สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 1
ผมอยากให้ข้อคิดว่า การที่นักวิเคราะห์จากที่ต่างๆประเมินราคาหุ้นในปัจจุบัน มีการใช้ Ratio ต่างๆมากมาย เช่น P/E EV/EBITDA YIELD DCF เป็นต้น มีหลักอย่างไรในการเลือกใช้ว่าบริษัทใดหรืออุตสาหกรรมใดควรใช้ตัวไหนคำนวณ และค่าที่ใช้ควรเป็นเท่าไรจึงจะเหมาะสม เราเคยคิดไหมว่าทำไม P/E ที่ 7 เท่าคือราคาที่เหมาะสม ในขณะที่บางบริษัทอยู่ที่ 10 เท่า และงบการเงินของบริษัทมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ดูตัวอย่าง DAIDO
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 2
เข้าใจว่าเขาใช้ growth เป็นตัววัดครับ ต้องเช็คดูน้อง Mon Money อีกที
ประเด็นสำคัญคือว่า บริษัทที่โต 10% ต่อปีก็น่าจะราคาต่ำกว่า (หรือ P/E ต่ำกว่า) บริษัทที่โตปีละ 15% ถูกไหมครับ
PEG (Price/Earning Growth) Ratio ก็เลยเป็นตัวกำหนดว่าราคาสะท้อนการเติบโตของบริษัทรึยัง ผมไม่แม่นเรื่องตัวเลข ลองอ่าน post เก่าๆของคุณ Mon Money ดูครับ เคยเห็นแว็บๆ หรือม่ายก็รอท่านมาตอบให้ด้วยตนเอง
อ้อ ความเสี่ยงก็น่าจะมีผลเหมือนกันครับ
ประเด็นสำคัญคือว่า บริษัทที่โต 10% ต่อปีก็น่าจะราคาต่ำกว่า (หรือ P/E ต่ำกว่า) บริษัทที่โตปีละ 15% ถูกไหมครับ
PEG (Price/Earning Growth) Ratio ก็เลยเป็นตัวกำหนดว่าราคาสะท้อนการเติบโตของบริษัทรึยัง ผมไม่แม่นเรื่องตัวเลข ลองอ่าน post เก่าๆของคุณ Mon Money ดูครับ เคยเห็นแว็บๆ หรือม่ายก็รอท่านมาตอบให้ด้วยตนเอง
อ้อ ความเสี่ยงก็น่าจะมีผลเหมือนกันครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 3
กะว่าจะมาอ่านเฉยๆแล้วเชียวน่า เพราะง่วงมากครับ แต่พี่ CKถามหาจึงมิกล้าขัด
แต่ละบริษัทมันมีพฤติกรรมของมันครับ เช่นกลุ่มที่เป็นวัฎจักร ก็ขึ้นลงตามรอบของมัน กลุ่มที่แข็งแกร่งก็ต่อไปได้ทุกสถานะการณ์ กลุ่มโตเร็วก็ต้องตรวจสอบว่าโตได้ไง ผมว่าลองอ่านใน Peter Lynch ในGURUดูนะครับ
ผมเองก็ไม่เข้าใจนักวิเคราะห์เหมื่อนกันครับ ว่าเขาเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ เคยคุยกับนักวิเคราะห์คนหนึ่งเรื่องว่าบริษัทที่พี่ปรัชญาได้รับผลตอบแทนแบบสุดงามนามย่อ U_P ดูงบย้อนหลังหลายปีผมฟันธงว่าไม่ขายให้ใครก็ซื้อหุ้นคืนแน่นอน เงินสดเพียบไม่ลงทุนเพิ่มเลย เหมื่อนรออะไรอยู่ แต่คุณเธอตอบผมว่าผมคิดมากไปหรือเปล่า ....หลังจากนั้นอีกหกเดือน เกิดจริงๆ แต่ไม่ได้ลองไปถามเธออีกนะครับว่าเป็นไงล่ะ
