ผมอยากทราบว่า หัวใจของ วีไอ หรือแก่นจริงๆ มันคืออะไรครับ

[Likhit]

อยากรู้ว่าคนที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นวีไอ ตกผลึกทางความคิดกันอย่างไรครับ

[blueplanet]

คาดคเนรายได้ และกำไร ของธุรกิจได้
และยิ่งคาดคะเนได้มากหลายๆปียิ่งดี

[chukieat30]

อยากรู้ว่าคนที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นวีไอ ตกผลึกทางความคิดกันอย่างไรครับ

แล้วพี่ลิขิต มองว่าไงครับ

ผมอยากฟังมุมมองพี่ลิขิต เอกมงคล

[Likhit]

อยากรู้ว่าคนที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นวีไอ ตกผลึกทางความคิดกันอย่างไรครับ

แล้วพี่ลิขิต มองว่าไงครับ

ผมอยากฟังมุมมองพี่ลิขิต เอกมงคล

หา ว่าไงน๊า พี่ชูวิทย์

[chukieat30]

อยากรู้ว่าคนที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นวีไอ ตกผลึกทางความคิดกันอย่างไรครับ

แล้วพี่ลิขิต มองว่าไงครับ

ผมอยากฟังมุมมองพี่ลิขิต เอกมงคล

หา ว่าไงน๊า พี่ชูวิทย์

อยากได้อ่างทั่วประเทศเลือกผมนะครับ

[chukieat30]

กลายเป็น คาเฟ่ ซะง้ัน

พี่ๆอย่าโยนมุขมาก

[harikung]

สำหรับผมสรุปได้ประโยคส่้นๆง่ายๆเลยครับ viคือการลงทุนระยะยาวในบริษัทที่มีคุณภาพและในราคาที่เหมาะสม อ่อ แล้วต้องEQสูงพอสมควรนะครับ ไม่หวั่นไหวต่อราคาที่ขึ้นลงหรือโลภไปซื้อหุ้นที่ชาวบ้านกำลังฮิตแต่ตัวเองยังไม่มีความรู้ในบริษัทนั้นเลย

[Warantact]

ซื้อสินทรัพย์ 1$ ในราคา 0.50$ มีแค่นี้หละ
ไม่มีไรแล้ว หมดแล้วจริงๆ ทำได้แค่นี้ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้ว

[Notelio]

มองสิ่งที่เราซื้อว่าเป็นธุรกิจของเรา มองให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นมูลค่าจริงๆ ของบริษัท ไม่ใช่ราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวขึ้นลง หุ้นทุกตัวกิจการทุกประเภทมีมูลค่าที่เหมาะสมของมันซึ่งซ่อนอยู่ในงบการเงินหรือผลประกอบการในอนาคตอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องทำคือมองมูลค่าที่แท้จริงให้ออก เปรียบเทียบกับราคาในกระดานว่ายังมี MOS อยู่ระดับไหน ประเมินโอกาสความน่าจะเป็นรวมทั้งความเสี่ยงออกมา และก็ถือกิจการของเราไปจนกว่าสิ่งที่เราประเมินจะเปลี่ยนไป หรือเจอกิจการอื่นที่มีโอกาสในการเติบโตมากกว่า

[leonleon]

คือการลงทุนซื้อส่วนหนึ่งของกิจการที่ดี ในราคาที่เหมาะสม(ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง)
และถือไว้ตราบเท่าที่ยังเป็นกิจการที่ดี(พื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง)

แค่นี้จริงๆนะ

[สาวกเซเลบ]

สาวกก็คิดเหมือนพี่ ๆ ที่โพสต์ไว้ข้างบนนี่แหละคับ

แต่ไม่รู้คิดไปคนเดียวหรืเปล่า เด๋วนี้สาวกหาคนที่ทำตามแก่นที่อ้าง ๆ กันไม่ค่อยจะมีเลย แบบว่าโพสต์อย่าง แต่ความจริงทำอีกอย่าง ...

