ธรรมะ ธรรมชาติ

พุธ มิ.ย. 24, 2009 7:33 am

ทุกวันนี้หลังจากได้ ฝึกวิปัสนา ทำให้รู้และเข้าใจว่า

ความสุขที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ตอนที่ฝึกวิปัสนา
แต่อยู่ หลัง การฝึกวิปัสนา

ขอบคุณครูบาอาจารย์ และพี่ๆในนี้ ทุกท่านครับ :D

พุธ มิ.ย. 24, 2009 9:55 am

[quote="สถาปนิกต่างดาว"] เมื่อก่อนแวะไป...."กิน"

พุธ มิ.ย. 24, 2009 12:22 pm

สรุปแล้ว ศีล 5
ใช้คุ้มครองตัวเอาตัวรอดได้ในระดับหนึ่งที่เดียว

พฤหัสฯ. มิ.ย. 25, 2009 12:03 pm

เรื่องกาม ผมขอมาแจมด้วยครับ 55555

เรื่องกามนี้ ผมไปทำหมันแล้วมันหายไปเลย ครั้งหนึ่งผมไปคุยกับคนแก่อายุ 85 แถวบ้าน ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านก็ทำหมัน ทำหมันแล้วไม่อยากอีกเลยเหมือนกัน ท่านว่ามันเหมือนกินข้าว ไม่อยากกามอีกเลย เรืองนี้ผมเอามาตีความ เปนเรื่องอดข้าว ถ้าเรื่องกามเหมือนเรื่องกินข้าว ผมก็ลองอดข้าวมันซะเลย กินมื้อเดียว หลังเที่ยงไม่กิน จำได้ว่าตอนบวชเปนพระ เรายังทำได้มาแล้ว พออดสัก 1 อาทิตย์ มื้อเย็นเราก็ไม่หิวแล้ว เปนอย่างนั้นไป เรื่องหิวนี่ชนะมันง่ายจริงๆ สังเกตว่าพอท้องอิ่ม ตัวกามก้ออกมาได้ง่าย ตัวกามกับตัวหิวจึงทำงานด้วยกันเสมอ ถ้าทำใหท้องหิวตลอด ผมรับรองว่าตัวกามจะไม่ออกมาเลย ไม่เชื่อท่านไปลองทำดูครับ

ส่วนเรื่องเหนสาวๆ ตอนแรก ๆ ผมยังเกิดอารมณ์อยู๋ แต่น้องชายไม่ขันแล้ว เลยไม่ค่อยใส่ใจเท่าใดนัก ตอนหลังไม่อยากคิดเรื่องนี้ คือ เริ่มรำคาญตัวเอง เลยคิดว่า เอาดิวะ ให้มันรุไปว่าผมชนะมันไม่ได้ ผมเลยทำอย่างนี้...

ตอนนั่งสมาธิช่วงตี 3-4 ผมจะติต่างว่าเหมือนบวชในทางพุทธทุกเช้า คือนั่งจินตนาการว่า มีพระพุทธเจ้าเปนพระอุปัชชาให้ มีพระธรรมเปนกรรมวาจารย์ มีหลวงปู๋ที่ผมเคารพเปนพระพระอนุสาวนาจารย์

ทำอย่างนี้ทุกเช้า เท่ากับว่า ผมให้ตัวเองบวชทางจิตทุกเช้าไปแล้ว เวลาไปเหนสาวๆ คราวนี้ไม่กล้าแม้กระทั่งจะคิดอีกเลย เพราะหน้าหลวงปู่จะลอยมาแต่ไกล เราบวชทางใจแล้ว เปนพระแล้ว ได้อย่างนี้ ก็จะช่วยเรื่องกามอย่างได้ผล ผมก็ชนะมันได้ที่สุด กามนี่หายไปเลย

อ้อ..ลืมบอกครับ ตามจินตนาการผมเปนพุทธ ผมคิดว่าใครก็เปนพระกันได้ทั้งนั้น ไม่ว่าผู้หญิง ผู้ชาย เปนพระกันที่ใจ อย่างที่ผมทำทุกเช้า แต่ตัวกายภายนอกผมยังเปนคริสครับ

พฤหัสฯ. มิ.ย. 25, 2009 7:33 pm

ภายนอกเป็นสมมติครับพี่โหน่ง

พุทธะ ใช้จิตรู้ หาใช่กายไม่

ศุกร์ มิ.ย. 26, 2009 12:05 am

[quote="oatty"]ภายนอกเป็นสมมติครับพี่โหน่ง

ศุกร์ มิ.ย. 26, 2009 10:09 am

" พุทธะ ใช้จิตรู้ หาใช่กายไม่"

oatty

ผมเห็นที่ท่านโอ๊ตเขียนแล้วนิ่งไปเลย ผมนี่โง่จริง นี่ใกล้แค่นี่ แต่มองไม่เหน เหมือนท่านโอ๊ตราดน้ำลงมากลางกะบาลพอดี เย็นจริงๆ เย้นมากจริงๆ ขอบพระคุณมากครับ คนแรกที่ผมนึกถึงคิอโซรอส ความเข้าใจเรื่องต่างๆ มันเดินทาง ทั้งผุด ทั้งขึ้น สอดคล้องกัน ท่านโอตเข้าใจพุทธได้ดีกว่าผมมากจริงๆ นี่ถ้าโซรอสเกิดในอินเดีย เขาอาจเปนพระพุทธเจ้าอีกองค์หนึ่ง ไม่ว่าตะวันตก ตะวันออก เปนพระพุทธเจ้าได้กันหมด ไม่มีใครผูกขาดความเปนพุทธะนี้ มันเปนสากล พระเยซุอาจเปนพระพุทธเจ้าในกรุงเยรูซาเลม เล่าจื่อเปนพระพุทธเจ้าในจีน หรือว่า โซรอสอาจเปนพระพุทธเจ้าแห่งกรุงบูดาเปส

ไม่ว่าฝรั่ง ไทย จีน แขก ลาว ล้วนต่างกันที่หน้าตา แต่ในระดับจิตใต้สำนึก พวกเราล้วนไม่ต่างกันเลย ยิ่งลึกลงไปในจิตใจของทุกคน ทุกชาติ ทุกภาษา ล้วนมีจิตใต้สำนึกที่เข้าสู๋ "วิปัสสนา" ที่แปลว่าการเฝ้ามองดูตัวเอง

ผมอยากรูเรื่องพระเยซูให้มาก ผมไปหาคนยิว เพราะพระเยซูเปนคนยิว แล้วมุมมองเขาจะเปนเรื่องที่เราไม่รูจัก ผมอยากรูเรื่องพระพุทธเจ้า ผมไปคุยกับคนอินเดีย ว่าท่านพูดภาษาอะไร เพราะว่าท่านเปนคนอินเดีย อย่างน้อยก็รูว่า นิพพาน แปลว่าอะไร ผมอยากรู้ว่าสมัยก่อนใช้คำนี้หรือไม่ ถึงทราบว่าคำนี้เปนคำที่ความหมายทางลบในสมัยนั้น ซึ่งแปลว่า เป่าเทียนให้ดับ ในสมัยโน้น ใครได้ยินคำนี้ก้รูสึกหดหู่ ไม่ตื่นเต้นเหมือนคนสมัยนี้ ท่านตั้งใจใช้คำที่มีความหมายทางลบในการสอนลุกศิษย์หมดเลย เพื่อให้ไม่ต้องการให้มีความอยากเกิดขึ้น นี่นับว่าเปนความรูที่ได้จากคนอินเดีย ที่ปัจจุบันนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน ถ้ามีแรงปราถนาจะได้มาครอบครอง นี่ก้ไปไม่ถึง เรากพลิกไปว่า ต้องใช้คำที่มีความหมายไปทางลบในสมัยนี้ ก็คือว่า "ตาย" เรื่องนี้ผมมาตีความเอาไปใช้ดังนี้

ตื่นมาผมก็บอกกับตัวเองว่า "วันนี้เปนวันดีที่จะตาย ทุก ๆ วันเปนวันดีที่จะตายของผม วันนี้แล้วซินะ จงทำวันนี้ให้ดีที่สุดของชีวิต" ผมคิดอย่งนั้นจริงๆ ครับ หรือว่า....

" ธรรมะนั้นอยู่ฝากตาย"

ขอบพระคุณมากครับ.....

ศุกร์ มิ.ย. 26, 2009 11:19 am

เมื่อประมาณ 5 ปีมาแล้ว ผมดูบาทหลวงท่านหนึ่งในเมืองไทยนี่แหละมาออกรายการทีวี ท่านพูดถึงเรื่องธรรมตามแนวคริสต์

แต่ในความรู้สึกผม นี่คือพุทธศาสนิกตัวจริง แต่แต่งชุดบาทหลวงเท่านั้น...

ท่านสามารถสนทนาทำนองเดียวกับหลวงพ่อพุทธทาสเลยนะ ผมว่า..

สองปีที่แล้ว ตอนนั่งเรือ Slow boat ตามแม่น้ำโขง ทำให้ผมมีเวลาอ่านหนังสือท่านพุทธทาส "วิถีแ่่ห่งการเข้าถึงพุทธธรรม" และ "ภูเขาแห่งวิถีพุทธธรรม" ทำให้เข้าใจธรรมได้มากขึ้นหน่อย หลังจากเป็นกบเฝ้ากอบัวมานมนาน

แต่เรื่องนั่งสมาธินี่ ไม่เกินสิบนาทีครับ ทำยากจัง ปวดแข้งปวดขาไปหมด

ศุกร์ มิ.ย. 26, 2009 11:35 am

[quote=".^O-O^"]

ศุกร์ มิ.ย. 26, 2009 11:42 am

นิพพานก่อนได้บวช

http://www.dmc.tv/forum/lofiversion/ind ... t5484.html

จันทร์ มิ.ย. 29, 2009 9:20 am

เอออ....เช้านี้ไปอ่านบทความ คนนี้เขาเขียนแปลกดีครับ เหนว่าแปลกดี เลยขออนุญาติทุกท่านเอามาลง เหนเขาบอกว่า เรื่องนี้จุดประกายความคิด by " พุทธะ ใช้จิตรู้ หาใช่กายไม่" โดย oatty@Thaivi อย่างนี้ถ้ามีอะไรที่อ่านแล้วครุ่นเคือง ก็ให้ไปถามเอาความกับท่านโอ๊ตได้เลยใช่หรือปล่าวครับ 5555555

เ ช้ า 7 โ ม ง ไ ป ต ล า ด...

สังเกตเหน ร้านกินสะดวก 4 ล้อ ลุกชิ้นไม้ ลุกชิ้นปิ้ง น้ำโอเลี้ยง หนังสือพิมพ์ เม็ดก๊วยจี้ etc. นี่เอาป้าย 7-11 มาติด ก็กลายเปน 7-11 ติดล้อกันได้เลย 55555

เดินต่อไปร้านหนังสือ เหนหนังสือแนวไมโครเวฟ เศรษศาสตร์ไมโครเวฟต่างๆ ทุกอย่างพร้อมเซริพ ไม่ต้องดิ้นรนคิดให้เสียเวลา อ่านแล้วไม่ต้องจินตนาการ คนเขียนท่านคิดให้หมดแล้ว อยากคิดเองก็ไม่ได้ หรือว่าเพราะจินตนาการเปนสิ่งที่ละเลยได้ง่าย ด้วยเหตุว่าจินตนาการต้องใช้ความพยายาม หรือว่าเราอยู๋กันในโลกของไมโครเวฟ เราอยากได้ทุกอย่างมาแบบพร้อมกินเหมือนบะหมี่สำเร็จรูป

11 โมง ---- ไปโรงหนัง นี่คนเยอะ บางท่านไม่ชอบอ่านหนังสือ ขอไปดูหนังเลยดีกว่า เพราะในหนังเขาจินตนาการให้แล้ว เหนหน้าพระเอก นางเอก ไม่ต้องเสียเวลาคิด คิดไปทำไม ความคิดทำให้เหนื่อยล้า ต้องไปเครียดกับการสร้างฉากในจินตนาการอีก เสียเวลา ขอหนังแนวไครเวฟเลยดีกว่า

บ่าย 2 -- ไปไหว้พระที่วัด เหนรุปพระพุทธเจ้าวางตั้งไว้เสร็จสรรพ ไม่ต้องใช้จินตนาการว่า ท่านจะหน้าตาอย่างไร บางทีเปิดเสียงสวดมนต์ มีเสียงเสร็จสรรพ บางที่มีกลิ่นธุป แต่ไม่มีควัน

บ่าย 4 โมง --- ออกไปหาเช่ารูปปั้นเคารพของพระพุทธเจ้าแบบสำเร็จรุป ไม่ต้องนั่งจินตนาการให้เมื่อย มีคนจินตนาการออกแบบปฎิกรเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าให้แล้ว สวดมนต์ต่อหน้าพระพุทธเจ้าที่ทำจากปูนปั้นเปนสิ่งทำได้ง่าย ถึงแม้ไม่นานจะแตกหักในที่สุด แต่ก้ยังดีกว่ามานั่งนึกภาพของท่านเอง ทำไมต้องไปจินตนาการให้เสียเวลา

กรอบความคิด : เรื่องนี้ทำให้คิดถึงสมัยพระพุทธเจ้า -----สมัยท่าน ไม่มีรุปเคารพ ตอนหลังพึ่งมามี มีได้เพราะไม่ใช่คนอินเดีย แต่เปนคนกรีก หลังจากท่านปรินิพพาน 100 กว่าปี พระเจ้าอเลกซานเดอร์ท่านบุกมาอินเดีย สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช มาแล้วท่านก็นำวัฒนธรรมการสร้างรูปปั้นเทพเจ้าในกรีกมาเผยแผ่ กรีกเย้ยหยันและดูหมิ่นในเรื่องนามธรรมนี้อย่างมาก พระพุทธเจ้าแบบไหนกันที่มองเหนไม่ได้ พวกท่านจะไปลำบากนั่งหลับตานึกกันทำไม พวกเรานี้ก้าวหน้าขนาดไหน ไม่ต้องไปจินตนการ ทำให้เปนเรื่องสัมผัสได้ ทำให้เปนความจริงทางกายภาพ สิ่งที่เหน คือสิ่งที่มี สิ่งที่ไม่เหน คือสิ่งที่ไม่มีตัวตน นั่นคือสิ่งที่กรีกคิดสมัยนั้น แต่กรีกล่มสลายไปแล้ว ล่มสลายเพราะความเปนไมโครเวฟ!!!

ก่อนนอน ----- ฝึกสมาธิ แต่ขอไม่เสียบปลั๊กไมโครเวฟ หลับตาและนึกถึงพระพุทธเจ้าในจินตนาการ ลองใช้ประสาทสัมผัสทุกส่วนอย่างเต็มที่ พระองค์มีรูป มีสี มีกลิ่น ขึ้นอยู่กับแต่ละวัน ไม่มีครั้งใดที่จะนึกถึงท่านเปนมโนภาพเดียวกันเลย ทำได้โดยใช้จินตนาการของตนเอง ไปไหน มีท่านไปด้วยเสมอ ไม่ต้องแบกพระทองเหลือง แบกพระปูน ไปไหนก็ไปได้ง่าย เพราะพุทธะใช้ใจ ไม่ได้ใช้ไมโครเวฟ พระพุทธเจ้าของกระผมเปนนามธรรม กระผมสวดมนต์ให้แก่รูปทรงอะไรก็ตามที่ก่อขึ้นในจิตใจกระผม ไม่ยึดติดกับรูปลักษณ์ แต่ใช้ประสาทสัมผัสทุกส่วนอย่างเต็มที่ หน้าตาของท่าน เสียงของท่าน ภาพของท่านเปนผลพวงจากจินตนาการ กระผมเหนท่านด้วยดวงตาของจินตนาการเท่านั้น กระผมรักและเคารพพระพุทธเจ้า ไม่ใช่เกรงกลัว รักท่านให้มาก และกลัวกิเลสทั้งปวง การฝึกสมาธิของกระผมเปนการเฝ้ามองการเคลื่อนที่ของจินตนาการของตนเอง การฝึกสมาธิทำให้บางสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับตรรกะกลับกลายเปนเรื่องที่เปนตรรกะได้ด้วยการช่วยเหลือจากจินตนาการเท่านั้น

ผมขอขัดจังหวะตัวเอง....

อี ก ไ ม่ กี่ วั น ....

เกาหลีเหนือจะทดลองยิงจรวด ในแง่ร้าย เราจะเหนจรวดนำวิถีแหวกกฎแรงดึงดูดของโลกและอยู่เหนือขีดจำกัด ในแง่ดี เรื่องนี้ทำให้คิดถึงพุทธะ พุทธะเหมือนจรวดนำวิถีที่แหวกกฎแรงดึงดูดของความยึดติดทั้งปวง เรื่องของพุทธะนี้มหัศจรรย์ยิ่งนัก พุทธะได้ยกระดับจินตนาการไปสู่ระดับที่มนุษย์ส่วนใหญ่ยังไปไม่ถึง ชาวพุทธควรจะเปนกลุ่มคนที่มีจินตนาการมากที่สุดในโลก ควรจะเปนกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จในโลกมากที่สุดด้วยซ้ำ เพราะศาสตร์แห่งพุทธะทำให้คนหลุดจากจิตวิทยาในค่ายกักกันตัวตน อย่าปล่อยให้คนที่อยู๋ในตัวท่านอีกคนมาขัดขวางคนที่ท่านสามารถจะเปนได้ อย่าปล่อยให้อีกคนจับท่านใส่ในตู้ไมโครเวฟเหมือนกับที่กระผมเคยโดน!!!

ลองเปิดเพลงที่ท่านชอบ แล้วจินตนาการว่าเสียงดนตรีมีสีอะไร เสียงมีกลิ่นแบบไหน รสชาติของเสียงและน้ำหนักของมันมีมากแค่ไหน สำหรับกระผมแล้ว เสียงของ Michael Jackson มีสีชมพู อ่อนโยน และ สุภาพอย่างงดงาม แต่มีรสเปรี้ยวมาก ๆ เลยครับ

ขอบพระคุณมากครับ......

อังคาร มิ.ย. 30, 2009 1:40 am

อ่านแล้วครับ เขียนเปรียบเทียบได้ดีมากเลยครับ

ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ

อังคาร มิ.ย. 30, 2009 7:21 am

เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา
ไปเที่ยวกับน้องๆในเวบที่อัมพวากัน
มีจัดนั่งคุยเรื่องหุ้นกันนิดๆหน่อยๆ
ผู้จััดให้ผมมาครึ่งชั่วโมง เรื่องอะไรก็ได้
กลัวว่าคุยกันเรื่องหุ้นอย่างเดียวเดี๋ยวจะเครียดไป
ผมก็เลยนำซีดีที่ีหลวงพ่อปราโมทย์เทศน์ไปเปิดให้ฟังกัน
ก็กล่้าวอารัมภบทนิดหน่อยว่าธรรมะของหลวงพ่อนี่ดี๊ดีนะ
ทำตามที่ท่านสอนแล้วจะได้ "สติ"
มีน้องคนนึงถามขึ้นมาทันทีว่า
ถ้าอย่างนั้นที่ผ่านมาเท่าอายุพี่ ก็ขาดสติมาตลอด ซิครับ
คนก็เฮกันทั้งห้อง
อือม...สุดท้ืายตอบเขาไปว่า
"ใช่"

อังคาร มิ.ย. 30, 2009 7:43 am

ต้องขอบคุณพี่ป้อมมากครับสำหรับ CD หลวงพ่อปราโมทย์

นั่งฟังตลอดทางกลับบ้าน

ฟังไป คิดไป ทำไมรู้สึกว่าเราไม่มีแรงจะทำอะไรเลย

พฤหัสฯ. ก.ค. 02, 2009 9:41 am

sattaya เขียน:ต้องขอบคุณพี่ป้อมมากครับสำหรับ CD หลวงพ่อปราโมทย์

ผมก็ได้ด้วยครับ
ฟังรอบแรก ฟังเอาความรู้
ก็พบว่ามีแต่เรื่องที่เราไม่รู้เยอะแยะไปหมด

ฟังรอบหลังๆ เรารู้แล้วเพราะจำได้
แต่รู้สึกว่าสติเกิดขึ้นบ่อย
เลยฟังบ่อยๆ :lol:

ศุกร์ ก.ค. 03, 2009 10:29 am

เอ ถ้าผมสนใจจะฟัง CD หลวงพ่อปราโมทย์
จะหาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ

ศุกร์ ก.ค. 03, 2009 10:41 am

http://www.youtube.com/watch?v=r_RANvKglmM

พอป๋าพูดถึงหลวงพ่อ ผมเลยลองตามไปฟังที่ youtube
ผมไม่เคยรูจักหลวงพ่อเลยครับ
นี่นับว่าผมโชคดีได้รู้จักป๋า ได้รูจักคนในกระทูนี้
ขอบคุณมากจริง ๆ ครับ

ศุกร์ ก.ค. 03, 2009 11:00 am

เอออ...เมื่อวานผมไปเดินคาฟู เหน CD ท่านเหลี่ยวฝาน รีบคว้ามาทันที ถ้าหนังสือนี่ ผมติดไว้อ่านทุกคืนอยู่แล้ว เพราะพ่อให้ผมมาตอนผมแต่งงาน เล่มนี้ผมเหนพ่ออ่านภาษาจีนมาตั้งแต่ผมเด้ก ๆ ครับ พ่อว่า ให้ทำตามนี้ ตระกูลเรา ใครแต่งงานแล้ว ก็ต้องอ่านเล่มนี้ อ่านแล้ว แล้วดีเอง ส่วนดี ไม่ดีอย่างไรนั้น กระผมว่า แสงที่บอกเล่าได้ ย่อมไมใช่แสง ต้องไปลองทำตามคำสอนในหนังสือดูครับ ทั้งตระกูลผม พี่ๆ น้อง และ อา ๆ ลุง ทั้งหลาย พิสูจน์มาหมดแล้ว ผมเหนเจริญรุ่งเรืองกันหมด เพื่อใครสนใจคร๊าบบบบบเจ้านายยยย

ศุกร์ ก.ค. 03, 2009 12:35 pm

LppJ เขียน:เอ ถ้าผมสนใจจะฟัง CD หลวงพ่อปราโมทย์
จะหาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ

โหลดฟรีได้ที่นี้ครับ
http://www.wimutti.net/

หรือจะไปขอรับ ซีดี ได้ที่บ้านอารีย์ ครับผม

http://www.baanaree.net/media/index.php

ศุกร์ ก.ค. 03, 2009 12:52 pm

LppJ เขียน:เอ ถ้าผมสนใจจะฟัง CD หลวงพ่อปราโมทย์
จะหาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ

สำหรับผู้เริ่มต้น
แนะนำว่าให้ฟังเทศนที่ศาลาลุงชิน(ศาลากาญจนาภิเษก)ก่อนครับ
เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยศึกษาแนวนี้มาก่อน
ไล่ตั้งแต่ครั้งที่ 1 ไป

เทศน์ตามที่ต่างๆก็ดี เช่น
มูลนิธิบ้านอารีย์
สถาบันวิมุตตยาลัย
โรงพยาบาลสมเด็จฯ ณ ศรีราชา
โรงเรียนอนุบาลจุไรรัตน์

ส่วนที่วัดนั้นจะ up ขึ้นมาอีกนิดนึง
เพราะหลวงพ่อเทศน์ตาม level ของคนที่มาฟังครับ

ศุกร์ ก.ค. 03, 2009 4:30 pm

RONNAPUM เขียน: โหลดฟรีได้ที่นี้ครับ
http://www.wimutti.net/

หรือจะไปขอรับ ซีดี ได้ที่บ้านอารีย์ ครับผม

http://www.baanaree.net/media/index.php

ขอบคุณครับ

ศุกร์ ก.ค. 03, 2009 4:52 pm

เมื่อวานไปวิ่งสวนลุมแล้วเลยไปกินสเต็คที่จามสแควร์
ลามไปกินกาแฟกันต่อนั่งคุยกับพระอาจารย์
เริ่มต้นก็ต้องเรื่องหุ้นก่อนเลย
คุยไปคุยมาเลเพลาดพาดไปก็เข้าธรรมะต่อ
คุยเรื่องธรรมะของหลวงพ่อแต่ละองค์แต่ละรูป
โอ้โฮย ไม่มีเหมือนกันเลย
น้อยมากที่จะมาพ้องๆกันบ้าง
เอ...แล้วทางไหนถูกหว่า
อ่านไปเยอะๆแล้วบางท่านอาจรู้สึกสับสนนะ
บางสายบอกให้ทำอาณาปาณสติ แบบกำหนดลมหายใจเลย
ให้รู้สึกว่าเป็นเส้นเป็นแท่งขาวๆทั้งอ่อนทั้งแข็งได้เลย
บางสายบอกอย่้าไปกำหนด
บางสายใ้ห้นั่งสมาธิ
บางสายใ้ห้เดิน
บ้างให้รู้กาย บ้างให้รู้จิต
บ้างให้ดูเส้นผม บ้างให้ดูกระดูก
เขียนไม่หมดครับ
คุยไปคุยมาสรุปว่า
จริตมนุษย์นี้ตัวใครตัวมัน ทางใครทางมัน
บุญใครบุญมัน กรรมใครกรรมมัน
แต่ละคนมีวิบาก มีเหตุ ปัจจัยเป็นของตัวเองโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นใครที่สงสัยอะไร ก็ดีแล้วครับ
ต้องช่างสังเกตุด้วยตัวเองครับ
ว่าเราเดินดี หรือนั่งดี ดูกายดี หรือดูจิตดี
ภาวนาตอนเช้าดี หรือตอนค่ำๆดี
ใช้ปัญญาดี หรือใช้สมาธิดี
ภาษาแขกบอกว่าเราต้องมีโยนิโส มนสิการ
ต้องช่างสังเกตุเยอะๆครับ
แล้วจะภาวนาหันหน้าไปถูกทิศได้
หลวงพ่อว่าถ้าถูกทิศขยันเดินมีสิทธิถึงฝั่ง
แต่ถ้าเดินหลงทิศ ยิ่งขยันยิ่งห่างฝั่งไปกันใหญ่
แฮ่...ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้นะครับ
ผมก็นิวคิดอินทาวน์เหมือนกัน

ศุกร์ ก.ค. 03, 2009 8:08 pm

นั่นแสดงว่าพี่่ป้อมเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมต้องนั่งสมาธิ :?: ทำไมปวดขาแล้วยังทนนั่งสมาธิต่ออีก บ้าเปล่า :!:

ในตำราถึงได้แบ่งคนออกเป็น 6 จริต
แต่ละคนยังต้องเดินคนละทาง แต่จุดมุ่งหมายอันเดียวกัน

ซื้อหุ้นยังเลือกคนละตัวเลย นับประสาอะไรกะปฏิบัติธรรม แต่ยังไงพื้นฐานสำหรับให้ดำเนินไปจะไม่ค่อยต่างกัน คล้ายกัน หรือ เหมือนกัน

ผมก็เบบี้อินทาวน์ขอรับ...

ศุกร์ ก.ค. 03, 2009 9:55 pm

oatty เขียน:นั่นแสดงว่าพี่่ป้อมเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมต้องนั่งสมาธิ :?: ทำไมปวดขาแล้วยังทนนั่งสมาธิต่ออีก บ้าเปล่า :!:

เพียงแต่มาบอกว่ามันมีทางอื่นนะที่ไม่ต้องเจ็บตัว
ส่วนถ้าชอบเจ็บชอบปวดก็เชิญครับ
ไม่ได้หวงได้ห้าม

เสาร์ ก.ค. 04, 2009 8:37 am

[quote="por_jai"]

เมื่อวานไปวิ่งสวนลุมแล้วเลยไปกินสเต็คที่จามสแควร์

จันทร์ ก.ค. 06, 2009 10:09 am

ผมไปไหว้หลวงพ่อเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา
ผมอัดเสียงธรรมบรรยายไว้ทั้งสองวันด้วย
ใครอยากได้ธรรมะดิลิเวอรี่แบบล่าสุด
เสียงชัดเหมือนไปนั่งฟังที่วัดเองเลย
ส่งพีิเอ็มที่อยู่มาได้
ผมจัดให้

จันทร์ ก.ค. 06, 2009 10:18 am

ผมนั่งอ่านที่โหน่งเขียนทุกครั้ง
ไม่ว่าเรื่องหุ้น เรื่องชีิวิต เรื่องธรรมะ
ได้เหลี่ยมมุมในการมอง อีกมุมนึง
ทำให้ได้"ฉุกใจ"
ตลอดมา
รู้สึกว่าเป็นบุญจริงๆที่ได้มาเจอน้องคนนี้
เขาสอนเราเรื่องมองให้รอบ
ได้ดีจริง

จันทร์ ก.ค. 06, 2009 10:31 am

por_jai เขียน:ผมไปไหว้หลวงพ่อเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา
ผมอัดเสียงธรรมบรรยายไว้ทั้งสองวันด้วย
ใครอยากได้ธรรมะดิลิเวอรี่แบบล่าสุด
เสียงชัดเหมือนไปนั่งฟังที่วัดเองเลย
ส่งพีิเอ็มที่อยู่มาได้
ผมจัดให้

ผมขอ 1 ชุด PM ไปแล้วรบกวนพี่ป้อมด้วยครับ

ขอบคุณอย่างสูง

จันทร์ ก.ค. 06, 2009 10:38 am

sattaya เขียน: ผมขอ 1 ชุด PM ไปแล้วรบกวนพี่ป้อมด้วยครับ

ขอบคุณอย่างสูง

พีัเอ็มของตี๋ช้ากว่าเจ้าเต้ยแค่เสี้ยววินาที
ถ้าเป็นดวลปืนก็เสร็จเจ้าเต้ยไปแล้ว
นี่ดีว่าเป็นธรรมะ
เร็วหรือช้า
"ดีหรือไม่ดี ยากจะบอก"

ผมกำลังก๊อปให้อยู่เลย
แต่กว่าจะส่งให้คงโน่นเช้าวันพฤหัสบดีนะ

จันทร์ ก.ค. 06, 2009 8:58 pm

[quote="por_jai"][quote="sattaya"][quote="por_jai"]ผมไปไหว้หลวงพ่อเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา