|0 คอมเมนต์
Jeng เขียน:อืม โป้งอยู่ไหน น่าจะมาประท้วงม.สงขลานะ
"13เมษาฯ"วันเดียว ตาย79ศพกรุง-โคราชแชมป์
ยอดดับ 6 วัน 311 มือน้ำกรดจนมุม 2โจ ๋คึกคะนอง
ชุ่มฉ่ำ-นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างฉีดน้ำใส่กันอย่างครึกครื้นแน่นถนนข้าวสาร เมื่อวันที่ 14 เม.ย. โดยตำรวจสน.ชนะสงครามออกตรวจเข้ม ห้ามใช้ท่อน้ำพีวีซี และห้ามผู้หญิงสวมเสื้อสายเดี่ยวเข้าเด็ดขาด
ยอดตายสงกรานต์เพิ่มขึ้นไม่หยุด แค่ 13 เมษาฯ วันเดียวดับถึง 79 ศพ สถิติมากกว่าปีที่แล้ว ขณะที่ยอดรวม 6 วัน ตายแล้ว 311 ศพ บาดเจ็บกว่า 8 พันราย กทม.กับโคราชแชมป์ สาเหตุหลักมาจากเมาแล้วขับ และขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อก ส่วนบรรยากาศในที่ต่างๆ ถนนข้าวสารยังสาดน้ำประแป้งคึกคัก 11 โจ๋ปราจีนซิ่งจยย.กวนเมือง โดนตะโกนด่า ชักปืนยิงด.ช. 10 ขวบสาหัส ด้านเชียงใหม่ ดารานางแบบร่วมเล่นน้ำ สองแควกับแพร่ยอดตายยังพุ่ง เพชรบูรณ์พิลึก ปล่อยน้ำเขื่อนเร่งผลิตประปาสำหรับเล่นสาดน้ำ แต่งดจ่ายน้ำเกษตรกร ขอนแก่นยังปิดถนนข้าวเหนียว โคราชเริ่มระดมรับมือคลื่นรถช่วงขากลับ ตร.ปัตตานีรวบแล้ว 2 โจ๋มือฉีดน้ำกรดใส่เด็ก ยังปฏิเสธ แต่เจ้าทุกข์ชี้ตัวยืนยันมัดแน่น
-13เม.ย.วันเดียวตายถึง79ศพ
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.มหาดไทย แถลงสรุปสถิติอุบัติเหตุของวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า มีอุบัติเหตุ 2,200 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 79 ศพ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 4 คน คิดเป็นร้อยละ 8.22 ผู้บาดเจ็บ 2,817 คน จากจำนวนผู้บาดเจ็บปีที่แล้ว 4,834 คน ลดลง 2,017 คน หรือร้อยละ 41.73 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือรถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.71 รองลงมาคือรถกระบะบรรทุก รถเก๋ง และรถแท็กซี่ พฤติกรรมเสี่ยงของอุบัติเหตุที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิต คือไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 36.64 รองลงมาคือเมาสุรา และขับรถเร็วเกินกำหนด
นายเสริมศักดิ์กล่าวต่อว่า ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือกทม. และนครราชสีมา จังหวัดละ 6 คน หนองคาย 4 คน ชลบุรี กาฬสินธุ์ ตราด และแพร่ จังหวัดละ 3 คน ประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงที่สุด ได้แก่ ถนนทางหลวงแผ่นดิน ถนนอบต. ถนนหมู่บ้าน ถนนในเมือง หรือถนนเทศบาล ตามลำดับ และจุดที่เกิดเหตุจะเป็นทางตรง ร้อยละ 72.40 อยู่ในช่วงเวลา 16.3024.00 น.
-รวมยอด6วัน311ศพ-กทม.แชมป์
รมช.มหาดไทยกล่าวว่า สำหรับยอดตัวเลขสะสมพบว่า 6 วันที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ มีผู้เสียชีวิต 311 ราย ต่ำกว่าตัวเลขที่ตั้งไว้ 425 ราย ลดลงร้อยละ 26.82 จำนวนผู้บาดเจ็บ 8,963 คน ลดลงจากปี 2547 ที่มีผู้บาดเจ็บ 25,251 คน ลดลงร้อยละ 64.50 จังหวัดที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือกทม. 16 ราย รองลงมา คือ นครราชสีมา 15 ราย อุดรธานี 11 ราย ชลบุรี เชียงใหม่ จังหวัดละ 10 ราย ประจวบคีรีขันธ์ นครสวรรค์ 9 ราย และจังหวัดที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 8-13 เม.ย. จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ ระนอง แม่ฮ่องสอน สตูล อำนาจเจริญ ชัยนาท ยโสธร และนราธิวาส
นายเสริมศักดิ์กล่าวอีกว่า จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดสะสม 6 วัน ได้แก่ กทม. 384 คน รองลงมาได้แก่ ลพบุรี 341 คน พิษณุโลก 329 คน และจากที่ผ่านมามีการเรียกตรวจตามมาตรการ 3ม 2ข 1ร จำนวน 2,529,106 คัน พบการกระทำผิดและดำเนินคดีรวม 49,035 ราย โดยดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 6.76 ไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ร้อยละ 2.37 รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย ร้อยละ 2.01 ของการเรียกตรวจ ส่วนสาเหตุที่มีเกิดอุบัติเหตุในวันที่ 13 เม.ย. มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันเดียวกัน เนื่องจากเป็นวันสงกรานต์ มีผู้คนเล่นน้ำกันจำนวนมาก ทำให้ถนนลื่น ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในถนนสายรอง เพราะประชาชนกลับถึงบ้านแล้วออกมาเล่นสงกรานต์กัน
-สถิติเมาเหล้า-ไม่สวมกันน็อกเพิ่ม
น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 813 เม.ย. ที่ผ่านมา จำนวนผู้บาดเจ็บหนักจากอุบัติเหตุที่รักษาตัวในร.พ.ลดลงกว่าปีที่ผ่านมา ถึงร้อยละ 14 อาจเป็นผลมาจากการรณรงค์ป้องกันอย่างเข้มงวด และการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน ที่ได้มาตรฐานและให้บริการอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีปัญหาที่น่าห่วง คือ ในวันที่ 13 เม.ย. ผู้บาดเจ็บที่มีอาการสาหัส ที่ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู พบว่าเป็นผู้เมาสุรา และไม่สวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้น จากวันเดียวกันในปี 2547 โดยมีผู้เมาสุราเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 62 เป็นร้อยละ 71 ส่วนผู้ไม่สวมหมวกนิรภัยเพิ่มจากร้อยละ 86 เป็นร้อยละ 94
ด้านน.พ.สมชาย กาญจนสุต ผอ.ศูนย์กูชีพฉุกเฉินนเรนทร กล่าวว่า ในช่วงนี้มีเด็กและวัยรุ่น มักโทรศัพท์มาก่อกวนการทำงาน โดยเฉพาะในตอนบ่ายๆ มักแจ้งเหตุหลอก บางรายพูดจาแทะโลมเจ้าหน้าที่ผู้หญิงบ้าง โดยในวันที่ 12 เม.ย. มีจำนวน 267 ครั้ง วันที่ 13 เม.ย. จำนวน 302 ครั้ง จากการตรวจสอบทราบว่ามีทั้งโทร.มาจากบ้าน มือถือ และตู้สาธารณะ เป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะทำให้ผู้บาดเจ็บเสียโอกาส และขณะนี้ทุกเบอร์ที่โทร. เข้าจะถูกบันทึกทั้งหมด สามารถตรวจสอบกลับต้นสายได้ทุกเบอร์ ขอให้ผู้ปกครองดูแลลูกหลานไม่ให้โทร.1669 โดยที่ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น และทุกรายจะถูกดำเนินคดีอย่างเข้มงวด
-ข้าวสารยังคึก-จับโจ๋สาดน้ำไม่เลือก
สำหรับบรรยากาศการเล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงอุบัติเหตุตามสถานที่ต่างๆ และจังหวัดอื่นๆ นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะเป็นวันที่ 14 เม.ย. แต่หลายสถานที่ยังคงมีประชาชนออกมาเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ถนนข้าวสาร แหล่งท่องเที่ยวใจกลางกรุงเทพฯ ยังคงมีประชาชน กลุ่มวัยรุ่นทั้งชายและหญิงเป็นจำนวนมาก นับหมื่นคนเดินทางเข้ามาร่วมเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน นับว่าเป็นวันที่ 3 แล้ว ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว และการจราจรที่ติดขัด เนื่องจากปิดถนนราชดำเนินกลาง, วิสุทธิกษัตริย์ เพื่อให้เล่นน้ำกันอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน ก็ยังคงมีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับกุม 5 วัยรุ่นคนไทย เกิดปัญหาปากเสียงกับนักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่น ซึ่งไม่ต้องการให้สาดน้ำ เนื่องจากป่วยและไม่ต้องการถูกสาดน้ำ หรือถูกประแป้ง แต่กลุ่มวัยรุ่นไม่สนใจ ต่อมาทางตำรวจเชิญตัววัยรุ่นทั้ง 5 คน มาดำเนินคดีในข้อหาก่อความเดือนร้อนรำคาญ และปรับไปคนละ 5,000 บาท ก่อนปล่อยตัวไป ส่วนในเรื่องการดูรักษาความปลอดภัยก็ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วย มาคอยดูแลอย่างเข้มงวดทั้งหัวและท้ายถนน โดยห้ามนำแป้งเข้าไปเล่นอย่างเด็ดขาดและเมื่อพบผู้ใดอยู่ในอาการที่เมาสุรา จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ก็จะถูกนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สน.ชนะสงคราม ทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุอื่นตามมา
-ซิ่งปิคอัพชนสองแถวเจ็บระนาว
สำหรับที่ จ.ชลบุรี เวลา 11.00 น. ร.ต.ท.พลากร วีระจิตต์ ร้อยเวร สภ.อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะชนท้ายรถสองแถว สายศรีราชา-เครือสหพัฒน์ ที่บริเวณถนนสาย 9 ก.ม. หน้าวัดพิบูลย์สัณหธรรมหมู่ 3 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา รุดไปที่เกิดเหตุพบรถสองแถว ทะเบียน 20-4384 ชลบุรี สภาพด้านท้ายและข้างเสียหาย และพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน รฐ 2286 กทม. ด้านหน้าพังยับเยิน โดยมีนายศรายุทธ ญาติเสมอ อายุ 30 ปี เป็นคนขับ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.อ.ศรีราชา ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 18 คน ในจำนวนนี้สาหัส 3 คน คือ นายชัยวัฒน์ ภูสันติภาพ อายุ 30 ปี นายเสน่ห์ วงธานี อายุ 19 ปี และนายวน ผมงาม อายุ 42 ปี ส่วนอีก 15 คน มีบาดแผลถลอกเล็กน้อย
จากการสอบสวนนายจำนงค์ พร้อมจิตร์ อายุ 48 ปี คนขับรถสองแถว ให้การว่า รับผู้โดยสารวิ่งจาก อ.ศรีราชา มุ่งหน้าบริษัทเครือสหพัฒน์ กระทั่งถูกรถกระบะวิ่งด้วยความเร็วสูงพุ่งชนท้าย จนมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว ขณะที่นายศรายุทธ ให้การว่ากำลังจะรีบไปทำงาน จึงขับรถด้วยความเร็ว เมื่อเห็นรถโดยสารวิ่งอยู่ข้างหน้า เหยียบเบรกแล้วแต่รถไม่หยุด แต่เบรกไม่อยู่ ทางตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาขับขี่รถยนต์ประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
-สระบุรี-ประจวบฯอุบัติเหตุสูง
จ.สระบุรี นายทวีป เทวิน ผวจ.สระบุรี กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่จ.สระบุรี ในช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 366 ราย และจากการคาดสถานการณ์จากจำนวนรถจดทะเบียนเพิ่มขึ้นในปี 2548 ปริมาณการเดินทางผ่านเข้าออกจ.สระบุรี ระยะทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบท คาดว่าที่จ.สระบุรีอาจจะมีสถิติอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 14.75 เปอร์เซ็นต์ โดยประมาณว่าจะมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 11 ราย จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการงดดื่มสุราที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ
จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายอรรณพ เพชรวิเศษ ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 กล่าวว่า จ.ประจวบฯ ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุไว้ไม่เกิน 7 ศพ แต่ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตไปแล้ว 9 ศพ ปัญหาเนื่องจากความยาวของถนนเพชรเกษมใน จ.ประจวบฯ มีความยาวถึง 224 กิโลเมตร ผู้เดินทางผ่านขึ้นลงสู่ 14 จังหวัดภาคใต้ มักเมื่อยล้ากับการเดินทาง ถึงแม้จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลตลอดเส้นทางก็ตาม และปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากถนนสายรอง ที่เชื่อมกับถนนเพชรเกษม หรือถนนระหว่างหมู่บ้าน และตำบล
-11โจ๋ยิงเด็กเล่นสาดน้ำปางตาย
