นักเล่นหุ้นแนว vi เชื่อหรือไม่ว่า สุมาอี้เผ่นทันทีที่เห็น..

[pavilion]

อ่านสามก๊กแล้วได้แง่คิดครับ

[ลูกจ้างชั้นดีต้องมีหนี้]

ผมจำไม่ได้ว่าตรงนี้หลอก้วนจงแต่งขึ้นหรือเรื่องจริง แต่ว่ามีคนในสามก๊กใช้กลยุทธแนวนี้อยู่สองคนจริงๆ ครับ คนหนึ่งคือ

เตียวหุยที่สะพานเตียงปันเกี้ยว ทุกๆ คนคงรู้จักนักรบคนนี้ดี ผมว่าเค้าน่ารักดี ฮ่าๆ ยืนจังก้าที่สะพานร้องตะโกนคนเดียว อั๊วนี่แหละเตียวหุย ใครกล้าก็เข้ามา เท่ห์จริงๆ คับ

อีกคนก็จู่ล่ง ผมจำไม่ได้นัก จู่ล่งถูกโจโฉต้อนไปที่เมืองๆ หนึ่ง ระหว่างที่ยกไปตีอะไรน๊า อ้วนเสียหรือป่าว เอ แหะ ตอนนั้นเล่าปี่และขงเบ้งมาช่วยไม่ทัน จู่ล่งบอกให้เปิดประตูเมืองทั้งหมด แล้วตัวเองออกไปยืนหน้าประตูเมืองคนเดียว ทหารโจโฉไม่กล้าเข้าไปรบด้วย จำต้องถอยกลับไป ตอนขงเบ้งมาเจอ ถึงกับชมจู่ล่งไม่หยุด ว่านี่แหละ คนที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊

ผมว่าคนที่จะใช้อุบายนี้สำเร็จต้องเป็นคนที่ดังจริงๆ อย่าง ขงเบ้ง จู่ล่ง เตียวหุย ยุคนั้น คงเหมือนเทพเจ้าสงคราม ถ้าเป็นตาสีตาสา คงไม่เหลือไปแล้วล่ะครับ

คงเหมือนคำพูดของคนยุคนี้มั้งครับ ถ้าผมบอกว่าอเมริกา จะขึ้นดอกเบี้ย 2% คงไม่มีคนสนใจ แถมโดนด่าโดนตื๊บอีกต่างหาก แต่ถ้าเป็นปู่อลัน กรีนแสปน มาบอก หุ้นคงตกเป็นร้อยจุด อิอิ

[คลายเครียด]

ขอโทษคุณโรเจอร์ด้วย
ที่เอาวีรบุรุษที่ชื่นชม มาล้อเล่น

สำหรับใครที่อยากชม
สามก๊กตอนขงเบ้งดีดพิณโบราณ
แบบเป็นหนังแผ่น
เชิญดูได้ที่กระทู้นี้ครับ

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 83499.html

[ปรัชญา]

ตอนนี้มีขงเบ้งก็ดีซิครับ
จะได้จ้างมาดีดหุ้น
แทนดีดพิณ :lovl: :lovl: :lovl:

[VIB007]

แสดงสุมาอี้มั่นใจว่า ยังไงเสียก็ต้องชนะขงเบ้งได้วันยังค่ำ ทำไมต้องรีบเสี่ยง
ตอนนี้ เอาแบบช้า แต่ชัวร์ดีกว่า

เหมือนคุณวิบูลย์ไม่ยอมขาย PTTEP ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีโอกาสลงไป 320 สูง
แต่มั่นใจว่า ยังไงเสียก็ต้องทำ higher high ทำไมต้องเสี่ยงขายด้วย

สรุปได้ว่า สุมาอี้เป็น VI ขนานแท้

ขอใช้สิทธิพาดพิงครับ

พอดีไม่ค่อยเชี่ยว"สามก๊ก"
เพราะอ่านไปแค่รอบเดียว
จำอะไรไม่ค่อยได้
รู้แต่ว่า มนุษย์ชอบทำสงคราม
ทั้งๆที่จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ รวบรวมแผ่นดินจีน
แต่แล้วก็ใช้กองทัพต่อสู้กันหลายสิบปี
ผู้คนเดือดร้อนแสนสาหัส
ทั้งโจโฉ ซุนกวน และเล่าปี่
ไม่มีใครทำประเทศจีนให้สงบได้สักคน

จะว่าไปจีนก็มีสงครามตลอด
จนถึงเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดประเทศได้แล้ว
ผู้คนถึงมีสันติได้

ส่วนเรื่องสุมาอี้เห็นขงเบ้งดีดพิณแล้วเผ่นนั้น
ถ้าเป็นผมก็คงไม่กลับทันที
คงรอจนกว่าเมื่อไหร่จะดีดพิณจบ
เพราะท่าทางจะไพเราะดี
จากนั้นก็ส่งคนไปเข้าเมืองเจรจาสงบศึก
จะได้ไม่ต้องไปเข่นฆ่ากันให้เมื่อยตุ้ม

อ้าว แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่เทพหว่า???

