รุ้งกินน้ำ
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4441
ลืม ผมไม่รักหุ้นครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4442
สงครามน้ำดำในเมืองไทย
eFinanceThai
"เสริมสุข"มาวิน ! !...ศึกชิง SSC
สงครามแย่งชิงบมจ.เสริมสุข(SSC)ของสองผู้ถือหุ้นใหญ่ ระหว่างกลุ่มของนายสมชาย บุลสุข ประธานกรรมการ SSC กับ "เป๊ปซี่โค" เข้มข้นขึ้นทุกขณะ..หลังจากที่กลุ่มของนายสมชาย โชว์ความเก๋าประกาศยกเลิกสัญญาทางธุรกิจกับ"เป๊ปซี่" เพื่อชิงความได้เปรียบในสมรภูมิก่อน สร้างความตื่นตะลึงไปทั่ว!!
ก่อนที่"เป๊ปซี่โค"จะตอบโต้ ด้วยการรวบรวมหุ้นทั้งหมดในเครือ ทวงสิทธิ์ส่งคนเข้าไปนั่งในบอร์ดชุดใหม่ หวังพลิกสถานการณ์จากที่เป็นรอง..ให้กลับมาเป็นต่ออีกครั้ง..บทสรุปศึกนี้จะ ลงเอยอย่างไร.. "เป๊ปซี่"จะกลายเป็นแค่ตำนานหรือไม่..ต้องตามติดทุกฝีก้าว!!
ย้อน กลับไปที่ชนวนเหตุความขัดแย้ง ประทุขึ้นจากฝั่ง"เสริมสุข" ของ"สมชาย" ที่เห็นว่าสัญญา Exclusive Bottling Appointment (EBA) ซึ่งเป็นสัญญาเกี่ยวกับการจำหน่ายวัตถุดิบหรือส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตน้ำอัด ลมหรือหัวน้ำเชื้อกับกลุ่มบริษัทเป๊ปซี่ โค ที่ทำกันนั้นไม่เป็นธรรม เนื่องจากเสริมสุข ต้องจ่ายค่าหัวเชื้อให้แก่เป๊ปซี่ถึง 3,435 ล้านบาท และจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากฐานปัจจุบัน 3% ของรายได้ และเป๊ปซี่ยืนยันที่จะไม่ให้ขึ้นราคาขาย
ในขณะที่เสริม สุข ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มต่อเนื่อง ทั้งราคาน้ำตาล ราคาขวดบรรจุ และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน นอกจากนี้เงื่อนไขทางธุรกิจที่ระบุใน EBA ยังจำกัดการเติบโตของเสริมสุข โดยเฉพาะการห้ามจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องสำหรับบริษัทจดทะเบียนที่โดนบี้ให้ทำกำไรตลอด เวลา..ในเมื่อการเจรจาไม่เป็นผล ความอัดอั้นตันใจมาถึงขีดสุด..ทุกอย่างจึงระเบิดออกมา
มา ถึงจุดนี้ หลายฝ่ายอาจมองว่า "กลุ่มเป๊ปซี่โค" ได้เปรียบ "กลุ่มเสริมสุข" เพราะมีหุ้นในมือมากกว่า โดยถือหุ้นใน SSC รวม 41.54% ผ่านบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง 24.94% และ Seven-Up Nederland 16.60% และคาดว่าจะมีพันธมิตรที่ถือหุ้นในเอ็นวีดีอาร์(SBK)อีก 9% ส่วนฝั่งเสริมสุข ถือหุ้นอยู่รวมกันเพียง 32.6% ผ่านบริษัทเอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์..
แต่ทว่ามีสัจธรรมที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ SSC เป็นบริษัทของคนไทย..ยังไงตามหลักการกลุ่มของ"สมชาย"ต้องเป็นผู้ถือหุ้น ใหญ่...เป๊ปซี่โคไม่อาจถือหุ้นเกิน 49% ได้...ซึ่งผู้บริหารชั้นเซียนอย่าง"สมชาย" ย่อมต้องทราบดีถึงข้อได้เปรียบนี้!!
จึงเป็นที่มาของการ ร้องเรียนให้ ก.ล.ต. เข้าไปตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ 24.49% กับบริษัท เอสบีเค เบฟเวอเรจ(SBK) ผู้ถือหุ้นเอ็นวีดีอาร์ 9.13% เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะมีพฤติกรรมที่เป็นกลุ่มเดียวกัน และอาจเข้าข่ายการถือหุ้นเพื่อประโยชน์ในการครอบงำกิจการในอนาคตซึ่งถือว่า ไม่ถูกกฎหมาย...
"จากการเข้าไปดูข้อมูลพบว่าทั้ง 2 บริษัทมีความสัมพันธ์กัน เพราะว่าบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า ในต่างประเทศ ได้ถือหุ้นของบริษัทในเครือ SBK ญี่ปุ่น และมีกรรมการบางรายมีอำนาจในการเซ็นเอกสารร่วมกันด้วย ถ้าหากมีความสัมพันธ์กันจริง แสดงว่ากลุ่ม เป๊ปซี่-โคล่า นับรวมการถือหุ้น SBK -เซเว่นอัพ ถือหุ้นเสริมสุขรวมกันประมาณ 51% ดังนั้น น่าจะเกิดการครอบงำกิจการได้" นายศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ผู้ถือหุ้นรายย่อย SSC กล่าว
การดึงก.ล.ต.เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เพียงเป็นการบีบผู้ถือหุ้นต่างด้าวคายหุ้นออกมาเท่านั้น หากแต่เป็นการเดินเกมที่เฉียบขาดของ"สมชาย" เพื่อหวังกดดันให้"เป๊ปซี่โค" ต้องทบทวนสัญญาทาส EBA ให้จงได้!!
ขณะเดียวกัน"สมชาย"ยัง มั่นใจว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถือหุ้นรวมกันประมาณ 15% จะยืนเคียงข้างเขาแน่นอน เพราะการไล่บี้"เป๊ปซี่โค"ให้รื้อสัญญาทาส..มีนัยสำคัญอยู่ที่การจัดสรรผล ประโยชน์ใน SSC ใหม่...นั่นคือการบีบให้"เป๊ปซี่โค"เฉือนกำไรของตัวเองออกมาเผื่อแผ่ผู้ถือ หุ้นรายอื่นมากขึ้น..ซึ่งเป็นเรื่องที่รายย่อย SSC ต้องเห็นพ้องด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้น ภาพจึงออกมาค่อนข้างชัดว่า แม้"กลุ่มเสริมสุข"จะเป็นรองด้วยจำนวนทหาร(หุ้น)..แต่กลับเป็นต่อด้วย ชัยภูมิและกลยุทธ์ศึก หากประคับประคองตัวเองให้ดี ยื้อยุดฉุดกระชากให้ถูกจังหวะ..อย่างไรเสียชัยชนะก็อยู่ในมือ
ขึ้นอยู่กับ"เป๊ปซี่โค"ว่าจะยอมรื้อสัญญา หรือ "ปิดตำนานตัวเองในเมืองไทย"!!!
โครงสร้างผู้ถือหุ้น SSC
ลำดับ / ผู้ถือหุ้น / จำนวนหุ้น / %
1. / เอสเอสเนชั่นแนล โลจิสติกส์ / 86,732,207 / 32.62
2. / เป๊ปซี่-โคลา(ไทย) เทรดดิ้ง / 66,321,960 / 24.94
3. / SEVEN-UP NEDERLAND,B.V. / 44,140,000 / 16.60
4. / ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด / 27,678,916 / 10.41
5. / นายศราวุธ เทียนสุวรรณ / 12,574,800 / 4.73
6. / นางสวนีย์ ภัทรวานิชานนท์ / 9,494,000 / 3.57
7. / นางจารุณี ชินวงศ์วรกุล / 3,600,000 / 1.35
eFinanceThai
"เสริมสุข"มาวิน ! !...ศึกชิง SSC
สงครามแย่งชิงบมจ.เสริมสุข(SSC)ของสองผู้ถือหุ้นใหญ่ ระหว่างกลุ่มของนายสมชาย บุลสุข ประธานกรรมการ SSC กับ "เป๊ปซี่โค" เข้มข้นขึ้นทุกขณะ..หลังจากที่กลุ่มของนายสมชาย โชว์ความเก๋าประกาศยกเลิกสัญญาทางธุรกิจกับ"เป๊ปซี่" เพื่อชิงความได้เปรียบในสมรภูมิก่อน สร้างความตื่นตะลึงไปทั่ว!!
ก่อนที่"เป๊ปซี่โค"จะตอบโต้ ด้วยการรวบรวมหุ้นทั้งหมดในเครือ ทวงสิทธิ์ส่งคนเข้าไปนั่งในบอร์ดชุดใหม่ หวังพลิกสถานการณ์จากที่เป็นรอง..ให้กลับมาเป็นต่ออีกครั้ง..บทสรุปศึกนี้จะ ลงเอยอย่างไร.. "เป๊ปซี่"จะกลายเป็นแค่ตำนานหรือไม่..ต้องตามติดทุกฝีก้าว!!
ย้อน กลับไปที่ชนวนเหตุความขัดแย้ง ประทุขึ้นจากฝั่ง"เสริมสุข" ของ"สมชาย" ที่เห็นว่าสัญญา Exclusive Bottling Appointment (EBA) ซึ่งเป็นสัญญาเกี่ยวกับการจำหน่ายวัตถุดิบหรือส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตน้ำอัด ลมหรือหัวน้ำเชื้อกับกลุ่มบริษัทเป๊ปซี่ โค ที่ทำกันนั้นไม่เป็นธรรม เนื่องจากเสริมสุข ต้องจ่ายค่าหัวเชื้อให้แก่เป๊ปซี่ถึง 3,435 ล้านบาท และจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากฐานปัจจุบัน 3% ของรายได้ และเป๊ปซี่ยืนยันที่จะไม่ให้ขึ้นราคาขาย
ในขณะที่เสริม สุข ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มต่อเนื่อง ทั้งราคาน้ำตาล ราคาขวดบรรจุ และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน นอกจากนี้เงื่อนไขทางธุรกิจที่ระบุใน EBA ยังจำกัดการเติบโตของเสริมสุข โดยเฉพาะการห้ามจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องสำหรับบริษัทจดทะเบียนที่โดนบี้ให้ทำกำไรตลอด เวลา..ในเมื่อการเจรจาไม่เป็นผล ความอัดอั้นตันใจมาถึงขีดสุด..ทุกอย่างจึงระเบิดออกมา
มา ถึงจุดนี้ หลายฝ่ายอาจมองว่า "กลุ่มเป๊ปซี่โค" ได้เปรียบ "กลุ่มเสริมสุข" เพราะมีหุ้นในมือมากกว่า โดยถือหุ้นใน SSC รวม 41.54% ผ่านบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง 24.94% และ Seven-Up Nederland 16.60% และคาดว่าจะมีพันธมิตรที่ถือหุ้นในเอ็นวีดีอาร์(SBK)อีก 9% ส่วนฝั่งเสริมสุข ถือหุ้นอยู่รวมกันเพียง 32.6% ผ่านบริษัทเอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์..
