WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 1
รบกวนถามหน่อยครับ
ได้อ่านในหนังสือ มีเรื่องการหาต้นทุนเงินทุนของบริษัท (WACC)
อยากทราบว่า WACC นี้ มีผลกับการวัดมูลค่าหุ้นมากน้อยแค่ไหนครับ??
ผมอ่านแล้ว งงๆ ครับ
รบกวนขอความรู้ด้วยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับผม
ได้อ่านในหนังสือ มีเรื่องการหาต้นทุนเงินทุนของบริษัท (WACC)
อยากทราบว่า WACC นี้ มีผลกับการวัดมูลค่าหุ้นมากน้อยแค่ไหนครับ??
ผมอ่านแล้ว งงๆ ครับ
รบกวนขอความรู้ด้วยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับผม
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 2
WACC คือ ต้นทุนทางการเงินครับ หรือก็คือผลตอบแทนที่คุ้มกับความเสี่ยงและค่าเสียโอกาสในการลงทุนใดๆ
เสี่ยงมาก ก็ต้องคาดหวังผลตอบแทนสูง ต้นทุนก็สูง
เสี่ยงน้อย ก็ต้องคาดหวังผลตอบมากไม่ได้ ต้นทุนก็ต่ำ
ตัวอย่าง ความคาดหวัง vs ความเสี่ยง ก็เช่น ถ้าใครใช้ให้ผมกระโดดบันจี้จัมพ์ ปีนหน้าผา นอนป่าช้า สู้กับแพนด้าด้วยมือเปล่าแล้วให้เงิน 1000 ล้าน ผมคงทำ แต่ถ้าให้ผม 100 เดียว คงต้องคิดดูก่อน
WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์ไหม?
ถ้าไม่ได้ทำ DCF ก็ไม่จำเป็น (แต่เข้าใจไว้ก็ดี เพราะการวิเคราะห์ PE ก็เป็นอีกรูปการประเมินต้นทุนทางการเงินแบบคร่าวๆ เช่นกัน)
อะไรทำให้เสี่ยง
ตามทฤษฏีก็คือ หนี้สิน อัตราดอกเบี้ย ความผันผวนของราคาหุ้น(Beta) ความเสี่ยงของตลาด(Market Risk Premium) ผลก็เลยเกิดเป็นสูตรคำนวณ WACC ตามหนังสือ
แต่ต้องยอมรับว่านักลงทุนบางกลุ่มก็ไม่ได้ให้ความเชื่อถือ WACC ตามทฤษฎีเท่าใดนัก เพราะแท้จริงแล้วความเสี่ยงมีปัจจัยเชิงคุณภาพเป็นส่วนประกอบด้วยค่อนข้างมาก และนักลงทุน VI จำนวนมากเชื่อว่า ความผันผวนไม่ใช่ความเสี่ยง แต่ความไม่รู้ต่างหากคือความเสี่ยง พวกเขาจึงประมาณการ WACC ขึ้นเอง โดยประมาณความเสี่ยงจาก ความแข็งแกร่งของบริษัท สินค้าขายดีแค่ไหน โอกาสเติบโตเป็นยังไง อำนาจต่อรองดีไหม การแข่งขันในอุตสาหกรรมรุนแรงมากน้อยแค่ไหน
ในกรณีที่ทำ DCF เราใช้ WACC เป็นตัวหาร
ถ้า WACC เยอะ หมายถึงธุรกิจมีความเสี่ยงสูง มูลค่าที่วัดได้ก็น้อย
ถ้า WACC น้อย หมายถึงธุรกิจมีความเสี่ยงต่ำ มูลค่าที่วัดได้ก็มาก
แต่ที่จริงค่า WACC ที่ต่างกันนิดเดียวก็ให้ผลการวัดมูลค่าที่ต่างกันมาก (ไม่เชื่อลองทำดู) ฉะนั้นแม้จะวัดมูลค่าด้วยวิธีเทพๆ อย่าง DCF การมีส่วนเผื่อความปลอดภัยมากๆ ก็ยังคงจำเป็นโคตรๆ อยู่ดี
TIP : หลายคนไม่รู้ว่าค่า WACC สามารถโทรถาม IR ของบริษัทนั้นๆ ได้ แต่เราจะเชื่อถือคำตอบของเขาหรือไม่ก็ต้องตัดสินใจเอาเอง
เสี่ยงมาก ก็ต้องคาดหวังผลตอบแทนสูง ต้นทุนก็สูง
เสี่ยงน้อย ก็ต้องคาดหวังผลตอบมากไม่ได้ ต้นทุนก็ต่ำ
ตัวอย่าง ความคาดหวัง vs ความเสี่ยง ก็เช่น ถ้าใครใช้ให้ผมกระโดดบันจี้จัมพ์ ปีนหน้าผา นอนป่าช้า สู้กับแพนด้าด้วยมือเปล่าแล้วให้เงิน 1000 ล้าน ผมคงทำ แต่ถ้าให้ผม 100 เดียว คงต้องคิดดูก่อน
WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์ไหม?
