รุ้งกินน้ำ

[por_jai]

To Fill or Not to Fill
When someone says that a gap has been "filled", that means that the price has moved back to the original pre-gap level. These fills are quite common and occur as a result of the following:

•Irrational Exuberance: The initial spike may have been overly optimistic or pessimistic, therefore inviting a correction.
•Technical Resistance: When a price moves up or down sharply, it doesn't leave behind any support or resistance.
•Price Pattern: Price patterns are used to classify gaps; as a result, they can also tell you if a gap will be filled or not. Exhaustion gaps are typically the most likely to be filled because they signal the end of a price trend, while continuation and breakaway gaps are significantly less likely to be filled since they are used to confirm the direction of the current trend.
When gaps are filled within the same trading day on which they occur, this is referred to as fading. For example, let's say a company announces great earnings per share for this quarter, and it gaps up at open (meaning it opened significantly higher than its previous close). Now let's say that, as the day progresses, people realize that the cash flow statement shows some weaknesses, so they start selling. Eventually the price hits yesterday's close, and the gap is filled. Many day traders use this strategy during earnings season or at other times when irrational exuberance is at a high. (For more on this subject, read The Madness Of Crowds.)

[แม่แฝด3]

แวะมาสวัสดีพี่ป้อมค่ะ

[อกาลิโก]

พี่มัดเล่กรุ๊ปว่าทุนบักสีดาอยู่แถวๆ571.9เองนะครับ

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 92369.html

ขอบคุณค่ะ พี่ป้อม

[por_jai]

มีน้องหลายๆคนชอบโทรมาบ้าง
พีเอ็มมาบ้างปรึกษาเรื่องหลายๆเรื่อง
ผมคิดไปคิดมาก็คิดได้ว่า
ถ้าใครมีเจ้าตัวนี้ ชีิวิตนี้คงเบาสบายอีกเยอะเชียวครับ
ทุกข์นี่ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้นะ
เพียงแต่ว่าแม้เรารู้ แต่เราไม่มีเจ้าตัวนี้
ก็เลยต้องทนทุกข์เพราะคิดซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่นแล

http://www.youtube.com/watch?v=2zgwfSCpWgc

[กูรูขอบสนาม]

สวัสดีพี่ป้อมเจ้า

ไม่ได้มาทักทายหลายเพลา ด้วยวุ่นวายกับธุระส่วนตัวมากมาย
เผลอแผล็บเดียวจะจบปีอีกแล้ว
อายุเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัวเลข
เลยหวนคำนึงว่าที่ผ่านมาขวบปีชีวิตเจออะไรบ้าง

จะว่าไปก็ค่อนข้างราบเรียบ บางห้วงเวลา มียุ่งวุ่นวายตามประสาทั่วไป
บางครั้งก็เร่งรีบจนลืมอภิเชษฐ์กับสิ่งรอบข้าง
ทว่า ท้องถนนในเมืองหลวงก็ไม่ค่อยมีอะไรจะน่าอภิ..เท่าไหร่เล้ย
(ทุกซอกมุมถนนเดี๋ยวนี้ กลิ่นตุๆทั้งน้าน)

ถึงกระนั้นในความหยาบก็ยังคงมีสิ่งทีละเอียดซ่อนอยู่
มองข้ามอะไรที่ไม่สบอารมณ์ไปเสียบ้าง
โลกก็ยังหมุนรอบตัวเองต่อไปได้

มาฟังเพลงจังหวะช้าๆดีกว่า
Andante เป็นท่อนหนึ่งจาก Double Mandarin Concerto
ของ Antonio Vivaldi คีตกวีอิตาเลียนสมัยบาโรค
นำมาฮัมเพลงใหม่โดยศิลปินผิวดำ Bobby McFerrin
โดยมี Yoyo Ma บรรเลงไวโอลินคลอ

ดูแล้วรู้สึกโลกช้าลง...จริงๆ
พี่ป้อมว่ามั้ย

http://www.youtube.com/watch?v=9NdlGjkZ_6I

[por_jai]

คำที่ถูกชาวเน็ตในเมืองไทยค้นหาบ่อยที่สุดในปี 53
ไม่ใช่ iPad, iPhone 4 หรือ facebook
แต่เป็นคำว่า "เพลงลูกเทวดา"
ที่สามารถครองแชมป์ในกลุ่มคำค้นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งปี
เขี่ยแบรนด์สินค้าไอทีตกชั้นไปอยู่อันดับ 2-3
ขณะที่อันดับ 4 คือคำว่า the star 6
นำหน้าอันดับ 5 คือคำว่าเพลงเหงาปาก

http://www.youtube.com/watch?v=vocomCyvh08

จะว่าไปก็พอฟังได้แต่ไม่ค่อยชอบ
วัดจากเพลงพวกนี้ให้เปิดหลายๆครั้งก็คงไม่ไหวเหมือนกัน

[por_jai]

ดูแล้วรู้สึกโลกช้าลง...จริงๆ
พี่ป้อมว่ามั้ย

หมอสม สุจีราบอกในหนังสือไอสไตน์พบ...พระพุทธเจ้าเห็น
ว่า
เวลาไม่มีอยู่จริง
เพราะมันสัมพัทธ์กับสิ่งรอบตัว
ดังนั้นมันช้าได้ เร็วไ้ด้ จริงๆ

[por_jai]

ทราบไหมครับว่ามีการเปลี่ยนตัวเลขสรุปซื้อขายแยกตามประเภทนักลงทุนด้วย
วันนึงประกาศออกไปแล้ว
มีการแก้ไขได้ด้วย...ฮ่า...

http://www.rockontheset.com/dec/tueday14_12.html

[boong24]

พี่พอใจก็อ่านพี่หินกลิ้งด้วยเหรอครับ

[สถาปนิกต่างดาว]

ดูแล้วรู้สึกโลกช้าลง...จริงๆ
พี่ป้อมว่ามั้ย

หมอสม สุจีราบอกในหนังสือไอสไตน์พบ...พระพุทธเจ้าเห็น
ว่า
เวลาไม่มีอยู่จริง
เพราะมันสัมพัทธ์กับสิ่งรอบตัว
ดังนั้นมันช้าได้ เร็วไ้ด้ จริงๆ

จากหนังสือ เรื่องลับๆของเวลา โดย stefan klein
จากบท เกิดอะไรขึ้น เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาบอกว่า มีนาฬิกาอยู่ ๓ แบบ
นาฬิกาจักรกล
นาฬิกาชีวภาพ(ในร่างกาย)
นาฬิกาในจิต

บทที่๕ อะตอมแห่งเวลา
ปัจจุบันขณะนั้นนานแค่ไหน
ปัจจุบันคือภาพลวงตา

บทส่งท้าย
วัฒนธรรมใหม่ของเวลา
หกขั้นตอนสู่ชีวิตที่ผ่อนคลายกว่า

ลองหามาอ่านดูกันครับ
มัน มึน ดี :lol:

[อกาลิโก]

มีน้องหลายๆคนชอบโทรมาบ้าง
พีเอ็มมาบ้างปรึกษาเรื่องหลายๆเรื่อง
ผมคิดไปคิดมาก็คิดได้ว่า
ถ้าใครมีเจ้าตัวนี้ ชีิวิตนี้คงเบาสบายอีกเยอะเชียวครับ
ทุกข์นี่ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้นะ
เพียงแต่ว่าแม้เรารู้ แต่เราไม่มีเจ้าตัวนี้
ก็เลยต้องทนทุกข์เพราะคิดซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่นแล

http://www.youtube.com/watch?v=2zgwfSCpWgc

พี่ป้อม นี่ฟอร์มสดนะ อ่านหนังสือแยะ สนใจเรื่องทันสมัย

หนูรู้แล้ว มีไร ไม่ต้องถามอับดุล

ถาม "พี่ป้อม" หน้าเวป นี่แหละ

เข้ามาบ่อยๆนะค่ะ

[ccc111]

มีคนถามว่า :

มีหุ้นอะไรบ้างคะที่เราสามารถจับต้องได้จริงๆ vote [ถูกใจ]
[แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน

เพราะที่ซื้อหุ้นกันทุกวันนี้ หุ้นมันก็ไปอยู่ในพอร์ต มีแต่ใบเสร็จแสดงว่าเราได้ซื้อขาย แต่จะมีหุ้นไหน หรือสิ่งของอะไรบ้างไหมคะ
ที่เมื่อเราซื้อมาแล้ว สามารถจับต้องได้ มีการขึ้นลงของราคาตามตลาด
ซื้อ ขายได้ เท่าที่นึกออกก็มีแต่ทอง แต่ทองมันแพงไปอะ มีสิ่งของอย่างอื่นไหมคะถ้าเป็นพวก น้ำมัน ข้าวสาร พวกนี้มันต้องมีค่าบำรุง และมีการหมดอายุ เอาแบบที่มัน ซื้อมาเก็บที่บ้านได้อะค่ะ พอจะนึกออกบ้างไหมคะ
ว่ามีหุ้นอะไรบ้างที่เราเอามาเก็บ เอามาถือ มาดูให้เห็นกับตาได้น่ะค่า

จากคุณ : นู๋นัน [Bloggang]
เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 21:01:27 [แก้ไข]

แล้วก็มีคนมาตอบ :

ความคิดเห็นที่ 11 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน

หุ้นส่วนชีวิตครับนู๋นัน....จับต้องได้
ส่วนเขาจะตอบสนองแค่ไหนนั้น...แปรผกผันกับกาลเวลาและความคุ้นชินครับ haha

จากคุณ : halogen [FriendFlock]
เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 23:49:38 [แก้ไข]

ผมว่าเค้าตอบได้ตรงคำถามสุดๆเลย

เอามาเก็บไว้ที่บ้านได้ แถมยังจับต้อง ลูบคลำได้ตามใจปราถนาอีก

[oatty]

มาถือโอกาสสวัสดีปีใหม่พี่ป้อมครับ

[BeSmile]

เอา Review หนังมาฝาก "Mary and Max"

http://www.manager.co.th/Entertainment/ ... 0000168100

"ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่า มองโลกอย่างไร และคิดกับมันแบบไหนเท่านั้นเอง"

สรุปได้ดีมากครับ

[por_jai]

สถิติโลกวิ่ง10กม.ในลู่เมื่อปี1998
ส่วนตัวเคยทำไว้ประมาณ55นาทีเมื่อสิบกว่าปีก่อนเช่นกัน
ตอนนี้ห้ามถามว่าเวลาเท่าไหร่...อายครับ...

http://www.youtube.com/watch?v=W7euAg7f ... re=related

[por_jai]

มาถือโอกาสสวัสดีปีใหม่พี่ป้อมครับ

ส่งท้่ายปีไปเที่ยวไหนละ
26ที่จะถึงนี้ก๊วนผมจะไปวิ่งเชียงใหม่มาราธอน
จริงๆก็ไปเที่ยวแหละ
เอาเรื่องวิ่งมาบังหน้า

เดือนหน้าไปวิ่งขอนแก่นมาราธอน
บังหน้าเหมือนกัน
จริงๆจะไปลอกหุ้นเซียนๆแถวนั้น

[PERFECT LUCKY]

มาถือโอกาสสวัสดีปีใหม่พี่ป้อมครับ

ส่งท้่ายปีไปเที่ยวไหนละ
26ที่จะถึงนี้ก๊วนผมจะไปวิ่งเชียงใหม่มาราธอน
จริงๆก็ไปเที่ยวแหละ
เอาเรื่องวิ่งมาบังหน้า

เดือนหน้าไปวิ่งขอนแก่นมาราธอน
บังหน้าเหมือนกัน
จริงๆจะไปลอกหุ้นเซียนๆแถวนั้น

จะไปลอกพี่เอี๋ยวเหรอครับพี่ป้อม
ไหนๆมาแล้วเลยมาเชียงรายซักหน่อยน่าจะดีนะครับ
จะได้กินข้าวด้วยกัน

[oatty]

กำหนดการไม่มีครับ เพราะตอนนี้มีห่วงคล้องคออยู่ (อึดอัด อิอิ)

จริง ๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากร่วมก๊วนลอกหุ้นเหมือนกานน..

หัวหน้าผมก็มีโปรแกรม จัดทัวร์เชียงรายซื้อซีดี ไปเช้าเย็นกลับด้วย แต่ไม่รู้ได้จะไปหรือเปล่า

[por_jai]

ไว้เจียงฮายมีจัดวิ่ง
ก็แล้วกันนะ
เพราะจะว่าไประยะเวลานั่งเครื่องไม่ได้ต่างกันเท่าไรเลย
แต่เชียงใหม่นี่ผมเป็นแค่นักวิ่ง ไม่ได้มีหน้าที่จัดการอะไร
มีน้องคนนึงเขายอมเป็นธุระจองโน่นจองนี่
กินอะไรพักที่ไหน ก็ไปตามเขาว่า
ถ้าเรื่องมาก เดี๋ยวเขาว่าคราวหน้าพี่จัดเองก็แล้วกัน
แฮ่....

[por_jai]

อ่านแล้วขำดี
เฮียจิม โรเจ้อร์เป็นคนเซด

: What Kind Of Growth Do You See In China?

"I have no idea. I know that it's booming. I know that every time I go to China, and I've being going to China for 26 years -- the first time I went it was 1984 -- and I assure you China is growing very rapidly and doing a lot of things right. Whether it's 8% or 12%, I mean you look at the Indians. Who can believe the Indian [growth] number; certainly not me.

I've been going to India for many years too and I know they're not growing as fast as China but they claim to be. The Indians wait for the Chinese to announce their growth numbers and then they announce theirs. They want to make sure they are in the same league. But all of these numbers are made up; you must understand that by now."

[RONNAPUM]

เมื่อคืน ฝันถึงพี่พอใจ
เรื่องผมไปสอบถามขอความรู้เรื่องสถิติเชิงเส้น

ปล. คิดถึงพี่พอใจมากเก็บไปฝันเลย

[por_jai]

คิดคือฝันตอนกลางวัน
ฝันคือคิดตอนกลางคืน
หลวงพ่อสอนมา แถมบอกด้วยว่า
วิถีที่จิตขึ้นมารับอารมณ์แบบเดียวกันเปี๊ยบเลย

[dome@perth]

คิดคือฝันตอนกลางวัน
ฝันคือคิดตอนกลางคืน
หลวงพ่อสอนมา แถมบอกด้วยว่า
วิถีที่จิตขึ้นมารับอารมณ์แบบเดียวกันเปี๊ยบเลย

หว้า....ผมก็ฝันกลางวันบ่อยๆนะสิ

คิดถึงครับพี่ใจ

[por_jai]

เรื่องทางโลก บอกตามคำเล่านี้



ไชน่า เดลี่ -เรื่องราวความรักของคนคู่หนึ่ง ที่ฝ่ามรสุมการเมืองและชีวิตส่วนตัว เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ กระทั่งได้มาพบกันอีกครั้ง ได้สมปรารถนาครองคู่ครองรักกันในยามไม้ใกล้ฝั่ง

สาวลูกครึ่ง แดนนี่ หลี่ กับ นายหยวน ตี้เปา พบกันที่เมืองหังโจวในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2496 แต่โชคชะตาทำให้เขาทั้งสองพรากจากกันไปไกลถึงคนละซีกโลก นานถึง 54 ปี และปาฏิหาริย์แห่งรักก็เกิดขึ้น นำพาพวกเขามาพบกันอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งสองได้กลับมาครองรักแต่งงานกันในที่สุด ในวัยกว่า 80 ปี!

เรื่องราวตำนานรักของทั้งสอง ได้กลายเป็นข่าวยอดนิยมในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์จีน นอกจากนี้ บรรดาชาวเน ็ตจีน ต่างยกย่องความรักของคู่รักคู่นี้ว่าเป็น“ความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก”

แดนนี่ หลี่ กล่าวว่า “มันเหมือนความฝัน ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบเขาอีกครั้ง”

หลี่ เกิดในปี 2469 ณ กรุงปักกิ่ง มีแม่เป็นชาวฝรั่งเศส และพ่อเป็นชาวจีน เมื่อเธออายุ 24 ปี ก็ได้เป็นอาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งในวิทยาลัยแพทยศาสตร์เจ้อเจียง ในเมืองหังโจว และด้วยความเชี่ยวชาญถึง 4 ภาษา คือ ภาษาจีน อังกฤษ รัสเซีย และภาษาฝรั่งเศส จึงทำให้เธอมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก

หยวน ตี้เปา นักศึกษาปีหนึ่ง รูปหล่อ วัย 25 ปี ผู้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน และเป็นนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชั้นเรียนภาษารัสเซียของหลี่ หยวนทั้งฉลาดและขยัน ซึ่งเขาพิสูจน์ด้วยการได้คะแนนสอบมากที่สุดในชั้นเรียน

“เขาเป็นคนดี ทั้งย ังดีกับคนอื่นๆด้วย บรรดานักศึกษาและครูอาจารย์ล้วนชอบเขามาก” หลี่ รำลึกหยวนในช่วงวัยเรียน

ขณะที่ หลี่ เริ่มศึกษาถึงตัวตนของหยวน เธอก็พบว่า ทั้งหยวนกับเธอ มีสิ่งที่คล้ายกันอยู่มาก และความรู้สึกอันแสนอบอุ่นของหลี่ที่มีให้หยวน ก็ได้พัฒนาไปสู่ความรักอันแสนบริสุทธิ์ในที่สุด

ถึงแม้สังคมจะมองความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์เป็นเรื่องไม่ดีนัก ทั้งคู่ก็ยังสนิทสนมกัน โดยมีเพียงครอบครัวของหลี่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

ทุกๆครั้งที่หยวนไปขอคำปรึกษาเรื่องการเรียนที่ห้องทำงานของหลี่ พวกเขาก็จะนัดกันต่อหลังเลิกเรียน

[por_jai]

เมืองหังโจว ที่แห่งความรักอันแสนหวานปานน้ำผึ้ง

ที่หังโจว หยวนมักเดินไปส่งหลี่ที่บ้าน และแวะบ้านของหลี่ครู่หนึ่งเสมอ ครอบครัวของหลี่ก็มิได้ขัดขวางแต่ประการใด กลับต้อนรับชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์และมีความสุภาพอ่อนโยนนี้อย่างดี

เมื่อทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน หลี่มีความสุขหวานชื่น ขณะที่หยวน กลับสับสนว้าวุ่นอยู่ระหว่างความสุขและความรู้สึกผิด

“ฉันสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เขาเก็บงำไว้” หลี่ เล่า

ในตอนนั้น สิ่งที่หลี่ไม่รู้ ก็คือ หยวนได้แต่งงานมีภรรยาแล้ว

ครอบครัวของหยวนได้จัดการให้เขาแต่งงานกับน้องสาวของเพื่อนที่บ้านเกิด ในเกาะกู้หลังอี้ว์ เมืองซย่าเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ก่อนที่หยวนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ ในปี 2496

หยวนไม่ได้บอกหลี่ เรื่องที่เขาแต่งงานแล้ว

จนกระทั่งเมื่อปี 2497 ก่อนที่หยวนจะย้ายไปศึกษาต่อยังเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เขาจึงได้รวบรวมความกล้า และบอกกับหลี่ว่า

“ผมมีภรรยาแล้ว และจะต้องดูแลเธอไปจนกว่าจะตายจากกัน”

หัวใจของหลี่ร้าวรานเมื่อได้ยินคำสารภา พของหยวน และแม้ว่าจะรักหยวนมากเพียงใด แต่ทั้งคู่ก็จำต้องแยกจากกัน

“ฉันไม่มีทางเลือก เราไม่ควรมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้หญิงที่เป็นผู้บริสุทธิ์อีกคน”หลี่ ให้ความเห็น

หลังจากนั้น หลี่และหยวนก็ไม่ได้พบกันอีก

[por_jai]

จากกันไกลถึงซีกโลก...

ในปี 2499 หลี่ กับแม่ของเธอได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะออกจากประเทศจีน หลี่ได้เขียนจดหมายบอกลาหยวน

ทว่าไม่กี่วันต่อมา หยวนก็ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการส่งจดหมายอีกหลายฉบับ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มติดต่อกันผ่านทางจดหมายมาตลอด

โดยจดหมายจากหลี่ จะส่งไปถึงที่ทำงานของหยวน ขณะเดียวกัน หยวนก็เก็บจดหมายทุกฉบับของหลี่ไว้ที่บ้านญาติ เพื่อไม่ให้ภรรยารู้

หลี่ ต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ในสังคมที่เธอไม่คุ ้นเคยในประเทศฝรั่งเศส ประกอบกับใบรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาของเธอก็ยังถูกปฏิเสธ อีกทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่างจนทำให้เกิดความรู้สึกสับสน

หลี่ ได้เรียนรู้การเขียนชวเลข และการพิมพ์ดีด จนท้ายที่สุดก็ได้งานในตำแหน่งเลขานุการของบริษัทการค้าระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ขณะที่ หยวนก็สำเร็จการศึกษาและเริ่มทำงานในซย่าเหมิน

เนื้อความในจดหมายของทั้งสอง แทบจะไม่มีการระบายถึงความทุกข์ยากของแต่ละฝ่าย หยวนเล่าถึงความสุขที่ได้เป็นพ่อคน ขณะที่ หลี่ ก็ส่งนมผงสำหรับทารกและเสื้อผ้าเด็กมาให้ ซึ่งในขณะนั้นในประเทศจีนยังค่อนข้างขาดแคลนสินค้าดังกล่าว

เมื่อถึงช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (2509-2519) จดหมายของหลี่ก็เริ่มถูกตีกลับ และเธอได้หยุดเขียนจดหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับหยวน แต่หลี่ ก็ไม่สามารถลืมหยวนได้

“ฉันไม่สามารถเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ได้ แม้ว่าจะมีหลายคนผ่านเข้ามาในชีวิตฉันก็ตาม ฉันพบว่าความรักของหยวน เป็นรักแท้ และรู้สึกถึงความพิเศษที่ ไม่มีใครสามารถทัดเทียมได้”หลี่ เผยความใน

ในปี 2519 ทันทีที่หลี่มั่นใจว่าความวุ่นวายจากการปฏิวัตวัฒนธรรมในประเทศจีนได้สงบลง เธอก็เขียนจดหมายส่งไปยังที่ทำงานของหยวนเช่นเคย แต่จดหมายดังกล่าวถูกตีกลับ ในตอนนั้น เธอไม่รู้ว่า หยวนได้เปลี่ยนที่ทำงานแล้ว ซึ่งในปี 2516 หยวนได้เขียนจดหมายบอกหลี่ แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง ทั้งคู่ก็ได้ติดต่อกันอีกครั้ง เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้เอง (2553) นานถึง 45 ปี ที่ทั้งสองพรากจากกันหลังจากได้ติดต่อกันครั้งสุดท้าย

[por_jai]

แสงสว่างฉายโฉนบนเส้นทางรัก...

ช่วงระหว่างเทศกาลตรุษจีน (ปลายเดือนก.พ.) โอวหยัง ลู่อิง ลูกสะใภ้คนที่สามของหยวน ได้ล่วงรู้จากญาติที่เป็นผู้ช่วยกุมความลับจดหมายของหลี่ไว้ ว่า พ่อสามีของเธอ ได้เคยตกหลุมรักกับครูต่างชาติสาวสวย เธอกล่าวว่า

“เมื่อได้ฟังเรื่องของพ่อสามีฉัน ก็สั มผัสได้ถึงความลึกซึ้งในความรัก และเมื่อแม่สามีของฉันได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2537 ฉันจึงขอให้พ่อเขียนจดหมายอีกครั้ง”

แม้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หยวนมักจะไปยังสถานที่ที่เขากับหลี่เคยมาด้วยกันเป็นประจำในเมืองหังโจว แต่หยวนก็ไม่เคยคาดคิดที่จะกลับไปติดต่อกับหลี่อีก

จนเมื่อลูกสะใภ้โอวหยังได้ปลุกความทรงจำทั้งหมดจากก้นบึ้งในจิตใจ หยวนจึงมีกำลังใจและมีความหวังที่จะพบกับหลี่อีกครั้ง เขาใช้เวลาหลายวันในการเขียนจดหมายทั้งสิ้น 5 ฉบับ นอกจากจะเขียนเป็นภาษาจีนอวยพรให้หลี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว หยวนยังเขียนถึงญาติของหลี่เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยเกรงว่าหลี่อาจเสียชีวิตแล้ว โดยเขียนว่า

"ผมเป็นนักเรียนและเพื่อนของหลี่ และต้องการทราบถึงที่อยู่ของหลี่"

ทุกๆ วันเว้นวัน หยวนได้ส่งจดหมาย 1 ฉบับ และหากไม่ได้รับจดหมายตอบกลับเลยสักฉบับ เรื่องราวต่างๆ ก็อาจต้องยุติลงเพียงเท่านี้
ในที่สุดก็มีจดหมายส่งตรงจากฝรั่งเศส หยวนซึ่งบัดนี้อายุ 80 ปี ได้เปิดจดหมายฉบับนั้นด้วยมือที่สั่นเทา และได้เห็นลายมือที่คุ้นเคยอีกครั้ง หยวนเล่าถึงความรู้สึก ณ ขณะนั้น ว่า “ขอบคุณสวรรค์ เธอยังมีชีวิตอยู่” ในซองจดหมายมีรูปของหลี่แนบมาพร้อมกับเนื้อความ 3 หน้ากระดาษ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอว่า...

"ในปี 2517 เป็นระยะเวลา 9 ปี หลังจากการติดต่อกันครั้งสุดท้าย ฉันจบการศึกษาภาษาจีนและได้รับคุณวุฒิเทียบเท่ามหาบัณฑิต จึงได้งานสอนภาษาจีนในมหาวิทยาลัยช็อง มูแลง - ลียง 3

ในปี 2535 ฉันเกษียณในตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว และจากนั้นได้ทำงานเป็นรองประธานองค์กรไม่แสวงกำไรที่ช่วยเหลือนักศึกษาชาวจีนในมหาวิทยาลัยนี้

เธอยังคงครองโสดและอยู่เพียงลำพังหลังจากที่พ่อแ ม่ของเธอเสียชีวิตลง

ในวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา หลี่กลับมาถึงบ้านก็พบจดหมายของหยวนวางอยู่ที่พื้น เธอเล่าว่า “ฉันยังไม่ได้ตอบกลับไปในทันที เพราะฉันไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง”

[por_jai]

เธอนั่งมองจดหมายของหยวนที่สวนในบ้านตั้งแต่เที่ยงวันไปถึงเที่ยงคืน กระทั่งเมื่อรุ่งอรุณเบิกฟ้าของวันถัดมา เธอก็ได้รับจดหมายของหยวนอีกฉบับ หลี่จึงมั่นใจว่า มันไม่ใช่ความฝัน

จากนั้นทั้งคู่ได้เริ่มส่งจดหมายหากันเหมือนแต่ก่อน และในบางครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของโอวหยัง ทำให้ทั้งหลี่ และหยวน ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ แต่ไม่นานก็กลับไปใช้การเขียนจดหมายเช่นเดิม เพราะหยวนมีปัญหาด้านการได้ยิน

ในการคุยโทรศัพท์ครั้งแรก หลี่ ได้เล่าว่า “โอวหยัง เรียกฉันว่าคุณแม่แดนนี่ ยังไม่เคยมีใครเรียกฉันว่าแม่มาก่อน ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอันแสนวิเศษนี้ได้”

หนึ่งเดือนต่ อมา หยวนได้เชิญชวนให้หลี่มาที่ซย่าเหมิน และได้บอกกับหลี่ว่า “เธอต้องการมาอยู่กับฉันหรือแค่มาเยี่ยมก็ได้ แล้วแต่เธอจะตัดสินใจ”
เมื่อหลี่ มาถึงซย่าเหมิน หยวนและครอบครัวก็ได้พบกับเธอที่สนามบิน และ ณ เวลานั้น หยวนได้ถือช่อกุหลาบอันสวยสด 55 ดอก เพื่อขอเธอแต่งงาน หลี่ได้ตอบรับคำขอของหยวน จากนั้นทั้งคู่ก็ได้จดทะเบียนสมรสกันในวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา หนึ่งวันก่อนถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป้นช่วงเวลาที่ครอบครัวชาวจีนกลับมาพบปะกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
...................................................

[por_jai]

[por_jai]

แต่เรื่องทางธรรมชาติ บอกว่า
1.กรรมเขาก็ทำหน้าที่ของเขาได้ดีเสมอมา
2.ฮ่า...ยึดมาได้ตั้งห้าหกสิบปี