ใครชอบทำกับข้าวบ้างครับ

[ayethebing]

ส่วนผมที่ทำแล้วอร่อย (อย่างน้อยที่บ้าน ทั้งแฟนและลูกก้อบอกงั้น) ก็มี

- ลาซานย่า (ทำยุ่งยากพอสมควรเพราะต้องทำซอสสองประเภท คือ บีคาเมล ซอส คือซอสขาว กับซอสเนื้อใส่มะเขือเทศ)
- ผักโขมอบชีส (อันนี้ง่ายหน่อย)
- พาสต้าผัดขี้เมาทะเล
- ปลานึ่งซีอิ้ว
- แกงกระหรี่ญี่ปุ่น (อันนี้ก้อยุ่งขนาดใช้แบบสำเร็จรูป ยังต้องเตรียมกันเหนื่อย)

กำลังจะหัดทำอาหารไทยจากแม่ผมเองครับ โดยเฉพาะแกงเขียวหวานทำเครื่องแกงเอง อิอิ

[poppo]

พี่ ayethebing ครับ

ช่วยประทานบอกสูตรและวิธีการทำโดยละเอียดได้ไหมครับ

ทุกเมนูที่พี่บอกมา แฟนผมชอบมากๆ

เขาไปเรียนเมืองนอกจะกลับมาแล้ว ไว้จะได้ทำให้กิน

[poppo]

ที่ผมทำแล้วแฟนบอกว่าอร่อยมี

ปลาทอดราดน้ำปลา

ข้าวราดหน้าปลาแบบจีน

[Pn3um0n1a]

- ลาซานย่า
- ผักโขมอบชีส (อันนี้ง่ายหน่อย)
- แกงกระหรี่ญี่ปุ่น (อันนี้ก้อยุ่งขนาดใช้แบบสำเร็จรูป ยังต้องเตรียมกันเหนื่อย)

น่านับถือมากครับ ผมเองก็ฝันอยากทำเป็นบ้าง (แต่ยังไม่มีเวลาเรียนรู้ และคิดว่าไว้เป็น priority หลังๆ)

ลาซานญ่า ผมชอบมากครับ
ผักโขมอบชีส ผมก็ชอบมาก เห็นว่าง่าย ยังไงรบกวน บริจาค วิธีการทำโดยละเอียดได้มั้ยครับ เผื่อทำกินเองได้บ้าง

ส่วนแกงกะหรี่ ผมก็ชอบมากตั้งแต่เด็ก และแม่ผมก็ทำเก่งนะครับ
ใช้ผลสำเร็จเหมือนกัน ยี่ห้อ Vermont ตั้งแต่ผมเด็กๆ เลย
แต่ เสริมความเป็นไทยโดยการใส่เครื่องแกงไทย และ เครื่องเทศ เพิ่มให้เผ็ดขึ้นนิดหน่อย

ยังไงรบกวนนิดนะครับ  :oops:

[MindTrick]

ส่วนผมที่ทำแล้วอร่อย (อย่างน้อยที่บ้าน ทั้งแฟนและลูกก้อบอกงั้น) ก็มี

- ลาซานย่า (ทำยุ่งยากพอสมควรเพราะต้องทำซอสสองประเภท คือ บีคาเมล ซอส คือซอสขาว กับซอสเนื้อใส่มะเขือเทศ)
- ผักโขมอบชีส (อันนี้ง่ายหน่อย)
- พาสต้าผัดขี้เมาทะเล
- ปลานึ่งซีอิ้ว
- แกงกระหรี่ญี่ปุ่น (อันนี้ก้อยุ่งขนาดใช้แบบสำเร็จรูป ยังต้องเตรียมกันเหนื่อย)

กำลังจะหัดทำอาหารไทยจากแม่ผมเองครับ โดยเฉพาะแกงเขียวหวานทำเครื่องแกงเอง อิอิ

เดาว่าพี่เคยทำงานร้าน อาหารฝรั่งมาใช่ไหมครับ

ผมก็ชอบทำครับ แต่ติดที่ว่าชอบแบบง่ายๆอร่อยๆ ก็พอ เลยไม่ได้ครีเอทอะไรมาก กินมันซ้ำๆ :lol:

ส่วนสูตร ผมชอบค้นเองตามเนต ทำแล้ว ไม่หรอย ค่อยมาถามคนทำ

เพราะถ้าเอาสูตรไปก่อน มันถามกันไม่ถูกจุด เหมือนพูดคนละภาษา(ภาษาเชฟ)

บางอย่างผมทำแล้ว น้ำมันงา หอมกว่า มะกอก  
เนื้อนี้ต้องหมักแบบแบบนั้น ถึงจะนิ่ม

ผมเคยถามคนอื่นมาตั้งนานแล้ว ไม่ได้ทำ พอทำแล้วค่อยถาม มันถึงถามกินถูกจุดอ่ะครับ

[dino]

แหะ แหะ อ่านแล้วหิววว ครับ
ทำไม่เป็นซักกะอย่าง ไม่รู้จะมีบุญได้ลองชิมฝีมือใครบ้างหนอ

