ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 271
[quote="Jimmy"]อยากทราบพี่ว่าพี่หาเจอscnyl ได้ยังไงครับ แล้วscnyl มีอะไรดีมีเที่ยบกับ BKI กับ safe ครับ รบกวนทราบมุมมองของพี่กับ PTL ระหว่าง TFI
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 272
[quote="noooon010"]นั่นสิครับ อยากทราบว่าพี่ขุดหุ้นอย่างไรเอ่ยก่อนหน้านี้ผมก็อ่านกระทู้นี้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=14930
อ่านแล้วน่าสนใจในเรื่องความคิดเริ่มต้นในการขุดขุมทรัพย์จริงๆครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=14930
อ่านแล้วน่าสนใจในเรื่องความคิดเริ่มต้นในการขุดขุมทรัพย์จริงๆครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 772
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 274
[quote="ลูกอิสาน"][quote="Jimmy"]อยากทราบพี่ว่าพี่หาเจอscnyl ได้ยังไงครับ แล้วscnyl มีอะไรดีมีเที่ยบกับ BKI กับ safe ครับ รบกวนทราบมุมมองของพี่กับ PTL ระหว่าง TFI
ร็อคกี้ บัลโบว : ชีวิตไม่สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าเรารับการโดนต่อยได้แค่ไหน (ชีวิตจุดสำคัญอยู่ที่การทนทุกข์ มากกว่าการประสบสุข)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 275
ขอเยาะเย้ย ทุกข์ยาก ขวากหนามลำเค็ญ
คน ยังคง ยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้ผืนฟ้า มืดดับเดือนลับมลาย
ดาวยังพราย ศรัทธาเย้ยฟ้าดิน... :lol:
คงไม่ต้องสงสัยนะครับ ว่าทำไมช่วงนี้ต้องร้องเพลงนี้ สถานการณ์ไม่ปกติ ความผันผวนสูง ปีนี้ดัชนีลดลงถึง 30% ที่ประมาณ 600 จุดเมื่อวานนี้ และความไม่แน่นอนก็ยังมีอยู่ ดังนั้นตอนนี้ความรู้ ความเข้าใจในพื้นฐานของกิจการที่เป็นตัวเลขคงไม่เพียงพอ แต่ต้องอาศัยใจด้วยครับ ถ้าใจหรือสติแตก อาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาด จบชีวิตการลงทุนเพียงแค่เริ่มเดินได้แค่ก้าวสองก้าวเท่านั้น..
ใจที่ผมหมายถึงคือความเชื่อ ความศรัทธา เป็นธงนำที่ทำให้เราแน่แน่ไม่หวั่นไหวไปกับอะไรก็ตามที่พัดเข้ามาครับ ผมมีความเชื่ออย่างนี้นะ..
*ระยะยาว หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเสมอ
*ตลาดเหมือนฤดูกาลที่มีทั้งรุ่งเรืองตกต่ำ หน้าหนาว-หน้าร้อน ขอให้เราเข้าใจและหาประโยชน์จากความจริงข้อนี้
*นักลงทุนเอกของโลก ทุกคนเคยผ่านวิกฤติมาแล้วหลายครั้ง หนักหนากว่านี้ก็มี ถ้าหยุดลงทุนก็คงไม่มีวันนี้ แม้แต่ ดร.นิเวศน์ท่านเริ่มลงทุน 10 ปีที่แล้วตอนที่ดัชนีประมาณ 800 จุด :lol: ท่านได้ผลตอบแทน 30 เท่าทั้งที่วันนี้ดัชนีตลาดต่ำกว่า 10 ปีที่แล้ว
*ผมพูดเสมอๆว่า ตรรกะของการทำกำไรจากหุ้นคือซื้อถูกขายแพง คำถามต่อไปแล้วเราจะขายได้แพงตอนตลาดเป็นแบบไหน และหากเราจะซื้อของให้ได้ราคาถูก เราจะซื้อได้ตอนที่ตลาดเป็นอย่างไร
*การขายหุ้นและเลิกลงทุนตอนตลาดตกต่ำเป็นการละเมิดศีลที่สำคัญที่สุดของนักลงทุน vi เพราะนั่นหมายความว่าเราจะไม่มีโอกาสได้กำไรกลับคืนตอนตลาดกลับไปรุ่งเรืองเลย
*มองไปวันพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า 5 ปี 10 ปีข้างหน้า แล้วทุกอย่างในวันนี้มันจะผ่านไป
*อย่าให้อารมณ์ของตลาด มาหยุดความมุ่งมั่นในการลงทุนของเรา อย่าทำให้เราหมดกำลังใจที่จะทำการบ้าน ศึกษาหาความรู้
*เราลงทุนวันนี้ ไม่ใช่เพื่อให้รวยพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ แต่เพื่อ 10 ปี 20 ปีข้างหน้า
*เราจะรู้ว่าใครแก้ผ้า ก็ตอนน้ำลด
ที่โพสต์ข้างต้นไม่ได้หมายความว่าให้ถือหุ้นร้อยเปอร์เซนต์ตลอดเวลาเหมือนที่ผมทำนะครับ แต่หมายถึงอย่าคิดที่จะหยุดลงทุน ถึงแม้วันนี้ยังไม่ได้ซื้อ แต่ให้พร้อมเสมอเมื่อโอกาสมาถึงครับ..
คน ยังคง ยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้ผืนฟ้า มืดดับเดือนลับมลาย
ดาวยังพราย ศรัทธาเย้ยฟ้าดิน... :lol:
คงไม่ต้องสงสัยนะครับ ว่าทำไมช่วงนี้ต้องร้องเพลงนี้ สถานการณ์ไม่ปกติ ความผันผวนสูง ปีนี้ดัชนีลดลงถึง 30% ที่ประมาณ 600 จุดเมื่อวานนี้ และความไม่แน่นอนก็ยังมีอยู่ ดังนั้นตอนนี้ความรู้ ความเข้าใจในพื้นฐานของกิจการที่เป็นตัวเลขคงไม่เพียงพอ แต่ต้องอาศัยใจด้วยครับ ถ้าใจหรือสติแตก อาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาด จบชีวิตการลงทุนเพียงแค่เริ่มเดินได้แค่ก้าวสองก้าวเท่านั้น..
ใจที่ผมหมายถึงคือความเชื่อ ความศรัทธา เป็นธงนำที่ทำให้เราแน่แน่ไม่หวั่นไหวไปกับอะไรก็ตามที่พัดเข้ามาครับ ผมมีความเชื่ออย่างนี้นะ..
*ระยะยาว หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเสมอ
*ตลาดเหมือนฤดูกาลที่มีทั้งรุ่งเรืองตกต่ำ หน้าหนาว-หน้าร้อน ขอให้เราเข้าใจและหาประโยชน์จากความจริงข้อนี้
*นักลงทุนเอกของโลก ทุกคนเคยผ่านวิกฤติมาแล้วหลายครั้ง หนักหนากว่านี้ก็มี ถ้าหยุดลงทุนก็คงไม่มีวันนี้ แม้แต่ ดร.นิเวศน์ท่านเริ่มลงทุน 10 ปีที่แล้วตอนที่ดัชนีประมาณ 800 จุด :lol: ท่านได้ผลตอบแทน 30 เท่าทั้งที่วันนี้ดัชนีตลาดต่ำกว่า 10 ปีที่แล้ว
*ผมพูดเสมอๆว่า ตรรกะของการทำกำไรจากหุ้นคือซื้อถูกขายแพง คำถามต่อไปแล้วเราจะขายได้แพงตอนตลาดเป็นแบบไหน และหากเราจะซื้อของให้ได้ราคาถูก เราจะซื้อได้ตอนที่ตลาดเป็นอย่างไร
*การขายหุ้นและเลิกลงทุนตอนตลาดตกต่ำเป็นการละเมิดศีลที่สำคัญที่สุดของนักลงทุน vi เพราะนั่นหมายความว่าเราจะไม่มีโอกาสได้กำไรกลับคืนตอนตลาดกลับไปรุ่งเรืองเลย
*มองไปวันพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า 5 ปี 10 ปีข้างหน้า แล้วทุกอย่างในวันนี้มันจะผ่านไป
*อย่าให้อารมณ์ของตลาด มาหยุดความมุ่งมั่นในการลงทุนของเรา อย่าทำให้เราหมดกำลังใจที่จะทำการบ้าน ศึกษาหาความรู้
*เราลงทุนวันนี้ ไม่ใช่เพื่อให้รวยพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ แต่เพื่อ 10 ปี 20 ปีข้างหน้า
*เราจะรู้ว่าใครแก้ผ้า ก็ตอนน้ำลด
ที่โพสต์ข้างต้นไม่ได้หมายความว่าให้ถือหุ้นร้อยเปอร์เซนต์ตลอดเวลาเหมือนที่ผมทำนะครับ แต่หมายถึงอย่าคิดที่จะหยุดลงทุน ถึงแม้วันนี้ยังไม่ได้ซื้อ แต่ให้พร้อมเสมอเมื่อโอกาสมาถึงครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 276
ผมเองตามอ่านกระทู้นี้มาตลอด
ผม print ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงปัจจุบัน
และผมอ่านซ้ำ 3 รอบ
รู้สึกว่าพี่โจนี้เป็นนักลงทุนที่มีมุมมองเฉียบคมจริงๆ
กระทู้นี้กระทู้เดียวผมไม่ต้องไปอ่านหนังสืออีกตั้ง
5-6 เล่ม อ่านกระทู้นี้ได้เยอะกว่า
ขอนับถือจากใจจริงเลยครับ กระทู้สุดยอดของสุดยอด
ผม print ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงปัจจุบัน
และผมอ่านซ้ำ 3 รอบ
รู้สึกว่าพี่โจนี้เป็นนักลงทุนที่มีมุมมองเฉียบคมจริงๆ
กระทู้นี้กระทู้เดียวผมไม่ต้องไปอ่านหนังสืออีกตั้ง
5-6 เล่ม อ่านกระทู้นี้ได้เยอะกว่า
ขอนับถือจากใจจริงเลยครับ กระทู้สุดยอดของสุดยอด
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 278
ลูกอิสาน เขียน:
*ระยะยาว หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเสมอ
*ตลาดเหมือนฤดูกาลที่มีทั้งรุ่งเรืองตกต่ำ หน้าหนาว-หน้าร้อน ขอให้เราเข้าใจและหาประโยชน์จากความจริงข้อนี้
*นักลงทุนเอกของโลก ทุกคนเคยผ่านวิกฤติมาแล้วหลายครั้ง หนักหนากว่านี้ก็มี ถ้าหยุดลงทุนก็คงไม่มีวันนี้ แม้แต่ ดร.นิเวศน์ท่านเริ่มลงทุน 10 ปีที่แล้วตอนที่ดัชนีประมาณ 800 จุด :lol: ท่านได้ผลตอบแทน 30 เท่าทั้งที่วันนี้ดัชนีตลาดต่ำกว่า 10 ปีที่แล้ว
*ผมพูดเสมอๆว่า ตรรกะของการทำกำไรจากหุ้นคือซื้อถูกขายแพง คำถามต่อไปแล้วเราจะขายได้แพงตอนตลาดเป็นแบบไหน และหากเราจะซื้อของให้ได้ราคาถูก เราจะซื้อได้ตอนที่ตลาดเป็นอย่างไร
*การขายหุ้นและเลิกลงทุนตอนตลาดตกต่ำเป็นการละเมิดศีลที่สำคัญที่สุดของนักลงทุน vi เพราะนั่นหมายความว่าเราจะไม่มีโอกาสได้กำไรกลับคืนตอนตลาดกลับไปรุ่งเรืองเลย
*มองไปวันพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า 5 ปี 10 ปีข้างหน้า แล้วทุกอย่างในวันนี้มันจะผ่านไป
*อย่าให้อารมณ์ของตลาด มาหยุดความมุ่งมั่นในการลงทุนของเรา อย่าทำให้เราหมดกำลังใจที่จะทำการบ้าน ศึกษาหาความรู้
*เราลงทุนวันนี้ ไม่ใช่เพื่อให้รวยพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ แต่เพื่อ 10 ปี 20 ปีข้างหน้า
*เราจะรู้ว่าใครแก้ผ้า ก็ตอนน้ำลด
ที่โพสต์ข้างต้นไม่ได้หมายความว่าให้ถือหุ้นร้อยเปอร์เซนต์ตลอดเวลาเหมือนที่ผมทำนะครับ แต่หมายถึงอย่าคิดที่จะหยุดลงทุน ถึงแม้วันนี้ยังไม่ได้ซื้อ แต่ให้พร้อมเสมอเมื่อโอกาสมาถึงครับ..
ปริ้นไว้แปะหน้าเครื่องคอม อ่านทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่รู้จะบรรยายยังไง แต่ต้องของคุณพี่โจมากสำหรับความรู้ที่แบ่งปันน้องน้องเสมอครับ ขอบคุณมากครับ
Small Details Make a Big Difference
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 279
เห็นด้วยกับซาอิผู้มีนามอันยิ่งใหญ่หัตถ์เทวะ ขอเสริมว่าน่าจะจดจำให้ขึ้นใจดีกว่าไหมครับจะได้ไม่หาย คุณโจประเมินว่าwgถ้าลงทุนณเวลานี้มีmagin of safety เท่าไรครับในระยะ5ปีข้างหน้า
เห็นด้วยกับคุณโจครับที่ว่าราคาหุ้นSVIไม่ไปไหนเลยแม้ว่ากำไรจะโตวันโตคืนครับ ผมลงทุนได้ซักพักแล้วครับหวังว่าปีหน้าน่าจะดีขึ้นถ้าผมคาดไม่ผิด
เห็นด้วยกับคุณโจครับที่ว่าราคาหุ้นSVIไม่ไปไหนเลยแม้ว่ากำไรจะโตวันโตคืนครับ ผมลงทุนได้ซักพักแล้วครับหวังว่าปีหน้าน่าจะดีขึ้นถ้าผมคาดไม่ผิด
- newbie_12
- Verified User
- โพสต์: 2904
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 280
[quote="ลูกอิสาน"]ขอเยาะเย้ย ทุกข์ยาก ขวากหนามลำเค็ญ
คน ยังคง ยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้ผืนฟ้า มืดดับเดือนลับมลาย
ดาวยังพราย ศรัทธาเย้ยฟ้าดิน... :lol:
คงไม่ต้องสงสัยนะครับ ว่าทำไมช่วงนี้ต้องร้องเพลงนี้
คน ยังคง ยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้ผืนฟ้า มืดดับเดือนลับมลาย
ดาวยังพราย ศรัทธาเย้ยฟ้าดิน... :lol:
คงไม่ต้องสงสัยนะครับ ว่าทำไมช่วงนี้ต้องร้องเพลงนี้
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รบกวนถามพี่โจหน่อยครับ
โพสต์ที่ 282
ไม่รู้คุณ calcio 8 ยังอยู่หรือเปล่าCalcio 8 เขียน:ตอนนี้ถือหุ้นดี (ที่เค้าว่ากัน) อยู่ 2 ตัว UEC (6.00) TRC (6.00) แต่ทำไมมันร่วงเละเลยหละครับ แล้วถ้าถือลงทุนต่อมันจาดีไหมหรือ cut loss ดี ผมเป็นมือใหม่ทำไรไม่ถูกเลย รบกวนพี่โจช่วยชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ
เป็นคำถามที่ตอบยากครับ ผมพิมพ์ความเห็น 2 ครั้งแล้วแต่มีปัญหาตอน submit ทั้งสองครั้งขอโทษด้วย
ผมลองให้ความเห็นแบบรวมๆนะครับ...
ตัว trc เป็นหุ้นรับเหมาวางท่อแก็ส วางระบบเครื่องกล และมีบริษัทลูกรับเหมาทำถนน ดังนั้นรายได้ขึ้นอยู่กับการประมูลงานว่าได้หรือไม่ได้ ดูงบการเงินค่อนข้างดีแม้เป็นบริษัทขนาดเล็ก ผมมองว่าหุ้นตัวนี้ควรให้ราคาซื้อขายที่ PE ไม่สูงมากนักเพราะความไม่แน่นอนของรายได้ การควบคุมต้นทุน ทั้งวัสดุก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายในการบริหาร ให้PE ประมาณ 5-6 เท่า แต่จุดเด่นของ trc คือเป็นผู้รับเหมาในกิจการที่มีอนาคตนั่นคือการวางท่อแก็ส โดยเฉพาะ ptt มีโครงการวางท่อแก็สหลายโครงการ นอกจากนั้นผู้บริหารค่อนข้างกระตือรือร้น หาธุรกิจ ช่องทางใหม่ๆเพื่อสร้างกำไรเสมอๆ เช่น โครงการราชเพลิน โรงไฟฟ้าลาดกระบัง เขื่อนสตึงนัม เจตาแบค ดังนั้นเราอาจจะขยับ PE ให้สูงขึ้นได้อีกนิดอาจจะเป็น 6-7 เท่า
กลับมาดูที่ราคา 6 บ. ที่ซื้อน่าจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม มูลค่าตลาดตอนนั้นประมาณ 2000 ล้าน(รวมหุ้นปันผลด้วย) ในขณะที่กำไรย้อนหลัง 4 ไตรมาส 90 ล้าน ดังนั้น PE ตอนนั้นประมาณ 22 เท่า ซึ่งราคาอาจจะสะท้อนกำไรจากการขายโครงการราชเพลิน แต่นี่เป็นกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และตลาดก็รับรู้ข่าวนี้ไปแล้ว ดังนั้นไม่ควรนำกำไรส่วนนี้มาหาค่า PE ครับ
ตัว uec เป็นหุ้นรับเหมาเช่นกัน ผลิตภาชนะความดัน ติดตั้งเครื่องจักร ถังเก็บสารเคมี โครงเหล็ก ต้นทุนหลักคือแผ่นเหล็กรีดร้อนและช่างฝีมือ รายได้จากการประมูลขึ้นอยู่กับการขยายกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมพลังงาน ปิโตรเคมี ไฟ้ฟ้า ดังนั้น uec เป็นหุ้นวัฏจักรด้วย ลักษณะของหุ้นประเภทนี้หากอยู่ในช่วงรุ่งเรื่อง อัตรากำไรจะสูงมาก บางไตรมาสในปี 2007 uec มีกำไรสุทธิถึง 25% ทีเดียว เมื่อกำไรดี คู่แข่งทั้งรายเดิมที่ขยายกำลังการผลิตและคู่แข่งรายใหม่เริ่มเข้ามา กำไรก็จะกลับไปเป็นปกติ (เรารู้ได้ว่าคู่แข่งเพิ่ม เพราะแค่ในตลาดหุ้นมีถึง 2 บริษัทที่เริ่มธุรกิจคล้าย uec คือ demco trc) แต่ uec ก็มีจุดแข็งเช่นกัน คือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และงานด้านนี้ก็ยังมีอยู่อีกมากในอีก 2-3 ปีข้างหน้า งบการเงินก็แข็งแกร่ง ผู้บริหารก็ค่อนข้างมีธรรมภิบาล พิจารณาจากข้างต้นผมมองว่า uec ควรเทรดที่ PE ประมาณ 7-8 เท่าครับ ที่ราคาซื้อ 6 บ. ตอนนั้นน่าจะมี PE ประมาณ 11 เท่า
จากทั้ง 2 ตัวแม้จะเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีอนาคตดี แต่ถ้าซื้อผิดจังหวะ ไม่มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย ก็อาจจะขาดทุนได้เหมือนกรณีนี้ครับ และส่วนใหญ่การซื้อหุ้นโดยการตามแห่ ตามกระแส มีโอกาสขาดทุนสูงโดยเฉพาะหากเราเข้าไปไม้สุดท้ายๆ ถ้าให้ผมแนะนำได้บ้างนะครับ..
1.หามูลค่าที่เหมาะสมเสียก่อน พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ
2.ดูราคาในตลาดว่าสูงหรือต่ำกว่ามูลค่าที่เราคำนวณได้
3.ตัดสินใจซื้อหรือขาย
ผมมองว่าที่หลักการลงทุน vi เติบโตเด่นได้รับความนิยมขึ้นมา ไม่ใช่เพียงเพราะมีตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่เป็นเพราะความเป็นเหตุเป็นผลของมัน คือหุ้นจะขึ้นจะลงเพราะมีเหตุผลทางธุรกิจ ไม่ใช่หุ้นจะขึ้นเพราะหลายคนบอกว่าจะขึ้น และมันจะลงเพราะหลายคนบอกว่ามันจะลง คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพิจารณาด้วยเหตุด้วยผลอย่างเดียว เพราะเป็นคนก็ต้องมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ผมก็ยังเป็น :lol: แต่ถ้าเราจะเป็น vi ที่ประสบความสำเร็จ เราต้องพิจาณาด้วยเหตุผลธุรกิจเป็นหลักครับ
ส่วนเรื่องจากซื้อเพิ่ม cut loss ผมไม่กล้าแนะนำ แต่ผมจำที่ใครคนหนึ่งเคยพูดทำนองว่า ลืมต้นทุนที่ซื้อมา คิดเสียว่าพอร์ตตอนนี้เป็นเท่าไหร่ หุ้นในตลาดตัวไหนน่าซื้อที่สุด ขายไปซื้อตัวนั้น ถ้าเป็นตัวเดิมก็ไม่ต้องทำไร
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 283
[quote="cwc"]ขอถามคุณลูกอีสานปกติใช้กลยุทธ์ที่จะ Keep Profit ตั้งเป็น Step หรือเปล่าครับ ซึ่งที่เคยอ่านคือเหตุผลที่เราจะขายหุ้นออกไปสักตัว ก็ให้ดูเหตุผลในตอนซื้อ หรืออาจเป็นการตั้งเป้าหมายเช่นกำไรอย่างน้อย 30 % เป็นต้น ยกตัวอย่างคือ AIT ที่ขึ้นจาก 10 บาทต้นๆ ไปเกือบ 20 บาท และตอนนี้ลงมาเกือบเท่าเดิม ซึ่งดูจากข่าวก็เหมือนจะมีรายได้ตามเป้าเหมือนเดิม หรืออาจจะมีปัญหาจากเรื่องการเมืองที่อาจกระทบต่อการรับรู้รายได้ ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่าพื้นฐานเปลี่ยนหรือไม่ เหตุการณ์ทำนองนี้ปกติใช้กลยุทธ์อย่างไรครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- Yod
- Verified User
- โพสต์: 167
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 284
พี่ลูกอีสานครับ
ช่วยแนะนำวิธีพิจารณาผู้บริหารหน่อยครับ
เช่น
อย่างตอนนี้ ผมทำงานประจำอยู่ต่างจังหวัด
คงมีโอกาสพบผู้บริหารบริษ้ทยากน่ะครับ
ช่วยแนะนำวิธีพิจารณาผู้บริหารหน่อยครับ
เช่น
ทั้งด้านความซื่อสัตย์ ความเก่งตัว trc เป็นหุ้นรับเหมาวางท่อแก็ส วางระบบเครื่องกล และมีบริษัทลูกรับเหมาทำถนน ดังนั้นรายได้ขึ้นอยู่กับการประมูลงานว่าได้หรือไม่ได้ ดูงบการเงินค่อนข้างดีแม้เป็นบริษัทขนาดเล็ก ผมมองว่าหุ้นตัวนี้ควรให้ราคาซื้อขายที่ PE ไม่สูงมากนักเพราะความไม่แน่นอนของรายได้ การควบคุมต้นทุน ทั้งวัสดุก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายในการบริหาร ให้PE ประมาณ 5-6 เท่า แต่จุดเด่นของ trc คือเป็นผู้รับเหมาในกิจการที่มีอนาคตนั่นคือการวางท่อแก็ส โดยเฉพาะ ptt มีโครงการวางท่อแก็สหลายโครงการ นอกจากนั้นผู้บริหารค่อนข้างกระตือรือร้น หาธุรกิจ ช่องทางใหม่ๆเพื่อสร้างกำไรเสมอๆ เช่น โครงการราชเพลิน โรงไฟฟ้าลาดกระบัง เขื่อนสตึงนัม เจตาแบค ดังนั้นเราอาจจะขยับ PE ให้สูงขึ้นได้อีกนิดอาจจะเป็น 6-7 เท่า
กลับมาดูที่ราคา 6 บ. ที่ซื้อน่าจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม มูลค่าตลาดตอนนั้นประมาณ 2000 ล้าน(รวมหุ้นปันผลด้วย) ในขณะที่กำไรย้อนหลัง 4 ไตรมาส 90 ล้าน ดังนั้น PE ตอนนั้นประมาณ 22 เท่า ซึ่งราคาอาจจะสะท้อนกำไรจากการขายโครงการราชเพลิน แต่นี่เป็นกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และตลาดก็รับรู้ข่าวนี้ไปแล้ว ดังนั้นไม่ควรนำกำไรส่วนนี้มาหาค่า PE ครับ
อย่างตอนนี้ ผมทำงานประจำอยู่ต่างจังหวัด
คงมีโอกาสพบผู้บริหารบริษ้ทยากน่ะครับ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 285
พี่โจครับ ภาวะที่น่าจะเรียกได้แล้วว่าเป็นวิกฤต ทางการเงินของโลก ซึ่งความจริงคงหลีกเลี่ยงยากที่จะไม่ให้กระทบตลาดหุ้น ณ.ราคาดัชนีปัจจุบันของ set ที่ 618 พี่มองว่ามันซึมซับข่าวร้ายไปในราคาหมดหรือยังครับ หรือถ้ามีข่าวร้ายมาเพิ่ม พี่มองว่าจุดต่ำสุดของดัชนีจะเป็นเท่าไรในสายตาพี่โจครับ (คือผมทราบครับว่าเราไม่ควรนำเอาดัชนีมาประกอบการลงทุน ควรพิจารณาแต่เฉพาะธุรกิจที่เราสนใจจะลงทุนเท่านั้น แต่ในกรณีครั้งนี้ผมมองว่าอาจจะเป็นกรณียกเว้นนะครับเพราะไม่ว่าธรุกิจจะแข็งแกร่งเท่าไร กำไรจะโตอย่างไร ก็กระทบกันถ้วนหน้าเลยครับ ) และ หากสภาวการณ์เลวร้ายลงกว่านี้พี่มีความคิดที่จะถือเงินสดไหมครับ ขอบคุณครับพี่
Small Details Make a Big Difference
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 286
ผมชอบ 2 ข้อนี้ที่สุดลูกอิสาน เขียน:ตรรกะของการทำกำไรจากหุ้นคือซื้อถูกขายแพง คำถามต่อไปแล้วเราจะขายได้แพงตอนตลาดเป็นแบบไหน และหากเราจะซื้อของให้ได้ราคาถูก เราจะซื้อได้ตอนที่ตลาดเป็นอย่างไร
การขายหุ้นและเลิกลงทุนตอนตลาดตกต่ำเป็นการละเมิดศีลที่สำคัญที่สุดของนักลงทุน vi เพราะนั่นหมายความว่าเราจะไม่มีโอกาสได้กำไรกลับคืนตอนตลาดกลับไปรุ่งเรืองเลย
ตลาดขาลงไม่เห็นต้องกลัวตรงไหน เพราะหากตั้งใจจะลงทุนไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ปี 2 ปีแล้วก็เลิก ยังไงๆ ก็ต้องเจอขาลงไม่วันใดก็วันหนึ่ง เมื่อเจอแล้วเราจะได้รู้กับตัวเองว่าที่เคยๆ อ่านมาเกี่ยวกับวิกฤตครั้งก่อนๆ บางครั้งเรายังคิดด้วยซ้ำว่าคนที่อยู่ในสถานการณ์ตอนนั้นทำไมเค้าตัดสินใจผิดพลาดอย่างนู้นอย่างนี้ เป็นเราจะไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้นหรอก พอเจอเข้ากับตัวเองจริงๆ จะได้เข้าใจว่าเราจะจัดการกับมันอย่างไร ใครไม่เก่งจริงก็ต้องล้มหายตายจากไป ใครเก่งพอก็เอาตัวรอดได้ แล้วก็ได้รับกำไรมหาศาลเป็นรางวัลตอบแทนความขยันและมุ่งมั่น (เช่นเดียวกับเซียนหุ้นหลายท่านในทุกวันนี้ที่รอดจากสมรภูมิ "ต้มยำกุ้ง" รอบที่แล้ว
คำกล่าวที่ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะยาวมีแต่ขึ้นไปเรื่อยๆ ย่อมหมายความว่า หลังวิกฤตขาลงแต่ละรอบ จะต้องมีหุ้นจำนวนหนึ่งที่สร้างกำไรให้กับคนที่เลือกซื้อหุ้นได้ถูกตัวในช่วงขาลงอย่างมากมาย
หวังว่ารางวัลจะเป็นของเพื่อนๆ ทุกคนที่พยายาม มาร่วมเป็นผู้รอดตายจากสมรภูมิ "แฮมเบอร์เกอร์" กันครับ :cheers:
-
- Verified User
- โพสต์: 213
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 288
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ตลาดขาลงไม่เห็นต้องกลัวตรงไหน เพราะหากตั้งใจจะลงทุนไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ปี 2 ปีแล้วก็เลิก ยังไงๆ ก็ต้องเจอขาลงไม่วันใดก็วันหนึ่ง เมื่อเจอแล้วเราจะได้รู้กับตัวเองว่าที่เคยๆ อ่านมาเกี่ยวกับวิกฤตครั้งก่อนๆ บางครั้งเรายังคิดด้วยซ้ำว่าคนที่อยู่ในสถานการณ์ตอนนั้นทำไมเค้าตัดสินใจผิดพลาดอย่างนู้นอย่างนี้ เป็นเราจะไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้นหรอก พอเจอเข้ากับตัวเองจริงๆ จะได้เข้าใจว่าเราจะจัดการกับมันอย่างไร ใครไม่เก่งจริงก็ต้องล้มหายตายจากไป ใครเก่งพอก็เอาตัวรอดได้ แล้วก็ได้รับกำไรมหาศาลเป็นรางวัลตอบแทนความขยันและมุ่งมั่น (เช่นเดียวกับเซียนหุ้นหลายท่านในทุกวันนี้ที่รอดจากสมรภูมิ "ต้มยำกุ้ง" รอบที่แล้ว
คำกล่าวที่ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะยาวมีแต่ขึ้นไปเรื่อยๆ ย่อมหมายความว่า หลังวิกฤตขาลงแต่ละรอบ จะต้องมีหุ้นจำนวนหนึ่งที่สร้างกำไรให้กับคนที่เลือกซื้อหุ้นได้ถูกตัวในช่วงขาลงอย่างมากมาย
ผมเห็นด้วยกับความคิดพี่นะครับ แต่ในใจลึกมักคิดว่า แล้วถ้าเราขายไปก่อนแล้วค่อยไปซื้อที่หลังจะดีกว่าใหม เพราะถ้าหากเกิดวิกฤติหนักจริงๆ ตลาดคงไม่ลงแค่วันสองวันแล้วขึ้นมั้ง ผมรู้สึกว่ามีสองความคิดตีกันอยู่ตลอดเวลาเลยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 289
ตอนนี้ผมไม่ถือธุรกิจประกันเลยครับ ถ้าหมายถึง scnyl หลักๆต้องดูเบี้ยประกันปีแรกแบบสามัญว่าเพิ่มขึ้นลดลงอย่างไร เพราะตัวเลขนี้หมายถึงการที่ลูกค้าจะต้องจ่ายเบี้ยไปอีกอย่างน้อย 7 ปีขึ้นอยู่กับแบบกรรมธรรม์ เช่นเบี้ยปีแรก 2000 ล้าน หมายความว่าลูกค้าจะต้องจ่ายเบี้ยตลอดอายุกรรมธรรม์กรณีจ่ายครบ (2000*7)= 14,000 ล. (ที่ใช้ตัวเลข 7 ปีเพราะเป็นกรรมธรรม์ที่ขายดีที่สุดและเป็นจำนวนปีที่น้อยที่สุดแล้วที่ลูกค้าต้องส่งเบี้ย) ตัวเลขนี้นี้จะประกาศทุกเดือน ดูได้ที่เวป สมาคมประกันชีวิตครับ ..teelek เขียน:ถามคุณลูกอิสานครับว่า ในยามนี้ยังคงมองว่า ธุรกิจประกันที่คุณลูอิสานถือครองเป็นเจ้าของอยู่มุมมองยังดีอยู่หรือเปล่าครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 290
ก็ถ้ามั่นใจว่าราคาหุ้นจะลงอีกแน่ ก็ขายไปก่อนสิครับ จะถือไว้ทำไมล่ะtoon เขียน:แต่ในใจลึกมักคิดว่า แล้วถ้าเราขายไปก่อนแล้วค่อยไปซื้อที่หลังจะดีกว่าใหม เพราะถ้าหากเกิดวิกฤติหนักจริงๆ ตลาดคงไม่ลงแค่วันสองวันแล้วขึ้นมั้ง
ว่าแต่รู้ว่ามันจะลงอีกแน่หรือเปล่าล่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 144
- ผู้ติดตาม: 0
ธุรกิจที่น่าจะมีกำไรที่เติบโตดีในสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย
โพสต์ที่ 292
ขอบคุณพี่โจมากครับ สำหรับคำตอบของ TRC กับ UEC
อยากขอความเห็นเพิ่มหน่อยครับ ในความคิดของพี่โจตอนนี้บริษัทไหนน่าจะเติบโตไปได้ในสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยแบบตอนนี้ ถ้าเป็นพี่จะโฟกัสไปที่หุ้นตัวไหนครับ (แอบถาม) ขอบคุณมากครับสำหรับความเห็น
อยากขอความเห็นเพิ่มหน่อยครับ ในความคิดของพี่โจตอนนี้บริษัทไหนน่าจะเติบโตไปได้ในสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยแบบตอนนี้ ถ้าเป็นพี่จะโฟกัสไปที่หุ้นตัวไหนครับ (แอบถาม) ขอบคุณมากครับสำหรับความเห็น
- newbie_12
- Verified User
- โพสต์: 2904
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 293
ถ้ามีคนรู้จริง คงรวยกันหมดละครับFinancial Engineer เขียน: ก็ถ้ามั่นใจว่าราคาหุ้นจะลงอีกแน่ ก็ขายไปก่อนสิครับ จะถือไว้ทำไมล่ะ
ว่าแต่รู้ว่ามันจะลงอีกแน่หรือเปล่าล่ะ
ที่สำคัญก็คือ มันไม่มีใครรู้ต่างหาก
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 363
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 294
คุณโจครับ
ผมเป็นมือใหม่ที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ด้วยเงินทุนของครอบครัวทั้งหมดเกือบ 6 ลบ ผมพยายามอ่านและติดตามหาความรู้ในการลงทุนแนว VI มาตลอดแต่ด้วยความรู้ที่น้อยนิด และไม่มีเพื่อนคุยปรึกษาที่ชอบแนวVI เหมือนกัน ทำให้แนวการลงทุนของผมเป็นแบบผสมผสาน คือมองหาหุ้นคุณค่า แต่ก็เล่นตาม Fund Flow ของฝรั่งเผื่อหวังทำกำไรเร็ว ทำให้ตอนนี้พอร์ทของผมขาดทุนกว่า 23% หรือขาดทุนไปเกือบ 1.4 ลบแล้ว ตอนนี้ก็พยายามไม่เครียดแต่ก็อดคิดไม่ได้เพราะเอาเงินเก็บของครอบครัวทั้งหมดมาลง รวมถึงเงินเก็บที่จะส่งลูกเรียนในอนาคต ผมกำลังทบทวนความผิดพลาดของผมที่ผ่านมาในการเลือกหุ้น และกำลังตัดสินใจปรับพอร์ต แต่อยากขอคำแนะนำอย่างละเอียด จากคุณโจว่าควรทำอย่างไรดี ใจจริง อยากขอคำแนะนำเป็นการส่วนตัวเพราะไม่อยากรบกวนและใช้พื้นที่กระทู้ของTVI เห็นสมควรอย่างไรแล้วแต่คุณโจนะครับ ผมมีปัญหาอยากขอคำแนะนำตามนี้
1. เงินลงทุนกว่า 30% ของพอร์ตหรือเกือบ 1.9ลบ อยู่ในหุ้นกลุ่มพลังงาน 3 ตัวคือ PTTEP(ทุน 173), PTTCH (ทุน 78), TOP(ทุน 57) ตอนนี้หุ้น 3 ตัวนี้ทำให้พอร์ตติดลบไป 5 แสน หรือ 26%โดยเฉลี่ย ผมวิเคราะห์ดูแล้วยังไม่เห็นอนาคตของพลังงานเป็นขาขึ้นอีกอย่างน้อย 2 ปีจากนี้ เลยอยากตัดสินใจขายหุ้น 3 ตัวนี้มาเข้าหุ้นแนว VI ที่เน้นปันผลและมี Upside gain อย่างน้อย 50% เพื่อมาชดเชยการขาดทุนจากการปรับพอร์ตครั้งนี้ คุณโจมองดูว่าธุรกิจกลุ่มไหนจะเป็นขาขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ดีแบบนี้ และสามารถตอบโจทย์การปรับพอร์ตครั้งนี้ได้ครับ ความจริงมีหุ้นในใจที่คาดว่าจะเปลี่ยน แต่กลัวว่าไม่เหมาะสมที่จะถามครับ ไม่รู้ว่าความคิดผมถูกหรือผิดแต่เคยอ่านเจอมาว่าขายหุ้นที่ไม่มีอนาคตและขาดทุน 15% มาถือหุ้นที่มีอนาคตและUpside gain 50% อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
2. คุณโจมีความเห็นอย่างไรกับ EGCO ที่ราคามีส่วนลดขนาดนี้และปันผลระดับ 7-8%
3. คุณโจใช้หลักการอย่างไรในการปรับพอร์ต และคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจในอนาคตครับ
ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำครับ ผมไม่อยากผิดพลาดซ้ำสองครับ :lol:
ผมเป็นมือใหม่ที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ด้วยเงินทุนของครอบครัวทั้งหมดเกือบ 6 ลบ ผมพยายามอ่านและติดตามหาความรู้ในการลงทุนแนว VI มาตลอดแต่ด้วยความรู้ที่น้อยนิด และไม่มีเพื่อนคุยปรึกษาที่ชอบแนวVI เหมือนกัน ทำให้แนวการลงทุนของผมเป็นแบบผสมผสาน คือมองหาหุ้นคุณค่า แต่ก็เล่นตาม Fund Flow ของฝรั่งเผื่อหวังทำกำไรเร็ว ทำให้ตอนนี้พอร์ทของผมขาดทุนกว่า 23% หรือขาดทุนไปเกือบ 1.4 ลบแล้ว ตอนนี้ก็พยายามไม่เครียดแต่ก็อดคิดไม่ได้เพราะเอาเงินเก็บของครอบครัวทั้งหมดมาลง รวมถึงเงินเก็บที่จะส่งลูกเรียนในอนาคต ผมกำลังทบทวนความผิดพลาดของผมที่ผ่านมาในการเลือกหุ้น และกำลังตัดสินใจปรับพอร์ต แต่อยากขอคำแนะนำอย่างละเอียด จากคุณโจว่าควรทำอย่างไรดี ใจจริง อยากขอคำแนะนำเป็นการส่วนตัวเพราะไม่อยากรบกวนและใช้พื้นที่กระทู้ของTVI เห็นสมควรอย่างไรแล้วแต่คุณโจนะครับ ผมมีปัญหาอยากขอคำแนะนำตามนี้
1. เงินลงทุนกว่า 30% ของพอร์ตหรือเกือบ 1.9ลบ อยู่ในหุ้นกลุ่มพลังงาน 3 ตัวคือ PTTEP(ทุน 173), PTTCH (ทุน 78), TOP(ทุน 57) ตอนนี้หุ้น 3 ตัวนี้ทำให้พอร์ตติดลบไป 5 แสน หรือ 26%โดยเฉลี่ย ผมวิเคราะห์ดูแล้วยังไม่เห็นอนาคตของพลังงานเป็นขาขึ้นอีกอย่างน้อย 2 ปีจากนี้ เลยอยากตัดสินใจขายหุ้น 3 ตัวนี้มาเข้าหุ้นแนว VI ที่เน้นปันผลและมี Upside gain อย่างน้อย 50% เพื่อมาชดเชยการขาดทุนจากการปรับพอร์ตครั้งนี้ คุณโจมองดูว่าธุรกิจกลุ่มไหนจะเป็นขาขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ดีแบบนี้ และสามารถตอบโจทย์การปรับพอร์ตครั้งนี้ได้ครับ ความจริงมีหุ้นในใจที่คาดว่าจะเปลี่ยน แต่กลัวว่าไม่เหมาะสมที่จะถามครับ ไม่รู้ว่าความคิดผมถูกหรือผิดแต่เคยอ่านเจอมาว่าขายหุ้นที่ไม่มีอนาคตและขาดทุน 15% มาถือหุ้นที่มีอนาคตและUpside gain 50% อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
2. คุณโจมีความเห็นอย่างไรกับ EGCO ที่ราคามีส่วนลดขนาดนี้และปันผลระดับ 7-8%
3. คุณโจใช้หลักการอย่างไรในการปรับพอร์ต และคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจในอนาคตครับ
ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำครับ ผมไม่อยากผิดพลาดซ้ำสองครับ :lol:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 295
ปัจจัยคุณภาพอย่างนี้ ไม่มีตัวเลขที่จะวัดได้ คงต้องอาศัยสัญชาติญานจากการติดตาม สังเกตุครับ ถ้าเราติดตามใครสักคนนานพอ เราก็น่าจะรู้นิสัยใจคอบ้าง การติดตามของผมก็อ่านจากข่าว ดูคลิป งานวิจัย ที่ผู้บริหารให้ข่าว กับผลงานที่เกิดขึ้นจริง ว่าเป็นไปตามข่าวหรือเปล่า ถ้าไม่จริงมีเหตุที่สมเหตุสมผลหรือไม่Yod เขียน:พี่ลูกอีสานครับ
ช่วยแนะนำวิธีพิจารณาผู้บริหารหน่อยครับ
ทั้งด้านความซื่อสัตย์ ความเก่ง
อย่างตอนนี้ ผมทำงานประจำอยู่ต่างจังหวัด
คงมีโอกาสพบผู้บริหารบริษ้ทยากน่ะครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 296
ทำให้ตอนนี้พอร์ทของผมขาดทุนกว่า
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 297
[quote="sai"]พี่โจครับ ภาวะที่น่าจะเรียกได้แล้วว่าเป็นวิกฤต ทางการเงินของโลก ซึ่งความจริงคงหลีกเลี่ยงยากที่จะไม่ให้กระทบตลาดหุ้น ณ.ราคาดัชนีปัจจุบันของ set ที่ 618 พี่มองว่ามันซึมซับข่าวร้ายไปในราคาหมดหรือยังครับ หรือถ้ามีข่าวร้ายมาเพิ่ม พี่มองว่าจุดต่ำสุดของดัชนีจะเป็นเท่าไรในสายตาพี่โจครับ (คือผมทราบครับว่าเราไม่ควรนำเอาดัชนีมาประกอบการลงทุน
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ธุรกิจที่น่าจะมีกำไรที่เติบโตดีในสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกถดถ
โพสต์ที่ 298
หุ้นที่ได้รับผลกระทบน้อยๆหรือไม่กระทบเลยจากวิกฤตครั้งนี้นะครับ(หมายถึงพื้นฐานไม่ใช่ราคาหุ้น) น่าจะเป็นกลุ่มขายสินค้าพื้นฐานที่จำเป็น พวกของอุปโภคบริโภคไม่ว่าเศรษกิจเป็นอย่างไรก็ต้องกินต้องใช้ จะลดก็ยาก กิจการเหล่านี้น่าจะเป็นค้าปลีกบางตัว โรงพยาบาลที่เน้นตลาดกลาง กิจการในกระแสพลังงานทดแทน ที่ช่วยลดโลกร้อน ลดต้นทุนให้ลูกค้า เป็นตัวอย่างเท่าที่ผมคิดออกครับ..Calcio 8 เขียน:ขอบคุณพี่โจมากครับ สำหรับคำตอบของ TRC กับ UEC
อยากขอความเห็นเพิ่มหน่อยครับ ในความคิดของพี่โจตอนนี้บริษัทไหนน่าจะเติบโตไปได้ในสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยแบบตอนนี้ ถ้าเป็นพี่จะโฟกัสไปที่หุ้นตัวไหนครับ (แอบถาม) ขอบคุณมากครับสำหรับความเห็น
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 299
[quote="IWILLBEVI"]คุณโจครับ
ผมเป็นมือใหม่ที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ด้วยเงินทุนของครอบครัวทั้งหมดเกือบ 6 ลบ ผมพยายามอ่านและติดตามหาความรู้ในการลงทุนแนว VI มาตลอดแต่ด้วยความรู้ที่น้อยนิด และไม่มีเพื่อนคุยปรึกษาที่ชอบแนวVI เหมือนกัน ทำให้แนวการลงทุนของผมเป็นแบบผสมผสาน คือมองหาหุ้นคุณค่า แต่ก็เล่นตาม Fund Flow ของฝรั่งเผื่อหวังทำกำไรเร็ว ทำให้ตอนนี้พอร์ทของผมขาดทุนกว่า
ผมเป็นมือใหม่ที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ด้วยเงินทุนของครอบครัวทั้งหมดเกือบ 6 ลบ ผมพยายามอ่านและติดตามหาความรู้ในการลงทุนแนว VI มาตลอดแต่ด้วยความรู้ที่น้อยนิด และไม่มีเพื่อนคุยปรึกษาที่ชอบแนวVI เหมือนกัน ทำให้แนวการลงทุนของผมเป็นแบบผสมผสาน คือมองหาหุ้นคุณค่า แต่ก็เล่นตาม Fund Flow ของฝรั่งเผื่อหวังทำกำไรเร็ว ทำให้ตอนนี้พอร์ทของผมขาดทุนกว่า
Small Details Make a Big Difference