ผมเลยไม่ค่อยสนใจนักวิเคราะห์เท่าไหร่ครับ พวกเขาทำเพราะอาชีพเขา เราทำเพราะเราลงทุน มุมมองต่างกันผลประโยชน์ต่างกัน
แต่ละบริษัทมันมีพฤติกรรมของมันครับ เช่นกลุ่มที่เป็นวัฎจักร ก็ขึ้นลงตามรอบของมัน กลุ่มที่แข็งแกร่งก็ต่อไปได้ทุกสถานะการณ์ กลุ่มโตเร็วก็ต้องตรวจสอบว่าโตได้ไง ผมว่าลองอ่านใน Peter Lynch ในGURUดูนะครับ
ผมเองก็ไม่เข้าใจนักวิเคราะห์เหมื่อนกันครับ ว่าเขาเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ เคยคุยกับนักวิเคราะห์คนหนึ่งเรื่องว่าบริษัทที่พี่ปรัชญาได้รับผลตอบแทนแบบสุดงามนามย่อ U_P ดูงบย้อนหลังหลายปีผมฟันธงว่าไม่ขายให้ใครก็ซื้อหุ้นคืนแน่นอน เงินสดเพียบไม่ลงทุนเพิ่มเลย เหมื่อนรออะไรอยู่ แต่คุณเธอตอบผมว่าผมคิดมากไปหรือเปล่า ....หลังจากนั้นอีกหกเดือน เกิดจริงๆ แต่ไม่ได้ลองไปถามเธออีกนะครับว่าเป็นไงล่ะ
ผมเลยไม่ค่อยสนใจนักวิเคราะห์เท่าไหร่ครับ พวกเขาทำเพราะอาชีพเขา เราทำเพราะเราลงทุน มุมมองต่างกันผลประโยชน์ต่างกัน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 4
ตามหลักวิชาการนั้นก็ถูกต้องตามความเห็นของคุณ CK แต่อัตราเติบโตในการคำนวณนั้นเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยตลอดช่วงระยะเวลาที่ยาวนานหรือตลอดไม่ใช่หรือครับ แต่ผมเห็นนักวิเคราะห์ประมาณการอย่างมากก็แค่ 2 ปี ซึ่งก็ไม่ค่อยตรงกับความจริงเท่าไรแล้วครับ ปัจจุบันเหตุการณ์ต่างๆเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีปัจจัยต่างๆมากมายที่จะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานอย่างคาดไม่ถึง เช่น โรคSARS เป็นต้น
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 7
การคำนวนผมว่าหนังสือกุญแจ 5 ดอกให้รายละเอยดไว้ดีนะครับ ในแง่การประเมินแบบเปรียบเทียบหรือประเมินจากตัวบริษัทเองก็ตาม
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 8
อืม มันก็เป็นอย่างนี้มานานแล้วนะ ยังไม่มีอะไรใหม่ๆออกมา เป็นตัววัดใหม่ เป็นมาตรฐานใหม่ ตัววัดเหล่านี้ จริงๆแล้ว มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี เพียงแต่ส่วนใหญ่ก็เป็นแค่ภาพลวงตา
เช่น คนๆหนึ่ง รวยมาก แต่ไม่ชอบพกเงิน ถ้ามองในแง่เงินสดติดกระเป่า คนคนนี้ ก็จน แต่ถ้ามองเงินในบ้านทั้งหมด คนนี้ก็รวย
ตัวเลขต่างๆเหล่านั้นถ้ารู้จักใช้จริงๆ ก็น่าจะดี เสียดายที่บัญชีแต่งได้
