http://dekisugi.net/archives/7638ที่จริงผมไม่ค่อยอยากแตะเรื่องนี้เท่าไร แต่ไม่ทราบว่าทำไมช่วงนี้ถึงได้มีนักลงทุนมาบ่นกับผมเรื่องขาดทุนหุ้นเป็นจำนวนมากจนผิดปกติ เลยอยากฝากมุมมองบางอย่างไว้ เผื่อว่าบางมุมอาจจะเป็นประโยชน์กับท่านนักลงทุนบ้างนะครับ
แต่ไหนแต่ไรมาเป็นที่รู้กันดีว่าตลาดหุ้นไทยมีขาใหญ่ที่เป็นขบวนการปั่นหุ้นสิงสถิตย์อยู่ คนกลุ่มนี้มีข้อได้เปรียบนักลงทุนทุกรูปแบบ ตั้งแต่สามารถบอกให้สื่อช่วยเขียนข่าวตามใจได้ มีช่องทางประจำสำหรับการปล่อยข่าวลือในห้องค้า และที่เด็ดสุดคือมีการจับมือกับผู้บริหารของหุ้นที่จะปั่นด้วย คือต่อให้เทรดหุ้นผิดพลาดเองก็ยังบอกให้บริษัทช่วยออกข่าว ออกวอแรนต์ เพิ่มทุน หรือตัดขาดทุนรายการพิเศษ เพื่อให้ตัวเองพลิกกลับมากำไรได้อีก นักลงทุนกลุ่มนี้จึงเล่มเกมที่ตัวเองมีข้อได้เปรียบนักลงทุนคนอื่นอย่างมากมาย
แต่ที่จริงผมกลับไม่ค่อยเป็นห่วงเรื่องนี้เท่าไร เพราะสมัยนี้ หุ้นที่ขบวนการพวกนี้ปั่นอยู่มักเป็นที่รู้และพูดถึงกันทั่วไปในตลาดหุ้น ถ้านักลงทุนอยากรู้ว่ามีตัวไหนบ้างก็มักหาคำตอบได้โดยง่าย รายย่อยที่เกรงกลัวภัยพวกนี้มักจะไม่เข้าไปยุ่งกับหุ้นพวกนี้กันอยู่แล้ว ส่วนรายย่อยอีกจำพวกหนึ่ง ที่หากได้ยินว่าขาใหญ่จะปั่นตัวไหนก็จะรีบเข้าไปเล่นด้วยทันที (ยิ่งมีเจ้า ข้ายิ่งชอบ) กลุ่มนี้ผมก็ไม่ห่วงเช่นกัน เพราะพวกนี้มักจะเข้าไปโดยรู้อยู่แล้วว่ามีอันตราย จึงมีการระวังตัวแจ พวกนี้ถ้าเจ็บตัวมา ผมไม่ค่อยรู้สึกว่าน่าสงสารมากเท่าไร เหมือนเวลาดูมวย เราไม่ได้สงสารนักมวยบนเวทีเวลาที่เขาโดนต่อยเพราะเรารู้ว่าเขาเลือกอาชีพของเขาเองและเขารู้ดีก่อนเลือกว่าการเป็นนักมวยจะต้องเจ็บตัว
แต่ยุคหลังๆ นี้ คนที่ขาดทุนมากๆ กลับไม่ใช่แบบที่ว่ามา แต่กลับเป็นคนที่ขาดทุนจากหุ้นที่เขาซื้อเพราะคิดว่าเป็นหุ้นพื้นฐาน คนขาดทุนหุ้นในลักษณะนี้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นแบบที่ผมรู้สึกสลดใจมากกว่าแบบดั่งเดิมมาก เพราะเป็นการขาดทุนที่มาจากความเข้าใจผิด ความหลงผิด หรือความไม่รู้ เป็นการขาดทุนที่มีต้นเหตุมาจากความศรัทธามากกว่าความโลภ คนที่มาปรับทุกข์กับผมคนหนึ่งบอกว่า เขาเพิ่งจะสิ้นเนื้อประดาตัวไปกับหุ้นตัวเดียวที่คิดว่าซื้อได้เต็มที่เพราะว่าเป็นหุ้นพื้นฐาน
ปกติแล้ว คนที่ซื้อหุ้นที่คิดว่าเป็นหุ้นปั่น มักจะซื้อแบบยั้งๆ เพราะตระหนักดีว่า มีอันตรายอะไรอยู่ แต่คนที่ซื้อหุ้นเพราะคิดว่าเป็นหุ้นพื้นฐานนั้น น่ากลัวกว่ามาก พวกเขาจะกล้าซื้อแบบทุ่มสุดตัว เพราะคิดว่ามีพื้นฐานรองรับอยู่ ถ้าซื้อแล้วลง ก็กล้าซื้อหนักขึ้นอีก เพราะเชื่อว่าหุ้นพื้นฐานดี ยิ่งตก ต้องยิ่งซื้อ ขนาดความเสียหายของคนที่ขาดทุนหุ้นพื้นฐานนั้นมักจะรุนแรงมากเป็นพิเศษ
อยากเตือนเพื่อนนักลงทุนทุกคนว่า ไม่มีหุ้นส่วนหนึ่งในตลาดหุ้นที่เรียกว่า หุ้นพื้นฐาน ซึ่งจะปลอดภัยจากภาวะฟองสบู่ หรือการสร้างราคาใดๆ หรอกครับ (จะมีก็แต่แนวการลงทุนแบบวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเท่านั้น) หุ้นทุกตัวในตลาดสามารถกลายเป็น หุ้นปั่น หรือเกิดภาวะฟองสบู่ได้ทั้งสิ้นถ้าหากมีคนสนใจหุ้นตัวนั้นมากๆ
เวลาหุ้นที่ไม่ได้มี ภาพลักษณ์ ว่าเป็นหุ้นพื้นฐานปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงในระยะเวลาอันสั้น เรามักอธิบายกันว่าเป็นเพราะมีคน ปั่น อยู่ แต่ถ้าหากเป็นหุ้นที่คนดังในเว็บหุ้นแนว พื้นฐาน เชียร์ ปรับตัวขึ้นแบบเดียวกันบ้าง เรามักอธิบายกันว่า เป็นการขึ้นเพราะ พื้นฐาน ที่ดี แต่ที่จริงแล้วผมอยากจะโต้แย้งว่าหุ้นที่ขึ้นได้มากๆ หลังจากที่มีการเชียร์กันตามเว็บหุ้นพื้นฐานนั้น ไม่ได้ขึ้นได้เพราะพื้นฐานแต่ขึ้นได้เพราะเกิดภาวะ แห่ตามกัน ของนักลงทุน แบบเดียวกับเวลาที่หุ้นเก็งกำไรปรับตัวขึ้นได้แรงเลยครับ
เหตุผลหนึ่งที่ชอบอ้างกันก็คือว่าขึ้นได้เพราะเป็นหุ้นที่ยังมีพีอีเรโชที่ต่ำมาก แต่ผมอยากจะแย้งว่า หุ้นที่มีพีอีที่ต่ำมากนั้น มีอยู่อย่างดาษดื่นตลอดเวลาในตลาดหุ้นไทย และกี่ปีกี่ปี พวกมันก็ยังมีพีอีต่ำมากอยู่อย่างนั้น ไม่เห็นว่าจะขึ้น การที่หุ้นมีพีอีต่ำมากจึงไม่ใช่เหตุผลที่หุ้นจะต้องขึ้น บ่อยครั้งที่หุ้นบางตัวมีพีอีที่ต่ำมากเป็นเพราะพวกมันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ดีอยู่ เช่น เป็นธุรกิจที่กำไรค่อนข้างเปราะบาง อุตสาหกรรมที่เป็นวัฏจักรผันผวนสูง หรืออาจเกิดจากสถานะทางการเงินที่อ่อนแอ ต่างหาก การที่พวกมันมีพีอีต่ำมาก จึงเป็นพีอีต่ำที่มีเหตุผลของมันอยู่ แต่การที่หุ้นพีอีต่ำมากขึ้นได้หลังจากที่เซียนเชียร์นั้นเป็นเพราะว่าเกิดภาวะที่นักลงทุนแห่ซื้อตามเซียนต่างหาก หุ้นพวกนี้พอมีข่าวร้ายเกิดขึ้นเมื่อไร บารมีของเซียนเอาไม่อยู่ พีอีก็จะตกกลับลงมาต่ำเหมือนเดิมใหม่ แต่ราคาหุ้นจะต่ำยิ่งกว่าเดิม เพราะว่าข่าวร้ายทำให้ E ลดลงด้วย นักลงทุนที่แห่ซื้อตามเซียนไป ก็มักจะขาดทุนเสียหายกันเป็นจำนวนมาก เพราะต้นทุนสูงกว่าเซียนมาก
ฟองสบู่ในหุ้นพื้นฐานบางทีก็ไม่ได้เกิดจากเหตุผลเรื่องพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นเอง แต่เกิดจากการศรัทธาในตัวบุคคลของผู้ที่เชียร์หุ้นตัวนั้นมากกว่า ชื่อของเซียนบางคนเป็นแบรนด์ที่ทรงพลัง แค่ข่าวรั่วออกไปว่าเข้าไปถือหุ้นตัวไหน คนจำนวนมหาศาลก็พร้อมที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นตามทันทีโดยไม่ต้องถามเหตุผล เพราะเลื่อมใสในเซียนผู้นั้นมาก แบบว่าถ้าเซียนคนนี้คิดว่าดี ยังไงก็ต้องดีแน่ๆ ไม่มีทางพลาด เก่งออกขนาดนั้น ชื่อนี้การันตี ตกลงว่าพื้นฐานดีจริงหรือเปล่ายังไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปก่อนแล้วแน่นอนเพราะเกิดจากแรงซื้อของสาวกนั่นแหละ
ถ้าใครชอบไปตามดูของเก่าจะพบว่า หุ้นหลายตัวที่ราคาเคยทะยานได้อย่างมากมายช่วงหนึ่งในอดีต เพราะมีเซียนคนนั้นคนนี้ออกมาบอกว่า จะได้โปรเจ็คใหญ่ ทำให้กำไรก้าวกระโดดเท่านั้นเท่านี้ แต่สุดท้ายแล้ว ผลประกอบการกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยนั้น มีอยู่เยอะมาก ที่กลับตาลปัตร กลายเป็นขาดทุนแถมยังเจอเพิ่มทุนอีกมหาศาลก็มีไม่ใช่น้อยๆ เลย ถ้าลองทำตัวเป็นนักสืบย้อนรอยตามไปเก็บผลงานเก่าๆ ดูจะตกกะใจว่า ที่จริงแล้ว ความถี่ที่เซียนคิดถูกนั้นน้อยพอๆ กับคนธรรมดาเลยทีเดียว แต่ก่อนที่ผลสอบจะออกมา ราคาหุ้นก็มักปรับตัวขึ้นไปได้อย่างมากมายแล้ว นั่นก็เพราะแรงศรัทธาในตัวเซียนล้วนๆ
