Value Way ฉบับวันที่ 19 ตุลาคม 2552
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ
สุดยอดคุณทวดนักลงทุน
จะมีนักลงทุนคนไหนที่เคยผ่านประสบการณ์ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจตกต่ำตั้งแต่ปี 1930 จนถึงปัญหาซัพไพร์มในปี 2009 รวมเวลาทั้งหมดเกือบ 80 ปีในคนๆเดียว นักลงทุนระดับตำนานอย่างเบนจามิน เกรแฮมมีชีวิตอยู่ในโลกการลงทุนในช่วงปี 1930 แต่เขาไม่มีโอกาสเห็นเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ในช่วงเวลาเดียวกันวอร์เรน บัฟเฟตเพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่ถึงหนึ่งขวบ
อย่างน้อยมีนักลงทุนระดับตำนานสองท่านที่มีประสบการณ์ตรงทั้งในปี 1930 และ 2009 ท่านแรกคือเอวิ่ง คาห์น (Irving Kahn) เขาเป็นผู้จัดการกองทุนที่มีอายุมากที่สุดในวอล์ทสตรีท ปัจจุบันคาห์นอายุ 103 ปีและยังทำงานบริหารกองทุนของเขาอยู่ตามปกติ เขากล่าวว่าช่วงตลาดตกต่ำในปีที่ผ่านมาเป็นโอกาสในการลงทุนซื้อหุ้น ขณะที่ช่วงนั้นคู่แข่งที่อายุน้อยกว่าเขาสามเท่ากำลังเทขายหุ้นหนีตายกันอย่างจ้าละหวั่น
คาห์นบอกว่าเขาไม่สนใจภาวะตลาดหุ้นว่าจะขึ้นหรือลง เขาจะถือหุ้นที่ซื้อมาอย่างน้อยที่สุดสามปีจนถึง 15 ปี บริษัทจัดการการลงทุนของเขามีปรัชญาการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะคาห์นเป็นผู้ช่วยสอนคนแรกของเบนจามิน เกรแฮมในหลักสูตรการลงทุนของมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย รวมทั้งเป็นผู้ร่วมรวบรวมบทความในหนังสือSecurity Analysisฉบับแรกที่ตีพิมพ์เมื่อกว่า 70 ปีที่แล้ว
เขาเริ่มต้นการลงทุนในปี 1928 ด้วยการขายชอร์ตหุ้นบริษัทผลิตสังกะสีแห่งหนึ่ง แต่หลังจากที่ชอร์ตหุ้นไปแล้ว ตลาดหุ้นกลับปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจนกลายเป็นตลาดกระทิง เขากลับไม่ตกใจรวมทั้งยังชอร์ตหุ้นบริษัทดังกล่าวเพิ่มอีกด้วย และอดทนรอคอยจนตลาดหุ้นตกอย่างหนักในอีกหนึ่งปีถัดมา
คาห์นบอกว่าประสบการณ์สอนให้เราเข้าใจตลาดหุ้นมากขึ้น และประวัติศาตร์มักจะย้อนกลับมาเสมอ แม้อาจไม่เหมือนเดิมสักทีเดียว นักลงทุนที่มีอายุมากมักฉลาดกว่านักลงทุนรุ่นใหม่ๆ เพราะผ่านประสบการณ์ลองผิดลองถูกมาเยอะ นักลงทุนที่มีอายุน้อยมักไม่ค่อยมั่นใจในการตัดสินใจของตัวเองเท่าไหร่นัก
ท่านที่สองคือรอย นูเบอร์เจอร์ (Roy Neuberger) ปัจจุบันอายุ 106 ปี ถึงแม้คุณทวดรอยจะเกษียณอายุจากการบริหารกองทุนมาตั้งแต่อายุ 99 ปีแต่ยังคงให้คำปรึกษากับกองทุนที่เขาตั้งขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดเขาแนะนำให้กองทุนของเขาซื้อหุ้นในช่วงวิกฤตซัพไร์มที่ผ่านมา เพราะมองว่าช่วงเวลาแห่งข่าวร้ายเป็นโอกาสใการลงทุนเช่นเดียวกันกับแนวคิดของคาห์น
