ศุกร์ พ.ค. 26, 2006 1:51 am | 0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
พี่เจ๋งครับ
วิธีคิด return และ ราคาของ PTTEP ของพี่ ทำไมไม่นำ เงินปันผลมาคำนวนด้วยครับ
ถ้านำเงินปันผลมาคำนวนด้วย ราคาที่พี่จะซื้อจะแพงขึ้นด้วยใช่มั้ยครับ
หรือว่าต้องการ margin of safety มากๆจึงไม่นำมาคำนวนด้วย
แล้ว growth ของบริษัท เราจะ "เก็ง" ยังไงครับ ใช้ growth ที่ผ่านมา ลบ Risk Allowance ซัก 5% ดีมั้ยครับ
คนเรือVI โทษทีที่ตอบช้านะ
เรืองที่ไม่นำปันผลมาคิดก็ยึดตามหนังสือ
คืองี้ เค๊าสอน
1. ให้เลือกหุ้น consumer monopoly โดยมีหลัก 8 ข้อ คร่าวๆคือ roe สูงกว่า 15 % หนี้น้อย กำไรโตตลอด 10 ปีซ้อน
2. เค๊าให้เลือกซื้อตอน 4 สถานการณ์ เช่น ตลาดปรับฐาน หรือเกิด แพนนิค เซล
3. เค๊าไม่ให้ซื้อ comodity มี 8 ข้อ เช่นกำไรขึ้นๆลงๆ
4. เค๊าให้คำนวณหาราคาซื้อ โดยดู growth ย้อนหลัง เพื่อประเมิณ growth ในอนาคต เช่น ย้อนหลัง 10 ปี เฉลี่ยโต 15 % เราจะคิดว่า มันจะโตอีก 15 % หรือ 10 % เพื่อให้มี margin of safty ก็ตามใจ แต่หนังสือใช้ 15 % ถ้าคิดบนฐาน 10 ปี ส่วนที่พี่สอน มีข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี พี่ก็เลย สมมุติให้น้อยลง เท่ากันนั้นเอง
ส่วนเรือง ปันผล ก็ในหนังสือเค๊าถือว่าเป็นของแถม และพี่ก็มานั่งคิดว่า เจ้าปันผลนี่ อย่างมากก็ได้ประมาณ 5 % ในหุ้นที่กำลังโต เนืองจากต้องใช้เงินไปโตด้วย ทำให้ 5 % นี่ก็คือ ไปหักล้าง อัตราเงินเฟ้อครับ อันนี้ก็เลย ไม่ต้องนำมาคิด
เหมือนกรณี เงินเฟ้อ 5 % แล้วฝากธนาคารได้ 5 % จริงๆแล้วดูเหมือนเงินเยอะขึ้น แต่ buying power เท่าเดิมครับ
เมือ่เรารู้ว่าบริษัทจะโตเท่าไร ในอีก 10 ปีข้างหน้า เราก็จะหา eps ในอนาคตได้
และเมื่อเอา pe เฉลี่ยในอดีต ได้เท่าไรก็สมมุติว่า pe ในอนาคตเท่า pe ในอดีต ทำให้เรารู้ราคาในอนาคตได้
เมื่อรู้ราคาอนาคต ใน 10 ปีข้างหน้า ก็สามารถคำนวนหาราคาปัจจุบันได้
โดยการ discount กลับมาในผลตอบแทนที่เราต้องการ เช่น 20 % ต่อปี
ทำให้เราสามารถหาราคาซื้อในปัจจุบันได้
..............................................................................
คำถามจะรู้ได้ไงว่า การเติบโตในอดีตจะทำนายอนาคตได้
ในหนังสือใช้ ฐาน 10 ปีเติบโตอย่างต่อเนือง กราฟเป็นเส้นตรง ทางขึ้น คือโตสม่ำเสมอมา สมมุติบริษัทนึง โตสมำเสมอมา ปีละ 10 % 10 ปีซ้อนแล้วก็ให้คาดเดาว่า เค๊าจะโตต่ออีก 10 % ในอีก 10 ปีข้างหน้า
ทำไมต้องใช้ ฐาน 10 ปี เพราะว่า การแต่งบัญชีทั้งหลาย จะแต่งยาก ค่าเสื่อม ค่าใช้จ่ายที่พยายามซ่อนไว้จะหลุดออกมาให้เห็น ภายใน 10 ปี
ในหนังสือแปลกมาก คือ ใช้หลักการเดียวกันวิเคราะห์ทุกธุรกิจที่เป็น consumer mopoly ไม่เอาไปวิเคราะห์พวก commodity โดยเค๊าไม่ได้เลือกธุรกิจมาก่อน แต่เพียงอย่างเดียว ดูเหมือนเค๊าเลือกธุรกิจมา แล้วนำ ผลงาน 10 ปี มายืนยันว่า ธุรกิจนั้นๆ เป็น consumer monopoly จริงหรือไม่ เพราะบางธุรกิจ เป็น consumer monopoly แต่ผู้บริหาร ไม่สามารถทให้เกิดผลกำไรได้ ก็ไม่ถือว่าเป็น consumer monopoly สรุปคือเค๊าดู ผลงานด้วย เช่น กำไรเติบโต 10 ปีซ้อน หนี้น้อย roe สูง
เมื่อซื้อแล้ว ราคาไม่ต้องดู ราคาจะลงช่างเค๊า ให้ติดตามดูผลประกอบการว่าเป็นอย่างไร การซื้อโดยเน้นพื้นฐาน และติดตามพื้นฐานของหุ้นต่อไปโดยไม่ได้มานั่งคิดว่า ราคาขึ้น คือกำไร ราคาลงคือ ขาดทุน หมายถึงในระยะสั้นตัดทิ้งไปเลย การซื้อหุ้น แนวนี้ แล้วนั่งดูราคาจะน่าเบื่อมากเพราะราคาไม่ไปไหน เผลอๆลงด้วย
สรุปแล้วก็เป็นการคิดแบบเราเป็นเจ้าของกิจการ อย่าง pttep ที่คำนวณให้ eps โตต่อ 15 % ต่อปี ปี 2010 eps เท่ากับ 72.99 และเทรดที่ pe 15 ราคาเท่ากับ 1094.85 ถ้าเราต้องการผลตอบแทน 20 % ทบต้นทุกปี ตลอด 5 ปี เราต้องซื้อในราคา 439.99 หรือ 87.99 บาท
มันเป็นอะไรที่คิดแล้วเห็นภาพ ว่า ถ้า pttep โตไม่ถึง 15 % ราคาที่ให้ผลตอบแทนเรา 20 % จะต่ำกว่า 87.99 ครับ
โอเค เหนื่อยแล้ว ลืมซีร๊อคชี๊ดไว้สอนเสาร์ อาทิตย์นี้ด้วย
เหอๆ บาย
ลองคิดดูดิ ถ้าเราต้องการผลตอบแทน