เรากำลังอยู่ ต้มกบ
ต้้นพีเรียดจะขึ้นๆๆลงๆๆ ไซดเวย์ไม่หลุด
แต่สังเกตุดีๆๆ กลางพีเรียด มักจะมีเทศกาลเทกระจาด
ส่วนปลายพีเรียด มัก จะขายกันแบบทุกราคา
ถ้าให้ผมเดา อีก 3เดือน ก้เข้าสู่พีเรียด ตลาดเงียบ
หรือซอมบี้แล้ว
ส่วนช่วงซอมบี้รอบนี้น่าจะกินเวลา ไม่ต่ำกว่า 5-6เดือน
หรือสั้นกว่า
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 46
อย่างเช่น ตอนนี้
เรารู้มันครับว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ไม่มีทาง
จนกระทั่งมันเกิดขึ้นแล้วนั่นแหละ เราถึงรู้
ตลาดร่วงลงแรงๆแบบนี้ เรารู้มาก่อนมั้ยครับ
ไม่รู้เลย วันจันทร์ที่26จะเป็นยังไงเราก็ไม่รู้
อย่าไปคาดการณ์วิกฤติเลยครับ
เรารู้มันครับว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ไม่มีทาง
จนกระทั่งมันเกิดขึ้นแล้วนั่นแหละ เราถึงรู้
ตลาดร่วงลงแรงๆแบบนี้ เรารู้มาก่อนมั้ยครับ
ไม่รู้เลย วันจันทร์ที่26จะเป็นยังไงเราก็ไม่รู้
อย่าไปคาดการณ์วิกฤติเลยครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 47
เป็นIndicatorที่ดีของVI แต่VIส่วนมากก็ถือ100%.......-*-กล้วยไม้ขาว เขียน:ที่ผ่านมามีแต่คนบ่นว่าหาหุ้นถูกๆ ลงทุนยากแล้ว
ผมว่ามันก็เป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีสำหรับ VI นะครับ
อารมณ์น่าจะเหมือนกับไปซื้อโซฟาที่ห้างมา แล้วไปเดินFurnutureFair
แล้วไปเจอโซฟาที่ถูกกว่า....ว๊าวๆมีแต่ของถูกๆทั้งนั้นเลยเดินแล้วมีฟามสุข...
แต่....มะมีตังซื้อแล้วเพราะเพิ่งซื้อไปมะวันก่อน T^T
มะรู้น้อง กล้วยเป็นเหมือนผมปล่าว 555+
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
-
- Verified User
- โพสต์: 490
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 48
roronoa เขียน:ส่วนตัวผ่านวิกฤติมา 2 ครั้ง
สำหรับผมไม่มีทางรู้ได้เลย หรือบางคนอาจจะรู้ หรืออาจจะรู้สึกได้
ว่าวิกฤติกำลังเกิดแล้วแต่ก็ไม่คิดที่จะทำอะไร
ส่วนตัว อยากแบ่งสถาณการณ์ดังกล่าวออกเป็น 3 step คือ
1. วิกฤติใน STEP แรกนี้ หุ้นของเราจะตกอย่างเร็วและแรง อาจะ 10% ถึง 30%
จนบางคนอาจกลัวและคิดว่านี่อาจจะเป็นวิกฤติแล้วก็ได้
ซึ่งนั่นแหละผมว่ามันคือสัญญาณ
แต่...จะมี VI สักกี่คนที่คิดว่ามันคือวิกฤติแล้วขายหุ้นออกมาหมด port เลย
ผมว่าน้อยมาก เพราะคิดว่า
โอ๊ยย ราคาขนาดนี้ใครจะกล้าขายฟะ แม่ม upside บานนน
ปั้นมาอย่างนาน เซ็งเป็ด ก้าบบๆๆ
อาการนี้จะมาพร้อมกับอาการคันไม้คันมือจะเริ่มมีมากขึ้น เกากันจนเป็นขี้กลาก
2. หุ้นค่อยๆ ซึมลงอย่างช้าๆ หรืออาจจะเรียกว่าช่วง ต้มกบ
ประมาณว่ากว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ววววว
ช่วงนี้หุ้นจะใช้เวลาในการลงสลับกับ rebound เป็นระยะ
แต่จะลงมากกว่าขึ้น คือซึมลงอย่างช้าๆ
ช่วงนี้ขอเรียกว่าช่วง super sale ถูกแล้วมีถูกกว่า
อารมณ์ประมาณว่า Lotus BigC แข่งกันลดราคา
หากคุณเห็นราคาที่อื่นถูกกว่า เรายินดีคืนเงินให้ 2 เท่า
ขนาดนี้เมิงยังกล้าขาย งั้นกรูขายถูกกว่าเว่ยย เอาดิ
แย่งกันขาย เมิงรึกรูจะตายก่อนกัน...
3. เป็นช่วงสะเด็ดน้ำ ราคาหุ้นเตี้ยติดดิน พร้อมกับ volume ที่เบาบาง
ราวกับอยู่ใน หนัง zombie เรื่องดัง dawn of the dead และ 28 days later
เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ ได้ติดเชื้อไวรัส zombie ไปแล้วค่อนเมือง
และในขณะเดียวกัน นักลงทุนส่วนน้อยที่ยังไม่ติดเชื้อเริ่มที่จะมีความหวังที่จะอยู่รอด
ได้ออกเสาะแสวงหาสถานที่ที่ดี ปลอดภัย และหาอาหารและน้ำเพื่อประทังชีวิต
พร้อมกับออกเดินทาง เพื่อเริ่มชีวิตใหม่
เขียนมาตั้งนาน ไม่รู้จะได้ประโยชน์รึเปล่า แต่อยากบอกว่า
ถึงแม้ในวิกฤติทุกครั้งจะมีคนติดดอยอยู่มากมาย
มันขึ้นอยู่กับว่า สุดท้ายแล้ว ท่านอยู่บนดอยอะไร
ดูอย่างเขาใหญ่กับวังน้ำเขียวปัจจุบัน ตอนนี้ราคาพุ่งปรี๊ดๆ
คนขายมีความสุข คนซื้อก็มีความสุข
แต่ถ้าท่านคิดจะอยู่บน ดอยหมึง (ขออภัย) ยิ่งอยู่ ยิ่งดึง ยิ่งเจ็บ ร่ำไป...
ช่วง super sale ถูกแล้วมีถูกกว่า แล้วล่ะ
“Survival of the fittest”
“รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม”
“รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม”
- lengmanutd
- Verified User
- โพสต์: 125
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 51
กระทู้นี้ อ่านแล้วให้ข้อคิดดีครับ สรุปคือ ขอบคุณครับที่แชร์ความคิดเห็น อิอิ
ลงทุนในบริษัทที่ดี ราคาหุ้นมี MOS (Downside = Limited) และแนวโน้มกำไรมี Growth (Upside = Infinity)
-
- Verified User
- โพสต์: 227
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 52
หมายความว่าควรซื้อตอนตลาดเงียบ???
-
- Verified User
- โพสต์: 214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 53
2. หุ้นค่อยๆ ซึมลงอย่างช้าๆ หรืออาจจะเรียกว่าช่วง ต้มกบ
ประมาณว่ากว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ววววว
ช่วงนี้หุ้นจะใช้เวลาในการลงสลับกับ rebound เป็นระยะ
แต่จะลงมากกว่าขึ้น คือซึมลงอย่างช้าๆ
อ่านแล้ว เห็นภาพ มันช่วงนี้ปะครับ สงสัย แฮะๆ เพราะมือผมก็แอบคัน แต่ยังล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่
แถมตอนนี้ ณ เวลานี้ หลังจากเมื่อวาน ตกจนจะดับไฟ มาวันนี้เค้าหรี่ไฟแล้วเติมน้ำใส่หม้อเรียกกบเพิ่มอยู่รึเปล่าครับเนี่ย
ตลาด วอลุ่มก็ยังหลั่งไหลเข้ามา ที่ ออฟฟิศผมนี่ วันนี้เมื่อวานมีแต่คนวิ่งเข้าซื้อ LTF RMF บางคนจะจัด หุ้นใหญ่ๆกันหมด... ออฟฟิศที่ผมอยู่ไม่มีคนกลัวเลยแฮะ -_-'
ประมาณว่ากว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ววววว
ช่วงนี้หุ้นจะใช้เวลาในการลงสลับกับ rebound เป็นระยะ
แต่จะลงมากกว่าขึ้น คือซึมลงอย่างช้าๆ
อ่านแล้ว เห็นภาพ มันช่วงนี้ปะครับ สงสัย แฮะๆ เพราะมือผมก็แอบคัน แต่ยังล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่
แถมตอนนี้ ณ เวลานี้ หลังจากเมื่อวาน ตกจนจะดับไฟ มาวันนี้เค้าหรี่ไฟแล้วเติมน้ำใส่หม้อเรียกกบเพิ่มอยู่รึเปล่าครับเนี่ย
ตลาด วอลุ่มก็ยังหลั่งไหลเข้ามา ที่ ออฟฟิศผมนี่ วันนี้เมื่อวานมีแต่คนวิ่งเข้าซื้อ LTF RMF บางคนจะจัด หุ้นใหญ่ๆกันหมด... ออฟฟิศที่ผมอยู่ไม่มีคนกลัวเลยแฮะ -_-'
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 260
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 54
ถ้าให้เดา ผมว่า ตอนนี้คงเป็นช่วงต้มกบ แล้วละครับ แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะต้มเรากี่เดือน เราถึงจะน่ากินที่สุดครับ
แต่ผมว่าครั้งนี้เค้าต้ม ช่วงแรกใช้ไฟแรงไปหน่อย ร้อนจนสะดุ้งเลยครับ ผมเลยกระโดดหนีไปนานละ
แต่ผมว่าครั้งนี้เค้าต้ม ช่วงแรกใช้ไฟแรงไปหน่อย ร้อนจนสะดุ้งเลยครับ ผมเลยกระโดดหนีไปนานละ
เมื่อใดเห็นทุกข์ เมื่อนั้นเห็นธรรม
-
- Verified User
- โพสต์: 490
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 55
ช่วงนี้ขอเรียกว่าช่วง super sale ถูกแล้วมีถูกกว่าmincho เขียน:ถ้าให้เดา ผมว่า ตอนนี้คงเป็นช่วงต้มกบ แล้วละครับ แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะต้มเรากี่เดือน เราถึงจะน่ากินที่สุดครับ
แต่ผมว่าครั้งนี้เค้าต้ม ช่วงแรกใช้ไฟแรงไปหน่อย ร้อนจนสะดุ้งเลยครับ ผมเลยกระโดดหนีไปนานละ
อารมณ์ประมาณว่า Lotus BigC แข่งกันลดราคา
หากคุณเห็นราคาที่อื่นถูกกว่า เรายินดีคืนเงินให้ 2 เท่า
ขนาดนี้เมิงยังกล้าขาย งั้นกรูขายถูกกว่าเว่ยย เอาดิ
แย่งกันขาย เมิงรึกรูจะตายก่อนกัน...
กบคงสุกแล้ว แต่ยังไม่เปือย
“Survival of the fittest”
“รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม”
“รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม”
-
- Verified User
- โพสต์: 214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 56
จิงคับ ที่ฮาคืองูก็อ้าปากอมกบมาพักนึงแล้ว หม้อก้อครอบตั้งไฟอยู่แต่กบที่โดนงับ ติดในหม้อ ก็โวยวายด่าหม้อด่างู เรียกให้ออกนานแล้วก็ไม่ออก บอกอยู่ดีอยุ่แล้ว แต่พอน้ำเริ่มร้อน งูเริ่มย่อย กลับโวยวายยด่าหม้อด่างูที่ชื่อ market ซะงั้นว่าเอ็งน่ะไม่เข้าท่าจะลงทำไม ทำไม หม้อข้าไฟร้อนกว่าหม้อมะกัน ร้อนกว่าหม้ออื่นในโลก งูทำไมกัดข้าแรงกว่า ข้ากบวิเศษของข้าดี แกร่ง โลกไม่ยุติธรรม พวกกบที่โดดออกไปก่อน ไม่ต้องหวังหรอกนะ 300-400 น่ะ กระโดดออกไปตกรถแน่ พวกเอ็งมันกบเก็งกำไรไม่ใช่ vi พื้นฐานหม้อข้าดี ทำจากเหล็กวิเศษ (หม้ออะไรตั้งไฟมันก้อร้อนทั้งนั้นอะพี่) แง่งๆๆๆ
อยากบอกถ้าพอใจไม่ออกตั้งกะต้น บอกดัชนี ตลาดไม่สำคัญ กิจการธุรกิจดูมาดีแล้วพอใจจะถือ แล้วจะบ่นทำไมว้า จะแคร์ทำไม ว่าหม้อร้อนแค่ไหน ไม่เข้าใจ
อยากบอกถ้าพอใจไม่ออกตั้งกะต้น บอกดัชนี ตลาดไม่สำคัญ กิจการธุรกิจดูมาดีแล้วพอใจจะถือ แล้วจะบ่นทำไมว้า จะแคร์ทำไม ว่าหม้อร้อนแค่ไหน ไม่เข้าใจ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 260
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 57
จริงๆ ผมว่ายังไม่ใช่ช่วง super sale นะครับ ถ้าในความหมายของคุณ roronoa น่าจะหมายถึงช่วงไม่มี bid รับเลย จนคนขายต้องตั้ง offer ตัดราคากันเองเรื่อยๆ เพื่อให้ได้คิวแรกๆของ offer ประมาณแข่งกันลดราคาสุดๆwk0966 เขียน:
ช่วงนี้ขอเรียกว่าช่วง super sale ถูกแล้วมีถูกกว่า
อารมณ์ประมาณว่า Lotus BigC แข่งกันลดราคา
หากคุณเห็นราคาที่อื่นถูกกว่า เรายินดีคืนเงินให้ 2 เท่า
ขนาดนี้เมิงยังกล้าขาย งั้นกรูขายถูกกว่าเว่ยย เอาดิ
แย่งกันขาย เมิงรึกรูจะตายก่อนกัน...
กบคงสุกแล้ว แต่ยังไม่เปือย
เมื่อใดเห็นทุกข์ เมื่อนั้นเห็นธรรม
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิกฤติกำลังจะเกิด ???
โพสต์ที่ 59
อ่านได้ทั้งเดอลักซ เดอลุกซblueplanet เขียน:ชอบ คุณ ^^
เขียนได้ดี อ่านง่าย
แต่ไม่รู้จะชมอย่างไร
เรียกชื่อไม่ถูก
อันนี้แล้วแต่คนแหละครับ
เพราะเน้นพยางค์หน้า พยางค์หลังเก๊าะกล้อมแกล้มๆไป
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.