ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1070
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 32
+1Warantact เขียน:ซื้อสินทรัพย์ 1$ ในราคา 0.50$ มีแค่นี้หละ
ไม่มีไรแล้ว หมดแล้วจริงๆ ทำได้แค่นี้ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้ว
แล้วรอมันวิ่งไป ที่ 1$ หรือมากกว่า ก้อขายทิ้ง
The One
-
- Verified User
- โพสต์: 1070
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 33
แก่นของ VI จากหนังสือ 2 เล่มนี้ สามารถสรุป หลักการลงทุนและวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้เป็น 4 ข้อใหญ่ๆ คือ
1) เวลาลงทุนซื้อหุ้น ให้คิดเหมือนกับว่าเรากำลังจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องคิดว่า เรากำลังเข้าเป็นหุ้นส่วนกับเขา เมื่อเราคิดแบบนี้ เราก็จะต้องวิเคราะห์ว่าธุรกิจของเขาทำอะไร สินค้าเป็นอย่างไร ยอดขายเป็นอย่างไร มีกำไรดีไหม ฐานะการเงินเป็นอย่างไร มีหนี้มากน้อยแค่ไหน ธุรกิจมีความสม่ำเสมอไหม ธุรกิจมีการเติบหรือไม่และจะเติบโตต่อไปหรือเปล่า และจะเติบโตต่อไปอีกนานเท่าไร ที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผู้บริหารมีความน่าเชื่อถือหรือเปล่า ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับราคาหุ้นที่ขึ้นลงหวือหวาที่นักเล่นหุ้นมักจะดูก่อนที่จะเข้ามาซื้อขายหุ้นเลย พูดง่ายๆ ถ้าเป็น Value Investment “ธุรกิจต้องมาก่อน”
2) หา “มูลค่าที่แท้จริง” ของธุรกิจหรือหุ้นที่เราวิเคราะห์ มูลค่าที่แท้จริงหรือ Intrinsic Value นั้น หาได้จากการคิดส่วนลดเงินสดที่เราจะได้รับในอนาคต นี่ก็คือการหามูลค่าทางทฤษฎีซึ่ง ค่อนข้างยุ่งยากมากสำหรับนักลงทุนทั่วๆไป แต่ในทางปฏิบัติเราก็มักจะใช้ค่า PE หรือราคาต่อกำไรต่อหุ้น หรือ ค่า PB หรือ กำไรต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี มาเป็นตัววัดว่าหุ้นมีราคาแพงหรือถูก หรือหุ้นควรมีราคาที่เหมาะสมเท่าไร
3) ซื้อหรือขายหุ้น ต่อเมื่อมีส่วนต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงกับราคาหุ้นในตลาด เพราะในที่สุดแล้ว ราคาหุ้นในตลาดจะวิ่งไปที่มูลค่าที่แท้จริง พูดให้เฉพาะขึ้นก็คือ ถ้าราคาหุ้นในตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมาก โอกาสที่เราจะกำไรก็จะสูง และโอกาสที่จะขาดทุนก็จะน้อย หรือเรียกว่าเรามีการ “เผื่อความปลอดภัย” สูง ในภาษาของ Value Investor ก็คือ เรามี Margin Of Safety สูง
4) ตลาดหุ้นนั้น เป็นที่ที่จะรับใช้เราไม่ใช่คนที่จะมาสั่งว่าเราจะต้องทำอะไร โดยส่วนใหญ่แล้ว ตลาดหุ้นสามารถกำหนดราคาธุรกิจหรือหุ้นต่างๆในตลาดได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม มีช่วงเวลาที่ตลาดให้ราคาหุ้นสูงหรือต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมาก หน้าที่ของนักลงทุนก็คือ ค้นหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่ามากๆ ซื้อแล้วเก็บไว้รอจนราคาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงจึงขายออกไป และนี่คือแนวความคิดว่าตลาดหุ้นเป็น “ผู้รับใช้” ส่วนแนวความคิดว่าตลาดเป็น “ผู้สั่ง” เรานั้น หมายความว่า เราตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นโดยดูจากการขึ้นลงของราคาหุ้น โดยที่เราไม่ได้คำนึงถึงพื้นฐานหรือมูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจเลย
ทั้ง 4 ข้อนั้น ก็คือ “แก่น” ของ VI ซึ่ง “ทนทานต่อกาลเวลา” นั่นคือ เป็นหลักการที่ไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะเกิดขึ้นมานานมากแล้ว ส่วน “รายละเอียด” อื่นๆนั้น มีการแตกแขนงออกไปมากมาย บางทีถ้ามีคุณลักษณะที่ชัดเจนเราก็เรียกมันว่าเป็น “สไตล์” เช่น สไตล์แบบ “ก้นบุหรี่” ที่เน้นหุ้นที่มีราคาถูกเป็นพิเศษ และสไตล์แบบ “บัฟเฟตต์” ที่เน้นหุ้นที่มีคุณภาพทางธุรกิจสูงมาก
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน สิ่งที่ทุกสไตล์จะต้องยึดถือเหมือนกันก็คือ “แก่น” ของ VI ดังกล่าว ถ้าจะเปรียบเทียบแก่นของ VI ก็เหมือนกับฐานรากของอาคารที่คอยรับน้ำหนักไม่ให้ตัวอาคารเสียหาย ถ้าฐานไม่แน่น โอกาสที่ตัวอาคารจะทรุดหรือถล่มก็จะสูงขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าเราจะใช้สไตล์ไหนหรือมีสไตล์ของตัวเอง ถ้าเราจะเป็น Value Investor แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ เราจะต้องยึดถือ “แก่นของ VI” เสมอ
แก่นของ VI
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
Tuesday, 11 December 2007
จบ มะ...... คริคริ
1) เวลาลงทุนซื้อหุ้น ให้คิดเหมือนกับว่าเรากำลังจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องคิดว่า เรากำลังเข้าเป็นหุ้นส่วนกับเขา เมื่อเราคิดแบบนี้ เราก็จะต้องวิเคราะห์ว่าธุรกิจของเขาทำอะไร สินค้าเป็นอย่างไร ยอดขายเป็นอย่างไร มีกำไรดีไหม ฐานะการเงินเป็นอย่างไร มีหนี้มากน้อยแค่ไหน ธุรกิจมีความสม่ำเสมอไหม ธุรกิจมีการเติบหรือไม่และจะเติบโตต่อไปหรือเปล่า และจะเติบโตต่อไปอีกนานเท่าไร ที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผู้บริหารมีความน่าเชื่อถือหรือเปล่า ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับราคาหุ้นที่ขึ้นลงหวือหวาที่นักเล่นหุ้นมักจะดูก่อนที่จะเข้ามาซื้อขายหุ้นเลย พูดง่ายๆ ถ้าเป็น Value Investment “ธุรกิจต้องมาก่อน”
2) หา “มูลค่าที่แท้จริง” ของธุรกิจหรือหุ้นที่เราวิเคราะห์ มูลค่าที่แท้จริงหรือ Intrinsic Value นั้น หาได้จากการคิดส่วนลดเงินสดที่เราจะได้รับในอนาคต นี่ก็คือการหามูลค่าทางทฤษฎีซึ่ง ค่อนข้างยุ่งยากมากสำหรับนักลงทุนทั่วๆไป แต่ในทางปฏิบัติเราก็มักจะใช้ค่า PE หรือราคาต่อกำไรต่อหุ้น หรือ ค่า PB หรือ กำไรต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี มาเป็นตัววัดว่าหุ้นมีราคาแพงหรือถูก หรือหุ้นควรมีราคาที่เหมาะสมเท่าไร
3) ซื้อหรือขายหุ้น ต่อเมื่อมีส่วนต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงกับราคาหุ้นในตลาด เพราะในที่สุดแล้ว ราคาหุ้นในตลาดจะวิ่งไปที่มูลค่าที่แท้จริง พูดให้เฉพาะขึ้นก็คือ ถ้าราคาหุ้นในตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมาก โอกาสที่เราจะกำไรก็จะสูง และโอกาสที่จะขาดทุนก็จะน้อย หรือเรียกว่าเรามีการ “เผื่อความปลอดภัย” สูง ในภาษาของ Value Investor ก็คือ เรามี Margin Of Safety สูง
4) ตลาดหุ้นนั้น เป็นที่ที่จะรับใช้เราไม่ใช่คนที่จะมาสั่งว่าเราจะต้องทำอะไร โดยส่วนใหญ่แล้ว ตลาดหุ้นสามารถกำหนดราคาธุรกิจหรือหุ้นต่างๆในตลาดได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม มีช่วงเวลาที่ตลาดให้ราคาหุ้นสูงหรือต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมาก หน้าที่ของนักลงทุนก็คือ ค้นหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่ามากๆ ซื้อแล้วเก็บไว้รอจนราคาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงจึงขายออกไป และนี่คือแนวความคิดว่าตลาดหุ้นเป็น “ผู้รับใช้” ส่วนแนวความคิดว่าตลาดเป็น “ผู้สั่ง” เรานั้น หมายความว่า เราตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นโดยดูจากการขึ้นลงของราคาหุ้น โดยที่เราไม่ได้คำนึงถึงพื้นฐานหรือมูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจเลย
ทั้ง 4 ข้อนั้น ก็คือ “แก่น” ของ VI ซึ่ง “ทนทานต่อกาลเวลา” นั่นคือ เป็นหลักการที่ไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะเกิดขึ้นมานานมากแล้ว ส่วน “รายละเอียด” อื่นๆนั้น มีการแตกแขนงออกไปมากมาย บางทีถ้ามีคุณลักษณะที่ชัดเจนเราก็เรียกมันว่าเป็น “สไตล์” เช่น สไตล์แบบ “ก้นบุหรี่” ที่เน้นหุ้นที่มีราคาถูกเป็นพิเศษ และสไตล์แบบ “บัฟเฟตต์” ที่เน้นหุ้นที่มีคุณภาพทางธุรกิจสูงมาก
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน สิ่งที่ทุกสไตล์จะต้องยึดถือเหมือนกันก็คือ “แก่น” ของ VI ดังกล่าว ถ้าจะเปรียบเทียบแก่นของ VI ก็เหมือนกับฐานรากของอาคารที่คอยรับน้ำหนักไม่ให้ตัวอาคารเสียหาย ถ้าฐานไม่แน่น โอกาสที่ตัวอาคารจะทรุดหรือถล่มก็จะสูงขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าเราจะใช้สไตล์ไหนหรือมีสไตล์ของตัวเอง ถ้าเราจะเป็น Value Investor แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ เราจะต้องยึดถือ “แก่นของ VI” เสมอ
แก่นของ VI
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
Tuesday, 11 December 2007
จบ มะ...... คริคริ
The One
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 34
Likhit เขียน:ไอ้แสงเฮาก้วงนี่มันคืออะไรครับchukieat30 เขียน:ถ้าเรามองแบบเอียงๆๆ
เราอาจหลงไหลในแสงเฮาก้วงครับ
เรียกตามประสาฝรั่งว่า แสงออร่าครับ มันคือแสงที่ทำให้สิ่งที่มองถูกบิดเบี้ยวไป
ทำให้มองเห็นว่าดี หรือ แย่ ผิดปกติ
แต่ผมว่า แสงออร่าเนี่ยผมได้ในหนังอุลตร้าแมนครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 35
การบิดเบือนไปหมายถึง การไม่คงรูปเดิม การเปลี่ยนแปลง
ไม่ว่าจะเกิดในรูปที่ดีหรือไม่ดี
ทั้งโดยฝีมือคนปล่อยข่าว จิตใจของนักลงทุน และจากคนรอบๆๆตัว
VI เราก้เหมือนนักเล่นพระที่เดินตลาดนัด (ตามนั้น)เกิดไปเช่าพระแท้มาได้ราคาถูกกว่าคนอื่น
แต่ดัน ไปเชื่อเพื่อนว่าพระไม่ดี หรือ ไปเชื่อข่าวว่าพระที่เช่ามาปลอม
ในที่สุดก้จะปล่อยเช่าถูกๆๆไป
แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป ข่าวก้จะออกมาว่า พระองค์ที่เช่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้
ไอ้เพื่อนตัวดี ก้มาบอกว่า โทษทีนะ(ดูผิดไป คนละองค์กัน)
ราคาก้ถูกอัพเสียจน เราไม่มีโอกาศได้ไปเช่าอีกรอบ และก้ต้องปล่อยเลยตามเลยไป
แสนเสียดายไหมหล่ะ
ถ้าคิดว่าของแท้ก้ ห้อยคอไว้ดีๆๆระวัง โจรมันจะมาหลอกซื้อถูกๆ ของดีๆๆมีไม่มาก
หมดแล้วก้หมดเลย
นี่แหล่ะ แสงเฮาก้วง
ไม่ว่าจะเกิดในรูปที่ดีหรือไม่ดี
ทั้งโดยฝีมือคนปล่อยข่าว จิตใจของนักลงทุน และจากคนรอบๆๆตัว
VI เราก้เหมือนนักเล่นพระที่เดินตลาดนัด (ตามนั้น)เกิดไปเช่าพระแท้มาได้ราคาถูกกว่าคนอื่น
แต่ดัน ไปเชื่อเพื่อนว่าพระไม่ดี หรือ ไปเชื่อข่าวว่าพระที่เช่ามาปลอม
ในที่สุดก้จะปล่อยเช่าถูกๆๆไป
แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป ข่าวก้จะออกมาว่า พระองค์ที่เช่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้
ไอ้เพื่อนตัวดี ก้มาบอกว่า โทษทีนะ(ดูผิดไป คนละองค์กัน)
ราคาก้ถูกอัพเสียจน เราไม่มีโอกาศได้ไปเช่าอีกรอบ และก้ต้องปล่อยเลยตามเลยไป
แสนเสียดายไหมหล่ะ
ถ้าคิดว่าของแท้ก้ ห้อยคอไว้ดีๆๆระวัง โจรมันจะมาหลอกซื้อถูกๆ ของดีๆๆมีไม่มาก
หมดแล้วก้หมดเลย
นี่แหล่ะ แสงเฮาก้วง
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 36
ขออนุญาตออกความเห็นนะครับ
ผมคิดว่าหัวใจของ Value Investing คือ ความคุ้มค่ากับความปลอดภัยในการลงทุนครับ
ผมคิดว่าหัวใจของ Value Investing คือ ความคุ้มค่ากับความปลอดภัยในการลงทุนครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 37
กฏเหล็ก 7ข้อ ของพ่อค้า อ่านแล้วคิด คิดแล้วเปรียบเทียบ แล้วจะกระจ่างในตลาดทุนครับ
1.พ่อค้าเวลาจะขายของคนอื่น ไม่เคยบอกของที่จะขายนั้นไม่ดี ดีหมด เพื่ออัพราคาของ
2.เวลาพ่อค้าจะซื้อของคนอื่น ต้องบอกราคาที่ถูกกว่าราคาที่แท้จริง เพื่อซื้อได้ถูก
3.พ่อค้าไม่เคยขายของโดยไม่มีกำไร
4.พ่อค้ามักรู้ดีว่า มูลค่าที่แท้จริงของสินค้า ควรจะอยู่ที่กี่บาท
5.พ่อค้ามักหูไวตาไว รู้ว่าสิ่งใดในอนาคตจะขึ้นราคาก้จะตุนแต่ของนั้น
6.พ่อค้ามักรวมตัวกัน ยามจะขอขึ้นราคาสินค้านั้นๆๆ
7.เพราะพ่อค้ามีหลายระดับ ตั่วปั๊ว ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว สี่ปั๊ว ดังนั้น ลำดับสุดท้ายของวัฏจักร
ก้คือ ลูกค้า (ซื้อไปใช้ ไม่ได้ซื้อไปขาย)
เพราะซัพเซทมันไม่ยาก เราตอ้งมองซัพเซทใหญ่ให้ออกมากกว่าซัพเซทย่อย
แพ้ศึกแต่ชนะสงคราม ย่อมถือว่า ชนะ เพราะประวัติศาสตร์ของทุกประเทศ เขียนโดยผู้ชนะ
1.พ่อค้าเวลาจะขายของคนอื่น ไม่เคยบอกของที่จะขายนั้นไม่ดี ดีหมด เพื่ออัพราคาของ
2.เวลาพ่อค้าจะซื้อของคนอื่น ต้องบอกราคาที่ถูกกว่าราคาที่แท้จริง เพื่อซื้อได้ถูก
3.พ่อค้าไม่เคยขายของโดยไม่มีกำไร
4.พ่อค้ามักรู้ดีว่า มูลค่าที่แท้จริงของสินค้า ควรจะอยู่ที่กี่บาท
5.พ่อค้ามักหูไวตาไว รู้ว่าสิ่งใดในอนาคตจะขึ้นราคาก้จะตุนแต่ของนั้น
6.พ่อค้ามักรวมตัวกัน ยามจะขอขึ้นราคาสินค้านั้นๆๆ
7.เพราะพ่อค้ามีหลายระดับ ตั่วปั๊ว ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว สี่ปั๊ว ดังนั้น ลำดับสุดท้ายของวัฏจักร
ก้คือ ลูกค้า (ซื้อไปใช้ ไม่ได้ซื้อไปขาย)
เพราะซัพเซทมันไม่ยาก เราตอ้งมองซัพเซทใหญ่ให้ออกมากกว่าซัพเซทย่อย
แพ้ศึกแต่ชนะสงคราม ย่อมถือว่า ชนะ เพราะประวัติศาสตร์ของทุกประเทศ เขียนโดยผู้ชนะ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 39
ถ้าเราตัดความรู้สึกออกจากเงินที่เราลงทุนได้ แค่นี้ก็สุดยอดแล้วครับ เพราะเดี๋ยวอย่างอื่นจะตามมาเอง
ชอบศึกษาหุ้นเชิงวิชาการมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 600
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 40
มองการลงทุนเป็นธุรกิจ แต่อย่ามองว่าเป็นเจ้าของธุรกิจ
-
- Verified User
- โพสต์: 2686
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 41
“We insist on a margin of safety in our purchase price. If we calculate the value of a common stock to be only slightly higher than its price, we’re not interested in buying. We believe this margin-of-safety principle, so strongly emphasized by Ben Graham, to be the cornerstone of investment success.”
- Warren Buffett
“Confronted with a challenge to distill the secret of sound investment into three words, we venture the motto, Margin of Safety.” - Ben Graham
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 43
Mp808 เขียน:"Buy and hold investors make a bet, stay with it, and if it goes wrong, they lose it all." - Jesse Livermore
^^ budda would say
"SON , MIDDLE PATH!!!!!!!!!!!"
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 44
multipleceilings เขียน:Mp808 เขียน:"Buy and hold investors make a bet, stay with it, and if it goes wrong, they lose it all." - Jesse Livermore
^^ budda would say
"SON , MIDDLE PATH!!!!!!!!!!!"
Like+++ chabu chabu
SON , MIDDLE PATH! เข้าใจคิดดีครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- untrataro25
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ
โพสต์ที่ 46
MOS and Under value
"เพราะเรียบง่าย จึงชนะ"