@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 1
ช่วงหลังๆผมมีโอกาศได้เจอกับนักลงทุนหลากหลายแนว
และรู้สึกว่าสิ่งที่ผมได้เจอก็คือเรื่องต่อไปนี้
สมมุติว่าผมคุยกับ vi แล้วผมถามความเห็นเขาเรื่องกราฟ เรื่องการเทรด
หรือ เรื่อง fundflow ผมเชื่อว่า vi ส่วนใหญ่จะบอกว่า
พวกเขาประสบความสำเร็จได้โดยที่ไม่ต้องดูกราฟ หรือ ตั้งระบบ cutloss
หรือสนใจเศรษฐศาสตร์ พวกเขาสนใจแต่ตัวกิจการ
พอผมคุยกับนักเทคนิค เขาก็บอกว่า vi เหรอ ปีที่แล้วหุ้นดีทำไม vi ขาดทุนหนัก นักเทคนิคหนีมาตั้งนานแล้วนะ หุ้นจะขึ้นหรือลงอยู่ที่มีคนซื้อหรือขาย
บางตัวกำไรดีก็ไม่เห็นมีคนเล่น
พอคุยกับคนดู fundflow ก็บอกว่านโบยายเศรษฐกิจที่ทำให้เงินสะพัดในระบบ หรือ ทำให้เงินหายไปจากระบบ เป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันตลาดหุ้น
ส่วนพวก money management บอกว่าอย่าคาดการณ์อะไรทั้งนั้น
เพราะว่าโลกนี้มันมีความบังเอิญเยอะมาก คุณควรให้ระบบทำงานแทนคุณ
ดีกว่า ด้วยการตั้งระบบซื้อขายเอาไว้เลย
สรุปคุยเสร็จผมว่า ทุกคนที่ผมคุยมาไม่ว่าจะแนวไหนก็ตาม
เขาก็สำเร็จของเขาหมดแหละ
สรุปว่าแต่ละแนวค่อนข้างจะชัดแย้งกัน แต่คนก็สำเร็จกันได้
แต่ประเด็นก็คือว่า ถ้าคุณอยู่ในสังคมไหนคุณก็ควรจะพยายามพูดในสิ่งที่ตรง
กับความเชื่อพวกเขาดีกว่า
เช่นคุณคุยกับ vi คุณก็เน้นเรื่องพื้นฐานหุ้น
คุยกับ technic ก็พุดกันเรื่อง trendline sto macd ma
หลังๆ รู้สึกว่าเรื่องที่ผมสนใจ จะเป็นเรื่องที่ vi ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจกัน
ทำให้ผมรู้สึกว่าผมคุยกับเพื่อนนักลงทุนแนว vi ยากขึ้น
บางทีไปกินข้าวกันเขาพูดเรื่องงบการเงิน เรื่องพื้นฐาน
ผมก็ไม่ค่อยได้ตาม ผมเขาถามความเห็นผม
ผมก็พูดแต่เรื่องภาพรวม แนวโน้มดัชนี
รู้สึกว่าหลังๆ เจอเพื่อนๆ vi แล้วคุยกันไม่ฝึดๆ ยังไงไม่รู้
แต่พอเจอพวกแนวจังหวะซื้อขาย
จะคุยแล้วมันมากๆ
โดยเฉพาะพวกเศรษฐศาสตร์
หลังๆ ผมคิดว่าเราควรพูดในสิ่งที่คนอยากฟัง
มากกว่าสิ่งที่เราอยากพูด
เช่น รุ่นพี่ผมบอกว่า เขาไปประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทนึง
แล้วเขาทักว่าบริษัทนี้มีประเด็นไม่ดีบางอย่าง
ก็มีคนโกรธเขาบอกว่าไม่จริง
เขาก็เลยเบื่อๆ
มีหุ้นอิเล็กโทรนิคตัวนึง มีเพื่อนผมซื้อ
แต่ว่ามีปัญหาเรื่องลูกหนี้การค้าเยอะ
พอผมท้วง มันก็หงุดหงิด แล้วบอกว่าเดี่ยวลองดูต่อไปก็แล้วกัน
บ่นมั่วๆ คือจะสื่อว่า
คุยกับใครคนนั้นก็มีอัตา ในแนวทางของเขาว่าเจ๋งที่สุดดีที่สุด
แล้วดูเหมือนเหยียดๆแนวทางอื่น
หรือถ้าคุยกันแนวเดียวกันก็ห้ามวิจารณ์หุ้นเขาอีก
สรุปว่า เดี่ยวนี้ไปข้างนอก ผมไม่กล้าพูดอะไร
ผมจะเน้นนั่งฟัง แล้วผมก็จะถามว่าเขาถือหุ้นอะไรอยู่
ผมจะได้ไม่วิจารณ์หุ้นเขา
ไม่งั้นเดี่ยวผมโดนเล่น
อืม อึดอัดนิดหน่อยแหะ
ไม่มีอะไรบ่นจบแล้ว
และรู้สึกว่าสิ่งที่ผมได้เจอก็คือเรื่องต่อไปนี้
สมมุติว่าผมคุยกับ vi แล้วผมถามความเห็นเขาเรื่องกราฟ เรื่องการเทรด
หรือ เรื่อง fundflow ผมเชื่อว่า vi ส่วนใหญ่จะบอกว่า
พวกเขาประสบความสำเร็จได้โดยที่ไม่ต้องดูกราฟ หรือ ตั้งระบบ cutloss
หรือสนใจเศรษฐศาสตร์ พวกเขาสนใจแต่ตัวกิจการ
พอผมคุยกับนักเทคนิค เขาก็บอกว่า vi เหรอ ปีที่แล้วหุ้นดีทำไม vi ขาดทุนหนัก นักเทคนิคหนีมาตั้งนานแล้วนะ หุ้นจะขึ้นหรือลงอยู่ที่มีคนซื้อหรือขาย
บางตัวกำไรดีก็ไม่เห็นมีคนเล่น
พอคุยกับคนดู fundflow ก็บอกว่านโบยายเศรษฐกิจที่ทำให้เงินสะพัดในระบบ หรือ ทำให้เงินหายไปจากระบบ เป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันตลาดหุ้น
ส่วนพวก money management บอกว่าอย่าคาดการณ์อะไรทั้งนั้น
เพราะว่าโลกนี้มันมีความบังเอิญเยอะมาก คุณควรให้ระบบทำงานแทนคุณ
ดีกว่า ด้วยการตั้งระบบซื้อขายเอาไว้เลย
สรุปคุยเสร็จผมว่า ทุกคนที่ผมคุยมาไม่ว่าจะแนวไหนก็ตาม
เขาก็สำเร็จของเขาหมดแหละ
สรุปว่าแต่ละแนวค่อนข้างจะชัดแย้งกัน แต่คนก็สำเร็จกันได้
แต่ประเด็นก็คือว่า ถ้าคุณอยู่ในสังคมไหนคุณก็ควรจะพยายามพูดในสิ่งที่ตรง
กับความเชื่อพวกเขาดีกว่า
เช่นคุณคุยกับ vi คุณก็เน้นเรื่องพื้นฐานหุ้น
คุยกับ technic ก็พุดกันเรื่อง trendline sto macd ma
หลังๆ รู้สึกว่าเรื่องที่ผมสนใจ จะเป็นเรื่องที่ vi ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจกัน
ทำให้ผมรู้สึกว่าผมคุยกับเพื่อนนักลงทุนแนว vi ยากขึ้น
บางทีไปกินข้าวกันเขาพูดเรื่องงบการเงิน เรื่องพื้นฐาน
ผมก็ไม่ค่อยได้ตาม ผมเขาถามความเห็นผม
ผมก็พูดแต่เรื่องภาพรวม แนวโน้มดัชนี
รู้สึกว่าหลังๆ เจอเพื่อนๆ vi แล้วคุยกันไม่ฝึดๆ ยังไงไม่รู้
แต่พอเจอพวกแนวจังหวะซื้อขาย
จะคุยแล้วมันมากๆ
โดยเฉพาะพวกเศรษฐศาสตร์
หลังๆ ผมคิดว่าเราควรพูดในสิ่งที่คนอยากฟัง
มากกว่าสิ่งที่เราอยากพูด
เช่น รุ่นพี่ผมบอกว่า เขาไปประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทนึง
แล้วเขาทักว่าบริษัทนี้มีประเด็นไม่ดีบางอย่าง
ก็มีคนโกรธเขาบอกว่าไม่จริง
เขาก็เลยเบื่อๆ
มีหุ้นอิเล็กโทรนิคตัวนึง มีเพื่อนผมซื้อ
แต่ว่ามีปัญหาเรื่องลูกหนี้การค้าเยอะ
พอผมท้วง มันก็หงุดหงิด แล้วบอกว่าเดี่ยวลองดูต่อไปก็แล้วกัน
บ่นมั่วๆ คือจะสื่อว่า
คุยกับใครคนนั้นก็มีอัตา ในแนวทางของเขาว่าเจ๋งที่สุดดีที่สุด
แล้วดูเหมือนเหยียดๆแนวทางอื่น
หรือถ้าคุยกันแนวเดียวกันก็ห้ามวิจารณ์หุ้นเขาอีก
สรุปว่า เดี่ยวนี้ไปข้างนอก ผมไม่กล้าพูดอะไร
ผมจะเน้นนั่งฟัง แล้วผมก็จะถามว่าเขาถือหุ้นอะไรอยู่
ผมจะได้ไม่วิจารณ์หุ้นเขา
ไม่งั้นเดี่ยวผมโดนเล่น
อืม อึดอัดนิดหน่อยแหะ
ไม่มีอะไรบ่นจบแล้ว
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 2
อา เดี๋ยวนี้ วิชาแก่กล้า มีกระทู้ส่วนตัวซะแล้ว
ถ้าอย่างงี้ ต้องขอมานั่งรับกระบี่ด้วยแล้วกันเน้อ
ถ้าอย่างงี้ ต้องขอมานั่งรับกระบี่ด้วยแล้วกันเน้อ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 3
มื้อนี้(เรื่องนี้)เป็นจิตวิทยาแห่งความเป็นคนมีเสน่ห์หลังๆ ผมคิดว่าเราควรพูดในสิ่งที่คนอยากฟัง
มากกว่าสิ่งที่เราอยากพูด
talk in term of other interest....
พูดง่าย ทำยาก
แต่ผมว่าฮง น่าจะทำได้แล้วนะ
คนที่ทำเรื่องพวกนี้ได้
ถือว่าคุมสติได้
ตั้งชื่อกระทู้ได้แจ๋วมาก
เพราะห้องนี้มีคนขี้บ่นเป็นเพื่อนหลายคนอยู่
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 5
อิอิ ต่อๆ บ่นต่อ
รุ่นพี่ผมเล่าว่า
เขาสังเกตุรายการหุ้นตามโทรทัศน์
จะมีนักวิเคราห์คนนึง ชื่อขึ้นต้นสมมุติว่า a
คนนี้พูดผิดโคตรจะบ่อยๆๆๆๆ
แต่ว่าคนก็ชอบโทรไปถามเพราะว่าเขาปรอบนักลงทุนเก่ง
นักลงทุนฟังแล้วเคลิ้ม สบายใจดี
แต่อีกคนนึงจะชอบสอนนักลงทุน
เช่นบอกว่า ผมว่ารายย่อยไม่น่าไปยุ่งกับหุ้นตัวนี้แต่แรก
แต่ปรากฏว่า rating คนที่สองตก
พอฟังเสร้จผมก็มาคิดว่าแล้วตัวผมล่ะเป็นไง
ปรากฏว่าก็คล้ายๆกับรายการวิทยุ
เพื่อนๆของผมเวลาหุ้นตกถ้าเป็นสมัยก่อนจะโทรไปผมบ่อย
แต่หลังๆโทรน้อยลง
ผมคิดเอาเองว่าสมัยก่อนผมถือหุ้น 100% ตลอดเวลา
และบ่อยครั้งถือตัวเดียวกัน ทำให้เขาโทรหาผมแล้วเขาสบายใจ
เพราะว่าอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนช่วยกันช้ำใจจากหุ้นตก :lol:
เดี่ยวนี้ rating ของผมตกลงไป ในหมู่เพื่อนๆ
เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะว่า ผมคิดอะไรผมก็พูดออกไป
ตอนผมล้าง port ผมก็บอกกับคนรอบข้างว่า ผมว่าน่าจะลงได้อีกเป็น 100 จุด เพราะฝรั่งขายดุมาก
มันดูเหมือนกับว่าผมไม่ได้ทำให้เขาสบายใจ
เขาต้องการความสบายใจ เพราะเขาไม่อยากขายหุ้น
เขาต้องการคำพูดทำนองนี้
"พี่ผมว่าตลาดมันไม่มีประสิทธิภาพ ดูดิหุ้น xxx ลงมาเหลือแค่นี้ได้ไง
กำไรก็โต"
หรือ
"ผมว่าพี่ทำถูกแล้วล่ะ เพราะเราเป็นนักลงทุนระยะยาว"
แต่ที่เขาได้ยินจากผมกลับเป็นแบบนี้แทน
"ผมว่าเศรษฐกิจโลกตอนนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเปลี่ยน valuation ไปอย่างฉับพลัน หุ้นที่พี่ถืออยุ่ ผมว่ามันอาจจะเป็นราคาใหม่ที่พี่ไม่เคยเห็นมาก่อนและอยู่ตรงนั้นไปหลายปีก็ได้"
หรือ
"ผมว่าฝรั่งจะไม่กลับเข้ามาซื้อง่ายๆ หุ้นจะทำได้แค่เด้งเป็นพักๆ
แต่เรื่องที่ฝรั่งจะกลับมาซื้อแบบปี 2005-2007 ผมว่าคงไม่มีทาง"
ผมว่าคำพูดพวกนี้คงทำให้ผม rating ตกดั่งเช่น นักวิเคราห์คนที่ชอบอบรม
รายย่อยที่ติดหุ้นปั่นบ้าๆบอๆ
ผมว่าผมขอเลือกเป็นแบบแรกดีกว่า
ในเมื่อผมรู้อยู่แล้วว่าหลายคนชอบความสบายใจมากกว่าข้อเท็จจริง
ผมก็พูดให้เขาสบายใจแทนดีกว่า
หรือ ผู้อ่านคิดว่าผมควรทำอย่างไรครับ
รุ่นพี่ผมเล่าว่า
เขาสังเกตุรายการหุ้นตามโทรทัศน์
จะมีนักวิเคราห์คนนึง ชื่อขึ้นต้นสมมุติว่า a
คนนี้พูดผิดโคตรจะบ่อยๆๆๆๆ
แต่ว่าคนก็ชอบโทรไปถามเพราะว่าเขาปรอบนักลงทุนเก่ง
นักลงทุนฟังแล้วเคลิ้ม สบายใจดี
แต่อีกคนนึงจะชอบสอนนักลงทุน
เช่นบอกว่า ผมว่ารายย่อยไม่น่าไปยุ่งกับหุ้นตัวนี้แต่แรก
แต่ปรากฏว่า rating คนที่สองตก
พอฟังเสร้จผมก็มาคิดว่าแล้วตัวผมล่ะเป็นไง
ปรากฏว่าก็คล้ายๆกับรายการวิทยุ
เพื่อนๆของผมเวลาหุ้นตกถ้าเป็นสมัยก่อนจะโทรไปผมบ่อย
แต่หลังๆโทรน้อยลง
ผมคิดเอาเองว่าสมัยก่อนผมถือหุ้น 100% ตลอดเวลา
และบ่อยครั้งถือตัวเดียวกัน ทำให้เขาโทรหาผมแล้วเขาสบายใจ
เพราะว่าอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนช่วยกันช้ำใจจากหุ้นตก :lol:
เดี่ยวนี้ rating ของผมตกลงไป ในหมู่เพื่อนๆ
เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะว่า ผมคิดอะไรผมก็พูดออกไป
ตอนผมล้าง port ผมก็บอกกับคนรอบข้างว่า ผมว่าน่าจะลงได้อีกเป็น 100 จุด เพราะฝรั่งขายดุมาก
มันดูเหมือนกับว่าผมไม่ได้ทำให้เขาสบายใจ
เขาต้องการความสบายใจ เพราะเขาไม่อยากขายหุ้น
เขาต้องการคำพูดทำนองนี้
"พี่ผมว่าตลาดมันไม่มีประสิทธิภาพ ดูดิหุ้น xxx ลงมาเหลือแค่นี้ได้ไง
กำไรก็โต"
หรือ
"ผมว่าพี่ทำถูกแล้วล่ะ เพราะเราเป็นนักลงทุนระยะยาว"
แต่ที่เขาได้ยินจากผมกลับเป็นแบบนี้แทน
"ผมว่าเศรษฐกิจโลกตอนนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเปลี่ยน valuation ไปอย่างฉับพลัน หุ้นที่พี่ถืออยุ่ ผมว่ามันอาจจะเป็นราคาใหม่ที่พี่ไม่เคยเห็นมาก่อนและอยู่ตรงนั้นไปหลายปีก็ได้"
หรือ
"ผมว่าฝรั่งจะไม่กลับเข้ามาซื้อง่ายๆ หุ้นจะทำได้แค่เด้งเป็นพักๆ
แต่เรื่องที่ฝรั่งจะกลับมาซื้อแบบปี 2005-2007 ผมว่าคงไม่มีทาง"
ผมว่าคำพูดพวกนี้คงทำให้ผม rating ตกดั่งเช่น นักวิเคราห์คนที่ชอบอบรม
รายย่อยที่ติดหุ้นปั่นบ้าๆบอๆ
ผมว่าผมขอเลือกเป็นแบบแรกดีกว่า
ในเมื่อผมรู้อยู่แล้วว่าหลายคนชอบความสบายใจมากกว่าข้อเท็จจริง
ผมก็พูดให้เขาสบายใจแทนดีกว่า
หรือ ผู้อ่านคิดว่าผมควรทำอย่างไรครับ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 7
นั้นสิครับpor_jai เขียน: มื้อนี้(เรื่องนี้)เป็นจิตวิทยาแห่งความเป็นคนมีเสน่ห์
talk in term of other interest....
พูดง่าย ทำยาก
แต่ผมว่าฮง น่าจะทำได้แล้วนะ
คนที่ทำเรื่องพวกนี้ได้
ถือว่าคุมสติได้
ตั้งชื่อกระทู้ได้แจ๋วมาก
เพราะห้องนี้มีคนขี้บ่นเป็นเพื่อนหลายคนอยู่
ทำยากมากครับ
ต่างคนต่างมีเรื่องอยากคุย
คนเล่นหุ้นที่มองต่างกัน
คนถือเงินสดก็แช่งให้มันลงหนักๆ
แช่งมากๆ ไอ้คนถือหุ้นก็ชักแค้นใจ
พอมันไม่ลงแล้วดันขึ้น
ไอ้คนถือหุ้นก็โทรไปเย้ยคนถือเงินสด
แต่พอมันแค่เด้ง คนถือเงินสดก็โทรไปเย้ยว่า
เด้งให้ออก เมิงดันไม่ออก
ไปๆมาๆ มองหน้ากันไม่ติด
ฮา
- ก้อนหิน
- Verified User
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 11
ผมหละแปลกใจเพื่อนๆฮงจริงๆนะครับ
เล่นหุ้น นี่มันเงินใครเงินมัน คิดเองทั้งนั้น จะมาโมโหเวลาอีกคนพูดไม่เข้าหูทำไม
ผมกลับชอบคนคิดต่างจากเราจะได้แนวคิดที่หลากหลายแล้วทำให้เรารอบคอบขึ้นมากกว่า
นานาจิตตัง จริงๆเนาะ คนเราเนี่ย การเข้าใจคน อาจจะยากกว่าเล่นหุ้นก็ได้มั้ง
เล่นหุ้น นี่มันเงินใครเงินมัน คิดเองทั้งนั้น จะมาโมโหเวลาอีกคนพูดไม่เข้าหูทำไม
ผมกลับชอบคนคิดต่างจากเราจะได้แนวคิดที่หลากหลายแล้วทำให้เรารอบคอบขึ้นมากกว่า
นานาจิตตัง จริงๆเนาะ คนเราเนี่ย การเข้าใจคน อาจจะยากกว่าเล่นหุ้นก็ได้มั้ง
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 13
เพิ่งเป็น หรือ คุณฮง ผมเป็นมาเป็นปีแล้วมั้ง
ผมหาเพื่อนคุยเรื่องที่ผมอยากคุยยังยากเลย ไม่มีสักคน คนที่ผมอยากคุย เค้าไม่คุยด้วยครับ เคยคุยอยู่พักนึง โลกไซเบอร์ มันไร้สาระ เซียนจริง ไม่มาอ่านครับเสียเวลา ผมพูดจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น
ทำไงก็ไม่ต้องคุยกับพวกมันเสียเวลา ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา
ผมมีเพื่อนคนนึง สนิทเหมือนกัน ติดหุ้นล้านนึงมั้ง มันซื้อมาตลอดทาง ผมเผ่นมาตลอดทาง แนววีไอไง มันก็บ่นตามแนวของมันมาเรื่อย น้ำมันดียังนี้ๆๆๆนะ ผมก็เลยบอก มิงหยุด มิงกับกุ คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว มิงดูบ้างไม๊มันหลุดเส้นค่าเฉลี่ย สองร้อยวัน บิดอ๊อฟมันตั้งอย่างงี้ หุ้นซ่อน งอกเขา โดนสาดยกแถว ทีล่ะ ร้อยล้าน มิงยังจะถืออีก เชิญมิงถือต่อไป ตามสบาย พอร์ตมันเหลือ สามแสนมั้ง ก็ไม่คุยเรื่องหุ้น แต่ก็ไปดูบอลกับมันนะ กินเหล้าเหมือนเดิม
เรื่องนี้สอนอะไร ผมบอกเลยนะคำเดียว อีโก้ คนเล่นหุ้นสูง คุณฮงครับ อย่าไปอธิบายให้ พวกนี้ฟังเสียเวลาเปลืองตัวครับ คุยกับคนที่มีท่าทีเปิดใจฟังดีกว่า ผมก็เคยมีอีโก้ จนโดนเซียนตบกระบานมาทีนึง อีโก้ออกจากร่าง 555 คุยกับผมก็ได้นะ แต่คุยในเวปผมไม่ค่อยบอกเท่าไหร่ ยังไม่ชิน ร้อยพ่อพันแม่ บางทีก็เสียเวลา
ผมหาเพื่อนคุยเรื่องที่ผมอยากคุยยังยากเลย ไม่มีสักคน คนที่ผมอยากคุย เค้าไม่คุยด้วยครับ เคยคุยอยู่พักนึง โลกไซเบอร์ มันไร้สาระ เซียนจริง ไม่มาอ่านครับเสียเวลา ผมพูดจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น
ทำไงก็ไม่ต้องคุยกับพวกมันเสียเวลา ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา
ผมมีเพื่อนคนนึง สนิทเหมือนกัน ติดหุ้นล้านนึงมั้ง มันซื้อมาตลอดทาง ผมเผ่นมาตลอดทาง แนววีไอไง มันก็บ่นตามแนวของมันมาเรื่อย น้ำมันดียังนี้ๆๆๆนะ ผมก็เลยบอก มิงหยุด มิงกับกุ คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว มิงดูบ้างไม๊มันหลุดเส้นค่าเฉลี่ย สองร้อยวัน บิดอ๊อฟมันตั้งอย่างงี้ หุ้นซ่อน งอกเขา โดนสาดยกแถว ทีล่ะ ร้อยล้าน มิงยังจะถืออีก เชิญมิงถือต่อไป ตามสบาย พอร์ตมันเหลือ สามแสนมั้ง ก็ไม่คุยเรื่องหุ้น แต่ก็ไปดูบอลกับมันนะ กินเหล้าเหมือนเดิม
เรื่องนี้สอนอะไร ผมบอกเลยนะคำเดียว อีโก้ คนเล่นหุ้นสูง คุณฮงครับ อย่าไปอธิบายให้ พวกนี้ฟังเสียเวลาเปลืองตัวครับ คุยกับคนที่มีท่าทีเปิดใจฟังดีกว่า ผมก็เคยมีอีโก้ จนโดนเซียนตบกระบานมาทีนึง อีโก้ออกจากร่าง 555 คุยกับผมก็ได้นะ แต่คุยในเวปผมไม่ค่อยบอกเท่าไหร่ ยังไม่ชิน ร้อยพ่อพันแม่ บางทีก็เสียเวลา
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 14
เรื่องนี้มันเป็นวิบากครับ ยากจะพ้นsmith_sanguan เขียน: ผมมีเพื่อนคนนึง สนิทเหมือนกัน ติดหุ้นล้านนึงมั้ง มันซื้อมาตลอดทาง ผมเผ่นมาตลอดทาง แนววีไอไง มันก็บ่นตามแนวของมันมาเรื่อย น้ำมันดียังนี้ๆๆๆนะ ผมก็เลยบอก มิงหยุด มิงกับกุ คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว มิงดูบ้างไม๊มันหลุดเส้นค่าเฉลี่ย สองร้อยวัน บิดอ๊อฟมันตั้งอย่างงี้ หุ้นซ่อน งอกเขา โดนสาดยกแถว ทีล่ะ ร้อยล้าน มิงยังจะถืออีก เชิญมิงถือต่อไป ตามสบาย พอร์ตมันเหลือ สามแสนมั้ง ก็ไม่คุยเรื่องหุ้น แต่ก็ไปดูบอลกับมันนะ กินเหล้าเหมือนเดิม
เคยอ่านเรื่องนี้ไหมครับ
