บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
-
little wing
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
โลกในมุมมองของ Value Investor 15 เมษายน 54
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ในช่วงที่ตลาดหุ้นคึกคักและราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นตลาดกระทิงนั้น ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่มักเกิดขึ้นก็คือ การควบรวมกิจการหรือที่เรียกกันติดปากว่าการ “Take Over” เหตุผลที่มีการเทคโอเวอร์กันมากในยามตลาดหุ้นบูมนั้นมีหลายอย่าง แต่ที่สำคัญผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับ “ราคาหุ้น” นั่นก็คือ การเทคโอเวอร์นั้น สามารถนำมาซึ่งการ “เติบโต” ของบริษัทอย่างรวดเร็ว การเติบโตจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด กำไรที่จะเพิ่มขึ้นจะผลักดันให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นตามผลกำไรที่จะเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น การเติบโตที่ “คาดว่า” ว่าจะเร็วขึ้นมากย่อมทำให้ตลาดให้ค่า PE ของหุ้นสูงขึ้นด้วย หรือพูดง่าย ๆ ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับกำไรต่อหน่วยที่ทำได้ ผลก็คือ ราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ หรือเรียกว่าได้ “สองเด้ง” ดังนั้น ผู้บริหาร “ระดับเซียน” ที่เก่งทางด้าน “วิศวกรรมการเงิน” จึงมักใช้โอกาสที่ตลาดเอื้ออำนวย ทำการเทคโอเวอร์อย่าง Aggressive หรือเทคโอเวอร์อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ซึ่งหลายครั้งสามารถทำให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปอย่างโดดเด่นโดยที่ธุรกิจหรือบริษัทที่ดำเนินการอยู่นั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนัก เพียงแต่มีขนาดใหญ่ขึ้น
มองย้อนหลังไปในช่วงหุ้นบูมสุด ๆ ก่อนวิกฤติการเงินในปี 2540 ที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นไปถึง 1700 กว่าจุด ในช่วงนั้น คนที่จำได้ก็จะรู้ว่า “เทคโอเวอร์คิง” ไม่มีใครนอกจาก ปิ่น จักกะพาก แห่ง Fin One บริษัทเงินทุนที่ใหญ่และ Aggressive ที่สุดในการควบรวมกิจการ กลยุทธ์ของปิ่นก็คือการเทคโอเวอร์กิจการที่เกี่ยวกับการเงินในตลาดหลักทรัพย์โดยการ “แลกหุ้น” นั่นก็คือ ฟินวันซื้อหุ้นของบริษัทเป้าหมายจนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยสิ่งที่ใช้ในการแลกก็คือ ฟินวันจะออกหุ้นใหม่เอามาให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทเป้าหมาย ดังนั้น ฟินวันจึงไม่ต้องใช้เงินในการซื้อกิจการ และดังนั้นฟินวันจึงสามารถซื้อกิจการอื่นไปได้เรื่อย ๆ แม้ว่ากิจการที่ซื้อนั้นอาจจะใหญ่กว่าตัวเองมากอย่างธนาคารพาณิชย์เช่นไทยทนุในยุคนั้นที่กลายเป็นบริษัทเป้าหมาย แต่โชคไม่ดี ฟินวันมีอันเป็นไปเสียก่อนที่ดีลจะสำเร็จและเป็นการปิดฉากเกมเทคโอเวอร์ที่ร้อนแรงและมีสีสันที่สุดในตลาดหุ้นไทย
เกมเทคโอเวอร์ของฟินวันนั้น เป็นไปได้เพราะมีเงื่อนไขสำคัญก็คือ ราคาหุ้นของฟินวันสูงมากเมื่อเทียบกับกำไรที่ทำได้หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ หุ้นฟินวันมีค่า PE สูงมาก นอกจากนั้น บริษัทเป้าหมายที่จะถูกควบรวมกิจการจะต้องมีราคาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับกำไรของบริษัทหรือเป็นหุ้นที่มีค่า PE ต่ำ ซึ่งในยุคนั้นสถานการณ์แบบนี้ก็มีอยู่ นั่นก็คือ ฟินวันมีกลยุทธ์การทำงานที่ Aggressive เน้นการเติบโตที่รวดเร็วในทุกด้านทั้งทางด้านการดำเนินงานและการควบรวมกิจการ ส่งผลให้หุ้นฟินวันร้อนแรงมีค่า PE สูงลิ่วเพราะคนเชื่อว่าเป็นหุ้น “Super Growth” ในอีกด้านหนึ่ง หุ้นของบริษัทการเงินอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์กลับไม่เป็นที่นิยมส่วนหนึ่งเนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่นักเก็งกำไรจะเข้าไป “เล่น” หรือ “ปั่น” ได้ ทำให้หุ้นไม่เป็นที่นิยม ส่งผลให้ราคาและค่า PE ของหุ้นต่ำกว่าหุ้นฟินวันมาก
มาดูกันว่าทำไมหุ้นที่ PE สูงซึ่งทำให้มูลค่าตลาดของหุ้นสูง สามารถเทคโอเวอร์หุ้นที่มี PE ต่ำและมีมูลค่าของตลาดหุ้นต่ำได้อย่างไร
สมมุติว่าหุ้น “ซุปตาร์” มีกำไร 1,000 ล้านบาทและมีหุ้นเท่ากับ 1,000 ล้านหุ้น ดังนั้นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 1 บาทต่อหุ้น เนื่องจากหุ้นซุปตาร์เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและมีผู้บริหารที่โดดเด่นรวมถึงมีกลยุทธ์ในการเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นตลาดให้ค่า PE ของหุ้นเท่ากับ 25 เท่า ส่งผลให้ราคาหุ้นซุปตาร์เท่ากับหุ้นละ 25 บาท คิดเป็นมูลค่าตลาดของหุ้นทั้งบริษัทเท่ากับ 25,000 ล้านบาท ส่วนหุ้น “เทอร์เทิล” นั้นมีกำไร 1,000 ล้านบาท และมีหุ้นเท่ากับ 1,000 ล้านหุ้น ดังนั้นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 1 บาทต่อหุ้นเหมือนกัน แต่คนมองว่าเป็นหุ้น “เต่า” จึงมีค่า PE เพียง 10 เท่า หุ้นมีราคาเพียง 10 บาทต่อหุ้น และทั้งบริษัทมีมูลค่าหุ้นเพียง 10,000 ล้านบาท
ซุปตาร์เทคโอเวอร์เทอร์เทิลโดยการออกหุ้นใหม่จำนวน 400 ล้านหุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นเทอร์เทิล ผลก็คือ หุ้นซุปตาร์หลังจากเทคโอเวอร์จะมีหุ้นทั้งหมดเท่ากับ 1400 ล้านหุ้น มีกำไร 2000 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 1.43 บาทต่อหุ้น และเนื่องจากตลาดมองว่าหุ้นซุปตาร์ไม่ได้แย่ลงจากการเทคโอเวอร์จึงให้ค่า PE เท่าเดิมคือ 25 เท่า ผลก็คือ ราคาหุ้นซุปตาร์เท่ากับ 35.7 บาท หรือเพิ่มขึ้น 43% จากราคา 25 บาท แต่ถ้าตลาดมองว่าการเติบโตของซุปตาร์จะเร็วขึ้นอีกและดังนั้นค่า PE จึงน่าจะปรับขึ้นเป็น 30 เท่า ผลก็คือ ราคาหุ้นของซุปตาร์จะกลายเป็น 42.9 บาท หรือเพิ่มขึ้น 71.4% โดยที่กิจการของซุปตาร์และเทอร์เทิลไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเลย และนั่นคือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับฟินวันในยามที่เกมเทคโอเวอร์กำลังดำเนินไปด้วยดี
มีอะไรผิดไหมสำหรับเกมเทคโอเวอร์ที่บริษัท PE สูงควบรวมบริษัท PE ต่ำ แล้วทำให้ราคาหุ้นของบริษัทที่เทคโอเวอร์เพิ่มขึ้นมโหฬารในชั่วข้ามคืน?
ประเด็นก็คือ นักลงทุนอาจจะมองผิดพลาดโดยคิดไปว่าบริษัทจะยังเหมือนเดิมหรือโตเร็วขึ้นไม่ได้ช้าลงจึงให้ค่า PE เหมือนเดิมหรือสูงขึ้น คนคิดว่าบริษัท “เต่า” ที่โตช้านั้น เมื่อถูกเทคโอเวอร์แล้วจะแปลงเป็น “ซุปเปอร์สตาร์” เหมือนบริษัทที่กลายมาเป็น “แม่” ดังนั้นค่า PE ของเต่าจึงถูกปรับขึ้นจาก 10 เท่าเป็น 25 เท่าหรือมากกว่า แต่ถ้าความเป็นจริงก็คือ “ทุกอย่างเหมือนเดิม” หรือมีการเปลี่ยนแปลงในบริษัทเต่าน้อยมาก เมื่อเวลาผ่านไปคนก็จะเห็นว่าการเติบโตของบริษัทที่รวมกันแล้วไม่ได้เร่งตัวขึ้น เต่าก็ยังเป็นเต่า ซุปเปอร์สตาร์ก็โตเท่าเดิม ดังนั้น ตลาดก็จะปรับค่า PE ของบริษัทที่รวมกันแล้วลง เช่นอาจจะเหลือเพียง 17.5 เท่าซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยของ 10 กับ 25 เท่า ผลก็คือ ราคาหุ้นของบริษัทรวมก็จะเท่ากับ 1.43 คูณ 17.5 หรือก็คือ 25 บาทต่อหุ้น เท่าเดิมก่อนที่จะมีการเทคโอเวอร์ ถ้าเป็นแบบนี้ คนที่เข้ามาซื้อหุ้นซุปตาร์ในราคา 30 หรือ 40 กว่าบาทและถือไว้ก็จะขาดทุนเมื่อ “พื้นฐานที่แท้จริง” ถูกเปิดเผยมาในภายหลัง
อาจมีข้อถกเถียงว่า เมื่อเทคโอเวอร์แล้ว ซุปตาร์ สามารถลดต้นทุนหรือได้ประโยชน์จากการเพิ่มขนาดของธุรกิจ ดังนั้น พื้นฐานของเทอร์เทิลและซุปตาร์จะดีขึ้นมาก แต่นี่เป็นสิ่งที่น่าจะยังต้องพิสูจน์ ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาโดยเฉพาะจากตลาดในอเมริกาพบว่า การเทคโอเวอร์ส่วนใหญ่นั้น ได้ผลตรงกันข้ามและภายหลังต้องขายกิจการที่เทคมาทิ้งพร้อมกับการขาดทุนอย่างยับเยิน ในตลาดหุ้นไทยนั้น กรณียังไม่ชัดเนื่องจากมีกรณีไม่มาก อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ขึ้นไปก่อนหลังจากมีการเทคโอเวอร์นั้น สำหรับ VI คงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าสมเหตุผลไหม เหนือสิ่งอื่นใด การคาดการณ์ในสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดเป็นเรื่องที่ VI จะต้อง “สงสัย” ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือ? สำหรับผมแล้ว ถ้าแหล่งของการได้ประโยชน์จากการควบรวมกิจการยังเป็นที่น่าสงสัย ผมก็จะไม่เข้าไปเล่นในเกมเทคโอเวอร์โดยเฉพาะถ้าราคาหุ้นขึ้นไปสูงแล้ว
[/size]
-
Packky
- Verified User
- โพสต์: 856
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
-
kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1495
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณมากๆครับ
เหมาะกับหนังสือที่ผมกำลังอ่านตอนนี้เลยครับ "การควบรวมกิจการ โอกาสของธุรกิจไทย"
จัดพิมพ์โดย ตลาดหลักทรัพย์แหล่งประเทศไทยครับ
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
-
chatchai
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อ่านแล้วก็คิดถึงคุณ ปิ่น จักกะพาก ไม่รู้ตอนนี้อยู่ที่ไหน
ตั้งแต่เล่นหุ้นมา ผมยังไม่เห็นใครทำธุรกิจเชิงรุกเท่าเลย
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ประสบการณ์ และมุมมองของอาจารย์ล้ำค่าจริงๆคับ
-
Financeseed
- Verified User
- โพสต์: 1304
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ
-
pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อาจารย์ของเรายังเยี่ยมอยู่เสมอครับ เป็นบทความที่เข้ากับช่วงตลาดบูมพอดี
ซึ่งช่วงตลาดบูมๆ ดีล takeover จะมีจำนวนมากกว่าช่วงตลาดหงอยๆ
ก็เป็นข้อเตือนใจนักลงทุนได้อย่างดีเลย
-
jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
-
amornd
- Verified User
- โพสต์: 385
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เท่าที่จำได้ ไม่นานมานี้
ควบกิจการแบบแลกหุ้นมีพบใน กลุ่มโรงพยาบาล ไม่รู้มีใครจำกรณีอื่นได้อีกไหมครับ ?
-
MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เท่าที่ดูมีก ssc ที่เทคโอเวอร์ แล้วก็โรงพยาบาล ไม่ทราบว่ามีตัวอื่นอีกหรือเปล่า
-
crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เท่าที่เคยอ่านมา อันนี้ชอบที่สุดค้าบบบ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
BLACK-NINJA
- Verified User
- โพสต์: 599
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณมากครับ แต่dealที่จุดจบออกมาสวยก็มีนะครับ เช่น MAJOR+EGV เป็นต้น หากใครพอจำเหตุการณ์ได้ ก็ดูแล้วไม่ใช่จะร้ายไปซะทั้งหมดครับ
-
kabu
- Verified User
- โพสต์: 2149
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณอาจารย์มากครับ เห็นภาพชัดเจนดีครับ
-
Prelude
- Verified User
- โพสต์: 50
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ อาจารย์
สงสัยเรื่องนี้เหมือนกันครับ ตอนนี้ได้คำตอบกระจ่างเลยครับ
-
unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
chatchai เขียน:อ่านแล้วก็คิดถึงคุณ ปิ่น จักกะพาก ไม่รู้ตอนนี้อยู่ที่ไหน
ตั้งแต่เล่นหุ้นมา ผมยังไม่เห็นใครทำธุรกิจเชิงรุกเท่าเลย
ปิ่น จักกะพาก เข้าใจว่าตอนนี้ยังทำงานเป็นที่ปรึกษาอยู่อังกฤษ หลังจากที่เขาชนะคดีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
การเติบโตของ Fin One ทำให้ผมย้อนนึกถึงหลักการเศรษฐกิจพอเพียง
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
-
tritara
- Verified User
- โพสต์: 386
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
~เกรียนหุ้นตัวจริง~
-
Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณสำหรับบทความครับ
แล้วถ้าหากเป็นการ takeover ด้วยเงินสด จะมีผลเหมือนกับการแลกหุ้นกันหรือป่าวครับ
-
kraikria
- Verified User
- โพสต์: 1161
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ บทความนี้ทำให้นึกไปถึงเหตุการณ์ในตลาดตอนต้มยำกุ้ง เมืองไทยผ่านอะไรมาเยอะทีเดียวที่ทำให้ตลาดปัจจุบันมีภูมิต้านทานอยู่บ้าง แต่ยังไงความโลภของคนในตลาดก็ไม่เคยเปลี่ยน ดร.นิเวศน์จึงออกบทความเตือนสติให้พวกเราได้ระมัดระวังกันครับ
ไม่ควรลงทุนอะไร ถ้าไม่รู้สึกสบายใจในสิ่งนั้น
-
tfex
- Verified User
- โพสต์: 92
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อ่านแล้วนึกถึง IVL
ไม่รู้ SSI นี่เข้าข่ายแนวนี้หรือเปล่า
-
pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ลองอ่านหนังสือ warren buffet and the art of stock arbitrage ดูครับ มียกตัวอย่างหลายๆ กรณีเลย
อย่าง case swap IRP --> IVL ก็น่าสนใจ ลองไปดูราคาหุ้น irp ก่อนและหลังประกาศดีลจนถึงเวลาแลกหุ้นดูครับ
จะเห็นว่า ถ้าผู้ที่ทำการบ้านมาดี จะมีช่วงที่ราคา irp ตกแรงๆ อยู่หลายช่วงทีเดียว เป็นโอกาสเก็บหุ้นไปแลกเป็น ivl ก็น่าจะกำไรหลาย % อยู่
-
PRO_BABY
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1584
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณดร. และผู้เอื้อเฟื้อครับ
เห็นภาพใกล้ๆ pe สูง ซื้อ pe ต่ำ ก็ BGH ซื้อ PYT ครับ
pe 20 ซื้อ pe 10 ใช้หุ้นแลกเอา โดยการออกหุ้นใหม่
--ผลของอนา
คตเกิดจาก<====ปัจจุบัน ผลของปัจจุบันเกิดจาก<===อดีต
--ทุกอย่างเชื่อมโยง มีเหตุ====> มีผ
ล
-
b4solid
- Verified User
- โพสต์: 995
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับผม
-
SW27
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ
ความดี สามารถส่งต่อกันได้
-
thalucoz
- Verified User
- โพสต์: 658
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ
FREEDOM ---------- HOLD MY HAND
-
KimVi
- Verified User
- โพสต์: 984
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
PRO_BABY เขียน:ขอบคุณดร. และผู้เอื้อเฟื้อครับ
เห็นภาพใกล้ๆ pe สูง ซื้อ pe ต่ำ ก็ BGH ซื้อ PYT ครับ
pe 20 ซื้อ pe 10 ใช้หุ้นแลกเอา โดยการออกหุ้นใหม่
ขอบคุณอาจารย์ครับ ที่ช่วยฉายภาพให้เห็นถึงบ้างอ้อ
"Look at market fluctuations as your friend rather than your enemy; profit from folly rather than participate in it." – Warren Buffett
-
minkpro
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณมากครับผม
-
stock77
- Verified User
- โพสต์: 126
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
น่าจะมีคนแปลกบทความ ดร.เป็นภาษาอังกฤษ
ดร. ของเราจะดังแบบนักลงทุนระดับโลกบ้าง
no
-
Rakkiat
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 357
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบพระคุณครับท่านอาจารย์
-
Yaiba123
- Verified User
- โพสต์: 423
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณ อาจารย์ที่ให้ความรู้ครับ และ ขอบคุณ คุณlittle wing ที่นำบทความดีๆมาให้อ่านด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินทางสายนี้คือ จิตใจที่มั่นคงและแน่วแน่.....ส่วนความรู้เป็นสิ่งที่สามารถไขว่คว้าเพื่อตามให้ทันผู้อื่นได้ สู้ต่อไป...
-
jerry824
- Verified User
- โพสต์: 319
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ใครช่วยบอกทีว่าตอนนั่นมันเกิดอะไรขึ้น. ทำไมแบงค์pe ต่ำเตี้ยกว่า finance