จิตวิญญาณของนักลงทุนกับนักประกอบการ ต่างกันหรือไม่?
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
จิตวิญญาณของนักลงทุนกับนักประกอบการ ต่างกันหรือไม่?
โพสต์ที่ 1
การที่จะเป็น นักลงทุนหรือ นักประกอบการที่ประสบความสำเร็จ นั้น จิตวิญาณ แนวคิด วิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่น มีความแตกต่างกันอย่างไร ในความคิดเห็นของพวกเราชาว TVI
จากที่ผมได้อ่านนักประกอบการที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ในหนังสือสู้แล้วรวยทั้งสามเล่ม Bill Gates The road Ahead, Sam Walton Made in America, หรือไม่ว่าจะเป็น ตัน โออิชิ ,ธนินทร์ เจียรวนนท์ ล้วนแล้วแต่มีจิตวิญญาณ ความมุ่งมั่น และ แนวคิดที่น่าทึ่ง กล้าได้กล้าเสีย กล้าแข่งขัน แก้ปัญหา
ส่วนนักลงทุน ผมคิดว่า พยายามจะเลือกในธุรกิจที่มีการแข่งขันน้อย และปัญหาน้อย มีความได้เปรียบมากๆ กลัวปัญหาเพื่อความ "ปลอดภัยไว้ก่อน"
เหมือน หรือ แตกต่างกันตรงไหน ตรงไหน เกื้อหนุนกัน หรือ ขัดแย้งกัน
....... ได้โปรดให้ความคิดเห็นข้าน้อยด้วยเถิด
จากที่ผมได้อ่านนักประกอบการที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ในหนังสือสู้แล้วรวยทั้งสามเล่ม Bill Gates The road Ahead, Sam Walton Made in America, หรือไม่ว่าจะเป็น ตัน โออิชิ ,ธนินทร์ เจียรวนนท์ ล้วนแล้วแต่มีจิตวิญญาณ ความมุ่งมั่น และ แนวคิดที่น่าทึ่ง กล้าได้กล้าเสีย กล้าแข่งขัน แก้ปัญหา
ส่วนนักลงทุน ผมคิดว่า พยายามจะเลือกในธุรกิจที่มีการแข่งขันน้อย และปัญหาน้อย มีความได้เปรียบมากๆ กลัวปัญหาเพื่อความ "ปลอดภัยไว้ก่อน"
เหมือน หรือ แตกต่างกันตรงไหน ตรงไหน เกื้อหนุนกัน หรือ ขัดแย้งกัน
....... ได้โปรดให้ความคิดเห็นข้าน้อยด้วยเถิด
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
- Tongue
- Verified User
- โพสต์: 725
- ผู้ติดตาม: 0
จิตวิญญาณของนักลงทุนกับนักประกอบการ ต่างกันหรือไม่?
โพสต์ที่ 3
ผมว่าการลงทุนมันเป็น skill สุดท้ายที่ นักประกอบการควรไปให้ถึง
คือเริ่มแรก ประกอบธุรกิจเอง ทำเองทุกอย่าง
ผ่านไปๆ ธุรกิจโตขึ้นๆ ก็ควรเปลี่ยนลักษณะงานไป เริ่มจาก บริหารมากขึ้น pperate น้อยลง จนสุดท้าย อายุมากๆ ก็ควรเป็นผู้ถือหุ้น คือ วางนโยบาย ใช้วิสัยทัศน์
แล้วก็อ่านงบ มีอะไรก็ว่ากันไปตามงบ ตามรายงาน ตัวเองก็พักผ่อนมากขึ้น
ฉะนั้น นักลงทุนต้องเก่งมากๆ ไม่งั้นไม่ทันผู้บริหาร
เพราะอย่างนั้น จึงควรมีประสบการณ์การบริหาร ประกอบการณ์มาก่อน
คือเริ่มแรก ประกอบธุรกิจเอง ทำเองทุกอย่าง
ผ่านไปๆ ธุรกิจโตขึ้นๆ ก็ควรเปลี่ยนลักษณะงานไป เริ่มจาก บริหารมากขึ้น pperate น้อยลง จนสุดท้าย อายุมากๆ ก็ควรเป็นผู้ถือหุ้น คือ วางนโยบาย ใช้วิสัยทัศน์
แล้วก็อ่านงบ มีอะไรก็ว่ากันไปตามงบ ตามรายงาน ตัวเองก็พักผ่อนมากขึ้น
ฉะนั้น นักลงทุนต้องเก่งมากๆ ไม่งั้นไม่ทันผู้บริหาร
เพราะอย่างนั้น จึงควรมีประสบการณ์การบริหาร ประกอบการณ์มาก่อน
- Amorna
- Verified User
- โพสต์: 454
- ผู้ติดตาม: 0
จิตวิญญาณของนักลงทุนกับนักประกอบการ ต่างกันหรือไม่?
โพสต์ที่ 4
ดิฉันคิดว่าเป็นธรรมดามังคะ
นักประกอบการ เค้าลงมือเอง เค้าพร้อมที่จะเผชิญกับความเสี่ยงทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ ยิ่งเค้ากล้าเสี่ยงมากเท่าไหร่ ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นย่อมมากด้วย แต่เมื่อเค้ามั่นมั่นใจในฝีมือ แน่นอนว่า เค้าย่อมได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า
ในขณะที่ นักลงทุน อยู่วงนอก ไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์อะไรได้เลย เค้าย่อมเลือกกิจการที่มีความปลอดภัยไว้ก่อน :lol: จากความเห็นของคุณ Tongue นักลงทุนที่เคยเป็นนักประกอบการมาก่อน จะเข้าใจถึงลักษณะธุรกิจที่ดี ฉะนั้น ความเสี่ยงในการลงทุนจะน้อยลงไปด้วย
ดิฉัน กำลังจะเรียนรู้ที่จะเป็นนักลงทุน ตามความเห็นของคุณ Tongue ค่ะ
นักประกอบการ เค้าลงมือเอง เค้าพร้อมที่จะเผชิญกับความเสี่ยงทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ ยิ่งเค้ากล้าเสี่ยงมากเท่าไหร่ ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นย่อมมากด้วย แต่เมื่อเค้ามั่นมั่นใจในฝีมือ แน่นอนว่า เค้าย่อมได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า
ในขณะที่ นักลงทุน อยู่วงนอก ไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์อะไรได้เลย เค้าย่อมเลือกกิจการที่มีความปลอดภัยไว้ก่อน :lol: จากความเห็นของคุณ Tongue นักลงทุนที่เคยเป็นนักประกอบการมาก่อน จะเข้าใจถึงลักษณะธุรกิจที่ดี ฉะนั้น ความเสี่ยงในการลงทุนจะน้อยลงไปด้วย
ดิฉัน กำลังจะเรียนรู้ที่จะเป็นนักลงทุน ตามความเห็นของคุณ Tongue ค่ะ

Price is what you pay, value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 118
- ผู้ติดตาม: 0
จิตวิญญาณของนักลงทุนกับนักประกอบการ ต่างกันหรือไม่?
โพสต์ที่ 5
นักลงทุนควรรอจังหวะที่คลื่นลมสงบ จึงออกหาปลา มิฉะนั้นแล้วจะต้องไปอยู่เป็นเพื่อนนักธุรกิจที่สร้างรีสอร์ทอยู่บนดอยนักลงทุน ชอบทะเล นักธุรกิจ ชอบไต่เขา

-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
จิตวิญญาณของนักลงทุนกับนักประกอบการ ต่างกันหรือไม่?
โพสต์ที่ 6
ผมว่า ผู้ประกอบการและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จเริ่มต้นที่ความรักในกระบวนการ ซึ่งความรักนี้เองที่จะทำให้พวกเขาสามารถทุ่มเทแรงใจและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและความล้มเหลว พวกเขาจะเห็นในสิ่งที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็นหรือมองข้าม พวกเขาจะหิวความสำเร็จมากกว่าหิวเงิน ไม่หลงระเริงเมื่อประสบความสำเร็จและไม่ท้อถอยในยามล้มเหลว พวกเขารู้ดีว่า หากพวกเขายังไม่เกษียน พวกเขาก็ยังนับเงินไม่ได้ เพราะเงินที่มีอยู่มันเป็นแค่ทุน ซึ่งมีความพลวัตสูง มันจะพอกพูนขึ้นถ้าพวกเขาตัดสินใจและลงมือทำอย่างถูกต้อง แต่มันก็อาจจะหมดไปได้เช่นกันถ้าพวกเขาพลาด
ผู้ประกอบการเมื่อหาข้อมูล คิด และตัดสินใจ แล้วต้องลงมือทำอะไรๆอีกมาก ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากคนที่เกี่ยวข้อง พวกเขามีอำนาจเต็มเปี่ยมที่จะลงมือทำ คุณภาพของการปฏิบัติมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าคุณภาพของการตัดสินใจ ในการตัดสินใจเลือกธุรกิจที่จะทำ ผู้ประกอบการจะมีข้อจำกัดในแง่ของความถนัด, เงินทุน, ความรู้, สายสัมพันธ์ ผู้ประกอบการคงไม่สามารถเริ่มทำธุรกิจหลายๆอย่างพร้อมกันได้ พวกเขาต้องทุ่มทั้งทุนและความพยายามให้กับธุรกิจหนึ่งๆ ซึ่งทำให้การกระจายความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ การก่อตั้งและการรักษากิจการต้องอาศัยการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละจุดก็เกิดปัญหาได้ตลอด พวกเขาต้องเป็นนักคิด นักแก้ปัญหา นักปฏิบัติ ผู้นำ ต้องทำงานภายใต้แรงกดดันได้ ส่วนใหญ่แล้ว พวกเขามักจะอยู่กับธุรกิจทั้งในยามดีและยามร้าย สรุปแล้ว ผู้ประกอบการต้องเป็นคนกล้าตัดสินใจ ไม่ย่อท้อต่อปัญหา มีสัญชาตญาณการแข่งขัน และมีความมุ่งมั่นในระดับสูง
นักลงทุนจะสามารถกระจายความเสี่ยงได้มากกว่า มีข้อจำกัดน้อยกว่า และเลือกที่จะอยู่กับธุรกิจหนึ่งๆเฉพาะในบางช่วงเวลาได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาส่วนใหญ่ก็เป็นแค่นักลงทุนจากภายนอกที่ไม่มีอำนาจที่จะทำการเปลี่ยนแปลงอะไรในบริษัทได้ ไม่มีโอกาสแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัท ไม่มีโอกาสตัดสินใจว่าจะทำอะไรกับ Asset ที่บริษัทมีอยู่ดี ( ทำได้แค่ให้ข้อเสนอแนะ บริษัทจะทำไม่ทำก็แล้วแต่บริษัท ) พวกเขาจึงต้องเลือกกิจการที่มีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่น้อย พวกเขาจะเลือกบริษัทที่มีโอกาสเกิดปัญหาใหญ่ๆน้อย และผู้บริหารต้องเก่ง ตรงไปตรงมา และใส่ใจต่อผู้ถือหุ้น สำหรับนักลงทุนแล้ว คุณภาพของความคิดและการวิเคราะห์มีความสำคัญมากๆ ในเรื่องการปฏิบัติ สิ่งสำคัญก็คือการมีวินัยสูงพอที่จะทำตามข้อสรุปที่ได้ ( เช่น ซื้อ ขาย หรือถือ ) แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเห็นไปอีกทาง นักลงทุนไม่ชอบบริษัทที่มีโอกาสเกิดปัญหาสูงหรือมีความไม่แน่นอนมาก แต่พวกเขาไม่ได้กลัวปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเอง หากพวกเขาวิเคราะห์ถี่ถ้วนแล้วว่า หุ้นของบริษัทหนึ่งๆน่าลงทุน พวกเขาจะซื้อ แต่ต่อมาหากพวกเขารู้ตัวว่า วิเคราะห์ผิดหรือสถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร พวกเขาก็จะขาย เมื่อพลาดก็เก็บไว้เป็นบทเรียนแล้วเริ่มต้นใหม่ พวกเขากล้าตัดสินใจและมีความมุ่งมั่นเช่นกัน
ผู้ประกอบการเมื่อหาข้อมูล คิด และตัดสินใจ แล้วต้องลงมือทำอะไรๆอีกมาก ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากคนที่เกี่ยวข้อง พวกเขามีอำนาจเต็มเปี่ยมที่จะลงมือทำ คุณภาพของการปฏิบัติมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าคุณภาพของการตัดสินใจ ในการตัดสินใจเลือกธุรกิจที่จะทำ ผู้ประกอบการจะมีข้อจำกัดในแง่ของความถนัด, เงินทุน, ความรู้, สายสัมพันธ์ ผู้ประกอบการคงไม่สามารถเริ่มทำธุรกิจหลายๆอย่างพร้อมกันได้ พวกเขาต้องทุ่มทั้งทุนและความพยายามให้กับธุรกิจหนึ่งๆ ซึ่งทำให้การกระจายความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ การก่อตั้งและการรักษากิจการต้องอาศัยการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละจุดก็เกิดปัญหาได้ตลอด พวกเขาต้องเป็นนักคิด นักแก้ปัญหา นักปฏิบัติ ผู้นำ ต้องทำงานภายใต้แรงกดดันได้ ส่วนใหญ่แล้ว พวกเขามักจะอยู่กับธุรกิจทั้งในยามดีและยามร้าย สรุปแล้ว ผู้ประกอบการต้องเป็นคนกล้าตัดสินใจ ไม่ย่อท้อต่อปัญหา มีสัญชาตญาณการแข่งขัน และมีความมุ่งมั่นในระดับสูง
นักลงทุนจะสามารถกระจายความเสี่ยงได้มากกว่า มีข้อจำกัดน้อยกว่า และเลือกที่จะอยู่กับธุรกิจหนึ่งๆเฉพาะในบางช่วงเวลาได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาส่วนใหญ่ก็เป็นแค่นักลงทุนจากภายนอกที่ไม่มีอำนาจที่จะทำการเปลี่ยนแปลงอะไรในบริษัทได้ ไม่มีโอกาสแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัท ไม่มีโอกาสตัดสินใจว่าจะทำอะไรกับ Asset ที่บริษัทมีอยู่ดี ( ทำได้แค่ให้ข้อเสนอแนะ บริษัทจะทำไม่ทำก็แล้วแต่บริษัท ) พวกเขาจึงต้องเลือกกิจการที่มีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่น้อย พวกเขาจะเลือกบริษัทที่มีโอกาสเกิดปัญหาใหญ่ๆน้อย และผู้บริหารต้องเก่ง ตรงไปตรงมา และใส่ใจต่อผู้ถือหุ้น สำหรับนักลงทุนแล้ว คุณภาพของความคิดและการวิเคราะห์มีความสำคัญมากๆ ในเรื่องการปฏิบัติ สิ่งสำคัญก็คือการมีวินัยสูงพอที่จะทำตามข้อสรุปที่ได้ ( เช่น ซื้อ ขาย หรือถือ ) แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเห็นไปอีกทาง นักลงทุนไม่ชอบบริษัทที่มีโอกาสเกิดปัญหาสูงหรือมีความไม่แน่นอนมาก แต่พวกเขาไม่ได้กลัวปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเอง หากพวกเขาวิเคราะห์ถี่ถ้วนแล้วว่า หุ้นของบริษัทหนึ่งๆน่าลงทุน พวกเขาจะซื้อ แต่ต่อมาหากพวกเขารู้ตัวว่า วิเคราะห์ผิดหรือสถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร พวกเขาก็จะขาย เมื่อพลาดก็เก็บไว้เป็นบทเรียนแล้วเริ่มต้นใหม่ พวกเขากล้าตัดสินใจและมีความมุ่งมั่นเช่นกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
จิตวิญญาณของนักลงทุนกับนักประกอบการ ต่างกันหรือไม่?
โพสต์ที่ 7
จริงสำหรับผมครับ ให้ผมเป็นเจ้าของธุรกิจผมคงเป็นไม่ได้Jeng เขียน:นักลงทุน ชอบทะเล นักธุรกิจ ชอบไต่เขา
ในชีวิตจริง ผมก็ไม่ชอบไต่เขาด้วย แต่ชอบทะเล :lol: (เจอต้นทุนจมเป็นประจำ :lol: )
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com