[กูรูขอบสนาม]

ชอบมาก
มีตู้หนังสือสำหรับตำรากับข้าวโดยเฉพาะ
ตำราฝรั่ง ถ่ายรูปได้สวยดี แต่หาส่วนผสมไม่ค่อยได้
ทำออกมาไม่สำเร็จ

ตำราของสำนักพิมพ์ แสงแดด ค่อนข้าง Practical หน่อย

อาหารฝรั่งเตรียมของไม่ค่อยเยอะ ส่วนใหญ่จะมีสำเร็จรูปแล้ว
ลองให้สักตัวอย่างหนึ่ง

ไก่ราดซอสเห็คแคมเบลล์

เอาน่องไก่มาทอดให้พอเหลือง อย่าให้ไหม้ เนื้อข้างในจะยังไม่สุกดี
(ถ้าอยากให้สุกจริง เอาไปใส่ในไมโครเวฟสัก 2-3 นาที แต่ไม่จำเป็น)
แล้วเอาลงไปคลุกกับซุปเห็ดแคมเบลล์ 1 กระป๋อง
เติมน้ำลงไปหน่อย ละลายให้ซุปเจือจาง จะได้ไม่เค็มนัก
ทิ้งไว้บนกระทะให้เดือดทั้งซุปทั้งน่องไก่ คลุกเคล้ากันประมาณ 15 นาที
จะใส่เห็ดหอมสดลงไปเพิมก็ยิ่งดี
รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆหรือลวกเส้นพาสต้าต่างหาก

ทานกับผักนึ่งอบ่างแคร็อท บล้อกโคลี่หรือถั่วลันเตา

ค่าใช้จ่ายต่อมื้อ ทานได้ประมาณ 3-4 คน (กินจุหน่อย)  ประมาณ 100 บาท
เฉพาะซุปกระป๋องก็ 40 บาท

หมายเหตุ จะเปลี่ยนจากซุปเห็ด เป็นซุปไก่ ซุปมะเขือเทศก็ได้
แต่ถ้าเป็นอย่างหลังควรใส่มะเขือเทศสดๆลงไปด้วย

[por_jai]

จำได้ว่ามีกระทู้นึง เจ้าโหน่งเป็นคนตั้งกระมัง

[ayethebing]

ลาซานย่า

ทำซอสขาว คือ บีคาเมลซ็อส คือใช้เนยผัดจนละลาย เอาข้าวโพดหรือสาลีมาละลายน้ำ ใส่ลงไปและเติมนมจืดลงไปกวนจนข้น ใส่เกลือ พริกไทย เครื่องเทศ ต่าง เช่น nutmeg หรือ โอริกาโน (อย่าใส่เกลือเยอะมากเพราะเราต้องใส่ชีสอีก)

ทำซอสเนื้อ ใส่น้ำมันมะกอก ใส่กระเทียม 2-3 กลีบ ใส่หมูสับหรือเนื้อสับ ผัดจนเนื้อสุก ใส่มะเขือเทศหัดลูกเต๋า บวกกับ มะเขือเทศเข้มข้นหรือมะเขือเทศกระป๋อง ต้มนานๆ ให้เนื้อมันนุ่ม ใส่เครื่องเทศ อย่าใส่เกลือเลยดีกว่าเดี๋ยวเค็ม

ทำเส้นโดยเอาแผ่นลาซานย่ามาต้ม ใส่เกลือในน้ำที่ต้มด้วย ดูตามหน้ากล่องโดยปกติจะมีบอกว่ากี่นาที โดยทั่วไปประมาณ 8-10 นาที ต้องทำให้มันเป็นแบบ el dante นะครับคือยังกรุบๆ อยู่ข้างในแต่สุกแล้ว เสร็จแล้วยกออก แช่น้ำเย็นให้แป้งหยุดสุก

เอาชามที่เข้าอบได้ ทาน้ำมันมะกอกให้ทั่ว ทาซอสขาวเล็กน้อย เอาแป้งวางให้ทั่วชาม สามารถหั่นได้ครับ ทาซอสขาวอีก ใส่ซอสเนื้อ โรยชีสมอสซาเรลล่า ให้ทั่ว แล้วโรยชีสพาร์เมซาน หรือชีสพาร์เมจาโนอีก (ซื้อแบบเป็นก้อนมาขูดเองถูกกว่าครับ อ้อ ใส่พาร์เมซานลงในซอสขาวก็อร่อยดีนะ) วางแป้งทับอีกรอบ ทำเรื่อยๆ น่าจะทำอย่างน้อย 3 ชั้นครับ

ที่ด้านหน้า ราดซอส 2 ซอส และใส่ทั้งสองชีสอีก เอาเข้าเตาอบ (อุณหภูมิ 180c แต่ที่บ้านผมเตาอบไม่ค่อยดีเลยใช้ 250c) อบสัก 10-15 นาทีไม่รวมเวลาให้เตาอบร้อน ถ้าใช้ได้คือหน้าเป็นสีน้ำตาลและเดือดปุดๆ

แกงกะหรี่ญี่ปุ่นนี่ผมใช้สูตรของคุณนายติ่งครับ มีหนังสือขาย แต่เพิ่ม trick ว่าถ้าใส่ มะม่วงสุกปั่นแทนน้ำตาลจะอร่อยหวานกลมกล่อมครับ

ไม่เคยทำร้านอาหารฝรั่งครับ ทำเอง ลองเองครับ

[por_jai]

ลาซานย่า
     แกงกะหรี่ญี่ปุ่น
     โอ๊ยเดี๋ยวต้องออกไปหากินก่อนละครับ
     ลาซานย่านี่ง่ายๆก็กินของนารายณ์พิซเซอเรีย
     แกงกะหรี่ญี่ปุ่นเคยไปกินที่เอสพลานาดชั้นใต้ดิน
     ชื่อโอโตยะ ใช้ได้ ใช้ได้ ทีเดียว

[121]

แล้ว เจ้าการ์ฟิลด์ที่บ้านคุณๆหม่ำ ลาซานย่า

เหมือน ของ จอห์น เปล่าครับ  

[ayethebing]

ที่บ้านไม่มีแมว ครับ มีแต่หมา แต่ไม่เคยเหลือให้มันเลยซักกะที  :lol:  :lol:

[กูรูขอบสนาม]

ที่ด้านหน้า ราดซอส 2 ซอส และใส่ทั้งสองชีสอีก
เอาเข้าเตาอบ (อุณหภูมิ 180c แต่ที่บ้านผมเตาอบไม่ค่อยดีเลยใช้ 250c)
อบสัก 10-15 นาทีไม่รวมเวลาให้เตาอบร้อน ถ้าใช้ได้คือหน้าเป็นสีน้ำตาลและเดือดปุดๆ

แค่บรรยายก็อร่อยแล้ว อยากจะแลบลิ้นแบบการ์ฟิลด์บ้าง แหม่บ แหม่บ

เอ..ถ้าไม่มีเตาอบ ใช้เตาไมโครเวฟ ผลลัพธ์จะได้เหมือนกันหรือเปล่าคร้าบ
ควรจะอุ่นสักกี่นาที  จะแห้งกระด้างไป ไม่ฉ่ำซอสเท่าที่ควรมั้ย


เอาอีกสักเมนูไก่จากของเหลือในตู้เหลือบ้าง

ไก่ซอสส้มมาร์มาเลด

เอาน่องไก่ไปหมักกับแยมส้มที่เหลือก้นขวดทาให้ทั่วผิว
ผสมกับวู้สเตอร์ซอส (ซอสเปรี้ยว) พริกไทย เกลือนิดหน่อย
ทิ้งไว้สอง 2-3 ชั่วโมง  (บางคนอยากให้หมักเข้าเนื้อ ทิ้งไว้ข้ามวันก็ดี)

ตั้งกระทะ ไฟอ่อน ใส่น้ำมัน
ทอดน่องไก่ พร้อมน้ำหมักจะได้ไม่ติดกระทะ
หากมีน้ำส้ม (น้ำผลไม้ ไม่ใช่น้ำส้มสายชู) เหลือก้นกล่องก็เทลงไปเพิ่มรสชาติส้มให้เข้มข้นไปอีก
ทิ้งไว้สักพักให้น่องไก่เริ่มสุกและน้ำซอสค่อยๆงวดลง
จนเหลือแค่ขลุกขลิก ปิดไฟกระทะ

เอาส้อมทิ่มดูว่าสุกหรือเปล่า ถ้ายังไม่สุก อนุญาตให้เข้า ไมโครเวฟได้สัก 2 นาที

เวลารับประทาน บีบมะนาวเล็กน้อยให้มีรสเปรี้ยวหน่อยๆ
บางคนอยากจะใส่ซอสมะเขือเทศก็ไม่ว่ากัน แต่อาจจะทำลายรสส้ม

ฝานส้มซันคิสสักเฉือนหนึ่ง พร้อมผักชีฝรั่ง( พลาสเลย์) สีเขียว วางประดับ
รับประทานกับข้าวร้อนๆ หรือขนมปังก้อนอุ่นๆ

ฮืมม์....

ถ้าจะเปลี่ยนจากน่องไก่เป็นเนื้อพอร์คฃ้อป สันนอกหมูก็อร่อยอีกแบบ
หรือจะเป็นเป็ดก็ได้ (แต่หาไม่ค่อยมี )จะได้อร่อยแบบเป็ดอบรสส้ม

จะสุนทรีขึ้นก็หาไวน์อีกสักแก้วแกล้มบางๆ  :lol:

[กูรูขอบสนาม]

พยายามหารูปมา จะได้นึกรสชาติออกครับ



ถ้าอยากจะเปลี่ยนเป็นแยมอื่นๆ เช่น แอปปริค็อท พีชก็ได้ แต่คงจะแปลกๆ

[ayethebing]

ทำ ลาซานย่าเกรงว่าจะไม่ work สำหรับเตาไมโครเวฟ ที่ร้อนจากข้างในครับ

อันนี้เราต้องการให้มันเดือดปุดๆ ทั้งข้างในและข้างนอก

โหยจ้าบนะเนี่ย มีรูปด้วย

[por_jai]

เมื่อคืนไปกินพิซซ่าที่ limonchello สุขุมวิท11มา
     พิซซ่า สลัด สปาเก็ตตี้ อะไรทำนองนี้
     รสชาติก็พอใช้ได้ครับ
     อือม..แต่ถ้าเทียบกับราคาผมว่าไม่ค่อยวายูเท่าไหร่
     แต่คนงี้เพียบเต็มร้านไม่รู้จะเต็มยังไง
     ของขายรสนิยมนี่ มันเรียกราคาได้เยอะดีจัง...

[ayethebing]

ชอบอาหารฝรั่งปนไทยราคาไม่แพง ลองสองร้านนี่ครับ

1.  ร้านอิริยา อยู่ตรงวัดเสมียนนารีเลยตลาดบอนมาเช่ไปหน่อย (อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ บอนมาเช่)

อาหารแนะนำ
- สปาเกตตี้คาโบนารา
- สปาเกตตี้เส้นดำผัดขี้เมาทะเล
- ลาซานย่า
- ขาหมูทอด (ถ้าไม่กลัวอ้วน)
- สเต๊กหมู สเต๊กเนื้อ อร่อยครับ
- ของหวาน พายมะนาว สละลอยแก้ว

2. ร้านอิริยา อยู่ในซอยวัดบัวขวัญที่ทะลุไปถนนสามัคคี อยู่ใกล้ๆ แบงก์กรุงศรี หายากหน่อยแต่อร่อยครับ

อาหารแนะนำ
- เสต็กเนื้อ ใช้โคขุนอย่างดี ครับ อร่อยทุกแบบ
- เสต็กหมู อร่อยกว่าร้านแรกอีก
- ผักโขมอบชีส
- ขนมปังกระเทียม
- ซุปเห็ด
- ไส้กรอกเบียร์
- ยำเนื้อก็อร่อยถ้ากลัวเลี่ยน
- ของหวาน วาฟเฟิลไอศครีม

ไม่แพงสมราคาครับ

[poppo]

[quote="por_jai"] เมื่อคืนไปกินพิซซ่าที่ limonchello สุขุมวิท11มา

[กูรูขอบสนาม]

จริงครับ ไปกินอาหารฝรั่งมังค่าที่ไหน
กลับถึงบ้านต้องหาน้ำพริกล้างปากมื้อต่อไปทุกที

อย่างที่เห็นก็ง่ายๆอีกสักเมนู น้ำพริกปลากระป๋องเหมาะสำหรับคนขี้เกียจแต่ชอบของแซ่บๆ

เปิดปลากระป๋องมา 1 กระป๋องเอาไปอุ่นในไมโครเวฟ
ควรใส่ในโถกระเบื้องมีฝาปิด เพราะน้ำซอสมะเขือเทศมีสิทธิ์กระเด็นออกมา
อุ่นสั้นๆ นาทีเดียว แล้วเอายีๆให้ละเอียด  เนื้อปลาไม่จับเป็นก้อน

ซอยพริกขี้หนู  หอมแดง  บีบมะนาว หรือซอยมะม่วงเปรี้ยวลงไป
บางคนชอบมะดันก็ใส่ได้ คลุกเคล้าไปทั่ว
กินกับข้าวสวยร้อนๆ มีผักสดเคียงข้าง หรือจะเอาไปต้มก็ได้
ทอดไข่เจียวฟูอีกสักจานยิ่งอร่อย หนึบหนับ หนึบหนับ

[Ryuga]

อูย.... น้ำลายไหลเลย อิ อิ

พวกผัดซีอิ๊ว ผัดไทย สุกี้ผัดนี่ ผมทำเอาสะใจตัวเองครับ อย่างผัดกะเพราก็ทำเองเพราะเครื่องเคราจะใส่อย่างสะใจมากๆ ไปกินที่ไหนไม่เคยได้สะใจเหมือนทำกินเอง

ถ้าเป็นแกงไทยๆ แม้ชื่อเหมือนกันแต่เครื่องแกงบางทีก็แตกต่างกันบ้างในรายละเอียดปลีกย่อย แกงเขียวหวานแบบสะใจตามสูตรของผมจะเผ็ดเป็นพิเศษ

พริกชี้ฟ้าเขียว พริกขี้หนูเขียว - ใส่ให้สะใจไปเลย  เหอ เหอ  
กระเทียมอย่างแรง  หอมแดงอย่างเริ่ด - ในบรรดาเครื่องแกงทั้งหลายนั้น ปกติหอมแดงจะใส่เยอะกว่ากระเทียม มีแกงไม่กี่ชนิดที่ใส่กระเทียมเยอะกว่า แกงเขียวหวานก็ด้วย
ตะไคร้  - แต่พองาม
ข่า  -  เล็กน้อย
รากผักชี  - 1 ขยุ้ม
พริกไทยเม็ด - นิดเดียว แต่ผมชอบใส่เยอะล่ะ :lol:  บางทีถ้าเขาแกงอะไรคาวๆ ก็ใช้  บางที่เห็นใส่ดีปลีด้วย
ลูกผักชี ยี่หร่า ลูกจันทน์ - คั่วให้หอมแยกโขลกต่างหากแล้วค่อยไปรวมกันทีหลัง
ผิวมะกรูด  - เล็กน้อย เอากลิ่น
กะปิ - นิโหน่ย  เผาไฟก่อนก็ได้ จะไฮโซยิ่งขึ้น
เกลือ  - เพื่อความอลังการของเครื่องแกง

โขลก โป๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ  ให้เข้ากันดี กะทิสำเร็จรูปเดี๋ยวนี้เห็นคุณหมึกแดงว่าเขา homogenized ดี ผมก็รู้สึกงั้นเหมือนกัน ถ้าจะใช้กะทิคั้นสด ไปซื้อแถวตลาดกลับมาก็ต้องรีบทำไม่งั้นจะบูดเสียก่อน ปกติก็ผัดพริกแกงกับน้ำมันพืช ผัดให้หอม ใส่อกไก่ล้วน (ผมชอบแกงเขียวหวานไก่ ) ลงผัด ใส่กะทิลงไปเคี่ยว ปกติหนังไก่ผมจะแยกไปทอดต่างหากเป็นหนังไก่ทอดกรอบ ไม่ใส่ลงในแกง

อืม  :shock:  ถ้าจะให้อลังการตามอย่างโบราณ จะต้องใส่น้ำล้างครกลงไปด้วยนะครับ  :lol:  ถ้ากะทิคั้นสดจะใช้หางกะทิ ถ้าใช้กะทิสำเร็จรูปก็กะใส่น้ำให้พอดีกับที่อยากจะกิน จากนั้นก็น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ทำๆไป ชิมไปบ่นไป พอใจแล้ว ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง พริกไทยอ่อน เห็ดฟาง ราดนมสด หัวกะทิ ใส่ใบมะกรูดฉีก โหระพา พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ

โบราณว่าถ้าแกงมันเขียวไม่พอให้เอาใบย่านางมาตำแล้วคั้นน้ำใส่ครับ จะออกมาเป็นไงไม่รู้เหมือนกันเพราะผมไม่เคยทำแบบนี้ครับ  :8)


คุกกี้ชอคโกแลตชิพ

แป้งสาลีเอนกประสงค์    1  ถ้วยครึ่ง
โซดาทำขนม  1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายปั่นละเอียด   3/4  ถ้วย
เนยสด    ครึ่งถ้วย
ชอคโกแลตชิพ ดำก็ได้ ขาวก็ดี ปนๆ กันยิ่งดี  3/4 ถ้วย
ไข่   1  ฟอง
วานิลลา   ครึ่งช้อนโต๊ะ

เอาทุกอย่างใส่ลงชามเดียวกัน ใช้ไม้พายตีๆ คนๆ ให้เข้ากัน (ใช้มือตีนี่แหละ) กะว่าสวยแล้ว ก็ไปยกถาดมา ทาเนยขาวซะก่อน จากนั้นก็ตักส่วนผสมลงถาดให้สวยงามดูคล้ายคุ้กกี้ เข้าเตาอบ 190 C. ประมาณ 10-12 นาที ก็จะได้คุ้กกี้หอมฉุยน่าอร่อยแล้ว

ผมทำได้แต่เมนูง่ายๆ ครับ  :lol:

[Ryuga]

หน้าร้อนยังไม่ได้กินข้าวแช่เลยครับ ไม่รู้ว่ามีพี่ๆ ท่านไหนมีประสบการณ์ทำข้าวแช่รับประทานเองบ้างครับ มีสูตรเด็ดอะไรยังไงบ้าง

พี่กูรูฯ ปกติทำอะไรเก่าๆ แต่อลังการอย่างไทยรับประทานบ้างครับ ผมจะมาขอเป็นลูกศิษย์  :8)

[กูรูขอบสนาม]

ข้าวแช่ต้องไปที่ โรงแรมรอยัล ริเวอร์ เชิงสะพานซังฮี้
เห็นบอกว่าเป็น ข้าวแช่สูตรชาววัง คงจะมีถึงสิ้นเดือนนี้กระมังครับ
เคยกินที่อื่น แต่ไม่จุใจ
อย่าง ข้าวแช่ บุศรินทร์ ตรงพญาไท ก็อร่อย แต่นิดเดียว ไม่ทันได้ย่อยเลย

พี่กูรูฯ ปกติทำอะไรเก่าๆ แต่อลังการอย่างไทยรับประทานบ้างครับ ผมจะมาขอเป็นลูกศิษย์  

ชะอุ้ย..อาหารอลังการ์ทำไม่ค่อยเป็นครับ
ห่างวังมาไกลมาก ยกเว้นในวังวน (ของใจตัวเอง)
ต้องให้แม่บ้านทำ  ขานั้นเชี่ยวชาญเรื่องกับข้าวโดยเฉพาะ
ตั้งแต่ ขนมจีนสารพัด น้ำยาปักษ์ใต้ น้ำเงี้ยว  น้ำพริก  ซาวน้ำ
แกงไตปลา แกงไหลบัว แกงส้มสารพัด  แกงเหลือง หลนชาววัง
(กะปิ เต้าเจี้ยว ปูเค็ม ปลาเค็ม )
แกงสับนก  แกงหมูย่าง  แกงหอยแครงใบชะพลู  
แกงปลาใบยี่หร่า ผัดเครื่องแกงปลากระเบน แซ่บๆทั้งนั้น

แต่ที่พอทำกินเองได้และใครๆก็พอกินได้เหมือนกัน ลองดู แกงเลียง ก็ได้ครับ




แกงเลียงปลาย่าง

จะเรียกภาษาบ้านๆว่าแกงเลียงผักรวมก็ได้ เพราะมีผักเยอะมาก ถึง 9 ชนิด
เวลาทำจริง จะมีถึงหรือไม่ก็ไม่ว่ากัน แต่มีผักสำคัญๆให้พอรู้ว่าหน้าตาเป็นแกงเลียงก็พอ
เช่น ฟักทอง (หั่นเป็นลูกเต๋า) ข้าวโพดอ่อน  พริกไทยสด  บวบ(หั่นเป็นเหลี่ยมๆ)  
ใบแมงลัก ผลแตงโมอ่อนหรือลูกน้ำเต้า(หั่นเป็นคำ) ใบตำลึง
บางคนจะใส่ถั่วฟักยาวเหลือๆในตู้เย็นก็ได้อีกแหละ หรือผักหวานก็ไม่มีปัญหา

วิธีทำ ค่อนข้างประณีตนิดหน่อย
เริ่มต้นด้วยการย่างปลาดุกให้หอมเกรียมๆ
(แต่ถ้าขี้เกียจจะเป็นปลาดุกย่างที่เขาขายในตลาดก็ได้)
หรือปลาเนื้ออ่อนย่าง  แกะเนื้อออกมาตำกับกะปิเผานิดหนึ่ง ใส่หอมแดงตำไปด้วย
โขลกพอหยาบ ไม่ต้องละเอียดมาก ถ้าชอบรสจัดนิดๆ ก็ลองใส่พริกขี้หนูอีก 2-3 เม็ดโขลกด้วย

ตั้งเตา แล้วเริ่มละเลงคอนเสิร์ตแกงเลียง
(จะเปิดเพลงไทยเก่านุ่มนวลอย่าง ลุ่มเจ้าพระยา  เรือนแพ
หรือจะฝรั่งไปเลยแบบ Moldau ของ Smetana ตามเวปยูทูบนี้
Moldau
สร้างอารมณ์คลอตามไปด้วยก็โรแมนติคไปอีกแบบ  
จะทำให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น)

ใส่น้ำพริกที่เพิ่งโขลกเสร็จ เติมน้ำเข้าไปสักเท่าตัว
เหยาะน้ำปลานิด รอเดือด
(ระหว่างนี้ก็ฟังเพลงไป นึกถึงสายน้ำไหลไปไหลมาเอื่อยๆช้าๆ)

ใส่ฟักทองลงไปเป็น Introduction บทประเดิมปูหม้อแกง
พอเดือดปุดๆก็ใส่ บวบ  ผลแตงโมอ่อนหรือลูกน้ำเต้า
ตามด้วยข้าวโพดอ่อน   ถั่วฟักยาว  พริกไทยสด  
ปล่อยให้ผักค่อยๆบ่มตัวสุกเคล้าคลอกัน

พอฉากรักจบแล้ว อุ๊ย ม่ายใช่หม้อต้มแกงเดือดใส่ใบตำลึง ใบแมงลัก ปิดฝา ปิดไฟ
เพลงจบพอดี

รับประทานกับข้าวร้อนๆและไข่เจียว (อีกแล้ว)

จะเปลี่ยนสูตรเป็นแกงเลียงกุ้งสด ก็ได้ ใส่ปลาย่างน้อยลงแล้วประดับกุ้งสดตอนท้ายก่อนใส่ใบแมงลัก ใบตำลึง
รูปภาพส่วนใหญ่จะเป็นแกงเลียงกุ้งสดเพราะดูมีสีสันดี

(ขอขอบคุณรูปภาพจาก เชียงใหม่ลานนารีสอร์ท)

[por_jai]

รับประทานกับข้าวร้อนๆและไข่เจียว (อีกแล้ว)

โอ๊ยแกงเลียงนี่ผมชอบมาก
เพราะซดน้ำก็ได้ไม่เหมือนแกงเขียวหวานซึ่งเข้มข้นและต้องใช้ราดข้าวราดขนมจีนจึงจะดี
แต่จะว่าซดแล้วจืดเหมือนแกงจืด
มันก็มีกลิ่นสมุนไพรไทยหอมๆโชยมา เหมือนกินแกงเผ็ดเหมือนกัน
เรียกว่าทูอินวัน
ซัดกับไข่เจียว ก็เป็นทรี อิน วัน
(แหมยังกะกาแฟซองเลย)

