รุ้งกินน้ำ
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2434
อยากตีกอล์ฟ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2435
บทความดีๆครับ
มีที่ไหนซื้อหุ้นกำไรตั้ง25%
กลับบอกว่าเป็นการลงทุนครั้งที่ผิดพลาดมากที่สุดในชีวิต
http://www.fool.com/investing/general/2 ... e-you.aspx
มีที่ไหนซื้อหุ้นกำไรตั้ง25%
กลับบอกว่าเป็นการลงทุนครั้งที่ผิดพลาดมากที่สุดในชีวิต
http://www.fool.com/investing/general/2 ... e-you.aspx
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2437
งานนี้ผมเหนื่อยน้อยมากครับPaul VI เขียน:ขอบคุณ พี่ป้อม และ staff ทุกคน ที่เหนื่อยกับงาน thaivi ครั้งนี้
ในอนาคต มีโอกาส จะตอบแทน ได้ช่วยเหลืองานบ้างนะครับ
เพราะรับผิดชอบแค่เชิญคนมาพูดเรื่องเทคนิคอล
พอจัดการเรื่องนี้ได้
ก็จบ
ไปงานก็คุยๆ
ไหว้คนรับไหว้คน
รับหุ้น แจกหุ้น ดี๊ๆด๊าๆไปเรื่อย ก็จบไปอีกวันแล้วครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2438
งานนี้ผมเหนื่อยน้อยมากครับpor_jai เขียน:
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2439
ไม่เคยไปมะกันเลย เข้าใจว่าคงเสียดายตัง เอาตังมาเล่นหุ้นดีกว่า...ฮ่า...
บทความน่า่อ่่่่่าน โดยเฉพาะcomment
http://mangmaoclub.com/losers-average-losers/
บทความน่า่อ่่่่่าน โดยเฉพาะcomment
http://mangmaoclub.com/losers-average-losers/
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2440
เอามาแป๊ะ(ศัพท์คนในห้องสินธร)ไว้เลยดีกว่า
ผม(ฮง)ขอแชร์มุมมองนะครับ
ผมว่าหลายคนชอบสนใจเรื่องต้นทุนของหุ้นมากเกินไป
เช่นถ้าซื้อหุ้นที่ 3 บาทแล้วมันขึ้นไป 4 บาทก็จะไม่อยากถัวเฉลี่ยเพิ่ม
ตรง 4 บาทเพราะถ้าไปรวมกับทุนเดิมเดี่ยวมันจะกลายเป็น 3.5
ในทางกลับกันถ้าซื้อที่ 3 บาทแล้วลงไป 2.5 แล้วภาพลวงตาจะทำให้
เรารู้สึกว่าถ้าเราถัวไปที่ 2.5 ทุนเราจะกลายเป็น 2.75 ทำให้เราอยากถัว
จริงๆแล้วประสบการณ์ผมค่อนข้างน้อยนะที่ถ้าเราซื้อที่ 3 บาทแล้วมันไปเหลือ
2.5แล้วมันจะกลับมาได้ ถึงกลับมาได้ส่วนใหญ่ก็จะต้อง sideway ยาวพอควรก่อน
ประมาณ 3-5 เดือนเป็นอย่างน้อย
จริงๆแล้วการที่เราเล่นผมคิดว่าถ้าเราเราควรมองที่มูลค่าพอร์ตไม่ใช่มอง ที่ทุนของหุ้นบางตัวในพอร์ต
william oneil บอกว่าถ้าคุณเปิดร้านขายเสื้อแล้วขายสองสีเช่น ดำกับขาว
ถ้าซื้อมาอย่างละ 100 ตัวถ้าเสื้อขาวขายได้หมด แต่เสื้อดำขายได้ 10 ตัว
คำถามคือคุณจะไปซื้อเสื้อตัวไหนมาขาย ก็ต้องเป็นตัวที่ความต้องการเยอะ
ตัวที่ทำเงินให้เราได้ เราคงจะไม่ไปซื้อเสี้อดำมาเพิ่มอีกหรอกทั้งๆที่ชุดแรกก็ขายแทบไม่ออก
เราควรจะขายเสื้อดำแบบลดราคาให้ได้เงินมาหมุนได้ซ้ำ
