หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 2545
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 391
คาดการณ์ผลการดำเนินงานของอุตสาหกรรมประกันภัยที่จะถึงนี้ครับ
http://www.iprbthai.org/new/news/news.aspx?newsID=11172
เชื่อประกันปิดหีบ 3 กำไรพุ่ง อานิสงส์ลูกค้าแห่ใช้บริการ
นายสุพชัย เปียแก้ว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (KPI) เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีเบี้ยรับประมาณ 1,000 ล้านบาทเศษ คาดว่าถึงสิ้นปีนี้ไม่น่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 20% เทียบกับปีที่ผ่านมาเนื่องจากปรับสินค้า และช่องทางจำหน่ายให้เหมาะสมกันอยู่เพื่อรักษายอดขายและตำแหน่งทางการตลาด
อย่างไรก็ดี แม้เบี้ยจะไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่กำไรดี คาดว่าถึงสิ้นปีกำไรน่าจะสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 300 ล้านบาทเศษ เนื่องจากกำไรจากการรับประกันภัยและการลงทุนดีเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่มุ่งเน้นกำไรเป็นหลัก โดย 8 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรประมาณ 110 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีเงินลงทุนรวมประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท ขณะที่มีเงินกองทุนมากถึง 3,400 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมายสูงถึง 680% เมื่อดูจากเบี้ยรับและศักยภาพของเงินกองทุนที่มีอยู่ยังไม่สอดคล้องกันน่าจะมีเบี้ยมากกว่านี้ พยายามจะเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ เพิ่มยอดขายอยู่ แต่ต้องดูเกณฑ์ดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital : RBC) ที่จะเริ่มใช้ในปีหน้าด้วย
ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะมีกำไรจากการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2553 ประมาณ 9,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 59.86% แยกเป็นธุรกิจประกันชีวิตจะมีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 6,588 ล้านบาท และธุรกิจประกันวินาศภัยจะมีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 2,933 ล้านบาทสำหรับผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากที่คาดว่าไตรมาส 3 นี้ธุรกิจประกันภัยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 13.68% หรือมีเบี้ยรับรวมประมาณ 1.06 แสนล้านบาท โดยเป็นเบี้ยประกันชีวิตประมาณ 7.67 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 14.46% และเป็นเบี้ยประกันวินาศภัยประมาณ 2.99 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 11.74% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่องต่อจากไตรมาส 2
ดังนั้น รวม 9 เดือนแรกของปี 2553 คาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 2.03 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 12.05% เป็นกำไรจากธุรกิจประกันชีวิตประมาณ 15,324 ล้านบาท และเป็นกำไรจากธุรกิจประกันวินาศภัยประมาณ 5,069 ล้านบาท
ด้านสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันภัย คาดว่าจะมีประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.61% มีเงินสำรองประกันภัยประมาณ 1.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.01% มีสินทรัพย์ลงทุนประมาณ 1.28 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.10% คิดเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนต่อเงินสำรองประมาณ 126% สูงกว่ายอด ณ เดือน มิ.ย.53 อยู่ที่ 124.77% และคิดเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนต่อสินทรัพย์ รวมประมาณ 94.62% สูงกว่าเดือน มิ.ย.53 อยู่ที่ 92.94%
www.banmuang.co.th
http://www.iprbthai.org/new/news/news.aspx?newsID=11172
เชื่อประกันปิดหีบ 3 กำไรพุ่ง อานิสงส์ลูกค้าแห่ใช้บริการ
