เงินปันผลและหุ้นเน้นคุณค่า ในมุมมองดร.นิเวศน์
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
เงินปันผลและหุ้นเน้นคุณค่า ในมุมมองดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 1
คัดลอกจาก settrade.com
Dividend VS Value Stock
คนจำนวนมากในตลาดหุ้นมักจะเข้าใจผิดคิดว่า Value Stock หรือหุ้นคุณค่าก็คือหุ้นที่มีการจ่ายปันผลที่ดี ยิ่งปันผลสูงเมื่อเทียบกับราคาหุ้นมากเท่าไรหุ้นนั้นก็เป็นหุ้น Value มากขึ้นเท่านั้น บ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะตลาดไม่คึกคักโบรกเกอร์และหนังสือพิมพ์ก็จะนำเสนอหุ้นที่จ่ายปันผลงามที่สุด 10-20 อันดับ และแนะนำว่าเป็นหุ้นที่น่าลงทุน
บางครั้งผมเองก็เคยพูดว่า ปันผลเป็นคำตอบสุดท้าย นั่นคือมีหุ้นที่จ่ายปันผลดีบางตัวน่าสนใจเข้าข่ายเป็น Value Stock และต่อมาก็พิสูจน์ว่าสิ่งนั้นเป็นจริง คือหุ้นที่จ่ายปันผลดีเหล่านั้นทำกำไรให้กับคนที่ถืออย่างงดงาม
พูดไปพูดมามาก ๆ เข้าคนจำนวนไม่น้อยก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าหุ้น Value ก็คือหุ้นปันผล และคิดว่าผมในฐานะ Value Investor พันธุ์แท้ ชอบลงทุนซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลงามและจะถือเก็บเพื่อกินปันผลเป็นหลักโดยไม่สนใจกำไรจากการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น
นั่นเป็นความเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะคำว่า Value Stock นั้น ความหมายก็คือเป็นหุ้นที่มีคุณค่าสูงกว่าราคาหุ้นมาก โดยที่คุณค่านั้นคิดจากความสามารถในการทำกำไรและ / หรือการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทในอนาคตระยะยาว ส่วน หุ้นปันผล ที่พูดกันนั้นมักจะเป็นปันผลที่จ่ายในปีที่แล้วหรือปีที่กำลังถึงเมื่อเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบัน
ความแตกต่างระหว่างหุ้นปันผลกับ Value Stock นั้นชัดเจนก็คือ ใน Value Stock เราพยายามหาความสามารถในการทำกำไรหรือเงินสดในระยะยาวของบริษัทซึ่งจะต้องวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ มากมายตั้งแต่เรื่องของภาวะอุตสาหกรรม การตลาด การผลิต การบริหารงาน และการเงินของบริษัท ความได้เปรียบเสียเปรียบของบริษัทเทียบกับคู่แข่งและอื่น ๆ อีกมาก ในขณะที่หุ้นปันผล ดูเฉพาะการจ่ายปันผลปีที่แล้วปีเดียวเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันซึ่งเป็นข้อมูลของอดีตที่ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรเลย
ในสายตาของ Value Investor แล้ว ปันผลเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งหรือเป็นคุณค่าของหุ้นที่นำมาพิจารณาประกอบกับองค์ประกอบอื่นอีกหลาย ๆ อย่าง บางคนคิดว่าผลตอบแทนจากปันผลเป็นสิ่งที่สำคัญมาก บางคนก็เฉย ๆ ส่วนผมเองนั้น ผมคิดว่าปันผลเป็นเพียง ผลตอบแทนของการรอคอย นั่นก็คือ เวลาผมซื้อหุ้นที่เป็น Value Stock นั้น ผมซื้อเพราะผมเชื่อว่าเป็นกิจการที่ดีราคาถูก แต่ผมไม่รู้ว่าราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปเมื่อไร บางครั้งผมต้อง รอคอย นานมาก ซึ่งถ้าในระหว่างนั้นผมไม่ได้อะไรตอบแทนเลยผมก็จะรู้สึกแย่มากและก็ทำใจได้ยาก ดังนั้น หุ้นที่มีการจ่ายปันผลน้อยนิดเมื่อเทียบกับราคาหุ้นจึงเป็นหุ้นที่ผมไม่ชอบเลย
แต่ผมเองก็ไม่ชอบและมักจะไม่สนใจหุ้นที่จ่ายปันผลอย่างงดงามมากเมื่อเทียบกับราคาหุ้น เช่น จ่ายถึง 10% ของราคาหุ้นที่เรียกกันว่าหุ้นปันผล เหตุผลไม่ใช่เพราะผมรังเกียจปันผลหรือคิดว่านี่เป็นผลตอบแทนที่น้อยเทียบกับการขึ้นของราคาหุ้น แต่เป็นเพราะว่า หุ้นปันผล เหล่านั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลมาก ชั่วคราว นั่นก็คือ จ่ายมากเฉพาะปีที่ผ่านมา แต่อนาคตคงไม่สามารถที่จะจ่ายได้เท่าเดิมเนื่องจากกำไรของบริษัทในอนาคตจะลดลง เพราะฉะนั้น หุ้นปันผล ของวันนี้ อาจจะกลายเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลน้อยในวันข้างหน้า
บริษัทบางแห่งทำกำไรปีที่แล้วได้ 8 บาทต่อหุ้น และจ่ายปันผล 8 บาทต่อหุ้นเหมือนกันเพราะไม่มีความจำเป็นต้องเก็บกำไรเอาไว้ลงทุนต่อ ราคาหุ้นของบริษัทที่ซื้อขายในตลาดเท่ากับ 100 บาท ดังนั้นผลตอบแทนปันผลเท่ากับ 8% คนพูดว่านี่คือหุ้นที่จ่ายปันผลดีมากเป็นหุ้นปันผล อีกบริษัทหนึ่งกำไร 10 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นเท่ากับ 100 บาทเท่ากัน แต่จ่ายปันผลเพียง 3 บาท เพราะต้องนำกำไรส่วนที่เหลืออีก 7 บาทต่อหุ้นไปลงทุนขยายงานต่อ คำนวณดูแล้วผลตอบแทนปันผลเพียง 3% แต่มองดูแล้วบริษัทนี้น่าจะดีกว่าบริษัทแรกและมีคุณค่ามากกว่า เพราะบริษัทน่าจะเติบโตมากกว่าเพราะมีการลงทุนขยายกิจการ และราคาหุ้นเมื่อคิดจากค่า PE ก็ถูกกว่า คือเท่ากับ 10 เท่า (100/10) ในขณะที่บริษัทแรกนั้นค่า PE เท่ากับ 12.5 (100/8)
หุ้นที่จ่ายผลตอบแทนปันผลสูงนั้นคงจะไม่เลวร้ายดังตัวอย่างข้างต้นเสมอไปแต่หุ้นหลายตัวก็มีลักษณะดังกล่าว ดังนั้นก่อนที่จะซื้อหุ้น ปันผล ควรที่จะศึกษาตัวบริษัทอย่างถี่ถ้วนเสียก่อนว่าปันผลที่ได้รับนั้นจะไม่ลดลงในอนาคต ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง การได้ปันผลงามก็ไม่มีประโยชน์ เพราะในวันที่เราได้รับปันผล ราคาหุ้นกลับลดลงมากกว่า ปันผลดีกลายเป็นกับดัก และนี่ไม่ใช่หุ้น Value ที่เราเสาะแสวงหาเลย
Dividend VS Value Stock
คนจำนวนมากในตลาดหุ้นมักจะเข้าใจผิดคิดว่า Value Stock หรือหุ้นคุณค่าก็คือหุ้นที่มีการจ่ายปันผลที่ดี ยิ่งปันผลสูงเมื่อเทียบกับราคาหุ้นมากเท่าไรหุ้นนั้นก็เป็นหุ้น Value มากขึ้นเท่านั้น บ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะตลาดไม่คึกคักโบรกเกอร์และหนังสือพิมพ์ก็จะนำเสนอหุ้นที่จ่ายปันผลงามที่สุด 10-20 อันดับ และแนะนำว่าเป็นหุ้นที่น่าลงทุน
บางครั้งผมเองก็เคยพูดว่า ปันผลเป็นคำตอบสุดท้าย นั่นคือมีหุ้นที่จ่ายปันผลดีบางตัวน่าสนใจเข้าข่ายเป็น Value Stock และต่อมาก็พิสูจน์ว่าสิ่งนั้นเป็นจริง คือหุ้นที่จ่ายปันผลดีเหล่านั้นทำกำไรให้กับคนที่ถืออย่างงดงาม
พูดไปพูดมามาก ๆ เข้าคนจำนวนไม่น้อยก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าหุ้น Value ก็คือหุ้นปันผล และคิดว่าผมในฐานะ Value Investor พันธุ์แท้ ชอบลงทุนซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลงามและจะถือเก็บเพื่อกินปันผลเป็นหลักโดยไม่สนใจกำไรจากการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น
นั่นเป็นความเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะคำว่า Value Stock นั้น ความหมายก็คือเป็นหุ้นที่มีคุณค่าสูงกว่าราคาหุ้นมาก โดยที่คุณค่านั้นคิดจากความสามารถในการทำกำไรและ / หรือการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทในอนาคตระยะยาว ส่วน หุ้นปันผล ที่พูดกันนั้นมักจะเป็นปันผลที่จ่ายในปีที่แล้วหรือปีที่กำลังถึงเมื่อเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบัน
ความแตกต่างระหว่างหุ้นปันผลกับ Value Stock นั้นชัดเจนก็คือ ใน Value Stock เราพยายามหาความสามารถในการทำกำไรหรือเงินสดในระยะยาวของบริษัทซึ่งจะต้องวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ มากมายตั้งแต่เรื่องของภาวะอุตสาหกรรม การตลาด การผลิต การบริหารงาน และการเงินของบริษัท ความได้เปรียบเสียเปรียบของบริษัทเทียบกับคู่แข่งและอื่น ๆ อีกมาก ในขณะที่หุ้นปันผล ดูเฉพาะการจ่ายปันผลปีที่แล้วปีเดียวเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันซึ่งเป็นข้อมูลของอดีตที่ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรเลย
ในสายตาของ Value Investor แล้ว ปันผลเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งหรือเป็นคุณค่าของหุ้นที่นำมาพิจารณาประกอบกับองค์ประกอบอื่นอีกหลาย ๆ อย่าง บางคนคิดว่าผลตอบแทนจากปันผลเป็นสิ่งที่สำคัญมาก บางคนก็เฉย ๆ ส่วนผมเองนั้น ผมคิดว่าปันผลเป็นเพียง ผลตอบแทนของการรอคอย นั่นก็คือ เวลาผมซื้อหุ้นที่เป็น Value Stock นั้น ผมซื้อเพราะผมเชื่อว่าเป็นกิจการที่ดีราคาถูก แต่ผมไม่รู้ว่าราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปเมื่อไร บางครั้งผมต้อง รอคอย นานมาก ซึ่งถ้าในระหว่างนั้นผมไม่ได้อะไรตอบแทนเลยผมก็จะรู้สึกแย่มากและก็ทำใจได้ยาก ดังนั้น หุ้นที่มีการจ่ายปันผลน้อยนิดเมื่อเทียบกับราคาหุ้นจึงเป็นหุ้นที่ผมไม่ชอบเลย
แต่ผมเองก็ไม่ชอบและมักจะไม่สนใจหุ้นที่จ่ายปันผลอย่างงดงามมากเมื่อเทียบกับราคาหุ้น เช่น จ่ายถึง 10% ของราคาหุ้นที่เรียกกันว่าหุ้นปันผล เหตุผลไม่ใช่เพราะผมรังเกียจปันผลหรือคิดว่านี่เป็นผลตอบแทนที่น้อยเทียบกับการขึ้นของราคาหุ้น แต่เป็นเพราะว่า หุ้นปันผล เหล่านั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลมาก ชั่วคราว นั่นก็คือ จ่ายมากเฉพาะปีที่ผ่านมา แต่อนาคตคงไม่สามารถที่จะจ่ายได้เท่าเดิมเนื่องจากกำไรของบริษัทในอนาคตจะลดลง เพราะฉะนั้น หุ้นปันผล ของวันนี้ อาจจะกลายเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลน้อยในวันข้างหน้า
บริษัทบางแห่งทำกำไรปีที่แล้วได้ 8 บาทต่อหุ้น และจ่ายปันผล 8 บาทต่อหุ้นเหมือนกันเพราะไม่มีความจำเป็นต้องเก็บกำไรเอาไว้ลงทุนต่อ ราคาหุ้นของบริษัทที่ซื้อขายในตลาดเท่ากับ 100 บาท ดังนั้นผลตอบแทนปันผลเท่ากับ 8% คนพูดว่านี่คือหุ้นที่จ่ายปันผลดีมากเป็นหุ้นปันผล อีกบริษัทหนึ่งกำไร 10 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นเท่ากับ 100 บาทเท่ากัน แต่จ่ายปันผลเพียง 3 บาท เพราะต้องนำกำไรส่วนที่เหลืออีก 7 บาทต่อหุ้นไปลงทุนขยายงานต่อ คำนวณดูแล้วผลตอบแทนปันผลเพียง 3% แต่มองดูแล้วบริษัทนี้น่าจะดีกว่าบริษัทแรกและมีคุณค่ามากกว่า เพราะบริษัทน่าจะเติบโตมากกว่าเพราะมีการลงทุนขยายกิจการ และราคาหุ้นเมื่อคิดจากค่า PE ก็ถูกกว่า คือเท่ากับ 10 เท่า (100/10) ในขณะที่บริษัทแรกนั้นค่า PE เท่ากับ 12.5 (100/8)
หุ้นที่จ่ายผลตอบแทนปันผลสูงนั้นคงจะไม่เลวร้ายดังตัวอย่างข้างต้นเสมอไปแต่หุ้นหลายตัวก็มีลักษณะดังกล่าว ดังนั้นก่อนที่จะซื้อหุ้น ปันผล ควรที่จะศึกษาตัวบริษัทอย่างถี่ถ้วนเสียก่อนว่าปันผลที่ได้รับนั้นจะไม่ลดลงในอนาคต ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง การได้ปันผลงามก็ไม่มีประโยชน์ เพราะในวันที่เราได้รับปันผล ราคาหุ้นกลับลดลงมากกว่า ปันผลดีกลายเป็นกับดัก และนี่ไม่ใช่หุ้น Value ที่เราเสาะแสวงหาเลย
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- มือเก่าหัดขับ
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
เงินปันผลและหุ้นเน้นคุณค่า ในมุมมองดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 5
ถูกต้องแล้ว อันนี้เห็นด้วย
ผมเอง เลือกหุ้นที่ p/e อยู่ในช่วง 7-10
ซึ่งความสามารถในการจ่ายปันผล (ถ้าจ่ายหมด) จะอยู่ที่ 14.3 - 10%
แต่ว่าจ่ายจริงๆ เพียงราวๆ ครึ่งเดียว คือ 7 - 5% และเหลือเงินสดไว้อีกครึ่งหนึ่ง เพื่อขยายกิจการ
จะเลือกแบบไม่จ่ายเลย มันก็..
อ่ะนะ ขอให้เป็นรางวัลสำหรับการถือ เอ๊ย การรอคอย ก็แล้วกัน
ผมชอบของผมแบบนั้น... :lol: :lol: :lol:
ผมเอง เลือกหุ้นที่ p/e อยู่ในช่วง 7-10
ซึ่งความสามารถในการจ่ายปันผล (ถ้าจ่ายหมด) จะอยู่ที่ 14.3 - 10%
แต่ว่าจ่ายจริงๆ เพียงราวๆ ครึ่งเดียว คือ 7 - 5% และเหลือเงินสดไว้อีกครึ่งหนึ่ง เพื่อขยายกิจการ
จะเลือกแบบไม่จ่ายเลย มันก็..
อ่ะนะ ขอให้เป็นรางวัลสำหรับการถือ เอ๊ย การรอคอย ก็แล้วกัน

ผมชอบของผมแบบนั้น... :lol: :lol: :lol:
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
-
- Verified User
- โพสต์: 304
- ผู้ติดตาม: 0
เงินปันผลและหุ้นเน้นคุณค่า ในมุมมองดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 7
ผมอ่านหนังสือแนวลงทุนมาหลายเล่ม
ทั้งไทย(และอังกฤษเท่าที่แกะได้)
ไม่มีเล่มไหนเขียนได้เหมือน
บทความของอจ.นิเวศน์
ที่ลงใน"มุมมองvalue investor"
หาอ่านที่ไหนไม่ได้ครับ
มีลักษณะเฉพาะตัว
ที่เขียนขึ้นมาจากประสบการณ์ส่วนตัว
และมุมมองของviพันธ์แท้
และที่สำคัญคือupdateมั่กๆ
เพื่อนๆลองอ่านดูจะรู้สึกว่าอจ.จะออกมาเตือน
หรือมาแนะนำเมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่าง
ในตลาดหุ้นเป็นครั้งคราว
อย่างคราวนี้ใกล้ปันผล
ก็ออกมาเขียนเรื่องการซื้อหุ้นปันผลหรือหุ้นvi
ที่สำคัญคืออจ.แอบเข้ามาอ่านที่พวกเราpost
แล้วเอาเป็นหัวข้อในการเขียนหลายครั้ง
ทั้งไทย(และอังกฤษเท่าที่แกะได้)
ไม่มีเล่มไหนเขียนได้เหมือน
บทความของอจ.นิเวศน์
ที่ลงใน"มุมมองvalue investor"
หาอ่านที่ไหนไม่ได้ครับ
มีลักษณะเฉพาะตัว
ที่เขียนขึ้นมาจากประสบการณ์ส่วนตัว
และมุมมองของviพันธ์แท้
และที่สำคัญคือupdateมั่กๆ
เพื่อนๆลองอ่านดูจะรู้สึกว่าอจ.จะออกมาเตือน
หรือมาแนะนำเมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่าง
ในตลาดหุ้นเป็นครั้งคราว
อย่างคราวนี้ใกล้ปันผล
ก็ออกมาเขียนเรื่องการซื้อหุ้นปันผลหรือหุ้นvi
ที่สำคัญคืออจ.แอบเข้ามาอ่านที่พวกเราpost
แล้วเอาเป็นหัวข้อในการเขียนหลายครั้ง
หนักแน่นในแนวทางviพันธ์แท้
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
เงินปันผลและหุ้นเน้นคุณค่า ในมุมมองดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 8
ติดตาม บทความ อ. อยู่เสมอๆครับ
ยอดเยี่ยม
ตรงออกมาจากคัมภีร์ ครับ
ยอดเยี่ยม
ตรงออกมาจากคัมภีร์ ครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
เงินปันผลและหุ้นเน้นคุณค่า ในมุมมองดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 9
แต่การนำเงินไปลงทุน หลายครั้งก็จะพบได้ว่าเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าครับ เวลาตลาดกระทิง นักลงทุนมักจะสนใจข่าวการขยายการลงทุนอย่างมาก
ควรดูอดีตช่วงก่อนวิกฤตเป็นตัวอย่าง หลายบริษัทที่รอดมาได้ก็เพราะทำธุรกิจพอเหมาะกับตัวเอง และทำที่ตัวเองถนัดจริงๆ
ควรดูอดีตช่วงก่อนวิกฤตเป็นตัวอย่าง หลายบริษัทที่รอดมาได้ก็เพราะทำธุรกิจพอเหมาะกับตัวเอง และทำที่ตัวเองถนัดจริงๆ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
เงินปันผลและหุ้นเน้นคุณค่า ในมุมมองดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 10
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับchatchai เขียน:แต่การนำเงินไปลงทุน หลายครั้งก็จะพบได้ว่าเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าครับ เวลาตลาดกระทิง นักลงทุนมักจะสนใจข่าวการขยายการลงทุนอย่างมาก
ควรดูอดีตช่วงก่อนวิกฤตเป็นตัวอย่าง หลายบริษัทที่รอดมาได้ก็เพราะทำธุรกิจพอเหมาะกับตัวเอง และทำที่ตัวเองถนัดจริงๆ
สำหรับผมเอาทางสายกลาง
ปันผลบ้าง (เพิ่มปีละนิดก็พอ จากกำไรที่เพิ่มขึ้น)
ลงทุนต่อยอดบ้าง ขยายการผลิต เพิ่มผลิตภัณท์ใหม่ในธุรกิจที่ถนัด
ซื้อหุ้นคืน ในช่วงที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่ามากเกินไป :lol: