หลังจากห้นขึ้น และต่างชาติหยดขาย

[chatchai]

ช่วงห้นตกอย่างหนัก มีแต่การวิเคราะห์ในแง่ร้ายๆ เช่น
เศรษฐกิจจีนชะลอตัว ราคาน้ำมันจะพ่งขึ้นต่อเนื่อง อัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะทะยานขึ้นต่อเนื่อง
ห้นก็ตกแทบทกวัน ต่างชาติก็ขายอย่างหนัก

แต่พอช่วงนี้ ต่างชาติเริ่มซื้อสทธิ ห้นเริ่มตั้งหลักได้ ข่าวเดิมๆก็ยังคงอย่ แต่มมมองเริ่มเปลี่ยนไป
เศรษฐกิจจีนก็มีนักวิเคราะห์หลายสำนักออกมากล่าวว่าเศรษฐกิจไม่มีปัญหา สามารถลดลงได้แบบ soft landing หรือบางคนบอกว่าเป็น cruise control ด้วยซ้ำไป
ราคาน้ำมันก็มีการวิเคราะห์ว่าจะส่งผลกระทบน้อยมาก และราคาน่าจะปรับตัวลง
รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยก็ไม่น่าเป็นห่วงเพราะขึ้นมาจากอัตราที่ต่ำและขึ้นในช่วงเศรษฐกิจกำลังเติบโต

นักลงทนก็คงจะงง ไม่ร้ว่าห้นขึ้นก่อน แล้วบทวิเคราะห์เขียนตาม หรือว่าบทวิเคราะห์ออกก่อน แล้วนักลงทนอ่านจึงซื้อห้นกลับ

ถ้าใครที่ไม่สามารถวิเคราะห์เองได้ ซื้อขายห้นตามบทวิเคราะห์ ก็คงจะแย่

[CK]

ก็เห็นใจนักวิแคะในระดับหนึ่งนะครับ

ตอนบรรยากาศร้ายๆ เขียนเชียร์หุ้นก็ถูกด่าเวลาหุ้นตกต่อ
แต่ในฐานะนักวิเคราะห์ที่ดี (ของบริษัท) ก็ต้องเชียร์ให้เกิด
วอลลุ่มครับ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

[stockms]

ถ้าถามคุณดัชนีไทย เขาก็ต้องบอกว่าตลาดนำเศรษฐกิจและบทวิเคราะห์ ผมชักจะเห็นด้วยแล้วซิ

[บุคคลทั่วไป]

ประเภท............. ซื้อ................................ขาย
นักลงทุนทั่วไป.... 15,204.92.................. 14,456.03
ต่างประเทศ..........2,262.80 ....................2,280.28 สถาบัน ...............1,161.65 ....................1,893.07
จันทร์ 31 พ.ค.47


อย่างนี้หมายถึงขายหลอกใช่หรือไม่

[CK]

ถ้าถามคุณดัชนีไทย เขาก็ต้องบอกว่าตลาดนำเศรษฐกิจและบทวิเคราะห์ ผมชักจะเห็นด้วยแล้วซิ

ผมเห็นด้วยกับคุณดัชนีไทยในหลายประเด็น แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการ
นำเสนอและการแก้ปัญหาครับ

ตลาดหุ้นนำเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่กึ่งจริงครับ คือไม่ได้จริงทั้งหมด แต่
เป็น symbiotic relationship มากกว่า ผลกระทบจะเกิดขึ้นเป็นลูกโซ่
ทั้งด้านดีและด้านร้าย บางคนเรียก pendulum effect หรือไงเนี่ย

เรื่องนี้คุณทักษิณนายกเราชำนาญมากครับ ทีมเศรษฐกิจของท่านนายก
สามารถใช้ประโยชน์จากกลไกตลาดกับเศรษฐกิจได้อย่างน่าทึ่งเป็นที่
สุด

ส่วนบทวิเคราะห์ ... เอ อืมม์ ผมว่าถ้ามองให้เป็นธรรม นักวิเคราะห์ก็
ปุถุชนนี่แหละครับ มีถูกมีผิด มี bias มี prejudice

[นักดูดาว]

ผมว่า SET เป็นดัชนีทางอารมณ์ของคนในตลาดหุ้นมากกว่านะครับ
อย่างเวลาฝรั่งเข้าจริงๆ หุ้นที่ฝรั่งไม่เล่นก็ยังวิ่งกันปรู๊ดปร๊าด
ก็ไม่รู้จะดูฝรั่งเข้าฝรั่งออกกันทำไม