ด้านจ.ปราจีนบุรี เวลา 15.00 น. พ.ต.ต.มนต์ชัย โชคจินดาชัย สารวัตรเวรสภ.อ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทที่หน้าร้านลั่นทมซักแห้ง ถนนหน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี รุดไปที่เกิดเหตุพบ ด.ช.ธนสาร คุณะโก อายุ 10 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ และน.ส.อุไรวรรณ พรหมจรรย์ อายุ 20 ปี ถูกยิงที่ศีรษะเช่นกัน จึงนำส่งร.พ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 11 คน ทราบชื่อ นายสังวาลย์ เหม็นศิริ อายุ 16 ปี, นายสุรินทร์ อ่อนน้อม อายุ 19 ปี, นายวัลลภ หน่องพงษ์ อายุ 23 ปี, นายชัยสิทธิ์ เพ็ชรรัตน์ อายุ 23 ปี, นายสุวรรณ ใจเย็น อายุ 21 ปี, นายสันติ ศิริเอี่ยม อายุ 24 ปี, นายจตุพร วงษ์ประสาท อายุ 20 ปี, นายมนัส ศรอากาศ อายุ 21 ปี, นายวรพจน์ สุขศิริ อายุ 18 ปี, นายสมชาย พัดทอง อายุ 19 ปี, และนายธวาทิต พัดงาม อายุ 16 ปี ตั้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธไว้ในครอบครอง
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่กลุ่มผู้บาดเจ็บกำลังสาดน้ำคนที่ผ่านไปมาบริเวณหน้าร้าน กลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา พร้อมทั้งขับขี่วนเวียนและเร่งเครื่องรถอยู่หน้าร้าน ทำให้คนเล่นน้ำอยู่บริเวณนั้นตะโกนด่ากลุ่มผู้ต้องหา ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่พอใจ จึงชักอาวุธปืนขนาด.38 และปืนลูกซองยิงเข้าใส่กลุ่มผู้เล่นน้ำ เป็นเหตุให้ถูกด.ช.ธนสาร และน.ส.อุไรวรรณ บาดเจ็บสาหัส
-ดาราแห่เล่นสงกรานต์เชียงใหม่
ส่วนที่จ.เชียงใหม่ ที่หน้าโรงแรมรอยัลเพนนิซูล่า ถนนอัฐษฎาทร อ.เมืองเชียงใหม่ มีกลุ่มดารานายแบบ และนางแบบ อาทิ จอห์น บราโว่, บี๋ สวิช เพ็ชรวิเศษศิริ, โย ยศวดี หัสดีวิจิตร, เอ อัญชลี หัสดีวิจิตร, จอย รินลณี ศรีเพ็ญ, กบ พิมลรัตน์ พิศัลยบุตร, และเข็ม รุจิรา ช่วยเกื้อ บรรยากาศการเล่นน้ำเป็นไปอย่างสนุกสนาน มีประชาชนเดินเข้ามาทักทายและขอลายเซ็นพร้อมกับร่วมเล่นน้ำด้วย ส่วนที่บริเวณรอบคูเมือง ยังคงมีประชาชนออกมาเล่นน้ำกันตลอดทั้งวัน ทำให้การจราจรรอบคูเมืองติดขัด
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะเดียวกัน ที่บริเวณรอบคูเมืองกลุ่มวัยรุ่นดื่มสุรา และออกมาเล่นน้ำกัน ทำให้มีการยกพวกทะเลาะวิวาทกันเป็นจุดๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกไประงับเหตุ แต่ต้องเดินทางด้วยความยากลำบาก เนื่องจากรถติดขัดตลอดรอบคูเมือง ทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุหลบหนีไปได้ เมื่อไปถึงก็จะพบผู้ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ทางหน่วยกู้ภัยเทศบาล และหน่วยกู้ภัยรวมใจ ต้องนำผู้บาดเจ็บส่งร.พ.มหาราช สำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุนั้น ทาง พล.ต.ต.จิรุจจ์ พรหโมบล ผบก.เชียงใหม่ สั่งการให้ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นทุกรายที่ถูกจับกุมได้ จะไม่ว่ากล่าวตักเตือนและทำประวัติ
-ดื่มฉลองหนัก-ตับแข็งกำเริบดับ
จ.เพชรบูรณ์ นายสุชาติ เจริญศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ ชลประทาน จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ปล่อยน้ำจากเขื่อนป่าแดง ให้แก่การประปาเพชรบูรณ์ เพื่อผลิตน้ำประปา แจกจ่ายให้แก่ประชาชนเล่นสาดน้ำ จากเดิมปล่อยให้วันละ 10,000 ลูกบาศก์เมตร แต่ช่วงสงกรานต์ปล่อยให้วันละ 12,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อให้ประชาชนเล่นสาดน้ำกันอย่างเต็มที่ สำหรับเขื่อนอื่น เช่น เขื่อนปากห้วยขอนแก่น อ.หล่มสัก เขื่อนเฉลียงลับ อ.เมืองเพชรบูรณ์ งดจ่ายน้ำให้แก่เกษตรกร เพราะช่วงนี้ เกษตรกรเก็บเกี่ยวพืชผลหมดแล้ว
เวลา 12.00 น. ร.ต.อ.อภิสิทธิ เกิดสวัสดิ์ ร้อยเวรสภ.อ.เมืองเพชรบูรณ์ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตที่บ้านไม่มีเลขที่ ข้างโรงฆ่าสัตว์ ถนนพุทธบาท ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ รุดไปที่เกิดเหตุพบศพนายวิวัฒน์ บุญมี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212/2 ถนนนิกรบำรุง เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ตามร่างกายไม่มีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 ชั่วโมง สอบสวนนางนิตยา บุญมี พี่สะใภ้ของผู้ตาย ให้การว่า นายวิวัฒน์มีอาชีพฆ่าหมูที่โรงฆ่าสัตว์เทศบาล ชอบดื่มสุรา ก่อนเสียชีวิตไปดื่มสุราฉลองสงกรานต์กับเพื่อน กลับมาบ้านด้วยสภาพที่เมาสุราอย่างหนัก และเข้านอนกระทั่งรุ่งเช้าปลุกให้ลุกขึ้นมากินข้าว พบว่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุน่ามาจากโรคตับแข็งกำเริบ เพราะก่อนหน้านี้เคยไปหาแพทย์ และแนะนำให้เลิกสุรา แต่ผู้ตายไม่เชื่อ
-ลูกรองหัวหน้าศาลรถไฟท่วม
จ.เชียงราย เมื่อเวลา 01.00 น. พ.ต.ท.วศิน สืบสมบัติ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองเชียงราย รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนที่สี่แยกแม่กรณ์ และมีไฟลุกไหม้รถยนต์ รุดไปที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ษน 6356 กทม. เสียหลักอยู่ข้างทาง ไฟลุกท่วมที่หน้ารถ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงระดมดับเพลิงจนสงบ
จากการสอบสวนทราบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวมีนายสิทธิ์เดช เลิศสฐิตธนากร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/83 หมู่ 9 ต.บางเล อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เป็นคนขับรถ และยังทราบว่าเป็นลูกชายของนางธนิดา อัครเศรษฐี รองหัวหน้าศาลเยาวชนจังหวัดเชียงราย โดยให้การว่าขับรถมาทางถนนสายพหลโยธิน เมื่อมาถึงทางแยกมีรถกระบะปาดหน้า หักหลบไม่ทันจึงพุ่งชนอย่างแรง และเกิดไฟลุกท่วม แต่สามารถตั้งสติได้เปิดรถรีบวิ่งออกมารอดตายหวุดหวิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวนายพิเชษฐ์ ล้านหล้า อายุ 28 ปี คนขับรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ทะเบียน บค 2486 เชียงราย ซึ่งเป็นคนขับรถคู่กรณีมาตรวจแอลกอฮอล์ โดยนายพิเชษฐ์ยังอยู่ในอาการมึนงง และทราบว่ามีเพื่อนหญิงที่โดยสารมาด้วยได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งร.พ.ไปก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาเมาสุราแล้วขับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
-สองแคว-แพร่ยอดตายยังพุ่ง
จ.พิษณุโลก นายสันติ กรุสวนสมบัติ รองผวจ.พิษณุโลก เรียกประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อกำหนดแผนและปรับแผนกลยุทธ์ หลังจากสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 8 -13 เม.ย. มีผู้ชีวิตเพิ่มสูงขึ้น 7 ราย และบาดเจ็บ 329 ราย ขณะที่ทางจังหวัดตั้งเป้าไม่เกิน 9 ราย โดยสาเหตุเกิดขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยอาการเมาสุราและคึกคะนอง โดยนายสันติกล่าวว่า สั่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้เข้มข้นขึ้น โดยตั้งจุดตรวจเพิ่มขึ้นบนถนนสายรองและสายหลัก ทุกอำเภอตลอด 24 ชั่วโมง เน้นตรวจผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ทำให้เป็นสาเหตุเสียชีวิต พร้อมกับให้ขนส่งจังหวัดพิษณุโลกกวดขันผู้ขับรถโดยสารประจำทางเพิ่มขึ้น
จ.แพร่ พ.ต.อ.สุธีระ ปุณณบุตร รองผบก.แพร่ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 8-13 เม.ย.ที่ผ่านมา มีจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จำนวน 136 ราย บาดเจ็บ 150 ราย เป็นชาย 113 คน เป็นหญิง 37 คน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นชายทั้งหมด จำนวน 3 ราย เกิดในวันที่ 13 เม.ย. วันเดียว ในพื้นที่ สภ.อ.สูงเม่น 1 ราย สภ.อ.เมืองแพร่ 1 ราย และสภ.อ.ร้องกวาง 1 ราย สาเหตุเกิดเนื่องจากเมาแล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ และไม่สวมหมวกกันน็อก
-ซิ่งปิคอัพสาดน้ำคาที่1เจ็บ15
จ.นครสวรรค์ เวลา 15.00 น. พ.ต.ต.วีระ เกตุสาคร สารวัตรเวร สภ.ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ รับแจ้งอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ที่ถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก หลักก.ม.ที่ 10-11 ต.บ้านมะเกลือ อ.เมืองนครสวรรค์ รุดไปที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน 9 ผ-9219 กทม. สภาพพังยับเยิน ข้างรถพบศพนายสำเริง แสนสุข อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.โพทะเล จ.พิจิตร นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บจำนวน 15 คน ลำเลียงส่งร.พ.สวรรค์ประชารักษ์ ทราบชื่อนายประถมพงษ์ ยังสุข อายุ 20 ปี, น.ส.ดวงกมล พิมพาวงศ์, นายสุวิทย์ ฟักผ่อง, นายอิสรภาพ บุญเกษม, นายชัยพล คลังสุภา, นายดิลก ยังสุข, นายวัณณรงค์ งามพริ้ง, นายจงกล สำเภาเงิน, นายจิรัช ยังสุข, นายมนตรี แก้วโชติ, นายเอกรินทร์ จันทร์ลี้, นายบัณประชา ทรงสะอาด, นายวีระชัย สุดใจ, นายกิตติศักดิ์ พานทวีป, น.ส.แอบจิรา จันทร์ลี้ และเด็กชายไม่ทราบชื่อ
จากการสอบสวนทราบว่า นายบัณประชา ให้การว่า เดินทางมาเยี่ยมบ้านที่ต.ท่าไม้ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ และชักชวนเพื่อนขับรถมาเล่นน้ำ โดยมีนายประถมพงษ์ เป็นคนขับรถ ช่วงขากลับนายประถมพงษ์ขับรถมาด้วยความเร็ว และรถเสียหลักพุ่งเข้าข้างทาง ชนกิ่งต้นก้ามปูหัก และพลิกหลายตลบตกลงไปในร่องข้างถนนด้านซ้าย นายสำเริง นั่งอยู่ในกระบะท้าย กระเด็นออกจากรถเสียชีวิต
