ธรรมะ ธรรมชาติ
- Eyore
- Verified User
- โพสต์: 606
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1412
จิตทำงานผ่านสมองครับ หลวงพ่อเทศน์ไว้ สัตว์บางจำพวกไม่มีสมองก็คิดได้
สมองนี้เป็นส่วนรูปธรรม เป็นส่วนของกาย
ส่วนจิตนั้นเป็นนามธรรม
การรับรู้ต่างต่างเป็นส่วนของวิญญานขันธ์ การรับรู้ทางใจเรียกมโนวิญญาน
ส่วนความคิดเป็นสังขารขันธ์ครับ เป็นคนละส่วนกัน
แต่ก็เป็นการทำงานของจิตทั้งนั้นแหละครับ
สมองนี้เป็นส่วนรูปธรรม เป็นส่วนของกาย
ส่วนจิตนั้นเป็นนามธรรม
การรับรู้ต่างต่างเป็นส่วนของวิญญานขันธ์ การรับรู้ทางใจเรียกมโนวิญญาน
ส่วนความคิดเป็นสังขารขันธ์ครับ เป็นคนละส่วนกัน
แต่ก็เป็นการทำงานของจิตทั้งนั้นแหละครับ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1413
ปริยัตินี่ผมยกให้ฝ่ายวิชาการเขาไปดีกว่า
อย่างที่หมอโพส วิญญาณ งี้ ผมคิดว่า ใช่ผีหรือเปล่าหว่า
อย่างสังขารนี่ยังพอเดาได้
อ้อ...สังขาร ก็คงกายเรามั๊ง
ขันธ์5
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
หลวงพ่อว่ามันแยกกันอยู่
วันไหนเห็นว่ามันแยกกันอยู่ ก็จะได้ของดี
ผมเหมือนรู้จักรูป แต่จริงๆก็ไม่เคยรู้จักจริงๆเลย
เวทนานี่เห็นบ่อย คุ้นเคยมาก
สัญญา ความจำได้หมายรู้นี่ ต้องบอกว่าคุ้นเคยมากที่สุด
สังขาร
วิญญาณ
หลวงพ่อเทศน์ว่าเป็นนามธรรมทั้งสิ้น รู้แค่นั้นเอง...ฮ่า....อ่่อน...
อย่างที่หมอโพส วิญญาณ งี้ ผมคิดว่า ใช่ผีหรือเปล่าหว่า
อย่างสังขารนี่ยังพอเดาได้
อ้อ...สังขาร ก็คงกายเรามั๊ง
ขันธ์5
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
หลวงพ่อว่ามันแยกกันอยู่
วันไหนเห็นว่ามันแยกกันอยู่ ก็จะได้ของดี
ผมเหมือนรู้จักรูป แต่จริงๆก็ไม่เคยรู้จักจริงๆเลย
เวทนานี่เห็นบ่อย คุ้นเคยมาก
สัญญา ความจำได้หมายรู้นี่ ต้องบอกว่าคุ้นเคยมากที่สุด
สังขาร
วิญญาณ
หลวงพ่อเทศน์ว่าเป็นนามธรรมทั้งสิ้น รู้แค่นั้นเอง...ฮ่า....อ่่อน...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1415
http://www.youtube.com/watch?v=qw0Wd_uv ... r_embedded
พระอาจารย์ ว.วชิระเมธี ทรางให้ปัญญาแก่คนไทยในรายการ Woody เกิดมาคุยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=qw0Wd_uv ... r_embedded
ผมชอบท่าน ว. วชิระเมธี และคุณ woody ครับ
ขอบคุณที่ให้ข้อคิดดีๆเสมอครับ
พระอาจารย์ ว.วชิระเมธี ทรางให้ปัญญาแก่คนไทยในรายการ Woody เกิดมาคุยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=qw0Wd_uv ... r_embedded
ผมชอบท่าน ว. วชิระเมธี และคุณ woody ครับ
ขอบคุณที่ให้ข้อคิดดีๆเสมอครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1416
post link ซ้ำ 2 ครั้งซะงั้น อายจังเรา
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1417
นักลงทุน ไม่จำเป็นต้องลงทุนด้วยเงิน
แต่คุณสามารถลงทุนด้วยแรงกาย ด้วยคำพูดที่สรา้งสรรค์เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้เกิดขึ้นครับ
แต่คุณสามารถลงทุนด้วยแรงกาย ด้วยคำพูดที่สรา้งสรรค์เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้เกิดขึ้นครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1418
แค่ นั่งเฉยๆๆ แค่รู้ว่า เราทำอะไร แล้วปล่อยมันไป
ไม่น่าเชื่อ (แต่ก็ต้องเชื่อ ) ว่าจะทำให้เราเปลี่ยนได้เพียงนี้
เพื่อนๆพี่ๆครับ ลองดูซิครับ ลองหัดดูซิครับ
(ผมไม่ได้เก่งอะไรนะครับ ) แต่ผมรู้สึกว่าผมเปลี่ยนได้
จากคนโมโหคนง่าย หงุดหงิดคนง่าย คิดมากก สมาธิน้อยยยย
แต่ตอนนี้ผมดีขึ้นนน ในระดับหนึ่ง
ไม่น่าเชื่อ (แต่ก็ต้องเชื่อ ) ว่าจะทำให้เราเปลี่ยนได้เพียงนี้
เพื่อนๆพี่ๆครับ ลองดูซิครับ ลองหัดดูซิครับ
(ผมไม่ได้เก่งอะไรนะครับ ) แต่ผมรู้สึกว่าผมเปลี่ยนได้
จากคนโมโหคนง่าย หงุดหงิดคนง่าย คิดมากก สมาธิน้อยยยย
แต่ตอนนี้ผมดีขึ้นนน ในระดับหนึ่ง
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1419
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1420
no self, no problem
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1421
ขอบคุณครับpor_jai เขียน: ทำไมสอนเหมือนหลวงพ่อเลย...ฮ่า...
http://board.palungjit.com/f10/%E0%B8%8 ... 05507.html
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1422
เมืองไทยเกิดเหตุการณ์ขึ้น
ผมมานั่งนึกดู(เล่นๆ)
ก็เลยเถิดไปคิดถึงคำว่า...."อวิชชา"
แถมยังคิดเลยต่อไปอีกว่า สุดๆของอวิชชา นี่มันมีอะไรมั่ง
อวิชชา นั้น แปลตรงตัว ก็ได้ความว่า.....
ความไม่รู้ไม่เห็นตามความเป็นจริง
ความไม่รู้เท่าทันตามสภาวะ
ความหลงไปตามสมมุติบัญญัติ
ผมลองเค้นๆอวิชชาของมะนุดโลก
นึกออกในตอนนี้ว่า ตัวการร้าย ตัวหนักๆน่าจะได้แก่
๑ เข้าใจผิดไปว่า ฉัน เธอ โต๊ะ ผีเสื้อ มะเขือ หม้อจับฉ่าย ๙ล๙มันแยกจากกัน หรือเกี่ยวก็เกี่ยวกันนิดหน่อย
ข้อนี้น่าเห็นใจมะนุดมาก
เพราะ ข้อจำกัดในเรื่อง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสของมะนุดนั้นมันทำให้ยากต่อการยอมรับว่า สรรพสิ่งมันเกี่ยวดองกัน ต่อเนื่องกัน
ถ้าจะอธิบายแบบพระ คงหาอ่านได้ไม่ยากนะครับ
ถ้าจะอธิบายแบบฟิสิกส์
ต้องรู้จักคำว่า local กับ non local กันก่อน
ในทางฟิสิกส์ local ก็คือความต่อกันเป็นทอดๆไป เช่น ถ้าพี่พอใจแกจะตีกบาลผม แกก็ต้องบินมาที่สวีเด็น มาใกล้ๆผม ออกแรงที่มือ ผ่านไม้
กระบอง ผ่านอากาศ มาฟาดกบาล ผม
ไม่สามารถที่พี่เขาจะตีกระบาลผมที่อยู่สวีเด็น ถ้าพี่เขายังนอนเล่นอยู่ที่ กทม. ถ้าทำได้จากประการหลัง ทางฟิสิกส์จะเรียกว่า non local คือทำได้โดยไม่เกี่ยวกับ
ระยะทาง และ เวลา
แล้วคุณๆว่า จักรวาล เรา มันเป็น local หรือ non local กันล่ะ ??????
ใครๆ ก็ต้องตอบว่า เป็น local กันทั้งนั้นแหละ
แต่ จากการทดลองในระดับ ควอนตัมฟืสิกส์ ฟิสิกส์ที่เล็กกว่าอะตอม
จักรวาลของเรา เป็น non local !!!!!!!!!!!!
