กระทู้คุณค่า มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ มี.ค. 30, 2009 7:17 pm | 0 คอมเมนต์
VIB007 เขียน: ฮงมันหายไปเลยวุ้ย
ไม่ยอมมาส่งการบ้าน
สงสัยงอนอีกตามฟอร์ม
ผมไม่ได้งอนนะครับ
จริงๆแล้วถ้าผมปั่นกระทู้
20 หน้าภายใน 1 เดือน
ผมก็ต้องมีหมดมุข หมดเรื่องคุยบ้าง
ผมไม่สามารถปั่นกระทู้วันละเกือบ 1 หน้าต่อเนื่องได้ตลอดไปนะครับ
การที่หมดมุขและหายไปบ้าง ไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องไม่พอใจอะไรนี้ครับ
คนที่เข้ามาโพสเป็นพักๆก็เยอะแยะไป ทำไมถ้าผมหายกลายเป็นผมงอน
อยู่คนเดียวล่ะ :lol:
แล้วก็การบ้าน usd index ผมไม่ได้ทำเพราะว่า
ทุกคนสามรถดูหุ้น asia กับ usd index ได้ด้วยตัวเอง
อยู่แล้ว
zesar
Verified User
โพสต์: 390
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ มี.ค. 30, 2009 7:20 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณที่ชี้แนะ :D
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร มี.ค. 31, 2009 8:37 am | 0 คอมเมนต์
hongvalue เขียน:
ผมไม่ได้งอนนะครับ
จริงๆแล้วถ้าผมปั่นกระทู้
20 หน้าภายใน 1 เดือน
ผมก็ต้องมีหมดมุข หมดเรื่องคุยบ้าง
เออ...เข้าใจ
hongvalue เขียน:
ผมไม่สามารถปั่นกระทู้วันละเกือบ 1 หน้าต่อเนื่องได้ตลอดไปนะครับ
การที่หมดมุขและหายไปบ้าง ไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องไม่พอใจอะไรนี้ครับ
คนที่เข้ามาโพสเป็นพักๆก็เยอะแยะไป ทำไมถ้าผมหายกลายเป็นผมงอน
อยู่คนเดียวล่ะ :lol:
อันนี้ท่าทางจะคิดมากไปนะเรื่องงอน
แซวเล่นนะ....อย่าซีเรียส
hongvalue เขียน:
แล้วก็การบ้าน usd index ผมไม่ได้ทำเพราะว่า
ทุกคนสามรถดูหุ้น asia กับ usd index ได้ด้วยตัวเอง
อยู่แล้ว
ไม่ได้ดูเลย
ฮงช่วยทำให้ดูหน่อยดิ
ว่ารอบนี้มันสัมพันธ์กันหรือเปล่า
ในระยะสองวัน หนึ่งอาทิตย์ และสองอาทิตย์
เอาจากวันที่เราคุยกันก็ได้
zesar
Verified User
โพสต์: 390
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. เม.ย. 02, 2009 12:53 pm | 0 คอมเมนต์
คืออยากจะถามพี่วิบูลย์ว่า
วิธีการไหน หรือว่าอะไรที่ทำให้เกิดราคาในใจพี่วิบูลย์ ที่จะขาย pttep ที่ราคาประมาณ 200 กว่าบาทครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ เม.ย. 03, 2009 8:23 am | 0 คอมเมนต์
zesar เขียน: คืออยากจะถามพี่วิบูลย์ว่า
วิธีการไหน หรือว่าอะไรที่ทำให้เกิดราคาในใจพี่วิบูลย์ ที่จะขาย pttep ที่ราคาประมาณ 200 กว่าบาทครับ
Intrinsic Value
ถ้าไม่รู้ว่าจะหาจากอะไร
ลองหาหนังสือ
"การลงทุนแบบเน้นคุณค่าหลักสูตรโคลอมเบีย"
ของคุณพรชัย(เจ้าเก่า)มาอ่านดู
romee
Verified User
โพสต์: 1850
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร เม.ย. 07, 2009 6:16 pm | 0 คอมเมนต์
ชอบตรง ไอ้เวบ สามขีดครับ พี่วิบูล...
ถามพี่วิบูล หรือคนอื่นๆก็ได้ครับ
ปกติ MOS ของพวกพี่ ที่ตั้งๆกันไว้นะครับ กี่%ครับ แล้ว พี่มีวิธีคิด MOS กันยังไง
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0
พุธ เม.ย. 08, 2009 8:44 am | 0 คอมเมนต์
[quote="romee"]
tech
Verified User
โพสต์: 331
ผู้ติดตาม: 0
พุธ เม.ย. 08, 2009 9:30 am | 0 คอมเมนต์
tech เขียน:
ลูกผมก็เป็นครับ
ตื่นมาทุกเช้า มีน้ำมูกในจมูก
จะลองดูครับ ... อีกสองสัปดาห์จะมาบอกผล
ได้ผลการทดลองแล้วครับ ปรากฎว่า .......
ตัวแปรทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่ว่าจะนอนห้องแอร์เหมือนเดิม
กินอาหารแบบเดิม ๆ
เปลี่ยนแค่จากนมวัว เป็นนมแลตตาซอยผสมงาดำ
โชคร้ายครับ สำหรับลูกผมไม่ได้ผล
ผ่านไปสองสัปดาห์ ไม่มีอาการหรือสัญญาณอะไรดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่อาการของลูกก็ยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก
มีแค่น้ำมูกเล็กน้อยช่วงเช้า จามสักที่สองที
พอบ่ายก็ดีครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0
พุธ เม.ย. 08, 2009 1:05 pm | 0 คอมเมนต์
tech เขียน:
ได้ผลการทดลองแล้วครับ ปรากฎว่า .......
ตัวแปรทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่ว่าจะนอนห้องแอร์เหมือนเดิม
กินอาหารแบบเดิม ๆ
เปลี่ยนแค่จากนมวัว เป็นนมแลตตาซอยผสมงาดำ
โชคร้ายครับ สำหรับลูกผมไม่ได้ผล
ผ่านไปสองสัปดาห์ ไม่มีอาการหรือสัญญาณอะไรดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่อาการของลูกก็ยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก
มีแค่น้ำมูกเล็กน้อยช่วงเช้า จามสักที่สองที
พอบ่ายก็ดีครับ
ขอบคุณครับ
อย่าเพิ่งหมดกำลังใจครับ
ผมว่าแลคตาซอยผสมนมผงนะครับ
ลองดูในส่วนผสม
ลองดูวีซอยเป็นนมถั่วเหลืองล้วนๆ
แล้วงดผลิตภัณท์จากนมทุกชนิดครับ
เช่น ไอศครีม เนย ชีส โยเกิร์ต
ถ้าไม่ดีขึ้น คงใช้ไมได้จริงๆ
อีกอย่าง
หมอบอกว่าอาการภูมิแพ้จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตามอายุครับ
เด็กๆอาจแค่นำมูกไหล
โตขึ้นก็ไอ
สุดท้ายก็จบที่หอบหืด
ซึ่งทรมาณมาก
ไม่ได้ขู่นะครับ
แค่บอกข้อมูล
โชคดีครับ
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1254
ผู้ติดตาม: 0
พุธ เม.ย. 08, 2009 1:16 pm | 0 คอมเมนต์
ลูกชายคุณTECH อาจเป็นโรคเดียวกับผมก็ได้ครับ ผมเป็นโรคภูมิแพ้ตั้งแต่เกิดแล้วครับหรือโรคแพ้อากาศนั่นเองครับ ลองหาเครื่องฟอกอากาศสักตัวอาจจะดีขึ้นก็ได้ครับ เช่นแอร์ไซโจเดนกิก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีก็ดีครับถ้าใช้ไปนานๆเหมือนได้แอร์ฟรีเลยครับ นมนี่ย่อยยากครับใช้เวลานานถ้าได้ดื่มก่อนนอนระบบย่อยคงจะเหนื่อยแน่ๆเพราะไม่ได้พักเลยครับ :)
romee
Verified User
โพสต์: 1850
ผู้ติดตาม: 0
พุธ เม.ย. 08, 2009 4:09 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณ คุณวิบูลครับ เดี๋ยวจะลองหาอ่านดู
สำหรับเรื่องภูมิแพ้ ผมก็เป็นนะ วิธีที่ช่วยได้ดี ก็คือการออกกำลังกาย กับต้องรู้ว่า เราแพ้อะไร บางคนเลี้ยงแมว แต่ไม่แพ้ขนแมว ไม่แพ้ฝุ่น แต่ไปแพ้พวกเกสรดอกไม้...
ถ้าพอมีกำลังทรัพย์ ลองไปตรวจ ที่ HMC clinic ดูครับ เขาจะมีการตรวจภูมิแพ้อาหาร เพื่อดูว่าอาหารบางชนิดที่เรากินเข้าไป มันมีผลอะไรกับร่างกายเรา
ผมถือว่ามันเป็น ทางเลือกนะครับ แล้วค่าตรวจภูมิแพ้อาหารนี้ก็ แปดพัน ถึง หมื่นห้า จะแตกต่างกับพวก Skin test อ่ะ
อ้อ ที่นี้ เขาขายพวกวิตามิน ด้วยละครับ ถ้าไปตรวจ แล้วไม่เอาวิตามินอะไร ก็บอกเขาเนิ่นๆละกันครับ ไม่งั้นโดนชาร์ท บานแน่ๆ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0
พุธ เม.ย. 08, 2009 4:39 pm | 0 คอมเมนต์
[quote="romee"]ขอบคุณ คุณวิบูลครับ เดี๋ยวจะลองหาอ่านดู
ถ้าพอมีกำลังทรัพย์ ลองไปตรวจ ที่
sombat222
Verified User
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0
พุธ เม.ย. 08, 2009 9:32 pm | 0 คอมเมนต์
ผมขอแนะนำโรคภูมิแพ้ครับ พอดีลูกชายเปน ~ 2 ปี
ไปรักษา ที่ bgh ตรวจ skin test พบแพ็ไรฝุ่น
rx โดย ใช้ผ้ากันไรฝุ่น + ฉีดสารเพื่อกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกัน
ฉีด~ 5 ปี ตอนนี้อาการปกติดี แนะนำคับลองไปตรวจดู
( มีหุ้นอยู่บ้างครับ)
niyom_value
Verified User
โพสต์: 361
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. เม.ย. 09, 2009 10:00 am | 0 คอมเมนต์
เอ่ ... พี่วิบูลย์ครับ
คือ ถ้ามีผมเป็นโรคภูมิแพ้อยู่ แล้วสามารถดื่มนมโคได้หรือเปล่าครับ หรือต้องหันกลับมาดื่นนมถั่วเหลือง แต่บางสำนักก็บอกว่านมถั่วเหลืองเนี่ยะ เหมาะกับผู้หญิงมากกว่า ดีต่อฮอรโมน (เคยได้ยินมาครับ) สำหรับเพศชายก็ต้องนมโค อะครับ หรือว่าต้องหันไปดื่มนมอย่างอื่นครับเนี่ยะ
ว่าแต่สงกรานต์นี้พี่วิบูลย์มีโปรแกรมพาครอบครัวไปเที่ยวไหนหรือเปล่าครับเนี่ยะ ก็ขอให้เดินทางโดยสวสคิภาพนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับผม
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. เม.ย. 09, 2009 10:27 am | 0 คอมเมนต์
[quote="niyom_value"]เอ่ ... พี่วิบูลย์ครับ
final
Verified User
โพสต์: 74
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ เม.ย. 10, 2009 7:06 am | 0 คอมเมนต์
ดิฉันก็เป็นภูมิแพ้ และต่อมาก็เป็นลมพิษ(เกาเป็นลิง) ก็ไปรักษากับคุณหมอเอื้อชาติที่รพ.รามคำแหง (คุณอาเป็นภูมิแพ้มาเป็นสิบปี รักษาหายกับคุณหมอคนนี้) ราคาไม่แพงค่ะ อาการของดิฉันก็ดีขึ้น ต่อมาก็ไปรักษาด้วยวิธีฝังเข็มก็ดีขึ้น หายไปหลายปี แต่ตอนนี้เลิกหาหมอ ดูแลสุขภาพ อาหาร ถ้าวันไหนอาการกำเริบ ก็กินยาระงับอาการค่ะ
ลางเนื้อชอบลางยา ก็ลองเลือกหมอและวิธีที่เหมาะกับท่านนะคะ
ปล. ดิฉันทานข้าวกล้องโรยงาดำคั่วป่น เพื่อให้ร่างกายได้แคลเซียมและวิตามิน โดยไม่อ้วนและสะดวกดีค่ะ
คนคอน
Verified User
โพสต์: 883
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ เม.ย. 17, 2009 6:00 pm | 0 คอมเมนต์
การที่ บริษัทเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการจากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุน
การที่บริษัทเปลียนแปลงแบบนี้เพื่ออะไรครับ และ มันมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้างครับ พอดี อ่านในกระทู้เก่าๆแล้ว ยังงง กะความหมายอยู่อะครับ
ขอบคุณครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ เม.ย. 17, 2009 8:49 pm | 0 คอมเมนต์
คนคอน เขียน: การที่ บริษัทเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการจากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุน
การที่บริษัทเปลียนแปลงแบบนี้เพื่ออะไรครับ และ มันมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้างครับ พอดี อ่านในกระทู้เก่าๆแล้ว ยังงง กะความหมายอยู่อะครับ
ขอบคุณครับ
อันนี้ขอตัวช่วย
ใครรู้มั่งช่วยตอบหน่อยครับ
พี่Chatchai
น้องลูกอีสาน
และท่านอื่นๆ
phons
Verified User
โพสต์: 11
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ เม.ย. 18, 2009 1:50 pm | 0 คอมเมนต์
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
niyom_value
Verified User
โพสต์: 361
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ เม.ย. 18, 2009 1:54 pm | 0 คอมเมนต์
เมื่อคืนวาน ได้มีโอกาสดูกบนอกกะลา พาไปตามหาที่มาของก๊าซและน้ำมันที่เราใช้กันอยู่ครับ ราคาที่เปลี่ยนแปลงขึ้นกับอะไรบ้าง น่าสนใจดีครับ ถ้าเพื่อนๆ สนใจอาทิตน์หน้ายังติดตามดูได้มีตอน 2 ครับ เพื่อจะเข้าใจที่จะลงทุนในธุรกิจพลังงานมากขึ้นครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ เม.ย. 20, 2009 9:19 am | 0 คอมเมนต์
phons เขียน: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
ลองอ่านกระทู้นี้ตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายสักสองรอบครับ
น่าจะหาได้
krisy
Verified User
โพสต์: 736
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ เม.ย. 20, 2009 7:24 pm | 0 คอมเมนต์
VIB007 เขียน:
อันนี้ขอตัวช่วย
ใครรู้มั่งช่วยตอบหน่อยครับ
พี่Chatchai
น้องลูกอีสาน
และท่านอื่นๆ
การเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ มันมีที่มามาจากมาตรฐานของต่างประเทศค่ะ เมืองไทยใช้มาตรฐานไทยในการลงบัญชีก็จริง แต่มันก็ลอกมาจากเมืองนอกทั้งนั้น แล้วก็แก้ไขบางส่วนให้ตรงกับธุรกิจในเมืองไทย เท่าที่ทราบ IAS หรือ International accounting standard ลงบัญชีเงินลงทุนแบบวิธีทุน เพราะเค้าเห็นว่าสะท้อนความเป็นจริงได้ดีกว่าวิธีส่วนได้เสีย เพราะส่วนได้เสียมีการรับรู้กำไรขาดทุนจากลูกๆลงไปในรายการเงินลงทุนของแม่ในงบเดี่ยว กำไรขาดทุนที่บันทึกเป็นรายการทางบัญชีล้วนๆไม่ได้ก่อให้เกิดกระแสเงินสดแต่อย่างใด รายการกำไรขาดทุนจากบริษัทลูกจะเกิดจริงก็ต่อเมือคุณคิดเลิกกิจการของบริษัทลูกค่ะ
ตัวมาตรฐานก็เลยพยายามปรับปรุงให้งบสะท้อนความเป็นจริงและสอดคล้องกับวิธีสากลก็เท่านั้นค่ะ
.....Give Everything but not Give Up.....
il genio
Verified User
โพสต์: 118
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร เม.ย. 21, 2009 12:19 am | 0 คอมเมนต์
เสริมคุณ Kristy ครับ
เข้าใจว่า ที่บริษัทเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีเกี่ยวกับเงินลงทุนในปี 2551 ไม่ได้เป็นเพราะบริษัทเลือกเองนะครับ แต่เป็นเพราะมาตราฐานการบัญชีใหม่เกี่ยวกับการบันทึกบัญชีเงินลงทุนกำหนดให้เริ่มบังคับใช้ในงวดบัญชี ดังกล่าว
โดยมาตราฐานดังกล่าวจะมีผลต่องบการเงินเฉพาะบริษัท แต่ไม่มีผลต่อการบันทึกงบการเงินรวม (งบการเงินรวมตามมาตราฐานการบัญชีเก่าและใหม่บันทึกเหมือนกัน)
ตามมาตราฐานการบัญชีเก่า บริษัทจะบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อย และบริษัทร่วม ด้วยวิธีส่วนได้เสีย (Equity Method) ในงบการเงินเฉพาะบริษัท (งบเดี่ยว) แบบคร่าวๆ คือ บริษัทย่อยมีกำไรเท่าไร บริษัทแม่ก็จะร่วมยินดีด้วย ด้วยการบันทึกกำไรตามสัดส่วนที่บริษัทแม่ลงทุน เช่น
A ถือหุ้น B ร้อยละ 75
ต่อมา B มีกำไร 100 ล้านบาท
บริษัท A จะบันทึก กำไรจากการลงทุนใน B 75 ล้านบาท (100 ล้านบาท * 75%)
การที่มาตราฐานเก่ากำหนดเช่นนั้น เพื่อให้งบเดี่ยว (งบเฉพาะบริษัท) สะท้อนสภาพที่เป็นจริงของกิจการ บังคับให้บริษัทบันทึกผลขาดทุนจากบริษัทย่อยโดยไม่ชักช้า เช่น เมื่อก่อนมีบริษัทไทยผลิตปลากระป๋อง ชื่อบริษัทยูนิคอร์ค ได้เข้า takeover บริษัทบับเบิลบีในอเมริกา ยูนิคอร์ด มีกำไร แต่บับเบิลบีขาดทุนมาก การบันทึกวิธี Equity ทำให้ ยูนิคอร์ค ต้องบันทึกผลขาดทุนจากบับเบิลบีตามสัดส่วนที่ลงทุน ผลขาดทุนที่ต้องรับรู้ในงบเดี่ยวนี้ทำให้กำไรที่ยูนิคอร์ดสามารถจะจ่ายเป็นเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นน้อยลงไป (โดยหากพิจารณาว่า ยูนิคอร์ดต้องกันเงินส่วนหนึ่งเพื่อเพิ่มทุนให้บับเบิลบีตามสัดส่วนที่ขาดทุน การบันทึกบัญชีแบบนี้ ก็สมเหตุสมผลกับหลักความระมัดระวังของนักบัญชีดีแล้ว)
ส่วนมาตราฐานใหม่ กำหนดให้บริษัทบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและร่วม โดยวิธีราคาทุน (Cost Method) ในงบเดี่ยว คือรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัทย่อยตามเงินปันผลที่ได้รับจริงจากบริษัทย่อยครับ ส่วนบริษัทย่อยจะกำไรหรือขาดทุนเท่าไร บริษัทแม่ไม่ต้องทำอะไร
การบันทึกแบบนี้ ก็เกิดจากหลักความระมัดระวัง (กลัวไว้ก่อน กลัวอะไรก็ไม่รู้) ของนักบัญชีอีกนั้นแหละ แต่คราวนี้กลัวว่าบริษัทแม่จะมีกำไรที่สามรถจ่ายเงินปันผลออกไปได้เยอะเกินไป โดยที่ไม่มีเงินสดจริง เช่น
A เป็น Holding ไม่มีธุรกิจอื่น ถือหุ้นใน B 100%
B มีกำไร 100 ล้านบาท
B เป็นบริษัทที่ต้องขยายงานจึงไม่จ่ายเงินปันผล แต่เก็บกำไร 100 ล้านบาทไว้เพื่อใช้ในการลงทุนซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์
กรณีนี้ ถามว่า A สามารถจ่ายเงินปันผลจากกำไรใน B ได้หรือไม่
หากบันทึกวิธี Equity
A จะรับรู้กำไรจากการลงทุนใน B 100 ล้านบาท
A ก็สามรารถจ่ายเงินปันผลได้โดยที่ยังไม่ได้งินสดจาก B เลย
หากบันทึกวิธี Cost
A จะไม่รับรู้กำไรใน B
ตราบใดที่ B ยังไม่จ่ายเงินปันผลขึ้นมาให้ A ก็จะไม่สามรถจ่ายเงินปันผลจากกำไรส่วนนี้
เนื่องจากการถือหุ้นของบริษัทในปัจจุบันมีความสลับซับซ้อน คือไม่ได้ลงทุนในบริษัทย่อย (หรือบริษัทลูก) เพียงชั้นเดียว แต่บริษัทใหญ่ๆ ถือหุ้นหลายทอด เป็น ลูก หลาน เหลน โหลน และแต่ละชั้นก็มักไม่ได้จ่ายเงินปันผลทั้งหมด (payout ratio < 100%) แต่กันไว้ลงทุน ใช้จ่ายนู้นนี่ มาตราฐานฉบับใหม่จึงกำหนดให้ ใช้ Cost Method เพื่อให้บริษัทแม่สามารถจ่ายเงินปันผลเฉพาะที่ได้รับเงินปันผลจากบริษัทลูกๆ ขึ้นมาแล้วจริง ๆ (กันไม่ให้จ่ายเงินปันผลเกินตัว ว่างั้นเถอะ)
การเปลี่ยนแปลงมาตราฐานฉบับนี้ จะกระทบต่อความสามรถในการจ่ายเงินปันผลของบริษัทแม่ที่มีลูกหลานขี้เกียจครับ (ขี้เกียจจ่ายเงินปันผล) หากบริษัทลูกจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในอัตราสูงเช่นร้อยละ 60-70 ก็ไม่น่ามีปัญหาเท่าไหร
ส่วนบริษัทแม่ที่มีบริษัทลูกขาดทุนเยอะๆ ขาดทุนอยู่เป็นนิจ กลับได้อานิสงค์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ครับ ต่อไปไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทลูกในงบเดี่ยวแล้ว ความสามารถในการจ่ายเงินปันผลกลับเพิ่มขึ้น (ประหลาดไหม) [อย่างไรก็ตาม ถ้าขาดทุนเยอะจริงๆ ขนาดมองแล้วว่า ชาติหน้าก็ไม่หายขาดทุน อาจโดนนักบัญชีให้บันทึก ผลขาดทุนจากการด้อยค่าแทน]
โดยสรุปแล้วการเปลี่ยนมาตราฐานการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีเงินลงทุนนี้ จะกระทบเฉพาะความสามารถในการจ่ายเงินปันผล ไม่กระทบต่อพื้นฐานการทำกำไรของบริษัทที่เราสามารถวิเคราะห์ได้จากงบการเงินรวม (ซึ่งมาตราฐานเก่าและใหม่บันทึกเหมือนกัน โดยกำไรจะเท่ากับงบเดี่ยวที่บันทึกเงินลงทุนด้วยวิธี Equity)
วิธีไหนดีกว่ากัน ถามนักบัญชี ก็คงต้องบอกว่ามาตราฐานใหม่ดีกว่า (เขาเป็นคนประกาศใช้นี่) เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากกว่า
ถามผม ผมก็ว่ามาตราฐานใหม่ก็ยังมีจุดอ่อน อีกสัก 10 ปี มีบริษัทอย่างยูนิคอร์คเพิ่มมากขึ้น เกิดปัญหาอีก เขาก็อาจกลับไปให้บันทึกแบบ Equity เหมือนเดิมตามหลักความระมัดระวัง (อีกแล้ว) ก็ได้ ใครจะไปรู้
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร เม.ย. 21, 2009 8:34 am | 0 คอมเมนต์
คนคอน เขียน: การที่ บริษัทเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการจากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุน
การที่บริษัทเปลียนแปลงแบบนี้เพื่ออะไรครับ และ มันมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้างครับ พอดี อ่านในกระทู้เก่าๆแล้ว ยังงง กะความหมายอยู่อะครับ
ขอบคุณครับ
อันนี้ขอตัวช่วย
ใครรู้มั่งช่วยตอบหน่อยครับ
ขอบคุณคุณkrisy และ คุณ il genio มากครับ
ลูกศิษย์คุณมนหรือเปล่า
เห็นคุณมนสอนบัญชีไปหลายรุ่น
ผมว่ามุขนี้ดีนะ
ให้มาช่วยๆกันตอบ
ได้มุมมองขึ้นอีกเยอะเลย
ต่อไปต้องขอตัวช่วยบ่อยๆ อิ อิ
krisy
Verified User
โพสต์: 736
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร เม.ย. 21, 2009 10:11 am | 0 คอมเมนต์
krisy เป็นลูกศิษย์พี่มนค่ะ แต่คงรู้ไม่ละเอียดเท่าคุณ il genio :lol:
จริงๆจะลงบัญชีแบบไหน ถ้าเข้าใจว่าทำไปเพื่ออะไรอย่างที่คุณ il genio อธิบายไว้ การอ่านงบการเงินก็ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย เพราะเราเข้าใจที่เนื้อแท้ของรายการ
จริงๆแล้ว งบที่แต่งตัวไม่ได้เลย คือ งบกระแสเงินสด เพราะเงินสดมันมีตัวตนจริง การลงบัญชีปรับกำไรเพิ่มขึ้นลดลงได้ แต่ปรับเงินสดให้เพิ่มขึ้นลดลงไม่ได้ ท่านใดที่มึนๆกับการเปลี่ยนแปลงมาตรฐาน เพราะมันทำให้งบปีนี้เปรียบเทียบกับปีก่อนๆไม่ได้ ถ้าต้องการตรวจสุขภาพกิจการ ดูงบกระแสเงินสดไปก่อนก็ได้ค่ะ
.....Give Everything but not Give Up.....
il genio
Verified User
โพสต์: 118
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร เม.ย. 21, 2009 12:43 pm | 0 คอมเมนต์
ผมเป็นแฟนติดตามงานเขียนของคุณมน พี่วิบูลย์ และดร. นิเวศน์ครับ นอกจากนั้น ยังเป็นนักลงทุนฝึกหัดที่ยังขาดทุนเยอะอยู่ (เพราะเริ่มลงทุนเมื่อต้นปีที่แล้ว ดัชนีประมาณ 850)
เห็นด้วยกับคุณ Krisy (ขออภัยที่พิมพ์ผิด ครั้งที่แล้ว) กระแสเงินสดคือของจริง บิดเบื้อนได้ยากที่สุดจริงๆ ครับ
ส่วนงบกำไรขาดทุนนั้น อาจเปรียบเทียบผลการดำเนินงานโดยเปรียบเทียบงบการเงินรวมครับ
คนคอน
Verified User
โพสต์: 883
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร เม.ย. 21, 2009 4:17 pm | 0 คอมเมนต์
ว่าแต่ คุณมน เค้ายังเปิดคอร์สสอน การอ่านงบบัญชี ยุปะครับ - -
niyom_value
Verified User
โพสต์: 361
ผู้ติดตาม: 0
พุธ เม.ย. 22, 2009 9:21 am | 0 คอมเมนต์
แต่เอ.. ผมเคยได้ยินมาว่า ตอนนี้ งบกระแสเงินสด ก็เริ่มที่จะมีการตกแต่งบ้างแล้วครับ ไม่ทราบว่าเท็จจริงประการใดเหมือนกันครับ
il genio
Verified User
โพสต์: 118
ผู้ติดตาม: 0
พุธ เม.ย. 22, 2009 1:54 pm | 0 คอมเมนต์
ไม่แน่ในแฮะ
ส่วนตัว คิดว่ายาก เพราะงบกระแสดงินสด หลักๆ มี 3 ส่วน คือ กระแสเงินสดจากการดำเนินการ กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน และกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน
เมื่อบวกลบทั้ง 3 ส่วนจะได้ การเปลี่ยนแปลงของเงินสดระหว่างงวด และต้องตรวจสอบกับจำนวนเงินสดคงเหลือปลายงวดได้
กระแสเงินสดจากกิจการลงทุน และการจัดหาเงิน มักเป็นรายการใหญ่ ตรงไปตรงมา เช่น จ่ายเงินซื้อทรัพย์สิน, เงินสดรับจากการกู้ยืม, จ่ายชำระเงินกู้, จ่ายเงินปันผล ไม่น่าจะตกแต่งได้มากนัก
หากจะตกแต่งกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ก็ไม่ง่ายอีก เพราะมีจำนวนเงินสดคงเหลือปลายงวดกำกับอยู่
แต่ไม่แน่ใจว่ามีวิธีการตกแต่งอะไรใหม่ๆ หรือเปล่า อาจต้องถามผู้รู้ในแวกวงบัญชี ครับ