-ขอนแก่นปิดถนนข้าวเหนียวเล่น
ขณะที่จ.ขอนแก่น เวลา 16.00 น. ที่ลานอเนกประสงค์บ้านกุดกว้าง หมู่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น นายอัครพล บุญยกาญจนพล นายก อบต.เมืองเก่า พร้อมด้วยคณะกรรมการหมู่บ้าน จัดพิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุของหมู่บ้านทั้ง 5 หมู่บ้าน จำนวน 200 คน ส่วนภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น มีประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างพากันเล่นน้ำกันตามถนนสายต่างๆ จนจราจรติดขัด โดยเฉพาะที่บริเวณถนนข้าวเหนียว ปิดถนนตั้งแต่หน้าธนาคารแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น จนถึงหน้าสำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น ไม่ให้รถวิ่งเข้าไปอย่างเด็ดขาด ใครอยากเล่นน้ำต้องเดินเข้าไปเล่น
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.อ.เมืองขอนแก่น เกือบ 100 นาย คอยดูแลความปลอดภัย มีการตรวจค้น ไม่ให้พกพาอาวุธเข้าไป และห้ามขายสุราในถนนข้าวเหนียว เพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท หากผู้เล่นคนไหนมีอาการเมาสุรา จะถูกห้ามเข้าไปเล่นน้ำในถนนข้าวเหนียว สำหรับสถิติอุบัติเหตุในวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดขึ้น 44 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และตั้งแต่วันที่ 8-13 เม.ย. มีผู้เสียชีวิตรวม 8 ราย บาดเจ็บ 173 คน สาเหตุเกิดจากขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อกและเมาสุรา
-โคราชระดมรับมือช่วงขากลับ
จ.นครราชสีมา นายพงศ์โพยม วาศภูติ ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถิติอุบัติเหตุตั้งแต่วันที่ 8-13เม.ย.ว่า มีจำนวน 310 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 15 ราย แบ่งเป็นชาย 12 ราย และหญิง 3 ราย บาดเจ็บ 384 คน โดยเฉพาะวันที่ 13 เม.ย. มีผู้เสียชีวิตถึง 6 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากรถจักรยานยนต์ รองลงมาคือรถกระบะและรถเก๋ง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจจับผู้ขับขี่ที่กระทำผิดกฎหมายจราจร และฝ่าฝืนมาตรการรณรงค์ป้องกัน ไปแล้ว 10,385 ราย โดยส่วนใหญ่ดำเนินคดีในข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก 3,643 ราย รองลงมาคือข้อหาเมาสุรา ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบขับขี่และขับรถเร็ว
ผวจ.นครราชสีมากล่าวต่อว่า ขณะนี้ตั้งจุดบริการประชาชนบนถนนสายสำคัญๆ ไว้ 106 จุด ทั่วทั้งจังหวัด ทุกระยะทาง 15 ก.ม. รองรับช่วงขากลับ โดยเฉพาะถนนมิตรภาพตั้งแต่เขตติดต่อจ.ขอนแก่น ถึงอ.ปากช่อง เขตติดต่อจ.สระบุรี ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขนส่ง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาสาสมัครมูลนิธิต่างๆ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกว่า 2,240 คน ทำงานอำนวยความสะดวก ด้านการจราจรและรณรงค์แนะนำการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง หากการจราจรหนาแน่นเหมือนช่วงก่อนวันสงกรานต์ เจ้าหน้าที่จะเปิดเส้นทางพิเศษให้รถสามารถวิ่งเข้ากรุงเทพฯ สวนทางกับรถที่มุ่งหน้าเข้าสู่จ.นครราชสีมา เพื่อระบายปริมาณรถให้เคลื่อนตัวได้
-แห่เที่ยวเจดีย์ร้อยเอ็ด-เงินสะพัด
จ.ร้อยเอ็ด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ที่พระมหาเจดีย์ชัยมงคล แหล่งท่องเที่ยวสำหรับของจ.ร้อยเอ็ด ตั้งอยู่บนภูเขาเขียว ในบริเวณวัดผาน้ำทิพย์ ต.ผาน้ำย้อย อ.หนองพอก คลาคล่ำไปด้วยฝูงชนนับแสนคนทั้งภายตัวจังหวัด ต่างจังหวัด ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ หอบลูกจูงหลานและครอบครัว พากันมาเที่ยวชมพระมหาเจดีย์ และทัศนียภาพที่สวยงามร่มรื่นของป่าไม้ และภูเขาสูงที่สวยงาม พร้อมทั้งสรงน้ำพระพุทธรูป ทำบุญร่วมกัน เนื่องในวันครอบครัว และวันสงกรานต์
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากการที่มีประชาชนมาท่องเที่ยวกันจำนวนมาก ทำให้ทางวัดมียอดเงินบริจาคสูงมากถึงวันละกว่า 2 ล้านบาท ขณะที่ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงก็มีรายได้ จากการตั้งร้านจำหน่ายสินค้าโอท็อป และร้านอาหารพื้นบ้านไก่ย่าง ส้มตำ ปลาเผา และอาหารอื่นๆ มีรายได้วันละนับหมื่นบาท ร่ำรวยไปตามๆ กัน
-อุบลฯซบเซา-ปืนฉีดน้ำยอดตก
ด้าน จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจยอดการจำหน่ายอุปกรณ์เล่นสาดน้ำ อาทิ ถังพลาสติก ขันตักน้ำ น้ำอบ ปืนฉีดน้ำ รวมทั้งหน้ากากใช้ใส่ป้องกันน้ำเข้าตา ปรากฏว่ายอดจำหน่ายตกลงอย่างมาก เพราะการเล่นสาดน้ำไม่คึกคักเท่าที่ควร ส่วนใหญ่จะนำอุปกรณ์เล่นน้ำที่เก็บไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ออกมาเล่นแทนการซื้อใหม่ เพราะต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ในภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปีนี้ คาดว่าตลอดเทศกาลสงกรานต์ แต่ละร้านจะมียอดจำหน่ายอุปกรณ์การเล่นน้ำทุกชนิดไม่เกิน 10,000 บาท โดยลดลงประมาณ 2 เท่าตัว เมื่อเปรียบเทียบกับยอดการจำหน่ายในเทศกาลสงกรานต์ปี 2547
นายสุขสันต์ บุญโทแสง เลขานุการศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 8-13 เม.ย. มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 7 ราย บาดเจ็บ 56 คน โดย อ.วารินชำราบ มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 3 คน ที่เหลือมีผู้เสียชีวิตอำเภอละ 1 ราย สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตคือ ไม่สวมหมวกนิรภัย เมาสุราแล้วขับยานพาหนะ ถนนที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ ถนนที่เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน คาดว่าปี 2548 อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่าปี 2547
-หนองคายยังคึก-ขบวนแห่ใหญ่
จ.ศรีสะเกษ นายรังสรรค์ เพียรอดวงศ์ รองผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 8-13 เม.ย. มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 421 คน เป็นชาย 333 คน หญิง 88 คน และเสียชีวิตจำนวน 9 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 1 คน ผู้ได้รับอุบัติเหตุและเสียชีวิตในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการเมาสุราและไม่สวมหมวกกันน็อก
ส่วนที่จ.หนองคาย บรรยากาศการเล่นน้ำยังคึกคัก ทั้งในตัวเมือง โดยเฉพาะที่หาดจอมมณี สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ยังคงคึกคักเหมือนวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงที่ถนนประจักษ์ และถนนมีชัย เป็นถนนสายหลักของจังหวัด มีประชาชนออกมาเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ทำให้การจราจรติดขัดเป็นช่วงๆ
ต่อมาในช่วงบ่าย ทางเทศบาลเมืองหนองคาย จัดขบวนบุปผชาติของชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาล รวม 20 ขบวน เทศบาลเมืองหนองคาย จัดงบประมาณสนับสนุนขบวนละ 20,000 บาท ทำให้แต่ละขบวนมีการตกแต่งอย่างสวยงาม โดยขบวนเริ่มแห่จากบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ เลี้ยวตามถนนประจักษ์ ไปสิ้นสุดที่วัดโพธิ์ชัย ขบวนแรกเป็นบุปผชาติ ต่อด้วยขบวนสาวงามที่จะเข้าประกวดเทพีสงกรานต์ ในคืนวันที่ 15 เม.ย. จำนวน 50 คน จากนั้นเป็นขบวนบุปผชาติของชุมชนต่างๆ รวมถึงขบวนของสาวประเภทสอง ที่สร้างสีสันและความสนุกสนานไปอีกรูปแบบหนึ่ง
-รวบแล้ว2โจ๋มือฉีดน้ำกรด
สำหรับความคืบหน้าคดี 4 วัยรุ่น จ.ปัตตานี เล่นพิเรนทร์ ใช้น้ำกรดใส่ปืนฉีดน้ำยิงใส่กลุ่มเด็กที่ออกมาเล่นสาดน้ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.ไพฑูรย์ พัฒนโสภณ ผบก.ปัตตานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับผู้ต้องได้ 2 คน คือ นายน้อย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และนายหน่อย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี อยู่ ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมของกลางเป็นปืนฉีดน้ำ และขวดพลาสติก จึงส่งให้ทางกองวิทยาการตรวจพิสูจน์ จะทราบผลภายใน 1-2 วันนี้ แต่ในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธ ขณะที่ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นผู้ที่ใช้ปืนฉีดน้ำกรดจริง เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนสาเหตุเพราะคึกคะนอง ไม่ใช่กลุ่มสร้างก่อความรุนแรงในพื้นที่
ต่อมา ด.ช.อมรศักดิ์ อำไพ อายุ 13 ปี พร้อมด้วย น.ส.วัลยา วัชระวิชย์ อายุ 17 ปี และด.ญ.นารถชนก ช่วยอินทร์ อายุ 14 ปี ทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนคณะราษฎรบำรุงยะลา และผู้ปกครองเข้าพบ ร.ต.อ.พรชัย สุวรรณวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองปัตตานี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม สำหรับอาการบาดเจ็บของทั้ง 3 คนนั้น ด.ช.อมรศักดิ์ ตาซ้ายยังมองเห็นไม่ชัดเจน น.ส.วัลยามีแผลที่คอ แขน และด.ญ.นารถชนก มีแผลที่คอและแขน ส่วนอีก 3 คนอาการปลอดภัยแล้ว
-เมืองคอนฟื้นพิธีแห่"นางดาน"
จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศยังคงคึกคัก โดยเฉพาะตามถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ยังคงมีประชาชนเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ส่วนตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร น้ำตกกระโรม น้ำตกกรุงชิง น้ำตกอ้ายเขียว และริมทะเลในอ.ขนอม มีประชาชนไปท่องเที่ยวพักผ่อนกันอย่างหนาแน่น และในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 18.00 น. จะมีพิธีแห่นางดาน เป็นพิธีกรรมของพราหมณ์ที่ปฏิบัติในช่วงเดือนยี่ของทุกปี เพราะในอดีตที่จ.นครศรีธรรมราช มีกลุ่มพราหมณ์อาศัยอยู่จำนวนมาก และประเพณีแห่นางดานถูกยกเลิกไปเมื่อ 70 ปีที่ผ่านมา แต่เพิ่งถูกรื้อฟื้นมาอีกครั้งในปี 2546 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับจุดเด่นของพิธีแห่นางดาน คือการอัญเชิญเทพ คือพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระธรณี และพระแม่คงคา เสด็จลงมาต้อนรับพระอิศวร ที่เสด็จลงมาเยี่ยมโลกมนุษย์ เพื่อประสาทพรให้มีความสุขสบาย คุ้มครองให้บ้านเมืองปลอดภัย อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชธัญญาหาร
-หนุ่มดับปริศนาริมทางรถไฟ
เวลา 07.30 น. พ.ต.ท.เจียร ชูหนู สารวัตรเวร สภ.อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งพบศพริมทางรถไฟ หมู่ 3 ต.ควนหนองฟ้า อ.จุฬาภรณ์ หลังรับแจ้งรุดไปยังที่เกิดเหตุพบศพ นายสิทธิพงศ์ เกื้อกูล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 4 ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ สภาพศพแขนขาหักทั้ง 2 ข้าง มีบาดแผลถลอกปอกเปิกทั่วตัว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 ชั่วโมง
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ตั้งแต่เย็นวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสิทธิพงศ์ดื่มสุราฉลองวันสงกรานต์กับเพื่อน และญาติในหมู่บ้าน จนกระทั่งเมาและเดินทางไปบ้านแฟนสาว ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ก่อนจะหายไปทั้งคืน และมีคนมาพบเป็นศพอยู่ริมทางรถไฟ ในเบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่าอาจถูกรถไฟเฉี่ยวชน แต่ทางญาติไม่ปักใจเชื่อว่าถูกรถไฟเฉี่ยวชน สงสัยว่าอาจถูกทำร้าย โดยอาจมีเรื่องกับใครในวงเหล้า หรือคู่อริ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
-ปัตตานีนมัสการ"หลวงปู่ทวด"
จ.ตรัง นายสุรพล วิชัยดิษฐ รองผวจ.ตรัง รายงานผลปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ในวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 6 ของการดำเนินงาน พบว่า มีจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 76 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้หญิง และมีผู้บาดเจ็บ 94 ราย รวมในช่วง 6 วันมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 193 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 3 ราย แต่ยังไม่เกินเป้าที่ทาง จ.ตรัง คือ 8 ราย นอกจากนี้ยังพบว่า ส่วนใหญ่จะกระทำผิดกฎหมาย เกี่ยวกับการไม่มีใบขับขี่ 3,524 ราย รองลงมาคือการไม่สวมหมวกนิรภัย 756 ราย และการขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย 616 ราย
ที่ จ.ยะลา พ.ท.ศนิโรจน์ ธรรมยศ ผู้ช่วยโฆษกกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) กล่าวว่า มีประชาชนออกมาเล่นสาดน้ำ และทำบุญตามประเพณี กันเป็นจำนวนมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่วัดช้างไห้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มีผู้คนมานมัสการหลวงปู่ทวด ตลอดจนสรงน้ำพระกันตั้งแต่เช้า โดยประชาชนส่วนใหญ่บอกว่า ต้องการมาทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ของไทย รวมถึงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่มีมาแต่โบราณ แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นก็ตาม