เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

ที่ต้องถาม 10-15 ปี เพราะถ้าไม่ระบุเวลา ยังไงน้ำมันหมดโลก รถยนต์ก็ต้องไม่ใช้น้ำมันอยู่แล้ว เลยต้องระบุระยะเวลาซะหน่อย

วันนี้ว่างๆเลยไปอ่านเจอค่าย Peugeot เค้าเอา Concept Car ของเค้าที่เป็น ATV ออกมาโปรโมทมากๆเลยช่วงนี้ ผมว่าหลายๆท่านคงเห็นรถรุ่นนี้นานแล้ว ผมเองก็เห็นนานแล้วเหมือนกัน เพียงแต่เพิ่งจะได้อ่านรายละเอียด เลยเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้ใช้น้ำมัน ... แต่ใช้ Fuel Cell หรือ พลังงานไฮโดรเจน นั่นเองครับผม

รถรุ่นที่ว่านี้ชื่อ "Peugeot Quark" ครับ

ในภาพจะเห็นตรงก้นของรถ เป็นถึงบรรจุไฮโดรเจนขนาด 9 ลิตร สามารถสร้างแรงดันที่ 10,150 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว(PSI)

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 2

โพสต์

http://www.auto123.com/en/info/news/pro ... 28552&pg=1

September 8, 2004
2004 Peugeot Quark Concept
by Justin Couture , Canadian Auto Press


Is the Quark a concept car or the coolest ATV to ever grace the planet? Whatever, it definitely will be the craziest vehicle to be displayed at this year's Paris motor show, concept or otherwise, when the doors open later this month.

It's not a Franco Sbarro creation, or something equally esoteric that might show up at the Tokyo auto show for instance, but rather the Quark comes from French carmaker Peugeot. The name does have a science-fiction ring to it, mind you, and is perfectly suited to this technologically advanced hydrogen fuel-cell demonstration.

It's aggressive for sure, a bit on the wild side and definitely "in-your-face" enough to capture the collective imagination of show goers, in a similar way in which Dodge stole the 2003 Detroit auto show with its outrageous V10 Viper-powered Tomahawk motorcycle. What's most important and completely alien from the Tomahawk, of course, is the Quark's eco-friendly nature.

Truly, with its minimalist urban transportation for two twist, Peugeot has blurred the boundaries of the crossover genre by splicing the DNA of an off-road ATV together with the suspension system, brakes and driveline of a sports car.

In terms of size, the 2.38 meter (93.7 in.) long Quark is shorter than the world's smallest smart fortwo, however it's much larger than a regular ATV made all the more obvious by its gargantuan 17-inch alloy wheels wrapped in custom-made Michelin rubber.

Unlike a standard all terrain vehicle, this jumbo-sized Peugeot has no intentions of taking its two riders into deep backwoods forests. It does, however, have a load-carrying capacity of 140 kg (309 lb) on top of its two person occupancy, which should be ample for bringing a few shopping bags home from the market provided you can find a place to store them in the slim, motorcycle-inspired body.

The Quark is driven much the same way you would drive a scooter or motorcycle, with controls for steering, braking and throttle actuated via handlebars, but unlike the simplistic two- and four-wheelers, steering is power-assisted.

Powering the Quark is not one or two, but four electric motors located on each wheel's hub. The motors are fed power through a complex hydrogen fuel-cell system developed by Montreal-based hybrid-specialist TM4. The benefit of electric power isn't in horsepower, with each wheel-mounted unit only peaking at 10 with continuous output only 3.4, for a peak total of 40 hp. Torque is what really moves the Quark, its engines featuring a constant surge of 74 lb-ft with a peak of 295 lb-ft, and that from zero to redline. This allows it to jump to 50 km/h from a standstill in 6.5 seconds, before topping out at 110 km/h. Not bad at all.

The body and appearance of the Quark concept has been structured around a central I-Beam chassis with a car-like double-wishbone suspension system mounted front and rear. Ground clearance is minimal, and off-roading capabilities are further restricted by road-biased springs and dampers with little travel. The additional width of the central chassis has allowed Peugeot's stylists to give the Quark a look similar to their road-going cars. Cat's eyes headlamps, which stretch back over the hood, and a massive mouth-like grille all contribute to an unmistakable identity.

Although the Quark features the latest fuel-cell technology, with that comes additional weight from the electric motors and associated complex on-board computer equipment. Fortunately its lightweight body compensates for the added poundage. This roofless and door-less featherweight tips the scales at just 425 kg (937 lbs).

Being that the Quark was designed as an inner-city alternative to a car its range was reigned in to vary between 100 and 130 km (62 to 81 miles), depending on driving style. As with any open-bodied vehicle without seatbelts, proper protection must be worn: in this case helmets, riding boots and leathers.

As logical as the Quark may seem to some, it's one hundred percent unlikely that it will ever be built. The Quark is simply Peugeot's creative way of showing the world that it is hot on the trail of hydrogen power. As for the design itself, Peugeot may adopt some styling cues for its future scooters and lightweight two-wheelers. If there's one thing to be learned from the Quark that's certain, it's that the French are not just dreaming.

Specifications:

- Body Type: ATV-style convertible
- Layout: quad-electric motor, AWD
- Engine: 40 hp, 74 lb-ft torque total output electric motors
- Brakes: disc/disc, ABS, EBD
- Seating Capacity: 2
- Payload: 140 kg (309 lbs)
- Range: 100-130 km (62-81 miles)
- Curb Weight: 425 kg (937 lbs)
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ไม่เลวเลยนะครับ ถ้าอนาคตมีการพัฒนาต่อเนื่องจริงๆ ผมว่า ... น้ำมันอาจลดบทบาทลงไปได้นะครับ :D

รูปภาพ

รูปภาพ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ลูกๆ 2 คนชอบรถคั้นนี้มาก อยากได้
janelovehoon_2
Verified User
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 5

โพสต์

99 % เลยค่ะ ที่จะไม่ใช้น้ำมันอีก

Prototype รถแบบ Hydrogen ออกมาเพียบ
โป้ง
Verified User
โพสต์: 2326
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ถ้ารถคันนี้มันถูกชนท้าย ไม่ระเบิดเหรอครับ

เพราะดูแล้ว การเกิดระเบิดน่าจะง่ายและรุนแรงมากกว่า รถที่ใช้น้ำมัน
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เป็นผมจะไม่กล้าชนลูกระเบิดเครื่อนที่คันนี้ จะอยู่ห่างๆไว้ก่อน

ปลอดภัยไปอีกแบบคับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ครรชิต ไพศาล
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4623
ผู้ติดตาม: 1

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เดี๋ยวนี้เห็นบอกว่า ใช้ แซลไฮโดรเจน ที่แปลง ไฮโดรเจน กับ ออกซิเจน
โดยทำให้เกิดปฏิกิริยาที่แผ่นธาตุ เป็นไฟฟ้าโดยตรง ไม่มีการเผาไหม้
เป็นปฏิกิริยา ย้อนกลับด้าน ที่เราเคยรู้ เคยเรียนกันมา ว่า เมื่อใส่ไฟฟ้ากระแสตรง ลงไปในน้ำ
จะเกิดการแตกตัวของ ออกซิเจน และ ไฮโดรเจน ในแต่ละขั่วไฟฟ้า
รถก็เติมแต่ ก๊าซ ไฮโดรเจน วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า
ก็ต้อง ตั้งปั๊ม ก๊าซไฮโดรเจน ให้ทั่วประเทศ

หรือ ถ้าใช้ แบตเตอรีรีแบบ ชาร์ตธรรมดาก็ได้ ผมขอเสนอวิธีนี้
ถ้าบริษัท BAT-3K ตั้งสถานีเปลี่ยน แบตเตอร์รี ทั่วประเทศ
รับเปลี่ยน เแบตเตอร์รี เหมือนเปลี่ยนถังก๊าซ น่าจะดี
รถยนต์หันมาใช้ไฟฟ้าจาก แบตเตอร์รี ชาร์ตเองที่บ้าน ก็ได้
ขับไป ขับไป ทางไกลๆ ข้ามเมือง
ไฟหมดก็เข้าสถานี BAT-3K ถอดแบตเตอร์รี
เปลี่ยนแบตเตอรรีที่ชาร์ตไฟพร้อมไว้แล้ว
ขับต่อไปได้เลย ไม่ต้องรอชาร์ตไฟ
โดยทางสถานีคิดราคาค่าบริการ ตามหน่วยประจุไฟฟ้าในแบตเตอร์รี
บริษัท รับผิดชอบเรื่องหม้อ แบตเตอร์รี หมดอายุ เหมือน PTT รับผิดชอบถังก๊าซ

ถ้าเป็นอย่างนี้น่าจะดี นะ
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
Accidental Hero
Verified User
โพสต์: 1601
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมว่า ระยะเวลาจะเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับ
1.ความคุ้มในการผลิตเป็นอุตสาหกรรม
2.ความเชื่อถือได้

ถ้าผลิตจำนวนน้อย ราคาก็จะแพง คนก็จะไม่ซื้อ
ถ้าความเชื่อถือได้ ยังไม่ได้รับการรับรอง คนจะลังเล ไม่กล้าทดลองเป็นคนแรกๆ

ส่วนพลังงานทดแทน คงมีออกมาอีกหลายรูปแบบ
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ถ้าเป็น hydrogen fuel cell อาจจะไม่ต้องเข้าปั๊มไฮโดรเจนก็ได้มังครับ พี่ครรชิต

เพราะถ้ามีระบบ revsersed charge ก็แค่เสียบไฟในบ้าน ก็จะแยกไฮโดรเจนออก
จากน้ำ ปลดปล่อย oxygen และป้อนไฮโดรเจนเข้าไปในระบบได้อีกครั้ง

ส่วน battery รถยนต์ ไม่น่าจะให้พลังงานไฟฟ้าได้ต่อเนื่องเท่ากับ fuel cell
ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 11

โพสต์

CK เขียน:ถ้าเป็น hydrogen fuel cell อาจจะไม่ต้องเข้าปั๊มไฮโดรเจนก็ได้มังครับ พี่ครรชิต

เพราะถ้ามีระบบ revsersed charge ก็แค่เสียบไฟในบ้าน ก็จะแยกไฮโดรเจนออก
จากน้ำ ปลดปล่อย oxygen และป้อนไฮโดรเจนเข้าไปในระบบได้อีกครั้ง

ส่วน battery รถยนต์ ไม่น่าจะให้พลังงานไฟฟ้าได้ต่อเนื่องเท่ากับ fuel cell
ครับ

เท่าที่ผมอ่านผ่านๆนะครับ เจ้ารถนี่เจ๋งมาก คือ มันเหมือนมือถือเลยครับ มีแบตสำรองด้วย เปลี่ยนได้ครับ ถังท้ายรถดีดออกมาได้เลยครับ แล้วเอาถังที่เต็มใส่เข้าไปแทนครับ สุดยอดจริงๆ แต่ไม่รู้ราคาว่าถัง Fuel Cell นี่ถังละเท่าไหร่นะครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
ภาพประจำตัวสมาชิก
ch_army
Verified User
โพสต์: 1352
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 12

โพสต์

สวยจัง อยากได้เหมือนกัน แต่เรื่องจะไม่ใช้น้ำมันต้องดูว่า
1. วิ่งได้นานแค่ไหน
2. วิ่งเร็วมากสุดได้เท่าไร
3. ค่ีาใช้จา่ยในการขับขี่ ค่าเชื้อเพลิงเท่าไร
4. ราคารถ
5. การซ่อมบำรุง
6. เทคโนโลยีในการผลิต
7. ความยาก-ง่ายในการผลิต
8. แหล่งพลังงานและที่จัดจำหน่ายต้องครอบคลุม
9. ขนาดของยานพาหนะต้องพอดีกับคนใช้ด้วย เป็นจานบินก็ไม่ไหว
ถ้าตอบโจทย์พวกนี้ได้หมดก็คงโอเค
http://inspirationword.blogspot.com

-กำลังใจ มีอยู่ในตัวคุณ-
-พัฒนาทัศนคติ สู่ชีวิตแห่งชัยชนะ-
ภาพประจำตัวสมาชิก
Minesweeper
Verified User
โพสต์: 472
ผู้ติดตาม: 0

เป็นไปได้มั้ย ว่ารถยนต์ในอนาคต 10-15 ปีจะไม่ได้ใช้น้ำมัน ?

โพสต์ที่ 13

โพสต์

คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ครับ และอยากให้เป็นอย่างนั้นด้วย

เรื่องความปลอดภัยผมว่าน่าจะปลอดภัยกว่านะ เท่าที่ดูจากหนัง I-Robot

มีอยู่ตอนหนึ่ง วิล สมิธ กับ นางเอก (จำไม่ได้) จะรีบเดินทางไป สำนักงานใหญ่ที่ผลิตหุ่นยนต์ แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้เสียเวลาหรือ ไม่อยากให้ตามตัวได้ก็ไม่ทราบ พี่วิล สมิธ แกเลยเปิดประตูโรงรถเก่า ข้างในมีมอเตอร์ไซค์แบบใช้น้ำมันอยู่คันหนึ่ง

นางเอกเลยถามว่า ล้อเล้นหรือเปล่า มันใช้น้ำมันใช่มั้ยเนี่ย มันอันตรายมากๆ เลยนะนั่น (แสดงว่า รถใช้น้ำมันถือเป็นเรื่องอันตรายในยุคนั้น) แต่สุดท้ายก็ยอมซ้อนท้ายพี่วิลไปโดยดี ...

อ้อ ในหนังตอนนั้นเป็นปี 2035 ครับ
8)
ล็อคหัวข้อ