ผมไม่ได้เป็นห่วงทุกคนที่ซื้อหุ้นตามเซียนหุ้นพื้นฐานหรือหุ้นที่กำลังเชียร์ๆ กันในเว็บหุ้นพื้นฐานหรอกครับ ที่จริงแล้วมีนักเก็งกำไรจำนวนมากที่ได้กำไรไปอย่างมากมายจากการฉกฉวยโอกาสกับหุ้นเหล่านี้ เพราะคนที่เข้าใจว่า หุ้นพื้นฐานเหล่านี้ขึ้นมาแรงเพราะเกิดสภาวะแห่ตามกันเท่านั้นเอง ส่วนของจริงจะดีอย่างที่เชียร์กันหรือไม่ยังไม่มีใครรู้ ไม่น่าห่วงหรอกครับ หรือคนที่เห็นด้วยกับเหตุผลด้านพื้นฐาน แต่ก็เข้าใจด้วยว่า ราคาที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนี้เกิดจากการแห่ตามกันของนักลงทุนไปก่อนเท่านั้น ก็ไม่น่าเป็นห่วงเช่นกัน แต่คนที่หลงผิดคิดว่าหุ้นปรับตัวขึ้นมาแรงได้เป็นเพราะว่าพื้นฐานมันดีจริงแล้วนั้น เป็นพวกที่ผมห่วงที่สุด เพราะผมพบว่า คนที่เจ็บตัวจากหุ้นพื้นฐานแล้วมาปรับทุกข์ให้ผมฟังนั้นล้วนเป็นคนที่คิดแบบนี้กันทั้งนั้น
หุ้นพื้นฐาน
-
- Verified User
- โพสต์: 381
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 1
- ^^
- Verified User
- โพสต์: 519
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 2
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ
ความศรัทธาในคน ยึดมั่นในแบรนด์ ไม่ดีเอาเสียเลย
เมื่อเทรน Lifestyle การใช้ชีวิตเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน
เราก็ไม่ควรยึดติด
หากต่อไปน้ำท่วมค่อนโลก รถยนต์ก็คงไม่ต้องใช้
ฉะนั้นคำว่าธุรกิจนี้ ยังไงก็ไม่เจ๊งแน่นอน คงใช้ไม่ได้
"เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป"
ความศรัทธาในคน ยึดมั่นในแบรนด์ ไม่ดีเอาเสียเลย
เมื่อเทรน Lifestyle การใช้ชีวิตเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน
เราก็ไม่ควรยึดติด
หากต่อไปน้ำท่วมค่อนโลก รถยนต์ก็คงไม่ต้องใช้
ฉะนั้นคำว่าธุรกิจนี้ ยังไงก็ไม่เจ๊งแน่นอน คงใช้ไม่ได้
"เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป"
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 4
ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับพวกเขาจะกล้าซื้อแบบทุ่มสุดตัว เพราะคิดว่ามีพื้นฐานรองรับอยู่ ถ้าซื้อแล้วลง ก็กล้าซื้อหนักขึ้นอีก เพราะเชื่อว่าหุ้นพื้นฐานดี ยิ่งตก ต้องยิ่งซื้อ ขนาดความเสียหายของคนที่ขาดทุนหุ้นพื้นฐานนั้นมักจะรุนแรงมากเป็นพิเศษ
ผมอ่านทั้งบทความของคุณ ไม่มีตรงไหนเลย ที่บอกว่า "หุ้นพื้นฐาน" ที่ว่า ได้มาจากการวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน
การที่ "เชื่อ" โดยใช้อารมณ์และขาดเหตุผลรองรับ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการดันทุรัง
"หุ้นพื้นฐาน" มันไม่มี อันนั้นผมเห็นด้วยครับ เช่นเดียวกับ "หุ้น VI" มันก็ไม่มีเช่นกัน
การที่จะเลือกลงทุนในกิจการใดกิจการหนึ่ง นักลงทุนควรจะศึกษาและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงให้ทันตามสภาวะเศรษฐกิจ
การที่ขาดทุนเพราะ "เชื่อ" ว่าถือหุ้นพื้นฐานแล้วจะดี ...