ผมเพิ่งจัดงานมีทติ้งที่บล็อกโดยให้สมาชิกที่ไป 15 คนแชร์ว่าตัวไหนที่เคยเล่นแล้วขาดทุนเยอะสุด และตัวไหนที่เคยเล่นและกำไรเยอะสุด
ปรากฏว่ากรณีที่ขาดทุนเยอะสุดมักเกิดจากการคาดหวังสูง การรักหุ้นมากไป การหวังลมๆแล้งๆกับตลาด ซื้อแล้วไม่เป็นอย่างที่คิดแต่ยังซื้อเพิ่มมีคนนึงเห็นว่าซื้อ snc ตอน 14-15 บาทแล้วประกาศเพิ่มทุนแถว 12 บาทก็ไปซื้อเพิ่มทุนอีกพอตลาด crash ลงไปถึง 3 บาททีเดียว
ส่วน case ที่กำไรกันเยอะๆอย่างเช่น sat kye เป็นต้น sat ตอน 3 บาทยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวจากยอดรถยนต์แต่มามีตอนหุ้นประมาณ 5-6 บาทซึ่งตอนนั้นกำไรรายไตรมาสยังแย่อยู่มาก หรืออย่าง cpf เบรกไฮปี 2005 ที่ 6.5 และกำไรไตรมาสสองก็มากกว่าทั่งปีของปีก่อนและราคาเนื้อสัตว์ยังขึ้นต่อหลาย คนซื้อตอน 6 บาทแล้วตอน 7-8 บาทก็อัดเพิ่มเข้าไปอีกเพราะซื้อแล้วได้ข้อมูลบางอย่างว่าบริษัทมีอนาคตที่ ดีและชัดเจนมากขึ้น
แชร์มุมมองครับ
พี่แมงเม่าตอบว่า
เห็นด้วยครับคุณ Hong คนส่วนใหญ่จะมี Price Level Bias เป็นที่ตั้ง ทำให้เกิดความผิดพลาดในการวิเคราะห์อย่างหนึ่งขึ้นมา นั่นคือยึดติดแต่กับระดับราคา แต่ลืมมองไปถึงแนวโน้มของสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เหมือนกับการยึดติดแต่อดีตและไม่ได้อยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
การไม่กล้าซื้อเพิ่มเมื่อมีกำไร แต่กลับซื้อเพิ่มเมื่อขาดทุนนั้น เป็นผลจากการต้องการเห็นว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้อง คนเราเลยมักที่จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาความชอบธรรมให้ตัวเองและไม่ยอมรับ ผิด ในกรณีนี้คือใช้การถัวเพราะหวังว่าจะไม่ขาดทุน จะไม่คิดผิดไปนั่นเอง
ซึ่งจากประสบการณ์ผมนั้น หุ้นที่ราคาทรุดลงมากๆ หรือลงแรงๆต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะกลับมา หรืออาจกลับมาไม่ได้เลย เพราะ Price Level Bias ตัวเดิมจะทำให้จิตวิทยาในตลาดยึดติดกับระดับก่อนที่จะตกลงมาว่าสูงเกินไป
การยอมตัดขาดทุน คือการทำสิ่งที่ถูกต้องในการเก็งกำไร แต่ผลของการเก็งกำไรแต่ละครั้งเป็นเพียง Random Outcome ซึ่งเราเอาแน่กับมันไม่ได้ ไม่ควรนำมาวัดค่าของตัวเราเอง
นั่งดูเปาบุ้นจิ้นอยู่ ท่านเปาบอกว่า “บ่อยครั้งที่ข้ายึดความถูกต้องเป็นที่ตั้ง แต่กลับต้องทำให้เสียน้ำใจกันไป ซึ่งก็คงได้แต่ทำใจกันไป ว่าทุกอย่างนั้นไม่มีสิ่งใดสมบูรณะพร้อม”
ผมว่าประโยคนี้ใช้ได้กับการเล่นหุ้นนะ มันเป็นเรื่องของวินัยในการที่เราจะทำสิ่งที่ถูกต้อง แทนความอยากระยะสั้นของเรา อิอิ
ผม(ฮง)ขอแชร์มุมมองนะครับ
ผมว่าหลายคนชอบสนใจเรื่องต้นทุนของหุ้นมากเกินไป
เช่นถ้าซื้อหุ้นที่ 3 บาทแล้วมันขึ้นไป 4 บาทก็จะไม่อยากถัวเฉลี่ยเพิ่ม
ตรง 4 บาทเพราะถ้าไปรวมกับทุนเดิมเดี่ยวมันจะกลายเป็น 3.5
ในทางกลับกันถ้าซื้อที่ 3 บาทแล้วลงไป 2.5 แล้วภาพลวงตาจะทำให้
เรารู้สึกว่าถ้าเราถัวไปที่ 2.5 ทุนเราจะกลายเป็น 2.75 ทำให้เราอยากถัว
จริงๆแล้วประสบการณ์ผมค่อนข้างน้อยนะที่ถ้าเราซื้อที่ 3 บาทแล้วมันไปเหลือ
2.5แล้วมันจะกลับมาได้ ถึงกลับมาได้ส่วนใหญ่ก็จะต้อง sideway ยาวพอควรก่อน
ประมาณ 3-5 เดือนเป็นอย่างน้อย
จริงๆแล้วการที่เราเล่นผมคิดว่าถ้าเราเราควรมองที่มูลค่าพอร์ตไม่ใช่มอง ที่ทุนของหุ้นบางตัวในพอร์ต
william oneil บอกว่าถ้าคุณเปิดร้านขายเสื้อแล้วขายสองสีเช่น ดำกับขาว
ถ้าซื้อมาอย่างละ 100 ตัวถ้าเสื้อขาวขายได้หมด แต่เสื้อดำขายได้ 10 ตัว
คำถามคือคุณจะไปซื้อเสื้อตัวไหนมาขาย ก็ต้องเป็นตัวที่ความต้องการเยอะ
ตัวที่ทำเงินให้เราได้ เราคงจะไม่ไปซื้อเสี้อดำมาเพิ่มอีกหรอกทั้งๆที่ชุดแรกก็ขายแทบไม่ออก
เราควรจะขายเสื้อดำแบบลดราคาให้ได้เงินมาหมุนได้ซ้ำ
ผมเพิ่งจัดงานมีทติ้งที่บล็อกโดยให้สมาชิกที่ไป 15 คนแชร์ว่าตัวไหนที่เคยเล่นแล้วขาดทุนเยอะสุด และตัวไหนที่เคยเล่นและกำไรเยอะสุด
ปรากฏว่ากรณีที่ขาดทุนเยอะสุดมักเกิดจากการคาดหวังสูง การรักหุ้นมากไป การหวังลมๆแล้งๆกับตลาด ซื้อแล้วไม่เป็นอย่างที่คิดแต่ยังซื้อเพิ่มมีคนนึงเห็นว่าซื้อ snc ตอน 14-15 บาทแล้วประกาศเพิ่มทุนแถว 12 บาทก็ไปซื้อเพิ่มทุนอีกพอตลาด crash ลงไปถึง 3 บาททีเดียว
ส่วน case ที่กำไรกันเยอะๆอย่างเช่น sat kye เป็นต้น sat ตอน 3 บาทยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวจากยอดรถยนต์แต่มามีตอนหุ้นประมาณ 5-6 บาทซึ่งตอนนั้นกำไรรายไตรมาสยังแย่อยู่มาก หรืออย่าง cpf เบรกไฮปี 2005 ที่ 6.5 และกำไรไตรมาสสองก็มากกว่าทั่งปีของปีก่อนและราคาเนื้อสัตว์ยังขึ้นต่อหลาย คนซื้อตอน 6 บาทแล้วตอน 7-8 บาทก็อัดเพิ่มเข้าไปอีกเพราะซื้อแล้วได้ข้อมูลบางอย่างว่าบริษัทมีอนาคตที่ ดีและชัดเจนมากขึ้น
แชร์มุมมองครับ
พี่แมงเม่าตอบว่า
เห็นด้วยครับคุณ Hong คนส่วนใหญ่จะมี Price Level Bias เป็นที่ตั้ง ทำให้เกิดความผิดพลาดในการวิเคราะห์อย่างหนึ่งขึ้นมา นั่นคือยึดติดแต่กับระดับราคา แต่ลืมมองไปถึงแนวโน้มของสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เหมือนกับการยึดติดแต่อดีตและไม่ได้อยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
การไม่กล้าซื้อเพิ่มเมื่อมีกำไร แต่กลับซื้อเพิ่มเมื่อขาดทุนนั้น เป็นผลจากการต้องการเห็นว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้อง คนเราเลยมักที่จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาความชอบธรรมให้ตัวเองและไม่ยอมรับ ผิด ในกรณีนี้คือใช้การถัวเพราะหวังว่าจะไม่ขาดทุน จะไม่คิดผิดไปนั่นเอง
ซึ่งจากประสบการณ์ผมนั้น หุ้นที่ราคาทรุดลงมากๆ หรือลงแรงๆต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะกลับมา หรืออาจกลับมาไม่ได้เลย เพราะ Price Level Bias ตัวเดิมจะทำให้จิตวิทยาในตลาดยึดติดกับระดับก่อนที่จะตกลงมาว่าสูงเกินไป
การยอมตัดขาดทุน คือการทำสิ่งที่ถูกต้องในการเก็งกำไร แต่ผลของการเก็งกำไรแต่ละครั้งเป็นเพียง Random Outcome ซึ่งเราเอาแน่กับมันไม่ได้ ไม่ควรนำมาวัดค่าของตัวเราเอง
นั่งดูเปาบุ้นจิ้นอยู่ ท่านเปาบอกว่า “บ่อยครั้งที่ข้ายึดความถูกต้องเป็นที่ตั้ง แต่กลับต้องทำให้เสียน้ำใจกันไป ซึ่งก็คงได้แต่ทำใจกันไป ว่าทุกอย่างนั้นไม่มีสิ่งใดสมบูรณะพร้อม”
ผมว่าประโยคนี้ใช้ได้กับการเล่นหุ้นนะ มันเป็นเรื่องของวินัยในการที่เราจะทำสิ่งที่ถูกต้อง แทนความอยากระยะสั้นของเรา อิอิ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2441
ไปด้วยความจำเป็นในหน้าที่การงานครับ
ปกติก้ไม่ชอบเที่ยวครับ เก็บเงินไว้ซื้อหุ้นมีความสุขกว่า :lol: :lol:
ปกติก้ไม่ชอบเที่ยวครับ เก็บเงินไว้ซื้อหุ้นมีความสุขกว่า :lol: :lol:
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2442
พี่แมงเม่าว่า
"ฝรั่งจะสับขาหลอกหรือไม่ ผมว่าไม่มีใครรู้ชัวร์ๆจนกว่าเกมจะจบแต่เกมนี้ไ่ม่เคยจบ มันหมุนวนต่อไปเรื่อยๆ..
“ใคร” ทำอะไรนั้น เป็นเรื่องที่เราไม่เคยจะมีข้อมูลได้เพียงพอและทันต่อเวลา
“ทำไม” นั้น เป็นเรื่องที่คำตอบเป็นปลายเปิด เพราะเรามี Participant เป็นร้อยๆพันๆคน เราไม่มีวันรู้ได้ถึงเหตุผลของพวกเขาทั้งหมดเช่นกัน
สำคัญอยู่ที่ว่า “อะไร” เกิดขึ้นมาบ้างแล้ว แล้วเราจะรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ถ้าเกิด A เราจะทำอะไร B จะทำอย่างไร C ล่ะจะทำอย่างไร หรือแม้แต่ถ้าไม่เกิดทั้ง 3 อย่างนี้ เราจะทำอย่างไร ซื้อที่ไหน ซื้อมากเท่าไหร่ ซื้อเพิ่มอีกตรงไหน ขายเท่าไหร่ดี?
คนบางคนไม่เคยแม้จะคิดตอบคำถามข้างบนนี้อย่างจริงจังๆ แต่มักเอาเวลาไปหาว่า “ใคร” ทำอะไร หรือ “ทำไม” จึงเกิดขึ้น แต่แล้วกลับไม่เคยได้ความชัดเจน หรือทันต่อเวลาเลย
“เราไม่มีวันรู้ชัวร์ๆว่า พรุ่งนี้ใครจะทำอะไรหรือจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง และเราก็ไม่มีวันรู้ว่า Re-action ต่อเหตุการณ์นั้นของคนแต่ละคนจะเป็นอย่างไรทั้งหมด เพราะแต่ละคนมีความเชื่อที่แตกต่างและเหลื่อมล้ำกันไปครับ”
"ฝรั่งจะสับขาหลอกหรือไม่ ผมว่าไม่มีใครรู้ชัวร์ๆจนกว่าเกมจะจบแต่เกมนี้ไ่ม่เคยจบ มันหมุนวนต่อไปเรื่อยๆ..
“ใคร” ทำอะไรนั้น เป็นเรื่องที่เราไม่เคยจะมีข้อมูลได้เพียงพอและทันต่อเวลา
“ทำไม” นั้น เป็นเรื่องที่คำตอบเป็นปลายเปิด เพราะเรามี Participant เป็นร้อยๆพันๆคน เราไม่มีวันรู้ได้ถึงเหตุผลของพวกเขาทั้งหมดเช่นกัน
สำคัญอยู่ที่ว่า “อะไร” เกิดขึ้นมาบ้างแล้ว แล้วเราจะรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ถ้าเกิด A เราจะทำอะไร B จะทำอย่างไร C ล่ะจะทำอย่างไร หรือแม้แต่ถ้าไม่เกิดทั้ง 3 อย่างนี้ เราจะทำอย่างไร ซื้อที่ไหน ซื้อมากเท่าไหร่ ซื้อเพิ่มอีกตรงไหน ขายเท่าไหร่ดี?
คนบางคนไม่เคยแม้จะคิดตอบคำถามข้างบนนี้อย่างจริงจังๆ แต่มักเอาเวลาไปหาว่า “ใคร” ทำอะไร หรือ “ทำไม” จึงเกิดขึ้น แต่แล้วกลับไม่เคยได้ความชัดเจน หรือทันต่อเวลาเลย
“เราไม่มีวันรู้ชัวร์ๆว่า พรุ่งนี้ใครจะทำอะไรหรือจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง และเราก็ไม่มีวันรู้ว่า Re-action ต่อเหตุการณ์นั้นของคนแต่ละคนจะเป็นอย่างไรทั้งหมด เพราะแต่ละคนมีความเชื่อที่แตกต่างและเหลื่อมล้ำกันไปครับ”
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2445
ไปงานสัมนา vi ตั้งใจจะไปคารวะพี่พอใจด้วยค่ะ พี่กุหลาบชมให้ฟังบ่อยๆ
เคยเห็นในรูปในเวป แต่หาตัวจริงพี่พอใจไม่เจอเชียว
เคยเห็นในรูปในเวป แต่หาตัวจริงพี่พอใจไม่เจอเชียว
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2449
ปีนี้ผมแปลกใจมากๆ
ผมอดทนถือเงินสดอยู่เนี่ย
รอและรอ
เพราะว่า ผมมองว่า มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แต่ยังไกลอยู่
ทั้งวิกฤติภายในและภายนอก
ภายนอก
US -> อยู่ในช่วง 2 ของวิกฤติ คือช่วงแก้ไขรากเหง้าของปัญหา
ไม่ใช่ช่วงที่หยุดเลือดไหลออก
กรีซ -> อยู่ในช่วงหยุดเลือดไหล
จีน-> มีหลากหลายคนกังวล รวมไปถึงองค์กรระหว่างประเทศ
โดยที่เขาหลายคนกลัวกันคือเรื่อง ราคาอสังหาริมทรัพย์ และ เรื่องแผ่นดินไหวที่เกิดบ่อยๆ
ตอนนี้ไม่ค่อยมีข่าว อิตาลีและสเปน ใครมีข่าวก็ตามไว้ดีๆ
ภายใน
- เสื้อหลากสี
- อหิงสา + สันติ แต่ทำจริงใช่หรือ
ผมเลยตอนนี้ถือเงินสดอยู่ครึ่งหนึ่ง คือมีกระสุนอยู่ 2 แม็ก แค่นั้นเอง
ดีไม่ดี อาจจะเป็น 3 แม๊กเหมือนเดิม
ผมอดทนถือเงินสดอยู่เนี่ย
รอและรอ
เพราะว่า ผมมองว่า มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แต่ยังไกลอยู่
ทั้งวิกฤติภายในและภายนอก
ภายนอก
US -> อยู่ในช่วง 2 ของวิกฤติ คือช่วงแก้ไขรากเหง้าของปัญหา
ไม่ใช่ช่วงที่หยุดเลือดไหลออก
กรีซ -> อยู่ในช่วงหยุดเลือดไหล
จีน-> มีหลากหลายคนกังวล รวมไปถึงองค์กรระหว่างประเทศ
โดยที่เขาหลายคนกลัวกันคือเรื่อง ราคาอสังหาริมทรัพย์ และ เรื่องแผ่นดินไหวที่เกิดบ่อยๆ
ตอนนี้ไม่ค่อยมีข่าว อิตาลีและสเปน ใครมีข่าวก็ตามไว้ดีๆ
ภายใน
- เสื้อหลากสี
