เรื่องคายเคียด
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องคายเคียด
โพสต์ที่ 1
ทำอีกทีสิครับพ่อ
ตอนนี้น้อง"ตูมตาม" อายุ 6 ขวบแล้วล่ะ คุณพ่อของตูมตามคิดว่า ตอนนี้น่าจะถึงเวลาแล้วล่ะที่ตูมตามจะนอนคนเดียวได้ หลังจากกล่อมอยู่นาน น้องตูมตามจึงยอมให้คุณพ่อออกจากห้องนอนไป
แต่สัก 15 นาทีต่อมา น้องตูมตามก็ร้องลั่น คุณพ่อรีบวิ่งเข้าไปดู เห็นน้องตูมตามอาละวาดดิ้นไปมา ร้องจะให้อุ้ม
เห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปดู "ตูมตามเป็นอะไรไป ร้องไห้ทำไมล่ะลูก" คุณพ่อถาม
"น้องตูมตาม กลืนเหรียญเข้าไปครับ ตูมตามต้องตายแน่เลยครับ" น้องตูมตามพูดไปยิ้มไป อ้อนคุณพ่อใหญ่
ฝ่าย คุณพ่อเห็นอาการยิ้มไปมาแบบนั้น ก็เข้าใจว่าคงแกล้งพูดเล่นหรือเปล่านะ แค่เรียกร้องจะให้อุ้มกระมัง และห้องนี้ก็เพิ่งทำ เงินค่าขนมก็ไม่เคยให้ลูกเก็บไว้ จึงแกล้งเอาเหรียญไว้ในมือ แล้วลูบศีรษะน้องตูมตาม
"เห็นไหมลูก พ่อเอามันออกมาได้แล้ว นิ่งซะนะนอนได้แล้ว" คุณพ่อหวังว่าจะทำให้น้องตูมตามหลับได้ แต่ว่า
"พ่อเก่งจัง ทำอีกทีซิครับพ่อ" น้องตูมตามหยิบเหรียญในมือคุณพ่อ กลืนเข้าไปจริง ๆ
source: somewhere
ตอนนี้น้อง"ตูมตาม" อายุ 6 ขวบแล้วล่ะ คุณพ่อของตูมตามคิดว่า ตอนนี้น่าจะถึงเวลาแล้วล่ะที่ตูมตามจะนอนคนเดียวได้ หลังจากกล่อมอยู่นาน น้องตูมตามจึงยอมให้คุณพ่อออกจากห้องนอนไป
แต่สัก 15 นาทีต่อมา น้องตูมตามก็ร้องลั่น คุณพ่อรีบวิ่งเข้าไปดู เห็นน้องตูมตามอาละวาดดิ้นไปมา ร้องจะให้อุ้ม
เห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปดู "ตูมตามเป็นอะไรไป ร้องไห้ทำไมล่ะลูก" คุณพ่อถาม
"น้องตูมตาม กลืนเหรียญเข้าไปครับ ตูมตามต้องตายแน่เลยครับ" น้องตูมตามพูดไปยิ้มไป อ้อนคุณพ่อใหญ่
ฝ่าย คุณพ่อเห็นอาการยิ้มไปมาแบบนั้น ก็เข้าใจว่าคงแกล้งพูดเล่นหรือเปล่านะ แค่เรียกร้องจะให้อุ้มกระมัง และห้องนี้ก็เพิ่งทำ เงินค่าขนมก็ไม่เคยให้ลูกเก็บไว้ จึงแกล้งเอาเหรียญไว้ในมือ แล้วลูบศีรษะน้องตูมตาม
"เห็นไหมลูก พ่อเอามันออกมาได้แล้ว นิ่งซะนะนอนได้แล้ว" คุณพ่อหวังว่าจะทำให้น้องตูมตามหลับได้ แต่ว่า
"พ่อเก่งจัง ทำอีกทีซิครับพ่อ" น้องตูมตามหยิบเหรียญในมือคุณพ่อ กลืนเข้าไปจริง ๆ
source: somewhere
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องคายเคียด
โพสต์ที่ 2
คนที่อยากเจอมากที่สุด
หลังจากใช้เวลาตรวจอยู่เกือบสัปดาห์ "เนตร" แพทย์หนุ่มลงความเห็นว่า "บิณฑ์"ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย
" คุณบิณฑ์ครับ จากผลการตรวจ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเราพบว่าคุณเป็นโรคร้ายแรง ซึ่งรักษาไม่หาย อันที่จริงแล้วที่หมอแจ้งให้คุณทราบเพราะว่า คุณอาจมีเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว คุณจะได้วางแผนใช้เวลาที่เหลือนี้อย่างดีที่สุด เช่น อาจจะวางแผนไปพบกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอมานาน อยู่กับคนที่รัก หรือพบกับคนที่อยากพบ" หมอ"เนตร" ให้คำปรึกษากับคุณบิณฑ์ "ไม่ทราบว่าเห็นด้วยไหมครับ"
คุณบิณฑ์พิจารณาตามที่หมอเนตรแนะนำก็กล่าวว่า "ครับผมเห็นด้วยครับ ตอนนี้คนที่ผมอยากเจอมากที่สุดก็คือ แพทย์อีกคนครับ"
source: somewhere
หลังจากใช้เวลาตรวจอยู่เกือบสัปดาห์ "เนตร" แพทย์หนุ่มลงความเห็นว่า "บิณฑ์"ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย
" คุณบิณฑ์ครับ จากผลการตรวจ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเราพบว่าคุณเป็นโรคร้ายแรง ซึ่งรักษาไม่หาย อันที่จริงแล้วที่หมอแจ้งให้คุณทราบเพราะว่า คุณอาจมีเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว คุณจะได้วางแผนใช้เวลาที่เหลือนี้อย่างดีที่สุด เช่น อาจจะวางแผนไปพบกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอมานาน อยู่กับคนที่รัก หรือพบกับคนที่อยากพบ" หมอ"เนตร" ให้คำปรึกษากับคุณบิณฑ์ "ไม่ทราบว่าเห็นด้วยไหมครับ"
คุณบิณฑ์พิจารณาตามที่หมอเนตรแนะนำก็กล่าวว่า "ครับผมเห็นด้วยครับ ตอนนี้คนที่ผมอยากเจอมากที่สุดก็คือ แพทย์อีกคนครับ"
source: somewhere
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องคายเคียด
โพสต์ที่ 3
กลับชาติมาเกิด
"สามารถ" ไปดื่มเหล้ากับเพื่อน ๆ จีบสาว หาเมียน้อยใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนดึกดื่น เมาแล้วค่อยคิดจะกลับบ้าน เป็นแบบนี้ทุกวัน จนฝ่ายภรรยาเอือม ในที่สุดสามารถก็พอตัวเองกลับมาถึงบ้านจนได้ แล้วก็ขึ้นเตียง หอมแก้มภรรยาพอเป็นพิธีแล้วก็หลับไป
"สามารถ"ตื่นขึ้นมากลางดึก พบชายแปลกหน้า ยืนจ้องเขาอยู่ที่หน้าเตียง "แก แกเป็นใครน่ะ" สามารถถาม "แกมาทำอะไรในห้องนอนของชั้น"
"ที่นี่เหรอห้องนอนของแก ที่นี่ยมโลกต่างหากล่ะ เอาล่ะ ข้าเป็นยมทูต จะมาพาเจ้าไป" ชายแปลกหน้าเผยตัวว่าเป็นยมฑูต
สามารถตกตลึง " นี่ หมายความว่าชั้นตายแล้วเหรอ ไม่นะ นี่ชั้นยังตายไม่ได้นะ ชั้นยังต้องทำอะไรอีกตั้งเยอะ แล้ว..แล้ว ชั้นยังไม่ได้บอกลาเมียที่บ้านเลย แก.. แกต้องส่งชั้นกลับไปนะ" สามารถร้องขอ
"ส่งกลับเหรอ ต้อนนี้ไม่ได้แล้วล่ะ เขาฝังร่างแกไปแล้ว ถ้าจะกลับไปจริง แกต้องเกิดใหม่ เอาไหมล่ะ" ยมฑูตยื่นข้อเสนอ "แต่แกเมาเหมือนหมาแบบนี้ ถ้าจะส่งกลับ คงต้องไปเกิดเป็น'หมา' แต่แก็เจ้าชู้ไก่แจ้แบบนี้ .... ไปเกิดเป็น'ไก่'ละกันเอาไหม"
สามารถรู้ว่า ภรรยาเขาเกลียดสุนัขมาก ส่วนไก่นั้นไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ ใกล้บ้านของสามารถมีฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่อยู่ "ก็ได้ เป็นไก่ก็ได้วะ" สามารถตอบยมฑูต
อึด ใจเดียวเท่านั้น สามารถก็พบว่าตัวเองเป็น "แม่ไก่" ไปเสียแล้ว (ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ก็เงี้ย) ระหว่างที่สามารถสำรวจร่างใหม่อยู่นั้น ก็พบว่ามีอะไรแปลก ๆ กับร่างของเขา ทันใดนั้น "พ่อไก่" ก็เดินมาทัก " 'แม่ไก่' ใหม่เหรอ เป็นไงบ้างชอบที่นี่ไหม"
"ก็ดีนะ" สามารถ(ในร่างไก่)บอก "แต่มันแปลก ๆน่ะ ชั้นเหมือนไม่มีบางอย่างที่ควรจะมี แต่ก็เหมือนจะมีอะไรบางอย่าง...มันอยู่ในตัวชั้นนี่แหละ"
"สงสัยไข่กำลังจะออกน่ะสิ หา.. นี่ไม่เคยกกไข่เลยเหรอ" พ่อไก่ถามด้วยความตกใจ
"ก็ไม่เคยน่ะสิ" สามารถตอบ
"ไม่เป็นไร ใจเย็น ๆ ทำตามธรรมชาติ" พ่อไก่แนะนำ
หลัง จากสามารถไม่แน่ใจตัวเองอยู่นานว่า ไอ้ความรู้สึกแปลก ที่อยู่ในตัวนั้นคืออะไร ทันใดนั้น ไข่ก็หลุดออกมาจากตัวของสามารถ สามารถในที่สุดก็ได้รู้สึกว่าตนเป็นแม่ไก่เป็นครั้งแรก เขาภูมิใจและดีใจจนไม่รู้จะใช้คำพูดว่าอะไรจึงจะอธิบายความสุขอันนี้ได้
สามารถลืมไปแล้วว่า เขาต้องการเกิดใหม่เพื่ออะไร แต่ตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ออกไข่ และเขาก็รู้สึกว่า ไข่ใบที่สองกำลังจะออกมาแล้ว สามารถคิดถึงความสุขที่ได้เป็นแม่แล้ว เขาจึงเบ่งให้ไข่ใบที่สองออกมา
.
.
.
ทันทีที่ไข่ใบที่สองออก เขาก็ได้ยินเสียงภรรยาของเขา
.
.
.
"นี่ไอ้ขี้เมา.... ไอ้บ้า... มาขี้เรี่ยราดบนเตียงอย่างนี้ได้ไง หา !!!!"
source: somewhere
"สามารถ" ไปดื่มเหล้ากับเพื่อน ๆ จีบสาว หาเมียน้อยใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนดึกดื่น เมาแล้วค่อยคิดจะกลับบ้าน เป็นแบบนี้ทุกวัน จนฝ่ายภรรยาเอือม ในที่สุดสามารถก็พอตัวเองกลับมาถึงบ้านจนได้ แล้วก็ขึ้นเตียง หอมแก้มภรรยาพอเป็นพิธีแล้วก็หลับไป
"สามารถ"ตื่นขึ้นมากลางดึก พบชายแปลกหน้า ยืนจ้องเขาอยู่ที่หน้าเตียง "แก แกเป็นใครน่ะ" สามารถถาม "แกมาทำอะไรในห้องนอนของชั้น"
"ที่นี่เหรอห้องนอนของแก ที่นี่ยมโลกต่างหากล่ะ เอาล่ะ ข้าเป็นยมทูต จะมาพาเจ้าไป" ชายแปลกหน้าเผยตัวว่าเป็นยมฑูต
สามารถตกตลึง " นี่ หมายความว่าชั้นตายแล้วเหรอ ไม่นะ นี่ชั้นยังตายไม่ได้นะ ชั้นยังต้องทำอะไรอีกตั้งเยอะ แล้ว..แล้ว ชั้นยังไม่ได้บอกลาเมียที่บ้านเลย แก.. แกต้องส่งชั้นกลับไปนะ" สามารถร้องขอ
"ส่งกลับเหรอ ต้อนนี้ไม่ได้แล้วล่ะ เขาฝังร่างแกไปแล้ว ถ้าจะกลับไปจริง แกต้องเกิดใหม่ เอาไหมล่ะ" ยมฑูตยื่นข้อเสนอ "แต่แกเมาเหมือนหมาแบบนี้ ถ้าจะส่งกลับ คงต้องไปเกิดเป็น'หมา' แต่แก็เจ้าชู้ไก่แจ้แบบนี้ .... ไปเกิดเป็น'ไก่'ละกันเอาไหม"
สามารถรู้ว่า ภรรยาเขาเกลียดสุนัขมาก ส่วนไก่นั้นไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ ใกล้บ้านของสามารถมีฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่อยู่ "ก็ได้ เป็นไก่ก็ได้วะ" สามารถตอบยมฑูต
อึด ใจเดียวเท่านั้น สามารถก็พบว่าตัวเองเป็น "แม่ไก่" ไปเสียแล้ว (ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ก็เงี้ย) ระหว่างที่สามารถสำรวจร่างใหม่อยู่นั้น ก็พบว่ามีอะไรแปลก ๆ กับร่างของเขา ทันใดนั้น "พ่อไก่" ก็เดินมาทัก " 'แม่ไก่' ใหม่เหรอ เป็นไงบ้างชอบที่นี่ไหม"
"ก็ดีนะ" สามารถ(ในร่างไก่)บอก "แต่มันแปลก ๆน่ะ ชั้นเหมือนไม่มีบางอย่างที่ควรจะมี แต่ก็เหมือนจะมีอะไรบางอย่าง...มันอยู่ในตัวชั้นนี่แหละ"
"สงสัยไข่กำลังจะออกน่ะสิ หา.. นี่ไม่เคยกกไข่เลยเหรอ" พ่อไก่ถามด้วยความตกใจ
"ก็ไม่เคยน่ะสิ" สามารถตอบ
"ไม่เป็นไร ใจเย็น ๆ ทำตามธรรมชาติ" พ่อไก่แนะนำ
หลัง จากสามารถไม่แน่ใจตัวเองอยู่นานว่า ไอ้ความรู้สึกแปลก ที่อยู่ในตัวนั้นคืออะไร ทันใดนั้น ไข่ก็หลุดออกมาจากตัวของสามารถ สามารถในที่สุดก็ได้รู้สึกว่าตนเป็นแม่ไก่เป็นครั้งแรก เขาภูมิใจและดีใจจนไม่รู้จะใช้คำพูดว่าอะไรจึงจะอธิบายความสุขอันนี้ได้
สามารถลืมไปแล้วว่า เขาต้องการเกิดใหม่เพื่ออะไร แต่ตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ออกไข่ และเขาก็รู้สึกว่า ไข่ใบที่สองกำลังจะออกมาแล้ว สามารถคิดถึงความสุขที่ได้เป็นแม่แล้ว เขาจึงเบ่งให้ไข่ใบที่สองออกมา
.
.
.
ทันทีที่ไข่ใบที่สองออก เขาก็ได้ยินเสียงภรรยาของเขา
.
.
.
"นี่ไอ้ขี้เมา.... ไอ้บ้า... มาขี้เรี่ยราดบนเตียงอย่างนี้ได้ไง หา !!!!"
source: somewhere
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องคายเคียด
โพสต์ที่ 4
รู้ได้ไงอ่ะ ว่าผมทำงานอะไร
ฉัตรชัย ขับรถไปเที่ยวเหนือ แต่ทว่า ตอนนี้เขาหลงทาง ระหว่างขับไปเรื่อย ๆ ก็เจอชายผู้หนึ่ง " นี่คุณ.. ผมมาเที่ยว แต่ขับไปขับมา ไม่เห็นป้ายเลย ก็ขับมาถึงนี่น่ะ ที่นี่ที่ไหนรู้ไหม ผมหลงทางแล้ว ที่จริงผมสัญญากับลูกน้องว่า จะไปหาให้ทันตอนอาหารค่ำนี้น่ะ" ฉัตรชัยถามชายที่เดินผ่านมา
" ที่นี่เหรอ ก็อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 10 เมตรนะ ที่เรายืนกันอยู่ ก็ประมาณละติจูดที่ 18 ถึง 19 องศาเหนือ ลองกิจูดก็ประมาณ 98 ถึง 99 องศาตะวันออกนะ" ชายผู้นั้นตอบ
"อืม ผมว่าคุณต้องเคยเรียนวิศวะมาแน่ ๆ เลยใช่ไหมเนี่ย ไม่ก็ต้องเคยอยู่ในกองทัพ" ฉัตรชัยตั้งข้อสังเกตุ
"ใช่แล้วล่ะ ผมเป็นวิศวกร และเคยเป็นทหารด้วย" ชายผู้นั้นตอบ "แต่... คุณรู้ได้ยังไง"
"ก็.. คุณตอบแบบใช้ศัพท์แสงทางวิชาการ ศัพท์เทคนิคประมาณนั้นน่ะ แล้วก็พูดจริง ๆ ก็เหอะนะ จะพิกัดไหนไม่รู้ล่ะ มันคงไม่ได้ช่วยอะไรผมเท่าไหร่นะ ตอนนี้ผมหลงทางอยู่นะ" ฉัตรชัยบอก
"ผมว่า คุณต้องเป็นพวกผู้จัดการ หรือทำงานบริหาร แน่ ๆ เลยใช่ไหม" ชายผู้นั้นถาม
"ใช่แล้วล่ะ แล้ว.. รู้ได้ยังไงอ่ะ" ฉัตรชัยสงสัย
"ก็แบบนี้นะ" ชายผู้นั้นอธิบาย " คุณน่ะ ไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังทำอะไร ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แล้วจะไปไหนต่อ ให้สัญญาโดยที่อาจจะรักษาสัญญาไม่ได้ โทษนู่นโทษนี่ แล้วก็ยังคาดหวังให้ผมแก้ปัญหาให้คุณ แต่ตอนนี้คุณก็ยังไม่ได้ออกรถไปไหนเสียที.... ใช่แล้วความผิดผมเอง คุณกำลังจะพูดแบบนี้ใช่ไหม"
source: somewhere
ฉัตรชัย ขับรถไปเที่ยวเหนือ แต่ทว่า ตอนนี้เขาหลงทาง ระหว่างขับไปเรื่อย ๆ ก็เจอชายผู้หนึ่ง " นี่คุณ.. ผมมาเที่ยว แต่ขับไปขับมา ไม่เห็นป้ายเลย ก็ขับมาถึงนี่น่ะ ที่นี่ที่ไหนรู้ไหม ผมหลงทางแล้ว ที่จริงผมสัญญากับลูกน้องว่า จะไปหาให้ทันตอนอาหารค่ำนี้น่ะ" ฉัตรชัยถามชายที่เดินผ่านมา
" ที่นี่เหรอ ก็อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 10 เมตรนะ ที่เรายืนกันอยู่ ก็ประมาณละติจูดที่ 18 ถึง 19 องศาเหนือ ลองกิจูดก็ประมาณ 98 ถึง 99 องศาตะวันออกนะ" ชายผู้นั้นตอบ
"อืม ผมว่าคุณต้องเคยเรียนวิศวะมาแน่ ๆ เลยใช่ไหมเนี่ย ไม่ก็ต้องเคยอยู่ในกองทัพ" ฉัตรชัยตั้งข้อสังเกตุ
"ใช่แล้วล่ะ ผมเป็นวิศวกร และเคยเป็นทหารด้วย" ชายผู้นั้นตอบ "แต่... คุณรู้ได้ยังไง"
"ก็.. คุณตอบแบบใช้ศัพท์แสงทางวิชาการ ศัพท์เทคนิคประมาณนั้นน่ะ แล้วก็พูดจริง ๆ ก็เหอะนะ จะพิกัดไหนไม่รู้ล่ะ มันคงไม่ได้ช่วยอะไรผมเท่าไหร่นะ ตอนนี้ผมหลงทางอยู่นะ" ฉัตรชัยบอก
"ผมว่า คุณต้องเป็นพวกผู้จัดการ หรือทำงานบริหาร แน่ ๆ เลยใช่ไหม" ชายผู้นั้นถาม
"ใช่แล้วล่ะ แล้ว.. รู้ได้ยังไงอ่ะ" ฉัตรชัยสงสัย
"ก็แบบนี้นะ" ชายผู้นั้นอธิบาย " คุณน่ะ ไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังทำอะไร ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แล้วจะไปไหนต่อ ให้สัญญาโดยที่อาจจะรักษาสัญญาไม่ได้ โทษนู่นโทษนี่ แล้วก็ยังคาดหวังให้ผมแก้ปัญหาให้คุณ แต่ตอนนี้คุณก็ยังไม่ได้ออกรถไปไหนเสียที.... ใช่แล้วความผิดผมเอง คุณกำลังจะพูดแบบนี้ใช่ไหม"
source: somewhere
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องคายเคียด
โพสต์ที่ 5
จะรับกลับไปหรือเปล่าครับ
"ต้น" เข้าฝึกงานกับบริษัทขายอาหารขยะ (จานด่วน) แห่งหนึ่ง วันนี้เป็นวันแรกที่เขาต้องประจำที่เคาน์เตอร์
ลูกค้ารายแรกมาถึงก็สั่ง Hotdog..... ก็ดูเหมือนไม่น่าจะมีอะไร แต่ผู้จัดการสาขาก็เรียกต้นมาพบเสียแล้ว..... เพื่อสอน
"นี่...ทุกครั้งนะ ก่อนที่ลูกค้าจะสั่งอาหาร พอลูกค้ามาปุ๊บ พูดทันทีเลยว่า 'สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่ร้านแด๊กจั๊งฟุต จะรับอะไรดีครับ' เข้าใจนะ"
ลูกค้ารายที่สองเข้ามาสั่ง Hotdog เหมือนกัน ผู้จัดการร้านก็เรียกต้นเข้าพบอีกครั้ง
"พอลูกค้าสั่งแล้ว ก็ต้องถามต่อว่าต้องการมันฝรั่งทอดด้วยไหมครับ เข้าใจนะ"
ระหว่างที่กำลังว่ากล่าวกันอยู่นั้น ก็มีชายอีกคนหนึ่งมาที่เคาวน์เตอร์ ต้นทักทายตามรูปแบบที่ซักซ้อมไว้ ทันใดนั้น ชายผู้ซึ่งมาอย่างลูกค้า ก็กลับชักปืนออกมา จ่อจะยิงต้น
"ส่งเงินมาให้หมด ไอ้หนู เอาให้หมดเครื่องเลย" โจรสั่งต้น
ต้นถูกผู้จัดการสอนสองครั้งสองคราแล้ว จึงคิดว่าจะต้องไม่ทำให้ผู้จัดการว่าเป็นครั้งที่สามได้อีก จึงรวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า
"ไม่ทราบว่าจะรับเพื่อใช้จ่ายที่ร้าน หรือจะให้ห่อกลับบ้านครับ"
source: somewhere
"ต้น" เข้าฝึกงานกับบริษัทขายอาหารขยะ (จานด่วน) แห่งหนึ่ง วันนี้เป็นวันแรกที่เขาต้องประจำที่เคาน์เตอร์
ลูกค้ารายแรกมาถึงก็สั่ง Hotdog..... ก็ดูเหมือนไม่น่าจะมีอะไร แต่ผู้จัดการสาขาก็เรียกต้นมาพบเสียแล้ว..... เพื่อสอน
"นี่...ทุกครั้งนะ ก่อนที่ลูกค้าจะสั่งอาหาร พอลูกค้ามาปุ๊บ พูดทันทีเลยว่า 'สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่ร้านแด๊กจั๊งฟุต จะรับอะไรดีครับ' เข้าใจนะ"
ลูกค้ารายที่สองเข้ามาสั่ง Hotdog เหมือนกัน ผู้จัดการร้านก็เรียกต้นเข้าพบอีกครั้ง
"พอลูกค้าสั่งแล้ว ก็ต้องถามต่อว่าต้องการมันฝรั่งทอดด้วยไหมครับ เข้าใจนะ"
ระหว่างที่กำลังว่ากล่าวกันอยู่นั้น ก็มีชายอีกคนหนึ่งมาที่เคาวน์เตอร์ ต้นทักทายตามรูปแบบที่ซักซ้อมไว้ ทันใดนั้น ชายผู้ซึ่งมาอย่างลูกค้า ก็กลับชักปืนออกมา จ่อจะยิงต้น
"ส่งเงินมาให้หมด ไอ้หนู เอาให้หมดเครื่องเลย" โจรสั่งต้น
ต้นถูกผู้จัดการสอนสองครั้งสองคราแล้ว จึงคิดว่าจะต้องไม่ทำให้ผู้จัดการว่าเป็นครั้งที่สามได้อีก จึงรวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า
"ไม่ทราบว่าจะรับเพื่อใช้จ่ายที่ร้าน หรือจะให้ห่อกลับบ้านครับ"
source: somewhere
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องคายเคียด
โพสต์ที่ 6
อ้อ..รู้ตัวเหมือนกันเหรอ
"เจริญ" อ่านข่าวบันเทิงในหน้าหนังสือพิมพ์ พบว่า ดาราสาวสวยชื่อดังคนหนึ่ง กำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน ไม่ต้องรู้ก็ได้นะว่าใครเป็นเจ้าบ่าว แต่ที่แน่ ๆ คงจะรวยมากแน่ ๆ เจริญ ไม่ต้องการรู้ชื่อหรอก แต่ขอดูน้ำหน้ามันหน่อยซิ
เมื่อ เห็นรูปถ่ายคู่ในหนังสือพิมพ์ เขาก็เห็นว่าหน้าตาท่าทางคงจะรวยอย่างเดียว สมบัติก็คงได้จากมรดก ถ้าให้ทำอะไรเองก็คงทำไม่ได้ ธุรกิจก็คงเจ๊งแน่
"ท่าทางดูโง่จังเลยวะ" เจริญคิดในใจ แต่ไม่วายอุทานออกมาดัง ๆ ว่า "เฮ้ย อะไรกันว้า ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมผู้ชายโง่ ๆ คนนึง มันถึงได้มีวาสนาอย่างนี้ ทำไมมันถึงได้แต่งงานมีเมียสวยได้ขนาดนี้วะ" เจริญว่าเสร็จก็ส่ายหัว
"ต๊ายคุณทำไมล่ะคะ แต่ก็...ขอบคุณค่ะที่ชม" เสียงภรรยาแว่วมาจากห้องแต่งตัว
source: somewhere
"เจริญ" อ่านข่าวบันเทิงในหน้าหนังสือพิมพ์ พบว่า ดาราสาวสวยชื่อดังคนหนึ่ง กำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน ไม่ต้องรู้ก็ได้นะว่าใครเป็นเจ้าบ่าว แต่ที่แน่ ๆ คงจะรวยมากแน่ ๆ เจริญ ไม่ต้องการรู้ชื่อหรอก แต่ขอดูน้ำหน้ามันหน่อยซิ
เมื่อ เห็นรูปถ่ายคู่ในหนังสือพิมพ์ เขาก็เห็นว่าหน้าตาท่าทางคงจะรวยอย่างเดียว สมบัติก็คงได้จากมรดก ถ้าให้ทำอะไรเองก็คงทำไม่ได้ ธุรกิจก็คงเจ๊งแน่
"ท่าทางดูโง่จังเลยวะ" เจริญคิดในใจ แต่ไม่วายอุทานออกมาดัง ๆ ว่า "เฮ้ย อะไรกันว้า ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมผู้ชายโง่ ๆ คนนึง มันถึงได้มีวาสนาอย่างนี้ ทำไมมันถึงได้แต่งงานมีเมียสวยได้ขนาดนี้วะ" เจริญว่าเสร็จก็ส่ายหัว
"ต๊ายคุณทำไมล่ะคะ แต่ก็...ขอบคุณค่ะที่ชม" เสียงภรรยาแว่วมาจากห้องแต่งตัว
source: somewhere