ก็คงต้องใช้หลักวอเรนแล้วครับ คือดูย้อนหลัง 10 ปี แล้วประมาณการต่อไปอีก 10 ปี ว่าจะเป็นอย่างไร
อันนี้หมายถึงตัวธุรกิจนะครับ ไม่ใช่ราคาหุ้นที่ขึ้นลง
ฟังดูธรรมดานะ ดูย้อนหลัง 10 ปี
อืม แต่ที่แน่ๆคือ CFA ก็ไม่ได้สอนให้ดูย้อนหลัง 10 ปี
ภรรยาผมบอกว่า การสอนให้ดูย้อนหลัง 10 ปี บัญชีที่แต่งไว้ ซ่อนไว้ ก็น่าจะคายออกมาหมด
เช่น คนๆหนึ่ง รวยมาก แต่ไม่ชอบพกเงิน ถ้ามองในแง่เงินสดติดกระเป่า คนคนนี้ ก็จน แต่ถ้ามองเงินในบ้านทั้งหมด คนนี้ก็รวย
ตัวเลขต่างๆเหล่านั้นถ้ารู้จักใช้จริงๆ ก็น่าจะดี เสียดายที่บัญชีแต่งได้
ก็คงต้องใช้หลักวอเรนแล้วครับ คือดูย้อนหลัง 10 ปี แล้วประมาณการต่อไปอีก 10 ปี ว่าจะเป็นอย่างไร
อันนี้หมายถึงตัวธุรกิจนะครับ ไม่ใช่ราคาหุ้นที่ขึ้นลง
ฟังดูธรรมดานะ ดูย้อนหลัง 10 ปี
อืม แต่ที่แน่ๆคือ CFA ก็ไม่ได้สอนให้ดูย้อนหลัง 10 ปี
ภรรยาผมบอกว่า การสอนให้ดูย้อนหลัง 10 ปี บัญชีที่แต่งไว้ ซ่อนไว้ ก็น่าจะคายออกมาหมด
- ROGER
- Verified User
- โพสต์: 605
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 9
นักวิเคราะห์ใช้หลักแปลกๆๆดังนี้
1 ดูสภาวะตลาด ตลาดหมีให้ พีอีต่ำ เช่น 5-8 เท่า ตลาดกระทิงให้ พีอีสูง เช่น 12-15 เท่า นักวิเคราะห์แนวนี้ตัวอย่างเช่น TISCO KGI
2 ลอกการบ้านมา แล้ววิเคราะห์โดยให้ราคาอยู่ใกล้เคียงราคาตลาด บวกลบประมาณ 10-30 % พบได้ตามค่ายโบรกเล็กๆๆๆ
3 วิเคราะห์ตามใบสั่ง อันนี้ ไม่ขอแจงรายละเอียด
1 ดูสภาวะตลาด ตลาดหมีให้ พีอีต่ำ เช่น 5-8 เท่า ตลาดกระทิงให้ พีอีสูง เช่น 12-15 เท่า นักวิเคราะห์แนวนี้ตัวอย่างเช่น TISCO KGI
2 ลอกการบ้านมา แล้ววิเคราะห์โดยให้ราคาอยู่ใกล้เคียงราคาตลาด บวกลบประมาณ 10-30 % พบได้ตามค่ายโบรกเล็กๆๆๆ
3 วิเคราะห์ตามใบสั่ง อันนี้ ไม่ขอแจงรายละเอียด
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 16
ก็คงต้องกรองหุ้นออกมาก่อนแหละครับ อย่างปู่วอรเรนยังกรองก่อนเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 17
มูลค่าหุ้นของบางโบรกอ่านแล้วก็ตลกดี
หุ้นบางตัวมองว่าจะเติบโตกว่า 20% อีกอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป แต่ให้ราคาที่ P/E 8 เท่า (จริงๆ เพราะ 1.เป็นหุ้นเล็ก โบรกต่างชาติเลยไม่มี paper ให้ลอก 2.ถ้าให้ที่ P/E 10 เท่า มูลค่าจะสูงกว่าราคาในกระดานมากเกินไป)
ทีบางตัว มองว่าอิ่มตัวแล้ว เติบโตเฉลี่ย 5% อีกอย่างน้อย 2 ปี แต่ให้ราคาที่ P/E 14 เท่า (จริงๆ เพราะ 1.เป็นหุ้นใหญ่ โบรกต่างชาติใช้ relative กับหุ้นแบบเดียวกันในตลาดภูมิภาคที่เทรดกันที่ P/E สูงกว่าบ้านเรา เลยลอกเค้ามา 2.ถ้าให้ที่ P/E 10 เท่า มูลค่าจะต่ำกว่าราคาในกระดาน)
หุ้นบางตัวมองว่าจะเติบโตกว่า 20% อีกอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป แต่ให้ราคาที่ P/E 8 เท่า (จริงๆ เพราะ 1.เป็นหุ้นเล็ก โบรกต่างชาติเลยไม่มี paper ให้ลอก 2.ถ้าให้ที่ P/E 10 เท่า มูลค่าจะสูงกว่าราคาในกระดานมากเกินไป)
ทีบางตัว มองว่าอิ่มตัวแล้ว เติบโตเฉลี่ย 5% อีกอย่างน้อย 2 ปี แต่ให้ราคาที่ P/E 14 เท่า (จริงๆ เพราะ 1.เป็นหุ้นใหญ่ โบรกต่างชาติใช้ relative กับหุ้นแบบเดียวกันในตลาดภูมิภาคที่เทรดกันที่ P/E สูงกว่าบ้านเรา เลยลอกเค้ามา 2.ถ้าให้ที่ P/E 10 เท่า มูลค่าจะต่ำกว่าราคาในกระดาน)
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 18
เพื่อนๆ คนไหนสามารถค้น paper เก่าๆ ได้ ลองไปหาอ่าน ADVANC PTTEP ดูก็ได้ครับ ว่า 2 ปีก่อนให้มูลค่ากันเท่าไรเอ่ย
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 19
เป้าหมาย เปลี่ยนได้ตลอดเวลาครับ
แต่อย่าลืมว่านักวิเคราะห์ก็เป็นคนครับมีทายผิด
ทายถูกเป็นเรื่องปกติ
แต่ฟังเค้าไว้บ้างก็ดีครับจะได้เห็นมุมมองของเค้าด้วย
ในแง่ปัจจัยเกื้อหนุนกิจการต่างๆ
แต่การประเมินมูลค่าบางทีก็เว่อร์ไปจริงๆ ยังไงก็ประเมินแบบที่เราต้องการดีกว่าครับ
ผมเองคิดว่าจะพัฒนาทางการลงทุนไปเน้นความพอใจในผลตอบแทนมากกว่ามานั่งคำนวนเป้าหมายแบบเป๊ะๆครับเพราะ ราคาหุ้นกับราคากิจการมันไม่เห็นจะลู่หากันเลย
เอาแบบกุญแจ 5 ดอก+ new buffetology ดีกว่า
หาตัวเร่ง+ เปรียบเทียบแนวทางการลงทุนที่ได้กำไรที่ต้องการผมว่าก็น่าพอใจแล้ว
เพราะจริงๆแล้วเวลาประเมินโครงการลงทุนต่างๆเค้าก็คงประเมินแบบเปรียบเทียบมูลค่ากระแสเงินสดเหมือนกัน ซึ่งมีเงื่อนไขเวลา และความเสี่ยง ความน่าจะเป็นต่างๆมาเกี่ยวข้องอีก
จริงไหมครับพี่ chatchai
แต่อย่าลืมว่านักวิเคราะห์ก็เป็นคนครับมีทายผิด
ทายถูกเป็นเรื่องปกติ
แต่ฟังเค้าไว้บ้างก็ดีครับจะได้เห็นมุมมองของเค้าด้วย
ในแง่ปัจจัยเกื้อหนุนกิจการต่างๆ
แต่การประเมินมูลค่าบางทีก็เว่อร์ไปจริงๆ ยังไงก็ประเมินแบบที่เราต้องการดีกว่าครับ
ผมเองคิดว่าจะพัฒนาทางการลงทุนไปเน้นความพอใจในผลตอบแทนมากกว่ามานั่งคำนวนเป้าหมายแบบเป๊ะๆครับเพราะ ราคาหุ้นกับราคากิจการมันไม่เห็นจะลู่หากันเลย
เอาแบบกุญแจ 5 ดอก+ new buffetology ดีกว่า
หาตัวเร่ง+ เปรียบเทียบแนวทางการลงทุนที่ได้กำไรที่ต้องการผมว่าก็น่าพอใจแล้ว
เพราะจริงๆแล้วเวลาประเมินโครงการลงทุนต่างๆเค้าก็คงประเมินแบบเปรียบเทียบมูลค่ากระแสเงินสดเหมือนกัน ซึ่งมีเงื่อนไขเวลา และความเสี่ยง ความน่าจะเป็นต่างๆมาเกี่ยวข้องอีก
จริงไหมครับพี่ chatchai
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 21
พี่ chatchai ครับตอนพี่ทำงานประเมินสินเชื่อเนี่ยพี่ก็พิจารณาว่าโครงการนั้นๆให้ผลตอบแทนที่ต้องการได้หรือไม่
หรือว่าคิดให้โครงการทีให้กำไรสูงสุดก่อนครับ(ค่าคาดหม่ายนะครับ รวมความเสี่ยงเข้าไปด้วย)
หรือว่าคิดให้โครงการทีให้กำไรสูงสุดก่อนครับ(ค่าคาดหม่ายนะครับ รวมความเสี่ยงเข้าไปด้วย)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 22
การพิจารณาสินเชื่อไม่เหมือนกับการพิจารณาเพื่อการลงทุนครับ
การพิจารณาสินเชื่อ จะดู Debt Service Coverage Ratio เป็นหลักครับ รวมทั้งความแน่นอนในการวิเคราะห์ โดยการทำ Sensitivity ด้วยนอกจากการทำประมาณการต่างๆ
การทำประมาณการงบการเงินต่างๆ ทำให้เราสามารถที่จะกำหนดเทอมในการผ่อนชำระหนี้ได้ครับว่า ผ่อนกี่งวด งวดละเท่าไร
ถ้าบริษัทไหนมีผลตอบแทนที่ดี จำนวนงวดที่ผ่อนก็น่าจะหมดเร็วครับ
ผมถึงสงสัยการข้อมูลประกอบการอนุมัติสินเชื่อของ PSL ว่าทำไมถึงมีระยะเวลาการผ่อนนาน ทั้งๆที่ PSL ก็มีกระแสเงินสดที่ดีสามารถผ่อนชำระหนี้หมดได้เร็วกว่า 7 ปีมาก
การพิจารณาสินเชื่อ จะดู Debt Service Coverage Ratio เป็นหลักครับ รวมทั้งความแน่นอนในการวิเคราะห์ โดยการทำ Sensitivity ด้วยนอกจากการทำประมาณการต่างๆ
การทำประมาณการงบการเงินต่างๆ ทำให้เราสามารถที่จะกำหนดเทอมในการผ่อนชำระหนี้ได้ครับว่า ผ่อนกี่งวด งวดละเท่าไร
ถ้าบริษัทไหนมีผลตอบแทนที่ดี จำนวนงวดที่ผ่อนก็น่าจะหมดเร็วครับ
ผมถึงสงสัยการข้อมูลประกอบการอนุมัติสินเชื่อของ PSL ว่าทำไมถึงมีระยะเวลาการผ่อนนาน ทั้งๆที่ PSL ก็มีกระแสเงินสดที่ดีสามารถผ่อนชำระหนี้หมดได้เร็วกว่า 7 ปีมาก
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องบทวิเคราะห์ต่างๆ
โพสต์ที่ 23
มันคืออะไรอ่ะครับ ใช่ระยะเวลาคืนทุนป่ะครับ payback periodchatchai เขียน: Debt Service Coverage Ratio