- อหิงสา + สันติ แต่ทำจริงใช่หรือ
ผมเลยตอนนี้ถือเงินสดอยู่ครึ่งหนึ่ง คือมีกระสุนอยู่ 2 แม็ก แค่นั้นเอง
ดีไม่ดี อาจจะเป็น 3 แม๊กเหมือนเดิม
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2453
ชอบหรือเต็มใจก็ช่วยกันคนละไม้ละมือหน่อยครับ
รายการดีๆ
อีกหน่อยจะไม่มีให้ดู
ผมดูคนมาใหม่ คือบ.รัมมี่ที่เขาไม่ชอบรายการนี้ด้วย2เหตุคืุอ
1.เขาคิดว่ารายการนี้มันสอนรายย่อยมากไป
อีกหน่อยเจ้าหากินลำบาก ยุบมันซะดีกว่า
2.เขาเป็นเพื่อนคนที่คุณก็รู้ว่าใคร (บางที่เรียกตักขี้)เขาอาจคิดว่า
รายการนี้เป็นพวกอำมาตย์
เห็นอ.นิเวศน์บอกว่าพวกเราเป็นเสรีชนนี่หว่า
อำเพื่อนนะไม่แน่ อำมาตย์คงไม่ใช่ คนไปรายงานอากู่คงมั่วไปเอง
ดังนั้นเราต้องช่วยกันเมล์ไปบอกผจก.ตลท.คนใหม่
ดูสิว่า
ท่านเป็นเสรีชนเหมือนเราหรือเปล่า
ด่วน ! ประกาศ ขอความช่วยเหลือ SAVE Money Talk
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=41761
รายการดีๆ
อีกหน่อยจะไม่มีให้ดู
ผมดูคนมาใหม่ คือบ.รัมมี่ที่เขาไม่ชอบรายการนี้ด้วย2เหตุคืุอ
1.เขาคิดว่ารายการนี้มันสอนรายย่อยมากไป
อีกหน่อยเจ้าหากินลำบาก ยุบมันซะดีกว่า
2.เขาเป็นเพื่อนคนที่คุณก็รู้ว่าใคร (บางที่เรียกตักขี้)เขาอาจคิดว่า
รายการนี้เป็นพวกอำมาตย์
เห็นอ.นิเวศน์บอกว่าพวกเราเป็นเสรีชนนี่หว่า
อำเพื่อนนะไม่แน่ อำมาตย์คงไม่ใช่ คนไปรายงานอากู่คงมั่วไปเอง
ดังนั้นเราต้องช่วยกันเมล์ไปบอกผจก.ตลท.คนใหม่
ดูสิว่า
ท่านเป็นเสรีชนเหมือนเราหรือเปล่า
ด่วน ! ประกาศ ขอความช่วยเหลือ SAVE Money Talk
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=41761
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2455
ตอบพี่ป้อมก่อน
ตอนนี้ผมกำลังติดอาวุธเพิ่มเติมครับ
เมื่อก่อนติดอาวุธแบบหนักแบบและเบาบ้าง
แต่ไม่สามารถใช้อาวุธพวกนั้นได้เต็มประสิทธิภาพในสมรภูมิการลงทุน
ตอนนี้เลยต้องตัดสินใจว่า ถึงเวลาต้องเอาอาุวุธที่มีทั้งหมด
เอามาใช้งานจริงจังซักที โดยให้คนอื่นมาชี้แนะว่าอาวุธที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่
มันตรงกับคนอื่นใช้งานหรือไม่ เลยต้องนั่งศึกษาดูครับ
อ่านเองก็ได้แต่ใ้ช้เวลานานอยู่ เพราะต้องลองว่าอาวุธนั้นอาวุธนี้ใช้อย่างไง
เวลาไหน และผลของมันคืออะไร
และสิ่งอีกสิ่งที่ได้ตามมาคือ อาวุธเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ด้วย
สิ่งเหล่านี้ล่ะครับที่ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมครับ
การเรียนรู้มันไม่จบสิ้นหรอกครับ แต่ได้มาแล้วใช้เป็นหรือเปล่า
เข็นครกขึ้นภูเขา แต่เป็นภูเขาผิดลูกหรือเปล่า
ตอนนี้ผมกำลังติดอาวุธเพิ่มเติมครับ
เมื่อก่อนติดอาวุธแบบหนักแบบและเบาบ้าง
แต่ไม่สามารถใช้อาวุธพวกนั้นได้เต็มประสิทธิภาพในสมรภูมิการลงทุน
