และลองหาข้อสรุปว่าการขึ้นของหุ้นรอบนี้จะเสถียรหรือไม่
ขอเชิญทุกท่านมาร่วมกัน discuss ดีกว่า
ผมจะเล่าทีละประเด็นนะครับ
ก่อนอื่นขอเล่าที่มาที่ไปก่อน
ผมเคยโพสไว้ในกระทู้คุณวิบูลย์ว่า
ผมเก็บหุ้นแถวๆ 413-415 จุด
โดยผมดู usd index ว่าถ้ายังลงไปเรื่อยๆผมก็จะถือหุ้นต่อไปเรื่อยๆ
จำได้ว่าตอนโพส usd index ประมาณ 86 ได้มั้ง
ตอนนี้เหลือ 83 หุ้น asia ก็ได้ขึ้นมาพอสมควร
เหตุผลที่รอบนี้ผมมองว่า usd index จะปรับตัวลง
ตอนนั้นประกอบกับมีการให้สัมภาษจากสถาบ้นการเงินว่า
2 เดือนแรกของปีมีกำไร ผมเลยเข้าไปเก็บหุ้น
และใช้เป็น indicator ในการถือหุ้นไปเรื่อยๆ
มันเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า
qe
หรือ quantitative easing
การทำ qe
นั้นจะทำให้ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้น
ซึ่งจะทำให้เกิดผลดี 4 อย่าง
1.ทำให้เกิดการหมุนของเงินในระบบเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเงินฝืด
2.ทำให้สถาบันการเงินที่ได้เงินช่วยเหลือมีสภาพคล่องในการปล่อยกู้มากขึ้น
3.รัฐบาลที่ทำ qe จะทำให้เกิดเงินเฟ้อและทำให้เจ้าหนี้มีแรงจูงใจในการทำให้เกิดเงินเฟ้อ
4.ค่าเงินจะอ่อนและส่งเสริมการส่งออก
การทำ qe ทำให้หุ้นขึ้นได้อย่างไร
เพราะว่าการอัดฉีดเงินจะทำให้ปริมาณเงินเพิ่มขึ้น
และทำให้ค่าเงินอ่อนลง
ลองดูหลักฐานการทำ qe ของประเทศ japan เมื่อหลายปีที่แล้วดู
![รูปภาพ](http://i293.photobucket.com/albums/mm60/hongvalue/untitled-33.jpg)
จุดที่แรเงาสีเทาคือช่วงที่ทำ qe หลังจากทำเสร็จ
ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้นถึง 36%
การทำ qe ของประเทศ usa นั้นจะทำให้ค่าเงิน usa อ่อนลง
เพราะปริมาณเงินเยอะขึ้น
และทำให้เกิด liquitity driven ก็คือเงินมาลงที่หุ้น asia
นั้นเอง
นี้คือ สภาพคล่องจากต่างประเทศ
เดี่ยวจะมีส่วนของสภาพคล่องในประเทศไทยมาเล่าต่อ
ไม่ทราบว่าเพื่อนสมาชิกแต่ละท่านมีความเห็นอย่างไรกันบ้าง
มีอีกหลายประเด็นแต่เดี่ยวผมกลับมาเล่าใหม่อีกทีนะครับ