การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
BeSmile
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1178
ผู้ติดตาม: 0

การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เคยนึกไหมครับ ในการตัดสินใจนั้น แต่ละครั้งเราอ้างอิงอะไร ในการตัดสินใจ

ซึ่งบางครั้ง อารมณ์ มักจะมาก่อน เหตุผลเสมอ ในการสนองตอบ ต่อปัญหา

ผมจะลองเขียนในแนวทางคณิตศาสตร์ เพื่อเป็นแนวคิดหนึ่งนะครับ ในการวิเคราะห์ปัญหาและตัดสินใจ

เนื่องจากเราเป็นนักลงทุนแบบ VI :D ดังนั้นหลังจากประเมินมูลค่า บริษัท เป้าหมายที่จะซื้อแล้ว เราก็เริ่มคิดถึงโอกาศที่บริษัท จะเป็นไปตามที่คาด และความเสี่ยงที่จะไม่เป็นไปตามนั้น

โอกาศที่จะได้ และความเสี่ยงที่จะเสีย ก็ คือ ความน่าจะเป็น (probability)


ผมจะลองยกตัวอย่าง ง่าย ๆ โดยใช้บริษัท รับเหมา ก่อสร้าง XYZ ที่กำลังจะประมูลงานจาก บริษัท ABC โดยมีเหตุการณ์ดังนี้

เหตุการณ์ที่ 1
โอกาศที่ ABC จะเปิดประมูลงาน 80% ไม่เปิดประมูลงาน 20%

เหตุการณ์ที่ 2
โอกาศที่ XYZ จะประมูลงานได้ 80% ไม่ได้งาน 20%

เมื่อมองแต่ละเหตุการณ์ เหมือนโอกาสจะมาก ทำให้เราสามารถตัดสินใจผิดพลาดได้

แต่ถ้าเรานำมาเขียนเป็น Game Theory แล้วนำมาหา Prob จะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น ดังนี้


ABC จะเปิดประมูลงาน 80% โอกาศที่ XYZ จะประมูลได้ 80%, Prob = 64%
ABC จะเปิดประมูลงาน 80% โอกาศที่ XYZ จะประมูลไม่ได้ 20%, Prob = 16%
ABC ไม่เปิดประมูลงาน 20%, Prob = 20%

ดังนั้นโอกาศที่ XYZ ได้งาน = 64% ไม่ได้งาน = 36%

ตัวเลขความน่าจะเป็นดังกล่าว จะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น :D

(เมื่อนำไปคำนวณรวมกับ Upside / Downside ก็ทำให้เห็นภาพชัดขึ้น)


แต่สำหรับบางคนอาจมองความน่าจะเป็นเป็นตัวเลข ไม่ชัดเจน ผมจะลองไปเขียนแบบ ไพ่ตีแตกให้ดู

หวังว่าพอจะมีประโยชน์บ้าง

:D
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
ภาพประจำตัวสมาชิก
densin
Verified User
โพสต์: 1073
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 2

โพสต์

แล้วความน่าจะเป็น พี่เอามาตัดสินสัดส่วน%การลงทุนหรือไม่ครับ
เช่นเสี่ยงมากก็ลง%น้อย
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
กาละมัง
Verified User
โพสต์: 1230
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ความแน่นอนมีแต่ในตำรา ชีวิตจริงธุรกิจมีความไม่แน่นอนสูง บ่อยครั้งผู้บริหารคาดการณ์แล้วยังไม่เป็นตามนั้น แล้วเราเป็นเพียงผู้รับข้อมูลมาอีกทีหนึ่งจะมีความแม่นยำได้เพียงใด ดังนั้นการอ้างอิงคำนวนมาก ๆย่อมพลาดได้เช่นกัน ศัพย์ที่คุ้นหูก็คือ garbage in, garbage out ละครับ
วรันศ์ บัฟเฟต
Verified User
โพสต์: 1679
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 4

โพสต์

กาละมัง เขียน:ความแน่นอนมีแต่ในตำรา ชีวิตจริงธุรกิจมีความไม่แน่นอนสูง บ่อยครั้งผู้บริหารคาดการณ์แล้วยังไม่เป็นตามนั้น แล้วเราเป็นเพียงผู้รับข้อมูลมาอีกทีหนึ่งจะมีความแม่นยำได้เพียงใด ดังนั้นการอ้างอิงคำนวนมาก ๆย่อมพลาดได้เช่นกัน ศัพย์ที่คุ้นหูก็คือ garbage in, garbage out ละครับ
+1.22388330

:D
value trap
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
BeSmile
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1178
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 5

โพสต์

densin เขียน:แล้วความน่าจะเป็น พี่เอามาตัดสินสัดส่วน%การลงทุนหรือไม่ครับ
เช่นเสี่ยงมากก็ลง%น้อย
ใช่ครับ คุณ Densin กรณีที่เรายังไม่ทราบถึงข้อมูลที่เพียงพอ ต่อการตัดสินใจ

การแปลงเป็นตัวเลข น่าจะทำให้เราเข้าใจในสถานการณ์ นั้นดีขึ้น


แต่หัวใจก็ยังอยู่ที่การประเมินมูลค่าอยู่ดี

ยกอีกตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือเรื่อง การประมูล 3G กับหุ้นที่มีผล 3 ตัว คือ หุ้น A หุ้น D และ หุ้น T

ตอนนั้นทุกคนมั่นใจมากว่า 3G มาแน่ โอกาศเกิด คือ 90% ราคาหุ้นขึ้นมารอเลย

ตอนนั้น A กับ T น่าจะได้, D มาที่ 3

หุ้น T ที่มี Upside และ Downside สูงสุด จึงมีการซื้อ ขายมากสุด

ทุกคนที่ซื้อ มองแต่ Upside เพราะคิดว่ามีประมูลแน่ ๆ โดยไม่คำนวณ Downside

สุดท้าย ไม่มีการประมูล คนที่ซื้อ T จึงต้องเสียมากสุด

A กับ D ยังดีที่มีพื้นฐานลองรับ

(ลองเอาไปเขียน Game Theory แล้วใส่ Prob ดูก็ได้ครับ)

อะไรที่ว่าแน่ ๆ ก็ยังไม่แน่ เสมอไป เหมือนที่พี่กาละมังบอก

ดังนั้นต้องมี MOS เผื่อไว้ด้วยครับ

************************

มาต่อด้วยตอนจบ ครับ

บางครั้ง ตัวเลข อาจสื่อให้เห็นภาพไม่ชัดเจน ผมจะใช้ความน่าจะเป็นแบบ ไพ่ตีแตกนะครับ

ถามเล่น ๆครับ คนเล่นไพ่ตีแตก 2 คน คนเล่นคนที่ 1 ถือ A 4 ตัว, คนที่ 2 ถือ Q 4 ตัว ใครจะมีโอกาศชนะมากกว่ากัน ???

:D
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
ภาพประจำตัวสมาชิก
tatandchin
Verified User
โพสต์: 775
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 6

โพสต์

BeSmile เขียน:
ถามเล่น ๆครับ คนเล่นไพ่ตีแตก 2 คน คนเล่นคนที่ 1 ถือ A 4 ตัว, คนที่ 2 ถือ Q 4 ตัว ใครจะมีโอกาศชนะมากกว่ากัน ???

:D
เท่ากันครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
nam
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1434
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เห็นด้วยกับคุณ BeSmile ครับ
ผมก็ใช้แนวทางนี้ในการตัดสินใจในการลงทุนครับ (รายละเอียดผมอ่านจาก the essential buffett)
prob. ที่ใช้ในแต่ละสถานการณ์นั้น ผมปรับเปลี่ยนน้ำหนักไปเรื่อยๆตามข้อมูลพื้นฐานที่หาได้เพิ่มมากขึ้น
มันเป็นศิลป์แล้วค่อยศาสตร์ครับ....จึงต้องหมั่นฝึกควบคุมอารมณ์เวลาเห็นผลตัวเลขที่วิเคราะห์ได้ในครั้งแรก :shock:
ลองทำ sensitivity analysis ในหลายๆสถานการณ์ด้วย
ลองคุยแลกเปลี่ยนกับเซียนที่กรุณาวิจารณ์งานของเราอย่างตรงไปตรงมา (เผลอๆก็ลอกเซียนซะเลย....ไหงลงท้ายแบบนี้ไม่รู้งิ :oops: )
ตถตา
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 8

โพสต์

BeSmile เขียน: ถามเล่น ๆครับ คนเล่นไพ่ตีแตก 2 คน คนเล่นคนที่ 1 ถือ A 4 ตัว, คนที่ 2 ถือ Q 4 ตัว ใครจะมีโอกาศชนะมากกว่ากัน ???

:D

ถ้าคนที่ 1 ถือ A 4 ตัว, คนที่ 2 ถือ K 4 ตัว (เปลี่ยนจาก Q เป็น K )
จะมีโอกาสชนะเท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นผู้ได้เล่น เพราะไม่ว่าจะเปิดตัวไหนออกมา ทั้งสองคนนี้ก็ชนะอยู่ดี

แต่ถ้าคนที่ 1 ถือ A 4 ตัว, คนที่ 2 ถือ Q 4 ตัว ตามที่โจทย์ว่า
ก็ต้องตอบว่าคนแรกมีโอกาสชนะมากกว่า
เพราะคนที่สองแม้จะเป็นผู้ได้เล่น แต่ถ้าเปิด K ออกมา คนที่สองก็โดนรับประทานครับ :D
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
กาละมัง
Verified User
โพสต์: 1230
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ถ้าพูดถึงการมอง probability แบบ ไพ่ตีแตก ผมใช้เป็นประจำครับเวลาชักชวนให้เพื่อนซื้อหุ้น เช่น

หากลงทุนในหุ้น a โอกาสที่จะเสียน้อย (prob to lose is low) และหากเสียก็จำนวนน้อยด้วย (lose little money) ในทางตรงข้าม โอกาสที่จะได้สูง (prob to win is high) และหากได้ก็ได้มากด้วย (gain a lot) .....อย่างนี้คุ้มค่าความเสี่ยง สมควรลงทุนอย่างยิ่ง เหมือนถือไพ่สูง 4 ตัว แต่ผลตอบแทนไม่ใช่ 1 ต่อ 1 อย่างไพ่ตีแตก คือ สูงกว่าครับ

ผมว่าเพื่อน ๆ นักลงทุนหลายคนก็คงใช้เป็นประจำเหมือนกันนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3227
ผู้ติดตาม: 4

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 10

โพสต์

สามัญชน เขียน:
BeSmile เขียน: ถามเล่น ๆครับ คนเล่นไพ่ตีแตก 2 คน คนเล่นคนที่ 1 ถือ A 4 ตัว, คนที่ 2 ถือ Q 4 ตัว ใครจะมีโอกาศชนะมากกว่ากัน ???

:D

ถ้าคนที่ 1 ถือ A 4 ตัว, คนที่ 2 ถือ K 4 ตัว (เปลี่ยนจาก Q เป็น K )
จะมีโอกาสชนะเท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นผู้ได้เล่น เพราะไม่ว่าจะเปิดตัวไหนออกมา ทั้งสองคนนี้ก็ชนะอยู่ดี

แต่ถ้าคนที่ 1 ถือ A 4 ตัว, คนที่ 2 ถือ Q 4 ตัว ตามที่โจทย์ว่า
ก็ต้องตอบว่าคนแรกมีโอกาสชนะมากกว่า
เพราะคนที่สองแม้จะเป็นผู้ได้เล่น แต่ถ้าเปิด K ออกมา คนที่สองก็โดนรับประทานครับ :D
ผมว่าคิดตามโจทย์ A กับ Q ได้เท่ากันเหมือนกันครับ เพราะ ในกองจะเหลือตัวที่แพ้แค่ 1ตัวเหมือนกัน คือ 2 กะ K
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
เด็กใหม่ไฟแรง
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1575
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 11

โพสต์

BeSmile wrote:
ถามเล่น ๆครับ คนเล่นไพ่ตีแตก 2 คน คนเล่นคนที่ 1 ถือ A 4 ตัว, คนที่ 2 ถือ Q 4 ตัว ใครจะมีโอกาศชนะมากกว่ากัน ???
โจทย์นี้ ถ้าตอบแบบคนนอกวง คือพวกเรา ซึ่งรู้ไพ่ว่าใครถืออะไร
ก็ต้องบอกว่าโอกาสเท่ากัน

แต่หากเป็นคนเล่น ที่ไม่รู้ไพ่อีกคน
คนที่1 จะคิดว่าตัวเองมีโอกาสมากกว่า เพราะจะแพ้เฉพาะ 2
ส่วนคนที่2 คิดว่าตัวเองจะแพ้ K และ A
คนที่1 จะกล้าตีแตกมากกว่า

เหมือนการลงทุนครับ
หากรู้ข้อมูลลึกๆมากกว่า เช่นมีข้อมูลระดับผู้บริหารเลย
ก็กล้าตีแตกกว่า รู้แบบลึกๆ แต่ทั่วไปๆ แบบนักวิเคราะห์ แบบ VI
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
ภาพประจำตัวสมาชิก
BeSmile
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1178
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ขอบคุณ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ทุกท่านที่ช่วยตอบนะครับ

ตอนจุดเริ่มต้น ทั้ง 2 คนจะมีโอกาศเท่ากัน คือ โอกาศ แพ้ 4 ใบ จาก 44 เท่ากัน

คิดเป็นตัวเลข โอกาศแพ้ = 9.09% โอกาศชนะ = 90.91%


แต่พอเกมส์เริ่มเดิน คนเล่นคนที่ 1 จะได้เปรียบนิดหน่อย เพราะได้เปิดไพ่ก่อนครับ

และ Value ไพ่ของคนที่ 2 ก็ขึ้นกับหน้าไพ่ที่เปิดของคนที่ 1


จะเห็นว่า ขนาดไพ่ตีแตก ได้ A 4 ตัว โอกาศชนะยังแค่ 90% เลยครับ

ต้องอาศัยท่านปรมาจารย์ นิเวศน์ ล่ะครับ ที่เอามาประยุกต์ใช้กับหุ้น แล้วทำให้โอกาศ มีมากกว่านั้น แถมยังไม่จำกัดวงเงินที่แทงได้อีก บางครั้งถ้าเสียยังมีคืนเงินได้ด้วย :bow:

ดูจากไพ่ในมือท่านสิครับ เล่นตีแตกยังมี 5 ใบ เลย :bow: :bow: :bow:


รูปภาพ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
วรันศ์ บัฟเฟต
Verified User
โพสต์: 1679
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ผมว่าไพ่ มี ไว้เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่อง probability

แต่กับการลงทุน ผมว่าไงก็ต่างกันครับ ..............

มีหลายครั้งที confidence level ของผมอยู่ระดับ 100% ในการลงทุน คือลงหมดหน้าตักเลยครับ

ผมว่าที่สำคัญกว่า และ ตัวแปรมีมากกว่าไพ่แน่นอนคือ ทำยังไงให้ confidence level คุณขึ้นถึง 100% ได้..........................................

นั้นคือ คุณยังไม่รู้อะไร ต้องรู้อะไร ต้องไปอยู่ที่ไหน ต้องรู้จักใคร ต้องอะไร.... ต้อง.............?????????? ทำให้คุณตัดสินใจได้บน ขั้น ความเชื่อมั่น 100%

:D

รับรอง ...................... ลองมองให้กว้างขึ้นครับ

ปัจจัยมากมายเหลือเกินมากกว่าวงไพ่........................... ว่าง่ายๆ เป็น casinoสิ ครับ ยังไงก็รวยกว่าผู้เล่น :)
value trap
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
HENDRIX
Verified User
โพสต์: 123
ผู้ติดตาม: 0

Re: การตัดสินใจโดยใช้ Game Theory กับ ตีแตก Probability

โพสต์ที่ 14

โพสต์

วิธีที่ยกตัวอย่างตอนเริ่ม น่าจะเป็นวิธีที่เรียกว่า ' decision tree ' นะครับ :)
ชนะตลาดหรือเปล่าไม่สน ชนะใจตนเป็นพอ
โพสต์โพสต์