ถ้าไม่ได้ทำ DCF ก็ไม่จำเป็น (แต่เข้าใจไว้ก็ดี เพราะการวิเคราะห์ PE ก็เป็นอีกรูปการประเมินต้นทุนทางการเงินแบบคร่าวๆ เช่นกัน)
อะไรทำให้เสี่ยง
ตามทฤษฏีก็คือ หนี้สิน อัตราดอกเบี้ย ความผันผวนของราคาหุ้น(Beta) ความเสี่ยงของตลาด(Market Risk Premium) ผลก็เลยเกิดเป็นสูตรคำนวณ WACC ตามหนังสือ
แต่ต้องยอมรับว่านักลงทุนบางกลุ่มก็ไม่ได้ให้ความเชื่อถือ WACC ตามทฤษฎีเท่าใดนัก เพราะแท้จริงแล้วความเสี่ยงมีปัจจัยเชิงคุณภาพเป็นส่วนประกอบด้วยค่อนข้างมาก และนักลงทุน VI จำนวนมากเชื่อว่า ความผันผวนไม่ใช่ความเสี่ยง แต่ความไม่รู้ต่างหากคือความเสี่ยง พวกเขาจึงประมาณการ WACC ขึ้นเอง โดยประมาณความเสี่ยงจาก ความแข็งแกร่งของบริษัท สินค้าขายดีแค่ไหน โอกาสเติบโตเป็นยังไง อำนาจต่อรองดีไหม การแข่งขันในอุตสาหกรรมรุนแรงมากน้อยแค่ไหน
ในกรณีที่ทำ DCF เราใช้ WACC เป็นตัวหาร
ถ้า WACC เยอะ หมายถึงธุรกิจมีความเสี่ยงสูง มูลค่าที่วัดได้ก็น้อย
ถ้า WACC น้อย หมายถึงธุรกิจมีความเสี่ยงต่ำ มูลค่าที่วัดได้ก็มาก
แต่ที่จริงค่า WACC ที่ต่างกันนิดเดียวก็ให้ผลการวัดมูลค่าที่ต่างกันมาก (ไม่เชื่อลองทำดู) ฉะนั้นแม้จะวัดมูลค่าด้วยวิธีเทพๆ อย่าง DCF การมีส่วนเผื่อความปลอดภัยมากๆ ก็ยังคงจำเป็นโคตรๆ อยู่ดี
TIP : หลายคนไม่รู้ว่าค่า WACC สามารถโทรถาม IR ของบริษัทนั้นๆ ได้ แต่เราจะเชื่อถือคำตอบของเขาหรือไม่ก็ต้องตัดสินใจเอาเอง
อย่ายอมแพ้
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 3
คล้ายกับว่าบริษัทมีต้นทุนเท่านี้(WACC) ทำธุรกิจให้มากกว่าต้นทุนก็เท่ากับกำไรครับ บางทีก็ลองเอามาเทียบกับ ROA ROE ก็มีครับ
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณ คุณ Anti-Aircraft และคุณ murder_doll มากๆครับ
ความรู้เป็นสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาลเสมอครับ
ขอถามต่อหน่อยนะครับ
ผมเองไม่ทราบจริงๆครับ
DCF คืออะไรครับ?
สำคัญมากน้อยแค่ไหนกับ VI ครับ?
แล้วระดับมือใหม่อย่างผม ยากเกินไปที่จะหามั๊ยครับ?
รบกวนอีกครั้งนะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ความรู้เป็นสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาลเสมอครับ
ขอถามต่อหน่อยนะครับ
ผมเองไม่ทราบจริงๆครับ
DCF คืออะไรครับ?
สำคัญมากน้อยแค่ไหนกับ VI ครับ?
แล้วระดับมือใหม่อย่างผม ยากเกินไปที่จะหามั๊ยครับ?