[Ryuga]

พี่กูรูเยี่ยมยอดจริงๆ ครับ  

ผมไม่ได้กินแกงเลียงมานานแล้วด้วย น่ากินมากเลยครับ  :ep:  แต่ถ้าทำกินเองผมคงใส่พริกขี้หนูสัก 30-40 เม็ดแน่ๆ  :mrgreen:

ว่าถ้าไปจ่ายตลาดจะไปซื้อข้าวของมาหัดทำลูกกะปิกินเอง ตอนทำก็เปิดเพลงพวกลาวดำเนินทราย ต้นวรเชษฐ์ อะไรทำนองนั้นครับ ได้อารมณ์ไทยๆ มาก พี่พอใจไม่มีเมนูแนะนำบ้างเหรอครับ  :8)

[por_jai]

[quote="Ryuga"]พี่กูรูเยี่ยมยอดจริงๆ ครับ

[กล้วยทอด]

หัวปลานึ่งซีอิ้วญี่ปุ่น เหล้ามิริน

สูตรข้างล่างนี่ลอกเค้ามาค่ะ

เครื่องปรุง....... (สำหรับ 2 คน)

หัวปลา หรือเนื้อปลา(ประมาณ 300-400 กรัม)
เกลือป่น....... 1 ช้อนชา
น้ำร้อน....... พอประมาณ
หัวไชเถ้า (ไดกง)......ยาว 4 ซ.ม. ( 200 กรัม)
น้ำซาวขาว......... พอประมาณ
โกโบ้ (รากไม้ชนิดหนึ่ง)......... ยาว 12 ซม.
ขิงแก่...... นิดหน่อย

ส่วนผสม A

น้ำสะอาด......... 2 ถ้วยตวง
เหล้าสาเก......... 4 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วญี่ปุ่น (โชหยุ)........ 3 ช้อนโต๊ะ
เหล้าหวานมิริน........... 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย............ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น....... 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1). หัวไช้เถ้าปอกเปลือก ผ่าครึ่ง แล้วหั่นตามขวางของลูก ขนาดยาว 1.5 ซม.
นำใส่หม้อ เติมน้ำให้ท่วม นำไปต้มประมาณ 5-6 นาที (พอสุก)
สังเกตุได้จาก....หัวไชเถ้าจะดูใสขึ้น
2). ตักใส่กระชอน พักทิ้งไว้
3). นำหัวปลา นำมาล้างน้ำให้สะอาด ใช้ผ้าหรือกระดาษซับน้ำให้แห้ง
หั่นเป็นชิ้นขนาดพอควร ((แต่ควรชิ้นใหญ่หน่อย ไม่งั้นเวลาต้มจะเละง่าย))
นำหัวปลาใส่กระชอน
4). ต้มน้ำสะอาดให้เดือด ((เพื่อความประหยัดเวลา+พลังงาน ส่วนใหญ่
ใช้น้ำที่เหลือจากการต้มหัวไชเถ้า) นำมาเทราดลงไปบนชิ้นปลาให้ทั่ว
5-6). นำชิ้นปลาที่ลวกน้ำร้อนแล้ว มาล้างด้วยน้ำเย็น ใช้มือดึง ล้างคราบเลือด
ที่จับตัวเป็นก้อนตามชิ้นปลาออกให้หมด เสร็จแล้วก็ใช้ผ้าหรือกระดาษซับน้ำ
ให้แห้งสนิท
7). นำส่วนผสมของน้ำซอสปรุงรส...ซึ่งได้แก่

ซีอิ้วญี่ปุ่น (โชหยุ)...... 3 ช้อนโต๊ะ
เหล้าหวานมิริน....... 1 ช้อนโต๊ะ
เหล้าสาเก........ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย....... 1 ช้อนโต๊ะ

นำทุกอย่างใส่ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งเตาไฟ คนจนน้ำตาลละลายเข้ากันดี
8). ใส่ขิงหั่นฝอยที่เตรียมไว้ลงไป คนให้ทั่ว
9). ใส่หัวไชเถ้าที่ต้มแล้วลงไป
10). ใช้ตะเกียบกลับชิ้นของหัวไชเถ้า เพื่อให้น้ำซอสปรุงรสซึมเข้าทั่ว
11). ใส่หัวปลาแซลมอนที่เตรียมไว้ลงไป
12). เติมน้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง ใส่ลงไป
13). ใช้ไฟแรงต้มจนเดือด หลังจากเดือดแล้ว ให้หรี่ไฟเป็นไฟกลาง
ต้มต่ออีกประมาณ 20 นาที จนน้ำซอสปรุงรสเข้าเนื้อหัวไชเถ้าและหัวปลา
14). พอน้ำซอสเริ่มงวด ให้จับหม้อ เอียงไป - มา พร้อมกับเขย่าเบา ๆ ให้
หัวปลาพลิกกลับด้าน ถ้าจะใช้ตะเกียบ หรือ ทัพพี ช่วยกลับ ต้องระวังอย่า
ให้เนื้อปลาหลุ่ดลุ่ย เคี่ยวต่อจนน้ำซุปงวด ปิดไฟเตา
ตักใส่ชาม...โรยหน้าด้วยต้นหอมที่หั่นฝอยซอย...แบบเส้นสีขาว "ชิระกะเนกิ -白髪ネギ
ที่ล้างและแช่น้ำ...สรงให้แห้งแล้ว... ยกเสริฟ์ได้ทันที