รอยเริ่มต้นในวอล์ทสตรีทในปี 1929 ด้วยการชอร์ตหุ้นบริษัทอาร์ซีเอ (Radio Corporation of America) เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นสูงเกินพื้นฐานไปมาก เขากล่าวว่าประสบการณ์ของเขาในปี 1930 ช่วยทำให้เขาอยู่รอดปลอดภัยจากตลาดหุ้นตกต่ำในช่วง 1987 รวมถึงวิกฤติครั้งล่าสุดนี้ด้วย
ทั้งสองท่านผ่านช่วงเวลาของความตกต่ำของตลาดหุ้นทั่วโลกมาหลายครั้งตั้งแต่เมื่อเกือบ 80 ปีที่แล้ว นับว่ามีนักลงทุนน้อยคนนักที่มีประสบการณ์โดยตรงกับวิกฤติใหญ่ทั้งสองครั้งในปี 1930 และปี 2009 อย่างคุณทวดนักลงทุนสองท่านนี้
สุดยอดคุณทวดนักลงทุน:ValueWay วิบูลย์พึงประเสริฐ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 795
- ผู้ติดตาม: 0
สุดยอดคุณทวดนักลงทุน:ValueWay วิบูลย์พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 1
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
สุดยอดคุณทวดนักลงทุน:ValueWay วิบูลย์พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณครับ
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
- kurapica
- Verified User
- โพสต์: 587
- ผู้ติดตาม: 0
สุดยอดคุณทวดนักลงทุน:ValueWay วิบูลย์พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 4
วิกฤตมาพร้อมกับโอกาส สำหรับคนที่มีเงินสดอยู่ในมือ
วิกฤตมาพร้อมกับอากาศ สำหรับคนที่มีหุ้นเก็งอยู่เต็มมือ
ทุกครั้งที่วิกฤตมา เราต้องมีเงินสดครับ ไม่งั้นก็ไม่ได้โอกาสอะไร
แ้ล้วสำหรับรายย่อย(ยับ) ที่พอร์ทเล็กเงินน้อย ถือหุ้นเต็มตลอด จะทำไงถึงจะได้เงินสด เขาก็ต้องขายหุ้นออกไปก่อนวิกฤตจะมา เพื่อเก็บเงินสดไว้รอโอกาส ดังนั้นต้องหัดสังเกตจุดขายครับ ผมเองก็กำลังฝึกอยู่ รู้คร่าวๆว่า ถ้าราคามันกระโดดต่อกัน แล้วปริมาณการซื้อขายเยอะมากกว่าก่อนหน้าชัดๆ แสดงว่ามีแมงเม่าฝูงใหญ่บินเข้ามาเก็งกำไรแล้วครับ แมงเม่าพร้อมจะเททุกเมื่อ ถ้าได้กำไรพอควรหรือมีใครเริ่มขายนำ
พวกกองทุนเขามีเงินเยอะ มีเงินรอเก็บตลอด รายย่อย(ยับ) อย่างเราจะทำตามเขาก็ลำบากหน่อย
วิกฤตมาพร้อมกับอากาศ สำหรับคนที่มีหุ้นเก็งอยู่เต็มมือ
ทุกครั้งที่วิกฤตมา เราต้องมีเงินสดครับ ไม่งั้นก็ไม่ได้โอกาสอะไร
แ้ล้วสำหรับรายย่อย(ยับ) ที่พอร์ทเล็กเงินน้อย ถือหุ้นเต็มตลอด จะทำไงถึงจะได้เงินสด เขาก็ต้องขายหุ้นออกไปก่อนวิกฤตจะมา เพื่อเก็บเงินสดไว้รอโอกาส ดังนั้นต้องหัดสังเกตจุดขายครับ ผมเองก็กำลังฝึกอยู่ รู้คร่าวๆว่า ถ้าราคามันกระโดดต่อกัน แล้วปริมาณการซื้อขายเยอะมากกว่าก่อนหน้าชัดๆ แสดงว่ามีแมงเม่าฝูงใหญ่บินเข้ามาเก็งกำไรแล้วครับ แมงเม่าพร้อมจะเททุกเมื่อ ถ้าได้กำไรพอควรหรือมีใครเริ่มขายนำ
พวกกองทุนเขามีเงินเยอะ มีเงินรอเก็บตลอด รายย่อย(ยับ) อย่างเราจะทำตามเขาก็ลำบากหน่อย
ยอดดอยอยู่ไหนจ๊ะ ขึ้นมามากแล้วนะ
- holidaytours
- Verified User
- โพสต์: 349
- ผู้ติดตาม: 0
สุดยอดคุณทวดนักลงทุน:ValueWay วิบูลย์พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณคับ :D