เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สวัสดีครับ ขอเริ่มหัดเล่าเล่มแรกเลยนะครับ

วันนี้วันอาทิตย์ครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Futuring เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับ นวัตกรรม ซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งในการนำไปสู่อนาคต เป็นหนังสือด้านแนวคิดในการเอานวัตกรรมไปปรับใช้ในธุรกิจ ไม่ใช่ขั้นตอนการสร้างนวัตกรรมนะครับ

รูปภาพ

The Game-Changer ผู้เปลี่ยนเกม เกมทางธุรกิจไงครับ หนังสือเล่มนี้บอกถึงการนำเอานวัตกรรมมาใช้ในการเพิ่มรายได้และกำไรขององค์กรครับ โดยยกตัวอย่างกรณีศึกษาบริษัท P&G เป็นหลัก (ก็ 1 ในผู้เขียนนั้นคือ A.G.Lafley CEO ของ P&G ไงครับ) เนื่องจากความสำเร็จตั้งแต่ในช่วงปี 2000 นั้นได้เพิ่มกำไรและราคาหุ้นขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีผู้เขียนอีกท่าน (Ram Charan เป็นที่ปรึกษาในบริษัทชั้นนำ รวมถึง  GE Dupont Nokia HP ที่เขายกมาพูดถึงด้วยครับ เขามีผลงานเขียนร่วมในหนังสือเล่มอื่นด้วย) เป็นผู้รับลูกโดยการอธิบายและยกตัวอย่างของบริษัทอื่นเพิ่มเติมครับ

รสชาติเป็นยังไงบ้างครับก๋วยเตี๋ยวเรือชามละสลึง  ขอลาไปก่อนนะครับ อย่าลืมนะครับ ความคิดเห็นของท่าน เป็นดั่งเครื่องเทศ เครื่องปรุงรส สำหรับก๋วยเตี๋ยวมื้อนี้ครับ ให้ผมบอกว่าฝีมือตัวเองมีรสชาติเป็นอย่างไรนั้นคงยาก เพราะอะไรที่ผมทำเองก็ทานเองได้หมดไม่ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร เพียงแต่ว่าอยากจะทำแบ่งให้ท่านผู้อ่านทาน (ไม่งั้นคงไม่เขียนออกมา จริงไหมครับ) อยากให้ท่านได้รับรสชาติที่ชอบมากกว่าครับ ถ้าท่านชอบรสชาติแล้ว ก็คงอยากจะทานต่อไปเรื่อยๆ นะครับ
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ของหวานมาแล้วครับ

รูปภาพ
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

วันอังคาร เป็นเรื่องย้อนไปในอดีตครับ

วันนี้ชื่อเรื่่องว่า Marco Polo: From Venice to Xanadu

หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงชีวิตของ Marco Polo ตั้งแต่เกิดจนตาย Marco Polo ซึ่งมีสายเลือดพ่อค้าอยู่ในตัว ถือเป็นนักผจญภัยที่มีความสำคัญคนหนึ่งในโลก มีความสำคัญกับยุโรปเพราะ Marco Polo ได้นำเอาความเจริญทางตะวันออกมาสู่ตะวันตกหลังจากที่ได้กลับมาบ้านเกิดแล้ว อย่างเช่น เงินตราในรูปแบบกระดาษ หรือแว่นตา เป็นต้น

ผลงานเขียนเกี่ยวกับการผจญภัยของเขา ซึ่งเกิดขึ้นโดยบังเอิญจากการพบนักเขียนในระหว่างถูกจำคุก เนื่องจากแพ้สงคราม ได้แพร่หลายไปทั่วยุโรป และต่อมาได้เป็นส่วนหนึ่งในแรงบันดาลใจของ Christopher Columbus ซึ่งกลายมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ค้นพบทวีปอเมริกา

และยังอธิบายถึง Kublai Khan ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่ง Marco Polo ได้ทำงานรับใช้เป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ ซึ่งเป็นประสบการณ์การผจญภัยที่มีค่ามาก เพราะงานที่ได้รับเกี่ยวกับทูต การเก็บภาษี ต้องมีการเดินทางอยู่ตลอด จึงได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ในสถานที่ต่างๆ

ปล.
ชีวประวัติถ้าจะให้ละเีอียดต้องในสารานุกรมเลยครับ

ความคิดของผม เล่มนี้เป็นแบบที่คนอื่นเขียนถึง ซึ่งจะต่างจากเล่มที่ Marco Polo บอกให้คนเขียน (เขียนประวัติชีวิตตัวเอง (อัตชีวประวัติ))
ผิดถูกประการใด ขออภัยล่วงหน้าครับ ไม่มีความรู้เรื่องการจัดแบ่งประเภทหนังสือเลยครับ
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

China and the WTO

ในหนังสือกล่าวถึงให้ดูภาพรวมของระบบเศรษฐกิจจีน เอเชีย และเศรษฐกิจโลก ผู้เขียนเล่าถึงความพยายามของจีนในการเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) จึนต้องยอมเสียอะไร แล้วจีนจะได้อะไร ประเทศเพื่อนบ้าน คู่ค้า จะเป็นอย่างไรถ้าจีนเข้าเป็นสมาชิก WTO ได้สำเร็จ
จีนเป็นประเทศปิดมานานครับ คือหยิ่งในศักดิ๋ศรีตัวเอง (ซึ่งก็สมควรหยิ่ง เพราะเค้าใหญ่จริง) ในสมัยโบราณ ทางฝั่งตะวันตก อยากจะทำมาค้าขายด้วย อย่างประเทศอังกฤษ ส่งทูตส่งสารมา เค้ายังไม่ตกลงเลย สุดท้ายอังกฤษเลยต้องใช้วิชามาร หาเรื่องท้าตีท้าต่อย อย่างสงครามฝิ่นไงครับ จนต้องเสียรู้โดนบังคับให้เช่าเกาะฮ่องกงเป็นเวลาถึง 99 ปี
ในช่วงศตวรรษที่ 19 เศรษฐกิจของจีนเองใหญ่กว่าปัจจุบันมาก มีขนาดเกือบ 30% ของทั้งโลกได้กระมัง แต่มาในปัจจุบันลดน้อยลง แสดงว่าก้าวตามเค้าไม่ทัน คือตอนนี้ไม่ถึง 10% ในขณะที่ขนาดเศรษฐกิจอเมริกามีขนาด 20% ของทั้งโลก
การที่จีนเข้ามาอยู่ใน WTO ไม่ใช่ว่าเค้าได้อย่างเดียว เค้าต้องเอาอะไรมาแลกด้วยเหมือนกัน อย่างเช่น เศรษฐกิจในจีน รํฐก็ต้องลดบทบาทลง ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดโลก ยังไงได้ล่ะครับ อยากจะอินเตอร์ก็ต้องปรับให้เป็นอินเตอร์ตามเค้าเสียก่อน ระบบเล่นพรรคเล่นพวกก็ต้องเพลาๆ ลง ระบบการเงินการธนาคารที่คลุมเครือ ไม่รู้ว่าข้างในมีหนี้เน่ามากน้อยเพียงไร ก็ต้องทำให้โปร่งใส นักลงทุนเข้าถึงจะกล้าเข้ามา นั่นก็เป็นเงื่อนไขหลักๆ ที่ WTO บอกไว้ว่าเป็นท่าไม้ตาย ในหนังสือยังมีรายละเอียดปลีกย่อย
คำว่า Free Trade ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น Fair Trade การค้าเสรีอาจจะไม่ใช่การค้าที่ยุติธรรมก็ได้ ถ้ามีปัจจัยอย่างอื่นเข้ามา อย่างเช่น การเมือง
เมื่อจีนเข้ามาใน WTO สำเร็จแล้ว ดินแดนจีนก็จะไม่เป็นดินแดนลับแลอีกต่อไป เพื่อนบ้านที่ขายวัตถุดิบให้จีน ได้รับผลประโยชน์แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะออร์เดอร์จะเพิ่มมหาศาล แต่ประเทศผู้ผลิตสินค้าอย่างเดียวกับจีนล่ะ ก็ต้องปรับตัวกันบ้างหล่ะ ดังนั้นจึงต้องปรับตัวกันทุกคน เพราะมีผลกระทบกันไปหมด ไม่ใช่แค่จีนอย่างเดียว
ถ้าผิดยังไงแก้ให้หน่อยนะครับ ผมไม่ได้ reseach เพิ่มเติมเลยครับ (ประกอบกับทุนเดิมโง่อยู่แล้ว โปรดใช้วิจารณญาน(โอ้ยสะกดถูกหรือเปล่าไม่รู้))

ถึงแม้ตอนนี้จีนจะเข้ามาเป็นสมาชิกใน WTO ซักพักนึงแล้ว แต่การย้อนกลับไปอ่านว่าตอนนี้เค้าคิดอย่างไรกัน ก็น่าสนใจดีนะครับ (เหมือนการข้ามถนนไงครับ มองซ้าย มองขวา แล้วอย่าเพิ่งข้าม มองซ้ายก่อนอีกทีครับ)

ยิ่งมีคนไทยเขียนด้วยแล้วก็ยิ่งน่าอ่าน หาคนไทยเขียนหนังสืออินเตอร์ยากครับ

ปล.
ช่วงนี้อาจารย์ผมท่านงานยุ่ง ก๋วยเตี๋ยวเรือผมคงยังเป็นคงชามละสลึงต่อไปครับ
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ปล.2
แผนภาพ มีบ้าง ไม่มีบ้าง อยู่ว่ากันนะครับ
แต่ถ้าท่านวิงวอนเทพเจ้าให้ประทาน premium เวลาให้ผมทุกวัน ผมรับรอง ผมสัญญาครับ
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

Managing Green Issues

เรื่องของธุรกิจกับสภาพแวดล้อม ถ้าลองย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 19 หรือก่อนหน้านั้น ผมว่าหนังสือเล่มนี้คงจะขายไม่ได้เลยแม้แต่เล่มเดียว เพราะในยุคปฏิวัติอุตสากรรม เค้าแข่งกันที่ ใครผลิตได้มาก ผลิตได้เร็ว มีต้นทุนต่ำ แต่โลกเปลี่ยนไป หรือว่าคนเปลี่ยนไปเอง หนังสือเล่มนี้อ่านได้ทุกคน ไม่เกี่ยงว่าจะใช้เป็นคัมภีร์ของนักสื่อสารองค์กร หรือเจ้าของโครงการที่อาจจะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงองค์กรสมัยใหม่ที่ต้องการมีความได้เปรียบในเชิงแข่งขันทางด้านสิ่งแวดล้อม แต่ชาวบ้านทั่วไปก็อย่าถือว่ามิอาจเอื้อม เพราะคัมภีร์เล่มนี้ถ้าได้เรียนรู้เอาไว้ ก็จะใช้ในการต่อกรณ์กับคู่ต่อสู้ฝ่ายตรงข้ามได้ ดังคำว่า "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง"

แก่น คือ การวางตัวและจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบด้าน (3 ด้าน คือ ผู้มีประโบชน์ในโครงการ นักการเมือง และชุมชน)

การศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญ แต่ก็ไม่แค่นั้น ต้องรู้จักวิเคราะห์ วางหมาก และเดินเกมไปล่วงหน้าด้วย เพราะโครงการที่ต้องออกไปเล่นนอกบริษัทเป็นอะไรที่มีเรื่องอิรุงตุงนังเข้ามาเกี่ยวพันเต็มไปหมด ก็เพราะมันเกี่ยวกับคนจำนวนมากนั่นเอง

รายการจำเป็นคร่าว ๆ (ที่พอจะเป็นน้ำจิ้มได้) มีดังต่อไปนี้
-คุณต้องรู้จักใช้สื่อให้เป็น เพราะจะได้มีกระบอกเสียงเป็นของตัวเอง อย่าลืมว่าฝ่ายต่อต้าน (ฝ่ายรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม) เขาเป็นกูรูทางด้านใช้สื่อทีเดียวเชียว ถึงคุณจะทำได้ดีแค่ไหน แต่ใช้สื่อไม่เป็น นั่นก็ไม่ต่างจากการ "ปิดทองหลังพระ" หรอก

-ต้องรู้ว่าใครเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการจริงๆ
-ถ้าคุณจะโอนอ่อนยอมให้ตามที่ชุมชนต้องการ ก็ให้พิจารณาให้ดีว่าจะทำให้เกิดการ "ได้คืบเอาศอก" หรือไม่
-ก่อนการวางแผนก็ให้ไปปรึกษาจากคนในพื้นที่เสียก่อน
-เปิดเผยและจริงใจ

ปล.
สุดท้ายนี้ ผมได้เตือนท่านแล้ว ว่าให้ทานยาแก้เมาเหล้า(เล่า) ไม่ได้ท่านมาใช้มั้ย "อย่าเล่นกับไฟ"
อย่าว่าแต่ท่านเลยครับ ผมเองก็เมาเหมือนกัน คราวหน้าจะไม่ลืมทานยากันแฮงค์มาก่อนครับ

เดี๋ยวมาต่อคร้าบ
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

Developing Employee Who Love to Learn

องค์กรไม่สามารถก้าวหน้าไปด้วยตัวเองได้ ต้องอาศัยคนในการขับเคลื่อนฉันใด ความรู้ความฉลาดของพนักงานก็จะช่วยส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนฉันนั้น ความรู้ความฉลาดของพนักงานมาจากไหน จากงานวิจัยระบุว่ามาจากการเรียนรู้ในชีวิตประจำวันในงานที่ทำ ส่วนการเรียนรู้ในระบบหรือในห้องเรียนนั้น ให้ประโยชน์ส่วนน้อย
ยิ่งองค์กรใดมีพนักงานที่รักการเรียนรู้มากเท่าใด องค์กรนั้นก็จะยิ่งมีโอกาสเจริญก้าวหน้าได้มากเท่านั้น ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงเครื่องมือ กลยุทธ์ และแผนการดำเนินงาน เพื่อให้พนักงานมีการเรียนรู้ในที่ทำงาน
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
ภาพประจำตัวสมาชิก
crazyrisk
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4549
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณครับคุณ nJTAO

เป็นไปได้

ช่วยอธิบายวิธีอ่าน mindmap ได้ไหมครับ

ให้อ่านตามกิ่งก้านไปเรื่อยๆอย่างเดียวหรือเปล่า

ผมต้องทึ่งกับฝีมือการอ่านของคุณมากๆ

ขนาดผมไปนั่งหัดเรียน fast reading ยังทำแบบทดสอบไปได้แค่ 20 บท ก็อ้วก และก็เลิกทำต่อ

แต่การที่คุณอ่านหนังสือได้วันละเล่ม

ซึ่ง เจ๋งมากๆ  (ผมนั้นไซร้ เดือนละเล่มก็หรูแล้ว)


ขอรบกวนถามเพิ่มอีกสัิกนิดครับ
1. คุณซื้อหนังสืออ่านเอง หรือว่า ไปยืนอ่านตามร้าน kino (ผมกำัลังหัดทำแบบเนียนๆอยู่ครับ)
2. ช่วยแนะแนวทางในการอ่านเร็วแบบได้ใจความด้วยครับ
3. คุณใช้เวลาในการอ่าน ยังไงครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
ภาพประจำตัวสมาชิก
crazyrisk
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4549
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ไหนๆก็ไหนๆแล้วครับ

รบกวน คุณ nJtao ช่วย ทำ mindmap

เป็นแบบอย่างในการวิเคราะห์หุ้นรายตัวด้วยได้ไหมครับ

เช่น

หุ้น - บริษัท ปตท.
    -  เจ้าของ
    -  ปัจจัยเสี่ยง
    -  catalast
    -  threat
    -  ผู้เล่นในตลาด
    -  งบการเงิน  - ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
                      - งบดุล
   

คร่าวๆอ่ะครับ...  พอได้ไหมครับ จะเอาไปทำกับหุ้นตัวอื่นๆ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เอ่อ ดีจังเลยครับ อยากมีร้าน kino สาขาแถวบ้าน(นอก)จังครับ จะได้แอบเข้าไปนั่งอ่าน นอนอ่านให้เต็มคราบ หนังสือมีคนจัดหาให้ครับ (ตามรายการในโปรแกรม) เทคนิคการอ่านหรือครับอย่างที่ผมเคยบอกไปหลังไมค์ไปแล้วครับ จริงๆ แล้วถึงตอนนี้แล้วขอสารภาพเลยแล้วกันครับ ผมไม่ได้อ่านเร็วหรอกครับ ผมมีตัวช่วยครับ ... โทรไปหาคนเขียนไงครับ ... ง่ายดีเค้าบอกให้ละเอียดเลยครับ ผมลอกตามเขาอย่างเดียว :lol:

เอาจริงๆ นะครับ เคยเล่นต่อจิ๊กซอร์ไหมครับ เคยเห็นไหมครับคนที่จับชิ้นไหนขึ้นมาก็รู้ว่ามันประดิษฐานอยู่ตรงไหน ผมใช้หล้กการแบบนี้แหละครับ แต่การอ่านที่คนทั่วไปอ่านกันคล้ายกับเป็นการต่อจิ๊กซอร์ทีละแถวจากบนลงล่าง โฮ้ยเหนื่อยครับ กว่าจะคุ้ยหาตัวมาต่อได้
crazyrisk เขียน:ไหนๆก็ไหนแล้วครับ

รบกวน คุณ nJtao ช่วย ทำ mindmap

เป็นแบบอย่างในการวิเคราะห์หุ้นรายตัวด้วยได้ไหมครับ

เช่น

หุ้น - บริษัท ปตท.
    -  เจ้าของ
    -  ปัจจัยเสี่ยง
    -  catalast
    -  threat
    -  ผู้เล่นในตลาด
    -  งบการเงิน  - ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
                      - งบดุล
   

คร่าวๆอ่ะครับ...  พอได้ไหมครับ จะเอาไปทำกับหุ้นตัวอื่นๆ


เอ น่าสนใจนะครับ ผมไม่รู้เลยนะครับเนี่ย ว่ามันใช้วิเคราะห์หุ้นรายตัวได้ แต่มันคงต้องวิเคราะห์ใช้มั๊ยครับ ไม่เหมือนกับจิ๊กซอร์ที่ผมกำลังเล่นอยู่ เอาเป็นว่างั้นเล่าหนังสือรายวันของผมขอ freeze ไว้ก่อนแล้วกันนะครับ (ว๊า อุตส่าห์เม็ดหนังสือที่ทำงานมานะเนี่ย) ขอมาทำการบ้านก่อน อันนี้เป็นชิ้นที่ 2 แล้ว

ผมไม่มีความรู้เรื่องการวิเคราะห์เลยครับ ข้อมูลจาก 56-1 จะเพียงพอหรือเปล่าครับเนี่ย

ปล
ชิ้นแรกการบ้านยากตรงที่หาหนังสือครับ ยังไม่ได้แตะเลย(จุ๊ จุ๊ อย่าไปบอกอาจารย์เขานะครับ) แล้วท่านอาจารย์ทวดก็เสียไปแล้วด้วย ไม่รู้จะโทรไปหาใคร
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เพิ่มเติมครับ
ผมเคยอ่านเจอว่า การที่คนเราใช้สมองได้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์นั้น เป็นเพราะมีเรื่อง moral เข้ามาเกี่ยวข้อง เค้าก็เปรียบเทียบกับสัตว์ประเภทอื่นที่ไม่ใช้มนุษย์(เขามีศัพท์เฉพาะครับ) ใช้สมองได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะไม่ต้องมีคิดเงื่อนไขในเรื่อง moral ครับ

ผิดถูกยังไง ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
ภาพประจำตัวสมาชิก
crazyrisk
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4549
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมขอแย้งว่าไม่ใช่คำว่า moral แล้วกันนะครับ

ผมว่ามันเป็นคำว่า emotional มากกว่า

เพราะว่า บ่อยๆครั้ง หนังสือบางเล่ม เราอ่านจบอย่างรวดเร็ว  เพราะ

1 เรื่องนี้มันตรงกับอดีตตัวเอง
2 เป็นเรื่องที่เราสนใจ
3 เป็นเรื่องที่กำลังเกิดปัญหากับเรา

แต่เรื่องบางเรื่องอาจจะใช้เวลาอยู่นานกว่าจะอ่านจบ
เพราะเหตุผลไม่เข้ากับหัวข้อดังกล่าว
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
ภาพประจำตัวสมาชิก
crazyrisk
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4549
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

คุณ nj ครับ ผมไปไล่อ่านใน inbox แล้วนะครับ

ไม่ยักกะมีข้อความเกี่ยวกับการสอนการอ่านเร็วเลยครับ

มีแค่บอกว่าให้ไปฝึกจิต อะไรทำนองเนี้ยอ่ะครับ...
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

เหล้า(เล่า)หนังสือ คร้าบ บ บ บ บ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ขอโทษครับ จำผิดคนครับ ผมลอกมาลงไว้ให้ครับ

ความรู้ 1 สาขาผมเปรียบเป็นต้นไม้หนึ่งต้นครับ มีกิ่งก้านแตกออกเป็นสาขาย่อยมากมาย แต่ละกิ่งก้านก็แตกออกเป็นกิ่งแขนง ก็คือสาขาวิชาย่อยลงไปอีก ส่วนผลที่ออกมาเปรียบเป็นผลไม้ครับ ต้นไม้บางชนิดมีผลเป็นพวง (วิชาที่มีหนังสือหลากหลาย)
ต้นไม้บางชนิดมีผลเดี๋ยว (วิชาที่มีหนังสือน้อย)
แล้วยังมีต้นไม้บางพันธุ์ที่เอากิ่งของชนิดอื่นมาติดตาทำให้ต้นเดียวได้ผลไม้หลายอย่าง (วิชาที่มีประยุกต์ผสมผสานกันมีหนังสือหลายชนิด)
ข้อ 1 ถึง 4 เป็นดั่งดอก เกสร ที่เป็นจุดเริ่มต้นของผลไม้ครับ ซึ่งผลไม้จะดีได้ฉันใดก็มาจากดอก เกสร ที่ดีฉันนั้นครับ

ผมพออธิบายพอจะไปวัดไปวาได้บ้างไหมครับ
สรุปคือ เนื้อหาเป็นมวยรองครับ แต่ชื่อหนังสือ ปก คำนำ สารบัญ เป็นมวยเอกครับ
ถ้าอ่านมวยเอกจบแล้วก็จะรู้ว่าหนังสือเล่มนั้น ผู้เขียนมีความตั้งใจอย่างไร (แน่นอนครับ หนังสือเป็นสิ่งไม่มีชีวิต ไม่ใช่ต้นไม้หรือสัตว์ร่วมโลก มันเกิดมาจากน้ำมือมนุษย์ ฉะนั้นการทราบไอเดียของผู้เขียนมีความสำคัญที่สุด (การสอบถามหรือพูดคุยกับผู้เขียน จะได้ข้อมูลดีที่สุดครับ  ))
อีกอย่างครับ ก่อนอ่านต้องตั้งเป้าหมายว่าเราต้องการอะไรจากหนังสือ หลังจากที่เราทราบว่าหนังสือเล่มนั้นเกิดมาจากความตั้งใจอะไรของผู้เขียน ถ้าจะอ่านเร็วต้องอ่านหนังสือแบบโดดไปโดดมาครับ ผมพับหรือคั่นหน้าสารบัญไว้เลยครับ แล้วเปิดอ่านหัวข้อโดดไปโดดมาตามสารบัญ
พอจะสรุปใจความก็จับจุดสำคัญหลักๆ มาแล้วค่อยๆ ขยายใจความไปตามลำดับชั้น

crazyrisk เขียน:ผมขอแย้งว่าไม่ใช่คำว่า moral แล้วกันนะครับ

ผมว่ามันเป็นคำว่า emotional มากกว่า

เพราะว่า บ่อยๆครั้ง หนังสือบางเล่ม เราอ่านจบอย่างรวดเร็ว  เพราะ

1 เรื่องนี้มันตรงกับอดีตตัวเอง
2 เป็นเรื่องที่เราสนใจ
3 เป็นเรื่องที่กำลังเกิดปัญหากับเรา

แต่เรื่องบางเรื่องอาจจะใช้เวลาอยู่นานกว่าจะอ่านจบ
เพราะเหตุผลไม่เข้ากับหัวข้อดังกล่าว
ผมหมายถึงเรื่องการใช้สมองโดยรวมครับ เรื่องการอ่านก็เป็นหนึ่งในการใช้สมองนี้ครับ ที่ผมกำลังจะเปรียบเทียบคือเปรียบเทียบกับสัตว์อื่น ผมว่าสัตว์อื่นก็มี emotional เหมือนกัน แต่ที่ไม่มีคือ moral (เอ๊ะ หรือสัตว์บางพวกมี)

คือศึลธรรม ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม พวกนี้เป็นตัวฉุดรั้งการใช้สมอง แทนที่จะใช้ได้เต็มที่ เห็นด้วย หรือเห็นไม่ด้วยครับ

ปล.
ผมต้องไปก่อนนะครับ
พอดีช่วงนี้ออกงานสนามอีกแล้ว
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
โพสต์โพสต์