หุ้นโรงแรมที่ ผมว่า แปลก หาบทวิเคราะห์ไม่เคยเจอเลย

[ลุงขวด]

ใครมีความรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับโรงแรม ที่ ทาง n-park ต้องการให้ ออก จาก ตลาด หุ้นตัวนี้ เดิม ที ทาง n-park เข้าไปถือหุ้นใหญ่ โดยซื้อหุ้นโรงแรมนี้ ถึง ราคา 8 บาท..........มันแปลก ตรง ที่ หุ้นโรงแรมนี้ ขาย กิจการ บริษัทย่อย (โรงแรมแห่งหนึ่งในภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงแรมหัวใจของ หุ้นตัวนี้) ได้เงินมา 1620 ล้าน ถ้าเอาจำนวนหุ้น ไป หาร จะตก ได้ หุ้นละ 3 บาทกว่า เลยนะครับ...........ราคาซื้อขาย หุ้น ตัวนี้ แถว 4.70-4.80 บาท (วันนี้ไม่มีการซื้อขาย).........ใครมีความคิดเห็นอย่างไร กับ หุ้นตัวนี้ ลอง วิจารณ์ กัน หน่อย......เพราะ ผมเห็นว่า มันแปลก จริง ๆ ผมเข้าไปดู เขายังมีกิจการโรงแรมที่เหลืออยู่ แถม มี สัญญาระยะยาว ใน การให้เช่า อาคารต่าง ๆ ด้วย... บางกิจการก็เป็นเจ้าของ ที่ดินเอง.........มูลค่าตามบัญชีของเขา ก็ กว่า 6 บาท กิจการเริ่มมีกำไร ภาระหนี้ น้อยลงมากเลย เพราะได้เงินก้อนนี้มา............การซื้อขายหุ้น สภาพคล่อง ไม่ดี หุ้นฟัน หรอ คือ bid และ offer ห่างกันมาก

การลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ ผมเห็นแปลก ๆ เลย นำ มาตั้งกระทู้ ให้ พวกเรา ช่วยกันวิจารณ์ กัน .......... ถ้ากระทู้ ไม่เหมาะสม ก็ ลบ ได้เลยนะครับ หลัง ๆ นี้ ผมไม่ค่อย อยากจะ post เท่าไหร่ เพราะ ไม่รู้ กฏ เกณฑ์ ใหม่ ๆ ว่าจะให้พูด คุย เรื่องหุ้น ไปได้ แค่ไหน

[ลูกอิสาน]

หากจำไม่ผิดโรงแรมนี้ชื่อ เลอ เมอริเดียน หรือเปล่าครับ
อ่านข่าวเจอว่าเป็นโรงแรมดีติดอันดับกับเค้าเหมือนกันครับ
แต่มีข้อควรระวังดังนี้ครับ

1.จะมีการขายได้จริงๆ หรือเปล่า เพราะหุ้นส่วนน้อยในโรงแรมนี้ (ตระกูลฟูหรือเปล่า) คงไม่เต็มใจนัก
2.โรงแรมแห่งนี้เป็นหัวใจของ PA หากขายไปแล้วเป็นผลดีในระยะสั้นๆ แต่ในระยะยาวน่าห่วงครับ
3.เงินที่ขายได้ หากนำมาจ่ายปันผลก็ดูจะสมเหตุสมผล แต่หากนำไปให้ N-PARK ซึ่งกำลังขาดสภาพคล่องอย่างหนัก กู้ยืม ซึ่งอันนี้คงไม่ดีเอามากๆ เลยครับ

เป็นข้อสังเกตุเท่านั้นนะครับ เพราะผมไม่ได้ศึกษาข้อมูลแบบละเอียด

[CK]

เห็นว่าจะเอาเงินที่ขายได้ไปให้ผู้ถือหุ้น PA หรือไงนี่ล่ะครับ

...ส่วนสาเหตุที่ขายหุ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ถือหุ้นระหว่าง Avant กับ PMR มีความเห็นไม่ตรงกันในการบริหารกิจการโรมแรม
บริษัทระบุว่า จะนำเงินจากการขายหุ้น เพื่อจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นของ PA ตามแผนปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัท...

[Golden Stock]

เข้ามาอ่านเฉยๆ ครับ พอดีไม่ค่อยจะมีความรู้ในกลุ่มโรงแรมเท่าไรครับ

ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไร เนื่องจากสภาพคล่องต่ำ บ.หลักทรัพย์ต่างๆ ก็เลยไม่ค่อยอยากจะทำบทวิเคราะห์ออกมาน่ะครับ

[harry]

นั่นงัยล่ะ ไป company & broker visit สิ ถึงจะได้รู้ว่าทำไมไม่มี

[toon]

อันนี้เป็นข่าว จาก BIZ week ซัก 2 อาทิตย์ที่แล้วครับ

เบื้องหลังล้มดีล N-PARK ควบ PA สอดไส้ขาย"รร.เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต"

เกมขาย "รร.เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต บีช รีสอร์ท" มูลค่า 1,620 ล้านบาท สินทรัพย์ล้ำค่าที่สุดของแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA) ให้กับกลุ่ม "Avant Resorts limited" ไม่ต่างจากการตัดเส้นเลือดใหญ่ของ PA ทิ้งทันที

การที่ผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติให้ควบกิจการระหว่าง N-PARK กับ PA จึงเป็นเพียงหมากล่อในกระดาน ที่ใช้ลวงผู้ลงทุนรายย่อยให้หลงกล เพราะที่สุดแล้วเม็ดเงินจากการขายหุ้นครั้งนี้ ก็ไหลกลับสู่กระเป๋า "N-PARK ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 63.40% ของ PA อย่างไม่ต้องสงสัย

----------------------------

สาเหตุที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) และ บริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA) ยกเลิกการควบกิจการกัน

แต่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ กลับมีมติอนุมัติการขายหุ้นสามัญของ "บริษัท แปซิฟิค อาวันท์ โฮลดิ้งส์" จำนวน 625,000 หุ้น ที่ PA ถือหุ้นทางอ้อม 50% ผ่าน "บริษัท แปซิฟิค เมอริเดียน รีสอร์ท" ออกไปให้กับกลุ่ม "Avant Resorts limited" มูลค่า 1,620 ล้านบาทนั้น

มองเพียงผิวเผินอาจดูไม่เกี่ยวข้อง แต่ลึกๆ แล้วทั้ง 2 กรณีนี้อาจมองได้ว่าเป็นแผนอัน "ลึกล้ำ" และมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

เดิมนั้นแผนการควบรวมกิจการระหว่าง N-PARK กับ PA จะใช้วิธีการ "แลกหุ้น" (ไม่ใช้เงิน) แต่เมื่อถูกบังคับให้ซื้อหุ้น PA ด้วย "เงินสด" ในราคาหุ้นละ 5.86 บาท เกมที่ออกมา ก็คือ N-PARK พยายาม "ล้มดีล" ครั้งนี้

เพราะความตั้งใจเดิม N-PARK ต้องการควบรวมกิจการกับ PA เพราะต้องการรับรู้รายได้จาก PA ทันทีในสัดส่วน 63.40% โดยไม่ต้องใช้เงิน เนื่องจาก N-PARK อยู่ในช่วงของการลงทุนกว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2 ปี

นักวิเคราะห์มองว่า N-PARK พยายามเปลี่ยนแผน คือ "ล้มดีล" การควบรวมกิจการ เพราะไม่ต้องการซื้อหุ้น PA ด้วยเงินสด แล้วเดินหน้ามาขายสินทรัพย์ของ PA ในฐานะที่ตัวเองคุมเสียงข้างมากแทน เพราะสุดท้ายเม็ดเงินที่ขายได้จะถูกผ่านไปค้ำจุนกิจการของ N-PARK ที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินอีกต่อหนึ่ง

ประเด็นที่ถูกตั้งข้อสังเกต ก็คือ สินทรัพย์ชิ้นงามที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังบริษัท แปซิฟิค อาวันท์ โฮลดิ้งส์ ก็คือ โรงแรม เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวบนเกาะภูเก็ต บนที่ดินผืนงามประมาณ 72 ไร่ตั้งอยู่บริเวณหาดกะรนน้อย ตัวอาคารโรงแรมสูง 7 ชั้น มีห้องพักทั้งสิ้น 470 ห้อง

ที่สำคัญ โรงแรม เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต บีช รีสอร์ท แห่งนี้ คือ เส้นเลือดหลักที่สร้างรายได้ส่งตรงมาที่บริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA)

ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา โรงแรมแห่งนี้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 67% โดยมีอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยคืนละ 4,226 บาท

รายได้จากโรงแรม เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต บีช รีสอร์ท แห่งเดียวคิดเป็นรายได้ประมาณ 74% ของรายได้จาก "ธุรกิจโรงแรม" ทั้งหมดของ PA ซึ่งธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 56% ของรายได้รวม (ทั้งบริษัท)

ที่น่าสนใจกว่านั้น ก็คือ รายได้จากธุรกิจโรงแรมแม้จะมีเพียง 56% ของรายได้รวม แต่กลับทำกำไรขั้นต้นสูงถึง 81% ของกำไรทั้งหมดของ PA

หมายความว่า โรงแรม เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ทันทีที่ขายออกไปให้กับกลุ่ม "Avant Resorts limited" เท่ากับว่า กำไรของ PA จะลดฮวบลงทันที

การขายหุ้นครั้งนี้ แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ รายงานว่า บริษัทจะได้รับกระแสเงินสดก่อนหักภาษี 1,620 ล้านบาท และทำให้กลุ่ม PA รับรู้กำไรจากเงินลงทุนก่อนหักภาษีจำนวน 990 ล้านบาททันที

ถ้ามองผิวเผินเกมนี้ดูเหมือนว่าการรับรู้กำไรจะทำให้ฐานะการเงินของ PA แข็งแกร่งขึ้น และมีผลขาดทุนสะสมลดลง (ณ วันที่ 30 มิ.ย.2547 มีผลขาดทุนสะสม 2,518 ล้านบาท)

แต่ในข้อเท็จจริงผู้ที่เสียผลประโยชน์มากที่สุด ก็คือ แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA) เพราะที่ผ่านมาโรงแรม เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต บีช รีสอร์ท แห่งนี้สามารถทำกำไรอย่างต่อเนื่อง

ตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมา (2544-2546) พบว่า ในปี 2544 มีกำไร 154.44 ล้านบาท ปี 2545 กำไร 200.88 ล้านบาท และปี 2546 มีกำไร 143.95 ล้านบาท ส่วนครึ่งปี 2547 มีกำไร 155 ล้านบาท และมีกำไรสะสมสูงถึง 1,052.09 ล้านบาท

ประเด็นคำถามขณะนี้ ก็คือ แล้วเงิน 1,620 ล้านบาทที่ขายได้จะไปตกอยู่ในมือใคร ซึ่งมีการระบุชัดเจนว่า เงินจะถูกส่งคืนให้กับผู้ถือหุ้นของ PA ตามโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท

นั่นหมายความว่า เงินกำไรจะกลับคืนไปสู่กระเป๋า "N-PARK" ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ PA ในสัดส่วน 63.40%

การที่ผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติให้ควบรวมกิจการระหว่าง N-PARK กับ PA แต่กลับมีการสอดไส้ขาย โรงแรม เลอ เมอริเดียน ภูเก็ต บีช รีสอร์ท จึงเป็น "หมากล่อ" ในกระดาน ที่ใช้ "ลวง" ผู้ลงทุนรายย่อยให้หลงกลเต็มๆ

[ปรัชญา]

จากลงไปเหลือ80สตางค์
เมื่อวานปิด1.20บาท
กำไร50%แล้วลุงขวด

[ลุงขวด]

หุ้นเก็งกำไรผมไม่ชอบอยู่แล้ว ครับ .... หุ้นสวนธรรมชาติ นั้น ผมเก็บไว้แค่ 2 พันหุ้น ฮิฮิ ทุนที่ 1.06 บาท ใช้เงินแค่ 2 พันกว่าบาท ที่ เก็บไว้ จะดูความคิด และ ติดตามบทบาทของเจ้าของว่า เขาจะดำเนินธุรกิจแบบไหน ผมว่า แนวคิดของเขาดี แต่การลงทุน มันต้องใช้เงิน ฉะนั้น เงินจะมาจากไหน ละครับ

ส่วนที่ผมเก็งกำไร มากหน่อย ก็ หุ้น โรงแรมที่กล่าวข้างบนนี่แหละ จะดู ซิว่า ที่ได้มา หุ้นละ 3 บาทกว่า เขาจะคืนให้ผู้ถือหุ้นเดิมหรือเปล่า หรือ เขาจะเอาเงินไปทำอะไร

ประเด็นคำถามขณะนี้ ก็คือ แล้วเงิน 1,620 ล้านบาทที่ขายได้จะไปตกอยู่ในมือใคร ซึ่งมีการระบุชัดเจนว่า เงินจะถูกส่งคืนให้กับผู้ถือหุ้นของ PA ตามโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท
นี่คือประเด็น ที่ น่าจะเข้าไปติดตามดูครับ

[ลุงขวด]

วันนี้เห็นประกาศว่า ทาง PA ช่วยเหลือการเงินเพิ่มสภาพคล่องให้ N-park ไป 60 ล้าน ระยะสั้น 3 เดือน ดอกเบี้ย 5.75%........พี่สวนธรรมชาติครับ อย่า ยืมไป มาก ๆ เลยนะครับ เพราะ ผมคิดว่า เงินที่ได้มา น่าจะคืนผู้ถือหุ้นเป็นปันผล ที่ไม่ได้รับ นานแล้ว....และ พี่สวนธรรมชาติ ก็จะได้คืนด้วย ใช้หนี้ 60 ล้านได้อย่างสบาย ๆ เลย