เข้ามาดันกระทู้ อยากรู้คำตอบเหมือนกันครับMon money เขียน:ทำไมไม่มาUpdateหน่อยละ อยากรู้ว่าหุ้นอสังหาฯที่กล่าวมาเนี่ย มี
ROA กับ Profit Margin เท่าไร เดี่ยวจะบอกให้ว่าทำไม PEไม่เท่ากัน
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
- Eak71
- Verified User
- โพสต์: 344
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 31
ฅนนอกกะลา&ตาสว่าง
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 32
เฉลยไปแล้วตอนสัมมนาบัญชีเมื่อวันที่ 11-12ที่ผ่านมา
เรื่องมันยาว อธิบายไปเกือบสองชั่วโมง
คนไปเรียนครั้งนั้นรู้ทุกคนครับ
เรื่องมันยาว อธิบายไปเกือบสองชั่วโมง
คนไปเรียนครั้งนั้นรู้ทุกคนครับ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 33
อ้าว อดเลย พี่มนไม่สนใจสรุปให้น้องๆตาดำๆฟังเป็นวิทยาทานสักหน่อยเหรอครับMon money เขียน:เฉลยไปแล้วตอนสัมมนาบัญชีเมื่อวันที่ 11-12ที่ผ่านมา
เรื่องมันยาว อธิบายไปเกือบสองชั่วโมง
คนไปเรียนครั้งนั้นรู้ทุกคนครับ
It's earnings that count
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 34
อ้าว อดเลย พี่มนไม่สนใจสรุปให้น้องๆตาดำๆฟังเป็นวิทยาทานสักหน่อยเหรอครับBlueblood เขียน:
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 37
krisy เขียน:คุณ SEHJU พอจำชื่อ ratio ได้เปล่าคะ
ตัวเลขมายังไง ไม่รู้นะครับ แต่เท่าที่จดไว้ ก็เป็นดังนี้ครับ
SPALI cost of cap.=14.4%
operating ROA=11.59% (RONA มั้ง)
P/E=3.69 -----> E/P~27%
Cap. Yield = -2.8% !!!!!! ลดค่าลงเรื่อยๆ
LH cost of cap.=4.7%
operating ROA=8.65% ต่างกับสุภาลัยไม่มาก !!!
P/E=14.5 ------> E/P~6.8%
Cap. Yield= +3.85%
ประมาณนี้ครับ แต่จะให้อธิบายนี่ คงไม่สามารถพอครับ...
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 38
SEHJU เขียน:
ตัวเลขมายังไง ไม่รู้นะครับ แต่เท่าที่จดไว้ ก็เป็นดังนี้ครับ
SPALI
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 39
SEHJU เขียน:
ตัวเลขมายังไง ไม่รู้นะครับ แต่เท่าที่จดไว้ ก็เป็นดังนี้ครับ
SPALI
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 40
อ่านแล้วไม่เข้าใจ... ยากเกินไป
- ทำไมต้นทุนเงินของ spali ถึงสูงขนาดนั้น
- แล้ว Cap Yield คืออะไรครับ เห็นใช้ค่า RONA กับ Wacc แล้ว มันเกี่ยวอะไรกับ P/E
งอ งู 2 ตัวเลยครับ
- ทำไมต้นทุนเงินของ spali ถึงสูงขนาดนั้น
- แล้ว Cap Yield คืออะไรครับ เห็นใช้ค่า RONA กับ Wacc แล้ว มันเกี่ยวอะไรกับ P/E
งอ งู 2 ตัวเลยครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 912
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 41
http://www.thaivi.com/article/value-way/471-.html
รู้ทันหุ้น จากงบการเงิน
Value Way
มนตรี นิพิฐวิทยา 7 กันยายน 2550
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทางสมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทย ได้จัดสัมมนาเรื่องบัญชีพื้นฐาน ซึ่งได้รับเกียรติจากอาจารย์ ดร.วรศักดิ์ ทุมมานนท์ มาเป็นวิทยากรบรรยายรายละเอียดให้นักลงทุนที่สนใจฟัง
เนื้อหาที่ อ.วรศักดิ์บรรยายนั้นประกอบไปด้วยหัวข้อที่น่าสนใจหลายประการเช่น
...
4. การคำนวณหามูลค่าของกิจการโดยใช้ RONA เปรียบเทียบกับ WACC เพื่อหา Economic Value added spread หรือเรียกอีกอย่างว่า Capital yield ซึ่งแสดงถึงมูลค่าเพิ่มของบริษัทที่มีค่าเหนือต้นทุนทางการเงิน
รู้ทันหุ้น จากงบการเงิน
Value Way
มนตรี นิพิฐวิทยา 7 กันยายน 2550
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทางสมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทย ได้จัดสัมมนาเรื่องบัญชีพื้นฐาน ซึ่งได้รับเกียรติจากอาจารย์ ดร.วรศักดิ์ ทุมมานนท์ มาเป็นวิทยากรบรรยายรายละเอียดให้นักลงทุนที่สนใจฟัง
เนื้อหาที่ อ.วรศักดิ์บรรยายนั้นประกอบไปด้วยหัวข้อที่น่าสนใจหลายประการเช่น
...
4. การคำนวณหามูลค่าของกิจการโดยใช้ RONA เปรียบเทียบกับ WACC เพื่อหา Economic Value added spread หรือเรียกอีกอย่างว่า Capital yield ซึ่งแสดงถึงมูลค่าเพิ่มของบริษัทที่มีค่าเหนือต้นทุนทางการเงิน
ในยามลมแรง แม้แต่ไก่งวงยังบินได้
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
-
- Verified User
- โพสต์: 912
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 42
http://www.equitymaster.com/detail.asp? ... 00&story=6
เรียกน้ำย่อยไปก่อนระหว่างรอของจริงจาก อ.มนนะครับ
EVA & P/E
EVA is the measure and reflection of a good management. A good management is one which can Create value, Give value and Get value. To achieve this the management of the company has to deploy more and more capital to those activities wherein the amount of NOPAT generated by the activities is greater than the amount of WACC. Then only they will be able to generate real wealth for their stakeholders. So who are these stakeholders they are our mutual funds, pension plans, life insurance policies, and many small investors, which represent the vast majority of stock ownership. Our largest institutional investors represent the savings of everyday citizens. Investors invest their savings and bear risk, in the hopes of the best return possible.
There are very few companies in India, which are successful in generating EVA. As a reason these companies have been given premium valuation on the bourses. HLL, Infosys and Dr. Reddys have been given the premium valuations by the market not only based on their EPS performance but also on the basis of their ability to consistently increase shareholders wealth.
The graph hereunder presents the growth pattern of EVA of Infosys and HLL, two companies that have been successful in generating wealth and this is also reflected in their market cap.
The corporates, which were paying lowest preference to the shareholders interest, are now giving the highest preference to it to generate value for shareholders. The true example of this is the software viral, which affected investors in the past few months. Even though in short term these software companies might provide a good return to investors, in the long term only those companies will be able to survive which are actually generating the returns.
EVA is too sophisticated a tool for lay investors to use. They may not indulge in the exercise of computing it but must try to understand from the numbers reported by the company whether it is generating a positive or negative EVA. Investors should be cautious enough in selecting companies, which have high EPS but low EVA and consequently lower ROCE and RONW.
So only those companies can be called as Real Wealth Creators, which know the above principals. As it is rightly said by someone You only get richer if you invest money at a higher return than the cost of that money to you. Everyone knows that but many seem to forget it
เรียกน้ำย่อยไปก่อนระหว่างรอของจริงจาก อ.มนนะครับ
EVA & P/E
EVA is the measure and reflection of a good management. A good management is one which can Create value, Give value and Get value. To achieve this the management of the company has to deploy more and more capital to those activities wherein the amount of NOPAT generated by the activities is greater than the amount of WACC. Then only they will be able to generate real wealth for their stakeholders. So who are these stakeholders they are our mutual funds, pension plans, life insurance policies, and many small investors, which represent the vast majority of stock ownership. Our largest institutional investors represent the savings of everyday citizens. Investors invest their savings and bear risk, in the hopes of the best return possible.
There are very few companies in India, which are successful in generating EVA. As a reason these companies have been given premium valuation on the bourses. HLL, Infosys and Dr. Reddys have been given the premium valuations by the market not only based on their EPS performance but also on the basis of their ability to consistently increase shareholders wealth.
The graph hereunder presents the growth pattern of EVA of Infosys and HLL, two companies that have been successful in generating wealth and this is also reflected in their market cap.
The corporates, which were paying lowest preference to the shareholders interest, are now giving the highest preference to it to generate value for shareholders. The true example of this is the software viral, which affected investors in the past few months. Even though in short term these software companies might provide a good return to investors, in the long term only those companies will be able to survive which are actually generating the returns.
EVA is too sophisticated a tool for lay investors to use. They may not indulge in the exercise of computing it but must try to understand from the numbers reported by the company whether it is generating a positive or negative EVA. Investors should be cautious enough in selecting companies, which have high EPS but low EVA and consequently lower ROCE and RONW.
So only those companies can be called as Real Wealth Creators, which know the above principals. As it is rightly said by someone You only get richer if you invest money at a higher return than the cost of that money to you. Everyone knows that but many seem to forget it
ในยามลมแรง แม้แต่ไก่งวงยังบินได้
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
-
- Verified User
- โพสต์: 912
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 43
แถมอีกหนึ่งลิงค์ครับ เผื่อท่านอื่นที่ยังไม่รู้จัก WACC
http://www.thaivi.com/article/investor- ... pital.html
http://www.thaivi.com/article/investor- ... pital.html
ในยามลมแรง แม้แต่ไก่งวงยังบินได้
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 45
[quote="RONNAPUM"]คงสื่อว่า การที่จะดูว่าบริษัทบริหารสินทรัพย์ การวางตำแหน่งตัวเองดีไม่ดี
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
- pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 46
ประเด็นน่าสนใจจริงๆ
ก็ยังงงอยู่ตรงว่า cost of capital ของ spali ทำไมถึงสูงกว่า LH มาก
ตรงส่วนของ debt ไม่น่าจะต่างกันมากเกิน 2-3%
ก็เหลือส่วนของ equity ซึ่งคำนวณลำบากหน่อย ต้องไปค้นตำราอีกล่ะ
แล้วการลด cost of capital กับการเพิ่ม ROA (หรือ RONA) ตัวไหนทำง่ายกว่ากันอ่ะ (ผมว่าลด cost of capital นะ)
ส่วนการใช้ PE หรือ E/P มันเป็นตัวเลขหลังภาษีกับดอกเบี้ยจ่ายนี่
ซึ่งน่าจะบ่งบอกถึง return ของผู้ถือหุ้น
ต่างกับตัวแรกซึ่งเป็น ROA ซึ่งรวมของเจ้าหนี้ไปด้วย
ทีนี้เราควรจะไปดูโครงสร้างเงินทุนด้วยหรือเปล่า ว่ามี interest bearing debt เท่าไร
ผมไม่ได้เจาะดูเทียบกันระหว่าง spali lh ว่าตัวไหนหนี้เยอะน้อย(หนี้ยิ่งเยอะ cost of capital ก็ยิ่งต่ำลง)
ไม่ใช่ว่าบริษัททำกำไรได้เท่าไร เจ้าหนี้เอาไปหมด
แล้วเราเป็นผู้ถือหุ้น เราควรดูตัวไหนดีล่ะ
แล้วผมว่าตัวเลขบางตัวค่าติดลบ ก็ไม่ได้หมายความว่า มูลค่าจริงๆ ของมันจะติดลบนี่ ไม่งั้น ธนาคารคงไม่ปล่อยกู้ให้ spali หรอกมั้ง
ผิดถูกชี้แนะด้วยครับ
ก็ยังงงอยู่ตรงว่า cost of capital ของ spali ทำไมถึงสูงกว่า LH มาก
ตรงส่วนของ debt ไม่น่าจะต่างกันมากเกิน 2-3%
ก็เหลือส่วนของ equity ซึ่งคำนวณลำบากหน่อย ต้องไปค้นตำราอีกล่ะ
แล้วการลด cost of capital กับการเพิ่ม ROA (หรือ RONA) ตัวไหนทำง่ายกว่ากันอ่ะ (ผมว่าลด cost of capital นะ)
ส่วนการใช้ PE หรือ E/P มันเป็นตัวเลขหลังภาษีกับดอกเบี้ยจ่ายนี่
ซึ่งน่าจะบ่งบอกถึง return ของผู้ถือหุ้น
ต่างกับตัวแรกซึ่งเป็น ROA ซึ่งรวมของเจ้าหนี้ไปด้วย
ทีนี้เราควรจะไปดูโครงสร้างเงินทุนด้วยหรือเปล่า ว่ามี interest bearing debt เท่าไร
ผมไม่ได้เจาะดูเทียบกันระหว่าง spali lh ว่าตัวไหนหนี้เยอะน้อย(หนี้ยิ่งเยอะ cost of capital ก็ยิ่งต่ำลง)
ไม่ใช่ว่าบริษัททำกำไรได้เท่าไร เจ้าหนี้เอาไปหมด
แล้วเราเป็นผู้ถือหุ้น เราควรดูตัวไหนดีล่ะ
แล้วผมว่าตัวเลขบางตัวค่าติดลบ ก็ไม่ได้หมายความว่า มูลค่าจริงๆ ของมันจะติดลบนี่ ไม่งั้น ธนาคารคงไม่ปล่อยกู้ให้ spali หรอกมั้ง
ผิดถูกชี้แนะด้วยครับ
- krisy
- Verified User
- โพสต์: 736
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 47
ขอบคุณคุณ SHEJU ค่ะสำหรับ ratio
SPALI ได้ Operating ROA งาม เพราะความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ดีกว่า LH ซึ่งก็อาจเป็น nature ธุรกิจที่สร้างก่อนขาย กับสร้างพร้อมขาย LH ต้องกู้เงินมาลงทุนมากกว่า ในขณะที่ SPALI หนี้สินน่าจะเป็นพวกที่ไม่มีดอกเบี้ย เพราะสร้างไปด้วยกันเลย
ไปดูงบ Q1 ปีนี้ก็เป็นจริงอย่างที่คิดเลย SPALI มีหนี้เป็น 60% ของสินทรัพย์และ 40% ของหนี้เป็นหนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย ส่วน LH มีหนี้เป็น 40% ของสินทรัพย์และ 15% ของหนี้เป็นหนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย OP ROA ของ SPALI ก็ต้องงามกว่า LH อยู่แล้วถ้ากำไรเท่ากัน
ไปแงะต่อในส่วนของดอกเบี้ย ปรากฎว่า SPALI หนี้มีดอกเบี้ยน้อยแถมอัตราดอกเบี้ยก็ต่ำกว่า LH อยู่ตั้ง 2% กว่า แสดงว่า WACC ของ SPALI ที่สูงๆเนี่ยมาจาก cost of equity เป็นหลัก ไม่ได้มาจาก debt
ว่าแต่ส่วนกลับของ P/E เนี่ย ใช่บอกผลตอบแทนเงินลงทุนคร่าวๆหรือเปล่าคะ ตกลงใช้ตัวนี้ในการคำนวณ cost of equity หรือเปล่าพี่มน กบละสงสัย(จนนอนไม่หลับ) เพราะ 60% ของสินทรัพย์ของ SPALI มาจากหนี้ที่มีต้นทุนต่ำกว่า LH เห็นๆ ต้นทุนเงินทุนต้องประมาณ 29% แบบคร่าวๆถึงจะได้ WACC เท่าพี่
หุ้น PE ต่ำๆก็จะมี EVA spread ติดลบกันหมดจิพี่มน
SPALI ได้ Operating ROA งาม เพราะความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ดีกว่า LH ซึ่งก็อาจเป็น nature ธุรกิจที่สร้างก่อนขาย กับสร้างพร้อมขาย LH ต้องกู้เงินมาลงทุนมากกว่า ในขณะที่ SPALI หนี้สินน่าจะเป็นพวกที่ไม่มีดอกเบี้ย เพราะสร้างไปด้วยกันเลย
ไปดูงบ Q1 ปีนี้ก็เป็นจริงอย่างที่คิดเลย SPALI มีหนี้เป็น 60% ของสินทรัพย์และ 40% ของหนี้เป็นหนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย ส่วน LH มีหนี้เป็น 40% ของสินทรัพย์และ 15% ของหนี้เป็นหนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย OP ROA ของ SPALI ก็ต้องงามกว่า LH อยู่แล้วถ้ากำไรเท่ากัน
ไปแงะต่อในส่วนของดอกเบี้ย ปรากฎว่า SPALI หนี้มีดอกเบี้ยน้อยแถมอัตราดอกเบี้ยก็ต่ำกว่า LH อยู่ตั้ง 2% กว่า แสดงว่า WACC ของ SPALI ที่สูงๆเนี่ยมาจาก cost of equity เป็นหลัก ไม่ได้มาจาก debt
ว่าแต่ส่วนกลับของ P/E เนี่ย ใช่บอกผลตอบแทนเงินลงทุนคร่าวๆหรือเปล่าคะ ตกลงใช้ตัวนี้ในการคำนวณ cost of equity หรือเปล่าพี่มน กบละสงสัย(จนนอนไม่หลับ) เพราะ 60% ของสินทรัพย์ของ SPALI มาจากหนี้ที่มีต้นทุนต่ำกว่า LH เห็นๆ ต้นทุนเงินทุนต้องประมาณ 29% แบบคร่าวๆถึงจะได้ WACC เท่าพี่
หุ้น PE ต่ำๆก็จะมี EVA spread ติดลบกันหมดจิพี่มน
.....Give Everything but not Give Up.....
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 48
ทำไม cost of cap ถึงสูงมาก ปกติ cost of cap = % weight* cost of debt + % weighted * cost of equity
ใส่คร่าว 14.4% = 0.6 * 7% ( assume cost of debt 7% เยอะๆ ไว้ก่อน) + 0.4 * Cost of equity
ปกติ cost of equty คือ ความคาดหวังผลตอบแทนของผู้ลงทุน
คำนวนเสร็จสรรพ ผลตอบแทนของผุ้ลงทุนของ spali สูงถึง 34.95% ต่อปี อืมๆ
ใส่คร่าว 14.4% = 0.6 * 7% ( assume cost of debt 7% เยอะๆ ไว้ก่อน) + 0.4 * Cost of equity
ปกติ cost of equty คือ ความคาดหวังผลตอบแทนของผู้ลงทุน
คำนวนเสร็จสรรพ ผลตอบแทนของผุ้ลงทุนของ spali สูงถึง 34.95% ต่อปี อืมๆ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 49
ขอบคุณ พี่พง แล้วพี่สองกบ (krisy,sunrise)
รู้สึกพี่สองคนชื่อเล่นเดียวกันพอดีเลย
เท่าที่ดูแล้ว
ผมว่ามันแปลกๆตรงที่
cost of cap.=4.7% ของ lh มันต่ำเกินไปหรือไม่
ปกติไม่น่าจะมีบริษัทไหนมี wacc ต่ำกว่า 8-10% หรือเปล่า
4.7% มันต่ำเวอร์เกินไปน่ะ
ถ้า 4.7% ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลไม่ดีกว่าหรือไง
ผมว่าถ้า capyield ที่เป็นบวกของ lh มันเกิดจาก
rona สูงก็ว่าไปอย่าง อย่างเช่น 10 % ขึ้นไป
แต่นี้มันเกิดจาก cost of cap ต่ำ
ไม่ใช่เหรอ
แล้วมันต่ำผิดปกติจนน่าเอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า
รู้สึกพี่สองคนชื่อเล่นเดียวกันพอดีเลย
เท่าที่ดูแล้ว
ผมว่ามันแปลกๆตรงที่
cost of cap.=4.7% ของ lh มันต่ำเกินไปหรือไม่
ปกติไม่น่าจะมีบริษัทไหนมี wacc ต่ำกว่า 8-10% หรือเปล่า
4.7% มันต่ำเวอร์เกินไปน่ะ
ถ้า 4.7% ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลไม่ดีกว่าหรือไง
ผมว่าถ้า capyield ที่เป็นบวกของ lh มันเกิดจาก
rona สูงก็ว่าไปอย่าง อย่างเช่น 10 % ขึ้นไป
แต่นี้มันเกิดจาก cost of cap ต่ำ
ไม่ใช่เหรอ
แล้วมันต่ำผิดปกติจนน่าเอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 50
[quote="sunrise"]ทำไม cost of cap ถึงสูงมาก ปกติ cost of cap = % weight* cost of debt + % weighted * cost of equity
ใส่คร่าว 14.4% = 0.6 * 7% ( assume cost of debt 7% เยอะๆ ไว้ก่อน) + 0.4 * Cost of equity
ปกติ cost of equty คือ ความคาดหวังผลตอบแทนของผู้ลงทุน
คำนวนเสร็จสรรพ ผลตอบแทนของผุ้ลงทุนของ spali สูงถึง 34.95% ต่อปี อืมๆ
ใส่คร่าว 14.4% = 0.6 * 7% ( assume cost of debt 7% เยอะๆ ไว้ก่อน) + 0.4 * Cost of equity
ปกติ cost of equty คือ ความคาดหวังผลตอบแทนของผู้ลงทุน
คำนวนเสร็จสรรพ ผลตอบแทนของผุ้ลงทุนของ spali สูงถึง 34.95% ต่อปี อืมๆ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 51
แล้วถ้าเราตีความว่า e/p สูงๆ คือนักลงทุนยังมองไม่เห็นมูลค่าของบริษัทนี้ล่ะyoyo เขียน:
- หรือเป็นแบบนี้ e/p สูงๆ เพราะนักลงทุนต้องการผลตอบแทนสูงๆเลยให้ p น้อยๆ ...
บริษัททำกำไรได้ดี แต่ราคาหุ้นยังไม่ขึ้น
e/p ก็เลยสูง
แบบนี้ก็ได้นะ
แสดงว่าจุดเริ่มของสมการนี้มันตีความได้หลายอย่างสิ
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
- krisy
- Verified User
- โพสต์: 736
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 53
PE สูงสะท้อนความคาดหวังอยู่แล้ว ทำให้ EP ต่ำเพราะต้องจ่ายค่าความคาดหวังที่สูง ก้ดูเป็นเหตุเป็นผลดี
ส่วน EVA spread แสดงว่ากิจการหาเงินจากสินทรัพย์ได้มากกว่าต้นทุนของสินทรัพย์หรือเปล่า
แต่ต้นทุนเงินลงทุนที่ต่ำเพราะ PE หุ้นสูงนั้น กบไม่คิดว่าเราสามารถ apply เป็นต้นทุนเงินทุนของ wacc ได้โดยตรง เพราะเราควรเพิ่มค่าเสียโอกาสจากการที่เราไม่ได้ลงทุนในหุ้น PE ต่ำตัวอื่นเพื่อจะได้ผลตอบแทนสูงกว่านี้
ถ้าสมมติว่าเงินมีก้อนเดียวให้เลือกระหว่าง SPALI กับ LH จะเห็นได้ชัดๆเลยว่า ถ้าคำนวณ WACC ของ LH แต่เอาต้นทุนเงินทุนของ SPALI (E/P) มาใส่ เพราะเป็นค่าเสียโอกาสที่ไม่ได้ซื้อ SPALI ตัว EVA Spread ของ LH คงขี้เหร่ใช่หยอก
lสรุป รู้ที่มาของสูตรที่ใช้ก็ไม่เป็นเหยื่อของเครื่องมือ
ส่วน EVA spread แสดงว่ากิจการหาเงินจากสินทรัพย์ได้มากกว่าต้นทุนของสินทรัพย์หรือเปล่า
แต่ต้นทุนเงินลงทุนที่ต่ำเพราะ PE หุ้นสูงนั้น กบไม่คิดว่าเราสามารถ apply เป็นต้นทุนเงินทุนของ wacc ได้โดยตรง เพราะเราควรเพิ่มค่าเสียโอกาสจากการที่เราไม่ได้ลงทุนในหุ้น PE ต่ำตัวอื่นเพื่อจะได้ผลตอบแทนสูงกว่านี้
ถ้าสมมติว่าเงินมีก้อนเดียวให้เลือกระหว่าง SPALI กับ LH จะเห็นได้ชัดๆเลยว่า ถ้าคำนวณ WACC ของ LH แต่เอาต้นทุนเงินทุนของ SPALI (E/P) มาใส่ เพราะเป็นค่าเสียโอกาสที่ไม่ได้ซื้อ SPALI ตัว EVA Spread ของ LH คงขี้เหร่ใช่หยอก
lสรุป รู้ที่มาของสูตรที่ใช้ก็ไม่เป็นเหยื่อของเครื่องมือ
.....Give Everything but not Give Up.....
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 55
สมมติฐานของผมในการลงทุน คือ
- นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีเห็นผล
- ตลาดไม่ได้มีประสิทธิภาพ
เพราะฉะนั้น P/E ต่ำไม่ได้หมายความว่าความคาดหวังผลตอบแทนสูงเสมอไป...
หลายๆกรณีเพราะนักลงทุนยังมองไม่เห็นว่ามันถูกมากกว่า (เหมือนที่ฮงบอก)
- นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีเห็นผล
- ตลาดไม่ได้มีประสิทธิภาพ
เพราะฉะนั้น P/E ต่ำไม่ได้หมายความว่าความคาดหวังผลตอบแทนสูงเสมอไป...
หลายๆกรณีเพราะนักลงทุนยังมองไม่เห็นว่ามันถูกมากกว่า (เหมือนที่ฮงบอก)
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 58
cost of equity มันคล้ายๆ ต้นทุนค่าเสียโอกาสของเงินทุนส่วนของเจ้าของมะใช่รึ
ส่วน ROE , E/P มันคือผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น (สินทรัพย์) นั้นๆ นี่
ดังนั้น หากเราลงทุนใน LH SPALI ฯลฯ ก็ตาม ROE หรือ E/P ย่อมไม่ใช่ cost of equity เป็นแน่แท้
เนื่องจาก cost of equity คือ ผลตอบแทนจากการที่เราไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ปรับด้วย risk premium ของสินทรัพย์ที่เราไปลงทุน
เขียนเป็นสูตรไม่ถูกอ่ะ จำไม่ได้แน่ ประมาณ risk free rate * risk premium
ที่นี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า risk premium ของหุ้นแต่ละตัวเป็นเท่าไร
คิดยังไงไม่รู้ ใครช่วยต่อที
ส่วน ROE , E/P มันคือผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น (สินทรัพย์) นั้นๆ นี่
ดังนั้น หากเราลงทุนใน LH SPALI ฯลฯ ก็ตาม ROE หรือ E/P ย่อมไม่ใช่ cost of equity เป็นแน่แท้
เนื่องจาก cost of equity คือ ผลตอบแทนจากการที่เราไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ปรับด้วย risk premium ของสินทรัพย์ที่เราไปลงทุน
เขียนเป็นสูตรไม่ถูกอ่ะ จำไม่ได้แน่ ประมาณ risk free rate * risk premium
ที่นี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า risk premium ของหุ้นแต่ละตัวเป็นเท่าไร
คิดยังไงไม่รู้ ใครช่วยต่อที
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
roe กับ pe ต่อเนื่องจากกระทู้ LH มีอะไรดีกว่าตัวอื่น
โพสต์ที่ 59
รู้สึกว่าสมมติฐาน 2 ข้อนี้จะทำให้ไม่สามารถหาค่า WACC ได้นะครับ เพราะ ละเมิดสมมติฐานของ CAPM ครับ...yoyo เขียน:สมมติฐานของผมในการลงทุน คือ
- นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีเห็นผล
- ตลาดไม่ได้มีประสิทธิภาพ
เพราะฉะนั้น P/E ต่ำไม่ได้หมายความว่าความคาดหวังผลตอบแทนสูงเสมอไป...
หลายๆกรณีเพราะนักลงทุนยังมองไม่เห็นว่ามันถูกมากกว่า (เหมือนที่ฮงบอก)
แต่ก็อย่างว่าแหละ... Value Investor ส่วนใหญ่ไม่เชื่อใน Quantitative Finance ... :P