[BerZerK]

อืม....ถึงเป็นนิยายก็ต้องคิดตามครับ

เพราะถึงจะเป็นฉบับประวัติศาสตร์ ก็เป็นเรื่องที่จริงไม่100% หรอกครับ

ใครจะอยู่ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงได้ทุกครั้งไป

และสามารถเขียนบรรยายให้เป็นกลางและมีรายละเอียดครบถ้วนไม่

ที่แน่ ๆ ผู้ชนะเป็นคนเขียนประวัติศาสตร์ครับ

และ นักโบราณคดี และนักประวัติศาสตร์ (ที่เป็นกลาง) จะเป็นคนพิสูจน์ความจริง

.

[ROGER]

ผมไม่ได้โกธรเฮีย kk หรอกครับ แต่การเอาสิ่งผิดๆๆมาพูดกันผิดๆๆ และคิดแบบผิดๆๆ ยิ่งทำให้มันผิดเข้าไปใหญ่

หลอกว้านจงเกิดในยุคจูหยวนจาง การเขียนนิยายอิงประวัติศาสตร์นั้นเขาเขียนชีวิตของจูหยวนจางออกมาโดยใช้โจโฉเป็นตัวถ่ายทอด โจโฉเลยดูออกมาเหี้ยมเกรียมอย่างกับถอดแบบจูหยวนจางมาเลย ทั้งที่จริงๆๆแล้วโจโฉไม่ได้โหดเหี้ยมขนาดนั้น

มีอีกหลายตอนที่แสดงให้เห็นว่ามันเหลือเชื่อ เช่นตอนโจโฉแตกทัพหนีกระเซ่อกระเซิง ไปเจอกวนอู เตียวหุย แต่ละสถานที่นั้นต้องใช้เวลาเดินทางหลายๆๆวันนะครับ แต่ดูพี่แกแต่งสิ หนีหัวซุกหัวซุนไปเจอกวนอู ไปเจอเตียวหุยในชั่วเวลาไม่นานนัก โจโฉต้องแปลงร่างเป็นแบทแมน พร้อมขับรถคู่ชีพไปเท่านั้น จึงจะไปทันเวลาที่พี่หลอแก่เขียน

ตอนโจโฉแตกทัพเรือนี่ไม่มีในฉบับประวัติศาสตร์นะครับ

ถ้าคุณพิจารณาอย่างเป็นกลาง คุณจะรังเกียจเพื่อนหรือเจ้านายอย่าง เล่าปี่ และ ขงเบ้งเป็นอันมาก ตอนเล่าปี่ไปเชิญขงเบ้งที่กระท่อม 3 ครั้งนั้น ปะแรกขงเบ้งก็เสนอแผนชั่วให้ยึดเมืองของคนแซ่เล่า ซึ่งเป็นแซ่เดียวกับเล่าปี่เลย ซึ่งเล่าปี่ก็เห็นด้วย 2 คนนี้มันเลวตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้ว เค้าเรียกว่าโคตรเลวกับโคตรชั่วมาเจอกัน

ตั้งแต่ที่เล่าปี่ตั้งตัวเป็นฮ่องเต้ ไม่เคยคิดจะทำมาหากินเพื่อราษฏรเลย วันๆๆมั่วแต่หลงใหล่ในการเสพกาม ลูกเมียยังไม่ใคร่สนใจเลย ผิดกับโจโฉที่ขยันทำมาหากิน เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง ขงเบ้งนี่ก็จะรบกับชาวป่าอยู่ท่าเดียว เก่งแต่รบกับพวกชาวป่า ไม่เคยรบชนะก๊กใหญ่ๆๆเลย ไปพิจารณาให้ละเอียดนะครับ

[โป้ง]

เหตุที่รบกัน กว่าจะรวบรวมแผ่นดินได้ เพราะฉลาดแต่ไม่เฉลียว ฆ่ากันไปฆ่ากันมาก็ตายหมด

ประวัติกษัตริย์จีน ที่น่าศึกษาควรจะเป็นยุค กษัตริย์ถังไถ่จงฮ่องเต้ เพราะเป็นกษัตริย์ที่ปกครองบ้านเมืองผาสุกที่สุด ขยายอาณาเขตได้กว้างไกลที่สุด แต่สูญเสียทหารในการทำสงครามน้อยที่สุด
จนมีกลอนที่ปราชญ์ในยุคนั้นพูดถึง "หากมีคนทำเงินตกไว้กลางถนน เมื่อเดินไปไกลลับตา นึกขึ้นได้เดินกลับ ถุงเงินนั้นก็ยังอยู่ที่เดิม เป็นยุคที่ศาสนาเจริญรุ่งเรืองที่สุด" เขียนถึงความเจริญรุ่งเรืองของแผ่นดินขณะที่กษัตริย์องค์นี้ปกครองอยู่

ถ้าได้ศึกษามุมมอง ของถังไถ่จงฮ่องเต้ จะรู้ว่าฉลาดกว่า ขงเบ้ง และซุนวู เสียอีก ในด้านการปกครองและการรบ

[MO101]

เนื่องจากผมชอบสุมาอี้เป็นการส่วนตัว เลยตอบแบบนี้นะอย่าว่ากัน

ขงเบ้งเก่งกว่าสุมาอี้ ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าคุณเจอคนเก่งกว่า
ทำค่ากลแบบไม่มีในตำราเลยคงถอยเอาไว้ก่อนนะครับ
ถ้าผมเป็นสุมาอี้ในขณะนั้น คงสังถอยในทันทีเช่นกัน ทิ้งระยะห่างไว้
แล้วค่อยส่งกองทัพเล็กๆ ไป ในเรื่องก็น่าจะเป็นเช่นนั้นครับ

ปรับเป็นสถานะการหุ้น หากไม่แน่ใจอย่าพึ่งลงหมดตัว
ส่งกองทัพย่อยๆ ออกไปดูก่อนครับ ถ้าเจ้งจะได้ไมหมดตัว

ดูตัวอย่างหุ้น C.. และ P... อยู่ห่างๆ ไว้รอสถานะการณ์ชัดเจนแล้วค่อยลุย
ถ้ามันดีจริงก็ ขาดทุนกำไร แต่ไม่หมดตัวครับ

[...]

ไม่ว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง ถ้าสามารถนำมาจุดประเด็นความคิดและถกกันเชิงสร้างสรรค์ ช่วยเปิดมุมมองและเพิ่มรอยหยักในสมอง ผมว่าก็สุดยอดแล้วครับ  

[ปรัชญา]

[quote="..."]ไม่ว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง ถ้าสามารถนำมาจุดประเด็นความคิดและถกกันเชิงสร้างสรรค์ ช่วยเปิดมุมมองและเพิ่มรอยหยักในสมอง ผมว่าก็สุดยอดแล้วครับ

[Pubeat]

สุมาอี้ที่ไม่เข้าเมืองเพราะกลัวกลศึกของขงเบ้ง  เดิมทีนั้นขงเบ้งทำการรอบคอบมี วางแผนแยบยล ไม่ทำอะไรทีมีความเสี่ยง เรืองนี้สมาอี้รู้ดี

ส่วนคนที่ขงเบ็งกลัวที่สุดคือ สุมาอี้ เพราะว่าสุมาอี้ปัญญาเท่าเทียมกับขงเบ็ง ทำการรอบคอบเหมือนกับ

ดังนั้นด้วยสติปัญญาทั้งคู่ รู้ทันกันเสมอมา ในเหตุการที่เปิดเมือง แล้วเล่นกู๋เจิง นั้นเป็นแผนที่ล้ำลึกของขงเบ็ง ขงเบ็งอ่านใจของสุมาอี้ ว่าตนทำการศึกรอบคอบไม่ประมาณย่อมไม่มีทางจะเป็นเมืองเปล่าอย่างแน่นอน จึงทำให้สุมาอี้คิดหนัก อีกทั้งขงเบ้งยังเล่นกู๋เจิง แฝงความนัยว่ามีทหานนันพันอยู่ภายในเมือง ท่วงทำนองไร้กังวล ยิ่งทำให้ไม่กล้าเสี่ยงเข้าไปอย่างแน่นอน (เพราะว่าขงเบ้งใช้กลเมืองเปล่า เผาทัพโจโฉไปหลายครั้งแล้วจึงทำให้กลัว)

เมื่อตระหนักได้อย่างนั้นเลยคิดว่า ถอยดีกว่า .....  เป็นการอ่านใจของทั้งสองฝ่าย รู้เขารู้เรา

แต่ถ้าตอนนั้นสุมาอี้ ฟังความลูกชายของตัวเอง รับรองว่าไม่รอดครับ

[miracle]

กลับมาอ่านใหม่อีกรอบ
อืมๆๆ ตอนนี้เป็นตอนที่ม้าเฉียว ตั้งทัพบนที่สูงแทนที่ตั้งทัพริมน้ำ
เมื่อทัพของม้าเฉียวแตก ทำให้ทัพของเสฉวนระส่ำระส่าย จนต้องถอยทัพ
แต่ถอยไม่ทัน ขงเบ้งจึงต้องคิดแผนนี้
โดยวางกำลังทหารไม่ถึงพันในเมืองแล้วปลอมเป็นชาวบ้าน
กวาดถนนบ้าง ค้าขายบ้าง แล้วเปิดประตูเมืองทั้งสี่ทิศ เพื่อเป็นการหลอกศัตรู

ตัวเองขึ้นไปบนกำแพงเพื่อเล่นดนตรี

สุมาอี้ไม่กล้า ดูอยู่หน้าเมืองเพราะ
1. ในอดีต ขงเบ้งเคยทำแบบนี้ ครั้งหนึ่ง ตอนที่เล่าปี่อยู่กับเล่าเปียว ที่เกงจิ๋ว ครั้งนี้ เผาทำลายทหารของโจโฉไป แสนคน แค่เมืองเล็กๆๆ เมืองเดียว
2. สุมาอี้ดูลาดราว ไม่ยั้งเชิงเพราะว่า ถ้ายั้งเชิงไปแล้ว ได้ไม่คุ้มเสีย ดูที่ท่าของขงเบ้งและชาวบ้านว่า มีความหวาดกลัวเกิดขึ้นหรือไม่
3. ถึงแม้น สุมาอี้ไม่สามารถจับขงเบ้งได้ แต่ศึกครั้งนี้ สุมาอี้ชนะ เพราะกองทัพของเสฉวนกำลังถอยทัพ

ทั้งหมด คือสถานการณ์ที่ต้องดูประกอบ ไม่ใช่แค่ ดูแค่สถานการณ์ที่ยกขึ้นมาเท่านั้น

ถ้าไม่ดูรอบข้างแล้ว
ความเสียหายครั้งนี้อาจจะใหญ่หลวง ทำให้ฟื้นยาก

ลงมือเมื่อมั่นใจก็ไม่เสียหาย ถ้าควบคุมสถานการณ์อยู่แล้ว
ถ้าผิดพลาดไป เสียหายหนัก

[i_sarut]

ผมเชื่อนะ

เพราะสุมาอี้คงคิดแล้วคิดอีก คิดไปคิดมา คิดมากๆเข้าก็นึกถึงวันเก่าๆของเราสอง (เบ้งกับสุมาอี้) ก็เลยกลัว ไม่เสี่ยงดีกว่า

ถอยก่อนดีกว่าวันหน้าค่อยมานัดเจอกันใหม่  

สามก๊กนี่ ผมชอบเกียงอุยนะ เก่งทั้งบู๊ บุ๋น มีใครชอบมั่งมั๊ยครับ  :lol:

[Ryuga]

กลับมาอ่านใหม่อีกรอบ
อืมๆๆ ตอนนี้เป็นตอนที่ม้าเฉียว ตั้งทัพบนที่สูงแทนที่ตั้งทัพริมน้ำ
เมื่อทัพของม้าเฉียวแตก ทำให้ทัพของเสฉวนระส่ำระส่าย จนต้องถอยทัพ
แต่ถอยไม่ทัน ขงเบ้งจึงต้องคิดแผนนี้
โดยวางกำลังทหารไม่ถึงพันในเมืองแล้วปลอมเป็นชาวบ้าน
กวาดถนนบ้าง ค้าขายบ้าง แล้วเปิดประตูเมืองทั้งสี่ทิศ เพื่อเป็นการหลอกศัตรู