แต่ทว่ามีสัจธรรมที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ SSC เป็นบริษัทของคนไทย..ยังไงตามหลักการกลุ่มของ"สมชาย"ต้องเป็นผู้ถือหุ้น ใหญ่...เป๊ปซี่โคไม่อาจถือหุ้นเกิน 49% ได้...ซึ่งผู้บริหารชั้นเซียนอย่าง"สมชาย" ย่อมต้องทราบดีถึงข้อได้เปรียบนี้!!
จึงเป็นที่มาของการ ร้องเรียนให้ ก.ล.ต. เข้าไปตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ 24.49% กับบริษัท เอสบีเค เบฟเวอเรจ(SBK) ผู้ถือหุ้นเอ็นวีดีอาร์ 9.13% เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะมีพฤติกรรมที่เป็นกลุ่มเดียวกัน และอาจเข้าข่ายการถือหุ้นเพื่อประโยชน์ในการครอบงำกิจการในอนาคตซึ่งถือว่า ไม่ถูกกฎหมาย...
"จากการเข้าไปดูข้อมูลพบว่าทั้ง 2 บริษัทมีความสัมพันธ์กัน เพราะว่าบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า ในต่างประเทศ ได้ถือหุ้นของบริษัทในเครือ SBK ญี่ปุ่น และมีกรรมการบางรายมีอำนาจในการเซ็นเอกสารร่วมกันด้วย ถ้าหากมีความสัมพันธ์กันจริง แสดงว่ากลุ่ม เป๊ปซี่-โคล่า นับรวมการถือหุ้น SBK -เซเว่นอัพ ถือหุ้นเสริมสุขรวมกันประมาณ 51% ดังนั้น น่าจะเกิดการครอบงำกิจการได้" นายศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ผู้ถือหุ้นรายย่อย SSC กล่าว
การดึงก.ล.ต.เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เพียงเป็นการบีบผู้ถือหุ้นต่างด้าวคายหุ้นออกมาเท่านั้น หากแต่เป็นการเดินเกมที่เฉียบขาดของ"สมชาย" เพื่อหวังกดดันให้"เป๊ปซี่โค" ต้องทบทวนสัญญาทาส EBA ให้จงได้!!
ขณะเดียวกัน"สมชาย"ยัง มั่นใจว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถือหุ้นรวมกันประมาณ 15% จะยืนเคียงข้างเขาแน่นอน เพราะการไล่บี้"เป๊ปซี่โค"ให้รื้อสัญญาทาส..มีนัยสำคัญอยู่ที่การจัดสรรผล ประโยชน์ใน SSC ใหม่...นั่นคือการบีบให้"เป๊ปซี่โค"เฉือนกำไรของตัวเองออกมาเผื่อแผ่ผู้ถือ หุ้นรายอื่นมากขึ้น..ซึ่งเป็นเรื่องที่รายย่อย SSC ต้องเห็นพ้องด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้น ภาพจึงออกมาค่อนข้างชัดว่า แม้"กลุ่มเสริมสุข"จะเป็นรองด้วยจำนวนทหาร(หุ้น)..แต่กลับเป็นต่อด้วย ชัยภูมิและกลยุทธ์ศึก หากประคับประคองตัวเองให้ดี ยื้อยุดฉุดกระชากให้ถูกจังหวะ..อย่างไรเสียชัยชนะก็อยู่ในมือ
ขึ้นอยู่กับ"เป๊ปซี่โค"ว่าจะยอมรื้อสัญญา หรือ "ปิดตำนานตัวเองในเมืองไทย"!!!
โครงสร้างผู้ถือหุ้น SSC
ลำดับ / ผู้ถือหุ้น / จำนวนหุ้น / %
1. / เอสเอสเนชั่นแนล โลจิสติกส์ / 86,732,207 / 32.62
2. / เป๊ปซี่-โคลา(ไทย) เทรดดิ้ง / 66,321,960 / 24.94
3. / SEVEN-UP NEDERLAND,B.V. / 44,140,000 / 16.60
4. / ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด / 27,678,916 / 10.41
5. / นายศราวุธ เทียนสุวรรณ / 12,574,800 / 4.73
6. / นางสวนีย์ ภัทรวานิชานนท์ / 9,494,000 / 3.57
7. / นางจารุณี ชินวงศ์วรกุล / 3,600,000 / 1.35
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4443
จากตัวอย่างที่เห็นมา
เบ๊นซ์กับธนบุรีพานิช
บีเอ็มกับกลุ่มลีนุตพงศ์
โซนี่กับสามชัย
สุดท้ายก็เห็นบริษัทแม่ เจ้าของแบรนด์มาทำตลาดเอง
เพราะbrandสำคัญมากและสร้างยาก ต้องใช้เวลานานนนน...
เรื่องอื่นๆทั้งกระด้างภัณฑ์และละมุนภัณฑ์ล้วนสร้างง่ายและใช้เวลาไม่มากทั้งสิ้น
อีกหน่อยทางเอเย่นต์ผู้กล้าหาญอาจต้องไปทำ
บิ๊กเป๊ปซี่ แข่งกับ บิ๊กโคล่า...ฮ่า...
เบ๊นซ์กับธนบุรีพานิช
บีเอ็มกับกลุ่มลีนุตพงศ์
โซนี่กับสามชัย
สุดท้ายก็เห็นบริษัทแม่ เจ้าของแบรนด์มาทำตลาดเอง
เพราะbrandสำคัญมากและสร้างยาก ต้องใช้เวลานานนนน...
เรื่องอื่นๆทั้งกระด้างภัณฑ์และละมุนภัณฑ์ล้วนสร้างง่ายและใช้เวลาไม่มากทั้งสิ้น
อีกหน่อยทางเอเย่นต์ผู้กล้าหาญอาจต้องไปทำ
บิ๊กเป๊ปซี่ แข่งกับ บิ๊กโคล่า...ฮ่า...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4444
คุยกับพี่ป้อมเล่นๆดีกว่า
สงคราม บริษัทแม่กับลูก ยาวนาน แต่สุดท้ายโดยมากแม่จะเจ็บตัวนะผมว่า มีปัญหาทีไร ลูกกลายพันธุ์ทุกที แถมโตเร็วและตัวใหญ่กว่าเดิม Pizza hut ก็อันนึง เบียร์ช้างอันนี้สุดแสบ ลูกกินแม่ ถ้าผมเป็นแม่นะ ผมกินบริษัทลูกไปเลยดีกว่า เสียน้อยเสียยาก take over เลยสิ้นเรื่อง
สงคราม บริษัทแม่กับลูก ยาวนาน แต่สุดท้ายโดยมากแม่จะเจ็บตัวนะผมว่า มีปัญหาทีไร ลูกกลายพันธุ์ทุกที แถมโตเร็วและตัวใหญ่กว่าเดิม Pizza hut ก็อันนึง เบียร์ช้างอันนี้สุดแสบ ลูกกินแม่ ถ้าผมเป็นแม่นะ ผมกินบริษัทลูกไปเลยดีกว่า เสียน้อยเสียยาก take over เลยสิ้นเรื่อง
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4445
เรื่องทางการตลาด มักเป็นเรื่องสองคนยลตามช่องเดียวกัน แต่เห็นไม่เหมือนกันsmith_sanguan เขียน:คุยกับพี่ป้อมเล่นๆดีกว่า
สงคราม บริษัทแม่กับลูก ยาวนาน แต่สุดท้ายโดยมากแม่จะเจ็บตัวนะผมว่า มีปัญหาทีไร ลูกกลายพันธุ์ทุกที แถมโตเร็วและตัวใหญ่กว่าเดิม Pizza hut ก็อันนึง เบียร์ช้างอันนี้สุดแสบ ลูกกินแม่ ถ้าผมเป็นแม่นะ ผมกินบริษัทลูกไปเลยดีกว่า เสียน้อยเสียยาก take over เลยสิ้นเรื่อง
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4446
วิธีคิดของเจ้าสัวหย่าย...ที่หลายๆคนขยาด...ฮ่า...
'ทรู คอร์ปอเรชั่น' เกมของ 'เจ้าสัว' vote [ถูกใจ]
[แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน
เกมเพิ่มทุน 'เจ้าสัวซีพี' สุดล้ำลึก ถอน ATM 'ผู้ถือหุ้น' เคาะราคา 1.95 บาท รายย่อย'ตกกระไดพลอยโจน' จะ'ถอย'ก็ขาดทุน ไม่ใช้สิทธิก็ยิ่ง'ขาดทุน'
ทรู คอร์ปอเรชั่น เพิ่งได้เงินกู้ก้อนใหญ่จากธนาคารไทยพาณิชย์มาหยกๆ แถมแต่งตั้ง SCB เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุนโครงการ 3G อย่างเป็นทางการ แต่ไหง! กลายเป็นว่า เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ เลือกที่จะกด ATM ถอนเงินนักลงทุนรายย่อยมา "เติมทุน" กลุ่มทรู
การเพิ่มทุนครั้งนี้ ถือว่า "เหนือความคาดหมาย" ของทุกฝ่าย โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่ตั้งตัวกันแทบไม่ทัน บริษัทเพิ่งเพิ่มทุนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 จำนวน 10,000 ล้านหุ้น แต่ขายได้ 3,272 ล้านหุ้น ราคา 1.95 บาท และครั้งนี้เพิ่มทุนส่วนที่เหลืออีก 6,727 ล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม 1 ต่อ 0.865 หุ้นใหม่ ที่ราคาเดิม 1.95 บาท มีเป้าหมายการระดมทุน 13,100 ล้านบาท
หลังการเพิ่มทุน (ถ้าใช้สิทธิครบ 100%) จะทำให้ทรู คอร์ปอเรชั่นมีหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 7,775 ล้านหุ้น เป็น 14,503 ล้านหุ้น หรือมีหุ้นเพิ่มจากปัจจุบันอีก 86% การเพิ่มทุนครั้งนี้ยังกำหนดระยะเวลาให้นักลงทุนตัดสินใจ "กระชั้นชิด" แจ้งตลาดหลักทรัพย์เช้าวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2554 กำหนดวัน XR (ไม่ได้รับสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน) วันที่ 7 เมษายน 2554 ผู้ถือหุ้นมีเวลาตัดสินใจ (วันทำการ) เพียง "สัปดาห์เดียว"
การ เพิ่มทุนครั้งที่แล้วเมื่อต้นปี 2552 ผู้ถือหุ้นรายย่อยต่าง "สละสิทธิ์" ราคาเพิ่มทุน 1.95 บาท แต่ราคาตลาดขณะนั้นซื้อขาย 1.5-1.6 บาท ซีพีก็รับไว้เอง 2,770 ล้านหุ้น ที่ราคา 1.95 บาท (5,400 ล้านบาท) หรือคิดเป็นประมาณ 85% ของหุ้นเพิ่มทุนครั้งแรก
แต่ด้วยความเก๋าเกม ซีพีใช้วิธี "อัฐยายซื้อขนมยาย" หักกลบกับที่ทรู คอร์ปอเรชั่น ต้องใช้สิทธิซื้อหุ้นใน BITCO คืนจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำนวน 3,540 ล้านบาท ซีพีเลยควักกระเป๋าจ่ายค่าหุ้นเพิ่มทุน TRUE จริงๆ เพียง 1,860 ล้านบาท "ทุนเพิ่ม..แต่เงินเข้าไม่เต็ม"
หลังเพิ่มทุนเมื่อปี 2552 ซีพีกลับถือหุ้น TRUE เพิ่มขึ้นจาก 35.62% เป็น 58.21% (เพราะรายย่อยไม่ใช้สิทธิ) หลังจากนั้นประมาณปีเศษหุ้น TRUE ก็วิ่งหูดับตับไหม้ขึ้นไป 7.80 บาท ท่ามกลางข้อกังขาว่า "บริษัทมีแต่หนี้หุ้นขึ้นได้ไง" เทียบพื้นฐานแล้วราคาแซง AIS กับ DTAC แบบสุดกู่ ยิ่งค้านสายตา "หุ้นยิ่งวิ่ง" ซีพีรวยหุ้น TRUE เพิ่ม 3 เท่าทั้งที่เจ้าสัวจ่ายเงินเพิ่มเข้าไปนิดเดียว
ต่อมาวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 ซีพีก็รับเหมาหุ้น TRUE อีกก้อนจากเจ้าหนี้ KfW จำนวน 699.33 ล้านหุ้น สัดส่วน 8.99% ในราคาหุ้นละ 4.90 บาท (3,427 ล้านบาท) กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ TRUE เพิ่มขึ้นอีกจาก 58.21% เป็น 64.74% หรือ 5,034 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับ "สตอรี่ใหม่" ทรูอยู่ระหว่างเจรจาขอซื้อกิจการ "ฮัทชิสัน" ยิ่งทำให้ซีพีฟันกำไรหุ้น TRUE เพิ่มขึ้นอีกเป็น "ต่อที่สอง" สรุปว่า KfW "ขายหมู" ให้เจ้าสัว
ถ้า วัดกันที่ "มูลค่าความมั่งคั่ง" ณ สิ้นปี 2551 มาร์เก็ตแคปหุ้น TRUE เหลือแค่ 6,808 ล้านบาท ซีพีถือหุ้น TRUE เพียง 35.62% คิดเป็นส่วนแบ่งความมั่งคั่ง 2,425 ล้านบาท "จิ๊บจ๊อยมาก" แต่ ณ สิ้นปี 2553 "หนังคนละม้วน" มาร์เก็ตแคปหุ้น TRUE พุ่งขึ้นเป็น 55,207 ล้านบาท แต่ซีพีถือหุ้น TRUE เพิ่มเป็น 64.74% คิดเป็นส่วนแบ่งความมั่งคั่ง 35,740 ล้านบาท
เท่ากับว่า 2 ปี (2552-2553) เครือซีพีรวยหุ้น TRUE เพิ่มขึ้น 1,373% (จาก 2,425 ล้านบาท เป็น 35,740 ล้านบาท) เจ้าสัวซีพียังรักษาตำแหน่งนักลงทุนที่อยู่ "ยอดบนสุดของพีระมิด" เหนือเซียนหุ้นทั้งปวง นี่แหละ! ความเหนือชั้นสุดบรรยาย
ปีนี้นิตย สารฟอร์บส์ จัดอันดับมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2011 ทั้งหมด 1,000 อันดับ เจ้าสัวธนินท์ รวยอยู่ในอันดับที่ 152 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 6,500 ล้านดอลลาร์ "รวยที่สุดในประเทศไทย" แซงหน้า "เจ้าสัวเจริญ" เบียร์ช้าง (อันดับที่ 247) และเบียด "เฉลียว อยู่วิทยา" เจ้าสัวกระทิงแดง (อันดับที่ 208) หล่นไปเป็นอันดับสอง
ถ้าดูโครงสร้างผู้ถือหุ้น TRUE ล่าสุดพบว่ามีนักลงทุนรายย่อยเข้าไปพัวพันกับหุ้นตัวนี้มากถึง 30,581 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 3,000 ราย และมีนักลงทุนรายย่อยจำนวนไม่น้อยที่ถูกลากไป "ติดหุ้น" เหนือ 7 บาท นักลงทุนต้นทุนแพงเหมือนตกกระไดพลอยโจนจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนก็ยิ่ง "ถลำลึก" จะถอยก็ "ขาดทุน" ถือไว้โดยไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนก็ยิ่ง "ขาดทุนหนัก"
ที่ ล้ำลึกก็คือเพิ่มทุนหุ้น TRUE รอบนี้เจ้าสัวเสนอออปชั่น "ราคาต่ำ" จูงใจสุดๆ แถมขาย "อนาคต 3G" สดใสซาบซ่าส์ นักวิเคราะห์ต่างเชื่อว่าเกมเพิ่มทุนของเจ้าสัวรอบนี้น่าจะ "ดึง" รายย่อยแห่ใช้สิทธิอย่างล้นหลาม
วิเคราะห์ตามรูปการณ์แผนเพิ่มทุน รอบนี้อย่างมากซีพีจะใช้สิทธิ "เท่าสิทธิ" (64.74% หรือ 4,355 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 8,490 ล้านบาท) ไม่เชื่อว่าจะ "เหมาหุ้น" เอาไว้เอง ถ้าการเพิ่มทุนสำเร็จ 100% เท่ากับนักลงทุนถูกเครือซีพีจับ "คอนเวอร์เจนซ์" ชนิดสมบูรณ์แบบ เก็งกำไรหุ้น TRUE ช่วย TRUE เพิ่มทุน เจ้าสัวก็แฮปปี้ เจ้าหนี้ก็แฮปปี้ ส่วนนักลงทุนต้องไป "ลุ้นหุ้น TRUE เอาเองในตลาด" เพราะหุ้นไม่มีปันผล
หุ้นพื้นฐานดีอนาคตไกลอย่าง CPF เครือซีพียังถือหุ้น 44.99% หุ้นมั่นคงธุรกิจเติบโตทุกปีอย่าง CPALL ซีพียังถือหุ้น 45.47% หุ้นหนี้สูงอนาคตไม่แน่นอนอย่าง TRUE มีหรือที่ซีพีจะคงสัดส่วนหุ้นไว้ 64.74% แล้วไปใช้สิทธิแทนรายย่อย ต้องลุ้นกันตัวโก่งว่าเจ้าสัวจะหอบเงิน 8,490 ล้านบาทไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน TRUE เพื่อรักษาสิทธิถือหุ้นเท่าเดิม (64.74%) หรือเปล่า!