[กล้วยทอด]

จากสูตรข้างบนนั่น กล้วยทอดยังไม่ได้ทำหรอกนะคะ

กำลังคิดว่า จะเสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย ทำดีหรือเปล่า
คือได้หัวปลาแซลมอนมาค่ะ หัวใหญ่พอควร
ปกติ ถ้าซื้อตามร้านที่เค้าทำเป็นอาหารสำเร็จแล้ว คิดว่า
ราคาทั้งจานไม่เกิน 300-500 บาท

ถ้าคิดจะทำเองอุปกรณ์ที่ใช้ คิดราคาเฉพาะ  
โชหยุ เหล้ามิริน เหล้าสาเก โกโบ้ เอาแค่ขวดเล็ก ตอนนี้ก็เกิน 500 แล้วอ่ะ
ใช้อย่างละนิดเดียวเอง แถมทำเสร็จจะทานได้เปล่าหว่า :lol:  
เอ้าๆ ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว คงลองดันทุรังทำไปละกันค่ะ

[กล้วยทอด]

ปีนี้เจ้านายให้ดูแลเรื่องอาหารการกินของคนเกือบสี่พันคน มาให้อีกงานหนึ่ง
คงสนใจเรื่องเมนูอาหาร ของกินแปลกๆ ประหลาดๆ
นวัตกรรม(ฟังดูดีจัง)ต่างๆ ที่ใช้ในการทำครัวมากขึ้น
ฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่รักการทำอาหารด้วยค่ะ

[ayethebing]

ผมว่าหัวปลาซาลมอนไม่แพงนะ ถ้าจำไม่ผิด ร่ำๆ ว่าจะลองมาทำ นึ่งซีอิ้วกินเองอยู่หลายทีแล้ว

เห็นว่า หัวปลาซาลมอนมันจะมันมาก ต้องต้มแล้วทิ้งน้ำไปน้ำนึงก่อนแล้วค่อยนำมานึ่งซีอิ้ว

ผมว่ายังไงทำกับข้าวเองต้องถูกกว่าซื้อกินตามภัตตาคารอยู่แล้ว แต่อร่อยกว่าหรือเท่ากันนี่สิไม่แน่ใจ  ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน เหมือนหลายๆ อย่างในชีวิตครับ

ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างทำกับข้าว มีเสาร์ที่ผ่านมาทำ สปาเกตตี้พอร์คบอล (ใช้หมูแทนเนื้อ)  กินกัน 7-8 ที่ ใช้ต้นทุนน่าจะ 250-300 บาทเอง ไม่มีทางจะได้ถ้าไปซื้อเค้ากินครับ โชคดีที่บังเอิญอร่อย เลยกินกัน แหะ แหะ เกลี้ยง

ผมว่าสปาเกตตี้อร่อยอยู่ที่เส้นอันดับแรก ซอสอันดับสองครับ สูตรมั่วๆ ในวันนั้นของผมคือ

- ต้มเส้นสปาเกตตี้ 8-10 นาที ต้องคอยชิมเรื่อยๆ อย่าให้เละ เอาแบบ เอล ดังเต้ คือสุกทั่วๆ แต่ข้างในยังกรุบๆ อยู่ครับ ได้ที่แล้วแช่น้ำเย็นทันที เทน้ำให้แห้งแล้วใส่น้ำมันมะกอก ให้เส้นไม่ติดกัน

- เอาหมูบดมาใส่เครื่องเทศ และ พาร์เมซานชีส เกลือนิดเดียว คลุกๆ แล้วให้ลูกสาวไปปั้นเป็น พอร์คบอล (แต่เจ้าตัวดีปั้นเป็นรูปงู กับรูปดาวซะเนี่ย ไม่เสร็จสักทีเลยต้องช่วยเลย)

- ใส่น้ำมันมะกอก ใส่กระเทียมสับหัวหอมสับ ผัดจนหอม ใส่หมู ใส่มะเขือเทศเข้มข้น มะเขือเทศสับ ใส่เครื่องเทศอีก ต้มสักพักพอเข้าเนื้อ และซอสข้นพอ (วันนั้นน้ำใสไปหน่อย) แถมใส่เห็ดสับเข้าไปอีก เพื่อความข้นและหอม เติมชีสพาร์เมซานอีกหน่อย แถมไปเด็ดโหระพาที่ริมรั้วมาหั่นฝอยใส่เข้าไปอีก

สูตรพิลึกครับ แต่อร่อยดี กินกันทั้งบ้านเลย

อ้อ คราวหน้าจะทำแกงเขียวหวานลองบ้าง จะเอาให้แซ่บเลย ได้ประสบการณ์อย่างไรจะมาเล่าให้ฟังครับ