ตัวเองขึ้นไปบนกำแพงเพื่อเล่นดนตรี

สุมาอี้ไม่กล้า ดูอยู่หน้าเมืองเพราะ
1. ในอดีต ขงเบ้งเคยทำแบบนี้ ครั้งหนึ่ง ตอนที่เล่าปี่อยู่กับเล่าเปียว ที่เกงจิ๋ว ครั้งนี้ เผาทำลายทหารของโจโฉไป แสนคน แค่เมืองเล็กๆๆ เมืองเดียว
2. สุมาอี้ดูลาดราว ไม่ยั้งเชิงเพราะว่า ถ้ายั้งเชิงไปแล้ว ได้ไม่คุ้มเสีย ดูที่ท่าของขงเบ้งและชาวบ้านว่า มีความหวาดกลัวเกิดขึ้นหรือไม่
3. ถึงแม้น สุมาอี้ไม่สามารถจับขงเบ้งได้ แต่ศึกครั้งนี้ สุมาอี้ชนะ เพราะกองทัพของเสฉวนกำลังถอยทัพ

ทั้งหมด คือสถานการณ์ที่ต้องดูประกอบ ไม่ใช่แค่ ดูแค่สถานการณ์ที่ยกขึ้นมาเท่านั้น

ถ้าไม่ดูรอบข้างแล้ว
ความเสียหายครั้งนี้อาจจะใหญ่หลวง ทำให้ฟื้นยาก

ลงมือเมื่อมั่นใจก็ไม่เสียหาย ถ้าควบคุมสถานการณ์อยู่แล้ว
ถ้าผิดพลาดไป เสียหายหนัก

เกเต๋งแตกนี่ม้าเจ๊กรึเปล่าครับ  :oops:

[ziannoom]

ผมชอบ จูจ่งที่แก่ตาย

[Paladin]

เสียดาย ดีกว่าเสียใจ

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ

[san]

แล้วช่วงนี้  
คล้ายกันแล้วยังครับ กับตอนขงเบ้งนั่งอยู่บนกำแพง
ใครเป็นขงเบ้ง ใครเป็นสุมาอี้ครับ
บอกหน่อยครับ

[peacedev]

ผมก็อีกคนหนึ่งล่ะครับที่ไม่เชื่อ และ เกิดความสงสัยในเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ  เพราะเหตุการณ์นี้มันดูจะง่ายเกินไป

พอโตขึ้นมีโอกาสสืบเสาะประวัติศาสตร์สามก๊กดู พบว่าเรื่องขงเบ้งดีดพิณอยู่บนกำแพงเมืองนี้ไม่มีจริงอยู่ในประวัติศาสตร์ครับ กองทัพที่ส่งเข้าไปในตอนนั้นขงเบ้งไม่ได้ไปด้วย

[nanchan]

ถ้าเรื่องขงเบ้งดีดพิณ แล้วเปิดเมืองไว้ เป็นเรื่องจริง แต่สุมาอี้ไม่บุก
ผมว่าสุมาอี้นี่ขี้ปอดไปหน่อย แม้สุมาอี้จะเคยโดนกลลวงลักษณะนี้มาบ้าง
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องอยู่เฉย

ผมว่าสุมาอี้ใช้อารมณ์ความรู้สึกตัดสินใจเพียงอย่างเดียว ไม่ได้คิดเชิงระบบ

ผมว่าสุมาอี้ควรส่งกองกำลังเข้าไปส่วนหนึ่ง เพื่อดูสถานการณ์
แล้วก็เผื่อถอยถ้าเป็นกลจริงไว้ด้วย

สุดยอดก็ยังอยู่ที่ขงเบ้งอยู่ดี ที่เข้าใจสุมาอี้
ถ้าขงเบ้งเข้าใจว่าสุมาอี้มีความคิดเป็นเชิงระบบแล้ว ขงเบ้งคงไม่ใช้วิธีการนี้

[Sorgios]

เกียงอุยครับ ชอบมาก

ฝีมือทวนเป็นเลิศ

ฝีมือวางแผนก็เยี่ยม

แต่...ทั้งสองอย่างก็ยังไม่จัดว่าเก่งที่สุดในยุค

แถมเพื่อนในทีม ก็ไม่เก่งพอ เลยแพ้ไปตามระเบียบ

ปล.เตงงายก็ชอบเหมือนกันครับ



สอครับ

[linqinfa]

สุมาอี้เค้าไม่แน่ใจน่ะคับ เพราะขงเบ้งปกติเค้าจะไม่ทำอะไรเสี่ยงเป็นอันขาด ก็เลยไม่บุกเข้าไป ส่วนตัวชอบโลซกคับ ผมว่าเค้าไม่ได้ซื่อบื่อนะ แต่แกล้งซื่อเพื่อให้ทั้ง 2 ก๊กปรองดองกัน

[KGYF]

การอยู่ในสนาม กับ อยู่ข้างสนาม ความคิด ก็ต่างกันแล้ว ครับ  แต่ทุกเหตุการณ์ทั้งจริง และไม่จริง สามารถ นำ้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ได้หมด

[erawan]

ขงเบ้งคิดว่าตัวเองรู้จักสุมาอี้ดีจึงกล้าวัดใจ หากคิดผิดก็แค่ถูกจับเป็นเชลยมิได้เสียไพร่พลใดใด ถ้าสุมาอี้ส่งทหารม้าไปลองดูสัก100นาย ถ้าไปแล้ว10นาทีไม่กลับออกมา จะให้ลูกน้อง100นายตายเปล่าต่อหน้าลูกน้องหลายหมื่นโดยไม่ทำอะไรเลยหรือ? ถ้ารบติดพันในสถานการณ์ที่ตัวเองมิได้กำหนดแพ้หรือชนะต้องเสียไพร่พลอีกเท่าไหร่ ชนะได้เมืองเล็กเล็กเมืองนึงกับกุนซือหนึ่งคน ถ้าเป็นผมจะตั้งรอฟังเพลงสัก3วันดีร้ายอาการต้องแสดงออกหลังระยะฟักตัว กลับมาเรืองหุ้นลองได้เพราะเงินที่เป็นลูกน้องเราไม่มีอารมณ์ ความรัก ความรู้สึก แต่บ้างท่านลองซื้อห้าหมื่นบาทแล้วถัวจนครบ2ล้านบาท ล้างพอร์ตขาดทุนไป1.2 ล้านบาท เพราะไม่อยากแพ้....................

[san]

อ่านซ้ำอีกที
คิดถึง SGP  ซื้อตอน เลข 1 หลัก
โฮ....ๆๆๆๆ

สุมาอี้ หนอ สุมาอี้  
กลัวไปได้....กลัวทำไม
อิอิอิ

san หนอ san
555

[por_jai]

[quote="san"]อ่านซ้ำอีกที
คิดถึง SGP

[chowbe76]

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของสุมาอี้คือ ไม่เคยคิดกบฏ ทั้งที่สามารถทำได้โดยง่าย

ธรรมาภิบาลดีเยี่ยม

[ดาวหางสีแดง]

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของสุมาอี้คือ ไม่เคยคิดกบฏ ทั้งที่สามารถทำได้โดยง่าย

ธรรมาภิบาลดีเยี่ยม

ไม่ทำเอง แต่สั่งลูกหลานไว้ว่า หากสกุลโจยังเข้มแข็งให้รับใช้ต่อไป แต่ยามใดที่สกุลโจอ่อนแอ ให้ทำการยึดอำนาจนะครับ

[ซุนเซ็ก]

ในฐานะที่ผมเป็นคนกลางแห่งง่อก๊ก :lol:

สุมาอี้ก็เคยเสียท่าให้ขงเบ้ง จึงลังเลว่ารอบนี้จะมีอุบายอีก
ผมคิดว่าสุมาอี้พลาดไปที่ไม่ส่งทหารกองหน้าไปสำรวจภายในเมืองเสียก่อน
ถ้าพลาดก็มีทหารตายนิดหน่อย แล้วค่อยกลับมาวางแผนใหม่
ถ้าสำเร็จ ก็สามารถกำจัดขงเบ้งได้ในครานั้น

[reiter]

สุมาอี้เค้าไม่แน่ใจน่ะคับ เพราะขงเบ้งปกติเค้าจะไม่ทำอะไรเสี่ยงเป็นอันขาด ก็เลยไม่บุกเข้าไป ส่วนตัวชอบโลซกคับ ผมว่าเค้าไม่ได้ซื่อบื่อนะ แต่แกล้งซื่อเพื่อให้ทั้ง 2 ก๊กปรองดองกัน

ชอบคนนี้เหมือนกันคับ

ยอมทำลายอัตตาตัวเอง ให้ดูเหมือนเป็นคนซื่อบื้อ

เพื่อให้ยุทธศาสตร์การคานอำนาจของสามก๊กคงอยู่ได้  :8)  :8)