เหตุการณ์ วันนี้กับเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อนอาจจะกลับตาลปัตรกันก็ได้ วันนั้น (ต้นปี 2552) หุ้น TRUE ราคา 1.5-1.6 บาท ขายหุ้นเพิ่มทุนราคา 1.95 บาท "รายย่อยเมิน" แต่เจ้าสัว "กว้านเข้าพอร์ต" คนเดียว (รวยเละ) วันนี้ราคาหุ้น TRUE อยู่เกือบ 6 บาท เจ้าสัวขนหุ้นมา "ลดล้างสต็อก" ถ้ารายย่อย "เฮโลซื้อ" เจ้าสัวอาจจะ "ถอย" ก็ได้นักลงทุนลงทุนเพื่อหวังกำไร แต่เจ้าสัวลงทุนด้วยเงินคนอื่นมาสร้างกำไรให้ตัวเอง เป้าหมายเดียวกันคือ "กำไร" แต่ "วิธีคิด-วิธีการ" นั้นแตกต่าง
อย่างไรก็ตาม "จุดอ่อน" สำคัญของทรู คอร์ปอเรชั่น มีอยู่ 2 ปัจจัยหลักคือ "ภาระหนี้สูง" กับ "รายได้ที่เติบโตต่ำ" ณ สิ้นปี 2553 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมอยู่ในระดับที่สูงมากที่ 85.3% ในระหว่างปี 2554-2555 มีภาระหนี้ที่ถึงกำหนดชำระปีละ 5,800-5,900 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 21,900 ล้านบาท ในปี 2556 และถึงกำหนดชำระ 17,300 ล้านบาท ในปี 2557 โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้ในการไถ่ถอนหุ้นกู้ของทรูมูฟ
ขณะ ที่บริษัทมีจุดอ่อนเรื่อง "รายได้ที่เติบโตช้า" ช่วงปี 2550-2553 รายได้อยู่ที่ปีละ 60,000-65,000 ล้านบาท แทบไม่ขยับไปไหนทั้งๆ ที่บริษัทบอกว่าประสบความสำเร็จกับกลยุทธ์ "คอนเวอร์เจนซ์" แต่ต้องยอมรับว่าทรูก็มี "จุดดี" คือรายได้และอัตราส่วนกำไรที่ค่อนข้างคงที่ (มั่นคง) ช่วยให้การคาดการณ์กระแสเงินสดในระยะปานกลางมีความแน่นอน ทริสเรทติ้งคาดว่า รายได้ของทรู คอร์ปอเรชั่น น่าจะเติบโตได้ปีละประมาณ 3-4% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แต่ทรูมูฟยังมีความไม่ชัดเจนประเด็นข้อโต้แย้งด้านกฎหมาย
อย่าง ไรก็ตาม สถานะอันดับเครดิตองค์กรปัจจุบันของทรูที่ระดับ BBB แนวโน้ม Negative (ลบ) ทริสเรทติ้ง ระบุว่า บริษัทไม่สามารถที่จะเพิ่มภาระหนี้จำนวนมากได้อีกต่อไป หากการลงทุนดังกล่าวไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่ชัดเจนและเหมาะสมในอนาคต ได้
นี่คงเป็นเหตุผลกระมังที่ท่านเจ้าสัว "งัดไม้ตาย" ขายหุ้นเพิ่มทุนเป็น "ทางเลือกหลัก" เลือกที่จะกด ATM ถอนเงินนักลงทุนรายย่อยมา "เติมทุน" ให้กลุ่มทรู ตามสูตรลงทุนด้วยเงินคนอื่นสร้างกำไรให้ตัวเอง ถนนมีถึงพันสาย แต่ความสำเร็จมีเพียงเส้นทางเดียวคือทำให้นักลงทุนมั่นใจว่า "พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นที่หุ้น TRUE"
๐ 'เจ้าสัวน้อย' รายได้ TRUE ปีนี้ 70,000 ล้านบาท
“ผม คิดว่าตลาดหุ้นจะตอบรับ (ข่าวเพิ่มทุน) ในแง่บวกเร็วๆ นี้ ดีลนี้จะทำให้มาร์เก็ตแคปหุ้น TRUE เพิ่มขึ้นด้วย” ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวอย่างมั่นใจ
ทายาทเจ้าสัวใหญ่ซีพี แสดงความเชื่อมั่นด้วยว่าการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะ "ขายหมด" เนื่องจากผู้ถือหุ้นเดิมจะได้สิทธิซื้อหุ้นในราคา “ถูก” (1.95 บาท) ส่วนกลุ่มซีพีผู้ถือหุ้นใหญ่ 64.74% ส่วนตัวคงตอบแทนเขา (เจ้าสัวธนินท์) ไม่ได้ ที่ผ่านมากลุ่มซีพีให้การสนับสนุนบริษัทดีมาโดยตลอด เรื่องเพิ่มทุนตัวแทนผู้ถือหุ้นในบอร์ดก็ให้การสนับสนุน "ผมคงพูดได้แค่นี้"
แผน เร่งด่วนตอนนี้คือการเปิดบริการ 3G แบรนด์ True Move H ภายในไตรมาสสามปีนี้แต่จะเริ่มทำตลาดกับลูกค้าเดิมของฮัทช์ภายในเดือนเมษายน แต่จะไม่เลิกแบรนด์ฮัทช์ในทันทีจะทยอยย้ายฐานลูกค้า 1 ล้านรายเข้ามาสู่บริการใหม่
ส่วนแผนการขยายสถานียังคงเป็นตามเดิมคือ ภายในปีนี้ต้องเปิดให้ได้ 2,000 สถานี ปีหน้า 3,500 และปีถัดไป 4,500 สถานี วงเงินกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์ 15,000 ล้านบาท ตอนนี้ใช้ไปแค่ 6,700 ล้านบาท ในการซื้อกิจการฮัทช์แต่คาดว่าจะใช้ไม่หมดตามจำนวนเพราะจะเป็นการเพิ่มภาระ หนี้
นพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ชี้แจงว่า เหตุผลที่กำหนดราคาเพิ่มทุน 1.95 บาทต่ำกว่าราคาในกระดานมากเพราะมีโอกาสพบผู้ถือหุ้น TRUE ที่เป็นรายย่อยส่วนใหญ่เขาต้องการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคาเดิม เขาต้องการรักษาสัดส่วนหุ้นเดิมไว้และเชื่อมั่นว่าในธุรกิจใหม่ของเรามาก มีเพียงโบรกเกอร์บางแห่งที่ออกบทวิเคราะห์ว่าผู้ถือหุ้น "เหมือนถูกโดนบังคับ" ให้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่าราคาตลาด
เหตุผลอีก ข้อคือเรามีความจำเป็นต้อง "ใช้เงินลงทุนทันที" เพื่อวางโครงข่าย 3G ระบบ HSPA ที่เซ็นสัญญากับ กสท ถ้าจะเพิ่มทุนตามราคาตลาดตอนนี้ และมีส่วนลดให้ 15-20% มันต้องเริ่มกระบวนการใหม่หมดและกว่าจะได้เงินมาต้องใช้เวลา 4-5 เดือน "เวลาเราจำกัดด้วย" นี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ถามว่าเจ้าหนี้ บีบให้เพิ่มทุนรึเปล่า! เขาตอบว่า เราตัดสินใจเองโดยไม่ต้องมีใคร (เจ้าหนี้) มาบังคับแน่นอน แม้จะไม่มีการเพิ่มทุนครั้งนี้บริษัทก็สามารถลงทุน 3G ได้อยู่แล้วธนาคาร (SCB) ก็สนับสนุนเรา
นพปฎล กล่าวว่า ผลกระทบจากการเพิ่มทุนครั้งนี้แน่นอนว่าราคาหุ้น TRUE จะเกิด Dilution Effect ประมาณ 30% แต่สิ่งที่จะได้กลับมาคือความแข็งแกร่งทางการเงิน ปัจจุบันทรูมีภาระเงินกู้ 67,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนดอกเบี้ย 6,000 ล้านบาท มีกำหนดต้องชำระคืนเงินต้นแต่ละปี 5,700 ล้านบาท มีหนี้สินต่อ EBITDA ที่ 3.3 เท่า
จุดประสงค์หลักของการเพิ่มทุนไม่ได้นำไปชำระ หนี้ แต่ต้องการนำไปลงทุน 3G เป็น "อันดับแรก" แต่ถ้าได้รับเงินเพิ่มทุนเต็มจำนวน 13,000 ล้านบาท อาจนำเงินบางส่วนไป "ลดหนี้" โดยเฉพาะหนี้ในส่วนของทรูมูฟที่เป็นหุ้นกู้มูลค่า 690 ล้านดอลลาร์ มูลค่าตามสัญญา 27,000 ล้านบาท มีต้นทุนดอกเบี้ยแพงที่ 10% แต่ก็ยอมรับว่าค่อนข้างยากที่จะ "ปิดหนี้ก้อนนี้" เนื่องจากมีสภาพคล่องซื้อขายในต่างประเทศค่อนข้างสูง
ถามว่าหลังจาก นี้บริษัทจะต้องมีการเพิ่มทุนอีกหรือไม่ มือการเงินกลุ่มทรู ตอบว่า "ไม่แน่" ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนได้ตามสภาวะตลาดทุน อนาคตบริษัทอาจจะลดทุนแล้วจ่ายคืนผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดก็ได้
นพปฎล เปิดเผยว่า กลุ่มทรูกำลังมองหา “พันธมิตร” มาเสริมความแข็งแกร่งทั้งเงินทุนและเทคโนโลยี แต่ตอนนี้คงไม่รีบเร่งหา Strategic Partner แล้ว ถ้าเพิ่มทุนให้พันธมิตรใหม่ผู้ถือหุ้นเดิมจะเสียเปรียบเพราะหุ้นถูกไดลูท สู้เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิมได้เลือกใช้สิทธิก่อนดีกว่า
“ถ้าเราจะ เพิ่มทุนครั้งต่อไปเราจะทำเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นให้บริษัทโตเร็ว ขึ้นเท่านั้น รับรองว่าภายใน 1 ปีจากนี้เรายังไม่มีการเพิ่มทุนอีก”
สำหรับ แนวโน้มผลประกอบการหลังควบรวมกิจการฮัทช์เข้ามาจะทำให้รายได้ในส่วนของทรู มูฟเพิ่มขึ้นทันที 4,000 ล้านบาท แม้ว่าฮัทช์จะขาดทุนทุกปี แต่ยังมี EBITDA เป็นบวก ช่วงแรกอาจทำให้ EBITDA Margin ส่วนของธุรกิจไร้สายลดลงไปบ้างจากปัจจุบัน 25% แต่ระยะยาวจะเริ่มดีขึ้นคาดว่าจะขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับ DTAC ที่ 40%
“รายได้รวมปีนี้ คาดว่าจะเติบโตเลขตัวเดียวปลายๆ หรือประมาณ 70,000 ล้านบาท” มือการเงินกลุ่มทรู พยากรณ์
ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 5 เมษายน 2554 01:00
'ทรู คอร์ปอเรชั่น' เกมของ 'เจ้าสัว' vote [ถูกใจ]
[แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน
เกมเพิ่มทุน 'เจ้าสัวซีพี' สุดล้ำลึก ถอน ATM 'ผู้ถือหุ้น' เคาะราคา 1.95 บาท รายย่อย'ตกกระไดพลอยโจน' จะ'ถอย'ก็ขาดทุน ไม่ใช้สิทธิก็ยิ่ง'ขาดทุน'
ทรู คอร์ปอเรชั่น เพิ่งได้เงินกู้ก้อนใหญ่จากธนาคารไทยพาณิชย์มาหยกๆ แถมแต่งตั้ง SCB เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุนโครงการ 3G อย่างเป็นทางการ แต่ไหง! กลายเป็นว่า เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ เลือกที่จะกด ATM ถอนเงินนักลงทุนรายย่อยมา "เติมทุน" กลุ่มทรู
การเพิ่มทุนครั้งนี้ ถือว่า "เหนือความคาดหมาย" ของทุกฝ่าย โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่ตั้งตัวกันแทบไม่ทัน บริษัทเพิ่งเพิ่มทุนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 จำนวน 10,000 ล้านหุ้น แต่ขายได้ 3,272 ล้านหุ้น ราคา 1.95 บาท และครั้งนี้เพิ่มทุนส่วนที่เหลืออีก 6,727 ล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม 1 ต่อ 0.865 หุ้นใหม่ ที่ราคาเดิม 1.95 บาท มีเป้าหมายการระดมทุน 13,100 ล้านบาท
หลังการเพิ่มทุน (ถ้าใช้สิทธิครบ 100%) จะทำให้ทรู คอร์ปอเรชั่นมีหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 7,775 ล้านหุ้น เป็น 14,503 ล้านหุ้น หรือมีหุ้นเพิ่มจากปัจจุบันอีก 86% การเพิ่มทุนครั้งนี้ยังกำหนดระยะเวลาให้นักลงทุนตัดสินใจ "กระชั้นชิด" แจ้งตลาดหลักทรัพย์เช้าวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2554 กำหนดวัน XR (ไม่ได้รับสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน) วันที่ 7 เมษายน 2554 ผู้ถือหุ้นมีเวลาตัดสินใจ (วันทำการ) เพียง "สัปดาห์เดียว"
การ เพิ่มทุนครั้งที่แล้วเมื่อต้นปี 2552 ผู้ถือหุ้นรายย่อยต่าง "สละสิทธิ์" ราคาเพิ่มทุน 1.95 บาท แต่ราคาตลาดขณะนั้นซื้อขาย 1.5-1.6 บาท ซีพีก็รับไว้เอง 2,770 ล้านหุ้น ที่ราคา 1.95 บาท (5,400 ล้านบาท) หรือคิดเป็นประมาณ 85% ของหุ้นเพิ่มทุนครั้งแรก
แต่ด้วยความเก๋าเกม ซีพีใช้วิธี "อัฐยายซื้อขนมยาย" หักกลบกับที่ทรู คอร์ปอเรชั่น ต้องใช้สิทธิซื้อหุ้นใน BITCO คืนจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำนวน 3,540 ล้านบาท ซีพีเลยควักกระเป๋าจ่ายค่าหุ้นเพิ่มทุน TRUE จริงๆ เพียง 1,860 ล้านบาท "ทุนเพิ่ม..แต่เงินเข้าไม่เต็ม"
หลังเพิ่มทุนเมื่อปี 2552 ซีพีกลับถือหุ้น TRUE เพิ่มขึ้นจาก 35.62% เป็น 58.21% (เพราะรายย่อยไม่ใช้สิทธิ) หลังจากนั้นประมาณปีเศษหุ้น TRUE ก็วิ่งหูดับตับไหม้ขึ้นไป 7.80 บาท ท่ามกลางข้อกังขาว่า "บริษัทมีแต่หนี้หุ้นขึ้นได้ไง" เทียบพื้นฐานแล้วราคาแซง AIS กับ DTAC แบบสุดกู่ ยิ่งค้านสายตา "หุ้นยิ่งวิ่ง" ซีพีรวยหุ้น TRUE เพิ่ม 3 เท่าทั้งที่เจ้าสัวจ่ายเงินเพิ่มเข้าไปนิดเดียว
ต่อมาวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 ซีพีก็รับเหมาหุ้น TRUE อีกก้อนจากเจ้าหนี้ KfW จำนวน 699.33 ล้านหุ้น สัดส่วน 8.99% ในราคาหุ้นละ 4.90 บาท (3,427 ล้านบาท) กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ TRUE เพิ่มขึ้นอีกจาก 58.21% เป็น 64.74% หรือ 5,034 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับ "สตอรี่ใหม่" ทรูอยู่ระหว่างเจรจาขอซื้อกิจการ "ฮัทชิสัน" ยิ่งทำให้ซีพีฟันกำไรหุ้น TRUE เพิ่มขึ้นอีกเป็น "ต่อที่สอง" สรุปว่า KfW "ขายหมู" ให้เจ้าสัว
ถ้า วัดกันที่ "มูลค่าความมั่งคั่ง" ณ สิ้นปี 2551 มาร์เก็ตแคปหุ้น TRUE เหลือแค่ 6,808 ล้านบาท ซีพีถือหุ้น TRUE เพียง 35.62% คิดเป็นส่วนแบ่งความมั่งคั่ง 2,425 ล้านบาท "จิ๊บจ๊อยมาก" แต่ ณ สิ้นปี 2553 "หนังคนละม้วน" มาร์เก็ตแคปหุ้น TRUE พุ่งขึ้นเป็น 55,207 ล้านบาท แต่ซีพีถือหุ้น TRUE เพิ่มเป็น 64.74% คิดเป็นส่วนแบ่งความมั่งคั่ง 35,740 ล้านบาท
เท่ากับว่า 2 ปี (2552-2553) เครือซีพีรวยหุ้น TRUE เพิ่มขึ้น 1,373% (จาก 2,425 ล้านบาท เป็น 35,740 ล้านบาท) เจ้าสัวซีพียังรักษาตำแหน่งนักลงทุนที่อยู่ "ยอดบนสุดของพีระมิด" เหนือเซียนหุ้นทั้งปวง นี่แหละ! ความเหนือชั้นสุดบรรยาย
ปีนี้นิตย สารฟอร์บส์ จัดอันดับมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2011 ทั้งหมด 1,000 อันดับ เจ้าสัวธนินท์ รวยอยู่ในอันดับที่ 152 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 6,500 ล้านดอลลาร์ "รวยที่สุดในประเทศไทย" แซงหน้า "เจ้าสัวเจริญ" เบียร์ช้าง (อันดับที่ 247) และเบียด "เฉลียว อยู่วิทยา" เจ้าสัวกระทิงแดง (อันดับที่ 208) หล่นไปเป็นอันดับสอง
ถ้าดูโครงสร้างผู้ถือหุ้น TRUE ล่าสุดพบว่ามีนักลงทุนรายย่อยเข้าไปพัวพันกับหุ้นตัวนี้มากถึง 30,581 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 3,000 ราย และมีนักลงทุนรายย่อยจำนวนไม่น้อยที่ถูกลากไป "ติดหุ้น" เหนือ 7 บาท นักลงทุนต้นทุนแพงเหมือนตกกระไดพลอยโจนจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนก็ยิ่ง "ถลำลึก" จะถอยก็ "ขาดทุน" ถือไว้โดยไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนก็ยิ่ง "ขาดทุนหนัก"
ที่ ล้ำลึกก็คือเพิ่มทุนหุ้น TRUE รอบนี้เจ้าสัวเสนอออปชั่น "ราคาต่ำ" จูงใจสุดๆ แถมขาย "อนาคต 3G" สดใสซาบซ่าส์ นักวิเคราะห์ต่างเชื่อว่าเกมเพิ่มทุนของเจ้าสัวรอบนี้น่าจะ "ดึง" รายย่อยแห่ใช้สิทธิอย่างล้นหลาม
วิเคราะห์ตามรูปการณ์แผนเพิ่มทุน รอบนี้อย่างมากซีพีจะใช้สิทธิ "เท่าสิทธิ" (64.74% หรือ 4,355 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 8,490 ล้านบาท) ไม่เชื่อว่าจะ "เหมาหุ้น" เอาไว้เอง ถ้าการเพิ่มทุนสำเร็จ 100% เท่ากับนักลงทุนถูกเครือซีพีจับ "คอนเวอร์เจนซ์" ชนิดสมบูรณ์แบบ เก็งกำไรหุ้น TRUE ช่วย TRUE เพิ่มทุน เจ้าสัวก็แฮปปี้ เจ้าหนี้ก็แฮปปี้ ส่วนนักลงทุนต้องไป "ลุ้นหุ้น TRUE เอาเองในตลาด" เพราะหุ้นไม่มีปันผล
หุ้นพื้นฐานดีอนาคตไกลอย่าง CPF เครือซีพียังถือหุ้น 44.99% หุ้นมั่นคงธุรกิจเติบโตทุกปีอย่าง CPALL ซีพียังถือหุ้น 45.47% หุ้นหนี้สูงอนาคตไม่แน่นอนอย่าง TRUE มีหรือที่ซีพีจะคงสัดส่วนหุ้นไว้ 64.74% แล้วไปใช้สิทธิแทนรายย่อย ต้องลุ้นกันตัวโก่งว่าเจ้าสัวจะหอบเงิน 8,490 ล้านบาทไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน TRUE เพื่อรักษาสิทธิถือหุ้นเท่าเดิม (64.74%) หรือเปล่า!
เหตุการณ์ วันนี้กับเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อนอาจจะกลับตาลปัตรกันก็ได้ วันนั้น (ต้นปี 2552) หุ้น TRUE ราคา 1.5-1.6 บาท ขายหุ้นเพิ่มทุนราคา 1.95 บาท "รายย่อยเมิน" แต่เจ้าสัว "กว้านเข้าพอร์ต" คนเดียว (รวยเละ) วันนี้ราคาหุ้น TRUE อยู่เกือบ 6 บาท เจ้าสัวขนหุ้นมา "ลดล้างสต็อก" ถ้ารายย่อย "เฮโลซื้อ" เจ้าสัวอาจจะ "ถอย" ก็ได้นักลงทุนลงทุนเพื่อหวังกำไร แต่เจ้าสัวลงทุนด้วยเงินคนอื่นมาสร้างกำไรให้ตัวเอง เป้าหมายเดียวกันคือ "กำไร" แต่ "วิธีคิด-วิธีการ" นั้นแตกต่าง
อย่างไรก็ตาม "จุดอ่อน" สำคัญของทรู คอร์ปอเรชั่น มีอยู่ 2 ปัจจัยหลักคือ "ภาระหนี้สูง" กับ "รายได้ที่เติบโตต่ำ" ณ สิ้นปี 2553 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมอยู่ในระดับที่สูงมากที่ 85.3% ในระหว่างปี 2554-2555 มีภาระหนี้ที่ถึงกำหนดชำระปีละ 5,800-5,900 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 21,900 ล้านบาท ในปี 2556 และถึงกำหนดชำระ 17,300 ล้านบาท ในปี 2557 โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้ในการไถ่ถอนหุ้นกู้ของทรูมูฟ
ขณะ ที่บริษัทมีจุดอ่อนเรื่อง "รายได้ที่เติบโตช้า" ช่วงปี 2550-2553 รายได้อยู่ที่ปีละ 60,000-65,000 ล้านบาท แทบไม่ขยับไปไหนทั้งๆ ที่บริษัทบอกว่าประสบความสำเร็จกับกลยุทธ์ "คอนเวอร์เจนซ์" แต่ต้องยอมรับว่าทรูก็มี "จุดดี" คือรายได้และอัตราส่วนกำไรที่ค่อนข้างคงที่ (มั่นคง) ช่วยให้การคาดการณ์กระแสเงินสดในระยะปานกลางมีความแน่นอน ทริสเรทติ้งคาดว่า รายได้ของทรู คอร์ปอเรชั่น น่าจะเติบโตได้ปีละประมาณ 3-4% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แต่ทรูมูฟยังมีความไม่ชัดเจนประเด็นข้อโต้แย้งด้านกฎหมาย
อย่าง ไรก็ตาม สถานะอันดับเครดิตองค์กรปัจจุบันของทรูที่ระดับ BBB แนวโน้ม Negative (ลบ) ทริสเรทติ้ง ระบุว่า บริษัทไม่สามารถที่จะเพิ่มภาระหนี้จำนวนมากได้อีกต่อไป หากการลงทุนดังกล่าวไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่ชัดเจนและเหมาะสมในอนาคต ได้
นี่คงเป็นเหตุผลกระมังที่ท่านเจ้าสัว "งัดไม้ตาย" ขายหุ้นเพิ่มทุนเป็น "ทางเลือกหลัก" เลือกที่จะกด ATM ถอนเงินนักลงทุนรายย่อยมา "เติมทุน" ให้กลุ่มทรู ตามสูตรลงทุนด้วยเงินคนอื่นสร้างกำไรให้ตัวเอง ถนนมีถึงพันสาย แต่ความสำเร็จมีเพียงเส้นทางเดียวคือทำให้นักลงทุนมั่นใจว่า "พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นที่หุ้น TRUE"
๐ 'เจ้าสัวน้อย' รายได้ TRUE ปีนี้ 70,000 ล้านบาท
“ผม คิดว่าตลาดหุ้นจะตอบรับ (ข่าวเพิ่มทุน) ในแง่บวกเร็วๆ นี้ ดีลนี้จะทำให้มาร์เก็ตแคปหุ้น TRUE เพิ่มขึ้นด้วย” ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวอย่างมั่นใจ
ทายาทเจ้าสัวใหญ่ซีพี แสดงความเชื่อมั่นด้วยว่าการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะ "ขายหมด" เนื่องจากผู้ถือหุ้นเดิมจะได้สิทธิซื้อหุ้นในราคา “ถูก” (1.95 บาท) ส่วนกลุ่มซีพีผู้ถือหุ้นใหญ่ 64.74% ส่วนตัวคงตอบแทนเขา (เจ้าสัวธนินท์) ไม่ได้ ที่ผ่านมากลุ่มซีพีให้การสนับสนุนบริษัทดีมาโดยตลอด เรื่องเพิ่มทุนตัวแทนผู้ถือหุ้นในบอร์ดก็ให้การสนับสนุน "ผมคงพูดได้แค่นี้"
แผน เร่งด่วนตอนนี้คือการเปิดบริการ 3G แบรนด์ True Move H ภายในไตรมาสสามปีนี้แต่จะเริ่มทำตลาดกับลูกค้าเดิมของฮัทช์ภายในเดือนเมษายน แต่จะไม่เลิกแบรนด์ฮัทช์ในทันทีจะทยอยย้ายฐานลูกค้า 1 ล้านรายเข้ามาสู่บริการใหม่
ส่วนแผนการขยายสถานียังคงเป็นตามเดิมคือ ภายในปีนี้ต้องเปิดให้ได้ 2,000 สถานี ปีหน้า 3,500 และปีถัดไป 4,500 สถานี วงเงินกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์ 15,000 ล้านบาท ตอนนี้ใช้ไปแค่ 6,700 ล้านบาท ในการซื้อกิจการฮัทช์แต่คาดว่าจะใช้ไม่หมดตามจำนวนเพราะจะเป็นการเพิ่มภาระ หนี้
นพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ชี้แจงว่า เหตุผลที่กำหนดราคาเพิ่มทุน 1.95 บาทต่ำกว่าราคาในกระดานมากเพราะมีโอกาสพบผู้ถือหุ้น TRUE ที่เป็นรายย่อยส่วนใหญ่เขาต้องการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคาเดิม เขาต้องการรักษาสัดส่วนหุ้นเดิมไว้และเชื่อมั่นว่าในธุรกิจใหม่ของเรามาก มีเพียงโบรกเกอร์บางแห่งที่ออกบทวิเคราะห์ว่าผู้ถือหุ้น "เหมือนถูกโดนบังคับ" ให้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่าราคาตลาด
เหตุผลอีก ข้อคือเรามีความจำเป็นต้อง "ใช้เงินลงทุนทันที" เพื่อวางโครงข่าย 3G ระบบ HSPA ที่เซ็นสัญญากับ กสท ถ้าจะเพิ่มทุนตามราคาตลาดตอนนี้ และมีส่วนลดให้ 15-20% มันต้องเริ่มกระบวนการใหม่หมดและกว่าจะได้เงินมาต้องใช้เวลา 4-5 เดือน "เวลาเราจำกัดด้วย" นี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ถามว่าเจ้าหนี้ บีบให้เพิ่มทุนรึเปล่า! เขาตอบว่า เราตัดสินใจเองโดยไม่ต้องมีใคร (เจ้าหนี้) มาบังคับแน่นอน แม้จะไม่มีการเพิ่มทุนครั้งนี้บริษัทก็สามารถลงทุน 3G ได้อยู่แล้วธนาคาร (SCB) ก็สนับสนุนเรา
นพปฎล กล่าวว่า ผลกระทบจากการเพิ่มทุนครั้งนี้แน่นอนว่าราคาหุ้น TRUE จะเกิด Dilution Effect ประมาณ 30% แต่สิ่งที่จะได้กลับมาคือความแข็งแกร่งทางการเงิน ปัจจุบันทรูมีภาระเงินกู้ 67,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนดอกเบี้ย 6,000 ล้านบาท มีกำหนดต้องชำระคืนเงินต้นแต่ละปี 5,700 ล้านบาท มีหนี้สินต่อ EBITDA ที่ 3.3 เท่า
จุดประสงค์หลักของการเพิ่มทุนไม่ได้นำไปชำระ หนี้ แต่ต้องการนำไปลงทุน 3G เป็น "อันดับแรก" แต่ถ้าได้รับเงินเพิ่มทุนเต็มจำนวน 13,000 ล้านบาท อาจนำเงินบางส่วนไป "ลดหนี้" โดยเฉพาะหนี้ในส่วนของทรูมูฟที่เป็นหุ้นกู้มูลค่า 690 ล้านดอลลาร์ มูลค่าตามสัญญา 27,000 ล้านบาท มีต้นทุนดอกเบี้ยแพงที่ 10% แต่ก็ยอมรับว่าค่อนข้างยากที่จะ "ปิดหนี้ก้อนนี้" เนื่องจากมีสภาพคล่องซื้อขายในต่างประเทศค่อนข้างสูง
ถามว่าหลังจาก นี้บริษัทจะต้องมีการเพิ่มทุนอีกหรือไม่ มือการเงินกลุ่มทรู ตอบว่า "ไม่แน่" ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนได้ตามสภาวะตลาดทุน อนาคตบริษัทอาจจะลดทุนแล้วจ่ายคืนผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดก็ได้
นพปฎล เปิดเผยว่า กลุ่มทรูกำลังมองหา “พันธมิตร” มาเสริมความแข็งแกร่งทั้งเงินทุนและเทคโนโลยี แต่ตอนนี้คงไม่รีบเร่งหา Strategic Partner แล้ว ถ้าเพิ่มทุนให้พันธมิตรใหม่ผู้ถือหุ้นเดิมจะเสียเปรียบเพราะหุ้นถูกไดลูท สู้เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิมได้เลือกใช้สิทธิก่อนดีกว่า