รบกวนอีกครั้งนะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 5
คิดได้ครับ ถ้าพยายาม วิธีคิดนี่คงค้นดูในTHAIVI ก็มีคนถามถึงเรื่อยๆนะครับ สำหรับผมว่าจำเป็นไหมก็ยังไม่เชิงนะครับ เพราะยังมีวิธีในการประเมินมูลค่าหุ้นที่เราอาจทำได้ถนัดกว่าครับ แต่การศึกษา DCF จะช่วยให้ผมเข้าใจในกิจการที่สนใจมากกว่าครับ เพราะผมต้องการข้อมูลต่างๆของบริษัทเพื่อนำมาเป็นสมมุติฐานมากขึ้นครับ
DCF เป็นเมินมูลค่าหุ้นรูปแบบหนึ่งครับ ซึ่งเน้นการมองอนาคตต่างๆเป็นสำคัญ เช่น การเติบโตของยอดขาย เงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่ม(ลด)ขึ้น การลงทุน และค่าเสื่อมราคา ซึ่งส่วนตัวยังไม่ชำนาญแต่ทำการศึกษาอยู่สม่ำเสมอ (แรกๆผมก็ยังมาโพสในห้องนี้เรื่องการดูค่า Risk premiumเพื่อหาค่า WACC อยู่เลยครับ ก็มีพี่Anti-Aircraft รวมถึงท่านอื่นๆที่ THAIVIนี่แหล่ะมาช่วยตอบครับ)
ผมคิดว่าสิ่งที่จะทำให้ DCF แม่นยำคือสมมุติฐานต่างๆครับ ว่าเราจะไปหาที่ถูกต้องใกล้เคียงที่สุดจากไหนเพราะเป็นเรื่องของอนาคตล้วนๆครับ ส่วน CONCEPT ก็คือคิดกระแสเงินสดอิสระในแต่ละปีออกมา แล้วหา PV ของแต่ละปี(WACCจะนำมาเป็นค่าRในEXCEL หรือเป็นตัวหารเวลาคิด)แล้วนำมารวมกัน ลบด้วยมูลค่าหนี้และไดลูชั่นของหุ้น หารด้วยจำนวนหุ้น จะได้ราคาที่เหมาะสมครับ
แนะนำว่าควรใช้ประเมินกับกิจการที่มีโมเดลไม่ยากหรือเรามีความเข้าใจนะครับ เพราะจะช่วยให้ตั้งสมมุติฐานต่างๆได้ง่ายขึ้นครับ
ทั้งนี้หนังสือ วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวเอง ของ คุณสุมาอี้ จะช่วยคุณได้มากครับ (ลองหาดูในร้อยคนร้อยเล่มครับ)
DCF เป็นเมินมูลค่าหุ้นรูปแบบหนึ่งครับ ซึ่งเน้นการมองอนาคตต่างๆเป็นสำคัญ เช่น การเติบโตของยอดขาย เงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่ม(ลด)ขึ้น การลงทุน และค่าเสื่อมราคา ซึ่งส่วนตัวยังไม่ชำนาญแต่ทำการศึกษาอยู่สม่ำเสมอ (แรกๆผมก็ยังมาโพสในห้องนี้เรื่องการดูค่า Risk premiumเพื่อหาค่า WACC อยู่เลยครับ ก็มีพี่Anti-Aircraft รวมถึงท่านอื่นๆที่ THAIVIนี่แหล่ะมาช่วยตอบครับ)
ผมคิดว่าสิ่งที่จะทำให้ DCF แม่นยำคือสมมุติฐานต่างๆครับ ว่าเราจะไปหาที่ถูกต้องใกล้เคียงที่สุดจากไหนเพราะเป็นเรื่องของอนาคตล้วนๆครับ ส่วน CONCEPT ก็คือคิดกระแสเงินสดอิสระในแต่ละปีออกมา แล้วหา PV ของแต่ละปี(WACCจะนำมาเป็นค่าRในEXCEL หรือเป็นตัวหารเวลาคิด)แล้วนำมารวมกัน ลบด้วยมูลค่าหนี้และไดลูชั่นของหุ้น หารด้วยจำนวนหุ้น จะได้ราคาที่เหมาะสมครับ
แนะนำว่าควรใช้ประเมินกับกิจการที่มีโมเดลไม่ยากหรือเรามีความเข้าใจนะครับ เพราะจะช่วยให้ตั้งสมมุติฐานต่างๆได้ง่ายขึ้นครับ
ทั้งนี้หนังสือ วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวเอง ของ คุณสุมาอี้ จะช่วยคุณได้มากครับ (ลองหาดูในร้อยคนร้อยเล่มครับ)
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 6
มันมีส่วนของผู้ถือหุ้น กับตัวบริษัทต้องดูดีละครับ
WACC ใช้กับตัวบริษัทเพราะว่า มันรวมต้นทุนของเงินทุนในส่วนของ เจ้าของ(หุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ์) และเจ้าหนี้(หุ้นกู้หรือส่วนของหนี้สิน) ไว้ด้วยกัน
ส่วนของผู้ถือหุ้น นั้นมีส่วนของเจ้าของอย่างเดียว (หุ้นสามัญ)เท่านั้นในการคิด
ถ้ารู้ WACC สามารถเอาไปหาอะไรต่อได้อีกหลายอย่างเลยล่ะครับ
~
WACC ใช้กับตัวบริษัทเพราะว่า มันรวมต้นทุนของเงินทุนในส่วนของ เจ้าของ(หุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ์) และเจ้าหนี้(หุ้นกู้หรือส่วนของหนี้สิน) ไว้ด้วยกัน
