เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
- พิมพ์
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 1
กำลังจะขายที่ดิน ได้เงินมาประมาณล้านนึง
ก็คิดว่าจะเอามาสร้างบ้านเเละลงทุนให้หุ้น
(อ่านมาพอสมควร)
เราควรจะสร้างบ้านเเบบพอเพียงเเละ
เหลือเงินให้มากๆเพื่อเอามาลงทุนใช่ไม๊คะ
คิดจะสร้างบ้านหลังเล็กๆชั้นเดียว ซัก18-20 ตารางเมตร
กะว่าจะประหยัดสุดๆ ให้สร้างได้ในงบไม่เกิน
สองเเสน เพื่อนๆว่าดีหรือไม่ค่ะ เเละเป็นไปได้ไม๊คะ
คือสร้างเล็กๆ เพราะอยู่คนเดียว
เอาเเค่ว่าสวยน่ารัก เเข็งเเรง ปลอดภัยก็พอไม่ต้องใหญ่มาก
วัสดุก็ใช้เเบบธรรมดาๆ
เล็กๆจะประหยัด ค่าก่อสร้าง
ไม่ต้องใช้ทรัพยากรโลกมาก
ดูเเลซ่อมเเซมหรือทำความสะอาดสะดวก
เเละจะได้เหลือที่ดินไว้ปลูกต้นไม้มากๆเพราะชอบต้นไม้ดอกไม้
เเละยังเหลือเงินมาซื้อหุ้นได้มากๆ
ต่อไปถ้ามีกำไรจากหุ้นก็ยังสร้างเพิ่มได้อีกเพราะที่ดินร้อยตารางวา
สร้างเป็นกล่องๆต่อๆกันไปได้
แต่ถ้าสร้างบ้านเเพงกว่านี้เราจะเหลือเงินมาซื้อหุ้นน้อย
(ปล.ไม่อยากกู้สร้างบ้านค่ะ อยากทำเท่าที่เงินสดมีไม่ชอบเป็นภาระ)
เพื่อนๆมีคำเเนะนำว่าอย่างไรบ้างคะ
ก็คิดว่าจะเอามาสร้างบ้านเเละลงทุนให้หุ้น
(อ่านมาพอสมควร)
เราควรจะสร้างบ้านเเบบพอเพียงเเละ
เหลือเงินให้มากๆเพื่อเอามาลงทุนใช่ไม๊คะ
คิดจะสร้างบ้านหลังเล็กๆชั้นเดียว ซัก18-20 ตารางเมตร
กะว่าจะประหยัดสุดๆ ให้สร้างได้ในงบไม่เกิน
สองเเสน เพื่อนๆว่าดีหรือไม่ค่ะ เเละเป็นไปได้ไม๊คะ
คือสร้างเล็กๆ เพราะอยู่คนเดียว
เอาเเค่ว่าสวยน่ารัก เเข็งเเรง ปลอดภัยก็พอไม่ต้องใหญ่มาก
วัสดุก็ใช้เเบบธรรมดาๆ
เล็กๆจะประหยัด ค่าก่อสร้าง
ไม่ต้องใช้ทรัพยากรโลกมาก
ดูเเลซ่อมเเซมหรือทำความสะอาดสะดวก
เเละจะได้เหลือที่ดินไว้ปลูกต้นไม้มากๆเพราะชอบต้นไม้ดอกไม้
เเละยังเหลือเงินมาซื้อหุ้นได้มากๆ
ต่อไปถ้ามีกำไรจากหุ้นก็ยังสร้างเพิ่มได้อีกเพราะที่ดินร้อยตารางวา
สร้างเป็นกล่องๆต่อๆกันไปได้
แต่ถ้าสร้างบ้านเเพงกว่านี้เราจะเหลือเงินมาซื้อหุ้นน้อย
(ปล.ไม่อยากกู้สร้างบ้านค่ะ อยากทำเท่าที่เงินสดมีไม่ชอบเป็นภาระ)
เพื่อนๆมีคำเเนะนำว่าอย่างไรบ้างคะ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 3
ลงรูปตามลิ๊งนี้ไปครับพิมพ์ เขียน:เอ่อถามนิดนึงค่ะ ลงภาพนี่ทำยังไงเหรอคะ พอดีมือใหม่ค่ะ เลยไม่ค่อยรู้เรื่อง
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=32650
ส่วนเรื่องหัวข้อกระทู้ ตอบว่า
ก็อยู่ที่เป้าหมายส่วนตัวของน้องเองครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 5
ถูกต้องที่สุดครับ :D :Dpor_jai เขียน:ส่วนเรื่องหัวข้อกระทู้ ตอบว่า
ก็อยู่ที่เป้าหมายส่วนตัวของน้องเองครับ
ผมว่าถ้าคุณ พิมพ์ คิดว่าทำเช่นนี้แล้วมีความสุขที่สุด
และตรงตามเป้าหมายทีุ่สุดก็โอเคแล้วละครับ
เรื่องผลตอบแทนของบ้าน(ราคาที่เพิ่มขึ้น) VS ของหุ้น
จะมากจะน้อยเท่าไหร่ ไม่จำเป็นต้องเอามาเปรียบเทียบครับ
ถ้าเป้าหมายของคุณ พิมพ์ ไม่ใช่เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุด
แต่ผมอยากเสริมนิดนึงครับ
คือ ส่วนตัวผมคิดว่าบ้านเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากๆในชีวิต
ดังนั้นสำหรับ "บ้าน" ผมจะไม่เน้นที่ความประหยัดก่อน
แต่จะเน้นที่ประโยชน์ใช้สอยและความสะดวกสบายเป็นหลัก
( การเดินทาง + สภาพแวดล้อมรอบบ้าน + เพื่อนบ้าน ฯลฯ )
อย่างไรก็ตามทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวครับ
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
- poppo
- Verified User
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 6
ควรลงทุนกับบ้าน ให้อยู่สบาย และมีความสุขก่อนลงทุนกับหุ้นครับ
และโอกาสที่จะซื้อบ้านแล้วขาดทุน มีน้อยกว่าซื้อหุ้นแล้วขาดทุนมากครับ
ถ้ามีบ้านที่ดี ในทำเลที่ดี เดินทางสะดวก เพื่อนบ้านดี ปลอดภัย จะทำให้ใจมีความสุข แล้วผมว่า performance ไม่ว่าลงทุนหรือทำงานจะดีกว่าเดิมนะครับ ผมเชื่ออย่างนั้น
และโอกาสที่จะซื้อบ้านแล้วขาดทุน มีน้อยกว่าซื้อหุ้นแล้วขาดทุนมากครับ
ถ้ามีบ้านที่ดี ในทำเลที่ดี เดินทางสะดวก เพื่อนบ้านดี ปลอดภัย จะทำให้ใจมีความสุข แล้วผมว่า performance ไม่ว่าลงทุนหรือทำงานจะดีกว่าเดิมนะครับ ผมเชื่ออย่างนั้น
จงทนอด และอดทน
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1495
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 7
นี่ประมาณ ห้องใน apartment เลยนะครับคิดจะสร้างบ้านหลังเล็กๆชั้นเดียว ซัก18-20 ตารางเมตร
กะว่าจะประหยัดสุดๆ ให้สร้างได้ในงบไม่เกิน
สองเเสน เพื่อนๆว่าดีหรือไม่ค่ะ เเละเป็นไปได้ไม๊คะ
ถ้าจะสร้างบ้านเท่านี้ 2 แสนไม่รู้ทำได้หรือเปล่านะ ปกติสร้างบ้าน งบมักจะบานปลายอยู่แล้วด้วย ไหนจะต้องมีค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าไฟ ค่าทาสี จิปาถะ
ถ้าต้องการห้องแบบนี้ ทำไมไม่พิจารณาเรื่อง บ้านเช่า หรือ ถ้าอยู่ใน กทม ไม่ลองดูพวก apartment หรือ คอนโด ล่ะครับอาจจะคุ้มกว่า แล้วก็เอาเงินทีเหลือไปลงทุนอย่างที่เราอยากทำ
เรื่องบ้าน ผมว่าจะสร้าง น่าจะรอพร้อมกว่านี้ก่อน สร้างที ก็น่าจะต้องอยู่สบายนะครับ
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 9
ผมสนับสนุนความคิดคุณพิมพ์เต็มที่ครับ
ผมคนนึงถึงวันนี้ยังไม่มีบ้านเองเลย ทั้งที่มีเงิน
ผมถือคติ ลำบากวันนี้ เพื่อสบายวันหน้า ดีกว่าสบายก่อนลำบากทีหลัง
ผมคนนึงถึงวันนี้ยังไม่มีบ้านเองเลย ทั้งที่มีเงิน
ผมถือคติ ลำบากวันนี้ เพื่อสบายวันหน้า ดีกว่าสบายก่อนลำบากทีหลัง
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 10
เรื่องบ้านนี่มีความคิดที่มันขัดๆกันอยู่นะครับ
๑ บ้าน คือวิมานของเรา (เพลง)
๒ บ้าน คือหนี้สิน ไม่ใช่ ทรัพย์สิน(rich dad poor dad)
ทีนี้อยู่ที่คุณพิมจะตีความแล้วครับ
ขอยกตัวอย่างผมเอง
ด้วยความที่เป็นสถาปนึก อยากอยู่ในสถาปัตยกรรมที่ผมออกแบบเอง
ดังนั้นผมเลยเลือกข้อ ๑
แต่เป็นวิมานน้อยๆ คอยวันเติบโต
ผมซื้อที่ ๑๐๐ ตรว แล้วปลูกบ้านแบบจำกัดงบ แต่เผื่อต่อเติมได้
ผมออกแบบเป็นบ้าน ๒ ชั้น ใต้ถุนโล่ง เอาไว้ต่อเติม ที่ก็ไม่ถมทำเป็นบ่อปลูกบัว
หลังคาห้องน้ำเปิดโล่ง ประหยัดและโรแมนติคตอนอาบน้ำใต้แสงจันทร์
ก็พอไปได้นะครับ
เสียอย่างเดียวว่า ปลูกได้ปีนึงเจอโขมยขึ้นบ้าน
.......ผ่านทางหลังคาห้องน้ำ
๕๕๕
ทุกวันนี้ บ้านผมก็ใต้ถุนไม่โล่ง หลังคาปิดเรียบร้อย แถมมีห้องงอกออกมาอีกตะหาก
สรุปก็คือ
๑ เอาทางสายกลายแบบพี่ลูกอิสานว่าจะเหมาะดีนะ
๒ งบ ๒ แสนฟันธงว่า เอาไม่อยู่ครับ ซักครึ่งๆดีไหมครับ ครึ่งนึงปลูกบ้าน ครึ่งนึงลงทุน
๓ บ้านที่จะปลูกต้องวางแผนล่วงหน้า ไม่งั้นจะมีปัญหามากตอนต่อเติม
ขอให้คุณพิม มีบ้าน และ หุ้น ที่เป็นวิมานเป็นของตัวเองครับ
๑ บ้าน คือวิมานของเรา (เพลง)
๒ บ้าน คือหนี้สิน ไม่ใช่ ทรัพย์สิน(rich dad poor dad)
ทีนี้อยู่ที่คุณพิมจะตีความแล้วครับ
ขอยกตัวอย่างผมเอง
ด้วยความที่เป็นสถาปนึก อยากอยู่ในสถาปัตยกรรมที่ผมออกแบบเอง
ดังนั้นผมเลยเลือกข้อ ๑
แต่เป็นวิมานน้อยๆ คอยวันเติบโต
ผมซื้อที่ ๑๐๐ ตรว แล้วปลูกบ้านแบบจำกัดงบ แต่เผื่อต่อเติมได้
ผมออกแบบเป็นบ้าน ๒ ชั้น ใต้ถุนโล่ง เอาไว้ต่อเติม ที่ก็ไม่ถมทำเป็นบ่อปลูกบัว
หลังคาห้องน้ำเปิดโล่ง ประหยัดและโรแมนติคตอนอาบน้ำใต้แสงจันทร์
ก็พอไปได้นะครับ
เสียอย่างเดียวว่า ปลูกได้ปีนึงเจอโขมยขึ้นบ้าน
.......ผ่านทางหลังคาห้องน้ำ
๕๕๕
ทุกวันนี้ บ้านผมก็ใต้ถุนไม่โล่ง หลังคาปิดเรียบร้อย แถมมีห้องงอกออกมาอีกตะหาก
สรุปก็คือ
๑ เอาทางสายกลายแบบพี่ลูกอิสานว่าจะเหมาะดีนะ
๒ งบ ๒ แสนฟันธงว่า เอาไม่อยู่ครับ ซักครึ่งๆดีไหมครับ ครึ่งนึงปลูกบ้าน ครึ่งนึงลงทุน
๓ บ้านที่จะปลูกต้องวางแผนล่วงหน้า ไม่งั้นจะมีปัญหามากตอนต่อเติม
ขอให้คุณพิม มีบ้าน และ หุ้น ที่เป็นวิมานเป็นของตัวเองครับ
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 11
อ้อ ลืมสรุปไป ๑ ข้อ
๔ หุ้น ที่จะซื้อต้องคิดวางแผนก่อนที่จะซื้อ เพราะจะมีปัญหามาก
ตอน cut loss หรือ ซื้อเพิ่ม
๔ หุ้น ที่จะซื้อต้องคิดวางแผนก่อนที่จะซื้อ เพราะจะมีปัญหามาก
ตอน cut loss หรือ ซื้อเพิ่ม
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
- Diablo
- Verified User
- โพสต์: 822
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 12
พี่เพิ่งเริ่มลงทุนหรือเปล่าครับ
ถ้าประสบการณ์ยังน้อยผมคิดว่าควรจะสร้างบ้านที่พออยู่ได้แบบไม่คับแคบหรือประหยัดเกินไปดีกว่าครับ
เพราะว่าถ้าเราประหยัดเงินซื้อบ้านสุดๆ เอาเงินมาลงหุ้นให้มากสุดๆแล้วเนี่ย
ถ้าเกิดหุ้นตกลงไปอย่างน่ากลัวพี่ทำใจได้หรือไม่ ที่เงินที่ได้มาจากการขายที่ดินต้องลดลงมากในเวลาไม่นาน
ในขณะที่บ้านนั้นเป็นของเรา เป็นอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น
อยากให้ลองอ่านหนังสือ One Up On Wallstreet ประกอบครับ
จะมีบทนึงพูดถึงว่าควรมีบ้านก่อนซื้อหุ้น
เขียนเอง งงเอง :lol:
ถ้าประสบการณ์ยังน้อยผมคิดว่าควรจะสร้างบ้านที่พออยู่ได้แบบไม่คับแคบหรือประหยัดเกินไปดีกว่าครับ
เพราะว่าถ้าเราประหยัดเงินซื้อบ้านสุดๆ เอาเงินมาลงหุ้นให้มากสุดๆแล้วเนี่ย
ถ้าเกิดหุ้นตกลงไปอย่างน่ากลัวพี่ทำใจได้หรือไม่ ที่เงินที่ได้มาจากการขายที่ดินต้องลดลงมากในเวลาไม่นาน
ในขณะที่บ้านนั้นเป็นของเรา เป็นอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น
อยากให้ลองอ่านหนังสือ One Up On Wallstreet ประกอบครับ
จะมีบทนึงพูดถึงว่าควรมีบ้านก่อนซื้อหุ้น
เขียนเอง งงเอง :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 1296
- ผู้ติดตาม: 1
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 13
จากประสบการณ์ของผม จงสร้างบ้านให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่เราจะมี
ความสามารถในขณะนั้น เพราะ
1 ช่วงที่สร้างบ้านเป็นช่วงที่เครียดมากๆ เครียดครั้งเดียวแล้วจบไปเลยดีกว่า
2 ถ้าคิดจะต่อเติมภายหลังก็เครียดมากเช่นกัน ระหว่างต่อเติมรบกวนการ
เนินชีวิตของเรามากๆ
การมีบ้านก็เหมือนมีอาณาจักรของเราเอง เป็นความมั่นใจและภูมิใจ
อย่างสูง ยิ่งกว่าการมีสมบัติอื่นๆ
3 เรื่องลงทุนในหุ้นเก็บไว้ก่อนเลย เพราะคนส่วนใหญ่มักจะขาดทุนและติด
หุ้นยาวนาน เมื่อบ้านเสร็จแล้วค่อยเก็บเงินลงทุนในหุ้นก็ยังไม่สาย ตลาด
หุ้นยังคงอยู่แม้เราตายไปก็ยังอยู่อีกนาน
ความสามารถในขณะนั้น เพราะ
1 ช่วงที่สร้างบ้านเป็นช่วงที่เครียดมากๆ เครียดครั้งเดียวแล้วจบไปเลยดีกว่า
2 ถ้าคิดจะต่อเติมภายหลังก็เครียดมากเช่นกัน ระหว่างต่อเติมรบกวนการ
เนินชีวิตของเรามากๆ
การมีบ้านก็เหมือนมีอาณาจักรของเราเอง เป็นความมั่นใจและภูมิใจ
อย่างสูง ยิ่งกว่าการมีสมบัติอื่นๆ
3 เรื่องลงทุนในหุ้นเก็บไว้ก่อนเลย เพราะคนส่วนใหญ่มักจะขาดทุนและติด
หุ้นยาวนาน เมื่อบ้านเสร็จแล้วค่อยเก็บเงินลงทุนในหุ้นก็ยังไม่สาย ตลาด
หุ้นยังคงอยู่แม้เราตายไปก็ยังอยู่อีกนาน
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 14
ถ้าพี่มีบ้านหลังที่สองRadio เขียน:จากประสบการณ์ของผม จงสร้างบ้านให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่เราจะมี
ความสามารถในขณะนั้น เพราะ
1 ช่วงที่สร้างบ้านเป็นช่วงที่เครียดมากๆ เครียดครั้งเดียวแล้วจบไปเลยดีกว่า
2 ถ้าคิดจะต่อเติมภายหลังก็เครียดมากเช่นกัน ระหว่างต่อเติมรบกวนการ
เนินชีวิตของเรามากๆ
การมีบ้านก็เหมือนมีอาณาจักรของเราเอง เป็นความมั่นใจและภูมิใจ
อย่างสูง ยิ่งกว่าการมีสมบัติอื่นๆ
3 เรื่องลงทุนในหุ้นเก็บไว้ก่อนเลย เพราะคนส่วนใหญ่มักจะขาดทุนและติด
หุ้นยาวนาน เมื่อบ้านเสร็จแล้วค่อยเก็บเงินลงทุนในหุ้นก็ยังไม่สาย ตลาด
หุ้นยังคงอยู่แม้เราตายไปก็ยังอยู่อีกนาน
โดยที่หลังแรกยังเคลียร์ไม่ลงตัว
รับรอง...ตายยยย...ครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- Magneto
- Verified User
- โพสต์: 276
- ผู้ติดตาม: 0
เราไม่ควรทุ่มทุนกับบ้านมากๆใช่ไม๊คะแต่ควรแบ่งมาลงทุนมากกว่า
โพสต์ที่ 17
ตอนผมเรียนจบใหม่ๆ ทำงานได้ไม่กี่ปี แล้วเรียนโท เจอพี่คนหนึ่งอายุมากกว่าผมปีเดียว เค้าแต่งงานแล้ว ฐานะทางบ้านไม่ได้ดีอะไรมาก่อน เค้าทำทุกทาง กู้ซื้อบ้าน 7 ล้านช่วยผ่อนกับแฟน ผมว่า โอ้โห
ผ่านมาวันนี้ 5 ปีแล้ว ผมมองย้อนไป เค้าก็ผ่อนไหวนี่หว่า เค้าได้ใช้ชีวิตในบ้านที่เค้าชอบ มีความสุขมา 5 ปีแล้ว แต่คนที่ไม่อยากเสี่ยงอะไรก็ยังเก็บเงินลงทุนต่อไป แต่ไม่รู้วันนั้นถึงวันนี้มีกี่คนที่รวยขึ้น กี่คนที่จนลง
ผมว่า มันขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายในชีวิตคืออะไร ถ้าต้องการอยู่อย่างมีความสุข ต้องดูว่าจะสุขเมื่อไหร่ จะอดใจรอสุขตอนสังขารไม่ค่อยอำนวยแล้ว หรือจะสุขไปตั้งแต่วันนี้ แต่ถ้าสุขวันนี้ มันจะทำให้กระทบเงินที่ต้องสนับสนุนความสุขวันหน้าหรือเปล่า ใช้เงินเยอะขึ้นกับบ้านแล้วอยู่สุขจริงหรือเปล่า หรือจะมาเสียดายเงินอีก
ถ้าคุณไม่ใช่คนลงทุนเก่งนัก อย่าฝันหวานมากนักว่าลงทุนในหลักทรัพย์เสี่ยง (ที่ไม่คุ้มครองเงินต้น) แล้วเงินจะงอกเงยเสมอไป เงินอาจลดลงจากการลงทุน แล้วมาเสียดายว่าไม่ได้ใช้เงินกับบ้านให้มากอย่างที่ต้องการตั้งแต่แรก เสียดาย เสียดาย... ถ้ารู้อย่างนั้น...จะอย่างนี้....
ถ้าเป็นผม ผมจะลงทุนกับบ้านให้พอสมควร ไม่ตระหนี่กับมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ทำให้ผมเป็นหนี้เป็นสินมาก แต่ก็ไม่ถึงกับฟุ่มเฟือย สำหรับคนอื่นๆ ผมว่าตรงไหนเหมาะ คงอยู่ที่เป้าหมายในชีวิตของแต่ละคน
สำหรับช่าง ผมว่าคุมให้ดี เป็นอะไรที่น่าเหนื่อยใจมากๆ กี่รายๆ ก็ไม่ควรไว้ใจ
ยกเว้นจะคิดว่า ช่าง = ช่างมัน
ตกลงกันให้ดี ให้ละเอียดทุกเรื่องตั้งแต่ต้นดีกว่า เขียนไว้ ตีราคาไว้ ถ่ายบัตรประชาชนกันเลย ไม่ต้องไปเกรงใจ อย่าไปคิดว่าเดี๋ยวอันนั้นค่อยขอให้เค้าช่วยทำ อันนี้ค่อยขอให้เค้าช่วยทำ ปัญหามันจะตามมาเยอะ แล้วมันจะไม่จบนะครับ
ด้วยความปรารถนาดี ขอให้มีความสุขครับ
ผ่านมาวันนี้ 5 ปีแล้ว ผมมองย้อนไป เค้าก็ผ่อนไหวนี่หว่า เค้าได้ใช้ชีวิตในบ้านที่เค้าชอบ มีความสุขมา 5 ปีแล้ว แต่คนที่ไม่อยากเสี่ยงอะไรก็ยังเก็บเงินลงทุนต่อไป แต่ไม่รู้วันนั้นถึงวันนี้มีกี่คนที่รวยขึ้น กี่คนที่จนลง
ผมว่า มันขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายในชีวิตคืออะไร ถ้าต้องการอยู่อย่างมีความสุข ต้องดูว่าจะสุขเมื่อไหร่ จะอดใจรอสุขตอนสังขารไม่ค่อยอำนวยแล้ว หรือจะสุขไปตั้งแต่วันนี้ แต่ถ้าสุขวันนี้ มันจะทำให้กระทบเงินที่ต้องสนับสนุนความสุขวันหน้าหรือเปล่า ใช้เงินเยอะขึ้นกับบ้านแล้วอยู่สุขจริงหรือเปล่า หรือจะมาเสียดายเงินอีก
ถ้าคุณไม่ใช่คนลงทุนเก่งนัก อย่าฝันหวานมากนักว่าลงทุนในหลักทรัพย์เสี่ยง (ที่ไม่คุ้มครองเงินต้น) แล้วเงินจะงอกเงยเสมอไป เงินอาจลดลงจากการลงทุน แล้วมาเสียดายว่าไม่ได้ใช้เงินกับบ้านให้มากอย่างที่ต้องการตั้งแต่แรก เสียดาย เสียดาย... ถ้ารู้อย่างนั้น...จะอย่างนี้....
ถ้าเป็นผม ผมจะลงทุนกับบ้านให้พอสมควร ไม่ตระหนี่กับมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ทำให้ผมเป็นหนี้เป็นสินมาก แต่ก็ไม่ถึงกับฟุ่มเฟือย สำหรับคนอื่นๆ ผมว่าตรงไหนเหมาะ คงอยู่ที่เป้าหมายในชีวิตของแต่ละคน
สำหรับช่าง ผมว่าคุมให้ดี เป็นอะไรที่น่าเหนื่อยใจมากๆ กี่รายๆ ก็ไม่ควรไว้ใจ
ยกเว้นจะคิดว่า ช่าง = ช่างมัน
ตกลงกันให้ดี ให้ละเอียดทุกเรื่องตั้งแต่ต้นดีกว่า เขียนไว้ ตีราคาไว้ ถ่ายบัตรประชาชนกันเลย ไม่ต้องไปเกรงใจ อย่าไปคิดว่าเดี๋ยวอันนั้นค่อยขอให้เค้าช่วยทำ อันนี้ค่อยขอให้เค้าช่วยทำ ปัญหามันจะตามมาเยอะ แล้วมันจะไม่จบนะครับ
ด้วยความปรารถนาดี ขอให้มีความสุขครับ
Charls is a friend. My greatest regret is that he had to die for our dream to live. ถึงแม้จะเดินคนละทาง แต่ผมกับชาร์ลก็มีเป้าหมายเดียวกัน..คือ มีที่ให้พวกเรายืนบนโลกใบนี้ยังไงล่ะ