เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 61
GERRARD007
ผมคิดว่าเราควรที่จะทำงานไปด้วย...และก็ลงทุนไปด้วยน่าจะดีกว่า
เพราะเราไม่ใช่ DAY TRADE ที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน...
-เห็นด้วยครับผม
[v]
ตราบใดที่เรามีเงินสดเราก็จะมีโอกาสเสมอ จึงต้องมีเงินสดติดพอร์ตไว้ 20%
-ผมเป็นโรคกลัวเงินสดครับ ทุกวันนี้ไม่กล้าถือเงินสดครับ เพราะรู้สึกว่าการถือเงินสดเทียบเท่ากับการถือเงินร้อนครับ
เงินร้อนคือ การที่มีหนี้แล้วหนี้นั้นมีดอกติดตามอยู่ทำให้มูลค่าเงินติดลบมกชึ้นเรื่อยๆ สมมุติกู1แสน ดอก10% เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น
ส่วนการลงทุน ผมคิดว่าศัยภาพขอมผมคือ10% ดังนั้นการไม่นำเงินมาลงทุนก็เทียบเท่าเสียผลประโยชน์ เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น เช่นเดียวกัน
ตัวเลขทางการเงินอะไร ผมไม่รู้เพราะผมไม่ได้เรียน
ผมรู้แค่สูตร F=P*(1+i)^n เงินกู้ก็คือPที่ติดลบ เงินลงทุนก็คือPที่บวก
iคือ%การเปลี่ยนแปลงของเงิน ซึ่งอาจเป็นได้ทั้ง ผลตอบแทน ดอกเบี้ย ดอกเงินกู้ หรือแม้นกระทั้งเงินเฟ้อก็ตาม....
ดังนั้นผมจึงเป็นโรคกลัวการถือเงินสด ครับ อิอิ
ผมคิดว่าเราควรที่จะทำงานไปด้วย...และก็ลงทุนไปด้วยน่าจะดีกว่า
เพราะเราไม่ใช่ DAY TRADE ที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน...
-เห็นด้วยครับผม
[v]
ตราบใดที่เรามีเงินสดเราก็จะมีโอกาสเสมอ จึงต้องมีเงินสดติดพอร์ตไว้ 20%
-ผมเป็นโรคกลัวเงินสดครับ ทุกวันนี้ไม่กล้าถือเงินสดครับ เพราะรู้สึกว่าการถือเงินสดเทียบเท่ากับการถือเงินร้อนครับ
เงินร้อนคือ การที่มีหนี้แล้วหนี้นั้นมีดอกติดตามอยู่ทำให้มูลค่าเงินติดลบมกชึ้นเรื่อยๆ สมมุติกู1แสน ดอก10% เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น
ส่วนการลงทุน ผมคิดว่าศัยภาพขอมผมคือ10% ดังนั้นการไม่นำเงินมาลงทุนก็เทียบเท่าเสียผลประโยชน์ เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น เช่นเดียวกัน
ตัวเลขทางการเงินอะไร ผมไม่รู้เพราะผมไม่ได้เรียน
ผมรู้แค่สูตร F=P*(1+i)^n เงินกู้ก็คือPที่ติดลบ เงินลงทุนก็คือPที่บวก
iคือ%การเปลี่ยนแปลงของเงิน ซึ่งอาจเป็นได้ทั้ง ผลตอบแทน ดอกเบี้ย ดอกเงินกู้ หรือแม้นกระทั้งเงินเฟ้อก็ตาม....
ดังนั้นผมจึงเป็นโรคกลัวการถือเงินสด ครับ อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 62
[quote="picklife"]GERRARD007
ผมคิดว่าเราควรที่จะทำงานไปด้วย...และก็ลงทุนไปด้วยน่าจะดีกว่า
เพราะเราไม่ใช่ DAY TRADE ที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน...
-เห็นด้วยครับผม
[v]
ตราบใดที่เรามีเงินสดเราก็จะมีโอกาสเสมอ จึงต้องมีเงินสดติดพอร์ตไว้ 20%
-ผมเป็นโรคกลัวเงินสดครับ ทุกวันนี้ไม่กล้าถือเงินสดครับ เพราะรู้สึกว่าการถือเงินสดเทียบเท่ากับการถือเงินร้อนครับ
เงินร้อนคือ การที่มีหนี้แล้วหนี้นั้นมีดอกติดตามอยู่ทำให้มูลค่าเงินติดลบมกชึ้นเรื่อยๆ สมมุติกู1แสน ดอก10% เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น
ส่วนการลงทุน ผมคิดว่าศัยภาพขอมผมคือ10% ดังนั้นการไม่นำเงินมาลงทุนก็เทียบเท่าเสียผลประโยชน์ เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น เช่นเดียวกัน
ตัวเลขทางการเงินอะไร ผมไม่รู้เพราะผมไม่ได้เรียน
ผมรู้แค่สูตร F=P*(1+i)^n
ผมคิดว่าเราควรที่จะทำงานไปด้วย...และก็ลงทุนไปด้วยน่าจะดีกว่า
เพราะเราไม่ใช่ DAY TRADE ที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน...
-เห็นด้วยครับผม
[v]
ตราบใดที่เรามีเงินสดเราก็จะมีโอกาสเสมอ จึงต้องมีเงินสดติดพอร์ตไว้ 20%
-ผมเป็นโรคกลัวเงินสดครับ ทุกวันนี้ไม่กล้าถือเงินสดครับ เพราะรู้สึกว่าการถือเงินสดเทียบเท่ากับการถือเงินร้อนครับ
เงินร้อนคือ การที่มีหนี้แล้วหนี้นั้นมีดอกติดตามอยู่ทำให้มูลค่าเงินติดลบมกชึ้นเรื่อยๆ สมมุติกู1แสน ดอก10% เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น
ส่วนการลงทุน ผมคิดว่าศัยภาพขอมผมคือ10% ดังนั้นการไม่นำเงินมาลงทุนก็เทียบเท่าเสียผลประโยชน์ เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น เช่นเดียวกัน
ตัวเลขทางการเงินอะไร ผมไม่รู้เพราะผมไม่ได้เรียน
ผมรู้แค่สูตร F=P*(1+i)^n
- [v]
- Verified User
- โพสต์: 1402
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 64
ที่ต้องเงินสด 20 % เพราะว่าอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ถ้าเราเกิด โดนรถชนหรือ เป็นมะเร็งตอนหุ้นตก ตกงาน บ้านไฟไหม้ โจรขึ้นบ้าน อย่าลืมว่าในชีวิตพอจะมีเรื่องร้ายๆ มันจะมาเป็นชุดๆนะครับ
ถ้าเงินทั้งหมดเราอยู่ในตลาดหุ้น พอร์ตของเราติดลบ 50 % ถ้าถอนออกมาใช้แน่นอน ก็เจ็บอีก
20 % คือ จังหว่ะและโอกาส สำหรับซื้อเฉลี่ย หรือ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในชีวิต ถ้ากลัวเงินเฟ้อ เอาไปฝากประจำสามเดือนหรือฝากประจำไปเรื่อยๆ ก็จะช่วยได้ นิดนึง
ถ้าเงินทั้งหมดเราอยู่ในตลาดหุ้น พอร์ตของเราติดลบ 50 % ถ้าถอนออกมาใช้แน่นอน ก็เจ็บอีก
20 % คือ จังหว่ะและโอกาส สำหรับซื้อเฉลี่ย หรือ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในชีวิต ถ้ากลัวเงินเฟ้อ เอาไปฝากประจำสามเดือนหรือฝากประจำไปเรื่อยๆ ก็จะช่วยได้ นิดนึง
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 65
[quote="Jnos"][quote="picklife"]......
แล้วจริงๆสูตรที่สรุปใครเอาไปใช้อาจจะสับสนได้ครับ ตัวอย่างเช่นถ้าผมลงทุนเพิ่มปีละ100000บาททุกๆต้นปีเป็นเวลา 5ปี(ปีที่5ยังใส่เงินเพิ่มแต่ไม่ได้ลงทุนต่อ) และเริ่มลงทุนโดยที่เงินต้นเป็น0นะครับ โดยได้ผลตอบแทนทบต้นปีละ 20% โดยไม่ถอนเงินลงทุนออกมาเลย ใส่เพิ่มอย่างเดียว
ปีที่1 ผมจะมีเงิน (0+100000)*1.2=120000
"
แล้วจริงๆสูตรที่สรุปใครเอาไปใช้อาจจะสับสนได้ครับ ตัวอย่างเช่นถ้าผมลงทุนเพิ่มปีละ100000บาททุกๆต้นปีเป็นเวลา 5ปี(ปีที่5ยังใส่เงินเพิ่มแต่ไม่ได้ลงทุนต่อ) และเริ่มลงทุนโดยที่เงินต้นเป็น0นะครับ โดยได้ผลตอบแทนทบต้นปีละ 20% โดยไม่ถอนเงินลงทุนออกมาเลย ใส่เพิ่มอย่างเดียว
ปีที่1 ผมจะมีเงิน (0+100000)*1.2=120000
"
- หมักเตา
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 68
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิตpicklife เขียน:ผมโชคดีครับมีพี่ๆเยอะครับ กรณีฉุกเฉิน
แผน1 ผมเตรียมบัตรกดเงินสดกับบัตรเครดิตเอาไว้ประมาณ2แสนครับ เผื่อฉุกเฉินจริงๆสามารถกดได้ทันทีครับ
แผน2 เหอะๆเป็นน้องชายคนเล็กครับพี่ๆเยอะครับ:P
เท่าที่จำได้คือ nominal rate 20% กว่าๆ ขึ้นไปทั้งนั้น
คิดเป็น effective rate รวมด้วยค่าธรรมเนียมหลากหลายจิปาถะก็ 20% กว่าๆๆๆ แก่ๆๆๆ
ผลตอบแทนตลาดหุ้นเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 10%
ถ้ามั่นใจว่า เมพขิงๆ หรือ เใพชิงๆ ก็ตามอัธยาศัยครับ ขอให้โชคดี
- ziannoom
- Verified User
- โพสต์: 1041
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 69
ผมเข้าใจว่า คุณ picklife เตรียมไว้สำหรับเวลาตลาด panic หากไม่มีเงินสดเหลือก็สามารถนำเงินกู้จากบัตรกดเงินสดมาใช้ก่อน ไว้ทำกำไรตอนตลาดเด้ง ซึ่งคงใช้เวลาไม่เกินเดือน สรุปดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนก็คือ 28/2 = 1.4% ต่อเดือน แบบว่าเป็นการลงทุนแบบ ดันโด แต่ก็อีกนั่นล่ะ เราจะรู้ได้ไงว่าตลาดมันจะเด้งภายในเวลาอันสั้น ผมเข้าใจถูกไม๊ครับคุณ picklifeหมักเตา เขียน: อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิต
เท่าที่จำได้คือ nominal rate 20% กว่าๆ ขึ้นไปทั้งนั้น
คิดเป็น effective rate รวมด้วยค่าธรรมเนียมหลากหลายจิปาถะก็ 20% กว่าๆๆๆ แก่ๆๆๆ
ผลตอบแทนตลาดหุ้นเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 10%
ถ้ามั่นใจว่า เมพขิงๆ หรือ เใพชิงๆ ก็ตามอัธยาศัยครับ ขอให้โชคดี
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
- ziannoom
- Verified User
- โพสต์: 1041
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 70
แก้ไข 28/12 = 2.33% ต่อเดือนครับziannoom เขียน: ผมเข้าใจว่า คุณ picklife เตรียมไว้สำหรับเวลาตลาด panic หากไม่มีเงินสดเหลือก็สามารถนำเงินกู้จากบัตรกดเงินสดมาใช้ก่อน ไว้ทำกำไรตอนตลาดเด้ง ซึ่งคงใช้เวลาไม่เกินเดือน สรุปดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนก็คือ 28/2 = 1.4% ต่อเดือน แบบว่าเป็นการลงทุนแบบ ดันโด แต่ก็อีกนั่นล่ะ เราจะรู้ได้ไงว่าตลาดมันจะเด้งภายในเวลาอันสั้น ผมเข้าใจถูกไม๊ครับคุณ picklife
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
-
- Verified User
- โพสต์: 108
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 71
ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับเวลาตลาดตกต่ำผมจะกู้มาซื้อครับแฟนผมทำธนาคารกู้ได้80เท่าเงินเดือนดอกประมาน2%
ส่วนผมเป็นตำรวจกู้ได้อีกหลายแสน
และผมยังมีธุรกิจส่วนตัวที่เดือนสเตจเม้นไว้ตลอดอีกสามารถกู้ไปซื้อที่ดินของแม่ยายผมแฟนผมบอกว่าถ้าเราเดินสเตจเม้นไว้ที่เท่านี้สามารถกู้ได้3-4ล้านบาท พอตท์ผมมีแค่ประมาน1ล้านแต่เตรียมไว้หลายไม้ครับถ้าตลาดยังไม่ตกหนักจริงๆผมก็ไม่ใช่ไม้ตายครับ
ผมว่าเราสรางทางเลือกให้กับตัวเองได้ เตรียมตัวไว้ให้พร้อมได้ ทุกวันนี้ขับรถเก่าที่พ่อซื้อให้ ไม่กู้ ไม่ต้องผ่อน
ปล.ไม่ได้จะมาอวดนะครับอยากแชร์วิธีสร้างทางรอดเวลาหุ้นตกหนักพอดีผมลงทุน100%เกือบตลอดเวลา
ส่วนผมเป็นตำรวจกู้ได้อีกหลายแสน
และผมยังมีธุรกิจส่วนตัวที่เดือนสเตจเม้นไว้ตลอดอีกสามารถกู้ไปซื้อที่ดินของแม่ยายผมแฟนผมบอกว่าถ้าเราเดินสเตจเม้นไว้ที่เท่านี้สามารถกู้ได้3-4ล้านบาท พอตท์ผมมีแค่ประมาน1ล้านแต่เตรียมไว้หลายไม้ครับถ้าตลาดยังไม่ตกหนักจริงๆผมก็ไม่ใช่ไม้ตายครับ
ผมว่าเราสรางทางเลือกให้กับตัวเองได้ เตรียมตัวไว้ให้พร้อมได้ ทุกวันนี้ขับรถเก่าที่พ่อซื้อให้ ไม่กู้ ไม่ต้องผ่อน
ปล.ไม่ได้จะมาอวดนะครับอยากแชร์วิธีสร้างทางรอดเวลาหุ้นตกหนักพอดีผมลงทุน100%เกือบตลอดเวลา
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 72
ไม่คิดว่าใน thaivi จะมีอาชีพ ตำรวจ ด้วยครับdoo_meau เขียน:ส่วนผมเป็นตำรวจกู้ได้อีกหลายแสน
ดีใจจังเลยครับ มีตำรวจ ลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่าด้วย :D
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 73
ไม่คิดว่าใน thaivi จะมีอาชีพ ตำรวจ ด้วยครับvivitawin เขียน:
ดีใจจังเลยครับ มีตำรวจ ลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่าด้วย
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 74
ครับผม มันคือเงินฉุกเฉินครับ ใช้ในยามฉุกเฉินครับ อิอิziannoom เขียน: ผมเข้าใจว่า คุณ picklife เตรียมไว้สำหรับเวลาตลาด panic หากไม่มีเงินสดเหลือก็สามารถนำเงินกู้จากบัตรกดเงินสดมาใช้ก่อน ไว้ทำกำไรตอนตลาดเด้ง ซึ่งคงใช้เวลาไม่เกินเดือน สรุปดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนก็คือ 28/2 = 1.4% ต่อเดือน แบบว่าเป็นการลงทุนแบบ ดันโด แต่ก็อีกนั่นล่ะ เราจะรู้ได้ไงว่าตลาดมันจะเด้งภายในเวลาอันสั้น ผมเข้าใจถูกไม๊ครับคุณ picklife
แต่ผมก็เคยนำมาใช้ในตอนแรกๆที่ไม่รู้จักบัญชีประเภทมาร์จิ้นเหมือนกันนะครับ แต่ไม่มาก กรณีแบบหุ้นบางตัวผมคิดว่าใน1-2weekนี้น่าจะขึ้นแน่ๆ ก็เข้าซื้อโดยแยกเงินส่วนนี้ไว้ชัดเจนเพื่อนกรณีศึกษาครับ ผลลัพก็ออกมากำไรประมาณ20กว่า%ใน1Week ก็ขายออกมาครับ
เท่ากับผมเสียดอก28/365*7=0.5%ครับ ผมได้วิธีการนี้เพราะตอนแรกผมลองแบ่งเงินลงทุนส่วนหนึ่งผมมาDayTradeครับแต่ผมพบว่าผมต้องเสียค่าคอมวันละ 0.2*2=0.4% ซึ่งถือว่าเยอะมาก แต่ถ้าผมใช้สิ่งนี้ผมจะเสียวันละ0.08%ครับ ผมเรียกว่าเป็นการDayTradeข้ามวันครับ แล้วก็จบไปครับเป็นกรณีศึกษาเพราะเสียวๆอยู่เหมือนกันช่วงนั้น 555+
แต่ในกรณีที่ถือยาวทั้งปี....ผมว่าในTVIไม่น่าจะมีคนคิดอย่างนั้นนะครับ เสียดอกปีละ20% กำไรก็ไม่เหลือแล้วครับ 555+
อื้มมได้ยินคนพูดถึงดันโดกันบ่อย คืออะไรหรอครับ มีแบบคร่าวๆไหมครับ
(สงสัยต้องไปซื้อหนังสืออ่านบ้างละครับ อิอิ)
เออ
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 75
ห๊า......2% สุดยอดครับ ชักอยากทำงานธนาคารแล้วซิ กู้มาซื้อตราสารหนี้ง่ายๆเลยนะครับเนี๊ยdoo_meau เขียน:ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับเวลาตลาดตกต่ำผมจะกู้มาซื้อครับแฟนผมทำธนาคารกู้ได้80เท่าเงินเดือนดอกประมาน2%
ส่วนผมเป็นตำรวจกู้ได้อีกหลายแสน
และผมยังมีธุรกิจส่วนตัวที่เดือนสเตจเม้นไว้ตลอดอีกสามารถกู้ไปซื้อที่ดินของแม่ยายผมแฟนผมบอกว่าถ้าเราเดินสเตจเม้นไว้ที่เท่านี้สามารถกู้ได้3-4ล้านบาท พอตท์ผมมีแค่ประมาน1ล้านแต่เตรียมไว้หลายไม้ครับถ้าตลาดยังไม่ตกหนักจริงๆผมก็ไม่ใช่ไม้ตายครับ
ผมว่าเราสรางทางเลือกให้กับตัวเองได้ เตรียมตัวไว้ให้พร้อมได้ ทุกวันนี้ขับรถเก่าที่พ่อซื้อให้ ไม่กู้ ไม่ต้องผ่อน
ปล.ไม่ได้จะมาอวดนะครับอยากแชร์วิธีสร้างทางรอดเวลาหุ้นตกหนักพอดีผมลงทุน100%เกือบตลอดเวลา
-
- Verified User
- โพสต์: 108
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 76
ผมอ่านแล้วครับ ดันโด
เป็นหนังสือที่ดีมากเลยครับ คือการลงทุนที่มีโอกาสกำไรมากกว่าขาดทุน
หรืออาจจะไม่ขาดทุนแต่ได้น้อยหน่อย
"ออกหัวผมได้เงินออกก้อยผมเสียเงินนิดหน่อย"
เป็นการลงทุนแบบvalueดีๆนี่เอง โดยเน้นที่timingและมูลค่าของสิ่งที่เราจะลงทุนให้มีmosมากที่สุดและมีupsideมากที่สุดเช่นกัน โดยใช้หลักความน่าจะเป็นของเคลลี่มาออกแบบการบริหารเงินลงทุนให้ได้ผลประดยชนืสูงสุด
ประมาณนี้แหละครับแนะนำให้อ่านเองนะครับดีมากๆเลย
เป็นหนังสือที่ดีมากเลยครับ คือการลงทุนที่มีโอกาสกำไรมากกว่าขาดทุน
หรืออาจจะไม่ขาดทุนแต่ได้น้อยหน่อย
"ออกหัวผมได้เงินออกก้อยผมเสียเงินนิดหน่อย"
เป็นการลงทุนแบบvalueดีๆนี่เอง โดยเน้นที่timingและมูลค่าของสิ่งที่เราจะลงทุนให้มีmosมากที่สุดและมีupsideมากที่สุดเช่นกัน โดยใช้หลักความน่าจะเป็นของเคลลี่มาออกแบบการบริหารเงินลงทุนให้ได้ผลประดยชนืสูงสุด
ประมาณนี้แหละครับแนะนำให้อ่านเองนะครับดีมากๆเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 276
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 77
80 เท่าเลยเหรอdoo_meau เขียน:ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับเวลาตลาดตกต่ำผมจะกู้มาซื้อครับแฟนผมทำธนาคารกู้ได้80เท่าเงินเดือนดอกประมาน2%
แค่ 8 เท่ามั้งครับ
- peacedev
- Verified User
- โพสต์: 668
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 78
โหวdoo_meau เขียน:ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับเวลาตลาดตกต่ำผมจะกู้มาซื้อครับแฟนผมทำธนาคารกู้ได้80เท่าเงินเดือนดอกประมาน2%
ส่วนผมเป็นตำรวจกู้ได้อีกหลายแสน
และผมยังมีธุรกิจส่วนตัวที่เดือนสเตจเม้นไว้ตลอดอีกสามารถกู้ไปซื้อที่ดินของแม่ยายผมแฟนผมบอกว่าถ้าเราเดินสเตจเม้นไว้ที่เท่านี้สามารถกู้ได้3-4ล้านบาท พอตท์ผมมีแค่ประมาน1ล้านแต่เตรียมไว้หลายไม้ครับถ้าตลาดยังไม่ตกหนักจริงๆผมก็ไม่ใช่ไม้ตายครับ
ผมว่าเราสรางทางเลือกให้กับตัวเองได้ เตรียมตัวไว้ให้พร้อมได้ ทุกวันนี้ขับรถเก่าที่พ่อซื้อให้ ไม่กู้ ไม่ต้องผ่อน
ปล.ไม่ได้จะมาอวดนะครับอยากแชร์วิธีสร้างทางรอดเวลาหุ้นตกหนักพอดีผมลงทุน100%เกือบตลอดเวลา
หาแฟนทำธนาคารมั่งน่าจะดีนะครับ
http://peacedev.wordpress.com
"The Quant"
"The Quant"
-
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 79
ผมจำได้ว่า John Neff ที่เป็นเซียนด้านการลงทุนคนนึงที่ได้รับการยอมรับ
ตลอดระยะเวลาที่เป็นผู้จัดการกองทุน ผลตอบแทนทบต้นยังได้ประมาณ 15-17% ไม่ถึง 20% อย่างที่ตัวอย่างได้สมมติเอาไว้
ดังนั้นสำหรับผมที่เป็นคนธรรมด๊า ธรรมดา จึงถือว่า ผลตอบแทนทบต้น 20% ต่อปีติดต่อกัน 40 ปีเป็นเรื่องที่ยากมากๆ และไม่มีวันเป็นไปได้สำหรับผม
ตลอดระยะเวลาที่เป็นผู้จัดการกองทุน ผลตอบแทนทบต้นยังได้ประมาณ 15-17% ไม่ถึง 20% อย่างที่ตัวอย่างได้สมมติเอาไว้
ดังนั้นสำหรับผมที่เป็นคนธรรมด๊า ธรรมดา จึงถือว่า ผลตอบแทนทบต้น 20% ต่อปีติดต่อกัน 40 ปีเป็นเรื่องที่ยากมากๆ และไม่มีวันเป็นไปได้สำหรับผม
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 80
[quote="doo_meau"]ผมอ่านแล้วครับ ดันโด
เป็นหนังสือที่ดีมากเลยครับ คือการลงทุนที่มีโอกาสกำไรมากกว่าขาดทุน
หรืออาจจะไม่ขาดทุนแต่ได้น้อยหน่อย
"ออกหัวผมได้เงินออกก้อยผมเสียเงินนิดหน่อย"
เป็นการลงทุนแบบvalueดีๆนี่เอง โดยเน้นที่timingและมูลค่าของสิ่งที่เราจะลงทุนให้มีmosมากที่สุดและมีupsideมากที่สุดเช่นกัน โดยใช้หลักความน่าจะเป็นของเคลลี่มาออกแบบการบริหารเงินลงทุนให้ได้ผลประดยชนืสูงสุด
เป็นหนังสือที่ดีมากเลยครับ คือการลงทุนที่มีโอกาสกำไรมากกว่าขาดทุน
หรืออาจจะไม่ขาดทุนแต่ได้น้อยหน่อย
"ออกหัวผมได้เงินออกก้อยผมเสียเงินนิดหน่อย"
เป็นการลงทุนแบบvalueดีๆนี่เอง โดยเน้นที่timingและมูลค่าของสิ่งที่เราจะลงทุนให้มีmosมากที่สุดและมีupsideมากที่สุดเช่นกัน โดยใช้หลักความน่าจะเป็นของเคลลี่มาออกแบบการบริหารเงินลงทุนให้ได้ผลประดยชนืสูงสุด
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 82
ปล.ที่เขียนไปด้านบนไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆทั้งสิ้นนะครับ ผมแค่กลัวน้องๆที่เป็นคนประเภทเดียวกับผมจะอ่านแล้วตั้งเป้าต่ำแล้วทำได้ต่ำกว่าเป้า
เช่นตั้งไว้20ทำได้10 ก็จะไม่เกิดความพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกครับ
อยากให้ตั้งเป้า40แล้วทำได้20ครับ
และที่แน่นอนนะครับ ถ้าคุณตั้งเป้า40 คุณจะมัวมานั่งลอยชายอีเรื่อยเฉื่อยแฉะไม่ได้ อย่างๆน้อยๆ1วันคุณต้องรู้อะไรเพิ่ม1อย่าง และ1เดือนคุณต้องเติบโตอย่างเห้นได้ชัดครับ....
คุณyoyoลงทุนมาตั้งแต่อายุ21-22 บัฟเฟตตั้งแต่เด็ก น้องๆที่รู้จักยังอยู่แค่ม.ปลาย ดังนั้นหากใคร เพิ่งมาศึกษาในช่วงจะ30 หรือ30กว่าแล้วจงตระหนักว่าเราช้าไปเยอะครับ ช้าแล้วยังมาลอยชายไม่ดีแน่ๆครับ....
แค่อยากกระตุ้นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่แว๊ปๆเข้ามานะครับไม่มีอะไร อิอิ
เช่นตั้งไว้20ทำได้10 ก็จะไม่เกิดความพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกครับ
อยากให้ตั้งเป้า40แล้วทำได้20ครับ
และที่แน่นอนนะครับ ถ้าคุณตั้งเป้า40 คุณจะมัวมานั่งลอยชายอีเรื่อยเฉื่อยแฉะไม่ได้ อย่างๆน้อยๆ1วันคุณต้องรู้อะไรเพิ่ม1อย่าง และ1เดือนคุณต้องเติบโตอย่างเห้นได้ชัดครับ....
คุณyoyoลงทุนมาตั้งแต่อายุ21-22 บัฟเฟตตั้งแต่เด็ก น้องๆที่รู้จักยังอยู่แค่ม.ปลาย ดังนั้นหากใคร เพิ่งมาศึกษาในช่วงจะ30 หรือ30กว่าแล้วจงตระหนักว่าเราช้าไปเยอะครับ ช้าแล้วยังมาลอยชายไม่ดีแน่ๆครับ....
แค่อยากกระตุ้นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่แว๊ปๆเข้ามานะครับไม่มีอะไร อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 83
ความฝันทั้งมวลล้วนมีใจเป็นใหญ่picklife เขียน: ผมจะขยับตัวก็ต่อเมื่อผมเห้นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และชัดเจนเท่านั้น ผมตั้งเป้าไว้ที่36%ครับ และจะพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อไปถึงจุดนั้นแม้นพลาดก็ครึ่งทาง คนประเภทผมไม่สามารถตั้งเป้าต่ำๆได้จริงๆครับเพราะจะไม่มีแรงดันครับ....
สำหรับพวก "เล็กๆมิต้าไม่ ใหญ่ๆมิต้าทำ"
การเร่งผลตอบแทนให้ได้ 36% ในระยะยาว
นอกจากต้องเพิ่มความรอบรู้ให้สูงขึ้นไล่ตามเป้าหมายแล้ว
ออมมากขึ้นอย่างมีวินัย + เพิ่มรายรับในงานประจำ
เป็นการเร่งผลตอบแทนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดแล้ว
36 % ของแต่ละคน อาจไม่เหมือนกัน ขึ้นกับความถนัด+ระดับความเสี่ยง
ที่ยอมรับไหว
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- GERRARD007
- Verified User
- โพสต์: 32
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์ที่ 85
[quote="Belffet"][quote="picklife"]GERRARD007
ผมคิดว่าเราควรที่จะทำงานไปด้วย...และก็ลงทุนไปด้วยน่าจะดีกว่า
เพราะเราไม่ใช่ DAY TRADE ที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน...
-เห็นด้วยครับผม
[v]
ตราบใดที่เรามีเงินสดเราก็จะมีโอกาสเสมอ จึงต้องมีเงินสดติดพอร์ตไว้ 20%
-ผมเป็นโรคกลัวเงินสดครับ ทุกวันนี้ไม่กล้าถือเงินสดครับ เพราะรู้สึกว่าการถือเงินสดเทียบเท่ากับการถือเงินร้อนครับ
เงินร้อนคือ การที่มีหนี้แล้วหนี้นั้นมีดอกติดตามอยู่ทำให้มูลค่าเงินติดลบมกชึ้นเรื่อยๆ สมมุติกู1แสน ดอก10% เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น
ส่วนการลงทุน ผมคิดว่าศัยภาพขอมผมคือ10% ดังนั้นการไม่นำเงินมาลงทุนก็เทียบเท่าเสียผลประโยชน์ เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น เช่นเดียวกัน
ตัวเลขทางการเงินอะไร ผมไม่รู้เพราะผมไม่ได้เรียน
ผมรู้แค่สูตร F=P*(1+i)^n
ผมคิดว่าเราควรที่จะทำงานไปด้วย...และก็ลงทุนไปด้วยน่าจะดีกว่า
เพราะเราไม่ใช่ DAY TRADE ที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน...
-เห็นด้วยครับผม
[v]
ตราบใดที่เรามีเงินสดเราก็จะมีโอกาสเสมอ จึงต้องมีเงินสดติดพอร์ตไว้ 20%
-ผมเป็นโรคกลัวเงินสดครับ ทุกวันนี้ไม่กล้าถือเงินสดครับ เพราะรู้สึกว่าการถือเงินสดเทียบเท่ากับการถือเงินร้อนครับ
เงินร้อนคือ การที่มีหนี้แล้วหนี้นั้นมีดอกติดตามอยู่ทำให้มูลค่าเงินติดลบมกชึ้นเรื่อยๆ สมมุติกู1แสน ดอก10% เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น
ส่วนการลงทุน ผมคิดว่าศัยภาพขอมผมคือ10% ดังนั้นการไม่นำเงินมาลงทุนก็เทียบเท่าเสียผลประโยชน์ เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น เช่นเดียวกัน
ตัวเลขทางการเงินอะไร ผมไม่รู้เพราะผมไม่ได้เรียน
ผมรู้แค่สูตร F=P*(1+i)^n