ธรรมะ ธรรมชาติ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1171
คอลัมน์กิเลนประลองเชิง
หน้า3ไทยรัฐ
คอลัมนิสต์ผู้ยิ่งใหญ่ หัวใจธรรมะ
เขียนถึงหลวงพ่อปราโมทย์
ลองอ่านกันดูครับ
http://www.thairath.co.th/column/pol/chuckthong/59930
ธรรมะหลวงพ่อปราโมทย์
หนังสือ ธรรมะเล่มหนา ชื่อประมวลธรรมเทศนา รวบรวมโดย สุรพล สายพานิช และคณะ เป็นหนังสือเล่มล่า ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ที่มีคนส่งมาให้
มีคำว่าสงวนลิขสิทธิ์ ห้ามพิมพ์จำหน่าย ห้ามคัดลอกหรือตัดตอน...เหมือนทุกเล่มที่ผมเคยได้
เคยกราบท่านในงานศพคุณแม่ "ดังตฤณ" ผมก็ถาม "ธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นของกลางนะโยม" ท่านตอบให้ผมสบายใจ "ใครก็เอาไปใช้ก็ได้"
เปิดอ่านหัวข้อ "คัมภีร์มหายาน ก็ดีเหมือนกัน" หลวงพ่อเทศน์ไว้เมื่อ 4 มีนาคม 2551
พระ จีนบอกว่า หลวงพ่อสอนเหมือนมหายาน พระจีนรูปนี้เคยแปลพระสูตร ชื่อมหาไวปุลยสมปูรณ โพธิอรรถะ คัมภีร์นี้สอนว่า ทั้งกายและจิตเป็นภาพมายา
ถ้ารู้ลงมาในกายนี้ เห็นกายนี้ เป็นแค่ธาตุสี่ ดินน้ำไฟลม แล้วเกิดเป็นภาพลวงตา คือขน ผม เล็บ ฟัน หนังเนื้อ เอ็น กระดูก ให้เรียนรู้ลงมาในกายในจิตจนเพิกเอามายาออกไป
มายาเป็นความเห็นผิด ความหลงผิด ก็จะได้รู้ จริงๆแล้ว ไม่มีตัวตน
หลวง พ่อเคยอ่านคัมภีร์มหายาน คัมภีร์ดีๆของเขามีหลายเล่ม ท่านเปรียบเทียบคล้ายๆกับเพชรสักเม็ดหนึ่ง เพชรไม่มีสี แต่เรามองเห็นแล้วว่ามีแสงหลายสี เป็นสีรุ้ง สีอะไร
นี่มันเป็น ภาพลวงตา ตัวมันจริงๆไม่มีสี สิ่งที่เรียกว่าตัวเราจริงๆก็ไม่มี เป็นแค่ภาพลวงตา ถ้ารู้ทันภาพลวงตาก็เพิกมายาออกไป ก็จะเห็นสิ่งซึ่งไม่ใช่มายา สิ่งซึ่งพ้นจากมายา พ้นจากความปรุงแต่ง
ถ้าพูดอย่างของเรา ไปเป็นนิพพาน แต่ของเขาก็คือเห็นพุทธะ เห็นพระพุทธเจ้า สำนวนโวหารแตกต่างกัน ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือเนื้อหา
คำสอนใดๆ ถ้าสอนให้เราย้อนมารู้กายรู้ใจ จนเห็นตัวจริงของมัน ไม่ใช่ภาพลวงตาของมัน
คำสอนนี้ใช้ได้
ตัว จริงของร่างกายนี้จริงๆ เป็นแค่วัตถุธาตุ นามธรรมทั้งหลาย ก็เป็นสิ่งที่อาศัยการกระทบกัน เกิดขึ้นเป็นคราวๆ อย่างตาเห็นรูป ก็เกิดวิญญาณทางตา เกิดจิตขึ้นทางตา อาศัยวัตถุกระทบกันเกิดจิตได้
อาศัยใจตรึกใจคิด เกิดจิตวิญญาณทางใจ อาศัยกันเกิดขึ้นมา
ฉะนั้น สิ่งที่เรารู้สึกเป็นจิตของเรา หรือเป็นตัวของเรานี่ จริงๆ แล้วก็เป็นภาพลวงตา เนื้อแท้ของเขาก็เป็นรูปธรรมบ้าง นามธรรมบ้าง อาศัยกันเกิดขึ้นมาเป็นคราวๆ แล้วก็ดับสลายไป
ถ้าผู้ใดภาวนาจนเพิกเอาความเห็นผิดว่ามีตัวมีตน ออกไปได้ก็เข้าถึงธรรมะแท้ๆ
เข้าถึงความเป็นพุทธะ
คัมภีร์ มหายานชื่อ มหาไวปุลยสมปูรณ โพธิอรรถ เนื้อหาสาระเหมือนกับที่หลวงพ่อพูดให้ฟังนี่แหละ มิน่าล่ะ พระจีนถึงบอกว่า หลวงพ่อสอนเหมือนมหายาน ที่แท้มหายานเหมือนกับของเราต่างหาก
เพราะเถรวาทเกิดก่อน มหายานเกิดภายหลัง แต่ว่าเนื้อหาสาระธรรมะแท้ๆ เขาก็รักษาเอาไว้ได้เหมือนกัน มีเหมือนกัน เขาก็มีพระอริยะ
ผม อ่านธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์แล้ว ก็นึกถึงคำท่าน ธรรมะไม่เพียงเป็นของกลาง ที่ใครรู้จักใช้ก็ใช้ได้ ผมยังศรัทธาแน่นแฟ้นว่า ธรรมะทุกข้อ เป็นของบริสุทธิ์ เป็นของดี
ส่วนเรื่องผู้สอนธรรมะ จะมีวัตรปฏิบัติแค่ไหน อย่างไร ต้องแยกกันให้ชัดเจน เป็นคนละเรื่อง
ถึง วันนี้ ผมก็ยังเชื่ออยู่ว่า พระที่สอนธรรมะได้ดี เป็นพระดี แต่หากจะมีเรื่องไม่ดี น่าจะไม่ใช่เรื่องของพระ แต่เป็นเรื่องของคน ที่หนีไม่พ้นรัก โลภ โกรธ หลง เวียนว่ายไปตามวิสัยโลก.
กิเลน ประลองเชิง
หน้า3ไทยรัฐ
คอลัมนิสต์ผู้ยิ่งใหญ่ หัวใจธรรมะ
เขียนถึงหลวงพ่อปราโมทย์
ลองอ่านกันดูครับ
http://www.thairath.co.th/column/pol/chuckthong/59930
ธรรมะหลวงพ่อปราโมทย์
หนังสือ ธรรมะเล่มหนา ชื่อประมวลธรรมเทศนา รวบรวมโดย สุรพล สายพานิช และคณะ เป็นหนังสือเล่มล่า ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ที่มีคนส่งมาให้
มีคำว่าสงวนลิขสิทธิ์ ห้ามพิมพ์จำหน่าย ห้ามคัดลอกหรือตัดตอน...เหมือนทุกเล่มที่ผมเคยได้
เคยกราบท่านในงานศพคุณแม่ "ดังตฤณ" ผมก็ถาม "ธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นของกลางนะโยม" ท่านตอบให้ผมสบายใจ "ใครก็เอาไปใช้ก็ได้"
เปิดอ่านหัวข้อ "คัมภีร์มหายาน ก็ดีเหมือนกัน" หลวงพ่อเทศน์ไว้เมื่อ 4 มีนาคม 2551
พระ จีนบอกว่า หลวงพ่อสอนเหมือนมหายาน พระจีนรูปนี้เคยแปลพระสูตร ชื่อมหาไวปุลยสมปูรณ โพธิอรรถะ คัมภีร์นี้สอนว่า ทั้งกายและจิตเป็นภาพมายา
ถ้ารู้ลงมาในกายนี้ เห็นกายนี้ เป็นแค่ธาตุสี่ ดินน้ำไฟลม แล้วเกิดเป็นภาพลวงตา คือขน ผม เล็บ ฟัน หนังเนื้อ เอ็น กระดูก ให้เรียนรู้ลงมาในกายในจิตจนเพิกเอามายาออกไป
มายาเป็นความเห็นผิด ความหลงผิด ก็จะได้รู้ จริงๆแล้ว ไม่มีตัวตน
หลวง พ่อเคยอ่านคัมภีร์มหายาน คัมภีร์ดีๆของเขามีหลายเล่ม ท่านเปรียบเทียบคล้ายๆกับเพชรสักเม็ดหนึ่ง เพชรไม่มีสี แต่เรามองเห็นแล้วว่ามีแสงหลายสี เป็นสีรุ้ง สีอะไร
นี่มันเป็น ภาพลวงตา ตัวมันจริงๆไม่มีสี สิ่งที่เรียกว่าตัวเราจริงๆก็ไม่มี เป็นแค่ภาพลวงตา ถ้ารู้ทันภาพลวงตาก็เพิกมายาออกไป ก็จะเห็นสิ่งซึ่งไม่ใช่มายา สิ่งซึ่งพ้นจากมายา พ้นจากความปรุงแต่ง
ถ้าพูดอย่างของเรา ไปเป็นนิพพาน แต่ของเขาก็คือเห็นพุทธะ เห็นพระพุทธเจ้า สำนวนโวหารแตกต่างกัน ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือเนื้อหา
คำสอนใดๆ ถ้าสอนให้เราย้อนมารู้กายรู้ใจ จนเห็นตัวจริงของมัน ไม่ใช่ภาพลวงตาของมัน
คำสอนนี้ใช้ได้
ตัว จริงของร่างกายนี้จริงๆ เป็นแค่วัตถุธาตุ นามธรรมทั้งหลาย ก็เป็นสิ่งที่อาศัยการกระทบกัน เกิดขึ้นเป็นคราวๆ อย่างตาเห็นรูป ก็เกิดวิญญาณทางตา เกิดจิตขึ้นทางตา อาศัยวัตถุกระทบกันเกิดจิตได้
อาศัยใจตรึกใจคิด เกิดจิตวิญญาณทางใจ อาศัยกันเกิดขึ้นมา
ฉะนั้น สิ่งที่เรารู้สึกเป็นจิตของเรา หรือเป็นตัวของเรานี่ จริงๆ แล้วก็เป็นภาพลวงตา เนื้อแท้ของเขาก็เป็นรูปธรรมบ้าง นามธรรมบ้าง อาศัยกันเกิดขึ้นมาเป็นคราวๆ แล้วก็ดับสลายไป
ถ้าผู้ใดภาวนาจนเพิกเอาความเห็นผิดว่ามีตัวมีตน ออกไปได้ก็เข้าถึงธรรมะแท้ๆ
เข้าถึงความเป็นพุทธะ
คัมภีร์ มหายานชื่อ มหาไวปุลยสมปูรณ โพธิอรรถ เนื้อหาสาระเหมือนกับที่หลวงพ่อพูดให้ฟังนี่แหละ มิน่าล่ะ พระจีนถึงบอกว่า หลวงพ่อสอนเหมือนมหายาน ที่แท้มหายานเหมือนกับของเราต่างหาก
เพราะเถรวาทเกิดก่อน มหายานเกิดภายหลัง แต่ว่าเนื้อหาสาระธรรมะแท้ๆ เขาก็รักษาเอาไว้ได้เหมือนกัน มีเหมือนกัน เขาก็มีพระอริยะ
ผม อ่านธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์แล้ว ก็นึกถึงคำท่าน ธรรมะไม่เพียงเป็นของกลาง ที่ใครรู้จักใช้ก็ใช้ได้ ผมยังศรัทธาแน่นแฟ้นว่า ธรรมะทุกข้อ เป็นของบริสุทธิ์ เป็นของดี
ส่วนเรื่องผู้สอนธรรมะ จะมีวัตรปฏิบัติแค่ไหน อย่างไร ต้องแยกกันให้ชัดเจน เป็นคนละเรื่อง
ถึง วันนี้ ผมก็ยังเชื่ออยู่ว่า พระที่สอนธรรมะได้ดี เป็นพระดี แต่หากจะมีเรื่องไม่ดี น่าจะไม่ใช่เรื่องของพระ แต่เป็นเรื่องของคน ที่หนีไม่พ้นรัก โลภ โกรธ หลง เวียนว่ายไปตามวิสัยโลก.
กิเลน ประลองเชิง
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1172
พี่พอใจ ยุโรป กับ ดาว เน่าแล้วครับ เละตุ้มเปะ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1173
มันเป็นเช่นนั้นเอง ตถตาsmith_sanguan เขียน:พี่พอใจ ยุโรป กับ ดาว เน่าแล้วครับ เละตุ้มเปะ
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1174
ชีวิตคนเรามันก็ไม่มีไรมากนะผมว่า
วันก่อนเห็นข่าว แผ่นดินไหว เฮติ
แล้วเกิด ปลง ขึ้นมาเลยครับ
:oops:
วันก่อนเห็นข่าว แผ่นดินไหว เฮติ
แล้วเกิด ปลง ขึ้นมาเลยครับ
:oops:
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1176
แต่รู้สึก อาจารย์หมอ กับ อา จะพอร์ตว่างใช้ไม๊ครับ :lol:
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1178
มากวน ก็รู้ว่ามากวน ผมลักย์ 8 ปีก 7 ชอบแหย่ ชอบเล่น ที่ปีก7 เวลา เครียด จะเงียบมากครับ 555 :lol: น้องหมอบอกpor_jai เขียน: ไม่เพ่งก็ว่าง
เอ้า..ตอบผิดกระทู้คิดว่าเรื่องธรรมะ...ฮ่า...
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1179
*** หมาขี้เรื้อน ***
ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษากลับ มาจากเมืองนอก ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสีย ก่อน เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆ จากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้
เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ แห่งหนึ่งเสร็จแล้ว ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่า แถวภาคอีสาน
พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย เมื่อมาอยู่วัดป่า กว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆ กัน ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะพระใหม่มีนิสัยชอบจับ ผิดและชอบอวดรู้ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ
วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ได้รับการศึกษา สูงเหมือนอย่างตน ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้า ก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัยไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี่ ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่าท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือ เกินกว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา
ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้าง ก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปที ล้างไปบ่นไป ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่ รู้ โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ถือดีว่าตัวเองมีชาติ ตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้าน ชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตูนึก แล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจ กลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทินนับถอยหลัง รอวันสึกด้วยใจจดจ่อ
อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอก ก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ซ้ำนาน ๆ ครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง วัน ๆ ไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่างเห็นแล้ว เลยนึกร้อนวิชาเสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้า สมัย รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วย
อีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้วไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก
อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้น พระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตน เอง ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า
เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำหลวง พ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทราย ด้วยท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อย ทั้งหลายฟัง แต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งที่นอนอยู่ ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ
เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน คันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้น เดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้ อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน
แต่พวกเธอรู้ไหมเจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ ในใจ หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน
เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า..เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่ เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่ แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตร สวดมนต์เย็นแล้ว
ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษากลับ มาจากเมืองนอก ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสีย ก่อน เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆ จากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้
เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ แห่งหนึ่งเสร็จแล้ว ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่า แถวภาคอีสาน
พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย เมื่อมาอยู่วัดป่า กว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆ กัน ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะพระใหม่มีนิสัยชอบจับ ผิดและชอบอวดรู้ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ
วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ได้รับการศึกษา สูงเหมือนอย่างตน ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้า ก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัยไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี่ ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่าท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือ เกินกว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา
ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้าง ก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปที ล้างไปบ่นไป ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่ รู้ โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ถือดีว่าตัวเองมีชาติ ตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้าน ชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตูนึก แล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจ กลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทินนับถอยหลัง รอวันสึกด้วยใจจดจ่อ
อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอก ก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ซ้ำนาน ๆ ครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง วัน ๆ ไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่างเห็นแล้ว เลยนึกร้อนวิชาเสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้า สมัย รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วย
อีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้วไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก
อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้น พระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตน เอง ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า
เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำหลวง พ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทราย ด้วยท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อย ทั้งหลายฟัง แต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งที่นอนอยู่ ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ
เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน คันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้น เดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้ อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน
แต่พวกเธอรู้ไหมเจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ ในใจ หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน
เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า..เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่ เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่ แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตร สวดมนต์เย็นแล้ว
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1180
เป็นบทความที่เขียนได้ดีมากpor_jai เขียน:*** หมาขี้เรื้อน ***
ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษากลับ มาจากเมืองนอก ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสีย ก่อน เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆ จากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้
แต่พวกเธอรู้ไหมเจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ ในใจ หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน
เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า..เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่ เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่ แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตร สวดมนต์เย็นแล้ว
ชายหนุ่มจบนอกในเรื่อง ไม่มีความตั้งใจที่จะบวชตั้งแต่แรก แต่บวชเพื่อสนอง
ศรัทธาในธรรมเนียมของผู้เป็นแม่ และยังไม่ทันได้เรียนรู้ชีวิตทางโลก
ไม่มีบาดแผลทางกาย ทางใจ ที่ถือเป็นวัตถุดิบชั้นดี ในการเรียนรู้หลักธรรม เหมือนคนจบ ป.ตรี แล้วให้ไปเรียนโท MBA ก็จะไม่มีประสบการณ์
ทำงานไปถกเถียงกับอาจารย์ และเพื่อนในห้องได้ ไม่บังเกิดผลเท่าที่ควร
อย่างนี้มันก็คงคันตั้งแต่แรกที่ได้ยินคำว่า
บวชให้แม่นะ..ลูก สาเหตุของอาการคันก็ไม่ต้องไปหาที่ไหนหรอก
จากสังเกตผู้คนมาตั้งแต่เด็ก โดยส่วนตัวรู้สึกว่า คนไทยที่นับถือและปฏิบัติตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนาส่วนใหญ่ เอาศรัทธานำหน้าปัญญา รับเอาธรรมเนียม การบูชา/ความเชื่อที่รับจากหลายแห่งมาปนกันจนหลักการในใจเละตุ้มเป๊ะ น่าสมเพชยิ่งกว่าเกิดเป็นเป็ดเสียอีก
สมควรโละกระพี้ทิ้งให้หมด ไม่สนว่ามันจะมีมากี่ร้อยปี แล้ววางฐานใหม่หมด
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1181
น้องโวลท์ครับ ก่อนหน้านี้ พี่ก็คิดแบบน้องนี่แหละ ไม่เห็นคุณประโยชน์ของกระพี้เลย แต่ได้ฟังคำสอนของหลวงพ่อปราโมทย์นี่แหละ ว่า กระพี้ก็ยังมีส่วนที่เป็นประโยชน์อยู่บ้าง แต่ไม่ได้ให้ยึดเป็นหลักใหญ่สมควรโละกระพี้ทิ้งให้หมด ไม่สนว่ามันจะมีมากี่ร้อยปี แล้ววางฐานใหม่หมด
ลองดูต้นไม้ใหญ่สิครับ หากไม่มีกระพี้หรือเปลือกแล้ว จะเหลือเป็นสภาพเช่นไร
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1183
เพราะมีกรรม จึงเป็นหมาขี้เรือน
จะเข้าถึงธรรมะ หรือไม่แล้วแต่บุญกรรม ของดี ของวิเศษ อยู่ตรงหน้า ยังไม่คว้าไว้ ก็ไม่มีใครช่วยได้ครับ
จะเข้าถึงธรรมะ หรือไม่แล้วแต่บุญกรรม ของดี ของวิเศษ อยู่ตรงหน้า ยังไม่คว้าไว้ ก็ไม่มีใครช่วยได้ครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1185
ผมเป็นคนขี้สงสัย ถามแหลกตั้งแต่เด็ก ไม่หยุดถามจนกว่าจะได้คำตอบที่ต้องการ ทุกวันนี้ มีหลายคำถามที่พยายามแกะมาตั้งแต่เด็ก แต่ยังไม่ได้คำตอบสักที และปักใจว่าเป็นเหตุให้ ชีวิตส่วนใหญ่ล้มเหลว ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
หลังจากวางเป้าหมายเสร็จ ก็พยายามคิดหาวิธีการที่จะไปให้ได้ อยุ่หลายวัน
แต่ก็ยังไม่สามารถเลือกวิธีการเหล่านี้ได้ทันที เหมือนมีอะไรบางอย่างมาขัด
ว่า วิธีการใหม่ มันไม่ดี ทั้งๆที่มันมีเหตุผลที่ดี
หลายวันมานี้ รู้สึกว่าเหมือนเจอทาง หลายแพร่ง ไม่สามารถฟันธงได้เลย
ไม่แน่ใจว่า ความคิดนั้นหาดียาก หรือว่า เป็นเพราะคนทำไม่มีคุณสมบัติพอ
พี่ๆที่เคารพทุกครับ ผมอยาก check ตัวเอง ด้วยการสวดมนต์ให้สำเร็จ
เพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยข้างบนเอง
ตอนนี้กำลังหัดสวดมนต์ ชินบัญชร ซึ่งมีทั้งหมด 15 บท
ทั้งเปิดสมุดอ่าน แล้วตามด้วยการสวดปากเปล่า หลายๆรอบๆ
พบว่าสามารถจำเนื้อสวด และตัวสะกดต่างๆได้ถึงบทที่ 4 เท่านั้น
หลังจากนั้น ยังรู้สึกไม่คุ้นเคย และรู้สึกจดจำยากเหลือเกิน
บางบท แค่เปิดสมุดอ่านออกเสียง ยังรู้สึกถึงความอึดอัด
ในการอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง โดยเฉพาะบทที่ 8
ปล. ผมค่อยๆสวดนะครับ พยายามเปล่งทุกคำให้ถุกต้องที่สุด
มีใครจะช่วยชี้แนะ การสวดมนต์ให้จำได้ขึ้นใจ + รวดเร็ว ขึ้นครับ :D
หลังจากวางเป้าหมายเสร็จ ก็พยายามคิดหาวิธีการที่จะไปให้ได้ อยุ่หลายวัน
แต่ก็ยังไม่สามารถเลือกวิธีการเหล่านี้ได้ทันที เหมือนมีอะไรบางอย่างมาขัด
ว่า วิธีการใหม่ มันไม่ดี ทั้งๆที่มันมีเหตุผลที่ดี
หลายวันมานี้ รู้สึกว่าเหมือนเจอทาง หลายแพร่ง ไม่สามารถฟันธงได้เลย
ไม่แน่ใจว่า ความคิดนั้นหาดียาก หรือว่า เป็นเพราะคนทำไม่มีคุณสมบัติพอ
พี่ๆที่เคารพทุกครับ ผมอยาก check ตัวเอง ด้วยการสวดมนต์ให้สำเร็จ
เพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยข้างบนเอง
ตอนนี้กำลังหัดสวดมนต์ ชินบัญชร ซึ่งมีทั้งหมด 15 บท
ทั้งเปิดสมุดอ่าน แล้วตามด้วยการสวดปากเปล่า หลายๆรอบๆ
พบว่าสามารถจำเนื้อสวด และตัวสะกดต่างๆได้ถึงบทที่ 4 เท่านั้น
หลังจากนั้น ยังรู้สึกไม่คุ้นเคย และรู้สึกจดจำยากเหลือเกิน
บางบท แค่เปิดสมุดอ่านออกเสียง ยังรู้สึกถึงความอึดอัด
ในการอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง โดยเฉพาะบทที่ 8
ปล. ผมค่อยๆสวดนะครับ พยายามเปล่งทุกคำให้ถุกต้องที่สุด
มีใครจะช่วยชี้แนะ การสวดมนต์ให้จำได้ขึ้นใจ + รวดเร็ว ขึ้นครับ :D
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1187
เสริมพี่พอใจนิดหน่อยในเรื่องการสวดมนต์
แรกคือ สวดไปมองตัวหนังสือไป แบบนี้ฝึกสายตา และ ฝึกว่าเราพูดออกมาตามที่สายตาเรามองหรือเปล่า
เมื่อเราสวดไปสวดไป มันจำได้ ต่อไปคือ สวดจากความจำของเรา
อันนี้เริ่มฝึกว่า ที่เราออกเสียงนั้น ถูกต้องกับตัวบทสวดหรือเปล่า
ขั้นตอนไปคือ ปิดตาแล้วสวด
ต่อไปคือสวดในใจ
ที่ผมเสริมเพราะแนวทางนี้เป็นการฝึก มหาสติแบบหนึ่งครับ
เพราะ ส่วนใหญ่ใจมันวิ่งนำหน้ากาย ทำอย่างไงให้มันอยู่ปัจจุบัน
ก็คือ ฟังเสียงของเราที่ละคำที่พูดออกมาตอนสวดนี้ล่ะ
ถ้าสวดกันจริงๆ มันไม่มีทางฟุ้งซ่านคิดหนีไปเรื่องอื่นได้ง่ายๆ
เพราะอะไรหรือครับ
มันเป็นภาษาบาลี ภาษานี้เราไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้การออกเสียงก็ดี การจดจำก็ดี ทำได้ยากพอควรครับ
แรกคือ สวดไปมองตัวหนังสือไป แบบนี้ฝึกสายตา และ ฝึกว่าเราพูดออกมาตามที่สายตาเรามองหรือเปล่า
เมื่อเราสวดไปสวดไป มันจำได้ ต่อไปคือ สวดจากความจำของเรา
อันนี้เริ่มฝึกว่า ที่เราออกเสียงนั้น ถูกต้องกับตัวบทสวดหรือเปล่า
ขั้นตอนไปคือ ปิดตาแล้วสวด
ต่อไปคือสวดในใจ
ที่ผมเสริมเพราะแนวทางนี้เป็นการฝึก มหาสติแบบหนึ่งครับ
เพราะ ส่วนใหญ่ใจมันวิ่งนำหน้ากาย ทำอย่างไงให้มันอยู่ปัจจุบัน
ก็คือ ฟังเสียงของเราที่ละคำที่พูดออกมาตอนสวดนี้ล่ะ
ถ้าสวดกันจริงๆ มันไม่มีทางฟุ้งซ่านคิดหนีไปเรื่องอื่นได้ง่ายๆ
เพราะอะไรหรือครับ
มันเป็นภาษาบาลี ภาษานี้เราไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้การออกเสียงก็ดี การจดจำก็ดี ทำได้ยากพอควรครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1189
แซวพี่พอใจดีกว่า พี่พอใจต้องตีกอล์ฟ แล้วรู้ ใช้เป็นวิหารธรรม 555
เอาซีดี ไปฟังหลวงพ่อ ไปฟังสัก 30 ชั่วโมง แล้วมาคุยกัน
ทำไม่ต้อง 30 น้อยกว่านี้ จะฟุ้งซ่าน คิดเองเออเอง หมกมุ่น ผมเป็นมาก่อนครับ
เอาซีดี ไปฟังหลวงพ่อ ไปฟังสัก 30 ชั่วโมง แล้วมาคุยกัน
ทำไม่ต้อง 30 น้อยกว่านี้ จะฟุ้งซ่าน คิดเองเออเอง หมกมุ่น ผมเป็นมาก่อนครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1190
[quote="Voldtrest"][quote="por_jai"]
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1191
พี่พอใจ จำได้ไม๊ ตอนเริ่ม ผมก็บ้าสวดมน พี่ก็บอกจะสวดเอาอะไร 555
ตอนนี้ สวดตอนเริ่มต้นสมาธิ แล้วก็ไม่ได้สวด ดูลมหายใจแทน
ส่งการบ้าน พี่พอใจครับ เพิ่งเริ่มเห็นเวทนาครับ จิตจำได้ครับ ตื่นในเวทนา
ตอนนี้ สวดตอนเริ่มต้นสมาธิ แล้วก็ไม่ได้สวด ดูลมหายใจแทน
ส่งการบ้าน พี่พอใจครับ เพิ่งเริ่มเห็นเวทนาครับ จิตจำได้ครับ ตื่นในเวทนา
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1192
ทุกวันนี้ก็ปวดหัวอยู่ เป็นมาตั้งแต่อายุ 16-17 แล้วsmith_sanguan เขียน: อยาก โลภะ ฝึกสบายๆครับ ไม่งั้น คุณจะปวดหัว ไมเกรนจะตามมา กดมากๆระวังจะคุมสติไม่ได้ครับ
ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ผมอยากฝึกให้ได้
ผมอยากออกจากสภาพคนขี้โรคแบบนี้
ผมต้องการพลังขับเคลื่อนกลับมา
ผมถึงมีความสุข พี่เข้าใจไหมครับ
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1193
ทุกวันนี้ก็ปวดหัวอยู่Voldtrest เขียน:
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1194
ผมมีจุดประสงค์อะไร ก็เขียนไว้ครบอยุ่แล้วนะครับ อ่านดีๆก็เห็นแล้ว
ที่ผมถามมานี่ โคตรจะ fundamental สำหรับพี่ๆเลย
ไม่ได้ล้วงลึกอะไรเลย
ที่ผมถามมานี่ โคตรจะ fundamental สำหรับพี่ๆเลย
ไม่ได้ล้วงลึกอะไรเลย
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1195
ทุกวันนี้ก็ปวดหัวอยู่smith_sanguan เขียน:
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1196
ผมเป็นคนสวดมนต์ไม่เป็นmiracle เขียน: ถ้าสวดกันจริงๆ มันไม่มีทางฟุ้งซ่านคิดหนีไปเรื่องอื่นได้ง่ายๆ
เพราะอะไรหรือครับ
มันเป็นภาษาบาลี ภาษานี้เราไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้การออกเสียงก็ดี การจดจำก็ดี ทำได้ยากพอควรครับ
สวดมนต์ไม่ได้ครับพี่มิ
ผมอ่านบาลีแล้วจำอะไรไม่ได้เลยครับ
เลยสวดมนต์ไม่ได้
เมื่อก่อนไปถวายสังฆทาน
ยังต้องเปิดหนังสือสวด
เลยเลิกไปมันซะเลย อายพระท่าน
มีเพื่อนนำบทสวดมาให้สวดก่อนนอน
ผมก็สวดไป
มารู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว
เอาดีทางนี้ไม่ได้แม้แต่น้อย
ก็เลยรู้ว่าจิตผมเขาคงไม่ชอบ
ไม่ชอบ ก็ไม่มีความสุขในการทำ
ไม่มีความสุขในการทำ ย่อมไม่เกิดสมาธิ
ก็เลยเลิกไม่สวดมงสวดมนต์มานานมากแล้ว
แต่เห็นคนใกล้ตัวคืออาซ้อผม
รายนี้ชอบสวดมนต์ครับ
สวดทุกวัน ก่อนนอน ตื่นนอน ครั้งละนานๆ
เธอว่าทำให้จิตสงบ ชอบ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1197
หลวงพ่อว่าบางคนก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นภูเขาsmith_sanguan เขียน:แซวพี่พอใจดีกว่า พี่พอใจต้องตีกอล์ฟ แล้วรู้ ใช้เป็นวิหารธรรม 555
เอาซีดี ไปฟังหลวงพ่อ ไปฟังสัก 30 ชั่วโมง แล้วมาคุยกัน
ทำไม่ต้อง 30 น้อยกว่านี้ จะฟุ้งซ่าน คิดเองเออเอง หมกมุ่น ผมเป็นมาก่อนครับ
พอเลือกทางได้ก็เดินดุ่ยๆ พยายามจนขึ้นไปถึงข้างบนได้ ดีใจ
แต่เหลียวมองไปรอบๆตัว
เอ...ข้างบนไหงคนเยอะจัง
พอขึ้นไปถึงบนเขา จึงได้เห็นว่าทางเดินขึ้นเขามีรอบทาง
ไม่ใช่มีแต่ทางที่เราเลือก
ทางไหนๆก็ขึ้นเขาลูกนี้ได้
ทางใครก็ทางมัน
ทางไหนเหมาะกับใคร ทำได้ถูกทางก็เร็ว
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1198
ทำเลย แต่อย่าลืมที่พี่ PAUL บอก สังเกตุตัวเองบ่อย ๆ ว่าตอนนี้อยู่ตรงจุดไหนVoldtrest เขียน: ผมขอโอกาสฝึก แล้วติดอะไรจะมาถามพี่ๆใหม่นะครับ
หวังว่าจะได้รับความเมตตาจากพี่ๆทุกคนนะครับ
หากอ่านแล้วรุ้สึกว่าผมก้าวร้าว ผมขอกราบขอขมาตรงนี้ครับ
เป็นอย่างไร รู้สึกดี หรือรู้สึกแย่
มีอะไรก็ อย่าเก็บ อย่ากดไว้ มาระบายที่กระทู้นี้ได้ครับ พี่พอใจเค้าคงไม่ว่าหรอก :lol:
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
ธรรมะ ธรรมชาติ
โพสต์ที่ 1200
ผมจะอายุ 25 เดือนอาทิตย์หน้าแล้วครับ
วันนี้เลยเดินไปดูพระพุทธรูป กะว่าจะถวายในวันเกิดครับ
เป็นพระพุทธรูปปางพุทธชินราช ประดับคริสตัล
อยากถวายมานานแล้วครับ :oops:
วันนี้เลยเดินไปดูพระพุทธรูป กะว่าจะถวายในวันเกิดครับ
เป็นพระพุทธรูปปางพุทธชินราช ประดับคริสตัล
อยากถวายมานานแล้วครับ :oops:
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