ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 1
รุ่นที่1 ปี40 เปิดไปแล้ว คิดว่าคงมีหลายท่านที่จบไปแล้ว
ฝ่ามาได้เรียบร้อย (รอบ2 หมายถึงช่วงอายุที่ผมเข้ามาทำงาน)
คิดว่าบางท่านอาจจะเป็นรอบ3รอบ4
ถ้าปี48,49 นี้ เป็นวิกฤตขึ้นมาจริงๆ
คำว่าวิกฤตเป็นโอกาส ย่อมใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย
แล้วแต่ว่า วิสัยทัศน์แต่ละท่านจะกว้างไกลเพียงใด
เล่าเรื่องธุรกิจส่วนตัวเล็กน้อย ที่ฝ่าวิกฤตมาได้จนวันนี้
และไม่มีหนี้ระยะยาว และก็ใช้Od บ้างเล็กน้อย เผื่อเป็นแนวคิดได้บ้าง
ผมก็โชคดีเหลือเกิน จบปุ๊บ ก็เจอต้มยำกุ้ง เผ็ดร้อนยับเยิน
ต้องเข้ามาบริหารงานที่บ้าน เป็นหนี้สินมากมาย
ก็ดีที่สามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้หมดภายในปี42-43
และก็ทยอยใช้หนี้คืนได้หมด ในปี45 ทั้งจากเงินกำไรจากธุรกิจและขาย
ทรัพย์สินที่ไม่จำเป็นออกหมด จน ณ.วันนี้โชคดีไม่มีหนี้สิน
และอนาคตก็จะไม่ให้มีเช่นกัน(เพราะยึดหลักพุทธศาสนาที่ว่า มีหนี้คือทุกข์)
แม้จะชอบธุรกิจที่มีการขยายตัว แต่ก็ไม่ชอบบริษัทที่ตัดสินใจซื้อเครื่องจักรเพิ่มขึ้นมากๆ โดยไม่จำเป็น หรือยังไม่ได้หาวิธีการที่เหมาะสมมากกว่าลงทุนเพิ่ม เพราะการทำธุรกิจต้องการลดต้นทุนสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพิ่มยอดขายตามความคิดของผม เมื่อเราลดต้นทุนได้ ยอดขายมาเอง
แปดปีแห่งความหลัง ยอดขายเพิ่ม300กว่า% แต่คนทำงานยังเท่าเดิม
และเครื่องจักรที่ใช้ก็ลดลงจากเดิมด้วย ผมคิดว่าเป็นความสำเร็จอย่างสูงสุด
ที่ทำให้เราจะฝ่าวิกฤตได้ ไม่ว่าวันนี้หรือวันหน้า
ฝ่ามาได้เรียบร้อย (รอบ2 หมายถึงช่วงอายุที่ผมเข้ามาทำงาน)
คิดว่าบางท่านอาจจะเป็นรอบ3รอบ4
ถ้าปี48,49 นี้ เป็นวิกฤตขึ้นมาจริงๆ
คำว่าวิกฤตเป็นโอกาส ย่อมใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย
แล้วแต่ว่า วิสัยทัศน์แต่ละท่านจะกว้างไกลเพียงใด
เล่าเรื่องธุรกิจส่วนตัวเล็กน้อย ที่ฝ่าวิกฤตมาได้จนวันนี้
และไม่มีหนี้ระยะยาว และก็ใช้Od บ้างเล็กน้อย เผื่อเป็นแนวคิดได้บ้าง
ผมก็โชคดีเหลือเกิน จบปุ๊บ ก็เจอต้มยำกุ้ง เผ็ดร้อนยับเยิน
ต้องเข้ามาบริหารงานที่บ้าน เป็นหนี้สินมากมาย
ก็ดีที่สามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้หมดภายในปี42-43
และก็ทยอยใช้หนี้คืนได้หมด ในปี45 ทั้งจากเงินกำไรจากธุรกิจและขาย
ทรัพย์สินที่ไม่จำเป็นออกหมด จน ณ.วันนี้โชคดีไม่มีหนี้สิน
และอนาคตก็จะไม่ให้มีเช่นกัน(เพราะยึดหลักพุทธศาสนาที่ว่า มีหนี้คือทุกข์)
แม้จะชอบธุรกิจที่มีการขยายตัว แต่ก็ไม่ชอบบริษัทที่ตัดสินใจซื้อเครื่องจักรเพิ่มขึ้นมากๆ โดยไม่จำเป็น หรือยังไม่ได้หาวิธีการที่เหมาะสมมากกว่าลงทุนเพิ่ม เพราะการทำธุรกิจต้องการลดต้นทุนสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพิ่มยอดขายตามความคิดของผม เมื่อเราลดต้นทุนได้ ยอดขายมาเอง
แปดปีแห่งความหลัง ยอดขายเพิ่ม300กว่า% แต่คนทำงานยังเท่าเดิม
และเครื่องจักรที่ใช้ก็ลดลงจากเดิมด้วย ผมคิดว่าเป็นความสำเร็จอย่างสูงสุด
ที่ทำให้เราจะฝ่าวิกฤตได้ ไม่ว่าวันนี้หรือวันหน้า
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 2
แต่ปีนี้ก็ได้ลงทุนเพิ่มเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ลงทุนเพื่อเพิ่มยอดขาย
แต่ผลพลอยได้คือยอดขายอาจจะเพิ่มขึ้น
การลงทุนในปีนี้ ก็เพิ่มเพิ่มคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต เช่นเดิม และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นด้วย
เงินลงทุนใช้เงินสดๆ ไม่กู้เหมือนเดิม
แนวการหาลูกค้าของผม ก็ยังคงยึดแนวกระจายลูกค้าเยอะๆ
เพื่อลดความเสี่ยงในตัวเอง ลูกค้าคนไหนยอดขายมากๆขึ้นจนน่ากลัว
ผมก็จะขอคุมสัดส่วนที่ผมผลิตไม่ให้ไปยึดติดกลับลูกค้าเจ้านั้นมากเกินไป
เพราะถ้าเจ้านี้เจ๊งผมเจ๊งตามแน่
ส่วนราคา ผมคงใช้ราคาที่มีกำไรพออยู่ได้ ไม่หวังวอลุ่มมากๆ แต่Marginต่ำๆ
เพราะคิดว่าเสี่ยงมาก เวลาวิกฤตมาถึง order ลดฮวบ แต่ค่าใช้จ่ายไม่ลด
รอวันเจ๊งอย่างเดียว
ด้านการผลิตก็ยังเน้นลดต้นทุนให้ได้สม่ำเสมอ โดยไม่ลงทุนเพิ่มถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
และreturn ต้องเร็วด้วย เพราะเทคโนโลยีเดี่ยวนี้ตามกันทัน จี้ก้น
แต่ผลพลอยได้คือยอดขายอาจจะเพิ่มขึ้น
การลงทุนในปีนี้ ก็เพิ่มเพิ่มคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต เช่นเดิม และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นด้วย
เงินลงทุนใช้เงินสดๆ ไม่กู้เหมือนเดิม
แนวการหาลูกค้าของผม ก็ยังคงยึดแนวกระจายลูกค้าเยอะๆ
เพื่อลดความเสี่ยงในตัวเอง ลูกค้าคนไหนยอดขายมากๆขึ้นจนน่ากลัว
ผมก็จะขอคุมสัดส่วนที่ผมผลิตไม่ให้ไปยึดติดกลับลูกค้าเจ้านั้นมากเกินไป
เพราะถ้าเจ้านี้เจ๊งผมเจ๊งตามแน่
ส่วนราคา ผมคงใช้ราคาที่มีกำไรพออยู่ได้ ไม่หวังวอลุ่มมากๆ แต่Marginต่ำๆ
เพราะคิดว่าเสี่ยงมาก เวลาวิกฤตมาถึง order ลดฮวบ แต่ค่าใช้จ่ายไม่ลด
รอวันเจ๊งอย่างเดียว
ด้านการผลิตก็ยังเน้นลดต้นทุนให้ได้สม่ำเสมอ โดยไม่ลงทุนเพิ่มถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
และreturn ต้องเร็วด้วย เพราะเทคโนโลยีเดี่ยวนี้ตามกันทัน จี้ก้น
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณครับJeng เขียน:ยินดีด้วยครับ ผมว่าน้อยคนจะฝ่าได้
ผมว่าดวงก็มีส่วน
แต่เมื่อเราได้ดวงนั้นมาแล้ว ผมว่าเราไม่ควรเหิมเกริม
หรือโลภมากเกิน รักษาสัดส่วน ความสมดุลและเหมาะสม สำหรับการใช้
ชีวิต และทุนทรัพย์ที่พอจัดการได้
ที่เขียนนี้ก็เป็นเพียงแค่เตือนตัวเอง และเผื่อบางท่านจะได้ประโยชน์บ้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 7
รายละเอียดเล็กน้อย ที่ทำให้ต้องไปอยู่วงจรอุบาท ของวิกฤต
ลงทุนเกินตัว
Cash Flowไม่มี
ต้นทุนสูง(เครื่องจักร,คนใช้มากเกินและไม่คุ้ม)
อำนาจต่อรองลูกค้าต่ำมาก
การขยายฐานตลาดเป็นไปได้ยาก
ลงทุนเกินตัว
Cash Flowไม่มี
ต้นทุนสูง(เครื่องจักร,คนใช้มากเกินและไม่คุ้ม)
อำนาจต่อรองลูกค้าต่ำมาก
การขยายฐานตลาดเป็นไปได้ยาก
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
- soytee
- Verified User
- โพสต์: 164
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 8
สู้เขาพี่ ชีวิตคนเราเกิดมาก็ต้องสู้ ถ้าไม่สู้ก็เหมือนว่าตายไปแล้ว อึดซักยกสองยก เสร็จแล้วดูผลลัพธ์ตอนหลัง ดีกว่าปล่อยให้เวลาผ่านไปวันๆ แก่ลงไปอีกปีนึง ถ้าลุยซักยก ก็แก่เหมือนกันแต่มันยังมีผลลัพธ์ที่ออกได้ทั้งหัวและก้อย ถ้าไม่ทำอะไรเลย มีทางออกทางเดียวคือก้อย
มันส์ดี กับรสชาติของชีวิต
มันส์ดี กับรสชาติของชีวิต
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 9
นั่นแหละครับ ปัญหาส่วนใหญ่ที่ผมพบ สมัยตอนที่ผมยังทำงานธนาคาร ด้านสินเชื่อ ลูกหนี้ที่เป็น NPL ส่วนใหญ่จะมีการลงทุนเกินตัว ใช้เงินผิดประเภท ลูกหนี้ที่รอดมาได้ ส่วนใหญ่จะทำธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำแต่ธุรกิจดังเดิมของตัวเอง และ Low Prolife แต่ High Profit พอวิกฤตก็นำเงินสดมาช้อนซื้อสินทรัพย์ดีๆราคาถูกๆเพียบเลยnanchan เขียน:รายละเอียดเล็กน้อย ที่ทำให้ต้องไปอยู่วงจรอุบาท ของวิกฤต
ลงทุนเกินตัว
Cash Flowไม่มี
ต้นทุนสูง(เครื่องจักร,คนใช้มากเกินและไม่คุ้ม)
อำนาจต่อรองลูกค้าต่ำมาก
การขยายฐานตลาดเป็นไปได้ยาก
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 10
ไม่ได้คุยกับคุณนันซะนาน
คงอาจเป็นเพราะต่างคนต่างยุ่งเรื่องงาน
แถมแอบกันไปเที่ยวเตร่พักผ่อนมั้งครับ
เลยขอยืมพื้นที่ที่ TVI สักหน่อยนะครับ
ในการพูดคุย หวังว่าคงไม่ว่ากัน
ผมว่าวิกฤติเศรษฐกิจแบบปี 40
คงจะยังไม่เกิดในปี 48-49 นี้อย่างค่อนข้างแน่ๆครับ
เพราะลองย้อนไปที่ปี 40 ตอนนั้น
มีเรื่องที่ทำให้คนไทย shock หลายเรื่องเช่น
- การลดค่าเงินบาท ซึ่งคนในรัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าไม่ลดแน่
- การปิดสถาบันการเงินกว่าครึ่ง ทำให้คนแตกตื่นอย่างมาก
- การกู้ยืมเงินจากต่างประเทศมามาก แต่เอามาใช้ผิดวัตถุประสงค์
แล้วไม่ได้เตรียมการป้องกันความเสี่ยงในเรื่องค่าเงิน
- NPL แบบมีก็ไม่จ่าย เพื่อหวังไปซื้อหนี้คืนถูกๆ ทำให้ระบบสถาบันการเงินพิกลพิการ
ตัวเลขเศรษฐกิจจากที่เคยเติบโต 7-8% ในช่วงก่อนเกิดวิกฤติ
มาติดลบ1.4% ในปี 2540 และติดลบอย่างแรงถึง 10.5% ในปี 2541
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมเงินพุ่งกันไปถึง 20%
(เงินฝากประจำเท่าที่จำได้ประมาณ 15-18%มั้งครับ)
แต่ปัจจุบันสถานการณ์ที่รุนแรงดังกล่าว ผมยังมองไม่เห็นเลยครับ
น้ำมันขึ้นมาจาก 20 เป็น 58 ก็ยังไม่กระทบมากเท่าไหร พอรับไหว
หนี้ภาคเอกชนก็ยังไม่มาก อัตราแลกเปลี่ยนคิดว่าไม่น่าเป็นห่วงครับ
มีที่เราคุมไม่ได้อยู่แค่ไม่กี่เรื่องเท่าที่ผมพอนึกออกคือ
การเกิดฟองสบู่แตกในจีนและอเมริกาอย่างเฉียบพลัน
เหมือนที่ไทยเคยเจอมาในปี 2540 และอีกทีสมัยพลเอกเปรม
ในช่วงที่ลดค่าเงินบาทเมื่อ 20 กว่าปีได้มั้งครับ(เผอิญช่วงนั้นไม่ทันรับรู้)
และอีกเรื่องน่าจะเป็นสงครามที่ขยายวงกว้างและยืดเยื้อ
ซึ่งผมว่าทั้งสองเรื่องยังไม่น่าจะเกิดในปีนี้และปีหน้าครับ
อย่างเช่นอเมริกา เขาก็พยายามควบคุมอยู่ และตัวเลขเศรษฐกิจภายใน
เขาก็ยังดูดี เพียงแต่ตัวเลขขาดดุลสูงมากเท่านั้น แต่เขาก็พยายามแก้
ทั้งจากการปล่อยค่าเงินดอลล์ค่อยๆอ่อน รวมถึงมาตรการควบคุมการนำเข้าต่างๆ
การบีบจีนในเรื่องค่าเงินเพื่อลดตัวเลขการขาดดุล
ส่วนจีนก็ยังเป็นเสน่ห์ของนักลงทุนต่างชาติอยู่
ไหนจะโอลิมปิคในจีนอีก การส่งออกก็ไม่มีท่าทีจะลดฮวบฮาบ
ตัวเลข GDP ก็น่าจะทรงระดับนี้ไปได้อีกหลายปี
แม้จะลดลง แต่ก็คงไม่มากไปกว่านี้เท่าไหรครับ
ดังนั้นเศรษฐกิจอาจเป็นเพียงแค่การเติบโตลดลงบ้าง
แต่ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่จะให้ธุรกิจต่างๆทะยอยปรับตัว
การที่จะทำให้เกิดวิกฤติอย่างปี 2540 จึงไม่น่าจะเกิดในปีนี้และปีหน้ามั้งครับ
.
คงอาจเป็นเพราะต่างคนต่างยุ่งเรื่องงาน
แถมแอบกันไปเที่ยวเตร่พักผ่อนมั้งครับ
เลยขอยืมพื้นที่ที่ TVI สักหน่อยนะครับ
ในการพูดคุย หวังว่าคงไม่ว่ากัน
ผมว่าวิกฤติเศรษฐกิจแบบปี 40
คงจะยังไม่เกิดในปี 48-49 นี้อย่างค่อนข้างแน่ๆครับ
เพราะลองย้อนไปที่ปี 40 ตอนนั้น
มีเรื่องที่ทำให้คนไทย shock หลายเรื่องเช่น
- การลดค่าเงินบาท ซึ่งคนในรัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าไม่ลดแน่
- การปิดสถาบันการเงินกว่าครึ่ง ทำให้คนแตกตื่นอย่างมาก
- การกู้ยืมเงินจากต่างประเทศมามาก แต่เอามาใช้ผิดวัตถุประสงค์
แล้วไม่ได้เตรียมการป้องกันความเสี่ยงในเรื่องค่าเงิน
- NPL แบบมีก็ไม่จ่าย เพื่อหวังไปซื้อหนี้คืนถูกๆ ทำให้ระบบสถาบันการเงินพิกลพิการ
ตัวเลขเศรษฐกิจจากที่เคยเติบโต 7-8% ในช่วงก่อนเกิดวิกฤติ
มาติดลบ1.4% ในปี 2540 และติดลบอย่างแรงถึง 10.5% ในปี 2541
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมเงินพุ่งกันไปถึง 20%
(เงินฝากประจำเท่าที่จำได้ประมาณ 15-18%มั้งครับ)
แต่ปัจจุบันสถานการณ์ที่รุนแรงดังกล่าว ผมยังมองไม่เห็นเลยครับ
น้ำมันขึ้นมาจาก 20 เป็น 58 ก็ยังไม่กระทบมากเท่าไหร พอรับไหว
หนี้ภาคเอกชนก็ยังไม่มาก อัตราแลกเปลี่ยนคิดว่าไม่น่าเป็นห่วงครับ
มีที่เราคุมไม่ได้อยู่แค่ไม่กี่เรื่องเท่าที่ผมพอนึกออกคือ
การเกิดฟองสบู่แตกในจีนและอเมริกาอย่างเฉียบพลัน
เหมือนที่ไทยเคยเจอมาในปี 2540 และอีกทีสมัยพลเอกเปรม
ในช่วงที่ลดค่าเงินบาทเมื่อ 20 กว่าปีได้มั้งครับ(เผอิญช่วงนั้นไม่ทันรับรู้)
และอีกเรื่องน่าจะเป็นสงครามที่ขยายวงกว้างและยืดเยื้อ
ซึ่งผมว่าทั้งสองเรื่องยังไม่น่าจะเกิดในปีนี้และปีหน้าครับ
อย่างเช่นอเมริกา เขาก็พยายามควบคุมอยู่ และตัวเลขเศรษฐกิจภายใน
เขาก็ยังดูดี เพียงแต่ตัวเลขขาดดุลสูงมากเท่านั้น แต่เขาก็พยายามแก้
ทั้งจากการปล่อยค่าเงินดอลล์ค่อยๆอ่อน รวมถึงมาตรการควบคุมการนำเข้าต่างๆ
การบีบจีนในเรื่องค่าเงินเพื่อลดตัวเลขการขาดดุล
ส่วนจีนก็ยังเป็นเสน่ห์ของนักลงทุนต่างชาติอยู่
ไหนจะโอลิมปิคในจีนอีก การส่งออกก็ไม่มีท่าทีจะลดฮวบฮาบ
ตัวเลข GDP ก็น่าจะทรงระดับนี้ไปได้อีกหลายปี
แม้จะลดลง แต่ก็คงไม่มากไปกว่านี้เท่าไหรครับ
ดังนั้นเศรษฐกิจอาจเป็นเพียงแค่การเติบโตลดลงบ้าง
แต่ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่จะให้ธุรกิจต่างๆทะยอยปรับตัว
การที่จะทำให้เกิดวิกฤติอย่างปี 2540 จึงไม่น่าจะเกิดในปีนี้และปีหน้ามั้งครับ
.
- lekapuk
- Verified User
- โพสต์: 82
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 11
เยี่ยมมากค่ะที่ต่อสู้ฝ่าฟันมาได้
ตอนพี่เจอวิกฤตหนูยังอยู่ ม.1 เองนะพี่ ที่บ้านไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไหร่เพราะเน้นห้ามมีหนี้สินเด็ดขาด ทุกอย่างใช้เงินสดส่วนตัวลงทุน จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น พี่เยี่ยมจริงๆที่ผ่านมันมาได้
ตอนพี่เจอวิกฤตหนูยังอยู่ ม.1 เองนะพี่ ที่บ้านไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไหร่เพราะเน้นห้ามมีหนี้สินเด็ดขาด ทุกอย่างใช้เงินสดส่วนตัวลงทุน จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น พี่เยี่ยมจริงๆที่ผ่านมันมาได้
lek
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 12
คุยกับคุณโทโมกิกิ บ้าง คุยกันเวปไหนก็เรียกว่าคุยเหมือนกัน
ทำลายกำแพงได้เมื่อไร เหตุผลที่ไม่ควรปิดกั้นก็จะหายไป
ผมก็ไม่คิดว่าจะแย่เหมือนตอนปี40 แต่ยังไงก็คิดว่าจะมีพวกหนึ่งที่ไม่เคยคิด
หรือแม้แต่จะคิด และไม่เตรียมพร้อมในการต้อนรับวิกฤติ ก็อาจจะหนักกว่าชาวบ้านเค้า
ชีวิตที่ผ่านมา บอกได้คำเดียว ว่าจะไม่เป็นหนี้อีก เพราะมันเป็นทุกข์จริงๆ
ขนาดไม่เป็นหนี้ยังรู้สึกทุกข์เลย วันนี้ :lovl:
ผมมองว่า แม้มันไม่แย่มากๆ แต่ก็น่าจะมีการปรับลดความร้อนแรงลงบ้าง
และเมื่อใด อารมณ์หวั่นไหวคนมันเกิดพร้อมกับDemandที่ลดลง ก็คงจะกลายเป็นทวี
แต่อย่างที่บอก วิกฤติยังไงก็มีโอกาส :lovl:
ผมก็รอโอกาส โรงงานอื่นเจ๊ง แล้วOrderก็จะไหลมาโรงงานผม
(จริงๆมันก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเลย แต่มันก็เป็นสัจธรรม)
วันนี้สำหรับผม ไม่ได้เตรียมตัวแค่ทำให้ธุรกิจเติบโต
แต่รอว่าวันไหน จะเตรียมเลิกธุรกิจด้วย :lovl:
ซักวันหนึ่ง :lovl:
ทำลายกำแพงได้เมื่อไร เหตุผลที่ไม่ควรปิดกั้นก็จะหายไป
ผมก็ไม่คิดว่าจะแย่เหมือนตอนปี40 แต่ยังไงก็คิดว่าจะมีพวกหนึ่งที่ไม่เคยคิด
หรือแม้แต่จะคิด และไม่เตรียมพร้อมในการต้อนรับวิกฤติ ก็อาจจะหนักกว่าชาวบ้านเค้า
ชีวิตที่ผ่านมา บอกได้คำเดียว ว่าจะไม่เป็นหนี้อีก เพราะมันเป็นทุกข์จริงๆ
ขนาดไม่เป็นหนี้ยังรู้สึกทุกข์เลย วันนี้ :lovl:
ผมมองว่า แม้มันไม่แย่มากๆ แต่ก็น่าจะมีการปรับลดความร้อนแรงลงบ้าง
และเมื่อใด อารมณ์หวั่นไหวคนมันเกิดพร้อมกับDemandที่ลดลง ก็คงจะกลายเป็นทวี
แต่อย่างที่บอก วิกฤติยังไงก็มีโอกาส :lovl:
ผมก็รอโอกาส โรงงานอื่นเจ๊ง แล้วOrderก็จะไหลมาโรงงานผม
(จริงๆมันก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเลย แต่มันก็เป็นสัจธรรม)
วันนี้สำหรับผม ไม่ได้เตรียมตัวแค่ทำให้ธุรกิจเติบโต
แต่รอว่าวันไหน จะเตรียมเลิกธุรกิจด้วย :lovl:
ซักวันหนึ่ง :lovl:
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 14
คุยผ่านล่ามชาวไทยก็อย่างนี้แหละนะTOMOKI เขียน:
ดีใจที่ได้คุยกันครับ
.
เลยดูเหมือนนานๆ คุยกันซะที
ฝากคุณโทโมกิเรื่องอ่านเมล์เป็นตัวยึกยือหน่อยนะ
พอดีเห็นกระทู้เก่าๆ ของพี่ครรชิตเค้าเคยเขียนไว้
เอามาฝากเผื่อเป็นกรณีเดียวกันค่ะ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... ght=#88293
- ภรรโยโฟเบีย
- Verified User
- โพสต์: 253
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 15
ดีครับ
เก่งครับ
ทั้งสองท่านเลย
ตามมาเอาความรู้ครับ
เก่งครับ
ทั้งสองท่านเลย
ตามมาเอาความรู้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
ฝ่าวิกฤต รุ่น2 เปิดรับสมัครแล้วหรือยัง
โพสต์ที่ 16
ฝากคุณโทโมกิเรื่องอ่านเมล์เป็นตัวยึกยือหน่อยนะ
พอดีเห็นกระทู้เก่าๆ ของพี่ครรชิตเค้าเคยเขียนไว้
เอามาฝากเผื่อเป็นกรณีเดียวกันค่ะ
อ่านได้แล้วครับ ขอบคุณครับ
แต่ต้องแก้กลับเหมือนเดิม
เพราะเมลอื่นๆอ่านไม่ได้
เอาไว้ส่งเมลมาแล้วค่อยแก้
เป็นครั้งๆไปนะครับ
ป.ล.ฝากบอกคุณนันด้วยนะว่า
กล้าให้ผม 40%เลยหรือครับ
พูดเล่นนะครับ
ส่วนพี่ภรรเมีย มาชมกันเอง ระวังคนที่นี่เขาเคืองเอานะครับ
.