เขาบอกว่า
ไม่ว่า ฉัน โต๊ะ ผีเสื้อ มะเขือ หม้อจับฉ่าย ทุกสรรพสิ่งเกิดจากไอ้ตัวยุ่ง ๑๒ ตัวแค่นั้นแหละ ควาร์ก ๖ ตัว กับ๖
lepton ที่เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ จนกลายเป็นเธอฉันที่เห็นและเป็นอยู่
และ ไอ้เจ้าคู่ควาร์ก คู่เล็พตอน นี่ ไม่ว่ามันจะอยู่ไกลกันขนาดหนก็ตาม จะ ๒ เเมตรหรือ ข้ามดวงดาว หากทำการทดลองกับควาร์กตัวหนึ่ง ผลออกมาเป็นยังไง
คู่ของมันที่อยู่ห่างไกลออกไป ก็จะปรากฏผลตามนั้นโดยทันท่วงที เวลา ระยะทาง ม่ายมีความหมาย
มันดองกันอยู่ มันเกี่ยวกันอยู่ และเกี่ยวแบบทันทีทันควัน
อีกอัน
เจ้าควาร์ก เนี่ย เขาเรียกมันว่า อนุภาค-คลื่น
คือมันจะไม่เป็นอะไร จนกว่าจะมี......ผู้สังเกตุการณ์
เข้าไปสังเกตุมัน แล้วถ้าใช้เครื่องมือสังเกตุว่าจะวัดมันแบบ คลื่น มันก็จะเป็นคลื่น
ถ้าจะวัดมันแบบ อนุภาค มันก็จะปรากฏกายเป็นตำแหน่ง แต่ไม่เป็นคลื่น
เอากะมันสิ
สรุปอีกทางก็คือ
ควาร์มันไม่เป็นอะไร ต่อเมื่อมีใครมา สังเกตุ มันเมื่อไหร่
มันถึงเกิดการแปลงร่าง นั่นก็คือ
เราไม่สามารถ เป็น เพียงผู้ดู ผู้เฝ้าดู เฉยๆ ได้ในจักรวาลนี้
เพราะการดูเฉยๆ ส่งผลต่อควาร์กทันที
โปรดฟังอีกครั้ง
เราไม่สามรถ อยู่ โดดเดี่ยว โฮมอะโลน ได้ ในจักรวาลนี้
อีกอัน ใครๆก็รู้กันอยู่ big bang
เมื่อก่อนนานมาแล้ว เธอ ฉัน ผีเสื้อ มะเขือ จับฉ่าย ก็เคยอยู่รวมๆกันมาแล้วละ ถ้ายังจำความได้
ข้อ ๒ อวิชชา อะไรหว่า?
อ้อ
เข้าใจผิดว่า มี "ความดี "มี "ความชั่ว"
อันนี้หนักหนา
เด๋วมาต่อละกัน :lol:
ผมมานั่งนึกดู(เล่นๆ)
ก็เลยเถิดไปคิดถึงคำว่า...."อวิชชา"
แถมยังคิดเลยต่อไปอีกว่า สุดๆของอวิชชา นี่มันมีอะไรมั่ง
อวิชชา นั้น แปลตรงตัว ก็ได้ความว่า.....
ความไม่รู้ไม่เห็นตามความเป็นจริง
ความไม่รู้เท่าทันตามสภาวะ
ความหลงไปตามสมมุติบัญญัติ
ผมลองเค้นๆอวิชชาของมะนุดโลก
นึกออกในตอนนี้ว่า ตัวการร้าย ตัวหนักๆน่าจะได้แก่
๑ เข้าใจผิดไปว่า ฉัน เธอ โต๊ะ ผีเสื้อ มะเขือ หม้อจับฉ่าย ๙ล๙มันแยกจากกัน หรือเกี่ยวก็เกี่ยวกันนิดหน่อย
ข้อนี้น่าเห็นใจมะนุดมาก
เพราะ ข้อจำกัดในเรื่อง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสของมะนุดนั้นมันทำให้ยากต่อการยอมรับว่า สรรพสิ่งมันเกี่ยวดองกัน ต่อเนื่องกัน
ถ้าจะอธิบายแบบพระ คงหาอ่านได้ไม่ยากนะครับ
ถ้าจะอธิบายแบบฟิสิกส์
ต้องรู้จักคำว่า local กับ non local กันก่อน
ในทางฟิสิกส์ local ก็คือความต่อกันเป็นทอดๆไป เช่น ถ้าพี่พอใจแกจะตีกบาลผม แกก็ต้องบินมาที่สวีเด็น มาใกล้ๆผม ออกแรงที่มือ ผ่านไม้
กระบอง ผ่านอากาศ มาฟาดกบาล ผม
ไม่สามารถที่พี่เขาจะตีกระบาลผมที่อยู่สวีเด็น ถ้าพี่เขายังนอนเล่นอยู่ที่ กทม. ถ้าทำได้จากประการหลัง ทางฟิสิกส์จะเรียกว่า non local คือทำได้โดยไม่เกี่ยวกับ
ระยะทาง และ เวลา
แล้วคุณๆว่า จักรวาล เรา มันเป็น local หรือ non local กันล่ะ ??????
ใครๆ ก็ต้องตอบว่า เป็น local กันทั้งนั้นแหละ
แต่ จากการทดลองในระดับ ควอนตัมฟืสิกส์ ฟิสิกส์ที่เล็กกว่าอะตอม
จักรวาลของเรา เป็น non local !!!!!!!!!!!!
เขาบอกว่า
ไม่ว่า ฉัน โต๊ะ ผีเสื้อ มะเขือ หม้อจับฉ่าย ทุกสรรพสิ่งเกิดจากไอ้ตัวยุ่ง ๑๒ ตัวแค่นั้นแหละ ควาร์ก ๖ ตัว กับ๖
lepton ที่เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ จนกลายเป็นเธอฉันที่เห็นและเป็นอยู่
และ ไอ้เจ้าคู่ควาร์ก คู่เล็พตอน นี่ ไม่ว่ามันจะอยู่ไกลกันขนาดหนก็ตาม จะ ๒ เเมตรหรือ ข้ามดวงดาว หากทำการทดลองกับควาร์กตัวหนึ่ง ผลออกมาเป็นยังไง
คู่ของมันที่อยู่ห่างไกลออกไป ก็จะปรากฏผลตามนั้นโดยทันท่วงที เวลา ระยะทาง ม่ายมีความหมาย
มันดองกันอยู่ มันเกี่ยวกันอยู่ และเกี่ยวแบบทันทีทันควัน
อีกอัน
เจ้าควาร์ก เนี่ย เขาเรียกมันว่า อนุภาค-คลื่น
คือมันจะไม่เป็นอะไร จนกว่าจะมี......ผู้สังเกตุการณ์
เข้าไปสังเกตุมัน แล้วถ้าใช้เครื่องมือสังเกตุว่าจะวัดมันแบบ คลื่น มันก็จะเป็นคลื่น
ถ้าจะวัดมันแบบ อนุภาค มันก็จะปรากฏกายเป็นตำแหน่ง แต่ไม่เป็นคลื่น
เอากะมันสิ
สรุปอีกทางก็คือ
ควาร์มันไม่เป็นอะไร ต่อเมื่อมีใครมา สังเกตุ มันเมื่อไหร่
มันถึงเกิดการแปลงร่าง นั่นก็คือ
เราไม่สามารถ เป็น เพียงผู้ดู ผู้เฝ้าดู เฉยๆ ได้ในจักรวาลนี้
เพราะการดูเฉยๆ ส่งผลต่อควาร์กทันที
โปรดฟังอีกครั้ง
เราไม่สามรถ อยู่ โดดเดี่ยว โฮมอะโลน ได้ ในจักรวาลนี้
อีกอัน ใครๆก็รู้กันอยู่ big bang
เมื่อก่อนนานมาแล้ว เธอ ฉัน ผีเสื้อ มะเขือ จับฉ่าย ก็เคยอยู่รวมๆกันมาแล้วละ ถ้ายังจำความได้
ข้อ ๒ อวิชชา อะไรหว่า?
อ้อ
เข้าใจผิดว่า มี "ความดี "มี "ความชั่ว"
อันนี้หนักหนา
เด๋วมาต่อละกัน :lol:
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1424
ขอต่อนะครับ อวิชชา
แต่ผมลืมไปนิด
อวิชชาข้อแรก น่าจะเป็นอันนี้ครับ
การไม่รู้ว่า จักรวาลที่เราอยู่ โลกที่เราอาศัย นั้น มันมี ๒ โลกซ้อนกันอยู่
เกิดมาเป็นตัวเป็นตน
ทั้งจากผัสสะ และจากการสั่งสอน
มะนุดเราก็รู้ ก็เห็น ก็เป็นอยู่ ในโลกที่เราเป็นกันในทุกวันนี้
โลกที่สัมผัสจับต้องได้
แต่
มันยังมีโลกอีกหลายระดับ ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตามะนุด
แต่เรา ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย
เป็นต้นว่า รังสี อนุภาค ต่างๆที่มันวิ่งมากระทบ กระแทก ทะลุผ่านกลุ่มอนุภาคของตัวเราไป
เป็นต้นว่า อนุภาคคลื่นของเรา ที่หมุนติ้วๆด้วยความเร็วใกล้แสง
เป็นต้นว่า อะตอมที่ประกอบกันเป็นตัวเรานั้น ความจริง ไม่ได้เป็นของแข็งแต่อย่างใดเลย เป็นแต่เพียงเม็ดถั่วเขียว(อิเลคตรอน) หมุนรอบไปตามลู่วิ่งรอบสนามกรีฑาโดยมีถั่วเขียวคู่(โปรตอนกับนิวตรอน)เต้นระบำกันอยู่ตรงกลางสนาม นึกภาพดูแล้วมันเกือบจะเป็นที่ว่างเลยด้วยซ้ำ
มะนุด ไม่มีโลกเหล่านี้อยู่ในความรู้ ความรับรู้ ความรู้สึกเลย
โลกแห่งความจริงอันสูงสุด
เราอาศัยอยู่ในโลกสองโลก โดยที่เรารู้เพียงโลกเดียว !!!!!!!
แต่ผมลืมไปนิด
อวิชชาข้อแรก น่าจะเป็นอันนี้ครับ
การไม่รู้ว่า จักรวาลที่เราอยู่ โลกที่เราอาศัย นั้น มันมี ๒ โลกซ้อนกันอยู่
เกิดมาเป็นตัวเป็นตน
ทั้งจากผัสสะ และจากการสั่งสอน
มะนุดเราก็รู้ ก็เห็น ก็เป็นอยู่ ในโลกที่เราเป็นกันในทุกวันนี้
โลกที่สัมผัสจับต้องได้
แต่
มันยังมีโลกอีกหลายระดับ ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตามะนุด
แต่เรา ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย
เป็นต้นว่า รังสี อนุภาค ต่างๆที่มันวิ่งมากระทบ กระแทก ทะลุผ่านกลุ่มอนุภาคของตัวเราไป
เป็นต้นว่า อนุภาคคลื่นของเรา ที่หมุนติ้วๆด้วยความเร็วใกล้แสง
เป็นต้นว่า อะตอมที่ประกอบกันเป็นตัวเรานั้น ความจริง ไม่ได้เป็นของแข็งแต่อย่างใดเลย เป็นแต่เพียงเม็ดถั่วเขียว(อิเลคตรอน) หมุนรอบไปตามลู่วิ่งรอบสนามกรีฑาโดยมีถั่วเขียวคู่(โปรตอนกับนิวตรอน)เต้นระบำกันอยู่ตรงกลางสนาม นึกภาพดูแล้วมันเกือบจะเป็นที่ว่างเลยด้วยซ้ำ
มะนุด ไม่มีโลกเหล่านี้อยู่ในความรู้ ความรับรู้ ความรู้สึกเลย
โลกแห่งความจริงอันสูงสุด
เราอาศัยอยู่ในโลกสองโลก โดยที่เรารู้เพียงโลกเดียว !!!!!!!
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1425
อวิชชาข้อ ๓
ความดี vs ความชั่ว
ความดี บางทีก็เป็นดาบสองคม
ผมเอ่ยถึงเมืองไทยตั้งแต่เกริ่น
ถ้าลองไปถามฝ่ายหนึ่ง เขาก็บอกว่าเขาทำดีแล้ว
ไปถามอีกฝ่ายหนึ่ง เขาก็ว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว
แล้ว "ความดี" คืออะไร
ทำไมต้อง ทำดี ???????????????
ผมไม่รู้ว่าไอ้เจ้าอนุภาคคลื่น ๑๒ ตัวนั้นมันรู้จักความดี ความชั่วหรือเปล่า
แต่เมื่อมันผุดบังเกิดเป็นมะนุดแล้ว
มันตั้ง สมมุติบัญญัติขึ้นมา
เมื่อตั้งบัญญัติว่า ..ดี..
ความชั่วก็บังเกิดขึ้น
มันตั้งว่า สวย
ความน่าเกลียดก็เกิดขึ้น
ทั้งๆที่ มันก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย แค่นั้น
ถามว่าขอบเขตแห่งความดี หรือ ความชั่วอยู่ตรงไหน
ตอบลำบากนะครับ
ขณะที่เราคิดว่าเราทำดี ผลกระทบมันอาจจะกลายเป็นความชั่วหากมันไปเกิดผลตรงกันข้ามที่คนอื่น
แล้วมะนุดเราจะอยู่กันยังไง ถ้าไม่มี ดี ไม่มีชั่ว ?????????
ถ้าตอบแบบพุทธ ก็ต้องบอกว่า....มัชฌิมาปฏิปทา
ถ้าใช้คำร่วมสมัยก็ต้องบอกว่า......สมดุลย์
ถ้าบอกแบบชาวบ้าน ชาวบ้าน ก็ใช้ว่า ประคับประครอง เห็นอกเห็นใจ เข้าใจ
ก่อนจะกลับสู่สามัญ(ความดี ความชั่ว)นั้น บางทีจำเป็นจักต้องเอื้อมไปสู่สูงสุด(ไม่ดี ไม่ชั่ว)ซะก่อน
มิเช่นนั้น ความดีนี่แหละครับ ทำให้เรามะนุดเรามีสภาพเป็นเช่นทุกวันนี้
ขอให้ ไม่ทุกข์ ไม่สุข ทุกคนนะครับ :lol:
ความดี vs ความชั่ว
ความดี บางทีก็เป็นดาบสองคม
ผมเอ่ยถึงเมืองไทยตั้งแต่เกริ่น
ถ้าลองไปถามฝ่ายหนึ่ง เขาก็บอกว่าเขาทำดีแล้ว
ไปถามอีกฝ่ายหนึ่ง เขาก็ว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว
แล้ว "ความดี" คืออะไร
ทำไมต้อง ทำดี ???????????????
ผมไม่รู้ว่าไอ้เจ้าอนุภาคคลื่น ๑๒ ตัวนั้นมันรู้จักความดี ความชั่วหรือเปล่า
แต่เมื่อมันผุดบังเกิดเป็นมะนุดแล้ว
มันตั้ง สมมุติบัญญัติขึ้นมา
เมื่อตั้งบัญญัติว่า ..ดี..
ความชั่วก็บังเกิดขึ้น
มันตั้งว่า สวย
ความน่าเกลียดก็เกิดขึ้น
ทั้งๆที่ มันก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย แค่นั้น
ถามว่าขอบเขตแห่งความดี หรือ ความชั่วอยู่ตรงไหน
ตอบลำบากนะครับ
ขณะที่เราคิดว่าเราทำดี ผลกระทบมันอาจจะกลายเป็นความชั่วหากมันไปเกิดผลตรงกันข้ามที่คนอื่น
แล้วมะนุดเราจะอยู่กันยังไง ถ้าไม่มี ดี ไม่มีชั่ว ?????????
ถ้าตอบแบบพุทธ ก็ต้องบอกว่า....มัชฌิมาปฏิปทา
ถ้าใช้คำร่วมสมัยก็ต้องบอกว่า......สมดุลย์
ถ้าบอกแบบชาวบ้าน ชาวบ้าน ก็ใช้ว่า ประคับประครอง เห็นอกเห็นใจ เข้าใจ
ก่อนจะกลับสู่สามัญ(ความดี ความชั่ว)นั้น บางทีจำเป็นจักต้องเอื้อมไปสู่สูงสุด(ไม่ดี ไม่ชั่ว)ซะก่อน
มิเช่นนั้น ความดีนี่แหละครับ ทำให้เรามะนุดเรามีสภาพเป็นเช่นทุกวันนี้
ขอให้ ไม่ทุกข์ ไม่สุข ทุกคนนะครับ :lol:
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1428
เขีึยนตอบน้องเสร็จค่อยมาอ่านที่พี่สถาปนิกโพส
ต้องบอกว่า
ผมนั้นยังเป็นสายlocalอยู่นาครับ
เมื่อไรที่เิริ่มจะnonlocal
จะมาเล่าเพิ่มครับ แต่เข้าใจว่าอาจยากหน่อยจนถึงยากมาก...ฮ่า...
มีน้องในเวบอยู่คนท่าทางจะไปทางnonlocalได้แล้ว
ไว้พี่สถาปนิกกลับมาเมืองไทย
แล้วนัดมากินข้าวคุยกัน
น่าจะคุยกันได้รู้เรื่องกว่าผมเพราะเป็นสายเดียวกัน...ฮ่า...
ต้องบอกว่า
ผมนั้นยังเป็นสายlocalอยู่นาครับ
เมื่อไรที่เิริ่มจะnonlocal
จะมาเล่าเพิ่มครับ แต่เข้าใจว่าอาจยากหน่อยจนถึงยากมาก...ฮ่า...
มีน้องในเวบอยู่คนท่าทางจะไปทางnonlocalได้แล้ว
ไว้พี่สถาปนิกกลับมาเมืองไทย
แล้วนัดมากินข้าวคุยกัน
น่าจะคุยกันได้รู้เรื่องกว่าผมเพราะเป็นสายเดียวกัน...ฮ่า...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1429
[quote="saichon"][quote="RONNAPUM"]แค่ นั่งเฉยๆๆ แค่รู้ว่า เราทำอะไร แล้วปล่อยมันไป
ไม่น่าเชื่อ (แต่ก็ต้องเชื่อ ) ว่าจะทำให้เราเปลี่ยนได้เพียงนี้
เพื่อนๆพี่ๆครับ ลองดูซิครับ ลองหัดดูซิครับ
ไม่น่าเชื่อ (แต่ก็ต้องเชื่อ ) ว่าจะทำให้เราเปลี่ยนได้เพียงนี้
เพื่อนๆพี่ๆครับ ลองดูซิครับ ลองหัดดูซิครับ
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1430
ส่งการบ้านพี่ป้อม
จิตตื่น สว่าง เป็นพักๆ นึกย้อน ผมได้วิปัสนา จากพี่ป้อมในช่วงมีเรื่องกลุ้มใจ จึงใช้ได้พอดี ถ้าสบาย คงไม่ตื่น เมื่อเห็นทุขจึงคลาย
ตอนนี้มีเรื่องเข้ามา ก็โมหะ โทสะ ราคะ พอรู้ก็คลาย ไม่หายทั้งหมด แต่พิจารณา และสอนจิตสักพัก (สมาถะ) ก็ดีขึ้น พอคลายหมด จึงรู้ว่าคลายหมดครับ ใช้เวลาสักระยะ เจอสนามรบ เป็นพักๆ ยิ่งผมทำงานบริการ ยิ่งสัมผัส ผัสสะเยอะครับ
จิตตื่น สว่าง เป็นพักๆ นึกย้อน ผมได้วิปัสนา จากพี่ป้อมในช่วงมีเรื่องกลุ้มใจ จึงใช้ได้พอดี ถ้าสบาย คงไม่ตื่น เมื่อเห็นทุขจึงคลาย
ตอนนี้มีเรื่องเข้ามา ก็โมหะ โทสะ ราคะ พอรู้ก็คลาย ไม่หายทั้งหมด แต่พิจารณา และสอนจิตสักพัก (สมาถะ) ก็ดีขึ้น พอคลายหมด จึงรู้ว่าคลายหมดครับ ใช้เวลาสักระยะ เจอสนามรบ เป็นพักๆ ยิ่งผมทำงานบริการ ยิ่งสัมผัส ผัสสะเยอะครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1432
ไม่เคลื่อน....ไหวๆ
ผมชอบดูหนังบู๊ล้างผลาญ มากกว่า หนังผี ลี้ลับ
ไม่ต้องไปชงอะไรมาก
:lol:
ผมชอบดูหนังบู๊ล้างผลาญ มากกว่า หนังผี ลี้ลับ
ไม่ต้องไปชงอะไรมาก
:lol:
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- Akira_R
- Verified User
- โพสต์: 47
- ผู้ติดตาม: 0
^^"
โพสต์ที่ 1433
สรุปว่า ได้ไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ ค่ะ หาข้อมูลเตรียมตัวไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็จัดของไปหัวลำโพงเลย คาดว่าคงได้กลับไปอีกเร็วๆนี้ n_n
-
- Verified User
- โพสต์: 1647
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1434
อนุโมทนาครับสรุปว่า ได้ไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ ค่ะ
ผมอ่านหนังสือท่านพุทธทาส เล่ม อิทัปปัจจยตา
ครั้งแรกที่หยิบขึ้นมาในร้านหนังสือ อ่านไป 2-3 หน้า
ใจมันตื่นตัว ตื่นเต้น เขย่าๆเหมือนโดนกระแทกอย่างแรง
เป็นหนังสือดีอีกเล่มที่แนะนำครับ
อีกเล่มที่ดีก็คือ มรรควิธีอย่างง่าย ของ พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ วัดนาป่าพง อย่างง่ายจริงๆครับ
หลังๆ หนังสือของหลวงพ่อปราโมทย์ ใหม่ๆไม่ค่อยมีครับ แต่เทศน์ท่าน ต้องบอกว่า สุดยอด ยอดที่สุดแล้ว
ระยะหลังผมไม่มีงานทำมากนัก ก็ไปตามวัดต่างๆ ที่รู้สึกได้ก็คือโยมที่ไปวัดหลวงพ่อ จริงจังในการปฏิบัติที่สุดครับ บรรยากาศชวนฮึกเหิมมาก
เมื่อวันศุกร์ไปกราบฟังเทศน์ มีแต่คนภาวนากันเก่งๆทั้งนั้นเลยครับ
. . .
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1437
จริงๆที่ว่า"รู้" ควรพูดเต็มๆว่า"รู้สึก"
หลวงพ่อว่า
แค่ "รู้สึก" ให้ทัน ก็พอแล้ว
หลวงพ่อว่า พระพุทธองค์เคยตรัสสอนไว้สำหรับสิ่งที่ทรงค้นพบว่า
เอหิปัสสโก
หมายความว่า
ธรรมะที่พระองค์สอนนั้นท้าให้เข้ามาทดลองทำดูได้
เป็นสิ่งที่เห็นผลทันที
ทำปุ๊บได้ปั๊บเลย...ฮ่า...
หลวงพ่อว่า
แค่ "รู้สึก" ให้ทัน ก็พอแล้ว
หลวงพ่อว่า พระพุทธองค์เคยตรัสสอนไว้สำหรับสิ่งที่ทรงค้นพบว่า
เอหิปัสสโก
หมายความว่า
ธรรมะที่พระองค์สอนนั้นท้าให้เข้ามาทดลองทำดูได้
เป็นสิ่งที่เห็นผลทันที
ทำปุ๊บได้ปั๊บเลย...ฮ่า...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ^^"
โพสต์ที่ 1438
มาเล่าให้ผมฟังด้วยนะครับ เค้าทำอะไรกันมั้ง อยากไปฝึกAkira_R เขียน:สรุปว่า ได้ไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ ค่ะ หาข้อมูลเตรียมตัวไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็จัดของไปหัวลำโพงเลย คาดว่าคงได้กลับไปอีกเร็วๆนี้ n_n
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
-
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1439
ผมยังมีข้อสงสัยเรื่องนี้น่ะครับ รบกวนถามหน่อยนะครับ เห็นคุยกันเรื่องจิตอยู่แต่คำถามนี้คาใจมานานแล้วครับ อยากได้ความคิดเห็นเพิ่มเติมเพื่อเอาไปพิจารณา
ผมสงสัยว่า การฆ่าสัตว์มันบาปเป็นการสร้างกรรมไม่ดีเพิ่ม แล้วถ้าเราเป็นทหารต้องไปออกรบล่ะครับ
ถ้าเราไม่ฆ่าเราก็ตายเพื่อนเราก็ตายต้องป้องกันตัวเอง ตอนนี้ผมเลยคิดว่าถ้าฆ่าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ มันก็บาปและเป็นการสร้างกรรมไม่ดีเพิ่ม
แต่พอมาคิดอีกทางถ้าผมไม่ฆ่า ผมก็ต้องตายเพื่อนผมก็ต้องตาย ถ้าเป็นแบบนี้พี่ๆเพื่อนๆคิดว่าอย่างไรบ้างครับ
ผมสงสัยว่า การฆ่าสัตว์มันบาปเป็นการสร้างกรรมไม่ดีเพิ่ม แล้วถ้าเราเป็นทหารต้องไปออกรบล่ะครับ
ถ้าเราไม่ฆ่าเราก็ตายเพื่อนเราก็ตายต้องป้องกันตัวเอง ตอนนี้ผมเลยคิดว่าถ้าฆ่าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ มันก็บาปและเป็นการสร้างกรรมไม่ดีเพิ่ม
แต่พอมาคิดอีกทางถ้าผมไม่ฆ่า ผมก็ต้องตายเพื่อนผมก็ต้องตาย ถ้าเป็นแบบนี้พี่ๆเพื่อนๆคิดว่าอย่างไรบ้างครับ
"สุขใดยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี"
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1440
ถ้าเราเป็นทหารเกณฑ์ เราก็เลือกไม่ได้ เพราะกฏหมายบังคับsakana_sushi เขียน: ผมสงสัยว่า การฆ่าสัตว์มันบาปเป็นการสร้างกรรมไม่ดีเพิ่ม แล้วถ้าเราเป็นทหารต้องไปออกรบล่ะครับ
ถ้าเราไม่ฆ่าเราก็ตายเพื่อนเราก็ตายต้องป้องกันตัวเอง ตอนนี้ผมเลยคิดว่าถ้าฆ่าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ มันก็บาปและเป็นการสร้างกรรมไม่ดีเพิ่ม
แต่พอมาคิดอีกทางถ้าผมไม่ฆ่า ผมก็ต้องตายเพื่อนผมก็ต้องตาย ถ้าเป็นแบบนี้พี่ๆเพื่อนๆคิดว่าอย่างไรบ้างครับ
คงต้องวางใจว่าทำไปเพื่อปกป้องชีวิตตนเอง กระัมังครับ
ผมลองยกตัวอย่างเปรียบเทียบนะ
สมมุติเรามีทางเ้ลือก อย่างอาชีพฆ่าสัตว์ ฆ่าวัว ฆ่าหมู ฆ่าไก่
เราเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่
ถ้าไม่อยากผิดศีลก็อย่าไปเลือกอาชีพที่ต้องทำอย่างนั้น
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า