เมื่อก่อนตอนผมเด็กๆ โทรทัศน์เป็นจอกลมกลม โตมาซักพักก็เปลี่ยนเป็นจอแบนแบน ตอนนี้บ้านผมเปลี่ยนเป็น LCD ไป 3 ตัวแล้วโดยที่ผมไม่ทันได้รู้ตัว ผมว่าหลายหลายบ้านก็น่าจะค่อยค่อยทยอยเปลี่ยนเป็น LCD ไปเรื่อยเรื่อยเหมือนกัน ยิ่งตอนนี้จะมี euroด้วย LCD ก็น่าจะขายดีเพิ่มขึ้น ร้านอาหารผับบาร์น่าจะติดไว้ให้ลูกค้าดู
จากกลมเป็นแบนเนี่ย ใช้เวลาอยู่พอสมควรเหมือนกัน ตอนนี้โทรทัศน์หลายค่ายไม่ผลิตจอกลมแล้วอีกหน่อยก็อาจจะมีแต่ LCD ก็ได้
ในตลาดนอกจาก draco แล้วมีตัวอื่นอีกไม้ครับที่น่าจะได้ประโยชน์จาก trend นี้ :?:
โทรทัศน์ LCD
โพสต์
23 โพสต์
• หน้า 1 จากทั้งหมด 1
-
chatchai
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 2
อยากเปลี่ยนเหมือนกัน แต่
โทรทัศน์เครื่องเดิมไม่ยอมเสียซักที ใช้เป็นสิบปีแล้ว
และ ยังลังเลอยู่ว่า จอ LCD เวลาดูช่องธรรมดา ภาพจะชัดน้อยลงแค่ไหน และสัดส่วนที่เพี้ยนไปจะมากแค่ไหน
คิดไป คิดมา ก็เลยรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะซื้อ ไม่มีความเหมาะสมที่จะซื้อ
แล้วคนส่วนใหญ่ที่ซื้อ LCD มีสาเหตุใด
อาจเป็นเพราะ ต้องการจอใหญ่ๆ (แต่รุ่นที่ขายได้ก็จอเล็กซะส่วนใหญ่) หรือคงดู DVD มากกว่า ช่องธรรมดา หรือ เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับห้อง
โทรทัศน์เครื่องเดิมไม่ยอมเสียซักที ใช้เป็นสิบปีแล้ว
และ ยังลังเลอยู่ว่า จอ LCD เวลาดูช่องธรรมดา ภาพจะชัดน้อยลงแค่ไหน และสัดส่วนที่เพี้ยนไปจะมากแค่ไหน
คิดไป คิดมา ก็เลยรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะซื้อ ไม่มีความเหมาะสมที่จะซื้อ
แล้วคนส่วนใหญ่ที่ซื้อ LCD มีสาเหตุใด
อาจเป็นเพราะ ต้องการจอใหญ่ๆ (แต่รุ่นที่ขายได้ก็จอเล็กซะส่วนใหญ่) หรือคงดู DVD มากกว่า ช่องธรรมดา หรือ เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับห้อง
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
NinjaTurtle
- Verified User
- โพสต์: 506
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 4
[quote="beammy"]ตอนนี้ราคาเหลือ 6 พันบาทแล้ว
ซื้อมาเกือบ 4 หมื่น ครับ
ซื้อมาเกือบ 4 หมื่น ครับ
Why not invest your assets in the companies you really like? As Mae West said, "Too much of a good thing can be wonderful."
-
wattae
- Verified User
- โพสต์: 554
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 6
ยอดขายทีวีปี 51 โต 5% รับมหกรรมกีฬาฟุตบอลยูโรและโอลิมปิค 2008
บจ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย 06/06/2008 09:21:55
ปี 2551 นับได้ว่าเป็นปีแห่งกระแสกีฬา เริ่มจากมหกรรมกีฬาการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 ซึ่งจะประเดิมนัดแรกในวันที่ 7 มิถุนายนและไปสิ้นสุดคืนวันที่ 29 มิถุนายนนี้ และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่สาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งจะมีพิธีเปิดในวันที่ 8 สิงหาคม จนถึงวันที่ 24 สิงหาคม โดยจะมีการแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ กระแสความคลั่งไคล้กีฬาโดยเฉพาะฟุตบอลในหมู่วัยรุ่นและคนทำงาน น่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้ยอดขายโทรทัศน์ในปี 2551 เติบโตได้ดีกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ปริมาณการจำหน่ายเครื่องรับโทรทัศน์ภายในประเทศ
2547 2548 2549 2550 ม.ค.-เม.ย. 2551
โทรทัศน์ (หน่วย) 2,243,900 2,447,503 2,516,287 2,427,522 816,113
การเติบโต (%y-o-y) 6.2% 9.1% 2.8% -3.5% 1.3%
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
ปัจจัยหลักที่เป็นตัวผลักดันยอดขายโทรทัศน์มาจากการทำตลาดของค่ายผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายในช่วงการแข่งขันฟุตบอลและโอลิมปิค ซึ่งใช้จังหวะนี้ออกสินค้าที่มีเทคโนโลยีและดีไซน์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายในภาวะที่บรรยากาศของตลาดโดยรวมไม่คึกคักเท่าที่ควร ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าเฉพาะช่วงมหกรรมกีฬาฟุตบอลยูโรจะการใช้เงินมากกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อจัดกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขาย สำหรับการแข่งขันด้านราคาในปีนี้จะยังคงมีอยู่แต่จะไม่รุนแรงมากเท่าปีก่อนหน้าเนื่องจากราคาของทีวีได้ลดต่ำลงมามากแล้ว นอกจากนี้ปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นตลาดทีวีในปี 2551 ได้แก่ การเติบโตของโครงการอสังหาริมทรัพย์(บ้านและคอนโดมิเนียม) ซึ่งจะทำให้มีการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่สำหรับที่พักอาศัย
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของตลาดทีวีและตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ คือ ความกังวลของผู้บริโภคต่อสภาพเศรษฐกิจและการเมืองซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคมีการชะลอการใช้จ่าย ความกังวลด้านเศรษฐกิจอันสืบเนื่องมาจากการเพิ่มสูงขึ้นของราคาน้ำมันและค่าครองชีพ โดยเฉพาะในภาวะที่ทิศทางอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงเกินความคาดหมายดังเช่นขณะนี้ และความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางด้านการเมือง อาจส่งผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคให้ชะลอการจับจ่ายออกไป ดังนั้นแม้คาดว่ามหกรรมกีฬาจะมีส่วนโน้มน้าวแฟนกีฬาโดยเฉพาะแฟนฟุตบอลให้ตัดสินใจซื้อโทรทัศน์ใหม่รับเทศกาลที่จะมาถึง แต่ผลกระตุ้นในปีนี้อาจมีจำกัดกว่าครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคกังวลต่อภาวะค่าครองชีพที่รัดตัว นอกจากนี้การที่ทีมชาติอังกฤษขวัญใจแฟนฟุตบอลชาวไทยไม่ได้ผ่านเข้ารอบไปแข่งขันในศึกฟุตบอลยูโรปีนี้ก็อาจทำให้แรงจูงใจที่จะต้องรอคอยชมการแข่งขันในช่วงเวลากลางดึกมีน้อยลง
ด้วยเหตุผลข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดโทรทัศน์ในปี 2551 จะขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ 5 หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวมประมาณ 35,300 ล้านบาท ทั้งนี้แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีปริมาณการจำหน่ายโทรทัศน์ยังชะลอตัว แต่ก็เริ่มมีการกระเตื้องขึ้นในเดือนเม.ย. โดยขยายตัวร้อยละ 16.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ปริมาณการจำหน่ายในช่วง 4 เดือนแรกของปีขยายตัวเป็นบวก (ร้อยละ 1.3) โดยผลของการแข่งขันฟุตบอลยูโรน่าจะกระตุ้นยอดขายในเดือนพ.ค. และเดือนมิ.ย.ให้เติบโตได้ค่อนข้างสูง ส่วนการแข่งขันโอลิมปิคที่จะจัดขึ้นในเดือนส.ค. อาจมีผลกระทบต่อยอดขายน้อยกว่า ในขณะที่ช่วงเวลาที่เหลือของปีหลังมหกรรมกีฬา ยอดขายโทรทัศน์อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
ทั้งนี้สินค้าในหมวดโทรทัศน์ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมสูงในช่วงมหกรรมกีฬา ได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์ที่มีจอภาพขนาดใหญ่ แอลซีดีทีวีประเภท Full HD และพลาสมาทีวี โดยในกลุ่มแอลซีดีทีวี จะเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคในการซื้อเพื่อทดแทนโทรทัศน์เครื่องเก่าที่เป็นแบบซีอาร์ทีเดิมด้วย สำหรับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อต่ำก็มีทีวีกลุ่มสลิมฟิตทีวีซึ่งมีราคาไม่แพงเข้ามาเป็นทางเลือกให้ซื้อทดแทนเครื่องเก่า ดั้งนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าปริมาณการจำหน่ายโทรทัศน์ในกลุ่มแอลซีดีทีวีและสลิมฟิตทีวีจะเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุดในปี 2551 โดยมีแนวโน้มขยายตัวกว่า 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
Disclaimer
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงข้อมูลได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯจะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็นหรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น
* ผู้สนใจสามารถสมัครสมาชิกได้ที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ชั้น 9 อาคารธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 400/22 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. (66 2) 0-2273-1883-5 โทรสาร. (66 2) 0-2270-1218 หรือ 0-2270-1235, 0-2270-1569, 0-2271-4032 Email: [email protected] http://www.kasikornresearch.com
บจ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย 06/06/2008 09:21:55
ปี 2551 นับได้ว่าเป็นปีแห่งกระแสกีฬา เริ่มจากมหกรรมกีฬาการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 ซึ่งจะประเดิมนัดแรกในวันที่ 7 มิถุนายนและไปสิ้นสุดคืนวันที่ 29 มิถุนายนนี้ และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่สาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งจะมีพิธีเปิดในวันที่ 8 สิงหาคม จนถึงวันที่ 24 สิงหาคม โดยจะมีการแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ กระแสความคลั่งไคล้กีฬาโดยเฉพาะฟุตบอลในหมู่วัยรุ่นและคนทำงาน น่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้ยอดขายโทรทัศน์ในปี 2551 เติบโตได้ดีกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ปริมาณการจำหน่ายเครื่องรับโทรทัศน์ภายในประเทศ
2547 2548 2549 2550 ม.ค.-เม.ย. 2551
โทรทัศน์ (หน่วย) 2,243,900 2,447,503 2,516,287 2,427,522 816,113
การเติบโต (%y-o-y) 6.2% 9.1% 2.8% -3.5% 1.3%
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
ปัจจัยหลักที่เป็นตัวผลักดันยอดขายโทรทัศน์มาจากการทำตลาดของค่ายผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายในช่วงการแข่งขันฟุตบอลและโอลิมปิค ซึ่งใช้จังหวะนี้ออกสินค้าที่มีเทคโนโลยีและดีไซน์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายในภาวะที่บรรยากาศของตลาดโดยรวมไม่คึกคักเท่าที่ควร ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าเฉพาะช่วงมหกรรมกีฬาฟุตบอลยูโรจะการใช้เงินมากกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อจัดกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขาย สำหรับการแข่งขันด้านราคาในปีนี้จะยังคงมีอยู่แต่จะไม่รุนแรงมากเท่าปีก่อนหน้าเนื่องจากราคาของทีวีได้ลดต่ำลงมามากแล้ว นอกจากนี้ปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นตลาดทีวีในปี 2551 ได้แก่ การเติบโตของโครงการอสังหาริมทรัพย์(บ้านและคอนโดมิเนียม) ซึ่งจะทำให้มีการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่สำหรับที่พักอาศัย
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของตลาดทีวีและตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ คือ ความกังวลของผู้บริโภคต่อสภาพเศรษฐกิจและการเมืองซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคมีการชะลอการใช้จ่าย ความกังวลด้านเศรษฐกิจอันสืบเนื่องมาจากการเพิ่มสูงขึ้นของราคาน้ำมันและค่าครองชีพ โดยเฉพาะในภาวะที่ทิศทางอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงเกินความคาดหมายดังเช่นขณะนี้ และความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางด้านการเมือง อาจส่งผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคให้ชะลอการจับจ่ายออกไป ดังนั้นแม้คาดว่ามหกรรมกีฬาจะมีส่วนโน้มน้าวแฟนกีฬาโดยเฉพาะแฟนฟุตบอลให้ตัดสินใจซื้อโทรทัศน์ใหม่รับเทศกาลที่จะมาถึง แต่ผลกระตุ้นในปีนี้อาจมีจำกัดกว่าครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคกังวลต่อภาวะค่าครองชีพที่รัดตัว นอกจากนี้การที่ทีมชาติอังกฤษขวัญใจแฟนฟุตบอลชาวไทยไม่ได้ผ่านเข้ารอบไปแข่งขันในศึกฟุตบอลยูโรปีนี้ก็อาจทำให้แรงจูงใจที่จะต้องรอคอยชมการแข่งขันในช่วงเวลากลางดึกมีน้อยลง
ด้วยเหตุผลข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดโทรทัศน์ในปี 2551 จะขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ 5 หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวมประมาณ 35,300 ล้านบาท ทั้งนี้แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีปริมาณการจำหน่ายโทรทัศน์ยังชะลอตัว แต่ก็เริ่มมีการกระเตื้องขึ้นในเดือนเม.ย. โดยขยายตัวร้อยละ 16.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ปริมาณการจำหน่ายในช่วง 4 เดือนแรกของปีขยายตัวเป็นบวก (ร้อยละ 1.3) โดยผลของการแข่งขันฟุตบอลยูโรน่าจะกระตุ้นยอดขายในเดือนพ.ค. และเดือนมิ.ย.ให้เติบโตได้ค่อนข้างสูง ส่วนการแข่งขันโอลิมปิคที่จะจัดขึ้นในเดือนส.ค. อาจมีผลกระทบต่อยอดขายน้อยกว่า ในขณะที่ช่วงเวลาที่เหลือของปีหลังมหกรรมกีฬา ยอดขายโทรทัศน์อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
ทั้งนี้สินค้าในหมวดโทรทัศน์ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมสูงในช่วงมหกรรมกีฬา ได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์ที่มีจอภาพขนาดใหญ่ แอลซีดีทีวีประเภท Full HD และพลาสมาทีวี โดยในกลุ่มแอลซีดีทีวี จะเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคในการซื้อเพื่อทดแทนโทรทัศน์เครื่องเก่าที่เป็นแบบซีอาร์ทีเดิมด้วย สำหรับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อต่ำก็มีทีวีกลุ่มสลิมฟิตทีวีซึ่งมีราคาไม่แพงเข้ามาเป็นทางเลือกให้ซื้อทดแทนเครื่องเก่า ดั้งนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าปริมาณการจำหน่ายโทรทัศน์ในกลุ่มแอลซีดีทีวีและสลิมฟิตทีวีจะเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุดในปี 2551 โดยมีแนวโน้มขยายตัวกว่า 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
Disclaimer
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงข้อมูลได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯจะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็นหรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น
* ผู้สนใจสามารถสมัครสมาชิกได้ที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ชั้น 9 อาคารธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 400/22 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. (66 2) 0-2273-1883-5 โทรสาร. (66 2) 0-2270-1218 หรือ 0-2270-1235, 0-2270-1569, 0-2271-4032 Email: [email protected] http://www.kasikornresearch.com
-
phemstap
- Verified User
- โพสต์: 1273
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 7
ตอนอยู่กรุงเทพ มี TV กลม 2 เครื่อง 25" กับ 29" ตอนจะย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดเมื่อหลายปีก่อน ให้คนยกตัว 25" ลงจากชั้นบน
คนยกใส่ถุงเท้า พอดีลื่นล้มกลางบันใด ยังดีที่ป้องกันตัวเองโดยโยนโทรทัศย์ออก คนยกเจ็บตัวต้องทาน้ำมันนวด ส่วน TV ก็แตกออกไม่คุ้มค่าซ่อม
จากเหตุการครั้งนั้น ผมบอกกับตัวเองว่า ชั้นบนของบ้านจะไม่ใช้ TV กลมอีก
ปีที่แล้วเลยซื้อ LCD มา 2 เครื่อง 26" กับ 32" ตัว TV กลม 29" ใช้ชันล่างห้องนั่งเล่น LCD 32" ใช้ห้องทำงาน ส่วน LCD 26" ใช้ชั้นบน
ตอนซื้อก็ได้คุยกับเพื้อนๆ เขาแนะนำอย่างมาก 32" เพราะใหญ่กว่านั้นภาพจะเริ่มแตกและไม่ชัดตอนดู TV ธรรมดา
แน่นอนว่าตอนเราจะซื้อ ที่ร้านจะฉายหนังแบบ High Definition ให้ดู เราก็เคลื้มอยากจะซื้อใหญ่ๆ แต่พอกลับถึงบ้าน เราไม่มี Software HD
ก็ว่าทำไมไม่ชัดเหมือนตอนทดรองที่ร้าน ระวังนะจ๊ะ !!!
ถ้ายังไม่จำเป็น ผมเห็นด้วยกับคุณ Chatchai และเพื้อนๆคนอื่น รอไปก่อน Techno ด้านนี้เท่าที่ติดตาม เปลี่ยนเร็วมาก
โดยเฉพาะ Contrast Ratio กับ จำนวนเฉกสี มัน Double ทุก 8-12 เดือนเลย แถมเดี๋ยวนี้มี 100 Hz มาช่วยให้ภาพนิ่งขึ้นอีก
สำหรับบางคนอาจซื้อเพื่อ :
- ต่อฉาย Presentation หรือ Excel Sheet บนจอ LCD โดยผ่าน PC
- ต่อฉาย รูป Digital ที่ถ่ายมา บนจอ LCD โดยผ่าน PC หรือ port USB
- ดูหนัง หรือ วีดีโอ ที่ถ่ายแบบ Full High Definition 1080 ชัดมากๆ (ของผมเป็นแบบธรรมดาจะ Full HD ต้องรอให้มี Software ก่อน)
- จับภาพนิ่งจาก TV แล้วถ่ายรูปเก็บเอาไว้ หยุดภาพได้นิ่งและชัดมากๆ
- แน่นอน น้ำหนักเบา กินไฟน้อย รูปหรงสวยเป็น Furniture ตกแต่งบ้านได้เลย
Just my little 2 cents :lol:
คนยกใส่ถุงเท้า พอดีลื่นล้มกลางบันใด ยังดีที่ป้องกันตัวเองโดยโยนโทรทัศย์ออก คนยกเจ็บตัวต้องทาน้ำมันนวด ส่วน TV ก็แตกออกไม่คุ้มค่าซ่อม
จากเหตุการครั้งนั้น ผมบอกกับตัวเองว่า ชั้นบนของบ้านจะไม่ใช้ TV กลมอีก
ปีที่แล้วเลยซื้อ LCD มา 2 เครื่อง 26" กับ 32" ตัว TV กลม 29" ใช้ชันล่างห้องนั่งเล่น LCD 32" ใช้ห้องทำงาน ส่วน LCD 26" ใช้ชั้นบน
ตอนซื้อก็ได้คุยกับเพื้อนๆ เขาแนะนำอย่างมาก 32" เพราะใหญ่กว่านั้นภาพจะเริ่มแตกและไม่ชัดตอนดู TV ธรรมดา
แน่นอนว่าตอนเราจะซื้อ ที่ร้านจะฉายหนังแบบ High Definition ให้ดู เราก็เคลื้มอยากจะซื้อใหญ่ๆ แต่พอกลับถึงบ้าน เราไม่มี Software HD
ก็ว่าทำไมไม่ชัดเหมือนตอนทดรองที่ร้าน ระวังนะจ๊ะ !!!
ถ้ายังไม่จำเป็น ผมเห็นด้วยกับคุณ Chatchai และเพื้อนๆคนอื่น รอไปก่อน Techno ด้านนี้เท่าที่ติดตาม เปลี่ยนเร็วมาก
โดยเฉพาะ Contrast Ratio กับ จำนวนเฉกสี มัน Double ทุก 8-12 เดือนเลย แถมเดี๋ยวนี้มี 100 Hz มาช่วยให้ภาพนิ่งขึ้นอีก
สำหรับบางคนอาจซื้อเพื่อ :
- ต่อฉาย Presentation หรือ Excel Sheet บนจอ LCD โดยผ่าน PC
- ต่อฉาย รูป Digital ที่ถ่ายมา บนจอ LCD โดยผ่าน PC หรือ port USB
- ดูหนัง หรือ วีดีโอ ที่ถ่ายแบบ Full High Definition 1080 ชัดมากๆ (ของผมเป็นแบบธรรมดาจะ Full HD ต้องรอให้มี Software ก่อน)
- จับภาพนิ่งจาก TV แล้วถ่ายรูปเก็บเอาไว้ หยุดภาพได้นิ่งและชัดมากๆ
- แน่นอน น้ำหนักเบา กินไฟน้อย รูปหรงสวยเป็น Furniture ตกแต่งบ้านได้เลย
Just my little 2 cents :lol:
แหะ แหะ ห้องนอนผมเป็น 29" จอกลม(ภรรยาดูละครน้ำเน่าทุกวันที่อยู่บ้าน)
-
phobenius
- Verified User
- โพสต์: 1976
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 10
ส่วนตัวพึ่งซื้อมาใช้เหมือนกันจอLCD ผมเลือกใช้ของ JVC เพราะว่า บ้านผมใช้เคเบิลท้องถิ่นซึ่งสัญญาณไม่ดีมาก และตัว JVC มีตัวตัดNoise ออก และทำให้ภาพดูแล้วเนียนขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับ โดยเฉพาะช่องที่มีจุดๆขาวๆเยอะๆครับ ถ้าซื้อผมว่าก็ซื้อรุ่นที่ไม่น่าจะเกินสองหมื่นบาทนะครับ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจเวลามันลง เพราะจะว่าไปเทคโนโลยีที่สูงขึ้น เราไม่ได้ใช้เท่าไหร่หรอกครับ แต่สิ่งที่ได้คือ จอมันใหญ่ดูชัดเจนยิ่งขึ้น
-
house
- Verified User
- โพสต์: 683
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 11
จอคอมเจ๊งครับพี่chatchai เขียน:อยากเปลี่ยนเหมือนกัน แต่
โทรทัศน์เครื่องเดิมไม่ยอมเสียซักที ใช้เป็นสิบปีแล้ว
และ ยังลังเลอยู่ว่า จอ LCD เวลาดูช่องธรรมดา ภาพจะชัดน้อยลงแค่ไหน และสัดส่วนที่เพี้ยนไปจะมากแค่ไหน
คิดไป คิดมา ก็เลยรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะซื้อ ไม่มีความเหมาะสมที่จะซื้อ
แล้วคนส่วนใหญ่ที่ซื้อ LCD มีสาเหตุใด
อาจเป็นเพราะ ต้องการจอใหญ่ๆ (แต่รุ่นที่ขายได้ก็จอเล็กซะส่วนใหญ่) หรือคงดู DVD มากกว่า ช่องธรรมดา หรือ เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับห้อง
ผมเลยซื้อจอใหม่ ห้าพัน ติด tv tuner อีก 800 มีทีวีดูทันยูโรพอดี
ทำให้เต็มที่ เพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง
-
IWILLBEVI
- Verified User
- โพสต์: 363
- ผู้ติดตาม: 0
หลักการเลือก LCD TV
โพสต์ที่ 14
วันก่อนไปเห็นในเวปลงเรื่องการเลือก LCD TV ที่คุ้มค่าไว้ เลยเอามาแชร์กัน ต้องขออนุญาติเจ้าของบทความมา ณ.ที่นี้ เพราะจำไม่ได้จริงๆว่าเอามาจากไหน ส่วนตัวเพิ่งไปสอยมา 1 เครื่อง ของ LG โดยเน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก ไม่ติดยี่ห้อ ซื้อมาแล้วถูกใจครับ คุณภาพสุดยอดเทียบกับราคาที่จ่ายไป ลองดูนะครับ
เหตุผลที่คุณต้องซื้อ LCDTV
1. มีเงิน (อันนี้แน่นอนครับ)
2. อยากมีความสุขกับการดูภาพยนตร์จอใหญ่
3. คุณมีชุดโฮมเธียร์เตอร์ คุณมีเครื่องเล่น DVD หรือเครื่องเล่นเกมอย่าง PS3 และ Xbox360 (อันนี้สนับสนุนเลยครับ แจ่ม)
4. คุณไม่มีเวลาไปโรงภาพยนตร์ อยู่บ้านดูหนังกันทั้งครอบครัว
5. ยอมรับได้กับการรับชมสัญญาณโทรทัศน์จากช่องโทรทัศน์ในบ้านเราที่ความละเอียดต่ำได้ หากคุณชอบดูละครจับฉ่ายที่ฉายกันทุกวันนี้ ต้องบอกว่าเสียอารมณ์แน่ เพราะมันจะไม่ชัดดั่งหวังนะครับ เพราะสัญญาณภาพที่ส่งมาของช่องทีวีบ้านเรายังไม่รองรับนั่นเอง
สิ่งที่คุณควรจะพิจารณาก่อนการซื้อ LCDTV
ขนาด
แน่นอนครับ ผมเองก็ชอบโทรทัศน์จอใหญ่คุณเองก็เช่นกัน แปลกเหมือนกันนะครับ ตลกดีเวลาซื้อโทรทัศน์สักเครื่องเราๆ ท่านๆ จะมองขนาดของมันก่อนและจะเอาใหญ่ไว้ก่อนเท่าที่เงินจะมีนั่นแหละครับ ฮ่าๆ ซึ่ง LCDTV ในยุคนี้ให้คุณได้ แต่เรื่องขนาดและความใหญ่ของมันนั้นมีผลต่อภาพและการรับชมโดยตรงเลยนะครับ LCDTV มีขนาดตั้งแต่ 26 นิ้ว ถึง 40 นิ้วขึ้นไป ถ้าคุณซื้อ LCDTV ขนาดจอใหญ่คุณก็ต้องจ่ายหนักกว่าเดิม และสิ่งที่คุณจะต้องคิดเป็นลำดับต่อมาคือ ขนาดของห้องที่รับชมและระยะการรับชมของเราจะต้องสมดุลกับขนาดของ LCDTV ด้วย และผมได้หาระยะรับชมที่สัมพันธ์กับขนาดของ LCDTV มาให้เลือกตัดสินใจนะครับ
ขนาดจอภาพ ระยะการรับชม (หน่วยเป็นฟุต)
20 - 27 นิ้ว 2.5 - 5 ฟุต
32 - 37 นิ้ว 6 - 8 ฟุต
42 - 46 นิ้ว 10 -14 ฟุต
50 นิ้วขึ้นไป 12 - 16 ฟุต
และนี่เป็นระยะที่กำลังดี สำหรับการรับชม LCDTV ในขนาดต่างๆ แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาผมก็แนะนำว่าซื้อใหญ่ไว้ก่อนก็จะดี เผื่ออนาคตครับ
Contrast Ratio หรือค่าไดนามิกคอนทราสต์คืออะไร
Contrast Ratio หรือถ้าจะกระเดียดภาษาอังกฤษก็จะอ่านว่า คอนทราสต์ เร โช ค่านี้เป็นค่าความเปรียบต่างระหว่างสีขาวจัดและสีดำจัดครับ เราจะเห็นจากสเป็กของ LCDTV บ่อยครั้งเลยที่มีหลายๆ คนเข้าใจผิดครับคิดว่าค่านี้บ่งบอกถึงความคมชัดของภาพ ซึ่งจุดนี้ทางพนักงานเชียร์ขายของนั้นมักหยิบยกขึ้นมาพูดให้เรางงเล่นและพูดจนเราเออ ออ ห่อหมกตามไปด้วยว่ามันคือ ความคมชัด โถ พ่อค้าเมืองไทย ผมเองไปซื้อก็คุยกันแล้วก็เจอมากับตัวเช่นกันครับ เพราะแต่ละยี่ห้อนั้นจะออกมาชูประเด็นนี้กับตัวเลขที่มากกว่า มียี่ห้อหนึ่งตัวเลขสูงมากจนไม่น่าเชื่อ คำว่า Contrast หมายถึงค่าความต่างกันระหว่างขาวที่สุดจนถึงดำสุดๆ เราจึงเรียกว่าการตัดกันนั่นเอง แต่การตัดกันนั้นจะมากจะน้อยอยู่ที่ Ratio (เรโช) ยกตัวอย่างสเป็กของยี่ห้อดังที่เขียนว่ามี Contrast Ratio ที่ 1500:1 ค่านี้คือระยะห่างกันถึง 1500 ต่อ 1 และนี่คืออัตราส่วนของความเข้มของสีระหว่างอ่อนสุด ไปจนถึงเข้มสุดนั่นเอง หากใครมี Photoshop ลองเอารูปเข้าไปปรับ Contrast ดูก็ได้ครับ จะเห็นได้ชัด หรือง่ายๆ โทรทัศน์ธรรมดาที่บ้านท่านนั่นแหละ ลองปรับดูครับ และต้องแยกให้ออกนะครับระหว่างค่า Contrast กับค่า Brightness ที่หมายถึงความสว่าง แต่มีหลายๆ ยี่ห้อใช้ตัวเลขที่สูงจนดูดีทีเดียว อาทิ 7000:1 หรือ 4000:1 พวกนี้เขาวัดกันแบบที่เรียกว่า Full on-Full off ถ้าจะเปรียบให้เห็นก็ให้นึกถึง กำลังขับของเครื่องเสียงก็ได้ครับที่มีสองมาตรฐาน นั่นคือ RMS กับ PMPO ถ้าเป็น RMS นี่คือวัตต์แท้เสียงที่ได้เนื้อๆ แต่ถ้าเป็น PMPO จะเป็นการวัดความดังสุดๆ ของเครื่องเสียง หรือวัดแบบมั่วๆ นั่นเอง Contrast Ratio ของ LCDTV ที่เขียนไว้สูงเวอร์ก็เช่นกันครับ เอาเป็นค่านี้เอามากไว้ก่อน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้คุณตัดสินใจได้นะครับว่ามันจะดีหรือไม่ดี เพราะต้องดูประกอบกับค่าอื่นๆ ด้วย
