กรณี SVI ทำ tender offer หากรายย่อยไม่ขาย จะเป็นอย่างไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
กรณี SVI ทำ tender offer หากรายย่อยไม่ขาย จะเป็นอย่างไร
โพสต์ที่ 4
หุ้นดีดี ใยจึงต้องกล่าวคำอำลากัน โปรดเป็นสหายร่วมทางนักลงทุนต่อไปเถิดท่าน :8)
-
- Verified User
- โพสต์: 181
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กรณี SVI ทำ tender offer หากรายย่อยไม่ขาย จะเป็นอย่างไร
โพสต์ที่ 5
ก็ถือต่อได้เรื่อยๆ บริษัทยังคงสภาพมหาชนแต่ ไม่อยู่ในตลาดcd-invest เขียน:สงสัยว่าหาก ผู้ถือหุ้นรายย่อย ไม่ขายในราคานั้น จะเป็นอย่างไร
ปันผลยังได้รับตามปกติใช่หรือไม่
และหากในอนาคต อยากขายหุ้น จะขายอย่างไรครับ
หมายถึงยังใช้กม. มหาชนอยู่ ส่วนจะได้ปันผลหรือต้องกับกรรมการบริหารตัดสินใจ แต่ลำบากหากจะพยายามโต้แย้งเพราะเราหุ้นน้อยกว่าเยอะ คนที่ทำ tender offer เค้าเก็บหุ้นไปหมดแล้วส่วนใหญ่ เค้ามั่นใจว่าคุมเสียงได้แน่นอนในทุกมติ tender offer ก็ทำตามกฎตลาดหลักทรัพย์เท่านั้นเอง
ถ้าอยากขายต้องหาคนอยากซื้อให้เจอเท่านั้นเอง
ผมว่าขายไปเถอะครับ ตอนนี้ยังมีคนซื้อ
ถ้าไม่เคยผิดพลาด คงยังเรียกตัวเอง ว่านักลงทุนมืออาชีพ ไม่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
พงษ์ศักดิ์ฮุบSVI ทุ่มซื้อ2พันล้าน
โพสต์ที่ 6
วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
เปิดตัว “พงษ์ศักดิ์” ฮุบ SVI เกลี้ยง ใช้เงินกว่า 2,000 ล้าน ไอเดียสุดปิ๊งกู้เงินบริษัทในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 350 ล้าน บังคับขายหุ้นให้ 13% ราคา 1.80 บาท กำไรทันที 40 สตางค์/หุ้น
นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสวีไอ (SVI) ในฐานะประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 99.96% ในบริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น เปิดเผยว่า ภายหลังจากเอ็มเอฟจีฯ ได้เข้ารับซื้อหุ้นของ SVI ทั้งหมดจากกองทุน H&Q จำนวน 877 ล้านหุ้น หรือ 58.48% ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน SVI เพิ่มเป็น 69.45% ของทุนชำระแล้ว จึงได้ประกาศเจตนาที่จะทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) อีก 458.35 ล้านหุ้น หรือ 30.55% ในราคาหุ้นละ 1.40 บาท เป็นเงินรวม 641.70 ล้านบาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) จำนวน 358.72 ล้านหน่วย ในราคา 0.40 บาท รวมเป็นเงินที่จะตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นคราวนี้ทั้งสิ้น 785.19 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อนับรวมกับเงินที่ใช้ซื้อหุ้นจากกองทุน H&Q จำนวน 1,231.53 ล้านบาท ก็เท่ากับว่าทางเอ็มเอฟจีฯ จะใช้เงินในการเข้าฮุบ SVI ทั้งสิ้น 2,016.72 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าจะทำคำเสนอซื้อได้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยจะมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย เป็นผู้ดำเนินการ
สำหรับแหล่งเงินทุนที่นำมาซื้อกิจการครั้งนี้เป็นเงินกู้จากบริษัท Amplex Opertions ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐเอมิเรตส์ วงเงินรวม 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 350 ล้านบาท โดยจะมีสัญญาบังคับขายและบังคับซื้อระหว่างกันเกิดขึ้น โดยระบุว่าหากเบิกวงเงินทั้งหมดทางเอ็มเอฟจีฯ ก็มีสิทธิบังคับขายได้ในสัดส่วน 13% หรือ 195 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.80 บาท ซึ่งเท่ากับว่าจะได้กำไรทันที 40 สตางค์ และเงินกู้อีก 1,800 ล้านบาท จะกู้จากธนาคารกสิกรไทย
สำหรับการบริหารหลังการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นแล้วจะไม่มีการ เปลี่ยนแปลง ส่วนราคาหุ้น SVI หลังตลาดหลักทรัพย์ปลด H วิ่งขึ้นมาอยู่ที่ 1.45 บาท บวก 3.57% ปัจจุบัน SVI มีมูลค่าหุ้นทางบัญชี (บุ๊กแวลู) อยู่ที่ 2.13 บาท
เปิดตัว “พงษ์ศักดิ์” ฮุบ SVI เกลี้ยง ใช้เงินกว่า 2,000 ล้าน ไอเดียสุดปิ๊งกู้เงินบริษัทในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 350 ล้าน บังคับขายหุ้นให้ 13% ราคา 1.80 บาท กำไรทันที 40 สตางค์/หุ้น
นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสวีไอ (SVI) ในฐานะประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 99.96% ในบริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น เปิดเผยว่า ภายหลังจากเอ็มเอฟจีฯ ได้เข้ารับซื้อหุ้นของ SVI ทั้งหมดจากกองทุน H&Q จำนวน 877 ล้านหุ้น หรือ 58.48% ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน SVI เพิ่มเป็น 69.45% ของทุนชำระแล้ว จึงได้ประกาศเจตนาที่จะทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) อีก 458.35 ล้านหุ้น หรือ 30.55% ในราคาหุ้นละ 1.40 บาท เป็นเงินรวม 641.70 ล้านบาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) จำนวน 358.72 ล้านหน่วย ในราคา 0.40 บาท รวมเป็นเงินที่จะตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นคราวนี้ทั้งสิ้น 785.19 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อนับรวมกับเงินที่ใช้ซื้อหุ้นจากกองทุน H&Q จำนวน 1,231.53 ล้านบาท ก็เท่ากับว่าทางเอ็มเอฟจีฯ จะใช้เงินในการเข้าฮุบ SVI ทั้งสิ้น 2,016.72 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าจะทำคำเสนอซื้อได้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยจะมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย เป็นผู้ดำเนินการ
สำหรับแหล่งเงินทุนที่นำมาซื้อกิจการครั้งนี้เป็นเงินกู้จากบริษัท Amplex Opertions ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐเอมิเรตส์ วงเงินรวม 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 350 ล้านบาท โดยจะมีสัญญาบังคับขายและบังคับซื้อระหว่างกันเกิดขึ้น โดยระบุว่าหากเบิกวงเงินทั้งหมดทางเอ็มเอฟจีฯ ก็มีสิทธิบังคับขายได้ในสัดส่วน 13% หรือ 195 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.80 บาท ซึ่งเท่ากับว่าจะได้กำไรทันที 40 สตางค์ และเงินกู้อีก 1,800 ล้านบาท จะกู้จากธนาคารกสิกรไทย
สำหรับการบริหารหลังการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นแล้วจะไม่มีการ เปลี่ยนแปลง ส่วนราคาหุ้น SVI หลังตลาดหลักทรัพย์ปลด H วิ่งขึ้นมาอยู่ที่ 1.45 บาท บวก 3.57% ปัจจุบัน SVI มีมูลค่าหุ้นทางบัญชี (บุ๊กแวลู) อยู่ที่ 2.13 บาท
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
กรณี SVI ทำ tender offer หากรายย่อยไม่ขาย จะเป็นอย่างไร
โพสต์ที่ 7
หุ้นเด็ดตัวนี้ของคุณพี่โจ ไม่ทราบว่าพอทำกำไรได้บ้างไหมครับ ราคาแถวบุ๊กที่ผมรอคอยคงกลายเป็นวิมานในอากาศซะแล้ว 

-
- Verified User
- โพสต์: 97
- ผู้ติดตาม: 0
กรณี SVI ทำ tender offer หากรายย่อยไม่ขาย จะเป็นอย่างไร
โพสต์ที่ 8
ไล่ซื้อแบบนี้ เหมือนหมูไม่กลัวน้ำร้อนเลย...
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
กรณี SVI ทำ tender offer หากรายย่อยไม่ขาย จะเป็นอย่างไร
โพสต์ที่ 9
ผมมือใหม่นะครับ อยากทราบนะครับว่า ปัจจุบันราคาในตลาดก็สูงกว่า 1.4 พอสมควรแล้ว ถ้าเกิดถึงวันที่มีการ tender offer แล้ว ถ้าเกิดราคาในตลาดเป็นเท่าไรก็ตาม แต่ทางบริษัทจะมาซื้อที่ราคา 1.4 ใช่ไหมครับ แต่เรามีสิทธิ์ที่จะขายหรือไม่ก็ได้ใช่ไหมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 181
- ผู้ติดตาม: 0
กรณี SVI ทำ tender offer หากรายย่อยไม่ขาย จะเป็นอย่างไร
โพสต์ที่ 10
เข้าใจถูกต้องnontan เขียน:ผมมือใหม่นะครับ อยากทราบนะครับว่า ปัจจุบันราคาในตลาดก็สูงกว่า 1.4 พอสมควรแล้ว ถ้าเกิดถึงวันที่มีการ tender offer แล้ว ถ้าเกิดราคาในตลาดเป็นเท่าไรก็ตาม แต่ทางบริษัทจะมาซื้อที่ราคา 1.4 ใช่ไหมครับ แต่เรามีสิทธิ์ที่จะขายหรือไม่ก็ได้ใช่ไหมครับ
ถ้าไม่เคยผิดพลาด คงยังเรียกตัวเอง ว่านักลงทุนมืออาชีพ ไม่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 97
- ผู้ติดตาม: 0
กรณี SVI ทำ tender offer หากรายย่อยไม่ขาย จะเป็นอย่างไร
โพสต์ที่ 12
เป็นอีกตัวที่ผมสนใจมานานแล้วครับ
คิดไว้อยู่แล้วว่า tender แน่ๆ
นุ่มๆ แบบนี้
คิดไว้อยู่แล้วว่า tender แน่ๆ
นุ่มๆ แบบนี้