นายสุพชัย เปียแก้ว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (KPI) เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีเบี้ยรับประมาณ 1,000 ล้านบาทเศษ คาดว่าถึงสิ้นปีนี้ไม่น่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 20% เทียบกับปีที่ผ่านมาเนื่องจากปรับสินค้า และช่องทางจำหน่ายให้เหมาะสมกันอยู่เพื่อรักษายอดขายและตำแหน่งทางการตลาด
อย่างไรก็ดี แม้เบี้ยจะไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่กำไรดี คาดว่าถึงสิ้นปีกำไรน่าจะสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 300 ล้านบาทเศษ เนื่องจากกำไรจากการรับประกันภัยและการลงทุนดีเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่มุ่งเน้นกำไรเป็นหลัก โดย 8 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรประมาณ 110 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีเงินลงทุนรวมประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท ขณะที่มีเงินกองทุนมากถึง 3,400 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมายสูงถึง 680% เมื่อดูจากเบี้ยรับและศักยภาพของเงินกองทุนที่มีอยู่ยังไม่สอดคล้องกันน่าจะมีเบี้ยมากกว่านี้ พยายามจะเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ เพิ่มยอดขายอยู่ แต่ต้องดูเกณฑ์ดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital : RBC) ที่จะเริ่มใช้ในปีหน้าด้วย
ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะมีกำไรจากการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2553 ประมาณ 9,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 59.86% แยกเป็นธุรกิจประกันชีวิตจะมีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 6,588 ล้านบาท และธุรกิจประกันวินาศภัยจะมีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 2,933 ล้านบาทสำหรับผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากที่คาดว่าไตรมาส 3 นี้ธุรกิจประกันภัยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 13.68% หรือมีเบี้ยรับรวมประมาณ 1.06 แสนล้านบาท โดยเป็นเบี้ยประกันชีวิตประมาณ 7.67 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 14.46% และเป็นเบี้ยประกันวินาศภัยประมาณ 2.99 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 11.74% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่องต่อจากไตรมาส 2
ดังนั้น รวม 9 เดือนแรกของปี 2553 คาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 2.03 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 12.05% เป็นกำไรจากธุรกิจประกันชีวิตประมาณ 15,324 ล้านบาท และเป็นกำไรจากธุรกิจประกันวินาศภัยประมาณ 5,069 ล้านบาท
ด้านสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันภัย คาดว่าจะมีประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.61% มีเงินสำรองประกันภัยประมาณ 1.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.01% มีสินทรัพย์ลงทุนประมาณ 1.28 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.10% คิดเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนต่อเงินสำรองประมาณ 126% สูงกว่ายอด ณ เดือน มิ.ย.53 อยู่ที่ 124.77% และคิดเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนต่อสินทรัพย์ รวมประมาณ 94.62% สูงกว่าเดือน มิ.ย.53 อยู่ที่ 92.94%
www.banmuang.co.th
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 392
อาชีพนี้ ขาดแคลนอย่างหนักในเมืองไทยเลยอ่ะ10.1 นักคณิตศาสตร์ประกันภัย
- ร้อยละ 70 ของบริษัทประกันชีวิต ต้องมีนักคณิตศาสตร์ประกันภัยที่เป็นสมาชิกระดับเฟลโล
- ร้อยละ 70 ของบริษัทประกันวินาศภัย ต้องมีนักคณิตศาสตร์ประกันภัยที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด
แถมระดับเฟลโลอีกต่างหาก
ผมไม่แน่ใจว่าเทียบเท่ากับ CFA level ไหน
และ FRM เท่าไรล่ะครับ แต่ว่า งานนี้คนที่ได้ทำรวยเละแน่นอน
-
- Verified User
- โพสต์: 2606
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 393
โอโห เป็นกระทู้ที่เยี่ยมมากเลยนะครับ เนี้ย ผมเองเพิ่งมีโอกาสได้มาอ่าน
สุดยอดกระทู้จริงๆ ครับ
สุดยอดกระทู้จริงๆ ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2606
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 394
เอามาประดับไว้ เห็นกระทู้นี้เกี่ยวกับประกันภัย และ ประกันชีวิต
ธุรกิจ ประกันชีวิต กับ AEC
ประกันชีวิต จะประสบความสำเร็จ ต้องมีแก้ว 3 ประการ
1. Distribution Channel
2. Local Knowledge
3. Economic of Scales
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 396
มาอ่านอีกรอบ
ก็ยังคงมีความรู้มากมาย
แม้นเวลาผ่านไป
ประเด็นที่น่าจะย้อนรอยอดีต
1. รถยนต์ ecocar เทียบได้กับ citicar เมื่อปี 2552
2. เหตุการณ์ วิกฤติเศรษฐกิจที่มีผลต่อตลาดหลักทรัพย์ มีผลต่อหุ้นประกันภัยและประกันชีวิตอย่างไร
3. การขึ้นดอกเบี้ย
ก็ยังคงมีความรู้มากมาย
แม้นเวลาผ่านไป
ประเด็นที่น่าจะย้อนรอยอดีต
1. รถยนต์ ecocar เทียบได้กับ citicar เมื่อปี 2552
2. เหตุการณ์ วิกฤติเศรษฐกิจที่มีผลต่อตลาดหลักทรัพย์ มีผลต่อหุ้นประกันภัยและประกันชีวิตอย่างไร
3. การขึ้นดอกเบี้ย
-
- Verified User
- โพสต์: 1070
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 397
Green เขียน:[youtube]IFU9622BiHg[/youtube]
เอามาประดับไว้ เห็นกระทู้นี้เกี่ยวกับประกันภัย และ ประกันชีวิต
ธุรกิจ ประกันชีวิต กับ AEC
ประกันชีวิต จะประสบความสำเร็จ ต้องมีแก้ว 3 ประการ
1. Distribution Channel
2. Local Knowledge
3. Economic of Scales
ข้อที่สำคัญที่สุดครับ Invesment return
The One
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 399
ขอบคุณคุณ มิราเคิลที่นำกระทู้ดีๆมาให้อ่านครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 400
ความคืบหน้าของ IFRS4 ออกมาแล้วละ
ใครที่ติดตามกลุ่มประกันภัย กรุณาอ่านซัก
ข้อมูลชั้นดีจาก สมาคมประกันวินาศภัย จัดทำโดยบริษัท Ernst & Young
ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีที่มีความเชียวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ
เอกสารประกอบการอบรมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่อง สัญญาประกันภัย (IFRS4) และมาตรฐานการบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือทางการเงินสำหรับผู้บริหารระดับสูง วันที่ 18 มิถุนายน 2556 ณ โรงแรม บางกอกชฎา ถนนรัชดาภิเษก .
http://www.thaigia.com/Download/คณะกรรม ... ombine.pdf
เอกสารประกอบการอบรมเพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่องสัญญาประกันภัย (IFRS4) และมาตรฐานที่เกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงิน สำหรับผู้ปฏิบัติงาน วันที่ 19 – 20 และ 24 มิถุนายน 2556 ณ สมาคมประกันวินาศภัยไทย.
http://www.thaigia.com/Download/คณะกรรม ... ฏิบัติ.rar
ใครที่ติดตามกลุ่มประกันภัย กรุณาอ่านซัก
ข้อมูลชั้นดีจาก สมาคมประกันวินาศภัย จัดทำโดยบริษัท Ernst & Young
ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีที่มีความเชียวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ
เอกสารประกอบการอบรมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่อง สัญญาประกันภัย (IFRS4) และมาตรฐานการบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือทางการเงินสำหรับผู้บริหารระดับสูง วันที่ 18 มิถุนายน 2556 ณ โรงแรม บางกอกชฎา ถนนรัชดาภิเษก .
http://www.thaigia.com/Download/คณะกรรม ... ombine.pdf
เอกสารประกอบการอบรมเพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่องสัญญาประกันภัย (IFRS4) และมาตรฐานที่เกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงิน สำหรับผู้ปฏิบัติงาน วันที่ 19 – 20 และ 24 มิถุนายน 2556 ณ สมาคมประกันวินาศภัยไทย.
http://www.thaigia.com/Download/คณะกรรม ... ฏิบัติ.rar
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 401
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลในวันสิ้นไตรมาสที่1และ 2ของปี 2556
(ที่มา www.thaibma.or.th)
Date 1M 3M 6M 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48
29/3/2013 2.667666 2.702731 2.744597 2.735487 2.824385 2.88682 3.034205 3.178614 3.279129 3.372478 3.422182 3.454478 3.530641 3.624393 3.68686 3.773751 3.810806 3.922618 3.974598 4.009331 4.038502 4.054992 4.074177 4.095641 4.117105 4.138569 4.160033 4.182083 4.224921 4.26336 4.294278 4.30381 4.307579 4.311348 4.315116 4.318885 4.322653 4.326422 4.330191 4.333959 4.337728 4.341497 4.345265 4.349034 4.352802 4.356571 4.36034 4.364108 4.367877 4.371645 4.375414
28/6/2013 2.526129 2.536193 2.546408 2.56725 2.879703 3.009917 3.25105 3.434721 3.478078 3.605383 3.650758 3.696963 3.747486 3.898271 3.954286 4.035455 4.064618 4.19618 4.250287 4.302703 4.35527 4.421455 4.434626 4.447505 4.460383 4.473262 4.48614 4.50751 4.551396 4.608027 4.627357 4.631715 4.636074 4.640433 4.644792 4.649151 4.65351 4.657868 4.662227 4.666586 4.670945 4.675304 4.679662 4.684021 4.68838 4.692739 4.697098 4.701457 4.705815 4.710174 4.714533
SET Index
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 1,561.06
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 1,451.90
SET50 Index
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 1,024.92
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 982.99
SET100 Index
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 2,299.39
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 2,167.21
SETHD Index
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 1,266.78
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 1,173.58
SET TRI
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 8,171.30
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 7,676.71
SET 100 TRI
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 3,171.09
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 3,019.28
SET 50 TRI
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 8,065.05
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 7,815.95
อัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาด (%) (4/ ไม่รวมหลักทรัพย์จดทะเบียนต่างประเทศ
- วันที่ 23/04/2556 TRC เปลี่ยนตลาดจาก mai เป็น SET)
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 2.69
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 2.93
ข้อมูลข้างบน จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์โดยรวมก็ดี แล ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลก็ดี
มันลดลง ดังนั้นนั้น บริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัยอาจจะมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลง ซึ่งกำไรที่มากๆๆ เปิดไปดูได้มาจากส่วนของการลงทุนทั้งสองตัวนี้
(ที่มา www.thaibma.or.th)
Date 1M 3M 6M 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48
29/3/2013 2.667666 2.702731 2.744597 2.735487 2.824385 2.88682 3.034205 3.178614 3.279129 3.372478 3.422182 3.454478 3.530641 3.624393 3.68686 3.773751 3.810806 3.922618 3.974598 4.009331 4.038502 4.054992 4.074177 4.095641 4.117105 4.138569 4.160033 4.182083 4.224921 4.26336 4.294278 4.30381 4.307579 4.311348 4.315116 4.318885 4.322653 4.326422 4.330191 4.333959 4.337728 4.341497 4.345265 4.349034 4.352802 4.356571 4.36034 4.364108 4.367877 4.371645 4.375414
28/6/2013 2.526129 2.536193 2.546408 2.56725 2.879703 3.009917 3.25105 3.434721 3.478078 3.605383 3.650758 3.696963 3.747486 3.898271 3.954286 4.035455 4.064618 4.19618 4.250287 4.302703 4.35527 4.421455 4.434626 4.447505 4.460383 4.473262 4.48614 4.50751 4.551396 4.608027 4.627357 4.631715 4.636074 4.640433 4.644792 4.649151 4.65351 4.657868 4.662227 4.666586 4.670945 4.675304 4.679662 4.684021 4.68838 4.692739 4.697098 4.701457 4.705815 4.710174 4.714533
SET Index
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 1,561.06
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 1,451.90
SET50 Index
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 1,024.92
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 982.99
SET100 Index
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 2,299.39
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 2,167.21
SETHD Index
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 1,266.78
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 1,173.58
SET TRI
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 8,171.30
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 7,676.71
SET 100 TRI
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 3,171.09
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 3,019.28
SET 50 TRI
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 8,065.05
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 7,815.95
อัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาด (%) (4/ ไม่รวมหลักทรัพย์จดทะเบียนต่างประเทศ
- วันที่ 23/04/2556 TRC เปลี่ยนตลาดจาก mai เป็น SET)
สิ้นเดือน มีค 2556 ปิดที่ 2.69
สิ้นเดือน มิย 2556 ปิดที่ 2.93
ข้อมูลข้างบน จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์โดยรวมก็ดี แล ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลก็ดี
มันลดลง ดังนั้นนั้น บริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัยอาจจะมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลง ซึ่งกำไรที่มากๆๆ เปิดไปดูได้มาจากส่วนของการลงทุนทั้งสองตัวนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 402
Analysis and Valuation of Insurance Companies
December 2010
http://www8.gsb.columbia.edu/sites/ceas ... panies.pdf
ยังอ่านไม่จบเลย
อ่านแล้วจะอ้วกแตก เพราะเล่นเอางานวิจัยมายำรวมกัน
งานวิจัยที่เจาะลงไปในอุตสาหกรรมประกันภัย
แต่อย่างไงก็ตาม มีการ Valuation ของบริษัทประกันภัยไว้
ใครอ่านจบบอกด้วย
ปล
ที่ผมเจอเนื่องจาก อยู่ดีๆๆก็ลองใช้ www.google.co.th ค้นหา "valuation insurance pdf"
ก็เจอบทความอันนี้ แต่ผมก็ยังอ่านไม่จบ อยู่ดี แต่เอามาแบ่งปันให้อ่านกัน
มันง่ายกว่าของ TSI ที่นำมาสอนละกัน
อะไรที่เรียบง่าย นั้น ผิดพลาดน้อยกว่า อะไรที่มาจาก Model เนื่องจากความซับซ้อน
ยิ่งซับซ้อนเท่าไร มันจะหาจุดผิดพลาดไม่เจอง่ายๆ
December 2010
http://www8.gsb.columbia.edu/sites/ceas ... panies.pdf
ยังอ่านไม่จบเลย
อ่านแล้วจะอ้วกแตก เพราะเล่นเอางานวิจัยมายำรวมกัน
งานวิจัยที่เจาะลงไปในอุตสาหกรรมประกันภัย
แต่อย่างไงก็ตาม มีการ Valuation ของบริษัทประกันภัยไว้
ใครอ่านจบบอกด้วย
ปล
ที่ผมเจอเนื่องจาก อยู่ดีๆๆก็ลองใช้ www.google.co.th ค้นหา "valuation insurance pdf"
ก็เจอบทความอันนี้ แต่ผมก็ยังอ่านไม่จบ อยู่ดี แต่เอามาแบ่งปันให้อ่านกัน
มันง่ายกว่าของ TSI ที่นำมาสอนละกัน
อะไรที่เรียบง่าย นั้น ผิดพลาดน้อยกว่า อะไรที่มาจาก Model เนื่องจากความซับซ้อน
ยิ่งซับซ้อนเท่าไร มันจะหาจุดผิดพลาดไม่เจอง่ายๆ
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 405
จูน อินชัวรันส์ ยักษ์ใหญ่ประกันภัยมาเลเซีย เข้าเทกโอเวอร์โอสถสภาประกันภัย ถือหุ้นใหญ่แทน 49%
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557
บ.จูน อินชัวรันส์ โฮลดิ้งส์ บ.ประกันภัยขนาดใหญ่จากมาเลเซีย เข้าซื้อหุ้นของโอสถสภาประกันภัย จำนวน 49% คาดภายในเดือน ก.พ. นี้ จะมีการชำระเงินค่าหุ้นแล้วเสร็จ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าสำหรับการลงทุนครั้งนี้ได้ และมีแผนนำโอสถสภาฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 58
จากการซื้อหุ้นดังกล่าวจะทำให้ จูน อินชัวรันส์ เข้าถือหุ้นใหญ่ในโอสถสภาฯ จำนวน 49% และโอสถสภาฯจะลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 26% จากเดิมที่ถืออยู่ 57% ส่วนที่เหลืออีก 25% เป็นการถือหุ้นโดยบุคคลธรรมดา
(โพสต์ ทูเดย์/น.A11)
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557
บ.จูน อินชัวรันส์ โฮลดิ้งส์ บ.ประกันภัยขนาดใหญ่จากมาเลเซีย เข้าซื้อหุ้นของโอสถสภาประกันภัย จำนวน 49% คาดภายในเดือน ก.พ. นี้ จะมีการชำระเงินค่าหุ้นแล้วเสร็จ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าสำหรับการลงทุนครั้งนี้ได้ และมีแผนนำโอสถสภาฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 58
จากการซื้อหุ้นดังกล่าวจะทำให้ จูน อินชัวรันส์ เข้าถือหุ้นใหญ่ในโอสถสภาฯ จำนวน 49% และโอสถสภาฯจะลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 26% จากเดิมที่ถืออยู่ 57% ส่วนที่เหลืออีก 25% เป็นการถือหุ้นโดยบุคคลธรรมดา
(โพสต์ ทูเดย์/น.A11)
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
-
- Verified User
- โพสต์: 204
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 406
เพิ่มเติม จูนส์ อินชัวรันส์ นี่เจ้าของเดียวกับ Air Asia นะครับkongkiti เขียน:จูน อินชัวรันส์ ยักษ์ใหญ่ประกันภัยมาเลเซีย เข้าเทกโอเวอร์โอสถสภาประกันภัย ถือหุ้นใหญ่แทน 49%
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557
บ.จูน อินชัวรันส์ โฮลดิ้งส์ บ.ประกันภัยขนาดใหญ่จากมาเลเซีย เข้าซื้อหุ้นของโอสถสภาประกันภัย จำนวน 49% คาดภายในเดือน ก.พ. นี้ จะมีการชำระเงินค่าหุ้นแล้วเสร็จ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าสำหรับการลงทุนครั้งนี้ได้ และมีแผนนำโอสถสภาฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 58
จากการซื้อหุ้นดังกล่าวจะทำให้ จูน อินชัวรันส์ เข้าถือหุ้นใหญ่ในโอสถสภาฯ จำนวน 49% และโอสถสภาฯจะลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 26% จากเดิมที่ถืออยู่ 57% ส่วนที่เหลืออีก 25% เป็นการถือหุ้นโดยบุคคลธรรมดา
(โพสต์ ทูเดย์/น.A11)
-
- Verified User
- โพสต์: 2545
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 407
ข้อมูลนี้ใช่ไหมครับgreenman เขียน:พอดีหาข้อมูลที่เพื่อนๆช่วยเขียนเมื่อครั้งไปเรียนเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยไม่เจอ หากใครมีช่วยดึงขึ้นมาให้หน่อยครับ
ขอบคุณครับ
Credit คุณ kongkiti
http://www.google.co.th/search?q=สายที่ ... board+band
สรุปอบรม TSI หลักสูตรการวิเคราะห์หลักทรัพย์หมวดธุรกิจประกัน 15-16 มิ.ย.56
แปะไว้กันลืม
Insurance Business ธุรกิจประกันภัย
1. ในไทยแบ่ง License เป็น ประกันชีวิต, และประกันวินาศภัย เพื่อนบ้าน ขายรวมกัน
2. รับเงินก่อน จ่าย Claim ทีหลัง
3. เป็นธุรกิจกระดาษ -> ดู Probability -> ต้องใช้คณิตศาสตร์ประกันภัย คำนวณ
4. ดูอัตราดอกเบี้ย, สถิติ ต่างๆ
5. เน้นเรื่อง เงินสำรอง -> เพียงพอจ่ายผู้เอาประกัน
6. แบบประกัน คปภ. ควบคุม ออกใหม่ ยาก ใช้เวลา
7. แบบประกันให้ดูว่า ขายได้มั๊ย, ทำได้จริงมั๊ย,มีกำไรมั๊ย
8. Adverse Selection -> การ Screen ลูกค้า
9. Moral Hazard -> ลูกค้าถลุงเงินบริษัทเก่งมั๊ย เช่น ป่วยนิดเดียว แต่อยากนอนโรงพยาบาลนานๆ ให้หมอเขียนบิลให้
10. ประกันที่ดี มีการแบ่ง ซอยย่อย คัดเลือกลุ่มลูกค้า
11. ประกัน 2 แบบ ALR, non-ALR
12. non-ALR คือ non-Active Life Reserve
-> จ่ายเบี้ยคุ้มครองสั้นๆ ใน 1 ปีสามารถ Control Loss Ratio ได้
*Loss Ratio คือ Claimed หารด้วย Net Earned Premium
-> คือ Claimed เพิ่ม ก็เพิ่มเบี้ย
-> Cash Cow / Cash Generation
13. ALR คือ Active Life Reserve
-> พวกจ่ายเบี้ย แล้วคุ้มครองนานเกิน 1 ปี
-> การตั้งสำรอง ซับซ้อน
-> ดู Long Term (พวกประกันชีวิต)
14. เงินสำรอง มี 2 แบบ
14.1 Claimed Reserve คือ มี Claimed ก็บันทึกไว้-> ประกันวินาศภัย
14.2 Policy Reserve เอาเงินฝากประกันไว้ก่อน -> ประกันชีวิต
15. แบบประกันชีวิตแบบต่างๆ เยอะแยะมากมาย
16. วิธีการคิดกำไร/Valuation ของบริษัทประกันชีวิต 4 แบบ (จริงๆ มีมากกว่านี้)
16.1 หลักการเงินสำรอง -> ดูงบดุล -> คุ้มครองผู้บริโภค (แบ่งย่อยได้เป็น Thai GAAP-คปภ. และ RBC)
16.2 ตั้งสำรองเฉลี่ยๆ เฉลี่ย Earning แล้วหา PE -> US GAAP
16.3 สรรพากร (เกณฑ์ภาษี)
16.4 Appraisal Value (EV), Economic Value Added
-> AV = EV + VoNB
-> EV = ANW+VIF
*EV (Embedded Value) คิดเหมือนธุรกิจมหาวิทยาลัย
*ANW (Adjusted Net Worth) = Asset (ราคาตลาด) - Liability (คปภ.)
*VIF (Value in Force) = มูลค่าเบี้ยปีต่ออายุ
*VoNB (Value of New Business) -> คำนวณค่อนข้างซับซ้อน ถามตัวเลขจากบริษัทเอา แล้ว Monitor อัตราการเติบโตของตัวเลขนี้เอา
*ทุกอย่างคิดเป็น Present Value
สงสัยไปถามนักคณิตศาสตร์ประกันภัย เอาดีกว่าครับ ไปอบรมมาแล้ว ก็ยังงงอยู่ Assumption เยอะเกิน
17.คุณทอมมี่ บอกว่า Top Line บริษัทประกันชีวิต อย่าไปดูมาก ดูเป็น AV, EV
18. ดูจาก GDP Penetration Rate ของประกันในไทยยังโตได้อีก โดยเฉพาะ ประกันชีวิต
19. แต่ประกันในไทย ยังมีไว้เพื่อขาย คือ ต้องไปง้อลูกค้าซื้อ ไม่เหมือน Developed Country ที่ทุกคนรู้ถึงความสำคัญของประกัน เป็นตลาดของผู้ซื้อ
นโยบายสำคัญที่ คปภ. กำลัง Promote
1. Micro Insurance
2. เบี้ยประกัน นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาเที่ยวเมืองไทย
ประกันชีวิต ดูอะไรบ้าง
1. Earning Smooth มั๊ย (ดูวิธีการตั้งสำรอง)
2. Growth of VoNB
3. SWOT
4. Distribution Channel
5. Asset Liability Management
ผมแถมสรุปให้ว่า ประกันวินาศภัย ดูอะไรบ้าง
1. ผู้บริหาร, คนที่คุมการลงทุน
2. โครงสร้างต้นทุน + EoS (Economy of Scale)
3. อัตราเติบโตเบี้ยรับ (Direct Premium Written)
4. บริษัทเก่งประกันอะไร
5. ช่องทางการจำหน่าย, การเติบโตในอนาคต
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- Verified User
- โพสต์: 2545
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นประกันภัยยังไม่น่าสนใจหรือในภาวะแบบนี้
โพสต์ที่ 408
แก้ไขที่มาครับchaitorn เขียน:ข้อมูลนี้ใช่ไหมครับgreenman เขียน:พอดีหาข้อมูลที่เพื่อนๆช่วยเขียนเมื่อครั้งไปเรียนเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยไม่เจอ หากใครมีช่วยดึงขึ้นมาให้หน่อยครับ
ขอบคุณครับ
Credit คุณ kongkiti
http://www.google.co.th/search?q=สายที่ ... board+band
สรุปอบรม TSI หลักสูตรการวิเคราะห์หลักทรัพย์หมวดธุรกิจประกัน 15-16 มิ.ย.56
แปะไว้กันลืม
Insurance Business ธุรกิจประกันภัย
1. ในไทยแบ่ง License เป็น ประกันชีวิต, และประกันวินาศภัย เพื่อนบ้าน ขายรวมกัน
2. รับเงินก่อน จ่าย Claim ทีหลัง
3. เป็นธุรกิจกระดาษ -> ดู Probability -> ต้องใช้คณิตศาสตร์ประกันภัย คำนวณ
4. ดูอัตราดอกเบี้ย, สถิติ ต่างๆ
5. เน้นเรื่อง เงินสำรอง -> เพียงพอจ่ายผู้เอาประกัน
6. แบบประกัน คปภ. ควบคุม ออกใหม่ ยาก ใช้เวลา
7. แบบประกันให้ดูว่า ขายได้มั๊ย, ทำได้จริงมั๊ย,มีกำไรมั๊ย
8. Adverse Selection -> การ Screen ลูกค้า
9. Moral Hazard -> ลูกค้าถลุงเงินบริษัทเก่งมั๊ย เช่น ป่วยนิดเดียว แต่อยากนอนโรงพยาบาลนานๆ ให้หมอเขียนบิลให้
10. ประกันที่ดี มีการแบ่ง ซอยย่อย คัดเลือกลุ่มลูกค้า
11. ประกัน 2 แบบ ALR, non-ALR
12. non-ALR คือ non-Active Life Reserve
-> จ่ายเบี้ยคุ้มครองสั้นๆ ใน 1 ปีสามารถ Control Loss Ratio ได้
*Loss Ratio คือ Claimed หารด้วย Net Earned Premium
-> คือ Claimed เพิ่ม ก็เพิ่มเบี้ย
-> Cash Cow / Cash Generation
13. ALR คือ Active Life Reserve
-> พวกจ่ายเบี้ย แล้วคุ้มครองนานเกิน 1 ปี
-> การตั้งสำรอง ซับซ้อน
-> ดู Long Term (พวกประกันชีวิต)
14. เงินสำรอง มี 2 แบบ
14.1 Claimed Reserve คือ มี Claimed ก็บันทึกไว้-> ประกันวินาศภัย
14.2 Policy Reserve เอาเงินฝากประกันไว้ก่อน -> ประกันชีวิต
15. แบบประกันชีวิตแบบต่างๆ เยอะแยะมากมาย
16. วิธีการคิดกำไร/Valuation ของบริษัทประกันชีวิต 4 แบบ (จริงๆ มีมากกว่านี้)
16.1 หลักการเงินสำรอง -> ดูงบดุล -> คุ้มครองผู้บริโภค (แบ่งย่อยได้เป็น Thai GAAP-คปภ. และ RBC)
16.2 ตั้งสำรองเฉลี่ยๆ เฉลี่ย Earning แล้วหา PE -> US GAAP
16.3 สรรพากร (เกณฑ์ภาษี)
16.4 Appraisal Value (EV), Economic Value Added
-> AV = EV + VoNB
-> EV = ANW+VIF
*EV (Embedded Value) คิดเหมือนธุรกิจมหาวิทยาลัย
*ANW (Adjusted Net Worth) = Asset (ราคาตลาด) - Liability (คปภ.)
*VIF (Value in Force) = มูลค่าเบี้ยปีต่ออายุ
*VoNB (Value of New Business) -> คำนวณค่อนข้างซับซ้อน ถามตัวเลขจากบริษัทเอา แล้ว Monitor อัตราการเติบโตของตัวเลขนี้เอา
*ทุกอย่างคิดเป็น Present Value
สงสัยไปถามนักคณิตศาสตร์ประกันภัย เอาดีกว่าครับ ไปอบรมมาแล้ว ก็ยังงงอยู่ Assumption เยอะเกิน
17.คุณทอมมี่ บอกว่า Top Line บริษัทประกันชีวิต อย่าไปดูมาก ดูเป็น AV, EV
18. ดูจาก GDP Penetration Rate ของประกันในไทยยังโตได้อีก โดยเฉพาะ ประกันชีวิต
19. แต่ประกันในไทย ยังมีไว้เพื่อขาย คือ ต้องไปง้อลูกค้าซื้อ ไม่เหมือน Developed Country ที่ทุกคนรู้ถึงความสำคัญของประกัน เป็นตลาดของผู้ซื้อ
นโยบายสำคัญที่ คปภ. กำลัง Promote
1. Micro Insurance
2. เบี้ยประกัน นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาเที่ยวเมืองไทย
ประกันชีวิต ดูอะไรบ้าง
1. Earning Smooth มั๊ย (ดูวิธีการตั้งสำรอง)
2. Growth of VoNB
3. SWOT
4. Distribution Channel
5. Asset Liability Management
ผมแถมสรุปให้ว่า ประกันวินาศภัย ดูอะไรบ้าง
1. ผู้บริหาร, คนที่คุมการลงทุน
2. โครงสร้างต้นทุน + EoS (Economy of Scale)
3. อัตราเติบโตเบี้ยรับ (Direct Premium Written)
4. บริษัทเก่งประกันอะไร
5. ช่องทางการจำหน่าย, การเติบโตในอนาคต
http://kongkiti.blogspot.com/2013/06/tsi-15-16-56.html
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger