Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
แมงเม่าสายลม
Verified User
โพสต์: 164
ผู้ติดตาม: 0

Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เพื่อนของผมแนะนำให้ ลองอ่านเรื่องข้อมูล HAARP ดู

โครงการ HAARP(High Frequency Active Auroral Research Project)
คือศูนย์วิจัยไอโอโนสเฟียร์ในมลรัฐอะแลสกา มีจุดมุ่งหมายสำรวจทรัพยากรชั้นบรรยากาศโลก
เพื่อพัฒนาระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม

HAARP เป็นโครงการทดลองทางวิทยาศาตร์ของรัฐบาลสหรัฐ
เพื่อสร้างและควบคุมสภาพ ภูมิอากาศโดยการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่
ขึ้นไปที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แล้วให้สะท้อนกลับมายังพื้นผิวโลก ไปยังเป้าหมายที่ต้องการ
ในจำนวนนั้นรวมไปถึงส่งพลังงานนั้นลงไปสู่ชั้นหินใต้ดินเพื่อก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนหรือแผ่นดินไหวนั่นเอง

อนึ่งเครื่อง HARRP นี้ ยังสามารถประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีร่วมกับดาวเทียม และเทคโนโลยีอื่นๆ
เพื่อควบคุมกระแสลมกรด ซึ่งเป็นกุญแจของธรรมชาติที่จะนำพากลุ่มเมฆ น้ำฝน ความร้อน
ความแห้งแล้งและความหนาวเย็น และอื่นๆ อีกมาก




รูปภาพ
รูปภาพ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
แมงเม่าสายลม
Verified User
โพสต์: 164
ผู้ติดตาม: 0

Re: Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 2

โพสต์

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ทราบที่มา:กุญแจไขปริศนา?


นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (รังสีแกมม่า) นี้ได้ในบริเวณขั้วโลกเหนือเป็นครั้งแรกเมื่อกว่า 5 ปีมาแล้ว

และหลังจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็ได้พบว่าปริมาณคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก ได้เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนความถี่และความรุนแรง

ท้องฟ้าในบริเวณขั้วโลกเหนือที่ปกติมืดมิดตลอดเวลาในช่วงฤดูหนาว ปัจจุบันกลับมีแสงสว่างเกิดขึ้นเป็นประจำ

"ขอบฟ้าถูกยกสูงเหมือนกับชูขึ้นด้วยมือของพระเป็นเจ้า" นายเดวิดสันกล่าว เขาเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลแคนาดา

ซึ่งประจำการอยู่ที่สถานีตรวจสอบอากาศเมืองเรซาลูด เบย์ ทวีปอาร์คติก นักวิทยาศาสตร์หลายฝ่ายเชื่อว่า

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลึกลับนี้ คือต้นเหตุของความวิปริตทั้งหมดที่เกิดขึ้นตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีงานวิจัยของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐที่พบว่า อิทธิพลรังสีแกมม่าสามารถทำให้เกิดรูโหว่ในชั้นโอโซน

โลกเย็นลง ฝนกรดและการเกิดเมฆหมอกได้ ผลของงานวิจัยนี้ได้ถูกยืนยันอีกครั้ง โดยการค้นพบของทีมนักวิทยาศาสตร์เยอรมัน

จากสภาบันนิวเคลียร์ฟิสิกส์แมกส์ แพลงค์ สถาบันเลื่องชี่อของโลกในปี 2545 ไม่เพียงแต่รังสีแกมม่าน่าจะเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงทาง

ภูมิอากาศเท่านั้น แต่ด้วยคุณสมบัติที่เป็นพลังงานแม่เหล็กจึงส่งผลต่อสนามแม่เหล็กโลก และอาจสามารถกระตุ้น

ให้เกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดได้อีกด้วย ผลการศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์ ประจำสภาบันภูมิฟิสิกส์ประเทศจอร์เจีย

จากการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบเป็นเวลา 30 ปี จากปี 2501 - 2531 สรุปว่าปฏิกิริยาระหว่างโลกกับสนามพลังงานแม่เหล็ก

เป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงสูงกว่า 6 ริกเตอร์ขึ้นไปในส่วนของจำนวนดาวตกที่เพิ่มขึ้นมากผิดปกติในปีที่แล้วก็

เช่นกัน แม้จะยังไม่มีผลงานวิจัยในด้านนี้อยู่เลยก็ตาม แต่นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลกหลายคนก็เริ่มตั้งข้อสันนิษฐานว่า

มีความเป็นไปได้ที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อาจเกี่ยวข้องกับจำนวนดาวตกที่เพิ่มขึ้น

คลื่นพลังงานแม่เหล็กเหล่านี้มาจากไหน? ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดถึงที่มาของคลื่นพลังงานแม่เหล็กลึกลับ

ซึ่งยังคงสร้างความวิปริตทางธรรมชาติทั่วโลกในขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งคาดว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้

น่าจะมาจากการระเบิดของซุปเปอร์โนวา หรือดาวฤกษ์ที่กำลังจะดับสูญชื่อ SN1987a เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นห่างจากโลก

12,000 ล้านปีแสงเมื่อปี2530 การระเบิดครั้งนั้นถือเป็นการระเบิดที่รุนแรงที่สุดในจักรวาล เป็นอันดับสองรองจากการระเบิด

ที่เรียกว่าบิ้กแบงในปี2540 "การระเบิดของดาว SN1987a ปลดปล่อยพลังงานอภิมหาศาลในหนึ่งวินาที

เทียบได้กับพลังงานของดาวฤกษ์ทั้งหมดในจักรวาลรวมกัน" สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน ทั้งนี้คาดว่า

โลกจะสามารถแลเห็นการระเบิดนี้ได้ก่อนปี2553 ทั้งนี้ ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกส่วนหนึ่ง ที่เชื่อว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าปริศนานี้

มีที่มาจากในโลกนี้เองและเกิดจากการกระทำของมนุษย์ หลายฝ่ายชี้ชัดมายังอาวุธในโครงการของกองทัพสหรัฐที่มีชื่อว่าฮาร์พ

(High Frequency Active Auroral Reseach Program) หรือ HAARP
ฮาร์พเป็นส่วนสำคัญ

ในยุทธศาสตร์การริเริ่มป้องกันทารทหาร ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือที่รู้จักกันในชื่อโครงการสตาร์วอร์ ฮาร์พถูกริเริ่มขึ้น

ในยุคของประธานาธิบดีเรแกน โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อศึกษา "การใช้ไอโอโนสเฟีย (ชั้นบรรยากาศระดับสูง)

เพื่อเป้าหมายของกระทรวงกลาโหม" นายอีสแมน เจ้าของลิขสิทธิ์เทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการนี้ กล่าวถึงฮาร์พว่า

"สามารถรบกวนระบบโทรคมนาคมทั้งหมดในพื้นที่ขนาดใหญ่มากบนโลก... เบี่ยงเบนทิศทางหรือทำลายจรวดและเครื่องบิน...

ปรับเปลี่ยนภูมิอากาศ..." ดอกเตอร์เมกิช นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งที่ติดตามโครงการฮาร์พ อธิบายถึงการทำงานของ

อาวุธนี้ว่า ฮาร์พ "อาศัยเทคโนโลยีการส่งคลื่นวิทยุพลังมหาศาล เพื่อยกบริเวณชั้นบรรยากาศส่วนบน (ไอโอโนสเฟีย) ของโลกขึ้น

โดยเล็งพลังงานไปยังพื้นที่บนชั้นบรรยากาศและเผาบริเวณนั้นจนร้อน( หลอมละลายจนกลายเป็นเสมือนจานพลาสม่าขนาดยักษ์

ที่สามารถรับส่งคลื่นได้) จากนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะสะท้อนกลับมายังโลกและทะลุทะลวงทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งที่มีชีวิตและไม่มี

:|

เครดิตเว็บ ThaiPX2012
รูปภาพ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
แมงเม่าสายลม
Verified User
โพสต์: 164
ผู้ติดตาม: 0

Re: Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 3

โพสต์

รู้จักโครงการ HAARP




การทำสนามแม่เห็ลก ทำให้เมฆมองเห็นเป็นรูปร่างแปลกตา



จนกระทั้งมีการโยงกับ เหตุการณ์ต่างๆ ในโลก
30 นาทีก่อนเกิดแผ่นดินไหว ที่จีน


เชื่อมโยงไปกับ ชิลี และ เฮติ


ท่านอื่นๆ คิดเห็นประการใดครับ
รูปภาพ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
แมงเม่าสายลม
Verified User
โพสต์: 164
ผู้ติดตาม: 0

Re: Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 4

โพสต์

แม้แต่ประธานาธิปดี ฮูโก้
รูปภาพ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
แมงเม่าสายลม
Verified User
โพสต์: 164
ผู้ติดตาม: 0

Re: Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 5

โพสต์

think possitive
โดย ดร. โสภณ พรโชคชัย เข้าใจว่าคงหมายความว่าไม่ได้แย่อะไรนะ ตอนนี้

ดร.โสภณ พรโชคชัย
[email protected]
http://www.facebook.com/pornchokchai


ช่วงนี้มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นหลายกรณีทั้งแผ่นดินไหว สึนามิ วาตภัย อุทกภัย แม้แต่หิมะตกที่เมืองตากอากาศซาปาของเวียดนาม บางคนก็หลงเข้าใจผิดว่าตกเป็นครั้งแรกหรือตกหนักที่สุด จนทำให้เกิดปริวิตก ไม่เป็นอันกินอันนอน กลัวโลกจะแตก และอาจตกเป็นเหยื่อของพวกอวิชชา ผมจึงขออนุญาตนำเสนอข้อมูลบางอย่างให้ทราบบ้าง

วิบัติภัยในทุกวันนี้ยังนับว่า ‘จิ๊บจ๊อย’ นัก เมื่อเทียบกับภัยธรรมชาติในอดีต ที่หากเกิดขึ้นอีกในวันนี้ บางคนอาจช็อคตาย ฆ่าตัวตายไปเลย หรือเกิดลัทธิอุบาทว์ต่าง ๆ ทำลายชีวิตผู้คนไปมากกว่าภัยธรรมชาติก็เป็นได้

ท่านรู้จักภูเขาไฟกรากะตัวหรือไม่ ภูเขาไฟแห่งนี้ระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2426 หรือเมื่อ 128 ปีก่อนหน้านี้ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพื้นที่สองในสามของเกาะหายไปจากแรงระเบิด เถ้าธุลีลอยสูงขึ้นไปถึง 80 กิโลเมตร (ปกติเครื่องบิน ๆ สูงเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น ในรัศมี 240 กิโลเมตร มองไม่เห็นแสงอาทิตย์จนคล้ายยามค่ำคืนเป็นเวลาถึง 3 เดือน เพราะเถ้าธุลีปกคลุมไปหมด
เสียงระเบิดดังกึกก้องมาก ถึงกรุงจาการ์ตา ซึ่งตั้งอยู่ห่างไป 150 กิโลเมตร จนผู้คนยังต้องเอามืออุดหู คนในกรุงเทพมหานครก็ยังได้ยินแต่ครั้งแรกนึกว่าเป็นเสียงปืนใหญ่ แม้แต่คนบนเกาะโรดริเกซในหมู่เกาะมอริเชียส ซึ่งตั้งอยู่ห่างไปถึง 4,776 กิโลเมตรก็ได้ยินเช่นกัน ที่สำคัญการระเบิดยังทำให้เกิดคลื่นสึนามิ สูง 30 เมตร เข้าถล่มเกาะต่าง ๆ แรงแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นยังสามารถตรวจจับได้ถึงอังกฤษ รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ถึง 36,000 คน ซึ่งหากเป็นในสมัยปัจจุบันที่มีประชากรหนาแน่น คงสูญเสียชีวิตนับสิบ ๆ ล้านคน

อย่างไรก็ตามยังมีเหตุการณ์ร้ายแรงกว่านี้ จนภูเขาไฟกรากะตัวกลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็คือการระเบิดของภูเขาไฟแทมโบร่าซึ่งตั้งอยู่บนเกาะซุมบาวาใกล้เกาะบาหลี เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2358 หรือเมื่อ 196 ปีที่แล้วในสมัยรัชกาลที่ 2 ความรุนแรงนั้นเท่ากับการระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์ 60,000 ลูก ความสูงของภูเขาไฟแทมโบร่าหายไปถึง 1,400 เมตร มีสภาพเป็นหลุมกว้าง 6 กิโลเมตร ลึก 1 กิโลเมตรในปัจจุบัน เกิดฝุ่นละอองมากกว่าการระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวถึง 7 เท่า เสียงระเบิดดังไปไกลถึง 850 กิโลเมตร ว่ากันว่าต้นไม้ล้มระเนระนาดคล้ายกับโลกทั้งโลกจะพังทลายลงในพริบตา

พื้นผิวโลกได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์น้อยลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์เพราะ ชั้นบรรยากาศของโลกเต็มไปด้วยฝุ่นละอองจนอุณหภูมิของโลกลดลงอย่างมาก นักวิทยาศาสตร์เคยพบว่าน้ำแข็งชั้นล่างบนเกาะกรีนแลนด์ในซีกโลกเหนือยังมีฝุ่นละอองจากภูเขาไฟนี้อยู่มากมาย ในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือไม่มีเวลากลางวันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพราะถูกฝุ่นละอองภูเขาไฟบดบังแสงอาทิตย์ไว้ และทำให้ไม่มีฤดูร้อนในปีนั้น

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดรุนแรงเป็นชุด ๆ ทั่วโลกในห้วงเวลาเดียวกัน เช่น ภูเขาไฟลาซูฟรีในหมู่เกาะแคริเบียน และภูเขาไฟอะวูเหนือเกาะสุลาเวสี ในปี 2355 ภูเขาไฟสุวาโนเซจิมา ใกล้หมู่เกาะโอกินาวา ในปี 2356 และภูเขาไฟมายอนในฟิลิปปินส์ ในปี 2357 ลองคิดดูว่าถ้าเกิดในวันนี้ ผู้คนคงสิ้นหวัง ฆ่าตัวตายไปเท่าไหร่แล้ว ยิ่งถ้าเจอสื่อเล่นข่าวเอามัน ก็คงยิ่งไปกันใหญ่

ท่านทราบหรือไม่ว่าทั้งหมดข้างต้นยัง ‘จิ๊บจ๊อย’ เมื่อเทียบกับการระเบิดของสุดยอดภูเขาไฟ (Super Volcano) ซึ่งครั้งล่าสุดเป็นการระเบิดของภูเขาไฟโทบา ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตราใกล้กับประเทศไทย เมื่อประมาณ 75,000 ปีที่ผ่านมา โดยลาวาพุ่งไปไกลกว่า 3,000 กิโลเมตรถึงภาคใต้ของอินเดีย อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกลดต่ำลงกว่า 5 องศา นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการระเบิดครั้งนี้ทำให้โลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง หลังจากการปล่อยเถ้าถ่าน 2,800 ลูกบาศก์กิโลเมตร พื้นที่ของภูเขาไฟโทบาได้กลายเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดและมีความสวยงามมากที่สุดในเอเชียอาคเนย์ในปัจจุบัน การระเบิดในระดับสุดยอดภูเขาไฟนี่เองที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติ

เห็นหรือยังครับ เหตุการณ์ที่ว่าน่าสะพรึงกลัวในทุกวันนี้ยังเป็นแค่เรื่องเล็กเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต ยังมีมหันตภัยล้างโลกที่เคยเกิดก่อนหน้านี้อีกมากมาย ดังนั้นอย่าไปกลัว ที่สำคัญเราต้องมีสติ คาดว่าเหตุการณ์มหาประลัยทั้งหลายคงไม่เกิดในชั่วชีวิตของเรา แต่ถึงแม้เกิดเหตุร้าย จนเราต้องสิ้นชีวิต เราก็ไม่พึงเสียเวลากลัว เพราะไม่มีใครหนีพ้นความตายดังกล่าว

ความตายเป็นธรรมดา สำคัญอยู่แต่ว่าคุณจะตายอย่างขนนก (เบาหวิวไร้ความหมายเพราะไม่เคยสร้างสรรค์อะไรเลย) หรือจะตายหนักแน่นดุจภูเขาเพราะตายอย่างมีเกียรติเพื่อประชาชนและประเทศชาติ

อ้างอิง

• การเกิดระเบิดของ Super Volcano http://www.vcharkarn.com/varticle/37495 และ http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/ ... p?pid=5730
• ภูเขาไฟกรากะตัว http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81% ... 1%E0%B8%A7
• Kratatoa. http://en.wikipedia.org/wiki/Krakatoa
• Mount Tambora http://en.wikipedia.org/wiki/Mount_Tambora
• Year Without A Summer. http://en.wikipedia.org/wiki/Year_Without_a_Summer
รูปภาพ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 0

Re: Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 6

โพสต์

HAARP ของเล่นอันตราย :s
แมงเม่าสายลม
Verified User
โพสต์: 164
ผู้ติดตาม: 0

Re: Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ยิ่งอ่านดูยิ่งสนุก คือผมเอามาจากเว็บโน้นเว็บนี้ ที่เค้ามาโพสเอาไว้ แต่ส่วนใหญ่จะก๊อป ต่อๆ กันมา มีบางเว็บที่ต่างจากอื่นๆ

อ่านแล้วผมรู้สึกเหมือน ดู เทวากับซาตาน ภาคพิเศษ

นอกจากนั้น HAARP ยังประยุกต์ไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆ
ได้อีกหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ

" Chemtrail " Chemtrail หรือ Chemical Trail หรือสายเคมี คือการฉีดพ่นสารเคมี
บางชนิดในชั้นบรรยากาศให้เป็นสายยาวๆ เป็นการจำลองแบบของเมฆหรือ
ชั้นบรรยากาศโดยเครื่องบินไอพ่น ที่ออกแบบมาเพื่อการควบคุมทิศทาง
การทำงานของเครื่อง HAARP ( คือวิธีการเดียวกับการทำฝนเทียม )
โดยเฉพาะ สารเคมีที่มีพิษอย่างร้ายแรงเช่นสารหนู สารปรอท สารแบเรี่ยมนี้
ได้ถูกโปรยไปทั่วท้องฟ้าของอเมริกาทุกๆวัน โดยคนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นควัน
ของเครื่องบินไอพ่น หรือ (Con Trail) ซึ่งเป็นการเข้าใจที่ผิดมาตลอด
บางคนก็ว่าเป็นโครงการตรวจอากาศหรือทิศทางลม
ต่างคนต่างคิดและเข้าใจไปเองทั้งสิ้น



จุดประสงค์ของการทำ Chemtrail

1.ใช้ควบคุมทิศทางการทำงานของเครื่อง HAARP

2.สารที่ปล่อยออกมีสารพิษสารพัดชนิดเช่น สารหนู สารปรอท สารแบเรี่ยม
อลูมีนั่ม ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อร่างกายมนุษย์ทั้งสิ้น ได้มีความพยายาม
เรียกร้องต่อรัฐบาลให้ตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใด ๆ
ออกมารับผิดชอบ สารพิษต่างๆ เหล่านี้เป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยแปลกๆ
ที่ไม่มีคำอธิบายทางการแพทย์เช่นเป็นแผลที่ปาก เจ็บแน่นหน้าอก ไข้หวัดเรื้อรัง
และอีกสารพัดโรค ซึ่งก็เป็นที่พอใจของคนกลุ่มนี้เพื่อที่จะลดประชากรลง
คนที่ป่วยก็ไปซื้อยาที่บริษัทของพวกเค้าผลิตขึ้นมาขายให้เรารักษาในสิ่งที่เค้าทำครับ

****ใครที่ยังอยู่ในอเมริกา ให้มองขึ้นไปบนทองฟ้า ถ้าสายเคมีที่ออกมาจาก
เครื่องบินไอพ่น แล้วยังค้างอยู่นานเกินกว่า 15 วินาที นั่นแหละ Chemtrail ครับ
สารพัดสารพิษอยู่ในนั้น ถ้าไม่เชื่อเก็บใยของมันที่ตกลงสู่พื้นแล้วไปหาห้องแล๊ป
ตรวจว่าเจอะอะไรในนั้นบ้างแล้วจะเข้าใจเองครับ

3.ใช้บิดเบือนสภาพอากาศให้ร้อนจัดหรือหนาวจัด คือใช้ควบคุม
สภาวะอากาศนี่เอง โลกร้อนเกิดจากสาเหตุนี้แหละ เพราะตกกลางคืน
แทนที่ความร้อนจะถูกถ่ายเทออกจากพื้นโลก แต่ก็ทำไม่ได้เพราะติด
เจ้าพวกสายเคมีพวกนี้ ความร้อนก็เก็บสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลกเรานี่เอง

4.ใช้ในโครงการ Bluebeam คือทำสร้างเป็นเหมือนฉากสะท้อนภาพ
ของเครื่องโปรเจคเตอร์แรงส่งสูงทำให้เราเห็นภาพปรากฏการณ์ประหลาดต่างๆ
บนท้องฟ้าครับ จุดประสงค์หลักตรงนี้คือนำไปใช้ในโครงการ Bluebeam
ซึ่งเป็นโครงการใหญ่อีกโครงการหนึ่ง

นี่แหละครับคือปัญหาของคนไทย เราไม่ค่อยศึกษาถึงบทเรียนของคนอื่น
จนเราต้องต้องมาเจ็บกับบทเรียนของตัวเราเอง ถ้าถึงเวลานั้นกว่าจะฟื้นตัวอีกที
ก็ต้องมาทำกันใหม่ เก็บกันใหม่อีกเป็น 10 ปี แล้วก็โดนอีก มันเป็น
สัจจะธรรมที่ผิดไปแล้วครับ

ดีใจนะที่ คุณ Nequioze เห็นภาพทั้งหมดแล้ว เรื่องไอพ่น ถ้าเป็นไอพ่นปกติ
จากเครื่องบินจะอยู่ประมาณ 15 วินาทีแล้วสลายไปในอากาศ แต่ไอ้สายเคมี
นี่มันเป็นเส้นยาวๆ สุดตาแล้วอยู่เป็นวันเลย เคยสังเกตุไม๊ว่าทำไมคนอเมริกัน 95%
มีโรคประจำตัว อย่างน้อยก็ภูมิแพ้ อันนี้แน่นอน ยิ่งแก่ตัวยิ่งป่วยสารพัดโรค
ถ้าอยู่แคลิฟอเนียนานๆ ลองดูเรื่องน้ำอีกเรื่องนึง ผมจะเปลี่ยนสีเพราะน้ำมี
การปนเปื้อนของฟลูออไรด์ในปริมาณที่สูงมาก เค้าฟ้องร้องกันมาเป็นสิบๆ ปี
ต่อต้านกันมาตลอด

"น้ำในอเมริกาห้ามกินจากก๊อกเด็ดขาด" ไม่ต้องไปเชื่อโฆษณาใดๆ ทั้งสิ้น
ต้องต้มให้เดือดก่อนกินเท่านั้น น้ำที่ขายก็ใช่ว่าดีคงรู้จักพวกน้ำ Poland Spring
หรือ Laguadia ที่บอกว่าดีๆ แค่เอาน้ำก๊อกมาต้มให้เดือดก็ดีกว่าแล้วครับ
มันใส่ฟลูออไรด์ในปริมาณที่สูงมากในน้ำแล้วบอกว่าเพราะจะทำให้ฟันแข็งแรง
ทำไมมันห่วงเราอย่างนี้นะ ทำไมอย่างอื่นโขกสารพัด ลองคิดดูสิครับ แล้วลองไป
หยิบหลอดยาสีฟันมาอ่านคำเตือนสิ ข้างหลอดยาสีฟันบอกว่า "ห้ามกลืนกินเข้าไป
เด็ดขาดเพราะมีส่วนผสมของฟลูออไรด์" แม้จะเป็นปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว

อ้าวววววว แล้วเราเล่นเปิดก๊อกซัดเอื๊อกๆๆ กันเป็นแก้วเลย เพราะเค้าบอกว่าสะอาด
กินได้ไง เค้าเรียกว่าโครงการ Water Fluoridation สารฟลูออไรด์เหล่านี้จะเข้าไป
สะสมตัวอยู่ในร่างกายเรา ทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วต่างๆ ที่อันตรายสุดๆ คือที่สมองเกิด
การสะสมจับตัวเป็นหินปูนในส่วนต่างๆ ของสมองนี่แหละครับ นี่คือสาเหตุของโรคที่
ค้นพบมาไม่นานนี้ "อัลไซเมอร์ หรือโรคสมองเสื่อมไงล่ะ"
ว่าแต่ว่า...กินไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย

( ที่รู้เพราะแฟนเป็นพยาบาลแล้วเค้าต้องรู้จักโรคทุกโรคที่มีในอเมริกาครับ
แล้วเราก็ไปหาสาเหตุว่าหินปูนมันมาอยู่ในสมองของคนไข้เหล่านี้ได้ยังไงนะ
อ๋อออ...เจ้าฟลูออไรด์ในน้ำนี่เอง )

ส่วนพวกคนรวยๆ ระดับโลกบอกแม่ว่า ไม่ต้องไปห่วงเค้า เค้ากระจาย
ความเสี่ยงโดยการลงทุนไปทั่วโลก แล้วเค้าเก็บความมั่งคั่งไว้ที่ธนาคารสวิสต์
เพราะธนาคาคเค้าประกาศวางตัวเป็นกลางในทุกกรณีแม้แต่มีสงคราม
วีธีของเค้าคือ เค้าจะมีพวก Wealth Management Agent หรือพวก
บริษัทรับบริหารความมั่งคั่งให้กับคนระดับนี้ คอยย้ายเงินทุนไปตาม
ผลตอบแทนและความเสี่ยงต่างๆ ครับ
ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในดอลล่าแล้วววววว 555555

แล้วทองไม่ใช่ต้องเล่นกับมันครับ เราจะเรียกว่าอะไรก็ช่าง
แต่มันเป็นวิธีรักษาเงินออม, Wealth, หรือความมั่งคั่ง ของเรา
ได้ดีที่สุดในสถานการณ์อย่างนี้เท่านั้นเอง Nequoise ต้องช่วยแม่
ในเรื่องนี้แล้วล่ะ มันอาจจะลึกไปหน่อยสำหรับอีกหลายๆ คน
แต่เราเข้าใจก็พอ ผมก็จัดการเรื่องพวกนี้ให้ที่บ้านทั้งหมดเหมือนกัน
ปล่อยเค้าทำๆ กันไปไม่ได้แล้ว เพราะถ้าเราไม่วางแผน เรานี่แหละที่ต้องมาแก้ทีหลัง

เครดิตข้อมูลเว็บ สุขใจ.คอม
รูปภาพ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
แมงเม่าสายลม
Verified User
โพสต์: 164
ผู้ติดตาม: 0

Re: Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 8

โพสต์

Project H.A.A.R.P.......Add On ( ข้อมูลเพิ่มเติม )

วันนี้ผมมีข้อมูลหลักฐานที่น่าสนใจ 2 อย่างเกี่ยวกับโครงการ HAARP ครับ คือ


1. ผมมีกราฟความถี่ของแผ่นดินไหวย้อนหลังไปถึงปี 1900 ครับ
น่าสนใจมากแต่ก่อนอื่นต้องเท้าความกลับไปมีเหตุการณ์เกิดขึ้นดังนี้ :
-เครื่อง HAARP ถูกติดตั้งและออนไลน์ระบบพร้อมใช้งานทั้งหมดได้ในปี 1994
-วันที่ 11 กันยายน 1991 ปธน.จอร์จ บุช (ผู้พ่อ) ออกมาประกาศเรื่อง NWO
( New World Order หรือการจัดระเบียบโลกใหม่ )



วันที่ 11 กันยายน 2001 หรือวันเดียวกันใน 10 ปีต่อมาเกิดเหตุการณ์
เวิลด์เทรดเซนเตอร์ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าโลกไปทั้งหมด

เรามาดูกราฟนี้กันครับว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่ตั้งแต่ปี 1900 เป็นต้นมา

รูปภาพ

2. ณ วันนี้เชื่อไม๊ครับว่ามีการเกิดแผ่นดินไหวเป็นรายวัน ทั่วทุกมุมโลก
บางวัน 50 ครั้งบ้าง 60 ครั้งบ้าง กระจายไปทั่วโลก และความรุนแรง
ก็แตกต่างกันไป ดูเฉพาะสถิติของสัปดาห์ที่ผ่านมานี่ครับ


10/4 เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกรวม 18 ครั้ง
10/3 เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกรวม 67 ครั้ง
10/2 เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกรวม 49 ครั้ง
10/1 เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกรวม 51 ครั้ง
09/30 เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกรวม 70 ครั้ง
09/29 เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกรวม 48 ครั้ง
09/28 เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกรวม 16 ครั้ง
09/27 เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกรวม 11 ครั้ง

ข้อมูลตัวเลขทั้งหมดอยู่ในลิ๊งค์นี้ .gov เป็นของรัฐบาลเลยครับ :

http://earthquake.usgs.gov/eqcenter/rec ... s_all.html
รูปภาพ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
แมงเม่าสายลม
Verified User
โพสต์: 164
ผู้ติดตาม: 0

Re: Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 9

โพสต์

พอเข้าช่วงนี้จะออกแนวทฤษฏีสมคบคิด
อ่านไปพอฟังแนวคิดเค้าละกันนะครับ

What's going on in America กล่าวว่า...

1.มันยังไม่มีหลักฐานชัดเจนพอที่จะกล่าวหาครับ เพราะมีเพียงไม่กี่ชาติ
ที่ตามเทคโนโลยีของเค้าทัน อันนี้ต้องยอมรับ ถึงแม้รัสเซียพยายาม
จะประท้วงในเรื่องนี้อย่างหนักในสหประชาชาติ แต่ก็ไม่เป็นผล
สุดท้ายเค้าเลยต้องมีบ้างครับ เพราะฉะนั้นประเทศทีมีเครื่่อง HAARP
อย่างเปิดเผยคือ 3 เครื่องในสหรัฐอเมริกา 1 เครื่องในรัสเซีย และ
อีก 1 เครื่องในยุโรป
ซึ่งในทางลึกก็เป็นของกลุ่มดำขาวเช่นกัน
แต่จะให้อเมริกามีคนเดียวจะดูน่าเกลียดไงครับ แต่เวลาใช้ ก็เพื่อ
เป้าหมายเดียวกันครับ ล่าสุดอิหร่านกำลังจะเป็นเจ้าของเครื่อง HAARP
นี่เหมือนกันครับ ส่วนชาติอื่นยังไม่เป็นการเปิดเผย
แต่คงปิดไม่ได้นาน

2.ไม่มีใครอยากมีสงครามครับ เพราะไม้ได้ให้อะไรกับมนุษย์
นอกจากการทำลายล้างและยึดครอง แล้วโลกเราเสีย
"สมดุลย์แห่งอำนาจ" หรือ "Balance of Power" หลังจากที่
รัสเซียล่มสลายไปครับ ถ้าจะสอบกันจริงผมว่าทำได้ครับ ถ้าหลายๆ ชาติ
ร่วมกัน แต่สุดท้ายเมื่อเจอความจริงแล้วก็คือสงครามอยู่ดีครับ แล้วก็จะ
ไปเข้าทางสหรัฐที่ต้องการก่อสงครามอยู่ดี ทุกชาติจึงพยายามเลี่ยงไม่ให้
เกิดสงครามครับ เพราะถ้าเกิดแล้วก็สู้เค้าไม่ได้อีก เพราะแสนยานุภาพ
มันต่างกันริบลับ ความอัดอั้นตรงนี้ก็เลยระบายออกมาในรูปแบบของ
สงครามการค้า และการสะสมอาวุธแทน(ก็ไปเข้าทางพวกดำขาวเค้าอีก
เพราะเป็นชาติผลิตอาวุธขายเป็นอันดับ 1 ของโลก) และะอย่างที่
เคยบอกครับ ว่าสุดท้ายก็คงเลี่ยงไม่ได้ครับ.......

แต่ในขณะนี้ชาติต่างๆ ในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือ BRIC+
ที่ประกอบไปด้วย Brazil, Russia, India, China + Iran,
Venezuela, กลุ่มประเทศอัฟริกา และอีกหลายๆ ชาติ ก็พยายาม
อย่างมากที่จะปรับโลกให้สมดุลย์ เอาเรื่องนี้ไปคุยกันใน G20
แต่ได้รับการปฏิเสธและ "ประท้วง" จากชาติยุโรป(เค้าแบ่งบทกันเล่นครับ
เพราะถ้าอเมริกา อังกฤษออกมาคงจะหน้าเกลียดพิลึก)ในเรื่องเสียงโหวต
ในสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ อีกไม่นานก็คงเกิดการเผชิญหน้าครับ
แล้วก็แบ่งข้าง แล้วก็อย่างที่บอกครับ เพราะดูรายชื่อหลายๆ
ประเทศใน BRIC+ ก็เป็นที่หมายหัวทั้งนั้่น

ผมกล้าพูดว่าเกือบทุกประเทศในโลกมีการแทรกซึมของกลุ่ม Mason
และอิลูมีนาติครับ
โดยเฉพาะประเทศไหนที่โดดเด่น มีทรัพยากรและ
ผลประโยชน์มหาศาลนี่จะโดนหนักหน่อยครับ ดูอย่างสมาคม Free Mason
ในประเทศไทย มีมาเป็น 100 ปีครับ ถ้าท่านใดที่อ่านอยู่เป็นส่วนนึงของ
Masonic Order นี้ผมอยากจะบอกให้ท่านทราบและลองค้นหาความจริง
ว่าพวกระดับหัวๆ เค้าต้องการอะไร มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดครับ แล้วท่าน
"ถอย" ออกมาเถอะครับ
เพราะ.......

95% ของสมาชิก Mason ในอเมริกา "ถูกหลอกใช้ครับ"
เข้าไปเพราะอยากมีสังคม มีคอนเนคชั่นทางธุรกิจ เพราะเป็นระดับบิ๊กทั้งนั้น
ถูกครับที่ไม่ได้เข้าง่ายๆ แต่อย่างที่บอกครับส่วนใหญ่ที่เข้าไปเพราะไม่รู้
เบื้องลึกเบื้องหลัง แค่เห็นรูปที่แปะอยู่ที่ข้างฝาของตึก ก็ยอมทุกอย่าง
เพื่อจะเป็นส่วนนึงของเค้าแล้ว จิตวิทยาเค้าชั้นเลิศครับคนพวกนี้ ตามให้ทันน่ะยาก

ส่วนใครร่วมมือกับใครหรือไม่ พูดยากครับเพราะโดนแทรกซึมกันเกือบหมดแล้ว
ไม่รู้ใครเป็นใคร นอกจากเค้าแสดงสัญญาณมือ หรืออะไรออกมาก็จะพอบอกได้
แล้วเมื่อจับได้ว่ามีการแทรกซึม ก็อาจจะเกิดเหตุเหมือนที่เกิดกับในหลายๆ
ประเทศครับ คือต้องถอนรากถอนโคน จากอำนาจที่เหนือกว่า
หรือท่านเจ้าของประเทศตัวจริง

เรื่องอินเดียนแดงก็เป็นอย่างนั้นครับ เข้าประเทศของเค้าก็เล่น
เจ้าของเค้าก่อนเลยตามนิสัย ตอนนี้พวกอินเดียนแดงเกือบสูญพันธ์
แต่เค้าก็อยู่กันตามป่าตามเขาเหมือนเดิมแต่ในแบบของโลกยุคใหม่ครับ
คือรัฐบาลให้เค้าอยู่ในเขตของเค้า ที่ผมเห็นคือที่ Conecticut
เหมือนเป็นเขตปกครองตนเอง ตำรวจไม่เข้าไปยุ่ง ธรรมชาติและบริสุทธิ์
ไฟทางก็ยังไม่มี ใครที่ไม่รู้จะงงครับ ถ้าขับเส้น 95 North หรือขึ้นเหนือ
(ทางผ่านที่จะไปคาสิโน)ไฟส่องทางจะสว่างไสวจนเข้าเขตบางแขต
ที่มึดไปเลย ไม่มีไฟทาง คนก็ไม่เข้าใจ คือคุณเข้าไปในเขตของพวก
อินเดียนแดงแล้ว ระวังชนกวางให้มากๆ ผมก็เกือบไปหลายที มีครั้งนึง
ที่เห็นรถบีเอ็มคันหน้าซิ่งมาแล้วอัดกวางเต็มๆ คอขาดกระเด็น
รถก็ไปอีกทาง ผมตามามาบิดพวงมาลัยหลบแบบสุดๆ ครับขับมาตี 4 ครึ่ง
ง่วงก็ง่วง แต่ตื่นเลยครับ ตาสว่างแบบสุดๆ หันกลับไปมอง ข้างหลังเละ
อีกหลายสิบคัน เป็นข่าวไปทั้งเมืองครับ แต่ก็เป็นนช่วงๆ ครับ
พวกอินเดียนแดงที่ถือครองที่ดินมากๆ ก็มาหุ้นกับคนขาวเปิด
คาสิโนกลางหุบเขาเลยครับ ชื่อ Foxwoods

http://www.foxwoods.com/

ยิ่งใหญ่มากดังไม่แพ้ Atlantic City ของเสี่ยทรัมพ์ พวกเรา
คนเอเซียนี่เป็นขาประจำ สุดสัปดาห์อากาศดีไม่รู้ไปไหน ก็นี่เลยครับ
Foxwoods ใกล้หน่อย มีทุกอย่างคาสิโน บันเทิง โชว์สารพัด
อาหารการกิน (ส่วนตัวผมไม่ชอบเล่นครับ เล่นเป็นเกือบหมด แต่
"ผมไม่เชื่อในเรื่องการพนัน" เท่านั้นเอง แต่โป๊กเกอร์ หรือ
Texas Holdem นี่ของโปรดจริงๆ นะ มันต้องคิด ต้องวางแผน
ใครอยากเล่ยบอกนะเรามารวมกลุ่มกัน สนุกๆ แค่ 10-13 คนพอ)

สุดท้ายตอนนี้คนอเมริกันส่วนนึงตื่นแล้วครับ เพราะไม่มีที่อยู่ ที่กิน
ที่นอนแล้วเริ่มดูว่าเกิดอะไรขึ้น พอรู้ความจริงก็ไปที่ วอชิงตัน แล้วก็ไปที่
G20 อย่างที่เห็นครับ แต่เค้าไว้และวางใจรัฐบาลมานานเกินไป คงยากที่จะ
ปฏิวัติอเมริกาครั้งนี้ให้สำเร็จ แต่เค้าก็เริ่มกันแล้วครับ "ผมฟันธงครับ"
ว่าต้องเกิดการนองเลือด และหนักหนาสาหัสครับ จะไม่น้อยไปกว่าที่
เกิดขึ้นในเยอรมัน ของพวกนาซี (จริงๆ เบื้องหลังคือกลุ่มเดียวกันอีกต่างหาก)
ที่ผมรู้เพราะผมติดตามและดูการเตรียมพร้อมอะไรต่างๆ สารพัด เลือดจะนอง
แผ่นดินอเมริกาครับเพราะคนอเมริกัน 2 ใน 3 ถึอครองอาวุธปืนครับ
จะเกิดแบบที่ไม่มีใครคาดคิด แล้วเราคอยดูกันไปครับ ไม่นานครับรับรอง

จบด้วยการฟันธง ว่าจะเกิดการแบ่งข้างนองเลือด ....
เหมือนหมอดูคนดัง ประเทศแถวนี้เลยแฮะ ... :shock:
สรุปว่า ปี 2012 ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจะเกิดเพราะน้ำมือของมนุษย์ด้วยกันเอง
อ่านจบแล้วอารมณ์ประมาณดูหนัง Angel & Devil ควบกับ Atlantis ทวีปที่สาปสูญ :|
รูปภาพ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
แมงเม่าสายลม
Verified User
โพสต์: 164
ผู้ติดตาม: 0

Re: Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 10

โพสต์

Link นี้เป็น แผนที่ภัยพิบัติทุกชนิด
จากทุกมุมโลกแบบ Interactive
ดูแล้วเป็น Real time จริงๆ แฮะ ...

http://hisz.rsoe.hu/alertmap/index2.php

:shock:
รูปภาพ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 0

Re: Project H.A.A.R.P. อาวุธแห่งการทำลาย ???

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ข้อมูลน่าสนใจครับ
พี่เม่าลม :cool:
โพสต์โพสต์