Brightness ค่าความสว่าง
เมื่อสักครู่ได้กล่าวถึงเรื่อง Brightness กันมาจากด้านบนแล้วนิดหน่อย ค่านี้คือค่าความสว่างขอ LCDTV ด้วยธรรมชาติของจอ LCD นั้น ปกติแล้วจะค่อนข้างมืดไม่ค่อยสว่างนัก ดังนั้นจะมีชุดตัวเลขให้คุณสังเกตว่าจอนี้มีความสว่างขนาดไหน ยกตัวอย่าง 450cd/m2 ซึ่งตัวเลขชุดนี้ถือว่าสูงมากแล้วครับ แน่นอน LCDTV นั้นคุณต้องเอามาดูภาพยนตร์และรายการทีวี ค่านี้จำเป็นครับ ดูตัวเลขนี้ประกอบการซื้อด้วย ถ้าตอนนี้จะเอาให้ดีก็จะอยู่ที่ 450cd/m2
ความสว่าง มุมมอง และอัตราความคมชัด
เรื่องของความสว่างนั้นหลายคนมองว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่ผมว่าสำคัญนะครับ โดยเฉพาะการนำจอแอลซีดีไปดูหนัง หรือดูทีวี เพราะการดูภาพต่างๆ เหล่านี้ ปกติแล้วจะค่อนข้างมืดครับ และยิ่งเราไม่ได้นั่งใกล้ๆ จอภาพแล้ว จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ดังนั้นหากจอแอลซีดีที่มีความสว่างๆ สูงๆ ก็จะช่วยให้การใช้เพื่อดูหนัง ดูทีวี ทำได้ดียิ่งขึ้น ส่วนการใช้งานทั่วๆ ไปนั้นที่ความสว่างไม่สูงมากก็ใช้งานได้ดีอยู่แล้วครับ ในสเปกจะระบุค่าความสว่างเอาไว้แบบนี้ครับ Brightness 250 cd/m2 ค่านี้ยิ่งมีค่ามากก็แสดงว่าจอภาพนั้นมีความสว่างสูงมากครับ การใช้งานทั่วๆ ไปไม่ควรต่ำกว่า 250 cd/m2 การใช้เพื่อดูหนัง หรือดูทีวีควรจะอยู่ที่ 300 cd/m2 ขึ้นไปจนถึง 450 cd/m2 นะครับ ก่อนซื้ออย่าลืมพิจารณาในส่วนนี้ให้ดีด้วย
Response Time การตอบสนองของภาพ
Response Time อันนี้สิครับ พระเอกตัวจริง (ไม่ใช่อาสมบัตินะครับ) แต่เป็นค่าที่เราจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยครับ ค่านี้หมายถึง ค่าอัตราการตอบสนองภาพ หรือความเร็วในการแสดงผล ค่านี้ยิ่งตัวเลขน้อยก็ยิ่งดีครับ โดยจะมีหน่วยเป็น ms หรือมิลลิวินาที ค่านี้จำเป็นอย่างไร แน่นอนคุณต้องการจอ LCDTV ไปดูภาพยนตร์ เล่นเกม และดูละครที่ตบกันไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ได้เอาไปดูภาพนิ่งๆ นี่ครับ ถ้าซื้อไปดูแค่ภาพนิ่งๆ ค่านี้ไม่จำเป็นเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอเกมค่านี้สำคัญมาก เพราะมันจะบ่งบอกถึงความรวดเร็วในการแสดงผลภาพเคลื่อนไหวครับ ถ้าหาก LCDTV ตัวไหนที่เราดูภาพเคลื่อนไหวอย่างดูฟุตบอล แล้วเห็นนักเตะวิ่งอยู่ในสนามแล้วมีเงาดำๆ วิ่งตามหลังนักเตะ อันนั้นไม่ใช่อภินิหารนะครับ แต่เป็นสิ่งที่เขาเรียกกันว่า Ghosting หรือไทยๆ เราเรียกผีนี่แหละ เวลาไปเลือกซื้อ ให้เขาฉายหนังที่มีการขยับภาพเร็วๆ นะครับ เอาแบบที่แพนกล้องฉึบฉับไปมา เราจะสังเกตเห็นทันทีว่าบางทีภาพใน LCDTV ที่มี Response Time ตัวเลขเยอะๆ นั้นจะแสดงผลไม่ทันครับ ส่งผลให้คุณดูไปนานๆ แล้วตาลาย ตาพร่าได้เลย ณ ปัจจุบัน แต่ละยี่ห้อก็แข่งกันอยู่ที่ 8ms (มิลลิวินาที) จะมียี่ห้อหนึ่งไม่ออกนาม จะทำได้ที่ 6ms แต่เท่าที่ผมได้ทดสอบกับการเล่นเกมแล้ว พอๆ กัน ไม่หนีกันเท่าไหร่ ฉะนั้นค่านี้หากคุณหาตัวเลขได้น้อยก็ยิ่งดีครับ
Viewing Angle องศาและมุมรับชมภาพ
หลายๆ ครั้งเราคงไม่ได้ชมภาพยนตร์หรือรายการทีวีหรือเล่นเกมจากจอ LCDTV อยู่เพียงผู้เดียว ถ้าหากคุณมีเพื่อนๆ มาเที่ยวบ้านหรืออยู่กับครอบครัว ถ้าเป็นสมัยยุค LCD แรกๆ คุณจะไม่สามารถดูหน้าจอ LCD ได้เลยจากในมุมอื่นๆ ที่ไม่ใช่มุมตรงๆ แต่ด้วยการพัฒนามากขึ้นจึงทำให้ LCDTV นั้นมีมุมการรับชมภาพกว้างเกือบจะเป็นครึ่งวงกลม จึงทำให้คุณสามารถชมภาพจากหน้าจอ LCDTV ได้จากทุกตำแหน่งที่คุณนั่งชมนั่นเอง และ ณ ปัจจุบันแต่ละค่ายนั้นมีมุมรับชมภาพกว้างถึง 170 องศาขึ้นไป เวลาไปซื้อ อย่าไปยืนจ้องตรงๆ เพียงอย่างเดียวนะครับ ถอยออกมาให้ห่างนิดหน่อย แล้วเดินไปทางซ้ายที ขวาที เพื่อดูภาพจากจอ LCDTV ว่าคุณภาพความสว่างมันลดลงหรือไม่ ถ้าคุณอยู่เฉียงๆ กับจอภาพทั้งซ้ายและขวายังดูแล้วภาพยังชัด ความสว่างยังโอเค ให้ความรู้สึกเหมือนกับดูตรงๆ ก็ถือว่า โอเคครับ
HD Ready และ Full HD
HD Ready คำนี้เห็นมานานแล้วครับตอนนี้มีอีกคำเพิ่มเข้ามาคือ Full HD อย่าไปสับสนปนกันนะครับ และแถมยังมี HDTV อีก ว่ากันเป็นคำๆ ไปนะครับ HD Ready ถ้าเป็น LCDTV ปัจจุบันรองรับระบบนี้ทุกตัวแล้วคำว่า HD ย่อมาจากคำว่า High-definition หรือสัญญาณภาพที่ให้ความคมชัดสูงครับ HD Ready หมายถึงพร้อมสำหรับภาพความละเอียดสูง คือแค่พร้อมนะครับ มันจะทำความละเอียดได้เต็มที่เลยคือ 720p กับ 1080i (ตัวอักษร i และ p ขออธิบายทีหลังนะครับ) โดยถ้าสัญญาณที่ส่งมาจากตัวเครื่องเล่น DVD ของคุณเกินกว่าความละเอียดนี้ มันก็จะปรับลดสเกลลงให้พอดีกับความละเอียดจอภาพครับ สำหรับคำว่า Full HD กับตัวเลข 1080p ที่หลายๆ ยี่ห้อเอามาแปะอย่างกับใบ้หวย ตัวเบ้อเริ่มเลย ในที่นี้หมายถึง LCDTV เครื่องนี้รองรับภาพในความละเอียดที่ 1920 x 1080 ซึ่งถือว่าเป็นความละเอียดสูงสุดของการส่งสัญญาณภาพแบบ High-definition ซึ่งมีช่องทีวีในยุโรปให้บริการการส่งสัญญาณภาพคมชัดสูงนี้แล้วในรายการทีวีทั่วๆ ไป
แล้วคำว่า i กับ p ที่ต่อท้ายตัวเลขนั้น ก็คือ i ย่อมาจาก Interlaced หมายถึง แสดงภาพแบบสลับเส้น เช่นในการส่งสัญญาณภาพโทรทัศน์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะใช้การแสดงภาพแบบ 625 เส้น และสลับกันสแกน ภาพจากหน้าจอที่เห็นจะเกิดจากการสแกนให้เกิดภาพ 2 รอบ โดยที่รอบแรกจะสแกนเส้นคู่ คือ 2,4, 6... จนครบ 624 รอบที่สองจะสแกน เส้นคี่คือ 1,3,5... .จนครบ 625
ส่วนตัว p ที่ต่อท้ายตัวเลข 1080p นั้นย่อมาจาก Progressive Scan คือ การแสดงภาพเต็มเฟรมในเวลาเดียวกันเลยต่างจาก Interlaced ที่แสดงภาพพื้นี่แค่เพียงส่วนเดียว โดย Progressive Scan นั้นจะวาดภาพที่แสดงนั้น 60เฟรมเต็มต่อวินาที แต่ใน Interlaced จะแสดงแบบ 60 ครึ่งเฟรมต่อวินาที จึงทำให้ภาพที่ได้นั้นไร้การสั่นไหว และเคลื่อนไหวอย่างราบรื่น จึงทำให้ดูคมชัดขึ้น
LCDTV ที่มีขายอยู่ในปัจจุบันนั้น ถ้าเป็นรุ่นที่รองรับ Full HD หรือ 1080p ตอนนี้ราคาจะค่อนข้างสูงอยู่ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนนั้นก็ลดลงมาเยอะทีเดียว ราคาในรุ่น 40 นิ้วของค่ายจากเกาหลี ก็ตกลงมาเหลือที่ประมาณ 79000 บาท แต่ถามว่าคุณจำเป็นขนาดไหนกับ Full HD และคุ้มค่าหรือไม่กับการเสียเงินเพิ่มอีกเกือบครึ่ง ก็ต้องถามตัวเองกลับครับว่า คุณมีเครื่องเล่น DVD ในระดับ Full HD หรือไม่ ถ้าไม่มีซื้อ LCDTV ที่รองรับ Full HD ไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้าคุณบอกว่าจะเอามาเล่นเกมอย่างเครื่อง Xbox360 หรือ PS3 ก็ค่อยสมเหตุสมผล แต่ผมก็ดูแล้วว่าเกมที่มีออกมารองรับความละเอียดสูงระดับ 1080p ยังน้อยอยู่ ไม่คุ้มครับ แต่ถ้าเงินถึงก็ไม่ว่ากัน จัดไปครับ
ฟังค์ชั่นและการเชื่อมต่อ เอาที่ต่อได้เยอะไว้ก่อน
การเชื่อมต่อช่องสัญญาณตรงนี้ถือว่าเป็นจุดหนึ่งในการเลือกซื้อครับ ดูที่มีช่องเยอะไว้ก่อน ช่อง DVD Component มีไว้สัก 2 ช่อง ช่อง AV นี่เยอะไว้ก่อนเลยครับยิ่งมีที่ข้างเครื่องได้ก็ดีเอาไว้ต่อดูภาพจากกล้องดิจิตอลได้ พอร์ตเชื่อมต่อกับ PC และที่ต้องมีสำหรับ LCDTV ใหม่ๆ เลยคือ พอร์ต HDMI ซึ่งพอร์ตนี้จะสามารถส่งสัญญาณภาพที่ไม่โดนกรองสัญญาณดิจิตอลออกเลย ซึ่งส่งสัญญาณทั้งภาพและเสียงเป็นสัญญาณดิจิตอลคุณภาพสูง แต่คุณก็ต้องมีเครื่องเล่นที่รองรับ HDMI ด้วยเช่นกัน สำหรับความคมชัดนั้น ถ้าเอาจากตาเนื้อๆ บ้านๆ อย่างผม ผมว่ามันพอๆ กันกับ DVD Component ครับ
เรื่องการรับประกันอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องเลือก
LCDTV มันคืออุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งครับ ฉะนั้นการรับประกันเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ควรซื้อของที่ได้รับการรับประกันจากศูนย์บริการโดยตรงครับ และตรงนี้จะเป็นตัวตัดสินได้ครับว่าคุณจะเลือกยี่ห้อใด เพราะการบริการของศูนย์บริการแต่ละค่ายก็มีมาตรฐานแตกต่างกัน ผมไม่อยากเอามาชำแหละตรงนี้นะครับ เอาเป็นว่าคุณลองโทรไปที่ศูนย์บริการแต่ละยี่ห้อแล้วลองพูดคุยดูครับ การบริการสำคัญมากครับเพราะของไม่ใช่ถูกๆ สำหรับการรับประกันนั้นก็เต็มที่ 1 ปี และมีหลายๆ ค่ายที่สามารถซื้อประกันเพิ่มได้ครับ ขั้นตอนสุดท้ายในตอนซื้อมา คุณควรตรวจเช็คสภาพจอ LCDTV ให้ดีว่ามีรอยบุบ ยุบตรงไหน และเปิดจอดำเพื่อเช็ค Bad Pixel ครับ ตรงนี้ดูด้วยตาเปล่าก็พอเห็นครับ ดูตรงไหนมีจุดสีแปลกๆ หรือจุดสีขาวขึ้นมาก็ไม่เอาครับ เปลี่ยนตัวใหม่เลย
ระบบเสียงที่คุณต้องได้
เมื่อพูดถึง LCDTV หลายๆ คนเวลาซื้อมัวแต่มองภาพ ไม่ได้ฟังเสียงว่าเป็นอย่างไร เป็นจุดหนึ่งเลยนะครับที่ต้องดูให้ดี สเป็กอย่างน้อยของ LCDTV กับระบบเสียงที่ได้ก็ต้องเป็น Dolby Pro Logic II ที่สามารถจำลองเสียงแบบ 5.1 ได้ หรือ SRS TruSurround XT และ BBE ตรงนี้ดูที่มันลูกเล่นเยอะไว้ก็ดีครับ แต่ถ้าบอกว่าที่บ้านมีชุดโฮมเธียร์เตอร์อยู่แล้วก็มองไว้เป็นของแถม
เคล็ดไม่ลับของนักเล่นมอนิเตอร์
แต่งกายสุภาพ ผมล้อเล่นแต่มันก็เกิดขึ้นจริงนะครับ ก่อนซื้อผมไปเดินดูที่ศูนย์แห่งหนึ่งแต่งตัวตามแบบฉบับ Be my Self น่ะครับ เซอๆ แต่ไม่สกปรกนะครับ ก็เสื้อยืดกางเกงยีนส์รองเท้าแตะไม่ใช่แกมโบด้วยเลยไม่เท่ พนักงานงี้ไม่อยากจะบริการเลยครับมันก็แปลกดี ผมไปยืนอยู่ตั้งนานจนทนไม่ไหวต้องเรียกท่านๆ เข้ามาคุยด้วย และหลังจากลองโน่นลองนี่เสร็จ ผมก็บอกท่านๆ เขาไปว่าเอาตัวนี้เลย ยังทำหน้างงๆ กันอีกครับ เอ้อแปลกดี ผมเลยถามว่าจะจ่ายตังค์สด เพราะผมผ่อนไม่ไหวไม่อยากเป็นหนี้ครับ เอาเงินที่ยัดตุ่มไว้นานแสนนานมาใช้ ท่านๆ รีบประเคน คราวนี้มากันทั้งทีม แทบจะอุ้ม เฮ้อ คนเรานะครับ
เอาล่ะโม้มามากแล้ว เวลาไปซื้อนะครับอันนี้เป็นเทคนิคของพวกนักเล่นพวกจอเลย เขาบอกว่าให้เอา VCD ครับ คาราโอเกะก็ได้ ที่เราเคยๆ ดูชินตาแล้ว ไปลองครับ ท่านกูรูท่านี้ได้สอนผมว่า อย่าไปดูภาพยนตร์ตัวอย่างที่มันฉาย เพราะแน่นอนเครื่องส่งของเขามันต้องเป็นเครื่องส่งระดับ HD และเปิดภาพยนตร์ตัวอย่างที่มีความละเอียดสูง ถ่ายมาเพื่อการนำมาโชว์ใน LCDTV โดยเฉพาะ ดังนั้นมันชัดเป๊ะอยู่แล้ว ถ้าจอ LCDTV มันดีจริง ต้องดู VCD ชัดในระดับหนึ่ง (แค่ระดับหนึ่งนะครับ) เขาแนะนำว่าคาราโอเกะแน่นอน เพราะมีตัวหนังสือ ผมเลยจัดแจง ก๊อต จักรพรรณ สิครับบอกน้องจัดก๊อตให้พี่ดูหน่อย คราวนี้บริการดีเลยหาที่นั่งเปิด ก๊อต จักรพรรณ แถมยังถามว่าพี่จะเอาไมค์ด้วยมั้ย แหม... ผมว่าขอดูอย่างเดียวครับ อายคนอื่นเขา ก็นั่งดูครับ ผมก็ดูตัวหนังสือที่ขึ้นมาเป็นเนื้อเพลงนั่นแหละดูว่ามันเนียนไหม มีรอยหยักหรือไม่ ถ้ามันเนียนดี รอยหยักน้อย ตัวหนังสือคมชัดก็โอเค อันนี้ไปลองกับหลายๆ ยี่ห้อ ผลต่างกันครับ เอ้อ เป็นไปได้ และลองนั่งชมภาพยนตร์ DVD ที่เตรียมไปครับ ดูมิติภาพ ดูฉากด้านหลังว่ามันยังเห็นรายละเอียดอยู่หรือไม่ เช่น ฉากหลังเป็นกระถางต้นไม้ มีต้นไม้ ก็ต้องเห็นรายละเอียดว่าเป็นกระถางมีต้นไม้ ไม่ใช่เห็นเป็นก้อนหินแดงแล้วมีเขียวๆ โปะอยู่ข้างบน อันนี้ใช้ไม่ได้ ถ้า LCDTV มันโชว์รายละเอียดฉากหลังได้ดีก็โอเคครับ อันนี้ดูกันแบบบ้านๆ เลยนะครับ จากนั้นเอารีโมทมาลอง ปรับคอนทราสต์ดู แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คิดไว้คือ เทคนิคการขายของนั้น พนักงานเขาจะปรับคอนทราสต์ และสีสัน รวมถึงความสว่างเอาแบบสุดๆ เพื่อให้ภาพที่ออกมาดูเด่น ดังนั้นเราก็ปรับค่าเหล่านี้ลงเพื่อดูว่าถ้าปรับลงมาแล้วภาพที่ได้ยังเป็นที่น่าพอใจสำหรับเราหรือไม่ครับ หลังจากทดลองตามนี้แล้วก็จ่ายเงิน การเลือกซื้อ LCDTV สำคัญที่สุดคือตาเราเองนี่แหละครับ พอใจไม่พอใจ แล้วค่อยดูสเป็กประกอบกันไป ขอให้ทุกท่านได้จอ LCDTV มาดูภาพยนตร์สมใจละกัน และได้จอคุณภาพครับ ผมว่าอีกหน่อยโรงภาพยนตร์น่าจะรายได้หดหายนะ ว่าแล้วหนีไปเล่นเกมดีกว่าครับ
=====================================
ปุจฉา วิสัชนา LCDTV
Q: จอ LCDTV ที่เป็น HD Ready นั้นจะมีค่าความละเอียดสูงสุดที่ 720p และ 1080i อันไหนชัดกว่ากันละครับท่าน
A: ถ้าจะเอาลื่นไหล ภาพชัดราบรื่นปรับเป็น 720p จะให้ภาพที่ดีกว่า เหมาะสำหรับการเล่นเกมมากครับ
Q: เครื่อง PlayStation 2 เล่นบน LCDTV ดูไม่ได้เลยครับ
A: ลองไปหาสาย DVD Component มาใช้ครับ จะทำให้พอดูได้ขึ้นกว่าเดิม แต่เกม PlayStation 2 ผมว่าไม่เหมาะกับ LCDTV ครับ เพราะความละเอียดของเกมที่สร้างมามันไม่ถึงขั้น ถ้าซื้อมาเพื่อ PlayStation 2 ผมไม่แนะนำให้ซื้อ LCDTV
Q: งงครับ DVI พอร์ต กับ HDMI ต่างกันอย่างไร
A: ง่ายๆ เลยครับ DVI ส่งสัญญาณภาพแบบดิจิตอลเต็มภาพอย่างเดียวเสียงไม่เกี่ยว แต่ HDMI จะส่งสัญญาณภาพและเสียงเป็นดิจิตอลแบบเต็มๆ ไม่มีการกรองสัญญาณใดๆ ครับ เสียงจะนิ้งมาก
เหตุผลที่คุณต้องซื้อ LCDTV
1. มีเงิน (อันนี้แน่นอนครับ)
2. อยากมีความสุขกับการดูภาพยนตร์จอใหญ่
3. คุณมีชุดโฮมเธียร์เตอร์ คุณมีเครื่องเล่น DVD หรือเครื่องเล่นเกมอย่าง PS3 และ Xbox360 (อันนี้สนับสนุนเลยครับ แจ่ม)
4. คุณไม่มีเวลาไปโรงภาพยนตร์ อยู่บ้านดูหนังกันทั้งครอบครัว
5. ยอมรับได้กับการรับชมสัญญาณโทรทัศน์จากช่องโทรทัศน์ในบ้านเราที่ความละเอียดต่ำได้ หากคุณชอบดูละครจับฉ่ายที่ฉายกันทุกวันนี้ ต้องบอกว่าเสียอารมณ์แน่ เพราะมันจะไม่ชัดดั่งหวังนะครับ เพราะสัญญาณภาพที่ส่งมาของช่องทีวีบ้านเรายังไม่รองรับนั่นเอง
สิ่งที่คุณควรจะพิจารณาก่อนการซื้อ LCDTV
ขนาด
แน่นอนครับ ผมเองก็ชอบโทรทัศน์จอใหญ่คุณเองก็เช่นกัน แปลกเหมือนกันนะครับ ตลกดีเวลาซื้อโทรทัศน์สักเครื่องเราๆ ท่านๆ จะมองขนาดของมันก่อนและจะเอาใหญ่ไว้ก่อนเท่าที่เงินจะมีนั่นแหละครับ ฮ่าๆ ซึ่ง LCDTV ในยุคนี้ให้คุณได้ แต่เรื่องขนาดและความใหญ่ของมันนั้นมีผลต่อภาพและการรับชมโดยตรงเลยนะครับ LCDTV มีขนาดตั้งแต่ 26 นิ้ว ถึง 40 นิ้วขึ้นไป ถ้าคุณซื้อ LCDTV ขนาดจอใหญ่คุณก็ต้องจ่ายหนักกว่าเดิม และสิ่งที่คุณจะต้องคิดเป็นลำดับต่อมาคือ ขนาดของห้องที่รับชมและระยะการรับชมของเราจะต้องสมดุลกับขนาดของ LCDTV ด้วย และผมได้หาระยะรับชมที่สัมพันธ์กับขนาดของ LCDTV มาให้เลือกตัดสินใจนะครับ
ขนาดจอภาพ ระยะการรับชม (หน่วยเป็นฟุต)
20 - 27 นิ้ว 2.5 - 5 ฟุต
32 - 37 นิ้ว 6 - 8 ฟุต
42 - 46 นิ้ว 10 -14 ฟุต
50 นิ้วขึ้นไป 12 - 16 ฟุต
และนี่เป็นระยะที่กำลังดี สำหรับการรับชม LCDTV ในขนาดต่างๆ แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาผมก็แนะนำว่าซื้อใหญ่ไว้ก่อนก็จะดี เผื่ออนาคตครับ
Contrast Ratio หรือค่าไดนามิกคอนทราสต์คืออะไร
Contrast Ratio หรือถ้าจะกระเดียดภาษาอังกฤษก็จะอ่านว่า คอนทราสต์ เร โช ค่านี้เป็นค่าความเปรียบต่างระหว่างสีขาวจัดและสีดำจัดครับ เราจะเห็นจากสเป็กของ LCDTV บ่อยครั้งเลยที่มีหลายๆ คนเข้าใจผิดครับคิดว่าค่านี้บ่งบอกถึงความคมชัดของภาพ ซึ่งจุดนี้ทางพนักงานเชียร์ขายของนั้นมักหยิบยกขึ้นมาพูดให้เรางงเล่นและพูดจนเราเออ ออ ห่อหมกตามไปด้วยว่ามันคือ ความคมชัด โถ พ่อค้าเมืองไทย ผมเองไปซื้อก็คุยกันแล้วก็เจอมากับตัวเช่นกันครับ เพราะแต่ละยี่ห้อนั้นจะออกมาชูประเด็นนี้กับตัวเลขที่มากกว่า มียี่ห้อหนึ่งตัวเลขสูงมากจนไม่น่าเชื่อ คำว่า Contrast หมายถึงค่าความต่างกันระหว่างขาวที่สุดจนถึงดำสุดๆ เราจึงเรียกว่าการตัดกันนั่นเอง แต่การตัดกันนั้นจะมากจะน้อยอยู่ที่ Ratio (เรโช) ยกตัวอย่างสเป็กของยี่ห้อดังที่เขียนว่ามี Contrast Ratio ที่ 1500:1 ค่านี้คือระยะห่างกันถึง 1500 ต่อ 1 และนี่คืออัตราส่วนของความเข้มของสีระหว่างอ่อนสุด ไปจนถึงเข้มสุดนั่นเอง หากใครมี Photoshop ลองเอารูปเข้าไปปรับ Contrast ดูก็ได้ครับ จะเห็นได้ชัด หรือง่ายๆ โทรทัศน์ธรรมดาที่บ้านท่านนั่นแหละ ลองปรับดูครับ และต้องแยกให้ออกนะครับระหว่างค่า Contrast กับค่า Brightness ที่หมายถึงความสว่าง แต่มีหลายๆ ยี่ห้อใช้ตัวเลขที่สูงจนดูดีทีเดียว อาทิ 7000:1 หรือ 4000:1 พวกนี้เขาวัดกันแบบที่เรียกว่า Full on-Full off ถ้าจะเปรียบให้เห็นก็ให้นึกถึง กำลังขับของเครื่องเสียงก็ได้ครับที่มีสองมาตรฐาน นั่นคือ RMS กับ PMPO ถ้าเป็น RMS นี่คือวัตต์แท้เสียงที่ได้เนื้อๆ แต่ถ้าเป็น PMPO จะเป็นการวัดความดังสุดๆ ของเครื่องเสียง หรือวัดแบบมั่วๆ นั่นเอง Contrast Ratio ของ LCDTV ที่เขียนไว้สูงเวอร์ก็เช่นกันครับ เอาเป็นค่านี้เอามากไว้ก่อน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้คุณตัดสินใจได้นะครับว่ามันจะดีหรือไม่ดี เพราะต้องดูประกอบกับค่าอื่นๆ ด้วย
Brightness ค่าความสว่าง
เมื่อสักครู่ได้กล่าวถึงเรื่อง Brightness กันมาจากด้านบนแล้วนิดหน่อย ค่านี้คือค่าความสว่างขอ LCDTV ด้วยธรรมชาติของจอ LCD นั้น ปกติแล้วจะค่อนข้างมืดไม่ค่อยสว่างนัก ดังนั้นจะมีชุดตัวเลขให้คุณสังเกตว่าจอนี้มีความสว่างขนาดไหน ยกตัวอย่าง 450cd/m2 ซึ่งตัวเลขชุดนี้ถือว่าสูงมากแล้วครับ แน่นอน LCDTV นั้นคุณต้องเอามาดูภาพยนตร์และรายการทีวี ค่านี้จำเป็นครับ ดูตัวเลขนี้ประกอบการซื้อด้วย ถ้าตอนนี้จะเอาให้ดีก็จะอยู่ที่ 450cd/m2
ความสว่าง มุมมอง และอัตราความคมชัด
เรื่องของความสว่างนั้นหลายคนมองว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่ผมว่าสำคัญนะครับ โดยเฉพาะการนำจอแอลซีดีไปดูหนัง หรือดูทีวี เพราะการดูภาพต่างๆ เหล่านี้ ปกติแล้วจะค่อนข้างมืดครับ และยิ่งเราไม่ได้นั่งใกล้ๆ จอภาพแล้ว จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ดังนั้นหากจอแอลซีดีที่มีความสว่างๆ สูงๆ ก็จะช่วยให้การใช้เพื่อดูหนัง ดูทีวี ทำได้ดียิ่งขึ้น ส่วนการใช้งานทั่วๆ ไปนั้นที่ความสว่างไม่สูงมากก็ใช้งานได้ดีอยู่แล้วครับ ในสเปกจะระบุค่าความสว่างเอาไว้แบบนี้ครับ Brightness 250 cd/m2 ค่านี้ยิ่งมีค่ามากก็แสดงว่าจอภาพนั้นมีความสว่างสูงมากครับ การใช้งานทั่วๆ ไปไม่ควรต่ำกว่า 250 cd/m2 การใช้เพื่อดูหนัง หรือดูทีวีควรจะอยู่ที่ 300 cd/m2 ขึ้นไปจนถึง 450 cd/m2 นะครับ ก่อนซื้ออย่าลืมพิจารณาในส่วนนี้ให้ดีด้วย
Response Time การตอบสนองของภาพ
Response Time อันนี้สิครับ พระเอกตัวจริง (ไม่ใช่อาสมบัตินะครับ) แต่เป็นค่าที่เราจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยครับ ค่านี้หมายถึง ค่าอัตราการตอบสนองภาพ หรือความเร็วในการแสดงผล ค่านี้ยิ่งตัวเลขน้อยก็ยิ่งดีครับ โดยจะมีหน่วยเป็น ms หรือมิลลิวินาที ค่านี้จำเป็นอย่างไร แน่นอนคุณต้องการจอ LCDTV ไปดูภาพยนตร์ เล่นเกม และดูละครที่ตบกันไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ได้เอาไปดูภาพนิ่งๆ นี่ครับ ถ้าซื้อไปดูแค่ภาพนิ่งๆ ค่านี้ไม่จำเป็นเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอเกมค่านี้สำคัญมาก เพราะมันจะบ่งบอกถึงความรวดเร็วในการแสดงผลภาพเคลื่อนไหวครับ ถ้าหาก LCDTV ตัวไหนที่เราดูภาพเคลื่อนไหวอย่างดูฟุตบอล แล้วเห็นนักเตะวิ่งอยู่ในสนามแล้วมีเงาดำๆ วิ่งตามหลังนักเตะ อันนั้นไม่ใช่อภินิหารนะครับ แต่เป็นสิ่งที่เขาเรียกกันว่า Ghosting หรือไทยๆ เราเรียกผีนี่แหละ เวลาไปเลือกซื้อ ให้เขาฉายหนังที่มีการขยับภาพเร็วๆ นะครับ เอาแบบที่แพนกล้องฉึบฉับไปมา เราจะสังเกตเห็นทันทีว่าบางทีภาพใน LCDTV ที่มี Response Time ตัวเลขเยอะๆ นั้นจะแสดงผลไม่ทันครับ ส่งผลให้คุณดูไปนานๆ แล้วตาลาย ตาพร่าได้เลย ณ ปัจจุบัน แต่ละยี่ห้อก็แข่งกันอยู่ที่ 8ms (มิลลิวินาที) จะมียี่ห้อหนึ่งไม่ออกนาม จะทำได้ที่ 6ms แต่เท่าที่ผมได้ทดสอบกับการเล่นเกมแล้ว พอๆ กัน ไม่หนีกันเท่าไหร่ ฉะนั้นค่านี้หากคุณหาตัวเลขได้น้อยก็ยิ่งดีครับ
Viewing Angle องศาและมุมรับชมภาพ
หลายๆ ครั้งเราคงไม่ได้ชมภาพยนตร์หรือรายการทีวีหรือเล่นเกมจากจอ LCDTV อยู่เพียงผู้เดียว ถ้าหากคุณมีเพื่อนๆ มาเที่ยวบ้านหรืออยู่กับครอบครัว ถ้าเป็นสมัยยุค LCD แรกๆ คุณจะไม่สามารถดูหน้าจอ LCD ได้เลยจากในมุมอื่นๆ ที่ไม่ใช่มุมตรงๆ แต่ด้วยการพัฒนามากขึ้นจึงทำให้ LCDTV นั้นมีมุมการรับชมภาพกว้างเกือบจะเป็นครึ่งวงกลม จึงทำให้คุณสามารถชมภาพจากหน้าจอ LCDTV ได้จากทุกตำแหน่งที่คุณนั่งชมนั่นเอง และ ณ ปัจจุบันแต่ละค่ายนั้นมีมุมรับชมภาพกว้างถึง 170 องศาขึ้นไป เวลาไปซื้อ อย่าไปยืนจ้องตรงๆ เพียงอย่างเดียวนะครับ ถอยออกมาให้ห่างนิดหน่อย แล้วเดินไปทางซ้ายที ขวาที เพื่อดูภาพจากจอ LCDTV ว่าคุณภาพความสว่างมันลดลงหรือไม่ ถ้าคุณอยู่เฉียงๆ กับจอภาพทั้งซ้ายและขวายังดูแล้วภาพยังชัด ความสว่างยังโอเค ให้ความรู้สึกเหมือนกับดูตรงๆ ก็ถือว่า โอเคครับ
HD Ready และ Full HD
HD Ready คำนี้เห็นมานานแล้วครับตอนนี้มีอีกคำเพิ่มเข้ามาคือ Full HD อย่าไปสับสนปนกันนะครับ และแถมยังมี HDTV อีก ว่ากันเป็นคำๆ ไปนะครับ HD Ready ถ้าเป็น LCDTV ปัจจุบันรองรับระบบนี้ทุกตัวแล้วคำว่า HD ย่อมาจากคำว่า High-definition หรือสัญญาณภาพที่ให้ความคมชัดสูงครับ HD Ready หมายถึงพร้อมสำหรับภาพความละเอียดสูง คือแค่พร้อมนะครับ มันจะทำความละเอียดได้เต็มที่เลยคือ 720p กับ 1080i (ตัวอักษร i และ p ขออธิบายทีหลังนะครับ) โดยถ้าสัญญาณที่ส่งมาจากตัวเครื่องเล่น DVD ของคุณเกินกว่าความละเอียดนี้ มันก็จะปรับลดสเกลลงให้พอดีกับความละเอียดจอภาพครับ สำหรับคำว่า Full HD กับตัวเลข 1080p ที่หลายๆ ยี่ห้อเอามาแปะอย่างกับใบ้หวย ตัวเบ้อเริ่มเลย ในที่นี้หมายถึง LCDTV เครื่องนี้รองรับภาพในความละเอียดที่ 1920 x 1080 ซึ่งถือว่าเป็นความละเอียดสูงสุดของการส่งสัญญาณภาพแบบ High-definition ซึ่งมีช่องทีวีในยุโรปให้บริการการส่งสัญญาณภาพคมชัดสูงนี้แล้วในรายการทีวีทั่วๆ ไป
แล้วคำว่า i กับ p ที่ต่อท้ายตัวเลขนั้น ก็คือ i ย่อมาจาก Interlaced หมายถึง แสดงภาพแบบสลับเส้น เช่นในการส่งสัญญาณภาพโทรทัศน์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะใช้การแสดงภาพแบบ 625 เส้น และสลับกันสแกน ภาพจากหน้าจอที่เห็นจะเกิดจากการสแกนให้เกิดภาพ 2 รอบ โดยที่รอบแรกจะสแกนเส้นคู่ คือ 2,4, 6... จนครบ 624 รอบที่สองจะสแกน เส้นคี่คือ 1,3,5... .จนครบ 625
ส่วนตัว p ที่ต่อท้ายตัวเลข 1080p นั้นย่อมาจาก Progressive Scan คือ การแสดงภาพเต็มเฟรมในเวลาเดียวกันเลยต่างจาก Interlaced ที่แสดงภาพพื้นี่แค่เพียงส่วนเดียว โดย Progressive Scan นั้นจะวาดภาพที่แสดงนั้น 60เฟรมเต็มต่อวินาที แต่ใน Interlaced จะแสดงแบบ 60 ครึ่งเฟรมต่อวินาที จึงทำให้ภาพที่ได้นั้นไร้การสั่นไหว และเคลื่อนไหวอย่างราบรื่น จึงทำให้ดูคมชัดขึ้น
LCDTV ที่มีขายอยู่ในปัจจุบันนั้น ถ้าเป็นรุ่นที่รองรับ Full HD หรือ 1080p ตอนนี้ราคาจะค่อนข้างสูงอยู่ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนนั้นก็ลดลงมาเยอะทีเดียว ราคาในรุ่น 40 นิ้วของค่ายจากเกาหลี ก็ตกลงมาเหลือที่ประมาณ 79000 บาท แต่ถามว่าคุณจำเป็นขนาดไหนกับ Full HD และคุ้มค่าหรือไม่กับการเสียเงินเพิ่มอีกเกือบครึ่ง ก็ต้องถามตัวเองกลับครับว่า คุณมีเครื่องเล่น DVD ในระดับ Full HD หรือไม่ ถ้าไม่มีซื้อ LCDTV ที่รองรับ Full HD ไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้าคุณบอกว่าจะเอามาเล่นเกมอย่างเครื่อง Xbox360 หรือ PS3 ก็ค่อยสมเหตุสมผล แต่ผมก็ดูแล้วว่าเกมที่มีออกมารองรับความละเอียดสูงระดับ 1080p ยังน้อยอยู่ ไม่คุ้มครับ แต่ถ้าเงินถึงก็ไม่ว่ากัน จัดไปครับ
ฟังค์ชั่นและการเชื่อมต่อ เอาที่ต่อได้เยอะไว้ก่อน
การเชื่อมต่อช่องสัญญาณตรงนี้ถือว่าเป็นจุดหนึ่งในการเลือกซื้อครับ ดูที่มีช่องเยอะไว้ก่อน ช่อง DVD Component มีไว้สัก 2 ช่อง ช่อง AV นี่เยอะไว้ก่อนเลยครับยิ่งมีที่ข้างเครื่องได้ก็ดีเอาไว้ต่อดูภาพจากกล้องดิจิตอลได้ พอร์ตเชื่อมต่อกับ PC และที่ต้องมีสำหรับ LCDTV ใหม่ๆ เลยคือ พอร์ต HDMI ซึ่งพอร์ตนี้จะสามารถส่งสัญญาณภาพที่ไม่โดนกรองสัญญาณดิจิตอลออกเลย ซึ่งส่งสัญญาณทั้งภาพและเสียงเป็นสัญญาณดิจิตอลคุณภาพสูง แต่คุณก็ต้องมีเครื่องเล่นที่รองรับ HDMI ด้วยเช่นกัน สำหรับความคมชัดนั้น ถ้าเอาจากตาเนื้อๆ บ้านๆ อย่างผม ผมว่ามันพอๆ กันกับ DVD Component ครับ
เรื่องการรับประกันอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องเลือก
LCDTV มันคืออุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งครับ ฉะนั้นการรับประกันเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ควรซื้อของที่ได้รับการรับประกันจากศูนย์บริการโดยตรงครับ และตรงนี้จะเป็นตัวตัดสินได้ครับว่าคุณจะเลือกยี่ห้อใด เพราะการบริการของศูนย์บริการแต่ละค่ายก็มีมาตรฐานแตกต่างกัน ผมไม่อยากเอามาชำแหละตรงนี้นะครับ เอาเป็นว่าคุณลองโทรไปที่ศูนย์บริการแต่ละยี่ห้อแล้วลองพูดคุยดูครับ การบริการสำคัญมากครับเพราะของไม่ใช่ถูกๆ สำหรับการรับประกันนั้นก็เต็มที่ 1 ปี และมีหลายๆ ค่ายที่สามารถซื้อประกันเพิ่มได้ครับ ขั้นตอนสุดท้ายในตอนซื้อมา คุณควรตรวจเช็คสภาพจอ LCDTV ให้ดีว่ามีรอยบุบ ยุบตรงไหน และเปิดจอดำเพื่อเช็ค Bad Pixel ครับ ตรงนี้ดูด้วยตาเปล่าก็พอเห็นครับ ดูตรงไหนมีจุดสีแปลกๆ หรือจุดสีขาวขึ้นมาก็ไม่เอาครับ เปลี่ยนตัวใหม่เลย
ระบบเสียงที่คุณต้องได้
เมื่อพูดถึง LCDTV หลายๆ คนเวลาซื้อมัวแต่มองภาพ ไม่ได้ฟังเสียงว่าเป็นอย่างไร เป็นจุดหนึ่งเลยนะครับที่ต้องดูให้ดี สเป็กอย่างน้อยของ LCDTV กับระบบเสียงที่ได้ก็ต้องเป็น Dolby Pro Logic II ที่สามารถจำลองเสียงแบบ 5.1 ได้ หรือ SRS TruSurround XT และ BBE ตรงนี้ดูที่มันลูกเล่นเยอะไว้ก็ดีครับ แต่ถ้าบอกว่าที่บ้านมีชุดโฮมเธียร์เตอร์อยู่แล้วก็มองไว้เป็นของแถม
เคล็ดไม่ลับของนักเล่นมอนิเตอร์
แต่งกายสุภาพ ผมล้อเล่นแต่มันก็เกิดขึ้นจริงนะครับ ก่อนซื้อผมไปเดินดูที่ศูนย์แห่งหนึ่งแต่งตัวตามแบบฉบับ Be my Self น่ะครับ เซอๆ แต่ไม่สกปรกนะครับ ก็เสื้อยืดกางเกงยีนส์รองเท้าแตะไม่ใช่แกมโบด้วยเลยไม่เท่ พนักงานงี้ไม่อยากจะบริการเลยครับมันก็แปลกดี ผมไปยืนอยู่ตั้งนานจนทนไม่ไหวต้องเรียกท่านๆ เข้ามาคุยด้วย และหลังจากลองโน่นลองนี่เสร็จ ผมก็บอกท่านๆ เขาไปว่าเอาตัวนี้เลย ยังทำหน้างงๆ กันอีกครับ เอ้อแปลกดี ผมเลยถามว่าจะจ่ายตังค์สด เพราะผมผ่อนไม่ไหวไม่อยากเป็นหนี้ครับ เอาเงินที่ยัดตุ่มไว้นานแสนนานมาใช้ ท่านๆ รีบประเคน คราวนี้มากันทั้งทีม แทบจะอุ้ม เฮ้อ คนเรานะครับ
เอาล่ะโม้มามากแล้ว เวลาไปซื้อนะครับอันนี้เป็นเทคนิคของพวกนักเล่นพวกจอเลย เขาบอกว่าให้เอา VCD ครับ คาราโอเกะก็ได้ ที่เราเคยๆ ดูชินตาแล้ว ไปลองครับ ท่านกูรูท่านี้ได้สอนผมว่า อย่าไปดูภาพยนตร์ตัวอย่างที่มันฉาย เพราะแน่นอนเครื่องส่งของเขามันต้องเป็นเครื่องส่งระดับ HD และเปิดภาพยนตร์ตัวอย่างที่มีความละเอียดสูง ถ่ายมาเพื่อการนำมาโชว์ใน LCDTV โดยเฉพาะ ดังนั้นมันชัดเป๊ะอยู่แล้ว ถ้าจอ LCDTV มันดีจริง ต้องดู VCD ชัดในระดับหนึ่ง (แค่ระดับหนึ่งนะครับ) เขาแนะนำว่าคาราโอเกะแน่นอน เพราะมีตัวหนังสือ ผมเลยจัดแจง ก๊อต จักรพรรณ สิครับบอกน้องจัดก๊อตให้พี่ดูหน่อย คราวนี้บริการดีเลยหาที่นั่งเปิด ก๊อต จักรพรรณ แถมยังถามว่าพี่จะเอาไมค์ด้วยมั้ย แหม... ผมว่าขอดูอย่างเดียวครับ อายคนอื่นเขา ก็นั่งดูครับ ผมก็ดูตัวหนังสือที่ขึ้นมาเป็นเนื้อเพลงนั่นแหละดูว่ามันเนียนไหม มีรอยหยักหรือไม่ ถ้ามันเนียนดี รอยหยักน้อย ตัวหนังสือคมชัดก็โอเค อันนี้ไปลองกับหลายๆ ยี่ห้อ ผลต่างกันครับ เอ้อ เป็นไปได้ และลองนั่งชมภาพยนตร์ DVD ที่เตรียมไปครับ ดูมิติภาพ ดูฉากด้านหลังว่ามันยังเห็นรายละเอียดอยู่หรือไม่ เช่น ฉากหลังเป็นกระถางต้นไม้ มีต้นไม้ ก็ต้องเห็นรายละเอียดว่าเป็นกระถางมีต้นไม้ ไม่ใช่เห็นเป็นก้อนหินแดงแล้วมีเขียวๆ โปะอยู่ข้างบน อันนี้ใช้ไม่ได้ ถ้า LCDTV มันโชว์รายละเอียดฉากหลังได้ดีก็โอเคครับ อันนี้ดูกันแบบบ้านๆ เลยนะครับ จากนั้นเอารีโมทมาลอง ปรับคอนทราสต์ดู แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คิดไว้คือ เทคนิคการขายของนั้น พนักงานเขาจะปรับคอนทราสต์ และสีสัน รวมถึงความสว่างเอาแบบสุดๆ เพื่อให้ภาพที่ออกมาดูเด่น ดังนั้นเราก็ปรับค่าเหล่านี้ลงเพื่อดูว่าถ้าปรับลงมาแล้วภาพที่ได้ยังเป็นที่น่าพอใจสำหรับเราหรือไม่ครับ หลังจากทดลองตามนี้แล้วก็จ่ายเงิน การเลือกซื้อ LCDTV สำคัญที่สุดคือตาเราเองนี่แหละครับ พอใจไม่พอใจ แล้วค่อยดูสเป็กประกอบกันไป ขอให้ทุกท่านได้จอ LCDTV มาดูภาพยนตร์สมใจละกัน และได้จอคุณภาพครับ ผมว่าอีกหน่อยโรงภาพยนตร์น่าจะรายได้หดหายนะ ว่าแล้วหนีไปเล่นเกมดีกว่าครับ
=====================================
ปุจฉา วิสัชนา LCDTV
Q: จอ LCDTV ที่เป็น HD Ready นั้นจะมีค่าความละเอียดสูงสุดที่ 720p และ 1080i อันไหนชัดกว่ากันละครับท่าน
A: ถ้าจะเอาลื่นไหล ภาพชัดราบรื่นปรับเป็น 720p จะให้ภาพที่ดีกว่า เหมาะสำหรับการเล่นเกมมากครับ
Q: เครื่อง PlayStation 2 เล่นบน LCDTV ดูไม่ได้เลยครับ
A: ลองไปหาสาย DVD Component มาใช้ครับ จะทำให้พอดูได้ขึ้นกว่าเดิม แต่เกม PlayStation 2 ผมว่าไม่เหมาะกับ LCDTV ครับ เพราะความละเอียดของเกมที่สร้างมามันไม่ถึงขั้น ถ้าซื้อมาเพื่อ PlayStation 2 ผมไม่แนะนำให้ซื้อ LCDTV
Q: งงครับ DVI พอร์ต กับ HDMI ต่างกันอย่างไร
A: ง่ายๆ เลยครับ DVI ส่งสัญญาณภาพแบบดิจิตอลเต็มภาพอย่างเดียวเสียงไม่เกี่ยว แต่ HDMI จะส่งสัญญาณภาพและเสียงเป็นดิจิตอลแบบเต็มๆ ไม่มีการกรองสัญญาณใดๆ ครับ เสียงจะนิ้งมาก
-
value_vi
- Verified User
- โพสต์: 98
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 15
[quote="wattae"]ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าปริมาณการจำหน่ายโทรทัศน์ในกลุ่มแอลซีดีทีวีและสลิมฟิตทีวีจะเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุดในปี 2551 โดยมีแนวโน้มขยายตัวกว่า 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า [/quote]
คงจะมากกว่า 1 เท่าจริงจริงอ่ะครับเพราะปีที่แล้วบ้านผมไม่มีซักเครื่อง ... หลายหลายคนก็คงคิดรอจะซื้ออยู่เหมือนกัน หมายถึง lcd นะครับ ส่วนหุ้น draco ไม่รู้มีใครรอซื้ออยู่ป่าว อิอิ
คงจะมากกว่า 1 เท่าจริงจริงอ่ะครับเพราะปีที่แล้วบ้านผมไม่มีซักเครื่อง ... หลายหลายคนก็คงคิดรอจะซื้ออยู่เหมือนกัน หมายถึง lcd นะครับ ส่วนหุ้น draco ไม่รู้มีใครรอซื้ออยู่ป่าว อิอิ
-
i_sarut
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 16
ตอนนี้เห็นของซัมซุง 32 นิ้ว 19,900 สวยดีครับ :lol:
เดี๋ยวราคาเครื่องก็คงลงเรื่อยๆ
เดี๋ยวราคาเครื่องก็คงลงเรื่อยๆ
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
-
กุหลาบงามหลังฝน
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 17
นึกถึงตอนซื้อใหม่ๆของ sony :vm: :vm: :vm: :vm:Basketman เขียน:ตอนนี้เห็น LCD TV32" นิ้ว ไม่เกินสองหมื่นแล้ว
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 19
ผมยอมรับตรงๆ ว่าใช้เป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ในห้องรับแขก เพิ่งสอยมาเมื่อวานซืนสดๆ ร้อนๆ 7/6/08 จากเดิมตั้งใจสอย pana plasma 42 นิ้วรุ่นยอดนิยม ไปๆ มาๆ กลับสอย LG มาซะงั้นติดใจบอดี้กะฟังก์ชั่นการใช้งานที่อัดได้ เมื่อคืนนั่งดู DVD ต่อด้วยบอลยูโร ภาพคมชัดสะใจสุดๆ
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
-
MarginofSafety
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 21
พี่ที่ทำงานดูเหมือนจะซื้อตัวเดียวกันกับพี่บอยเหมือนกันครับ เพิ่งถอยมาเดือนที่แล้ว
มีบ่นนิดหน่อยว่า มีภาพค้างบ้างเวลาแช่ภาพนานๆ โดยเฉพาะโลโก้ต่างๆ
แต่โดยทั่วไปก็พอใจครับ โดยเฉพาะมี Harddisk อัดได้
ตอนนี้ผมชักจะเอียงๆไป LCD เหมือนกัน เห็นว่าเดี๋ยวอีกหน่อยก็มี 150 Hz
สรุปว่าไว้คอนโดเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยหาข้อมูลเปรียบเทียบอีกทีดีกว่า
ทั้งเทคโนโลยีและยี่ห้อครับ ที่แน่ๆคงได้ซื้อหลังพี่บาสครับ
มีบ่นนิดหน่อยว่า มีภาพค้างบ้างเวลาแช่ภาพนานๆ โดยเฉพาะโลโก้ต่างๆ
แต่โดยทั่วไปก็พอใจครับ โดยเฉพาะมี Harddisk อัดได้
ตอนนี้ผมชักจะเอียงๆไป LCD เหมือนกัน เห็นว่าเดี๋ยวอีกหน่อยก็มี 150 Hz
สรุปว่าไว้คอนโดเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยหาข้อมูลเปรียบเทียบอีกทีดีกว่า
ทั้งเทคโนโลยีและยี่ห้อครับ ที่แน่ๆคงได้ซื้อหลังพี่บาสครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
-
gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
โทรทัศน์ LCD
โพสต์ที่ 23
สงสัยปีนี้โทรทัศน์จอLCD ไม่ได้อนิสงค์บอล Euro วันนี้เจอคนงานที่ผลิตจอLCDของsumsung บอกว่าไม่ค่อยมีOTเลย orderน้อยกว่าช่วงต้นปี
โพสต์
23 โพสต์
• หน้า 1 จากทั้งหมด 1
บันทึกไม่สำเร็จ