Value Way ฉบับวันที่ 22 มีนาคม 2553
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ
คุยกับบัฟเฟต
ต่อไปนี้เป็นคำถามต่อวอร์เรน บัฟเฟตในการให้สัมภาษณ์สถานี CNBC ในวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา
ถาม: คำถามจากผู้ชมทางบ้านจากรัฐอิลลินอยล์ถามว่า ปกติคุณเป็นนักลงทุนระยะยาว แต่ในไตรมาศสามปี 2009 คุณซื้อหุ้นบริษัทเอกซอนโมบิลและขายหุ้นบริษัทนี้ไปในไตรมาศถัดมา อะไรทำให้คุณเปลี่ยนใจได้เร็วขนาดนั้น
บัฟเฟต: บางครั้งเมื่อเราเริ่มซื้อหรือลงทุนในบริษัทใดบริษัทหนึ่งและเราไม่สามารถซื้อหุ้นบริษัทนั้นได้ตามจำนวนที่เราต้องการ รวมทั้งเราต้องการใช้เงินจำนวนมากในการเข้าซื้อบริษัทเบอร์ลิงตันทั้งบริษัท ทำให้เราต้องขายหุ้นออกไปบางส่วนโดยเฉพาะในหุ้นที่เราถือเป็นจำนวนไม่มากอย่างบริษัทเอกซอนโมบิล
ถาม: คุณอ่านรายงานประจำปีของบริษัทต่างๆปีละกี่เล่ม
บัฟเฟต: อาจจะเป็นร้อยนะ ผมเพิ่งอ่านรายงานประจำปีของบริษัทเอไอจี (AIG) จบ ความหนาประมาณ 550 หน้า ผมอ่านรายงานประจำปีเยอะมาก
ถาม: คุณพูดเสมอว่าให้โลภเมื่อคนอื่นกลัวและให้กลัวเมื่อคนอื่นโลภ ถามว่าคุณโลภหรือกลัวสำหรับสถานการณ์ตลาดหุ้นในตอนนี้
บัฟเฟต: คือว่าปกติผมมักเริ่มต้นจากความกลัวก่อน เมื่อผมเห็นโอกาสในการลงทุนผมถึงเริ่มค่อยๆโลภ แต่อย่างไรก็ตามผมมักมองถึงผลลบ (Downside) ของการลงทุนนั้นก่อนเสมอ หมายความว่าถ้าคุณไม่ขาดทุน คุณก็สามารถทำกำไรได้ นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เราทำผลตอบแทนได้ดี สิ่งต่างๆเหล่านี้ผมเรียนรู้จากเบน เกรแฮม (Ben Graham) ตั้งแต่ผมอายุได้ราวๆ 20 ปี ในช่วงสิบปีแรกของการลงทุนเป็นช่วงที่ดีที่สุดของผม เพราะในช่วงนั้นเราไม่ขาดทุนเลยสักปีเดียว ตอนนี้ราคาหุ้นเบิร์คไชน์อาจลดลงถึง 50% และมันเกิดขึ้นถึง 4 ครั้งตั้งแต่เราเข้าเป็นเจ้าของบริษัท เราอาจขาดทุนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วเราไม่ขาดทุนอย่างถาวรแน่นอน ผมมองผลลบของการลงทุนก่อนเสมอ
ถาม: คุณคิดว่าในตลาดตอนนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่โลภหรือกลัว
บัฟเฟต: ถ้าคุณลงทุน คุณควรลงทุนระยะยาว ในระยะยาวแล้ว ผมชอบที่จะถือหุ้นมากกว่าลงทุนในสินทรัพย์ราคาคงที่ (Fixed-dollar investment) หรือเข้าๆออกๆตลาดหุ้น
ถาม: คุณคิดว่าผู้จัดการกองทุนเฮดฟันด์ที่ใช้กลยุทธขายหุ้นแล้วซื้อคืน (Shorting) จะใช้กลยุทธเดิมไม่ได้ในอนาคต เมื่อกฏใหม่ของตลาดหลักทรัพย์สหรัฐออกมาเรื่องการกำหนดราคาช๊อตหุ้นหรือไม่
บัฟเฟต: การขายหุ้นแล้วซื้อคืน (Shorting) ไม่ใช่การลงทุน แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำเงินจากวิธีการนี้ไม่ได้ ในฐานะนักลงทุน คุณควรมองการลงทุนบนความคิดที่ว่าถ้าตลาดหุ้นปิดไปสักสองสามปี คุณยังมีความสุขอยู่ได้และพอใจกับผลประกอบการของธุรกิจที่คุณลงทุน
ถาม: คุณคิดว่าคุณเรียนรู้อะไรจากวิกฤติเศรษฐกิจในครั้งนี้
บัฟเฟต: สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากวิกฤติครั้งนี้เหมือนกับสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากหนังสือนักลงทุนที่ชาญฉลาด (The Intelligent Investor) ของเกรแฮม หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเมื่อปี 1949 ให้คุณอ่านบทที่ 8 ถึง 20 ที่บอกว่าเวลาลงทุนให้คุณซื้อหุ้นเหมือนซื้อส่วนหนึ่งของธุรกิจ ถ้าคุณซื้อธุรกิจที่ดีในราคาที่สมเหตุสมผลและถือมันไว้ คุณก็ไม่มีปัญหา ผมว่าถ้าเรามองหุ้นเหมือนสิ่งที่มีราคาเปลี่ยนแปลงไปมาและเมื่อคุณเริ่มใช้กราฟนั่นแสดงว่าคุณเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น ผมแนะนำให้ซื้อหุ้นในธุรกิจที่ดีราคาเหมาะสม ซื้อธุรกิจที่คุณเข้าใจและสามารถถือลืมไปได้หลายๆปี
คุยกับบัฟเฟต : ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 795
- ผู้ติดตาม: 0
คุยกับบัฟเฟต : ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 1
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
คุยกับบัฟเฟต : ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 2
ผมว่าถ้าเรามองหุ้นเหมือนสิ่งที่มีราคาเปลี่ยนแปลงไปมาและเมื่อคุณเริ่มใช้กราฟนั่นแสดงว่าคุณเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น
นี่คือหลัก ในหลายๆหลัก ของบัฟเฟท
หลักการณ์ของ technical ไม่มีเหตุผล ผมใช้เวลา เกือบ 5ปี
ที่จะบอกว่า technical เป็นสิ่งไร้สาระ
แต่ technical ก็ดีกว่า ไม่รู้มีอะไรในหัวเลย
นี่คือหลัก ในหลายๆหลัก ของบัฟเฟท
หลักการณ์ของ technical ไม่มีเหตุผล ผมใช้เวลา เกือบ 5ปี
ที่จะบอกว่า technical เป็นสิ่งไร้สาระ
แต่ technical ก็ดีกว่า ไม่รู้มีอะไรในหัวเลย
Blueplanet
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
คุยกับบัฟเฟต : ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 3
บัฟเฟต: บางครั้งเมื่อเราเริ่มซื้อหรือลงทุนในบริษัทใดบริษัทหนึ่งและเราไม่สามารถซื้อหุ้นบริษัทนั้นได้ตามจำนวนที่เราต้องการ รวมทั้งเราต้องการใช้เงินจำนวนมากในการเข้าซื้อบริษัทเบอร์ลิงตันทั้งบริษัท ทำให้เราต้องขายหุ้นออกไปบางส่วนโดยเฉพาะในหุ้นที่เราถือเป็นจำนวนไม่มากอย่างบริษัทเอกซอนโมบิล
ดีจังเลยครับที่ผมพอร์ทเล็ก อิอิ ทำอะไรได้ดั่งใจคิด อิอิ
ดีจังเลยครับที่ผมพอร์ทเล็ก อิอิ ทำอะไรได้ดั่งใจคิด อิอิ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คุยกับบัฟเฟต : ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 4
น่าจะหมายถึงการใช้กราฟในความคิดของบัฟเฟต ไม่ใช่การลงทุน แต่เป็นการเก็งกำไรนะบัฟเฟต: สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากวิกฤติครั้งนี้เหมือนกับสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากหนังสือ”นักลงทุนที่ชาญฉลาด” (The Intelligent Investor) ของเกรแฮม หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเมื่อปี 1949 ให้คุณอ่านบทที่ 8 ถึง 20 ที่บอกว่าเวลาลงทุนให้คุณซื้อหุ้นเหมือนซื้อส่วนหนึ่งของธุรกิจ ถ้าคุณซื้อธุรกิจที่ดีในราคาที่สมเหตุสมผลและถือมันไว้ คุณก็ไม่มีปัญหา ผมว่าถ้าเรามองหุ้นเหมือนสิ่งที่มีราคาเปลี่ยนแปลงไปมาและเมื่อคุณเริ่มใช้กราฟนั่นแสดงว่าคุณเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น ผมแนะนำให้ซื้อหุ้นในธุรกิจที่ดีราคาเหมาะสม ซื้อธุรกิจที่คุณเข้าใจและสามารถถือลืมไปได้หลายๆปี
ไม่ใช่ว่าการดูกราฟใช้ได้หรือไม่ได้ เำพราะคนที่ใช้แล้วสำเร็จก็มีเยอะแยะครับ
บางคนก็ทำกำไร 2000 ใน 10 ปีมาแล้ว (แต่ต้องเป็นคนคิดสูตรขึ้นมาใหม่เอง)