“ถ้าเราจะ เพิ่มทุนครั้งต่อไปเราจะทำเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นให้บริษัทโตเร็ว ขึ้นเท่านั้น รับรองว่าภายใน 1 ปีจากนี้เรายังไม่มีการเพิ่มทุนอีก”
สำหรับ แนวโน้มผลประกอบการหลังควบรวมกิจการฮัทช์เข้ามาจะทำให้รายได้ในส่วนของทรู มูฟเพิ่มขึ้นทันที 4,000 ล้านบาท แม้ว่าฮัทช์จะขาดทุนทุกปี แต่ยังมี EBITDA เป็นบวก ช่วงแรกอาจทำให้ EBITDA Margin ส่วนของธุรกิจไร้สายลดลงไปบ้างจากปัจจุบัน 25% แต่ระยะยาวจะเริ่มดีขึ้นคาดว่าจะขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับ DTAC ที่ 40%
“รายได้รวมปีนี้ คาดว่าจะเติบโตเลขตัวเดียวปลายๆ หรือประมาณ 70,000 ล้านบาท” มือการเงินกลุ่มทรู พยากรณ์
ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 5 เมษายน 2554 01:00
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4447
ที่ผมเคยได้ยิน การtake over แบบเป็นมิตร มักมีการลงสัตยาบันกัน เข้าซื้อกิจการ คือ ผมซื้อนะ แพงด้วย ขอให้คุณยกเว้นการทำกิจการลักษณะเดี๋ยวกันนี้อย่างน้อย 5 ปี เป็นการตัดตอนการขยายพันธุ์ชั่วคราว ค่อนข้างได้ผล ลูกมักไปต่อยอด หรือ อยู่ปลายน้ำของแม่ มักไม่มาแข่งกับแม่ เพราะช่วงเวลาที่หายไป แม่แข็งแรง
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4448
ทำไปทำไมเยอะแยะ ตายไปก็เอาไปไม่ได้สักอย่าง ยิ่งมียิ่งทุข
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4451
======> คู่มือสำหรับมือใหม่ หัดใช้ iPhone เทรดหุ้น <======
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 17776.html
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 17776.html
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4452
======> คู่มือสำหรับมือใหม่ที่สนใจการลงทุนในหุ้น/เล่นหุ้น <======
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 13928.html
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 13928.html
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4454
เฮียสมิทธิ อนุโมทนาด้วยครับsmith_sanguan เขียน:ทำไปทำไมเยอะแยะ ตายไปก็เอาไปไม่ได้สักอย่าง ยิ่งมียิ่งทุข
บางทีนะ บางที
บางสิ่ง บางอย่าง ในจักรวาลใบนี้
บางทีมันเหมือนกับ "ปรอท" วัดอุณหภูมิ
ปรอทมันก็วิ่งขึ้น วิ่งลง ไปตามธรรมชาติของมัน
ไม่รู้ว่า มันจะรู้ตัวหรือเปล่า
ว่าตอนนี้ หนาวสะท้าน -๒๐ องศา ตอนนั้น ร้อนตับแตก+๔๕ องศา
แต่
"ใจ"ของสังคม ก็ไปขีดเส้น ไปกำหนด เป็นกฏเกณท์
บอกว่า ร้อน แล้วเว้ย หนาวแล้วว่ะ
"ใจ"ของ คน แต่ละคนก็ไปทำตัว เป็นเทอร์โมสตัด
พอถึง "จุดไม่พอใจ" ละเป็นอันร้อนรน
ที่เขียนมา
มีคำถามอยู่ว่า
เราจะเป็น ปรอท ที่ไม่มีสเกล ไม่มีเทอร์โมสตัด
จะได้ไหมหนอ
จะดีไหมหนอ
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4455
ชีวิตผมพอแล้วครับ เล่นหุ้นไปงั้นๆอ่ะครับ ดูโลกบ้างดูตัวเองบ้าง ทุขบ้างสุขบ้าง ตามใจกิเลสบ้าง ได้มาก็หายไป ไม่ได้ก็หายไปอยู่ดี ดูมันทำงานไปเรื่อยๆ
ที่ต้องเปลี่ยน internet ก็มันจำเป็นต้องเปลี่ยนครับ
ที่ต้องเปลี่ยน internet ก็มันจำเป็นต้องเปลี่ยนครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4459
พี่rockriverarmsให้คำจำกัดความของmacdไว้ดีมาก
http://www.rockontheset.com/
http://www.rockontheset.com/
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4460
สงกรานต์ไปไหนครับพี่ป้อม
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4463
มีน้องในก๊วนวิ่งคนนึงไปภาวนาที่วัดของพระมิตซูโอะ เควสโก้ ที่เมืองกาญจน์woodooshy เขียน: มาเที่ยว วัดแถวอีสานมั้ยครับพี่ป้อม
ผมก็โมทนาสาธุนะ
แต่เรื่องภาวนาของคนเมือง อยู่ในเ้มืองก็ภาวนาได้
ในเมืองมีแต่เรื่องโน่นนี เขย่าจิตดีออก...
แล้วผมเองก็มิใช่สายสมาธิอีกตะหาก
ขอบใจที่ชวนครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4464
โลกียธรรมของท่านว.
... ก.ข.สอนธรรม ฉบับของ ท่าน ว.วชิรเมธี
ก. เอ๋ย ก กรรม : : อย่าทำชั่ว
ข. เอ๋ย ข ขันติ : : จงดำริรักษาอย่าถ่ายถอน
ข. เอ๋ย ข ขวด : : ถ้าเลิกดวดเหล้าได้จะไม่ทุกข์
ค. เอ๋ย ค ความคิด : : รู้จักคิดเป็นระบบจะสบศานติ์
ค. เอ๋ย ค คน : : ควรฝึกตนให้มีค่าน่ายกย่อง
ฆ. เอ๋ย ฆ ระฆัง : : ควรปลูกฝังเสียงระฆังแห่งสติ
ง. เอ๋ย ง เงิน : : อย่าจ่ายเกินหน้าตักจะเดือดร้อน
จ. เอ๋ย จ จิต : : สติวันละนิดจิตแจ่มใส
ฉ. เอ๋ย ฉ ฉัน : : อย่าเกลียดกันคนอื่นว่าต่ำต้อย
ช. เอ๋ย ช ชม : : อย่าหลงคารมจนประมาท
ซ. เอ๋ย ซ ซื่อ : : อย่านับถือคนโกงจงซื่อสัตย์
ฌ. เอ๋ย ฌ ฌาน : : ฝึกจิตให้เบิกบานด้วยฌานสี่
ญ. เอ๋ย ญ หญิง : : หากดีจริงเก่งจริงไม่แพ้ชาย
ฎ. เอ๋ย ฎ ฎีกา : : พระราชาทรงธรรมนำมาอ่าน
ฏ. เอ๋ย ฏ ปฏิญญา : : คือสัจจาศักดิ์สิทธิ์อย่าคิดลืม
ฐ. เอ๋ย ฐ ฐาน : : ฐานตึกคืออิฐ ฐานชีวิตคือความดีงาม
ฑ. เอ๋ย ฑ มณโฑ : : อย่ามัวโชว์แต่รูปร่างจนสร้างทุกข์
ฒ. เอ๋ย ฒ ผู้เฒ่า : : แต่ละก้าวคือแบบอย่างของลูกหลาน
ณ. เอ๋ย ณ เณร : : ต้องเติบโตเป็นปิ่นนักปราชญ์
ต. เอ๋ย ต ตัวตน : : เกิดเป็นคนควรกำจัดให้หมดสิ้น
ถ. เอ๋ย ถ ถิ่นกำเนิด : : อย่าแค่เกิดรูปกายแล้วหายหัว
ท. เอ๋ย ท ทหาร : : อย่าระรานประชาชนให้ทนทุกข์
ธ. เอ๋ย ธ ธง : : สามสีไตรรงค์ ชาติ ศาสนา มหากษัตริย์
น. เอ๋ย น นอบน้อม : : คือเสน่ห์ย้อมจิตใจให้คนรัก
บ. เอ๋ย บ บัณฑิต : : คมความคิดต้องแหลมคมสมสรรเสริญ
ป. เอ๋ย ป ปัญญา : : อย่าฉลาดเกินหน้าตัว "สติ"
ผ. เอ๋ย ผ ผิด : : แม้น้อยนิดอย่าดูดายแก้ไขเสีย
ฝ. เอ๋ย ฝ ฝึกฝน : : ค่าของคนคือเป็นสัตว์ที่ฝึกได้
พ. เอ๋ย พ พอดี : : คำคำนี้คือลายแทงแห่งความสุข
ฟ. เอ๋ย ฟ ฟุ่มเฟือย : : อย่าเพิกเฉยจนกลายเป็นนิสัย
ภ. เอ๋ย ภ ภูมิพล : : พระคือฝนหกฟ้ามาโลมดิน
ม. เอ๋ย ม มโนมัย : : ฝึกขี่ "ม้าหัวใจ" ให้ปราดเปรียว
ย. เอ๋ย ย ยุ่ง : : หากกิเลสไม่ปรุงไม่ยุ่งสักเรื่อง
ร. เอ๋ย ร รัก : : จงตระหนักรักอะไรไม่เท่า เรารักดี
ล. เอ๋ย ล หลอก : : คนกลับกลอกหลอกแยบยลยิ่งกว่าผี
ว. เอ๋ย ว วิชา : : คืออาภรณ์ประดับอาภรณ์อันเลอค่า
ศ. เอ๋ย ศ ศักดิ์ศรี : : มนุษย์ทุกคนล้วนมีอย่าดูหมิ่น
ษ. เอ๋ย ษ ฤาษี : : จะให้ดีต้องเลิกใบ้หวย
ส. เอ๋ย ส สันติ : : สันติเริ่มที่ใจใช่สงคราม
ห. เอ๋ย ห หักห้าม : : รู้จักปรามห้ามจิตอย่าคิดชั่ว
ฬ. เอ๋ย ฬ บาฬี : : ภาษานี้รักษาพุทธพจน์ (ภาษาใช้บันทึกพุทธดำรัส)
อ. เอ๋ย อ อัคคี : : ไฟสามกองนี้ (โลภ โกรธ หลง) ต้องกำจัด
ฮ. เอ๋ย ฮ ฮา : : หัวเราะฮ่าฮ่า คือยาอายุวัฒนะ
... ก.ข.สอนธรรม ฉบับของ ท่าน ว.วชิรเมธี
ก. เอ๋ย ก กรรม : : อย่าทำชั่ว
ข. เอ๋ย ข ขันติ : : จงดำริรักษาอย่าถ่ายถอน
ข. เอ๋ย ข ขวด : : ถ้าเลิกดวดเหล้าได้จะไม่ทุกข์
ค. เอ๋ย ค ความคิด : : รู้จักคิดเป็นระบบจะสบศานติ์
ค. เอ๋ย ค คน : : ควรฝึกตนให้มีค่าน่ายกย่อง
ฆ. เอ๋ย ฆ ระฆัง : : ควรปลูกฝังเสียงระฆังแห่งสติ
ง. เอ๋ย ง เงิน : : อย่าจ่ายเกินหน้าตักจะเดือดร้อน
จ. เอ๋ย จ จิต : : สติวันละนิดจิตแจ่มใส
ฉ. เอ๋ย ฉ ฉัน : : อย่าเกลียดกันคนอื่นว่าต่ำต้อย
ช. เอ๋ย ช ชม : : อย่าหลงคารมจนประมาท
ซ. เอ๋ย ซ ซื่อ : : อย่านับถือคนโกงจงซื่อสัตย์
ฌ. เอ๋ย ฌ ฌาน : : ฝึกจิตให้เบิกบานด้วยฌานสี่
ญ. เอ๋ย ญ หญิง : : หากดีจริงเก่งจริงไม่แพ้ชาย
ฎ. เอ๋ย ฎ ฎีกา : : พระราชาทรงธรรมนำมาอ่าน
ฏ. เอ๋ย ฏ ปฏิญญา : : คือสัจจาศักดิ์สิทธิ์อย่าคิดลืม
ฐ. เอ๋ย ฐ ฐาน : : ฐานตึกคืออิฐ ฐานชีวิตคือความดีงาม
ฑ. เอ๋ย ฑ มณโฑ : : อย่ามัวโชว์แต่รูปร่างจนสร้างทุกข์
ฒ. เอ๋ย ฒ ผู้เฒ่า : : แต่ละก้าวคือแบบอย่างของลูกหลาน
ณ. เอ๋ย ณ เณร : : ต้องเติบโตเป็นปิ่นนักปราชญ์
ต. เอ๋ย ต ตัวตน : : เกิดเป็นคนควรกำจัดให้หมดสิ้น
ถ. เอ๋ย ถ ถิ่นกำเนิด : : อย่าแค่เกิดรูปกายแล้วหายหัว
ท. เอ๋ย ท ทหาร : : อย่าระรานประชาชนให้ทนทุกข์
ธ. เอ๋ย ธ ธง : : สามสีไตรรงค์ ชาติ ศาสนา มหากษัตริย์
น. เอ๋ย น นอบน้อม : : คือเสน่ห์ย้อมจิตใจให้คนรัก
บ. เอ๋ย บ บัณฑิต : : คมความคิดต้องแหลมคมสมสรรเสริญ
ป. เอ๋ย ป ปัญญา : : อย่าฉลาดเกินหน้าตัว "สติ"
ผ. เอ๋ย ผ ผิด : : แม้น้อยนิดอย่าดูดายแก้ไขเสีย
ฝ. เอ๋ย ฝ ฝึกฝน : : ค่าของคนคือเป็นสัตว์ที่ฝึกได้
พ. เอ๋ย พ พอดี : : คำคำนี้คือลายแทงแห่งความสุข
ฟ. เอ๋ย ฟ ฟุ่มเฟือย : : อย่าเพิกเฉยจนกลายเป็นนิสัย
ภ. เอ๋ย ภ ภูมิพล : : พระคือฝนหกฟ้ามาโลมดิน
ม. เอ๋ย ม มโนมัย : : ฝึกขี่ "ม้าหัวใจ" ให้ปราดเปรียว
ย. เอ๋ย ย ยุ่ง : : หากกิเลสไม่ปรุงไม่ยุ่งสักเรื่อง
ร. เอ๋ย ร รัก : : จงตระหนักรักอะไรไม่เท่า เรารักดี
ล. เอ๋ย ล หลอก : : คนกลับกลอกหลอกแยบยลยิ่งกว่าผี
ว. เอ๋ย ว วิชา : : คืออาภรณ์ประดับอาภรณ์อันเลอค่า
ศ. เอ๋ย ศ ศักดิ์ศรี : : มนุษย์ทุกคนล้วนมีอย่าดูหมิ่น
ษ. เอ๋ย ษ ฤาษี : : จะให้ดีต้องเลิกใบ้หวย
ส. เอ๋ย ส สันติ : : สันติเริ่มที่ใจใช่สงคราม
ห. เอ๋ย ห หักห้าม : : รู้จักปรามห้ามจิตอย่าคิดชั่ว
ฬ. เอ๋ย ฬ บาฬี : : ภาษานี้รักษาพุทธพจน์ (ภาษาใช้บันทึกพุทธดำรัส)
อ. เอ๋ย อ อัคคี : : ไฟสามกองนี้ (โลภ โกรธ หลง) ต้องกำจัด
ฮ. เอ๋ย ฮ ฮา : : หัวเราะฮ่าฮ่า คือยาอายุวัฒนะ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1647
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4465
ผมก็ไปที่อีสานนะพี่ป้อม
เขย่าจิตคนเมืองเหมือนกันครับ
นายพรานล่าหมูป่าส่องไฟตอนกลางคืน เสียงสาวเท้าช้าๆเหยียบหญ้าข้างๆกุฎิ เขย่าขวัญนัก
ตุ๊กแกเดินผ่านหน้าตอนเปิดประตูจะเข้ากุฎิ ใจแทบวาย
ตื่นขึ้นมาเจอรอยเท้าหมา ทั้งๆที่วัดนี้ไม่มีหมา
ความมืดขนาดลืมตาเหมือนปิดตา
เสียงตึ้งตั้งๆๆๆดังมาจากในกุฎิตอนเดินกลับ (ปรากฎว่ากระรอกเข้าไปข้างใน ....กุฎิมีรู welcome เหล่าสัตว์)
กลัวผี
กลัวสารพัด
เขย่าใจดีแท้
แต่คนเมืองยังไงก็เป็นคนเมือง อยู่กับความสงบไม่ได้นาน ..... ก็ดูตัณหาบีบขั้นใจ มันอยากอารมณ์ใหม่
ลองดูมั้ยครับ
ปล. ผมไม่ได้ไปไหนช่วงสงกรานต์ ว่างมั้ยครับพี่ป้อม
เขย่าจิตคนเมืองเหมือนกันครับ
นายพรานล่าหมูป่าส่องไฟตอนกลางคืน เสียงสาวเท้าช้าๆเหยียบหญ้าข้างๆกุฎิ เขย่าขวัญนัก
ตุ๊กแกเดินผ่านหน้าตอนเปิดประตูจะเข้ากุฎิ ใจแทบวาย
ตื่นขึ้นมาเจอรอยเท้าหมา ทั้งๆที่วัดนี้ไม่มีหมา
ความมืดขนาดลืมตาเหมือนปิดตา
เสียงตึ้งตั้งๆๆๆดังมาจากในกุฎิตอนเดินกลับ (ปรากฎว่ากระรอกเข้าไปข้างใน ....กุฎิมีรู welcome เหล่าสัตว์)
กลัวผี
กลัวสารพัด
เขย่าใจดีแท้
แต่คนเมืองยังไงก็เป็นคนเมือง อยู่กับความสงบไม่ได้นาน ..... ก็ดูตัณหาบีบขั้นใจ มันอยากอารมณ์ใหม่
ลองดูมั้ยครับ
ปล. ผมไม่ได้ไปไหนช่วงสงกรานต์ ว่างมั้ยครับพี่ป้อม
. . .
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4466
ผมเล่นแบดเห็นตัวหงุดหงิด
เล่นไม่ได้ดั่งใจ
เหนื่อยหายใจไม่ทัน ดูกายหอบโยน ท้องยุบพองไม่เป็นจังหวะ
นั่งกินข้าว เห็นปอเปี๊ยะทอด กรอบจัง ทอดมันปลากราย เหนียวหนึบ
สาวโต๊ะข้างๆนุ่งยีนส์ขาสั้น ขายาวๆขาวๆ ราคะเกิด
เซียนบอกหุ้นตัวไหนๆก็ไม่เอา ให้พี่ป้อมซื้อแจ๊สไป10ล้านแล้วถือรอขายพร้อมแก
ตัวโลภ ถือไปแว่บเดียวเห็นบ้านเดี่ยวมาหลังเบ้อเริ่มเลย
ถือไปถือมามันหล่น อ้าวเวนน..เหลือแค่ทาวน์เฮ้าส์แล้ว...อ้าวเสียเงินดาวน์เข้าไปแล้ว
โทรไปหาท่านๆบอกวิบากของพี่นะ ให้ถือต่อไป
ธรรมะทั้งนั้่น ภาวนาทั้งนั้น
แค่นี้คงเหมาะกับกิเลสหนาๆ แล้วก็ทำมาน้อยอย่างผมแล้ว
แต่อย่างคนเรือ ต้องละเอียดๆอย่างนั้น เพราะของเดิมทำมาเยอะ
นิมนต์นะครับหลวงน้อง
พี่ป้อมชอบกิน-วิ่ง-เที่ยวอย่างนี้แหละ...ฮ่า...
เล่นไม่ได้ดั่งใจ
เหนื่อยหายใจไม่ทัน ดูกายหอบโยน ท้องยุบพองไม่เป็นจังหวะ
นั่งกินข้าว เห็นปอเปี๊ยะทอด กรอบจัง ทอดมันปลากราย เหนียวหนึบ
สาวโต๊ะข้างๆนุ่งยีนส์ขาสั้น ขายาวๆขาวๆ ราคะเกิด
เซียนบอกหุ้นตัวไหนๆก็ไม่เอา ให้พี่ป้อมซื้อแจ๊สไป10ล้านแล้วถือรอขายพร้อมแก
ตัวโลภ ถือไปแว่บเดียวเห็นบ้านเดี่ยวมาหลังเบ้อเริ่มเลย
ถือไปถือมามันหล่น อ้าวเวนน..เหลือแค่ทาวน์เฮ้าส์แล้ว...อ้าวเสียเงินดาวน์เข้าไปแล้ว
โทรไปหาท่านๆบอกวิบากของพี่นะ ให้ถือต่อไป
ธรรมะทั้งนั้่น ภาวนาทั้งนั้น
แค่นี้คงเหมาะกับกิเลสหนาๆ แล้วก็ทำมาน้อยอย่างผมแล้ว
แต่อย่างคนเรือ ต้องละเอียดๆอย่างนั้น เพราะของเดิมทำมาเยอะ
นิมนต์นะครับหลวงน้อง
พี่ป้อมชอบกิน-วิ่ง-เที่ยวอย่างนี้แหละ...ฮ่า...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 4468
ส่วนตัวนะkannicha เขียน:เข้ามาขอบพระคุณอาจารย์ป้อมค่ะ
ยกเลิกเที่ยวญี่ปุ่นแล้วค่ะ (อยู่ระหว่างรอลุ้นว่าจะได้ตังค์คืนเต็มจำนวน)
ถ้าผมวางโปรแกรมไปเที่ยวยุ่นไว้ ผมจะไม่ยกเลิก
แต่ผมจะอยู่โตเกียวให้น้อยวัน หรืออาจไม่แวะเลย
ช่วงเวลาราวๆนี้ ถ้าแพลนจะไปซัก7วัน10วัน
ผมเที่ยวเกียวโต โอซากา นาโงย่าชิลๆเลย
โถ..ค่าเครื่องตอนนี้ก็ถูก
คิดเหมือนตอนหุ้นลงสิครับ
คนเที่ยวก็น้อยไม่ต้องไปเบียดเสียดแย่งกับใคร
น่าไปออก...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า