มีบาทหลวงคนหนึ่งเป็นคนที่เคร่งในพระเจ้ามาก
วันหนึ่งเกิดมีพายุและฝนตกหนักทำให้น้ำท่วม
ชาวบ้านต่างพากันพายเรืออพยพออกจากเมือง
ชาวบ้าน 1: หลวงพ่อครับ รีบขึ้นเรือเถอะ น้ำท่วมถึงตาตุ่มแล้วนะ
บาทหลวง: ไม่เป้นไรลูกเอ่ย พ่อเชื่อในพระเจ้า พระองค์ต้องช่วยพ่อแน่
พูดจบบาทหลวงก็สวดมนต์ต่อ เวลาผ่านไปน้ำก็ท่วมถึงเอวแล้ว
ชาวบ้าน 2: หลวงพ่อครับไปกับผมเร็ว น้ำท่วมถึงเอวแล้วนะ
บาทหลวง: ลูกไปเถอะ พระเจ้าต้องช่วยพ่อแน่
แล้วหลวงพ่อก็สวดมนต์ต่อ น้ำก็ท่วมขึ้นเรื่อยๆ จนถึงคอ
ชาวบ้าน 3: หลวงพ่อครับไปกับผมเร็ว เนี่ยผมเป็นเรือลำสุดท้ายแล้วนะ
บาทหลวง: ไปเถิดลูกเอ๋ย เดี๋ยวพระเจ้าต้องทำให้เกิดปาฏิหารย์แน่ๆ พระองค์จะต้องช่วยพ่อ
พูดจบชายคนที่สามก็พายเรือไป บาทหลวงสวดมนต์ต่อไปจนน้ำท่วมมิด
บาทหลวงก็เสียชีวิตและขึ้นสวรรค์ไปเจอกับพระเจ้า
บาทหลวง: ทำไม พระองค์ไม่ช่วยลูก ลูกเชื่อในพระองค์ เฝ้าสวดมนต์อ้อนวอนตลอดเลย
พระเจ้า: ก็ส่งคนไปช่วยตั้งสามคนแล้ว ไม่อยากไปกับเขาเอง ช่วยไม่ได้
บาทหลวง: ..............................กรูหนอกรู...........
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 15
หรืออีกเรื่องที่สุดคลาสสิคสำหรับชาวหุ้นเหลือหลาย
"กบนั้นเก่งในการปรับตัว เอากบไปวางไว้ในหม้อที่ตั้งอยู่บนกองไฟ
มันจะปรับตัวให้ชินกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นๆ
แต่พอถึงจุดหนึ่ง มันจะทนไม่ไหวและตายไปในที่สุด
ในสถานการณ์อย่างนี้ ทางออกที่ดีที่สุดคือกระโดดออกจากหม้อขณะที่ยังมีเวลา
ตอนนี้เราเป็นเหมือนกบในหม้อที่ร้อนระอุหรือไม่
ถ้าใช่ น่าจะคิดได้แล้วว่าถึงเวลากระโดด ออกจากหม้อหรือยัง"
"กบนั้นเก่งในการปรับตัว เอากบไปวางไว้ในหม้อที่ตั้งอยู่บนกองไฟ
มันจะปรับตัวให้ชินกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นๆ
แต่พอถึงจุดหนึ่ง มันจะทนไม่ไหวและตายไปในที่สุด
ในสถานการณ์อย่างนี้ ทางออกที่ดีที่สุดคือกระโดดออกจากหม้อขณะที่ยังมีเวลา
ตอนนี้เราเป็นเหมือนกบในหม้อที่ร้อนระอุหรือไม่
ถ้าใช่ น่าจะคิดได้แล้วว่าถึงเวลากระโดด ออกจากหม้อหรือยัง"
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 16
ก้อนหิน เขียน:ผมหละแปลกใจเพื่อนๆฮงจริงๆนะครับ
เล่นหุ้น นี่มันเงินใครเงินมัน คิดเองทั้งนั้น จะมาโมโหเวลาอีกคนพูดไม่เข้าหูทำไม
ผมกลับชอบคนคิดต่างจากเราจะได้แนวคิดที่หลากหลายแล้วทำให้เรารอบคอบขึ้นมากกว่า
นานาจิตตัง จริงๆเนาะ คนเราเนี่ย การเข้าใจคน อาจจะยากกว่าเล่นหุ้นก็ได้มั้ง
อืม ตามประสบการณ์ของผม คนจะชอบฟังความจริงที่ไม่เข้าหู
ประมาณ 20% อีก80% ชอบฟังอะไรก็ได้ที่ฟังแล้วสบายใจ
รู้สึกดีกับชีวิตครับ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 17
ผมว่าบางทีความชำนาญไม่เหมือนกันแล้วคุยกันคนละทางครับromee เขียน:ถ้าเขารู้ ว่าคุณฮงเก่งในเรื่องแบบใหน คนเราก็ต้อง "ฟัง" เอาไว้บ้างละครับ
แต่จะทำตามหรือเปล่า อีกเรื่องนะ
สมมุติว่าผมคิดว่า หุ้นน่าจะลง 100 จุด
ต่อให้ผมถือหุ้นที่ผมคิดว่าแข็งแกร่งอยู่
ผมก็จะขายออกไปครับ
แต่บางท่านจะมีแนวคิดว่า
เมิงรู้ได้ไงว่าหุ้นจะลง
แล้วก็คิดต่อว่า ต่อให้ตลาดมันลง หุ้นกรูอาจจะไม่ลงก็ได้
แบบนี้มันก็เหมือนคุยกันคนละภาษาอะครับ
แล้วจริงๆแล้วผมก็ไม่อยากให้ใครทำตามอะไรหรอก
สมมุติไปนั่งกินข้าวเป็นกลุ่ม ผมบอกว่าผมมองหุ้น xxx ว่าน่าสนใจ
แล้วมีคนซื้อตาม 2-3 คน
ถ้าปรากฏว่าผมคาดการณ์ผิดแล้วผม cutloss ผมก็จะต้องอึดอัดที่จะต้อง
โทรไปบอกคนอื่นว่าผม cut แล้วนะ
ความซวยจะเกิดขึ้นถ้าพวกเขา cut ตามผมแล้วหุ้นมันเด้ง
:lol: หลังๆผมได้เรียนรู้วิธีการพูดแบบใหม่ที่ทำให้ผมสามารถพูดในสิ่ง
ที่ตัวเองคิดได้โดยภัยไม่มาถึงตัวแล้วครับ
ผมนั่งคิดตั้งนาน อิอิ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 18
ใช่คุณ smith เดียวกับที่นัง่ใกล้ๆผมที่ร้านข้าวเมื่อวานหรือป่าวครับนี้smith_sanguan เขียน:
เรื่องนี้สอนอะไร ผมบอกเลยนะคำเดียว อีโก้ คนเล่นหุ้นสูง คุณฮงครับ อย่าไปอธิบายให้ พวกนี้ฟังเสียเวลาเปลืองตัวครับ คุยกับคนที่มีท่าทีเปิดใจฟังดีกว่า ผมก็เคยมีอีโก้ จนโดนเซียนตบกระบานมาทีนึง อีโก้ออกจากร่าง 555 คุยกับผมก็ได้นะ แต่คุยในเวปผมไม่ค่อยบอกเท่าไหร่ ยังไม่ชิน ร้อยพ่อพันแม่ บางทีก็เสียเวลา
จริง ผมว่าคนเล่นหุ้นอีโก้โคตรสูงเลย
หลังๆผมว่าคำว่า พูดไปสองไพเบี้ย เสียนิ่งเสียทำลึงทองเป็นคำพูดที่ดีนะครับ
แนะนำเขาไปมันผิดก็ถูกด่า ไม่รู้จะพูดไปทำไม
หลังๆคุยแต่เรื่องหลักการดีกว่า
เรื่องแนะนำว่าซือตัวไหน ขายตัวไหน
อะไรทำนองนี้ผมขอผ่านดีกว่า
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 19
ถามพี่พอใจดีกว่า
เท่าที่เคยคุยกับพี่
ถ้าพี่มองว่าหุ้นไม่ดีแล้วเพื่อนพี่ถืออยู่พี่จะโทรไปบอกเพื่อนพี่ใช่ไหม
แล้วถ้ามันขึ้นต่อเพื่อนพี่ก็จะโทรมาเย้ยพี่ใช่ปะ
พี่ไม่รู้สึกบ้างเหรอว่า
พี่บอกเขาไปผิดเขาก็ว่าพี่ มันขึ้นต่อก็ว่าพี่
พี่สู้อยู่เฉยๆดีกว่า ไม่ต้องเสี่ยงถูกด่า
พี่ไม่คิดแบบนี้เหรอครับ
ผมว่าผมเป็นแนวแบบว่า ถ้าไม่ถูกถามก็ไม่คิดจะพูด
อย่างมากผมโพสในบอร์ดสนุกๆว่า ลุ้นให้หุ้นขึ้น หรือ ลง
แต่ไม่ถึงขนาดคิดว่าจะต้องโทรไปบอกอะไรใครซะหน่อย
ผมว่าทุกคนต้องใช้หลัก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนอยู่แล้วนะ
ถ้าเขามาอยู่ในตลาดหุ้นอะ
ผมมีเพื่อนรุ่นพี่คนนึงเป็นผู้หญิง
เขาพูดกับผมว่า "เนี้ยน้องฮงรู้ไหมคุณxxเขาขายyyไปที่ราคาเกือบpeak"
แต่เขาไม่บอกใครเลยนะ
พี่ว่าเขาไม่รักเพื่อนเลย
ผมฟังแล้วก็งงว่าแล้วมันเป็นความผิดเหรอที่เขาขายแล้วไม่บอกใคร
ในเมื่อเขาก็ไม่ได้มาเชียร์อะไรซะหน่อย
แค่เขาจะขายแล้วเงียบๆไปมันผิดด้วยเหรอ
ผมว่าแนวคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แต่ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรมากนะ
ส่วนตัวผมมองว่า ผมอยากได้วิชาความรู้ ผมอยากถามแล้วก็แลกเปลี่ยนแนวคิดเยอะๆ
คุณไม่ต้องมาบอกหุ้นผมก็ได้ เพราะผมคิดเองได้
บอกก็ดีผมก็ฟังๆ แต่ผมไม่ได้ซีเรียสว่าคุณต้องมาบอกหุ้นผมไง
คุณขายหุ้นก็ไม่ต้องบอกผมก็ได้ เพราะหลักการขายหุ้นผมไม่เหมือนคุณอยู่แล้ว ผมบอกเลยว่าก๊วนของผมก็ไว้ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
แชร์เอกสาร file เสียงที่ไปอบรม
แต่ผมว่าแนวคิด
ของบางท่านคือ ถ้าคุณรู้ข้อมูลลึกกว่าผม คุณอยู่ในตลาดนานกว่าผม
คุณจมูกไวก็ผม คุณก็บอกผมบ้างซิว่ะ
อย่างก อย่ากั๊ก ดูอย่างคุณ xx สิถามว่าซื้ออะไรก็บอกหมดเลย
ผมว่าเรื่องพวกนี้อยู่ที่แนวคิดของใครเป็นแบบไหน
แต่หลังๆผมเป็นแบบแรกมากกว่าก็คือ ผมถือว่าคุณอยู่ในตลาดหุ้น
คุณต้องช่วยตัวเองได้ ถ้าผมรู้อะไรบางอย่างแล้วผมขายหรือซื้อ
แล้วไม่ได้บอกคุณ ก็ไม่เห็นต้องโกรธผมเลยนี้
ถ้าคุณโทรมาถามผมก็บอก ถ้าคุณไม่โทรผมก็ไม่ได้บอก
แล้วผมก็ไม่ไดตัดสินใจถูกต้องตลอด
ถ้าผิดก็รู้สึกไม่ดีเพราะเป็นเงินคนอื่น
ถ้าถูกขึ้นมาเขาก็คิดว่าเรากั๊ก รู้แล้วไม่มาบอกซื้อขายเงียบๆอยู่คนเดียว
ปัญหาโลกแตกนะผมว่า
เท่าที่เคยคุยกับพี่
ถ้าพี่มองว่าหุ้นไม่ดีแล้วเพื่อนพี่ถืออยู่พี่จะโทรไปบอกเพื่อนพี่ใช่ไหม
แล้วถ้ามันขึ้นต่อเพื่อนพี่ก็จะโทรมาเย้ยพี่ใช่ปะ
พี่ไม่รู้สึกบ้างเหรอว่า
พี่บอกเขาไปผิดเขาก็ว่าพี่ มันขึ้นต่อก็ว่าพี่
พี่สู้อยู่เฉยๆดีกว่า ไม่ต้องเสี่ยงถูกด่า
พี่ไม่คิดแบบนี้เหรอครับ
ผมว่าผมเป็นแนวแบบว่า ถ้าไม่ถูกถามก็ไม่คิดจะพูด
อย่างมากผมโพสในบอร์ดสนุกๆว่า ลุ้นให้หุ้นขึ้น หรือ ลง
แต่ไม่ถึงขนาดคิดว่าจะต้องโทรไปบอกอะไรใครซะหน่อย
ผมว่าทุกคนต้องใช้หลัก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนอยู่แล้วนะ
ถ้าเขามาอยู่ในตลาดหุ้นอะ
ผมมีเพื่อนรุ่นพี่คนนึงเป็นผู้หญิง
เขาพูดกับผมว่า "เนี้ยน้องฮงรู้ไหมคุณxxเขาขายyyไปที่ราคาเกือบpeak"
แต่เขาไม่บอกใครเลยนะ
พี่ว่าเขาไม่รักเพื่อนเลย
ผมฟังแล้วก็งงว่าแล้วมันเป็นความผิดเหรอที่เขาขายแล้วไม่บอกใคร
ในเมื่อเขาก็ไม่ได้มาเชียร์อะไรซะหน่อย
แค่เขาจะขายแล้วเงียบๆไปมันผิดด้วยเหรอ
ผมว่าแนวคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แต่ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรมากนะ
ส่วนตัวผมมองว่า ผมอยากได้วิชาความรู้ ผมอยากถามแล้วก็แลกเปลี่ยนแนวคิดเยอะๆ
คุณไม่ต้องมาบอกหุ้นผมก็ได้ เพราะผมคิดเองได้
บอกก็ดีผมก็ฟังๆ แต่ผมไม่ได้ซีเรียสว่าคุณต้องมาบอกหุ้นผมไง
คุณขายหุ้นก็ไม่ต้องบอกผมก็ได้ เพราะหลักการขายหุ้นผมไม่เหมือนคุณอยู่แล้ว ผมบอกเลยว่าก๊วนของผมก็ไว้ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
แชร์เอกสาร file เสียงที่ไปอบรม
แต่ผมว่าแนวคิด
ของบางท่านคือ ถ้าคุณรู้ข้อมูลลึกกว่าผม คุณอยู่ในตลาดนานกว่าผม
คุณจมูกไวก็ผม คุณก็บอกผมบ้างซิว่ะ
อย่างก อย่ากั๊ก ดูอย่างคุณ xx สิถามว่าซื้ออะไรก็บอกหมดเลย
ผมว่าเรื่องพวกนี้อยู่ที่แนวคิดของใครเป็นแบบไหน
แต่หลังๆผมเป็นแบบแรกมากกว่าก็คือ ผมถือว่าคุณอยู่ในตลาดหุ้น
คุณต้องช่วยตัวเองได้ ถ้าผมรู้อะไรบางอย่างแล้วผมขายหรือซื้อ
แล้วไม่ได้บอกคุณ ก็ไม่เห็นต้องโกรธผมเลยนี้
ถ้าคุณโทรมาถามผมก็บอก ถ้าคุณไม่โทรผมก็ไม่ได้บอก
แล้วผมก็ไม่ไดตัดสินใจถูกต้องตลอด
ถ้าผิดก็รู้สึกไม่ดีเพราะเป็นเงินคนอื่น
ถ้าถูกขึ้นมาเขาก็คิดว่าเรากั๊ก รู้แล้วไม่มาบอกซื้อขายเงียบๆอยู่คนเดียว
ปัญหาโลกแตกนะผมว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 20
ไม่ได้ขี้เกียจโพสนะhongvalue เขียน: ผมว่าเรื่องพวกนี้อยู่ที่แนวคิดของใครเป็นแบบไหน
แต่หลังๆผมเป็นแบบแรกมากกว่าก็คือ ผมถือว่าคุณอยู่ในตลาดหุ้น
คุณต้องช่วยตัวเองได้ ถ้าผมรู้อะไรบางอย่างแล้วผมขายหรือซื้อ
แล้วไม่ได้บอกคุณ ก็ไม่เห็นต้องโกรธผมเลยนี้
ถ้าคุณโทรมาถามผมก็บอก ถ้าคุณไม่โทรผมก็ไม่ได้บอก
แล้วผมก็ไม่ไดตัดสินใจถูกต้องตลอด
ถ้าผิดก็รู้สึกไม่ดีเพราะเป็นเงินคนอื่น
ถ้าถูกขึ้นมาเขาก็คิดว่าเรากั๊ก รู้แล้วไม่มาบอกซื้อขายเงียบๆอยู่คนเดียว
ปัญหาโลกแตกนะผมว่า
แต่คิดเหมือนกัน
ผมอาจมีปัญหาไม่เหมือนฮง
ภาพของผมไม่ใช่ีคนเล่นหุ้นเก่งกาจอะไร ซึ่งที่จริงๆแล้วข้างหลังภาพก็เป็นอย่างนั้น
ดังนั้นผมมักจัดอยู่ในประเภทคนที่ไปถามแล้วก็ว่าคนอื่นมากกว่า
ไม่ใช่คนถูกว่า...ฮ่้า...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 21
ก็ไม่มีอะไรครับ บ่นขำๆpor_jai เขียน:
ไม่ได้ขี้เกียจโพสนะ
แต่คิดเหมือนกัน
ผมอาจมีปัญหาไม่เหมือนฮง
ภาพของผมไม่ใช่ีคนเล่นหุ้นเก่งกาจอะไร ซึ่งที่จริงๆแล้วข้างหลังภาพก็เป็นอย่างนั้น
ดังนั้นผมมักจัดอยู่ในประเภทคนที่ไปถามแล้วก็ว่าคนอื่นมากกว่า
ไม่ใช่คนถูกว่า...ฮ่้า...
กระทู้นี้ขอบ่นอย่างเดียวไม่เอาสาระอะไรทั้งนั้น
อิอิ
- ก้อนหิน
- Verified User
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 23
เรื่องบอกหุ้นรายตัว นี่เป็นปัญหาโรคแตกจริงๆ
แต่ก่อนคุยกันเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นๆ ในกลุ่มก็จะมีกติกาอยู่เสมอว่า กำไรคนซื้อก็ได้ไป ขาดทุนก็รับไป ไม่เกี่ยวกัน
คุยกันเพื่อข้อมูลเฉยๆ แบบนี้เราก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้วอะครับ เพราะว่าเราไม่ได้ไปขอร้องให้เค้าซื้อซํกกะหน่อย
จริงๆ เรื่องแนวทางการเล่นหุ้นของผมน่าจะเหมือนการทดลองนะครับ ก็ลองมันไปทุกแนว แบบไหนที่ใช้แล้ว ถูกกับจริต ตอบคำถามเราได้ ใช้แล้วได้กำไรก็ใช้อันนั้นแหละ อันไหนไม่ตรงกับแนวเราก็ติดตามดูว่า ถ้าเอามาใช้จริงๆแล้วมัน work มั้ยก็เอามาปรับๆ เข้าไป
แต่ก่อนคุยกันเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นๆ ในกลุ่มก็จะมีกติกาอยู่เสมอว่า กำไรคนซื้อก็ได้ไป ขาดทุนก็รับไป ไม่เกี่ยวกัน
คุยกันเพื่อข้อมูลเฉยๆ แบบนี้เราก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้วอะครับ เพราะว่าเราไม่ได้ไปขอร้องให้เค้าซื้อซํกกะหน่อย
จริงๆ เรื่องแนวทางการเล่นหุ้นของผมน่าจะเหมือนการทดลองนะครับ ก็ลองมันไปทุกแนว แบบไหนที่ใช้แล้ว ถูกกับจริต ตอบคำถามเราได้ ใช้แล้วได้กำไรก็ใช้อันนั้นแหละ อันไหนไม่ตรงกับแนวเราก็ติดตามดูว่า ถ้าเอามาใช้จริงๆแล้วมัน work มั้ยก็เอามาปรับๆ เข้าไป
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 24
ก้อนหิน เขียน:เรื่องบอกหุ้นรายตัว นี่เป็นปัญหาโรคแตกจริงๆ
แต่ก่อนคุยกันเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นๆ ในกลุ่มก็จะมีกติกาอยู่เสมอว่า กำไรคนซื้อก็ได้ไป ขาดทุนก็รับไป ไม่เกี่ยวกัน
คุยกันเพื่อข้อมูลเฉยๆ แบบนี้เราก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้วอะครับ เพราะว่าเราไม่ได้ไปขอร้องให้เค้าซื้อซํกกะหน่อย
จริงๆ เรื่องแนวทางการเล่นหุ้นของผมน่าจะเหมือนการทดลองนะครับ ก็ลองมันไปทุกแนว แบบไหนที่ใช้แล้ว ถูกกับจริต ตอบคำถามเราได้ ใช้แล้วได้กำไรก็ใช้อันนั้นแหละ อันไหนไม่ตรงกับแนวเราก็ติดตามดูว่า ถ้าเอามาใช้จริงๆแล้วมัน work มั้ยก็เอามาปรับๆ เข้าไป
อ่านเรื่อง idea diinner ของด.ร.นิเวศน์
ผมว่าจริงๆเวลาคุยกันจะถึงลูกถึงคนดี
ผมว่าเวลาพูดถึงหุ้นรายตัวจะต้องประมาณว่า
มีใครสนใจ xxx ไหม มีประเด็นนี้อะ
ผมว่าน่าสนใจนะ
แต่ถ้ามาแบบ เฮ้ย xxx โคตรถูก โตด้วย กราฟสวย
ไรทำนองนี้จะเป็นแนวปลูกระดม
ผมว่าเวลานักลงทุนลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆจนเจอแนวทางที่คิดว่าเข้ากับจริต แล้วหันมาใช้แล้ว work กว่าแนวเดิมๆเมื่อไหร่
มันจะมันนะ รู้สึกว่าเล่นหุ้นแล้ว happy อะ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 25
บ่นต่อๆ
คราวนี้เรื่องหนังสือ
หันมาดูหนังสือในบ้านตัวเอง
โอ้ ยังอ่านไม่จบก็หลายเล่ม
ผมว่างานสัปหาด์หนังสือบางทีก็เป็นเหมือนดาบสองคมนะ
คือยังงี้
สมมุติว่าคุณไปตอนคนมันเยอะๆใช่มะ
คุณก็จะไม่มีเวลาเปิดดูเนื้อหามาก และเนื่องจากคุณเห็นว่ามันถูก
กว่าปกติ และคนขายก็จะเชียร์คุณว่า ดีๆๆๆๆๆ
ซื้อไปเลย ถ้าร้านที่คนขายหน้าตาเฉิมๆ คุณก็จะไม่สนใจ
แต่ถ้าคนขายหน้าตาน่ารัก ขาวๆ ม้วนผมเป็นลอน
คุณก็จะใจอ่อนกลัวคนคิดว่าคุณช่างเลือกแต่ไม่ยักจะซื้อ
คุณก็อยากทำตัวเป็นป๋า เอาว่ะซื้อก็ซื้อ
ผมเคยไปงานสัปดาห์หนังสือและซื้อสูงสุด เกือบ 30 เล่ม
จำได้ว่าสำนักพิมพ์ต้นไม้ welearn แล้วก็ของ dmg
nation se-ed matichon ซื้อเยอะมาก
ปรากฏว่าอ่านจริงๆแค่ 20 เล่ม
ไม่ได้อ่านตั้ง 10 เล่ม
พอกลับมาดูดีๆ อ้าวไอ้ 10 เล่มนั้นมันน่าเบื่อนี้หว้า
ผมซื้อแล้วก็ต้องทยอยเอามาเก็บหลังรถ เก็บตั้งหลายรอบ
เพราะถือหนังสือหลายสิบเล่มแล้วมันเดินดูเล่มอื่นลำบากมันหนัก
ต้องคอยหาที่วาง
คิดแล้วให้เสียดายเงิน
หนังสือต่างประเทศบางเล่มอ่านแล้วก็น่าเบื่อ
อ่านไปตั้งเกือบครึ่งเล่มมาคิดว่า
นี้กรูได้อะไรจากมันว่ะ
คำตอบคือ มันพูดแต่เรื่อง basic
ปีนี้ผมซื้อไม่เยอะแค่ประมาณ 10 เล่ม
น้อยกว่าปีก่อนๆเยอะ
บางทีมันเหมือนต้นทุนจมอะ
คือจ่ายเงินไปแล้ว รู้ว่าไม่ค่อยมัน มันก็ทู้ซี้เสียเวลาอ่านต่อ
เพราะเสียดายตังค์ แต่ผมไม่เป็นนะ ถือว่าซวยไป ช่างมัน
คราวนี้เรื่องหนังสือ
หันมาดูหนังสือในบ้านตัวเอง
โอ้ ยังอ่านไม่จบก็หลายเล่ม
ผมว่างานสัปหาด์หนังสือบางทีก็เป็นเหมือนดาบสองคมนะ
คือยังงี้
สมมุติว่าคุณไปตอนคนมันเยอะๆใช่มะ
คุณก็จะไม่มีเวลาเปิดดูเนื้อหามาก และเนื่องจากคุณเห็นว่ามันถูก
กว่าปกติ และคนขายก็จะเชียร์คุณว่า ดีๆๆๆๆๆ
ซื้อไปเลย ถ้าร้านที่คนขายหน้าตาเฉิมๆ คุณก็จะไม่สนใจ
แต่ถ้าคนขายหน้าตาน่ารัก ขาวๆ ม้วนผมเป็นลอน
คุณก็จะใจอ่อนกลัวคนคิดว่าคุณช่างเลือกแต่ไม่ยักจะซื้อ
คุณก็อยากทำตัวเป็นป๋า เอาว่ะซื้อก็ซื้อ
ผมเคยไปงานสัปดาห์หนังสือและซื้อสูงสุด เกือบ 30 เล่ม
จำได้ว่าสำนักพิมพ์ต้นไม้ welearn แล้วก็ของ dmg
nation se-ed matichon ซื้อเยอะมาก
ปรากฏว่าอ่านจริงๆแค่ 20 เล่ม
ไม่ได้อ่านตั้ง 10 เล่ม
พอกลับมาดูดีๆ อ้าวไอ้ 10 เล่มนั้นมันน่าเบื่อนี้หว้า
ผมซื้อแล้วก็ต้องทยอยเอามาเก็บหลังรถ เก็บตั้งหลายรอบ
เพราะถือหนังสือหลายสิบเล่มแล้วมันเดินดูเล่มอื่นลำบากมันหนัก
ต้องคอยหาที่วาง
คิดแล้วให้เสียดายเงิน
หนังสือต่างประเทศบางเล่มอ่านแล้วก็น่าเบื่อ
อ่านไปตั้งเกือบครึ่งเล่มมาคิดว่า
นี้กรูได้อะไรจากมันว่ะ
คำตอบคือ มันพูดแต่เรื่อง basic
ปีนี้ผมซื้อไม่เยอะแค่ประมาณ 10 เล่ม
น้อยกว่าปีก่อนๆเยอะ
บางทีมันเหมือนต้นทุนจมอะ
คือจ่ายเงินไปแล้ว รู้ว่าไม่ค่อยมัน มันก็ทู้ซี้เสียเวลาอ่านต่อ
เพราะเสียดายตังค์ แต่ผมไม่เป็นนะ ถือว่าซวยไป ช่างมัน
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 26
บ่นต่อ
บางทีไปสัมนาข้างนอกแล้วก็รู้สึกเบื่อๆบางอย่าง
ที่น่าเจ็บใจคือ เคยไปอบรมของที่นึง 2 วัน 5000
แต่ว่าคนที่เขาเชิญมาพูดแบบพูดไม่ตรงกับหัวข้อที่ลงเอาไว้ก่อนอบรมอะ
สมมุติหัวข้อบอกว่า
--สอนเกี่ยวกับการดูหุ้นกลุ่มอสังห
แต่พอสอนจริงมันสอนเรื่องเกี่ยวกับนโยบายบัญชีทั่วไปกฏหมายภาพรวม
ที่ก็ไม่เห็นว่ามันจะเอามาใช้ดูอะไรได้
แล้วก็จะเจ็บใจกว่านั้นที่รู้สึกว่า ไรว่ะ กรูจ่ายตังค์ตั้ง 5000
มันดันเอาคนสอนที่ไม่เตรียมตัวมาสอนให้กรูฟัง
มันน่าเจ็บใจ อยากร้องเรียนมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค
-แล้วที่น่าเบื่อก็จะมีบางคนที่เป็นนักเรียนที่ชอบพูดโม้ ไม่ปิดโทรศัพท์
นั่งจู้จี้กันเกินหน้าเกินตาชาวบ้าน
-มีอยู่ครั้งนึงไปนั่งอบรม 2 วัน ปกติจะต้องมีเอกสาร 2 ชุด
แต่ได้ชุดเดียวผมก็ถามพนักงานที่ทำหน้าไร้ซึ่งเรียวแรงว่า
แล้วชุดนั้นล่ะ(สีเหลือง)ผมชี้ผมที่เอกสารอีกชุดนึงว่าทำไมไม่แจก
พนักงานเขาก็บอกว่าเดี่ยวเราจะแจกอีกที
ผมก็ถามเขาว่า แล้วทำไมไม่แจกเลยล่ะ ผมจะได้เอาไปดูก่อน
เขาก็บอกว่า ไม่ได้ค่ะ เรายังไม่แจก
ผมก็หงุดหงิดเล็กน้อยว่า เมิงจะกั๊กเอกสารเอาไว้ทำไมจ่ายตังค์มาก็ไม่ให้ซะที
เดี่ยวเบิดกระโหลกเลย
อิอิ
ยังไม่จบความเบื่อยังมีต่อไป
วิทยากรจะต้องเริ่ม 9 โมงแต่ว่า คนนี้เริ่ม 9 โมง 20 นาที
ถ้าเรียนสองวันวันละ 2500 เบรกเช้ากับบ่าย
1250 โดนกินเวลา 20 นาทีผมโดนไปแล้วเกือบ 200 บาท
น่าเกลียดที่สุดในจักรวาล อย่าให้ผมด่าว่าไปอบรมที่ไหนมา
ถ้าให้ผมจ่ายตังค์เองผมคงไม่ไป พอดีมีคนออกให้บอกว่าไปฟังเสร็จ
ให้กลับมาเล่าให้ฟังด้วย เพราะเขาไม่ว่าง เสาร์ อาทิตย์ ไปฟังเองไม่ได้
ยังๆ ยังไม่จบ
เอ จบก่อนดีกว่า รู้สึกจะบ่นมากไป
บางทีไปสัมนาข้างนอกแล้วก็รู้สึกเบื่อๆบางอย่าง
ที่น่าเจ็บใจคือ เคยไปอบรมของที่นึง 2 วัน 5000
แต่ว่าคนที่เขาเชิญมาพูดแบบพูดไม่ตรงกับหัวข้อที่ลงเอาไว้ก่อนอบรมอะ
สมมุติหัวข้อบอกว่า
--สอนเกี่ยวกับการดูหุ้นกลุ่มอสังห
แต่พอสอนจริงมันสอนเรื่องเกี่ยวกับนโยบายบัญชีทั่วไปกฏหมายภาพรวม
ที่ก็ไม่เห็นว่ามันจะเอามาใช้ดูอะไรได้
แล้วก็จะเจ็บใจกว่านั้นที่รู้สึกว่า ไรว่ะ กรูจ่ายตังค์ตั้ง 5000
มันดันเอาคนสอนที่ไม่เตรียมตัวมาสอนให้กรูฟัง
มันน่าเจ็บใจ อยากร้องเรียนมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค
-แล้วที่น่าเบื่อก็จะมีบางคนที่เป็นนักเรียนที่ชอบพูดโม้ ไม่ปิดโทรศัพท์
นั่งจู้จี้กันเกินหน้าเกินตาชาวบ้าน
-มีอยู่ครั้งนึงไปนั่งอบรม 2 วัน ปกติจะต้องมีเอกสาร 2 ชุด
แต่ได้ชุดเดียวผมก็ถามพนักงานที่ทำหน้าไร้ซึ่งเรียวแรงว่า
แล้วชุดนั้นล่ะ(สีเหลือง)ผมชี้ผมที่เอกสารอีกชุดนึงว่าทำไมไม่แจก
พนักงานเขาก็บอกว่าเดี่ยวเราจะแจกอีกที
ผมก็ถามเขาว่า แล้วทำไมไม่แจกเลยล่ะ ผมจะได้เอาไปดูก่อน
เขาก็บอกว่า ไม่ได้ค่ะ เรายังไม่แจก
ผมก็หงุดหงิดเล็กน้อยว่า เมิงจะกั๊กเอกสารเอาไว้ทำไมจ่ายตังค์มาก็ไม่ให้ซะที
เดี่ยวเบิดกระโหลกเลย
อิอิ
ยังไม่จบความเบื่อยังมีต่อไป
วิทยากรจะต้องเริ่ม 9 โมงแต่ว่า คนนี้เริ่ม 9 โมง 20 นาที
ถ้าเรียนสองวันวันละ 2500 เบรกเช้ากับบ่าย
1250 โดนกินเวลา 20 นาทีผมโดนไปแล้วเกือบ 200 บาท
น่าเกลียดที่สุดในจักรวาล อย่าให้ผมด่าว่าไปอบรมที่ไหนมา
ถ้าให้ผมจ่ายตังค์เองผมคงไม่ไป พอดีมีคนออกให้บอกว่าไปฟังเสร็จ
ให้กลับมาเล่าให้ฟังด้วย เพราะเขาไม่ว่าง เสาร์ อาทิตย์ ไปฟังเองไม่ได้
ยังๆ ยังไม่จบ
เอ จบก่อนดีกว่า รู้สึกจะบ่นมากไป
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 27
ตอนนี้ผมเองก็เจอสถานการณ์นี้เหมือนกัน จะขายก็ต้องป่าวประกาศให้เพื่อนๆhongvalue เขียน:
สมมุติไปนั่งกินข้าวเป็นกลุ่ม ผมบอกว่าผมมองหุ้น xxx ว่าน่าสนใจ
แล้วมีคนซื้อตาม 2-3 คน
ถ้าปรากฏว่าผมคาดการณ์ผิดแล้วผม cutloss ผมก็จะต้องอึดอัดที่จะต้อง
โทรไปบอกคนอื่นว่าผม cut แล้วนะ
ความซวยจะเกิดขึ้นถ้าพวกเขา cut ตามผมแล้วหุ้นมันเด้ง
ิ
พี่ๆน้องๆ ที่อยู่ในแผนกรู้ด้วย เพราะดันไปแนะนำและซื้อตามกันเป็นหางว่าว
แต่ดีหน่อย ที่แต่ละคนมีเหตุและผลค่อนไปทางไม่เล่นหุ้นมากเกินไป เลยทำ
ให้ไม่ไปสนใจตลาดมากเกินไป บางตัวที่ขายๆไป ก็ขำๆก็มี เพราะพอเพื่อนๆ
รู้ ก็ทำท่าตกใจเพราะดันไปซื้อตาม ไอ้เราก็เล่าให้ฟังเฉยๆ ไม่นึกว่าจะแอบซื้อ
ด้วย
หลายๆตัว ตอนนี้กลายเป็นติดดอยด้วยกัน มองหน้ากันทีไร อดขำไม่ได้สักที
ก็อย่างว่า พอติดหุ้นแล้ว ตัดใจขายลำบากเหมือนกัน
ที่จริงแต่ละคนก็มีเหตุและผลของตน แต่การได้พูดคุยแชร์ความคิดเห็นก็เป็น
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ ความคิดของเรามีการกลั่นกรองมากขึ้น ความคิดบางอย่าง
ที่ดูเหมือนไร้สาระ ก็อาจมีประโยชน์หรือแฝงความจริงอยู่ก็ได้
:lol:
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 28
tum_H เขียน:
ตอนนี้ผมเองก็เจอสถานการณ์นี้เหมือนกัน จะขายก็ต้องป่าวประกาศให้เพื่อนๆ
พี่ๆน้องๆ ที่อยู่ในแผนกรู้ด้วย เพราะดันไปแนะนำและซื้อตามกันเป็นหางว่าว
แต่ดีหน่อย ที่แต่ละคนมีเหตุและผลค่อนไปทางไม่เล่นหุ้นมากเกินไป เลยทำ
ให้ไม่ไปสนใจตลาดมากเกินไป บางตัวที่ขายๆไป ก็ขำๆก็มี เพราะพอเพื่อนๆ
รู้ ก็ทำท่าตกใจเพราะดันไปซื้อตาม ไอ้เราก็เล่าให้ฟังเฉยๆ ไม่นึกว่าจะแอบซื้อ
ด้วย
หลายๆตัว ตอนนี้กลายเป็นติดดอยด้วยกัน มองหน้ากันทีไร อดขำไม่ได้สักที
ก็อย่างว่า พอติดหุ้นแล้ว ตัดใจขายลำบากเหมือนกัน
ที่จริงแต่ละคนก็มีเหตุและผลของตน แต่การได้พูดคุยแชร์ความคิดเห็นก็เป็น
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ ความคิดของเรามีการกลั่นกรองมากขึ้น ความคิดบางอย่าง
ที่ดูเหมือนไร้สาระ ก็อาจมีประโยชน์หรือแฝงความจริงอยู่ก็ได้
:lol:
ดีๆ มาช่วยกันบ่นเยอะๆ บ่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 29
วันนั้นไปกิน fast food ที่ the mall
มีราดหน้าอยู่เจ้านึง ผมว่าทุเรศเกิน
ผมจ่ายตังค์ไปประมาณ เกือบ 50 บาท
ผมบอกว่าเอาราดหน้าทะเล
มันให้วิญญาณกุ้ง(เล็กมากๆ) กับซากหมู(ไม่น่ากินมาให้) อย่างละ 3 ชื้น
แล้วก็เส้นราดหน้าเต็มถ้วย
โอ๊ย เอาเปรียบผู้บริโภค
มีราดหน้าอยู่เจ้านึง ผมว่าทุเรศเกิน
ผมจ่ายตังค์ไปประมาณ เกือบ 50 บาท
ผมบอกว่าเอาราดหน้าทะเล
มันให้วิญญาณกุ้ง(เล็กมากๆ) กับซากหมู(ไม่น่ากินมาให้) อย่างละ 3 ชื้น
แล้วก็เส้นราดหน้าเต็มถ้วย
โอ๊ย เอาเปรียบผู้บริโภค
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
@...คุยขำๆกับ hongvalue...@
โพสต์ที่ 30
พูดถึงงานสัปดาห์หนังสือปีนี้ผมรู้สึกว่าคนน้อยๆยังไงไม่รู้นะ
ไม่รู้ว่าคนอื่นไปเดินมาแล้วเป็นไงบ้าง
กำลังซื้อตกหรือป่าว
แต่น่าแปลกที่รถไฟใต้ดินกับ bts ช่วงนี้ยังกับหนอน
เบียดกับยังกับปลากระป๋อง ไม่รู้ว่าคนจะไปไหนกัน
ไม่รู้ว่าคนอื่นไปเดินมาแล้วเป็นไงบ้าง
กำลังซื้อตกหรือป่าว
แต่น่าแปลกที่รถไฟใต้ดินกับ bts ช่วงนี้ยังกับหนอน
เบียดกับยังกับปลากระป๋อง ไม่รู้ว่าคนจะไปไหนกัน