ตอนนี้เลยต้องตัดสินใจว่า ถึงเวลาต้องเอาอาุวุธที่มีทั้งหมด
เอามาใช้งานจริงจังซักที โดยให้คนอื่นมาชี้แนะว่าอาวุธที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่
มันตรงกับคนอื่นใช้งานหรือไม่ เลยต้องนั่งศึกษาดูครับ
อ่านเองก็ได้แต่ใ้ช้เวลานานอยู่ เพราะต้องลองว่าอาวุธนั้นอาวุธนี้ใช้อย่างไง
เวลาไหน และผลของมันคืออะไร
และสิ่งอีกสิ่งที่ได้ตามมาคือ อาวุธเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ด้วย
สิ่งเหล่านี้ล่ะครับที่ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมครับ
การเรียนรู้มันไม่จบสิ้นหรอกครับ แต่ได้มาแล้วใช้เป็นหรือเปล่า
เข็นครกขึ้นภูเขา แต่เป็นภูเขาผิดลูกหรือเปล่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2456
ครั้งหน้าเจอพี่มิผมคงต้องอยู่ห่างๆ กลัวอาวุธหนักเบาของพี่miracle เขียน:ตอบพี่ป้อมก่อน
ตอนนี้ผมกำลังติดอาวุธเพิ่มเติมครับ
เมื่อก่อนติดอาวุธแบบหนักแบบและเบาบ้าง
แต่ไม่สามารถใช้อาวุธพวกนั้นได้เต็มประสิทธิภาพในสมรภูมิการลงทุน
ตอนนี้เลยต้องตัดสินใจว่า ถึงเวลาต้องเอาอาุวุธที่มีทั้งหมด
เอามาใช้งานจริงจังซักที โดยให้คนอื่นมาชี้แนะว่าอาวุธที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่
มันตรงกับคนอื่นใช้งานหรือไม่ เลยต้องนั่งศึกษาดูครับ
อ่านเองก็ได้แต่ใ้ช้เวลานานอยู่ เพราะต้องลองว่าอาวุธนั้นอาวุธนี้ใช้อย่างไง
เวลาไหน และผลของมันคืออะไร
และสิ่งอีกสิ่งที่ได้ตามมาคือ อาวุธเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ด้วย
สิ่งเหล่านี้ล่ะครับที่ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมครับ
การเรียนรู้มันไม่จบสิ้นหรอกครับ แต่ได้มาแล้วใช้เป็นหรือเปล่า
เข็นครกขึ้นภูเขา แต่เป็นภูเขาผิดลูกหรือเปล่า
เข้ามาแซวพี่มิครับ :lol:
สติมา ปัญญาเกิด
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2457
ความคิดที่ตกผลึกสำหรับคนที่ชอบเทรด
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 01100.html
การเล่นหุ้นของสถาบัน(ทั้งไทยทั้งเทศ) เขามีข้อดี เช่นเดียวกับมีข้อเสีย
ข้อเสียเขาคือเขาไม่สามารถจะเร็วเท่า เราได้
ความใหญ่ของเขา จึงทำให้เกิดตัวบัฟเฟอร์ขึ้น ให้กับรายย่อย(อย่างผม)
รายย่อยอย่างผม และกับอีกหลายๆคนในนี้ เวลาเราขาย หรือซื้อ
เราทิ้งมันได้ไม้เดียวจบเลย
แต่รายใหญ่จะทำไม่ ได้
ซึ่งนั่นคือ เมื่อเขาเห็นเช่นเดียวกับเรา แต่เขาจะไม่สามารถทำเช่นเราได้
นั่นคือที่เขาต้องทำตัวบัฟเฟอร์นี้ขึ้นมา
ตัว บัฟเฟอร์นั้น คือสิ่งที่เราจะไปฉกฉวยใช้ประโยชน์
รายใหญ่นั้นในที่สุดจะ ไปกินเงินของรายย่อย ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของหุ้น
แต่โดยการรู้ตรงนั้น เราไปกินเงินรายใหญ่ ที่รู้ทั้งรู้ว่าลากหรือทุบ(ทั้ง2ด้าน)
นั้นจะโดน เรากิน โดยที่เขาฉลาดกว่าเราด้วยซ้ำไป แต่เขาต้องยอมให้เรากิน
เพื่อไป กินที่ใหญ่กว่า(รายย่อนส่วนใหญ่) และเป็นการปิดแม็ทช์
การทำเช่นนั้น ได้ เราจำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์สิ่งที่หัวข้อกระทู้นี้ได้ตั้งขึ้นมา
ติดตาม ในสิ่งที่กำลังเป็นตัวตัดสิน
ใช้ความแม่นยำ กับการเข้าใจ macro picture
รายใหญ่จะให้เรากินเงินเขาเสมอ เพื่อไปกินเงินคนอื่นที่เป็นmassที่ใหญ่กว่า
จาก คุณ : เลอคูเดอลาแมร์
เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:23:03
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 01100.html
การเล่นหุ้นของสถาบัน(ทั้งไทยทั้งเทศ) เขามีข้อดี เช่นเดียวกับมีข้อเสีย
ข้อเสียเขาคือเขาไม่สามารถจะเร็วเท่า เราได้
ความใหญ่ของเขา จึงทำให้เกิดตัวบัฟเฟอร์ขึ้น ให้กับรายย่อย(อย่างผม)
รายย่อยอย่างผม และกับอีกหลายๆคนในนี้ เวลาเราขาย หรือซื้อ
เราทิ้งมันได้ไม้เดียวจบเลย
แต่รายใหญ่จะทำไม่ ได้
ซึ่งนั่นคือ เมื่อเขาเห็นเช่นเดียวกับเรา แต่เขาจะไม่สามารถทำเช่นเราได้
นั่นคือที่เขาต้องทำตัวบัฟเฟอร์นี้ขึ้นมา
ตัว บัฟเฟอร์นั้น คือสิ่งที่เราจะไปฉกฉวยใช้ประโยชน์
รายใหญ่นั้นในที่สุดจะ ไปกินเงินของรายย่อย ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของหุ้น
แต่โดยการรู้ตรงนั้น เราไปกินเงินรายใหญ่ ที่รู้ทั้งรู้ว่าลากหรือทุบ(ทั้ง2ด้าน)
นั้นจะโดน เรากิน โดยที่เขาฉลาดกว่าเราด้วยซ้ำไป แต่เขาต้องยอมให้เรากิน
เพื่อไป กินที่ใหญ่กว่า(รายย่อนส่วนใหญ่) และเป็นการปิดแม็ทช์
การทำเช่นนั้น ได้ เราจำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์สิ่งที่หัวข้อกระทู้นี้ได้ตั้งขึ้นมา
ติดตาม ในสิ่งที่กำลังเป็นตัวตัดสิน
ใช้ความแม่นยำ กับการเข้าใจ macro picture
รายใหญ่จะให้เรากินเงินเขาเสมอ เพื่อไปกินเงินคนอื่นที่เป็นmassที่ใหญ่กว่า
จาก คุณ : เลอคูเดอลาแมร์
เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:23:03
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2460
ดาวตกอีกเป็นขบวนเลยเมื่อคืนนี้
มีเพื่อนคนหนึ่ง บอกไว้ว่า
หากมองดีๆ ตลาดทั่วโลกมันมีความสัมพันธ์กัน (ค่าเบต้า)
แต่ค่าีนี้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่า ตลาดนั้น มีนักลงทุนต่างชาติอยู่มากเท่าไร
เพราะ หากตลาดบ้านเขามีปัญหา เงินก็ไหลกลับได้เหมือนกัน
มีเพื่อนคนหนึ่ง บอกไว้ว่า
หากมองดีๆ ตลาดทั่วโลกมันมีความสัมพันธ์กัน (ค่าเบต้า)
แต่ค่าีนี้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่า ตลาดนั้น มีนักลงทุนต่างชาติอยู่มากเท่าไร
เพราะ หากตลาดบ้านเขามีปัญหา เงินก็ไหลกลับได้เหมือนกัน