ส่วนของผู้ถือหุ้น นั้นมีส่วนของเจ้าของอย่างเดียว (หุ้นสามัญ)เท่านั้นในการคิด
ถ้ารู้ WACC สามารถเอาไปหาอะไรต่อได้อีกหลายอย่างเลยล่ะครับ
~
-
- Verified User
- โพสต์: 1160
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 7
ถ้าใช้วิธีคิดลดกระแสเงินสดหรือDCF ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างซับซ้อนและเป็นวิชาการแถมความแม่นยำต่ำ
ก็ต้องรู้ WACC ครับ ผมมีโปรแกรมที่ใช้ DCF ที่เขียนเอง แล้วก็เข้าใจวิธีนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง
จึงบอกได้เลยว่า มันเชื่อถือได้น้อยมาก DCF เนี่ย
อ่อ แล้วถ้าจะใช้ WACC นะครับ ใช้ Ke ดีกว่า เพราะท่านไม่ได้ซื้อหุ้นกู้ของมัน
จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาเอาหนี้มาถ่วง
Keใช้ 10 11หรือ12ก็ได้ครับ ไม่ต้องเสียเวลาคำนวณหาด้วย
ก็ต้องรู้ WACC ครับ ผมมีโปรแกรมที่ใช้ DCF ที่เขียนเอง แล้วก็เข้าใจวิธีนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง
จึงบอกได้เลยว่า มันเชื่อถือได้น้อยมาก DCF เนี่ย
อ่อ แล้วถ้าจะใช้ WACC นะครับ ใช้ Ke ดีกว่า เพราะท่านไม่ได้ซื้อหุ้นกู้ของมัน
จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาเอาหนี้มาถ่วง
Keใช้ 10 11หรือ12ก็ได้ครับ ไม่ต้องเสียเวลาคำนวณหาด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 8
Ke น่าจะคำนวณจากตัว regression ของ Beta แล้วเข้าสูตรของ CAPM น่าจะดีกว่าไหมครับ
อันนี้เป็นไปนักการเงินที่ใช้กัน
อาจจะถกเถียงกันได้ว่า เอาช่วงเวลานานแค่ไหนในการทำ Regression
ก็เอาตาม Boomberg ก็คือ 3 ปีมาทำ และ Biz Model ไม่เปลี่ยนแปลง
แต่อย่างไงก็ตาม Beta ก็ไม่ใช่ตัวที่สะท้อนความเสี่ยงของตัวธุรกิจได้ดีที่สุด
แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเป็นหลักยึดแล้วนั่งเทียนหาค่า Ke ละครับ
หมายเหตุ
ค่าKe คือต้นทุนของเงินในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นๆ
ว่าเขาเรียกร้องสิ่งตอบแทนเท่าไร
ผลการตอบแทนมันมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของตัวกิจการนั้นๆด้วย
ยิ่งกิจการไหนมีความเสี่ยงสูง ค่า Beta ก็สูงตาม และ ผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นต้องการสูงตามด้วย
อันนี้เป็นไปนักการเงินที่ใช้กัน
อาจจะถกเถียงกันได้ว่า เอาช่วงเวลานานแค่ไหนในการทำ Regression
ก็เอาตาม Boomberg ก็คือ 3 ปีมาทำ และ Biz Model ไม่เปลี่ยนแปลง
แต่อย่างไงก็ตาม Beta ก็ไม่ใช่ตัวที่สะท้อนความเสี่ยงของตัวธุรกิจได้ดีที่สุด
แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเป็นหลักยึดแล้วนั่งเทียนหาค่า Ke ละครับ
หมายเหตุ
ค่าKe คือต้นทุนของเงินในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นๆ
ว่าเขาเรียกร้องสิ่งตอบแทนเท่าไร
ผลการตอบแทนมันมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของตัวกิจการนั้นๆด้วย
ยิ่งกิจการไหนมีความเสี่ยงสูง ค่า Beta ก็สูงตาม และ ผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นต้องการสูงตามด้วย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 9
ควรระวังการใช้ beta ด้วยนะครับ
เพราะสมมุติฐานพื้นฐานของ capm คือ market effificiency นั้นผิดแต่แรก
การหาค่า beta ก็ไม่แน่นอน ความคงที่ข้ามเวลาจากอดีตไปอนาคตก็ไม่แน่นอน
ต้องหา ke หลายๆวิธีนะครับ
วิธีกะๆเอา โดยต้องเอาต้นทุนเงินกู้บวก risk premium ก็ควรนำมาใช้ด้วยครับ
................................
เสนอแนะนะครับ
เพราะสมมุติฐานพื้นฐานของ capm คือ market effificiency นั้นผิดแต่แรก
การหาค่า beta ก็ไม่แน่นอน ความคงที่ข้ามเวลาจากอดีตไปอนาคตก็ไม่แน่นอน
ต้องหา ke หลายๆวิธีนะครับ
วิธีกะๆเอา โดยต้องเอาต้นทุนเงินกู้บวก risk premium ก็ควรนำมาใช้ด้วยครับ
................................
เสนอแนะนะครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
- KGYF
- Verified User
- โพสต์: 399
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณมากครับ
ผมได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วครับ
ผมได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วครับ
" สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ = การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง "
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
-
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 13
ลองไปอ่านๆ post เก่าๆ ในนี้ดูก็ได้นะครับ
มีคนเค้าคำนวนให้ดูกัน สำหรับ CPN
อาจจะทำให้ เห็นภาพมากขึ้น
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... start=1830
มีคนเค้าคำนวนให้ดูกัน สำหรับ CPN
อาจจะทำให้ เห็นภาพมากขึ้น
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... start=1830
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: WACC จำเป็นกับการวิเคราะห์มากแค่ไหนครับ??
โพสต์ที่ 14
dcf คือ ส่วนกลับของ ดอกเบี้ยทบต้นไงคับLiwana เขียน:ขอบคุณ คุณ Anti-Aircraft และคุณ murder_doll มากๆครับ
ความรู้เป็นสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาลเสมอครับ
ขอถามต่อหน่อยนะครับ
ผมเองไม่ทราบจริงๆครับ
DCF คืออะไรครับ?
สำคัญมากน้อยแค่ไหนกับ VI ครับ?
แล้วระดับมือใหม่อย่างผม ยากเกินไปที่จะหามั๊ยครับ?
รบกวนอีกครั้งนะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
เอาแบบเข้าใจง่ายๆ เราลงทุนวันนี้ เงินเราจะงอกจริงหรือไม่
หรือมันแค่เป็นการเล่นตัวเลขหลอก
dcf คือสิ่งที่เราคำนวณถอดกลับออกมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน
สมมติมีคนมาชวนทำธุรกิจ เอาแผนธุรกิจมาให้เราดู
ว่าจะประมาณการกระแสเงินสดในแต่ละปีได้ ดังนั้น ดังนี้
เราเองก็มีความคาดหวังผลตอนแทนในใจว่าอยากจะได้กี่เปอร์เซนต์
dcf ก็คือเครื่องมือที่ทำให้เรารู้ว่า จาก business plan นั้น
เราต้องจ่ายเงินจริงวันนี้เื่ท่าไหร่
n
future value = present value x [ 1 + return rate ]
คิดง่าย ตามสุตรดอกเบี้ยทบต้น กลับข้างสมการ เอา หนึ่งบวกอัตราผลตอบแทนยกกำลังปีไปหาร มูลค่าอนาคต ก็จะได้ มูลค่าปัจจุบันใช่ไหมคับ
นี่ก็คือแนวคิดคร่าวๆของ dcf ไงครัีบ
แต่ที่มันไม่แน่นอนก็คือ เราจะไปประมาณการได้ตรงเป๊ะๆ ได้ยังไง ว่าใน business plan
ที่เขาบอกจะได้เงินสดในแต่ละปีตามนั้น
ปล รู้แต่หลักการคร่าวๆครับ ส่วนวิธีคำนวณ ยุ่งยากปวดหัวมาก
ผมทำไม่เป็นหรอก ส่วนใหญ่ก็ฟังตัวเลขเค้ามา
สำหรับหุ้นคิดว่า คงยาก แต่ถ้าเราจะไปทำธุรกิจกับใคร เวลาอ่าน bussiness plan มันจะ
แม่นยำกว่ามั้งคับ
show me money.