มันก็ไม่ต่างอะไรกับการขอหวยขอพรนั่นแหละครับ
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 5
+1akekarat เขียน: ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ
ผมอ่านทั้งบทความของคุณ ไม่มีตรงไหนเลย ที่บอกว่า "หุ้นพื้นฐาน" ที่ว่า ได้มาจากการวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน
การที่ "เชื่อ" โดยใช้อารมณ์และขาดเหตุผลรองรับ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการดันทุรัง
"หุ้นพื้นฐาน" มันไม่มี อันนั้นผมเห็นด้วยครับ เช่นเดียวกับ "หุ้น VI" มันก็ไม่มีเช่นกัน
การที่จะเลือกลงทุนในกิจการใดกิจการหนึ่ง นักลงทุนควรจะศึกษาและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงให้ทันตามสภาวะเศรษฐกิจ
การที่ขาดทุนเพราะ "เชื่อ" ว่าถือหุ้นพื้นฐานแล้วจะดี ...
มันก็ไม่ต่างอะไรกับการขอหวยขอพรนั่นแหละครับ
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 6
Paul VI เขียน: +1
- canuseeme
- Verified User
- โพสต์: 302
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 7
+2Paul VI เขียน: +1
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 9
+1 ด้วยคนครับ พี่หมอ
หุ้นพื้นฐานนั้นไม่มี มีแต่การลงทุนแบบวิเคราะำห์พื้นฐาน
หุ้นคุณค่าก็ไม่มี มีแต่การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ปัญหามันอยู่ตรงนั้นจริงๆ ครับ
อยากเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า
แต่กลับมองข้ามพื้นฐานของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
VI คืออะไร ผมว่าบางคนยังตอบไม่ได้เลยมั้งครับ
ปล. VI ไม่ใช่การซื้อหุ้นแล้วได้กำไรเยอะๆ คือ VI นะครับ
หุ้นพื้นฐานนั้นไม่มี มีแต่การลงทุนแบบวิเคราะำห์พื้นฐาน
หุ้นคุณค่าก็ไม่มี มีแต่การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ปัญหามันอยู่ตรงนั้นจริงๆ ครับ
อยากเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า
แต่กลับมองข้ามพื้นฐานของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
VI คืออะไร ผมว่าบางคนยังตอบไม่ได้เลยมั้งครับ
ปล. VI ไม่ใช่การซื้อหุ้นแล้วได้กำไรเยอะๆ คือ VI นะครับ
- Alastor
- Verified User
- โพสต์: 2590
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 13
ผมก็รู้สึกแบบนั้น ช่วงนี้ทำกำไรได้ง่ายเหลือเกิน แค่ตามกลิ่นความโลภก็หาเงินได้แล้ว ผมว่ามันง่ายจนน่ากลัว โชคดีที่ผมเริ่มลงทุนในปีที่ตลาดแย่เลยไม่รู้สึกว่าตัวเองเก่งเทพจนไม่ต้องระมัดระวังอะไรPaul VI เขียน: ผมคนนึงล่ะ ที่รู้สึกว่า นายตลาด จะอารมณ์บูดหนักๆซักวัน ช่วงใกล้ๆนี้
ยังไงก็มีสติกันให้ดีครับ
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
-
- Verified User
- โพสต์: 983
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านครับ
เริ่มนับหนึ่ง...
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 17
ผมเชื่อนะครับว่าทุกคนประสบความสำเร็จได้
แต่หลายๆ คนอยากประสบความสำเร็จโดยไม่ทำอะไร
ผมเห็นใจคนเหล่านั้นที่ล้มเหลว บาดเจ็บ ล้มลง
ผมก็เคยล้มเคยเจ็บมาก่อนผมเข้าใจดี
แต่ผมอยากให้เขาลองนึกดูให้ดีครับ
เขาล้มเหลวเพราะตัวเขาเองหรือเพราะคนอื่น
เขารู้ความผิดพลาดของตัวเองแล้วปรับปรุงหรือเอาแต่โทษคนอื่น
คุณกำลังปฎิเสธสิ่งที่ได้อ่านอยู่นี้รึเปล่า
คุณพึ่งพาตัวเองได้หรือยัง
ยังต้องให้คนอื่นเอาอาหารมาป้อนใส่ปากอยู่หรือป่าว
คนที่ทำแต่สิ่งเดิมๆ อย่าหวังว่าผลลัพธ์จะเปลี่ยนไปได้
คนเราจะเปลี่ยนชีวิตได้ต้องเปลี่ยนข้างในตัวเองให้ได้ก่อนนะครับ
เก็บความผิดพลาดไว้เป็นประสบการณ์ รับ ผิด-ชอบ ตัวเอง
ชีวิตของคุณเอง คุณไม่รับผิดชอบ แล้วจะให้ใครรับผิดชอบชีวิตคุณล่ะครับ
บางทีผมก็คิดว่าโลกมันโหดร้ายอย่างนี้แหละ
ปล.ผมว่าเว็บนี้ก็มีแต่คนเตือนซะส่วนใหญ่นะว่า อย่าซื้อตามโดยไม่วิเคราะห์
แต่อย่างว่าหล่ะ เวลาคนเราโลภมันก็มักไม่คิดถึงทางเสีย คิดจะเอาแต่ทางได้
แต่หลายๆ คนอยากประสบความสำเร็จโดยไม่ทำอะไร
ผมเห็นใจคนเหล่านั้นที่ล้มเหลว บาดเจ็บ ล้มลง
ผมก็เคยล้มเคยเจ็บมาก่อนผมเข้าใจดี
แต่ผมอยากให้เขาลองนึกดูให้ดีครับ
เขาล้มเหลวเพราะตัวเขาเองหรือเพราะคนอื่น
เขารู้ความผิดพลาดของตัวเองแล้วปรับปรุงหรือเอาแต่โทษคนอื่น
คุณกำลังปฎิเสธสิ่งที่ได้อ่านอยู่นี้รึเปล่า
คุณพึ่งพาตัวเองได้หรือยัง
ยังต้องให้คนอื่นเอาอาหารมาป้อนใส่ปากอยู่หรือป่าว
คนที่ทำแต่สิ่งเดิมๆ อย่าหวังว่าผลลัพธ์จะเปลี่ยนไปได้
คนเราจะเปลี่ยนชีวิตได้ต้องเปลี่ยนข้างในตัวเองให้ได้ก่อนนะครับ
เก็บความผิดพลาดไว้เป็นประสบการณ์ รับ ผิด-ชอบ ตัวเอง
ชีวิตของคุณเอง คุณไม่รับผิดชอบ แล้วจะให้ใครรับผิดชอบชีวิตคุณล่ะครับ
บางทีผมก็คิดว่าโลกมันโหดร้ายอย่างนี้แหละ
ปล.ผมว่าเว็บนี้ก็มีแต่คนเตือนซะส่วนใหญ่นะว่า อย่าซื้อตามโดยไม่วิเคราะห์
แต่อย่างว่าหล่ะ เวลาคนเราโลภมันก็มักไม่คิดถึงทางเสีย คิดจะเอาแต่ทางได้
-
- Verified User
- โพสต์: 1165
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 18
พี่ฉัตรชัยครับผมชอบนะครับการ post แบบสวนกระแสอย่างมีเหตุผลเพราะจะทำให้คนหยุดคิดได้ว่าของทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน..พื้นฐานทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นและเลวลงได้เสมอ..ทุกวันนี้ก็หาคนที่เสียสละจริงๆได้น้อยอยู่แล้ว..ทำแล้วได้บุญมากมาย..ผมว่าไม่ได้มีแค่ผมยังมีเพื่อนพี่น้องท่านอื่นที่เค้าสนับสนุน
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 20
หาก หลงผิดคิดว่า คงต้องย้อนมาดูตัวเองแล้วครับ ว่าทำไมจึง "หลงผิดคิดว่า"แต่คนที่หลงผิดคิดว่าหุ้นปรับตัวขึ้นมาแรงได้เป็นเพราะว่าพื้นฐานมันดีจริงแล้วนั้น เป็นพวกที่ผมห่วงที่สุด เพราะผมพบว่า คนที่เจ็บตัวจากหุ้นพื้นฐานแล้วมาปรับทุกข์ให้ผมฟังนั้นล้วนเป็นคนที่คิดแบบนี้กันทั้งนั้น
แสดงว่าเรายังไม่เข้าใจธุรกิจที่จะซื้อมากพอ ใช่ไหม หรือข้อมูลข่าวสารที่ได้รับมามาจาก "ฟังเขาเล่ามาว่า" โดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือเปล่า หากเฃ้าใจธุรกิจที่จะซื้ออย่างแท้จริง วิเคราะห์ด้วยตัวเอง ประเมิณมูลค่าด้วยตัวเอง ไม่ควรที่จะหลงผิดคิดว่า ได้นะครับ
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 21
มาคิดอีกมุมนะครับ เวลาซื้อตามเซียนมีกำไรยิ้มแป้น ขาดทุนมาด่าเซียนอีกฟองสบู่ในหุ้นพื้นฐานบางทีก็ไม่ได้เกิดจากเหตุผลเรื่องพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นเอง แต่เกิดจากการศรัทธาในตัวบุคคลของผู้ที่เชียร์หุ้นตัวนั้นมากกว่า ชื่อของเซียนบางคนเป็นแบรนด์ที่ทรงพลัง แค่ข่าวรั่วออกไปว่าเข้าไปถือหุ้นตัวไหน คนจำนวนมหาศาลก็พร้อมที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นตามทันทีโดยไม่ต้องถามเหตุผล
โดยที่ไม่ได้มองตัวเองเลยว่าได้วิเคราะ์หุ้นตัวนั้นมากน้อยแค่ไหน เป็นอย่างนี้แล้วจะโทษใครได้
มาดูมุมของเซียนบ้าง บางครั้งบางคนไม่ค่อยอยากจะบอกว่าเขาถือตัวไหน พอเขาไม่บอกก็คะยั้นคะยอให้บอก และ หากเขาบอก ก่อนซื้อตามก็ควรวิคราะห์ด้วยตัวเอง ก่อนเห็นจริงตามเขาไหม
ราคาซื้อได้ไหมแพงขึ้นมาขนาดไหนแล้วมี MOS เหลือมากแค่ไหน
แต่เปล่าเลย คนที่ขาดทุนเพราะซื้อตามเซียน แล้วบอกว่าซื้อหุ้นพื้นฐานด พอถามว่าหุ้นที่ซื้อพื้นฐานดีอย่างไรถามลึกๆ กลับตอบไม่ได้ จริงๆแล้วเขาก็แค่นักเก็งกำไรคนนึงเท่านั้นเอง ที่พยายามทำตัวให้เหมือน คนเล่นหุ้นพื้นฐาน ไม่คิดจะทำงานรอคนป้อนข้าวให้ พอขาดทุนก็โทษคนอื่น ไม่หันมาดูตัวเอง ไม่พยายามเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง บางครั้งเพียงอ่าน 56-1 ยังบอกว่าเสียเวลาเลย มาคิดดูจริงๆแล้วคนพวกนี้ไม่น่าสงสารเท่าไรครับ
อาจแรงไปหน่อย แต่เป็นความเป้นส่วนตัวนะครับ
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 22
[quote="chatchai"]อ่านบทความของคุณสุมาอี้แล้ว
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 24
ความรู้สึกคล้าย ๆกับตอนก่อนฟองสบู่แตก
คนส่วนใหญ่ ....คิดว่าสามารถรวยได้ง่าย ๆจากหุ้น ซื้อตัวไหนก็กำไร
คนส่วนใหญ่ ....มองอนาคตสดใส ข่าวดีท่วมตลาด
คนส่วนใหญ่ .....มั่นใจเกิน 100% กระทิงมาแน่
คนส่วนใหญ่ ..... ฟังคำเตือนเป็นลมผ่านหู
และก็เป็นคนส่วนใหญ่ .....ที่จะเจ็บตัว เมื่อตลาดเกิด correction ครั้งใหญ่
และแล้วก็จะมี Season Change อีกครั้ง ......
คนส่วนใหญ่ ....คิดว่าสามารถรวยได้ง่าย ๆจากหุ้น ซื้อตัวไหนก็กำไร
คนส่วนใหญ่ ....มองอนาคตสดใส ข่าวดีท่วมตลาด
คนส่วนใหญ่ .....มั่นใจเกิน 100% กระทิงมาแน่
คนส่วนใหญ่ ..... ฟังคำเตือนเป็นลมผ่านหู
และก็เป็นคนส่วนใหญ่ .....ที่จะเจ็บตัว เมื่อตลาดเกิด correction ครั้งใหญ่
และแล้วก็จะมี Season Change อีกครั้ง ......
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 25
ที่ผ่านมาแนว VI ยังไม่เป็นกระแสนิยม พูดถึงหุ้นรายตัว ราคาก็ไม่ได้ขยับขึ้น ปริมาณซื้อขายกระฉูดเหมือนปัจจุบันนี้
ช่วงหลังเมื่อมีกระทู้เซียนเกิดขึ้น กระแสนิยมเว็บก็มากขึ้น แสดงถึงมีความนิยม มีปริมาณเงินพร้อมจะเข้าซื้อหุ้นมากขึ้น ซึ่งชักนำจ้าวทั้งหลายเข้ามาทำราคา อาศัย story ที่เซียนโพสต์ ( เซียนเชียร์ตัวไหน จ้าวก็เข้าทรงตัวนั้น เหล่าผู้ศรัทธาก็เห็นเป็นอิทธิฤทธิ์ของเซียน แต่จริงๆ เกิดจากจ้าว)
ถ้าทำใจเป็นกลางแล้วดูปริมาณซื้อขายที่เปลี่ยนจากเดิม ใครดูก็น่าจะดูออกนะ
คติจ้าว : ที่ไหนที่รายย่อยพร้อมซื้อ ที่นั่นมีเรา
ช่วงหลังเมื่อมีกระทู้เซียนเกิดขึ้น กระแสนิยมเว็บก็มากขึ้น แสดงถึงมีความนิยม มีปริมาณเงินพร้อมจะเข้าซื้อหุ้นมากขึ้น ซึ่งชักนำจ้าวทั้งหลายเข้ามาทำราคา อาศัย story ที่เซียนโพสต์ ( เซียนเชียร์ตัวไหน จ้าวก็เข้าทรงตัวนั้น เหล่าผู้ศรัทธาก็เห็นเป็นอิทธิฤทธิ์ของเซียน แต่จริงๆ เกิดจากจ้าว)
ถ้าทำใจเป็นกลางแล้วดูปริมาณซื้อขายที่เปลี่ยนจากเดิม ใครดูก็น่าจะดูออกนะ
คติจ้าว : ที่ไหนที่รายย่อยพร้อมซื้อ ที่นั่นมีเรา
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
- VSนักลงทุนอริยะ
- Verified User
- โพสต์: 349
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 26
ขอร่วมวงความคิดด้วยนะครับ
บางคนอยากเป็นหมอ แต่บางคนอยากเป็นนักบิน บางคนชอบสีเขียว แต่บางชอบสีม่วง
ในดำมีขาวอยู่น้อยมาก และในขาวก็มีดำอยู่น้อยเช่นกัน
บางคนว่า จิ้นซี คือ ทรราช แต่บางคนว่าคือ มหาราช
มุมมองในเรื่องเดียวกัน มองแตกต่างกัน
ใครมองเหมือนเราจึงถูก (ใจ) ต่างจากเราจึงถูก (ดูถูก)
แต่คนนั้น ๆ ก็เปลี่ยนมุมมองในเรื่องเดียวกันได้ เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป
ถ้าคนนั้นเปลี่ยนไปตามใคร ใครนั้นก็จะถูก(ใจและต้อง) ทั้งหมด และในทุกเรื่อง
และถ้าวันหนึ่งคนนั้น ๆ ก็เปลี่ยนไปอีกในมุมมองเรื่องเดียวกันกับอีกใครคนใหม่คนหนึ่ง ใครคนเก่านั้นก็จะดูไม่น่านับถือและต้อยต่ำกว่าตนเอง (ที่พัฒนาแล้วไปอีกขั้น) อีกต่อไป
ไม่มีใครสามารถตัดสินใครได้
เพราะตนเองยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเลย
ซึ่งเป็นกฏธรรมชาติอยู่แล้ว
การเรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เรียนรู้จากความผิดพลาด และ เรียนรู้จากความสำเร็จ พร้อมเรียนรู้จากความไม่ผิดพลาดและไม่สำเร็จ
จงอย่าล้มเหลวในความล้มเหลว จงสำเร็จในความล้มเหลว และอย่อหยิ่งยโสและยึดติดในความสำเร็จ
เวลาจะมีประโยชน์อย่างมหาศาลกับคนที่เรียนรู้ความแตกต่าง เพราะสิ่งนี้คือความสวยงามของธรรมชาติ
ระยะจึงเป็นเพื่อนกับผู้เรียนรู้ แต่เป็นศัตรูกับผู้ไม่เรียนรู้
ผิดพลาดเถอะครับ เป็นเรื่องที่ดี ถ้ามี 2 ปัจจัย
1. ตราบใดก็ตามที่เราได้เรียนรู้แก่นของมันจริง ๆ
2. ถ้าเรายังมีเวลาอยู่
เพราะต่อไป โลกจะแบ่งคนเป็น 2 กลุ่มคือ
ผู้เรียนรู้และผู้ไม่เรียนรู้
และภายในโลกของผู้เรียนรู้ จะสำเร็จในโลกตนเองได้อย่างแตกต่างเหนือผู้เรียนรู้คนอื่น ถ้า เค้ารู้จัก 2 ประการครับ
"เลียนรู้และเรียนรู้"
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
www.ceoken.com
บางคนอยากเป็นหมอ แต่บางคนอยากเป็นนักบิน บางคนชอบสีเขียว แต่บางชอบสีม่วง
ในดำมีขาวอยู่น้อยมาก และในขาวก็มีดำอยู่น้อยเช่นกัน
บางคนว่า จิ้นซี คือ ทรราช แต่บางคนว่าคือ มหาราช
มุมมองในเรื่องเดียวกัน มองแตกต่างกัน
ใครมองเหมือนเราจึงถูก (ใจ) ต่างจากเราจึงถูก (ดูถูก)
แต่คนนั้น ๆ ก็เปลี่ยนมุมมองในเรื่องเดียวกันได้ เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป
ถ้าคนนั้นเปลี่ยนไปตามใคร ใครนั้นก็จะถูก(ใจและต้อง) ทั้งหมด และในทุกเรื่อง
และถ้าวันหนึ่งคนนั้น ๆ ก็เปลี่ยนไปอีกในมุมมองเรื่องเดียวกันกับอีกใครคนใหม่คนหนึ่ง ใครคนเก่านั้นก็จะดูไม่น่านับถือและต้อยต่ำกว่าตนเอง (ที่พัฒนาแล้วไปอีกขั้น) อีกต่อไป
ไม่มีใครสามารถตัดสินใครได้
เพราะตนเองยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเลย
ซึ่งเป็นกฏธรรมชาติอยู่แล้ว
การเรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เรียนรู้จากความผิดพลาด และ เรียนรู้จากความสำเร็จ พร้อมเรียนรู้จากความไม่ผิดพลาดและไม่สำเร็จ
จงอย่าล้มเหลวในความล้มเหลว จงสำเร็จในความล้มเหลว และอย่อหยิ่งยโสและยึดติดในความสำเร็จ
เวลาจะมีประโยชน์อย่างมหาศาลกับคนที่เรียนรู้ความแตกต่าง เพราะสิ่งนี้คือความสวยงามของธรรมชาติ
ระยะจึงเป็นเพื่อนกับผู้เรียนรู้ แต่เป็นศัตรูกับผู้ไม่เรียนรู้
ผิดพลาดเถอะครับ เป็นเรื่องที่ดี ถ้ามี 2 ปัจจัย
1. ตราบใดก็ตามที่เราได้เรียนรู้แก่นของมันจริง ๆ
2. ถ้าเรายังมีเวลาอยู่
เพราะต่อไป โลกจะแบ่งคนเป็น 2 กลุ่มคือ
ผู้เรียนรู้และผู้ไม่เรียนรู้
และภายในโลกของผู้เรียนรู้ จะสำเร็จในโลกตนเองได้อย่างแตกต่างเหนือผู้เรียนรู้คนอื่น ถ้า เค้ารู้จัก 2 ประการครับ
"เลียนรู้และเรียนรู้"
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
www.ceoken.com
-
- Verified User
- โพสต์: 464
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นพื้นฐาน
โพสต์ที่ 28
[quote="kensorat"]ขอร่วมวงความคิดด้วยนะครับ
บางคนอยากเป็นหมอ แต่บางคนอยากเป็นนักบิน บางคนชอบสีเขียว แต่บางชอบสีม่วง
ในดำมีขาวอยู่น้อยมาก และในขาวก็มีดำอยู่น้อยเช่นกัน
บางคนว่า จิ้นซี คือ ทรราช แต่บางคนว่าคือ มหาราช
มุมมองในเรื่องเดียวกัน มองแตกต่างกัน
ใครมองเหมือนเราจึงถูก (ใจ) ต่างจากเราจึงถูก (ดูถูก)
แต่คนนั้น ๆ ก็เปลี่ยนมุมมองในเรื่องเดียวกันได้ เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป
ถ้าคนนั้นเปลี่ยนไปตามใคร ใครนั้นก็จะถูก(ใจและต้อง) ทั้งหมด และในทุกเรื่อง
และถ้าวันหนึ่งคนนั้น ๆ ก็เปลี่ยนไปอีกในมุมมองเรื่องเดียวกันกับอีกใครคนใหม่คนหนึ่ง ใครคนเก่านั้นก็จะดูไม่น่านับถือและต้อยต่ำกว่าตนเอง (ที่พัฒนาแล้วไปอีกขั้น) อีกต่อไป
ไม่มีใครสามารถตัดสินใครได้
เพราะตนเองยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเลย
ซึ่งเป็นกฏธรรมชาติอยู่แล้ว
การเรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เรียนรู้จากความผิดพลาด และ เรียนรู้จากความสำเร็จ พร้อมเรียนรู้จากความไม่ผิดพลาดและไม่สำเร็จ
จงอย่าล้มเหลวในความล้มเหลว จงสำเร็จในความล้มเหลว และอย่อหยิ่งยโสและยึดติดในความสำเร็จ
เวลาจะมีประโยชน์อย่างมหาศาลกับคนที่เรียนรู้ความแตกต่าง เพราะสิ่งนี้คือความสวยงามของธรรมชาติ
ระยะจึงเป็นเพื่อนกับผู้เรียนรู้ แต่เป็นศัตรูกับผู้ไม่เรียนรู้
ผิดพลาดเถอะครับ เป็นเรื่องที่ดี ถ้ามี 2 ปัจจัย
1. ตราบใดก็ตามที่เราได้เรียนรู้แก่นของมันจริง ๆ
2. ถ้าเรายังมีเวลาอยู่
เพราะต่อไป โลกจะแบ่งคนเป็น 2 กลุ่มคือ
ผู้เรียนรู้และผู้ไม่เรียนรู้
และภายในโลกของผู้เรียนรู้ จะสำเร็จในโลกตนเองได้อย่างแตกต่างเหนือผู้เรียนรู้คนอื่น
บางคนอยากเป็นหมอ แต่บางคนอยากเป็นนักบิน บางคนชอบสีเขียว แต่บางชอบสีม่วง
ในดำมีขาวอยู่น้อยมาก และในขาวก็มีดำอยู่น้อยเช่นกัน
บางคนว่า จิ้นซี คือ ทรราช แต่บางคนว่าคือ มหาราช
มุมมองในเรื่องเดียวกัน มองแตกต่างกัน
ใครมองเหมือนเราจึงถูก (ใจ) ต่างจากเราจึงถูก (ดูถูก)
แต่คนนั้น ๆ ก็เปลี่ยนมุมมองในเรื่องเดียวกันได้ เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป
ถ้าคนนั้นเปลี่ยนไปตามใคร ใครนั้นก็จะถูก(ใจและต้อง) ทั้งหมด และในทุกเรื่อง
และถ้าวันหนึ่งคนนั้น ๆ ก็เปลี่ยนไปอีกในมุมมองเรื่องเดียวกันกับอีกใครคนใหม่คนหนึ่ง ใครคนเก่านั้นก็จะดูไม่น่านับถือและต้อยต่ำกว่าตนเอง (ที่พัฒนาแล้วไปอีกขั้น) อีกต่อไป
ไม่มีใครสามารถตัดสินใครได้
เพราะตนเองยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเลย
ซึ่งเป็นกฏธรรมชาติอยู่แล้ว
การเรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เรียนรู้จากความผิดพลาด และ เรียนรู้จากความสำเร็จ พร้อมเรียนรู้จากความไม่ผิดพลาดและไม่สำเร็จ
จงอย่าล้มเหลวในความล้มเหลว จงสำเร็จในความล้มเหลว และอย่อหยิ่งยโสและยึดติดในความสำเร็จ
เวลาจะมีประโยชน์อย่างมหาศาลกับคนที่เรียนรู้ความแตกต่าง เพราะสิ่งนี้คือความสวยงามของธรรมชาติ
ระยะจึงเป็นเพื่อนกับผู้เรียนรู้ แต่เป็นศัตรูกับผู้ไม่เรียนรู้
ผิดพลาดเถอะครับ เป็นเรื่องที่ดี ถ้ามี 2 ปัจจัย
1. ตราบใดก็ตามที่เราได้เรียนรู้แก่นของมันจริง ๆ
2. ถ้าเรายังมีเวลาอยู่
เพราะต่อไป โลกจะแบ่งคนเป็น 2 กลุ่มคือ
ผู้เรียนรู้และผู้ไม่เรียนรู้
และภายในโลกของผู้เรียนรู้ จะสำเร็จในโลกตนเองได้อย่างแตกต่างเหนือผู้เรียนรู้คนอื่น