คนสอบมหาลัยได้ แต่ครอบครัวส่งเรียนไม่ได้เพราะฐานะยากจนทำไงดี
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
คนสอบมหาลัยได้ แต่ครอบครัวส่งเรียนไม่ได้เพราะฐานะยากจนทำไงดี
โพสต์ที่ 2
ค่าเรียนควรจะแพงขึ้นตามค่าใช้จ่ายจริง
ซึ่งผมคิดว่าจริงๆแล้ว ไม่น่าจะต่ำกว่า 3-4หมื่นบาทต่อเทอม
ถ้าต้องการกำไรก็ควรตั้งค่าเล่าเรียนที่ 6-7หมื่นบาทต่อเทอม
แต่ควรจะมีทุนเรียนฟรีในจำนวนที่มากขึ้นมากๆ
เช่นนักศึกษา 1000 คน ควรมีทุนฟรีที่พอ cover ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เป็น option ให้ขอได้อย่างน้อย 600-700 ทุน
ปัญหาคือเงินทุนเรียนฟรีส่วนนี้จะมาจากตรงไหน
เคยดู model ของ ivy school ทั้งหลายเช่น Harvard,Princton,Columbia
เขามีกองทุนขนาดยักษ์(หลัก Billion $)
ที่ลงทุนในการลงทุนหลายรูปแบบ
เช่น หุ้นทั้งในและนอกตลาด commodity bond property
กองทุนนี้เงินเริ่มต้นมาจากเหล่าศิษย์เก่าทั้งหลายร่วมบริจาคและ
รายได้ส่วนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยหาได้เอง
หลายๆที่จัดตั้งกองทุนมาเกิน20ปีแล้ว
ผลตอบแทนทบต้นย้อนหลังอยู่ที่ประมาณ 23% สำหรับ Harvard
ผู้จัดการกองทุนก็มีวิธีคัดเลือกคนมาทำตรงนี้ไม่ต่างกับบริษัทเอกชน
หลายๆปีผ่านไปกองทุนใหญ่ขึ้นมาก มหาลัยก็มีเงินทุนสำหรับพัฒนาวิจัย
ให้ทุนเรียนและกิจกรรมที่จำเป็นอีกหลายๆอย่าง
ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือองค์กรใด ยืนด้วยตัวเองได้
กลับมาดูที่เมืองไทย
มหาวิทยาลัยที่พร้อมสุดในการเริ่มกองทุนแบบนี้ในขณะนี้คือจุฬา
รายได้ค่าเช่าจากสยามแสควร์น่าจะทำให้เริ่มกองทุนขนาด 9 หลัก ได้ไม่ยาก
ลองคำนวณ
กำไร 18% ต่อปี เงินลงทุน 500 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย ทุนการศึกษา 80000 บาท/หัว/ปี
ได้จำนวนทุน 90ล้านบาท/80000 = 1125 ทุน
ยังห่างไกลจากเป้าหมายที่จะทำได้
แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ควรเริ่มได้แล้ว
ซึ่งผมคิดว่าจริงๆแล้ว ไม่น่าจะต่ำกว่า 3-4หมื่นบาทต่อเทอม
ถ้าต้องการกำไรก็ควรตั้งค่าเล่าเรียนที่ 6-7หมื่นบาทต่อเทอม
แต่ควรจะมีทุนเรียนฟรีในจำนวนที่มากขึ้นมากๆ
เช่นนักศึกษา 1000 คน ควรมีทุนฟรีที่พอ cover ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เป็น option ให้ขอได้อย่างน้อย 600-700 ทุน
ปัญหาคือเงินทุนเรียนฟรีส่วนนี้จะมาจากตรงไหน
เคยดู model ของ ivy school ทั้งหลายเช่น Harvard,Princton,Columbia
เขามีกองทุนขนาดยักษ์(หลัก Billion $)
ที่ลงทุนในการลงทุนหลายรูปแบบ
เช่น หุ้นทั้งในและนอกตลาด commodity bond property
กองทุนนี้เงินเริ่มต้นมาจากเหล่าศิษย์เก่าทั้งหลายร่วมบริจาคและ
รายได้ส่วนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยหาได้เอง
หลายๆที่จัดตั้งกองทุนมาเกิน20ปีแล้ว
ผลตอบแทนทบต้นย้อนหลังอยู่ที่ประมาณ 23% สำหรับ Harvard
ผู้จัดการกองทุนก็มีวิธีคัดเลือกคนมาทำตรงนี้ไม่ต่างกับบริษัทเอกชน
หลายๆปีผ่านไปกองทุนใหญ่ขึ้นมาก มหาลัยก็มีเงินทุนสำหรับพัฒนาวิจัย
ให้ทุนเรียนและกิจกรรมที่จำเป็นอีกหลายๆอย่าง
ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือองค์กรใด ยืนด้วยตัวเองได้
กลับมาดูที่เมืองไทย
มหาวิทยาลัยที่พร้อมสุดในการเริ่มกองทุนแบบนี้ในขณะนี้คือจุฬา
รายได้ค่าเช่าจากสยามแสควร์น่าจะทำให้เริ่มกองทุนขนาด 9 หลัก ได้ไม่ยาก
ลองคำนวณ
กำไร 18% ต่อปี เงินลงทุน 500 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย ทุนการศึกษา 80000 บาท/หัว/ปี
ได้จำนวนทุน 90ล้านบาท/80000 = 1125 ทุน
ยังห่างไกลจากเป้าหมายที่จะทำได้
แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ควรเริ่มได้แล้ว
bid please!!
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
คนสอบมหาลัยได้ แต่ครอบครัวส่งเรียนไม่ได้เพราะฐานะยากจนทำไงดี
โพสต์ที่ 3
แต่ก่อนเค้ามี เงินกองทุนให้กู้ยืม ตอนเรียนมหาลัยนี่ครับ
วิศวะรุ่นน้องผมคนนึง ก็เรียนด้วยกองทุนนี้
จบมา ทำงานถึงค่อยใช้ทุนคืน
หรือว่า ตอนนี้ไม่มีแล้ว
มหาลัยรัฐ รุ่นผม หน่วยกิจละ 50 บาทเอง เทอมนึง 2000 กว่า
วิศวะรุ่นน้องผมคนนึง ก็เรียนด้วยกองทุนนี้
จบมา ทำงานถึงค่อยใช้ทุนคืน
หรือว่า ตอนนี้ไม่มีแล้ว
มหาลัยรัฐ รุ่นผม หน่วยกิจละ 50 บาทเอง เทอมนึง 2000 กว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
คนสอบมหาลัยได้ แต่ครอบครัวส่งเรียนไม่ได้เพราะฐานะยากจนทำไงดี
โพสต์ที่ 4
คล้าย พวก องค์กรที่ให้รางวัล ของ ตปท.เลย เช่น รางวัลโนเบล ก็ทำแบบนี้ครับReminiscence of 3 Dogs เขียน:ค่าเรียนควรจะแพงขึ้นตามค่าใช้จ่ายจริง
ซึ่งผมคิดว่าจริงๆแล้ว ไม่น่าจะต่ำกว่า 3-4หมื่นบาทต่อเทอม
ถ้าต้องการกำไรก็ควรตั้งค่าเล่าเรียนที่ 6-7หมื่นบาทต่อเทอม
แต่ควรจะมีทุนเรียนฟรีในจำนวนที่มากขึ้นมากๆ
เช่นนักศึกษา 1000 คน ควรมีทุนฟรีที่พอ cover ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เป็น option ให้ขอได้อย่างน้อย 600-700 ทุน
ปัญหาคือเงินทุนเรียนฟรีส่วนนี้จะมาจากตรงไหน
เคยดู model ของ ivy school ทั้งหลายเช่น Harvard,Princton,Columbia
เขามีกองทุนขนาดยักษ์(หลัก Billion $)
ที่ลงทุนในการลงทุนหลายรูปแบบ
เช่น หุ้นทั้งในและนอกตลาด commodity bond property
กองทุนนี้เงินเริ่มต้นมาจากเหล่าศิษย์เก่าทั้งหลายร่วมบริจาคและ
รายได้ส่วนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยหาได้เอง
หลายๆที่จัดตั้งกองทุนมาเกิน20ปีแล้ว
ผลตอบแทนทบต้นย้อนหลังอยู่ที่ประมาณ 23% สำหรับ Harvard
ผู้จัดการกองทุนก็มีวิธีคัดเลือกคนมาทำตรงนี้ไม่ต่างกับบริษัทเอกชน
หลายๆปีผ่านไปกองทุนใหญ่ขึ้นมาก มหาลัยก็มีเงินทุนสำหรับพัฒนาวิจัย
ให้ทุนเรียนและกิจกรรมที่จำเป็นอีกหลายๆอย่าง
ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือองค์กรใด ยืนด้วยตัวเองได้
กลับมาดูที่เมืองไทย
มหาวิทยาลัยที่พร้อมสุดในการเริ่มกองทุนแบบนี้ในขณะนี้คือจุฬา
รายได้ค่าเช่าจากสยามแสควร์น่าจะทำให้เริ่มกองทุนขนาด 9 หลัก ได้ไม่ยาก
ลองคำนวณ
กำไร 18% ต่อปี เงินลงทุน 500 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย ทุนการศึกษา 80000 บาท/หัว/ปี
ได้จำนวนทุน 90ล้านบาท/80000 = 1125 ทุน
ยังห่างไกลจากเป้าหมายที่จะทำได้
แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ควรเริ่มได้แล้ว
ข้อมูลดีมากครับ ขอบคุณครับ :D
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
คนสอบมหาลัยได้ แต่ครอบครัวส่งเรียนไม่ได้เพราะฐานะยากจนทำไงดี
โพสต์ที่ 5
ยังมีกองทุนนี้อยู่ครับปุย เขียน:แต่ก่อนเค้ามี เงินกองทุนให้กู้ยืม ตอนเรียนมหาลัยนี่ครับ
วิศวะรุ่นน้องผมคนนึง ก็เรียนด้วยกองทุนนี้
จบมา ทำงานถึงค่อยใช้ทุนคืน
หรือว่า ตอนนี้ไม่มีแล้ว
มหาลัยรัฐ รุ่นผม หน่วยกิจละ 50 บาทเอง เทอมนึง 2000 กว่า
แต่ปัญหาเล็กน้อยบางประการคือ
กองทุนนี้ยังไงก็ต้องมีระยะเวลาในการดำเนินเรื่องขอทุน
ทีนี้เด็กเข้าใหม่ปีหนึ่งต้องชำระค่าลงทะเบียนก่อน
(แต่เด็กยังไม่ได้ทำเรื่องขอกองทุน หรือติดต่อแล้วแต่ก็ต้องมีระยะเวลาอนุมัติ)
ทางออกทีดีทีผมได้ฟังมาก็คือ มีมหาวิทยาลัยบางแห่ง
เขาจะมีกองทุนของตัวเองไว้ตรงกลาง ให้เด็กมาหยิบยืมไปลงทะเบียนก่อน(ไม่คิดดอก)
หลังจากที่กองทุนกู้ยืมของรัฐ อนุมัติเงินมาแล้วก็ให้เอามาคืน
หรืออย่างราชภัฎบางแห่ง เขาให้เรียนไปเลยก็ได้ แม้จะไม่มีเงินลงทะเบียน
แต่สำเร็จหลักสูตรแล้ว เขาจะยังไม่อนุมัติวุฒิให้ ต้องเอาเงินมาชำระก่อน
*หน่วยละ 50 บาท คุณปุยจบลาดกระบังรึเปล่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
คนสอบมหาลัยได้ แต่ครอบครัวส่งเรียนไม่ได้เพราะฐานะยากจนทำไงดี
โพสต์ที่ 7
กองทุนแบบนี้ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่ในอนาคตจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้
แต่จุดเริ่มต้นที่สำคัญคือ เงินจำนวนมากที่จะเริ่มตั้งกองทุนจะมาจากไหน
บางทีการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อาจเป็นคำตอบ
แรงผลักดันให้ทำกำไรจากผู้ถือหุ้นจะทำให้ค่าเรียนสูงขึ้น
แต่จะมีโอกาสเปิดช่องสำหรับนักศึกษาที่ไม่มีทุน
ให้ขอทุนลดค่าเรียนหรือเรียนฟรีได้มากขึ้น
นักศึกษาที่สมัครใจไม่ขอทุนการศึกษาควรได้รับ incentive
ตอบแทนบ้างในรูปอื่นเช่นสลักจารึกชื่อผู้มีอุปการะคุณ
ต่อมหาวิทยาลัย
แต่ระบบนี้ คุณภาพของทุกอย่างที่นำเสนอต้องสูงกว่านี้
ให้สมราคาคนที่ยอมจ่ายเต็ม
ตรงจุดนี้ที่ยากเพราะถูกนำไปเปรียบเทียบกับต่างประเทศ
ที่หลายๆด้านต้องยอมรับว่าเหนือกว่ามาก
แต่จุดเริ่มต้นที่สำคัญคือ เงินจำนวนมากที่จะเริ่มตั้งกองทุนจะมาจากไหน
บางทีการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อาจเป็นคำตอบ
แรงผลักดันให้ทำกำไรจากผู้ถือหุ้นจะทำให้ค่าเรียนสูงขึ้น
แต่จะมีโอกาสเปิดช่องสำหรับนักศึกษาที่ไม่มีทุน
ให้ขอทุนลดค่าเรียนหรือเรียนฟรีได้มากขึ้น
นักศึกษาที่สมัครใจไม่ขอทุนการศึกษาควรได้รับ incentive
ตอบแทนบ้างในรูปอื่นเช่นสลักจารึกชื่อผู้มีอุปการะคุณ
ต่อมหาวิทยาลัย
แต่ระบบนี้ คุณภาพของทุกอย่างที่นำเสนอต้องสูงกว่านี้
ให้สมราคาคนที่ยอมจ่ายเต็ม
ตรงจุดนี้ที่ยากเพราะถูกนำไปเปรียบเทียบกับต่างประเทศ
ที่หลายๆด้านต้องยอมรับว่าเหนือกว่ามาก
bid please!!
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
คนสอบมหาลัยได้ แต่ครอบครัวส่งเรียนไม่ได้เพราะฐานะยากจนทำไงดี
โพสต์ที่ 8
ได้ข่าวดี ว่ามี อดีตนส.ไทย 49 รับอุปการะให้แล้วครับ
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
- Akajon
- Verified User
- โพสต์: 530
- ผู้ติดตาม: 0
คนสอบมหาลัยได้ แต่ครอบครัวส่งเรียนไม่ได้เพราะฐานะยากจนทำไงดี
โพสต์ที่ 11
กองทุน กยศ ก็เป็นนโยบาลรัฐนะ ที่โดนยุบกองทุน ก็เพราะหวยบนดินโดนตีความว่าผิดกม. แล้วเงินตรงนี้มันขาดช่วงไป
ไม่ได้ชอบตัวบุคคล หรือพรรคไหนเป็นพิเศษ แต่ชอบนโยบายการบริหารประเทศ
บางทีอะไรมันอยู่ตรงหน้า เราก็มองไม่เห็น หรือทำเป็นไม่มองมัน เพราะความมีอคติ
คิดกลางๆ เข้าไว้ครับ
=======================
กองทุน กยศ
ความเป็นมา
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจัดตั้งขึ้น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2539 ตามนัยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 โดยรัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงการคลังดำเนินการ ในลักษณะเงินทุนหมุนเวียน และในปี พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีผลบังคับใช้ โดยกองทุนฯ มีฐานะเป็นองค์กรของรัฐบาลในกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง
จนถึงปัจจุบัน กองทุนดำเนินการมาแล้วเป็นเวลา 8 ปี ให้กู้ยืมเงินไปแล้วทั้งสิ้น 185,162.90 ล้านบาท มีผู้กู้ยืมทั้งสิ้น 2,181,116 ราย
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง
สนับสนุนและเร่งดำเนินการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อรองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่ม ความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพื่อสนองตอบความจำเป็นดังกล่าว จึงสมควรเร่งรัดพัฒนาการศึกษา โดยการหาทาง แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาในสังคม เพิ่มโอกาสทางการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ให้แก่นักเรียน/นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์กู้ยืมเพื่อการศึกษา ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(สายสามัญและอาชีวะ)จนถึงระดับปริญญาตรี อันจะมีส่วนสำคัญในการช่วยยกฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
ไม่ได้ชอบตัวบุคคล หรือพรรคไหนเป็นพิเศษ แต่ชอบนโยบายการบริหารประเทศ
บางทีอะไรมันอยู่ตรงหน้า เราก็มองไม่เห็น หรือทำเป็นไม่มองมัน เพราะความมีอคติ
คิดกลางๆ เข้าไว้ครับ
=======================
กองทุน กยศ
ความเป็นมา
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจัดตั้งขึ้น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2539 ตามนัยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 โดยรัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงการคลังดำเนินการ ในลักษณะเงินทุนหมุนเวียน และในปี พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีผลบังคับใช้ โดยกองทุนฯ มีฐานะเป็นองค์กรของรัฐบาลในกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง
จนถึงปัจจุบัน กองทุนดำเนินการมาแล้วเป็นเวลา 8 ปี ให้กู้ยืมเงินไปแล้วทั้งสิ้น 185,162.90 ล้านบาท มีผู้กู้ยืมทั้งสิ้น 2,181,116 ราย
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง
สนับสนุนและเร่งดำเนินการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อรองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่ม ความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพื่อสนองตอบความจำเป็นดังกล่าว จึงสมควรเร่งรัดพัฒนาการศึกษา โดยการหาทาง แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาในสังคม เพิ่มโอกาสทางการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ให้แก่นักเรียน/นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์กู้ยืมเพื่อการศึกษา ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(สายสามัญและอาชีวะ)จนถึงระดับปริญญาตรี อันจะมีส่วนสำคัญในการช่วยยกฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น