หนูล่ะงงมาก

[saichon]

อยากรู้ว่าคนที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นวีไอ ตกผลึกทางความคิดกันอย่างไรครับ

ตัวผมเองยังอยู่ก้ำกึ่งระหว่าง CI กับ VI แต่หัวใจหลักที่ผมยึดถือในการลงทุนคือ
ซื้อหุ้นตัวที่ ราคาหุ้นยังถูกกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น ครับ

[naijan]

หุ้นดี ราคาถูก อดทน มีวินัย
ตีความให้กระจ่าง ว่าหุ้นดี หมายถึงอะไร
ราคาถูกหมายถึงอะไร
ต้องอดทนและมีวินัย
vi เป็นมากกว่าการลงทุน มันเป็นปรัชญาชีวิต

[blackninja]

ผมว่าตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน โดยมองว่าเป็นการลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของกิจการก็น่าจะเรียกว่า vi แล้วนะครับ ส่วนจะประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นประกอบครับ

[coffee.tum]

ผมอาจจะยังใหม่มากๆ กับ VI



แต่สำหรับผม VI คือ.....

ลงทุนในบริษัทที่มีมูลต่ำกว่า มูลค่าที่แท้จริง(เราต้องประเมินเอง)

และถือจนกว่าพื้นฐานของบริษัทที่เราลงทุนจะเปลี่ยน (ราคาหุ้นแพงจนเกินความเป็นจริงมากๆ)

แต่การจะหาบริษัทใด สักบริษัทเราต้องทำการบ้าน หนักเอามากๆ

แต่ผลลัพธ์ของการงานหนัก ก็จะทำให้เรายิ้มได้ครับ........

[chukieat30]

เห็นที่สินธร มีนักเล่น VI ดับเบิ้ล

เค้าเรียกกันว่า ไวไว อร่อยไม่ต้องปรุง


เจ้าของปอทิดสะดีคือ พี่สี่โมงเย็น บางทีก้ไวไว บางทีก้ควิก

ผมเห็นแล้ว อื้อ อร่อย

[หนุ่มVI]

ขอนำบทความของท่านอาจารย์ดร. นิเวศน์ มาให้อ่านกันนะครับ

"แก่นของ VI"

แก่นของ VI
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 ธันวาคม 2550

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับ Value Investment มานานมาก ตั้งแต่ยังแทบไม่มีคนในตลาดหุ้นไทยรู้จักจนเดี๋ยวนี้ Value Investment เป็นหลักการลงทุนที่เป็นที่ยอมรับและหนังสือพิมพ์สามารถเขียนเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าโดยไม่ต้องบอกว่ามันคือการลงทุนอย่างไรแล้ว แต่พอมานึกดูว่า อะไรคือหัวใจ หรือ แก่นของ Value Investment จริง ๆ ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะตอบไม่ได้ ดังนั้น ผมจึงถือโอกาสนี้ทบทวนความคิดเรื่องนี้

แก่นของ Value Investment ที่ผมจะพูดถึงนี้ แน่นอน มาจากสาระสำคัญของหนังสือคลาสสิค 2 เล่มของ เบน เกรแฮม “บิดาแห่ง Value Investment” คือ Security Analysis ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1934 และ Intelligent Investor ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1949 โดยที่เล่มหลังนี้เป็นเล่มต่อจากเล่มแรกและเขียนสำหรับคนอ่านทั่ว ๆ ไปแทนที่จะเพื่อคนที่เป็นมืออาชีพหรือนักวิชาการอย่างเล่มแรก

แก่นของ VI จากหนังสือ 2 เล่ม นี้ สามารถสรุปหลักการลงทุนและวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้เป็น 4 ข้อใหญ่ ๆ คือ
1) เวลาลงทุนซื้อหุ้น ให้คิดเหมือนกับว่าเรากำลังจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องคิดว่า เรากำลังเข้าเป็นหุ้นส่วนกับเขา เมื่อเราคิดแบบนี้ เราก็จะต้องวิเคราะห์ว่าธุรกิจของเขาทำอะไร สินค้าเป็นอย่างไร ยอดขายเป็นอย่างไร มีกำไรดีไหม ฐานะการเงินเป็นอย่างไร มีหนี้มากน้อยแค่ไหน ธุรกิจมีความสม่ำเสมอไหม ธุรกิจมีการเติบโตหรือไม่และจะเติบโตต่อไปหรือเปล่าและจะเติบโตต่อไปอีกนานเท่าไร ที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผู้บริหารมีความน่าเชื่อถือหรือเปล่า ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับราคาหุ้นที่ขึ้นลงหวือหวาที่นักเล่นหุ้นมักจะดูก่อนที่จะเข้ามาซื้อขายหุ้นเลย พูดง่าย ๆ ถ้าเป็น Value Investment “ธุรกิจต้องมาก่อน”

2) หา “มูลค่าที่แท้จริง” ของธุรกิจหรือหุ้นที่เราวิเคราะห์ มูลค่าที่แท้จริงหรือ Intrinsic Value นั้น หาได้จากการคิดส่วนลดเงินสดที่เราจะได้รับในอนาคต นี่ก็คือการหามูลค่าทางทฤษฎีซึ่งค่อนข้างยุ่งยากมากสำหรับนักลงทุนทั่ว ๆ ไป แต่ในทางปฏิบัติเราก็มักจะใช้ค่า PE หรือราคาต่อกำไรต่อหุ้น หรือ ค่า PB หรือ กำไรต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี มาเป็นตัววัดว่าหุ้นมีราคาแพงหรือถูกหรือหุ้นควรมีราคาที่เหมาะสมเท่าไร
3) ซื้อหรือขายหุ้นต่อเมื่อมีส่วนต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงกับราคาหุ้นในตลาด เพราะในที่สุดแล้ว ราคาหุ้นในตลาดจะวิ่งไปที่มูลค่าที่แท้จริง พูดให้เฉพาะขึ้นก็คือ ถ้าราคาหุ้นในตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมาก โอกาสที่เราจะกำไรก็จะสูงและโอกาสที่จะขาดทุนก็จะน้อย หรือเรียกว่าเรามีการ “เผื่อความปลอดภัย” สูง ในภาษาของ Value Investor ก็คือ เรามี Margin Of Safety สูง

4) ตลาดหุ้นนั้น เป็นที่ที่จะรับใช้เราไม่ใช่คนที่จะมาสั่งว่าเราจะต้องทำอะไร โดยส่วนใหญ่แล้ว ตลาดหุ้นสามารถกำหนดราคาธุรกิจหรือหุ้นต่าง ๆ ในตลาดได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม มีช่วงเวลาที่ตลาดให้ราคาหุ้นสูงหรือต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมาก หน้าที่ของนักลงทุนก็คือ ค้นหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่ามาก ๆ ซื้อแล้วเก็บไว้รอจนราคาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงจึงขายออกไป และนี่คือแนวความคิดว่าตลาดหุ้นเป็น “ผู้รับใช้” ส่วนแนวความคิดว่าตลาดเป็น “ผู้สั่ง” เรานั้น หมายความว่า เราตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นโดยดูจากการขึ้นลงของราคาหุ้นโดยที่เราไม่ได้คำนึงถึงพื้นฐานหรือมูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจเลย

ทั้ง 4 ข้อนั้นก็คือ “แก่น” ของ VI ซึ่ง “ทนทานต่อกาลเวลา” นั่นคือเป็นหลักการที่ไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะเกิดขึ้นมานานมากแล้ว ส่วน “รายละเอียด” อื่น ๆ นั้น มีการแตกแขนงออกไปมากมาย บางทีถ้ามีคุณลักษณะที่ชัดเจนเราก็เรียกมันว่าเป็น “สไตล์” เช่น สไตล์แบบ “ก้นบุหรี่” ที่เน้นหุ้นที่มีราคาถูกเป็นพิเศษ และสไตล์แบบ “บัฟเฟตต์” ที่เน้นหุ้นที่มีคุณภาพทางธุรกิจสูงมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน สิ่งที่ทุกสไตล์จะต้องยึดถือเหมือนกันก็คือ “แก่น” ของ VI ดังกล่าว ถ้าจะเปรียบเทียบ แก่นของ VI ก็เหมือนกับฐานรากของอาคารที่คอยรับน้ำหนักไม่ให้ตัวอาคารเสียหาย ถ้าฐานไม่แน่น โอกาสที่ตัวอาคารจะทรุดหรือถล่มก็จะสูงขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าเราจะใช้สไตล์ไหนหรือมีสไตล์ของตัวเอง ถ้าเราจะเป็น Value Investor แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ เราจะต้องยึดถือ “แก่นของ VI” เสมอ

[gorillaz]

ความคิดที่ว่าเราเป็นเจ้าของกิจการไปกับมัน
ผมว่าคนที่ "ลงทุน"จริงๆ ไม่ใช่เก็งกำไร น่าจะต้องคิดทุกคนอยู่แล้วนะ ไม่เฉพาะว่าเป็น VI

[gorillaz]

หุ้นดี ราคาถูก อดทน มีวินัย
ตีความให้กระจ่าง ว่าหุ้นดี หมายถึงอะไร
ราคาถูกหมายถึงอะไร
ต้องอดทนและมีวินัย
vi เป็นมากกว่าการลงทุน มันเป็นปรัชญาชีวิต

ผมยังเคยคิดเลยนะว่า
คนที่เข้าใจในตัวชีวิตแล้วเนี่ย มาเรียนรู้เรื่องตัวเลขเพิ่มเติมนิดหน่อยก็น่าจะประสบความสำเร็จได้แล้วนะ
ไม่ต้องรวย 100ล้าน 1000ล้าน หรอก แค่เรามีความสุขก็พอแล้ว

[picatos]

ซื้อสินทรัพย์ 1$ ในราคา 0.50$ มีแค่นี้หละ
ไม่มีไรแล้ว หมดแล้วจริงๆ ทำได้แค่นี้ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้ว

+1

เห็นด้วยว่า ไม่มีอะไร แก่นมันมีแค่นี้จริงๆ นะ... ที่เหลือเป็นการเอาศาสตร์อย่างอื่นมา apply

[พ่อน้องเพชร]

ผมว่ามี3คำ mos dca นายตลาด

[jo7393]

ซื้อสินทรัพย์ 1$ ในราคา 0.50$ มีแค่นี้หละ
ไม่มีไรแล้ว หมดแล้วจริงๆ ทำได้แค่นี้ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้ว

+1

เห็นด้วยว่า ไม่มีอะไร แก่นมันมีแค่นี้จริงๆ นะ... ที่เหลือเป็นการเอาศาสตร์อย่างอื่นมา apply

ประเด็นสำคัญอยู่ที่จะหามูลค่า 1$ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำได้ไหมคับ สิบคนหาไม่เท่ากันสักคน

[ccc111]

ซื้อสินทรัพย์ 1$ ในราคา 0.50$ มีแค่นี้หละ
ไม่มีไรแล้ว หมดแล้วจริงๆ ทำได้แค่นี้ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้ว

+1

เห็นด้วยว่า ไม่มีอะไร แก่นมันมีแค่นี้จริงๆ นะ... ที่เหลือเป็นการเอาศาสตร์อย่างอื่นมา apply

เมื่อเวลาผ่านไปสินทรัพย์นั้น อาจจะมีมูลค่าเหลือไม่ถึง 0.50 $ ก็ได้นะ
ถ้าสินทรัพย์นั้นเป็นสินทรัพย์ที่ด้อยคุณภาพ

สำหรับผม การลงทุนที่ดีคือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่เราพอใจ
เมื่อเทียบกับต้นทุนที่ลงไป

ของจะถูกจะแพงไม่สำคัญเท่าไรนัก ถ้าให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ

[reiter]

undervalue

[กาละมัง]

ซื้อสินทรัพย์ 1$ ในราคา 0.50$ มีแค่นี้หละ
ไม่มีไรแล้ว หมดแล้วจริงๆ ทำได้แค่นี้ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้ว

เมื่อเวลาผ่านไปสินทรัพย์นั้น อาจจะมีมูลค่าเหลือไม่ถึง 0.50 $ ก็ได้นะ
ถ้าสินทรัพย์นั้นเป็นสินทรัพย์ที่ด้อยคุณภาพ

ผมว่าหลักการเขาถูกต้องแล้ว ที่ว่าต่อมาเหลือ 0.5 $ แสดงว่าประเมินราคาไม่ถูกต้อง ให้ overvalue ไม่เกี่ยวกับหลักการ

[chukieat30]

undervalue

+100

ครับพี่

[chukieat30]

สำหรับผม แก่นของวีไอ คือ การมองเห็นกิจการแบบมองด้วยธรรมชาติครับ

ไม่ใส่สีแต่งเติม และ มองแบบ bias และซื้อกิจการนั้นตั้งแต่ยังไม่มีคนสนใจ

ดีก้ว่าดี แย่ก้ว่าแย่

เหมือนหาเพชรในโคลนครับ เพชรที่หล่นลงไปในโคลนก้แยกยาก

แต่ถ้า แยกออกได้มันก้คุ้ม ที่จะได้เพชรครับ

ผมมองแบบนี้แหล่ะ บางทีเค้าเรียก เหวง

[chukieat30]

ถ้าเรามองแบบเอียงๆๆ

เราอาจหลงไหลในแสงเฮาก้วงครับ

[simplelife]

Speculation is an effort, probably unsuccessful, to turn a little money into a lot. Investment is an effort, which should be successful, to prevent a lot of money from becoming a little. -- Fred Schwed

[Likhit]

ถ้าเรามองแบบเอียงๆๆ

เราอาจหลงไหลในแสงเฮาก้วงครับ

ไอ้แสงเฮาก้วงนี่มันคืออะไรครับ