โทรศัพท์มือถือออกฤทธิ์ เขี่ยนาฬิกาข้อมือตกชั้น
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
โทรศัพท์มือถือออกฤทธิ์ เขี่ยนาฬิกาข้อมือตกชั้น
โพสต์ที่ 1
โทรศัพท์มือถือออกฤทธิ์ เขี่ยนาฬิกาข้อมือตกชั้น
โทรศัพท์มือถือกำลังทำให้นาฬิกาข้อมือถูกลดลงความจำเป็นลง เนื่องจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคไซเบอร์พบว่า ชาวไซเบอร์บางส่วนนิยมดูเวลาบนโทรศัพท์มือถือมากกว่าบนข้อมือ สิ่งที่เกิดขึ้นคือบทบาทความสำคัญของนาฬิกาด้านการบอกเวลานั้นจางลง เหลือเพียงบทบาทในด้านแฟชั่นและเครื่องบ่งบอกฐานะสุดหรูเท่านั้น
ปาร์กเกอร์ วินท์ซ (Parker Weintz) กราฟฟิกดีไซเนอร์ชาวอเมริกันวัย 37 ปี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สว่าจากเดิมที่เคยมีนาฬิกาแบรนด์ดังอย่าง Swiss Army ติดข้อมืออยู่ตลอดเวลา แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนใจมาดูเวลาจากโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าแทน
"เวลาในนี้เที่ยงตรงมาก" วินท์ซกล่าวพร้อมกับชูโทรศัพท์มือถือในกระเป๋า "มันอยู่กับเราทุกที่ในยุคดิจิตอลเช่นทุกวันนี้ แถมการไม่ใส่นาฬิกาข้อมือ ทำให้ผมมีโอกาสถามเวลาจากสาวสวยที่พบเจอได้อีกด้วย"
สิ่งที่เกิดขึ้นในวงการธุรกิจจำหน่ายนาฬิกาข้อมือในปัจจุบันนี้สะท้อนให้เห็นถึงขาลงของนาฬิกาข้อมืออย่างเห็นได้ชัด อย่างเช่นยอดขายนาฬิกาในสหรัฐฯที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2001 ล่าสุดลดลง 4.9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2005
ทิม ดาวด์ (Tim Dowd) นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยตลาด Packaged Facts ผู้เขียนรายงานเรื่อง "Watches and Clocks in the U.S." ระบุถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีต่อนาฬิกาข้อมือว่า ผู้ที่ปันใจจากนาฬิกาข้อมือหันไปหาโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์พีดีเอส่วนใหญ่เป็นเพศชาย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ขณะที่ฝ่ายหญิงดูจะจงรักภักดีต่อนาฬิกาข้อมือมากกว่า ในฐานะเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง
จากสถิติผู้ซื้อนาฬิกาข้อมือชาวอเมริกันอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวนทั้งสิ้น 69.9 ล้านคน กว่า 40.3 ล้านคนเป็นผู้หญิง
ดาวด์อธิบายว่าปัจจุบันผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือต่างต้องดำเนินกลยุทธ์ทำการตลาดด้วยการใช้พรีเซนเซอร์ที่มีชื่อเสียง เช่นดารานักร้องหรือนักกีฬาชื่อดัง ร่วมกับการดึงเอาคุณสมบัติด้านความหรูหราและราคาแสนแพงเข้ามาเป็นจุดเด่น เห็นได้ชัดจาก Swatch Group ผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ที่สุดของโลก เจ้าของแบรนด์ Omega และ Tissot ที่มีผลประกอบการครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการในตลาดนาฬิกาข้อมือราคาแพงที่เพิ่มขึ้น จนทำให้บริษัทผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือรายอื่นๆสนใจหันมาเน้นจุดยืนการเป็นนาฬิกาหรูหราบ้าง
การวิจัยของดาวด์พบว่า ชายชาวอเมริกันซื้อนาฬิกาหรูหรามากกว่าผู้หญิง โดยในชาวอเมริกันที่ซื้อนาฬิกาหรูหราราคาแพงระดับต้นๆทั้งหมด ราว 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง คาดว่าเป็นไปตามค่านิยมในการใช้นาฬิกาข้อมือเป็นเครื่องบอกฐานะอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต
จุดนี้จูซ รูบิน (Josh Rubin) บรรณาธิการเว็บไซต์ coolhunting.com ให้ความเห็นว่าการเป็นสิ่งบ่งบอกฐานะของนาฬิกาข้อมือนั้นไม่เพียงพอแล้วสำหรับการยืนหยัดในปัจจุบัน แต่นาฬิกาข้อมือควรจะมีฟังก์ชันเฉพาะตัวอื่นๆเช่น ระบบ GPS ที่สามารถบอกเส้นทางที่ผู้ใส่ต้องการไปได้ เหล่านี้จะทำให้นาฬิกาข้อมือสามารถสร้างความนิยมให้กับผู้บริโภคในยุคไซเบอร์ได้
เรียบเรียงจากรอยเตอร์ส
โทรศัพท์มือถือกำลังทำให้นาฬิกาข้อมือถูกลดลงความจำเป็นลง เนื่องจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคไซเบอร์พบว่า ชาวไซเบอร์บางส่วนนิยมดูเวลาบนโทรศัพท์มือถือมากกว่าบนข้อมือ สิ่งที่เกิดขึ้นคือบทบาทความสำคัญของนาฬิกาด้านการบอกเวลานั้นจางลง เหลือเพียงบทบาทในด้านแฟชั่นและเครื่องบ่งบอกฐานะสุดหรูเท่านั้น
ปาร์กเกอร์ วินท์ซ (Parker Weintz) กราฟฟิกดีไซเนอร์ชาวอเมริกันวัย 37 ปี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สว่าจากเดิมที่เคยมีนาฬิกาแบรนด์ดังอย่าง Swiss Army ติดข้อมืออยู่ตลอดเวลา แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนใจมาดูเวลาจากโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าแทน
"เวลาในนี้เที่ยงตรงมาก" วินท์ซกล่าวพร้อมกับชูโทรศัพท์มือถือในกระเป๋า "มันอยู่กับเราทุกที่ในยุคดิจิตอลเช่นทุกวันนี้ แถมการไม่ใส่นาฬิกาข้อมือ ทำให้ผมมีโอกาสถามเวลาจากสาวสวยที่พบเจอได้อีกด้วย"
สิ่งที่เกิดขึ้นในวงการธุรกิจจำหน่ายนาฬิกาข้อมือในปัจจุบันนี้สะท้อนให้เห็นถึงขาลงของนาฬิกาข้อมืออย่างเห็นได้ชัด อย่างเช่นยอดขายนาฬิกาในสหรัฐฯที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2001 ล่าสุดลดลง 4.9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2005
ทิม ดาวด์ (Tim Dowd) นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยตลาด Packaged Facts ผู้เขียนรายงานเรื่อง "Watches and Clocks in the U.S." ระบุถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีต่อนาฬิกาข้อมือว่า ผู้ที่ปันใจจากนาฬิกาข้อมือหันไปหาโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์พีดีเอส่วนใหญ่เป็นเพศชาย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ขณะที่ฝ่ายหญิงดูจะจงรักภักดีต่อนาฬิกาข้อมือมากกว่า ในฐานะเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง
จากสถิติผู้ซื้อนาฬิกาข้อมือชาวอเมริกันอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวนทั้งสิ้น 69.9 ล้านคน กว่า 40.3 ล้านคนเป็นผู้หญิง
ดาวด์อธิบายว่าปัจจุบันผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือต่างต้องดำเนินกลยุทธ์ทำการตลาดด้วยการใช้พรีเซนเซอร์ที่มีชื่อเสียง เช่นดารานักร้องหรือนักกีฬาชื่อดัง ร่วมกับการดึงเอาคุณสมบัติด้านความหรูหราและราคาแสนแพงเข้ามาเป็นจุดเด่น เห็นได้ชัดจาก Swatch Group ผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ที่สุดของโลก เจ้าของแบรนด์ Omega และ Tissot ที่มีผลประกอบการครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการในตลาดนาฬิกาข้อมือราคาแพงที่เพิ่มขึ้น จนทำให้บริษัทผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือรายอื่นๆสนใจหันมาเน้นจุดยืนการเป็นนาฬิกาหรูหราบ้าง
การวิจัยของดาวด์พบว่า ชายชาวอเมริกันซื้อนาฬิกาหรูหรามากกว่าผู้หญิง โดยในชาวอเมริกันที่ซื้อนาฬิกาหรูหราราคาแพงระดับต้นๆทั้งหมด ราว 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง คาดว่าเป็นไปตามค่านิยมในการใช้นาฬิกาข้อมือเป็นเครื่องบอกฐานะอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต
จุดนี้จูซ รูบิน (Josh Rubin) บรรณาธิการเว็บไซต์ coolhunting.com ให้ความเห็นว่าการเป็นสิ่งบ่งบอกฐานะของนาฬิกาข้อมือนั้นไม่เพียงพอแล้วสำหรับการยืนหยัดในปัจจุบัน แต่นาฬิกาข้อมือควรจะมีฟังก์ชันเฉพาะตัวอื่นๆเช่น ระบบ GPS ที่สามารถบอกเส้นทางที่ผู้ใส่ต้องการไปได้ เหล่านี้จะทำให้นาฬิกาข้อมือสามารถสร้างความนิยมให้กับผู้บริโภคในยุคไซเบอร์ได้
เรียบเรียงจากรอยเตอร์ส
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
โทรศัพท์มือถือออกฤทธิ์ เขี่ยนาฬิกาข้อมือตกชั้น
โพสต์ที่ 2
อ่านในเว็บบอดชื่อดังเห็นว่ามีคนจะซื้อนาฬิกาเพื่อลงทุน เลยไปค้นๆ มาได้บทความตามข้างบนนี่แหละ เลยเอามาฝาก
- baby-investor
- Verified User
- โพสต์: 312
- ผู้ติดตาม: 0
โทรศัพท์มือถือออกฤทธิ์ เขี่ยนาฬิกาข้อมือตกชั้น
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ ผมว่าในอนาคตน่าจะมีเทรนด์อะไรหลายๆอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปพอสมควรทีเดียว
-
- Verified User
- โพสต์: 543
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โทรศัพท์มือถือออกฤทธิ์ เขี่ยนาฬิกาข้อมือตกชั้น
โพสต์ที่ 7
อันนี้เป็นทีเด็ดของการไม่ใส่นาฬิกาMO101 เขียน:แถมการไม่ใส่นาฬิกาข้อมือ ทำให้ผมมีโอกาสถามเวลาจากสาวสวยที่พบเจอได้อีกด้วย"
สรุปว่าถ้าไม่มีปัญญาใส่นาฬิกาหรูๆหรือลิมิตเต็ดเอดิชั่นก็ไม่ใส่เลยจะดีกว่า
:lol: