โพสต์
นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในตลาดตราสารหนี้ได้ปรับลดลง 0.40-0.50% หลังจากนักลงทุนได้แห่เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งมองว่านักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง แม้จะมีผลตอบแทนที่ต่ำกว่าการลงทุนประเภทอื่น โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้นที่มีความผันผวน
"ตอนที่นักลงทุนทิ้งหุ้นก็แห่มาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีความมั่นคง ซึ่งก็ดีกับรัฐบาลเพราะมีต้นทุนต่ำ แต่การที่ผลตอบแทนลดลงก็อาจทำให้ผลตอบแทนที่จูงใจนักลงทุนไม่จูงใจอีกต่อไป"
สำหรับแผนการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งรอบถัดไป ได้กำหนดวันเสนอขายระหว่างวันที่ 17-21 พ.ค.นี้ โดยเสนอขายผ่านสถาบันการเงินแก่ผู้สูงอายุเป็นลำดับแรกในวงเงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยจะประกาศในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะนำเงินที่ได้จากการขายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งที่เสนอขายรอบนี้ไป รีไฟแนนซ์เงินกู้ระยะสั้นจากธนาคารพาณิชย์ เพื่อนำมาใช้จ่ายในโครงการไทยเข้มแข็ง
นายจักรกฤศฎิ์กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาการเมืองอาจทำให้การประเมินเครดิตเรตติ้งประเทศจากสถาบันจัด อันดับต่างๆ ถูกลดลงได้ โดยเฉพาะสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ซึ่งจะเข้ามารวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ ของไทยในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทั้งระดับหนี้สาธารณะ การจัดเก็บรายได้ รวมถึงการส่งออก เพียงแต่ไม่รู้ว่าการเมืองจะจบลงอย่างไร
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำวันที่ 22 เม.ย. 53
บันทึกไม่สำเร็จ