อยากถามผู้อ่านดู 3 ก๊ก หรือ รู้เรื่องการปกครอง

[pavilion]

ผมว่าขงเบ้งก็ทำการรอบคอบและไม่ประมาทไม่แพ้สุมาอี้เหมือนกันครับ เหมือนตอนขงเบ้งตีขิมนี่ สุมาอี้ยังบอกเองเลยว่าผิดวิสัยขงเบ้ง และคงเป็นเพราะสุมาอี้เอาแต่ตั้งมั่นไม่ยอมออกรบ เลยดูเหมือนขงเบ้งต้องทำอะไรสุ่มเสี่ยงไปในบางครั้ง ถ้าให้ผมเทียบสุมาอี้เป็นนักลงทุนคงเป็นแบบเชิงรับ ส่วนขงเบ้งคงเป็นแบบเชิงรุก

[ดาวหางสีแดง]

การประมาณตนของโจโฉในเรื่องสามก๊กมีหลายตอนน่าครับ
ตอนที่พระเจ้าเลนเต้เสด็จประพาส เพื่อการล่าสัตว์ อันนี้ทดสอบครั้งแรก

ผมก็ว่าจริงๆแล้วโจโฉมีความทะยานอยากอย่างสูง
แต่โจโฉเป็นนักการเมืองระดับเซียน ความคิดอ่านจึงลึกซึ้ง
การที่ยังไม่ตั้งตนเป็นเจ้า น่าจะชั่งน้ำหนักถึงผลได้ผลเสีย ณ สถานการณ์ในขณะนั้นแล้ว

อาจจะเพราะเป็นคนประเภทเดียวกัน โจโฉจึงรู้ถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของสุมาอี้

ว่ากันว่าเหตุที่โจโฉไม่ไว้วางใจในตัวสุมาอี้ เพราะมีอยู่ครั้งนึง
ที่สุมาอี้เดินนำอยู่ข้างหน้าโจโฉ แล้วพอโจโฉเรียก
สุมาอี้ก็หันหน้ามาหาโจโฉ โดยที่ไม่ได้เอี้ยวตัว(หันมาแต่หน้า)
ลักษณะเช่นนี้ เรียกว่า ราศีของสุนัขจิ้งจอก(จิ้งจอกเหลียวหลัง)
คนประเภทนี้ตามตำราบอกว่าไว้ใจไม่ได้

อันนี้ก็ว่ากันไปตามนิยาย
แต่ความจริงน่าจะเป็นเพราะ เป็นคนประเภทเดียวกันจึงรู้ทันกันมากกว่า

[ดาวหางสีแดง]

ผมว่าขงเบ้งก็ทำการรอบคอบและไม่ประมาทไม่แพ้สุมาอี้เหมือนกันครับ เหมือนตอนขงเบ้งตีขิมนี่ สุมาอี้ยังบอกเองเลยว่าผิดวิสัยขงเบ้ง และคงเป็นเพราะสุมาอี้เอาแต่ตั้งมั่นไม่ยอมออกรบ เลยดูเหมือนขงเบ้งต้องทำอะไรสุ่มเสี่ยงไปในบางครั้ง ถ้าให้ผมเทียบสุมาอี้เป็นนักลงทุนคงเป็นแบบเชิงรับ ส่วนขงเบ้งคงเป็นแบบเชิงรุก

เปรียบเทียบได้ดีมากเลยครับ

ผมคิดว่าหลายๆครั้งแผนของขงเบ้งเสี่ยงเกินไป นอกจากตีขิมลวงสุมาอี้ซึ่งเสี่ยงมากๆแล้ว ก็อย่างเช่น ยืมลูกธนูโจโฉ นัดผ่านเล่าปี่ให้จูล่งมารับที่แท่นเจ็ดดาว ให้เล่าปี่รับปากซุนกวนมากังตั๋งเพื่อสู่ขอน้องสาวซุนกวน หรือตอนที่ให้ม้าต้ายเก็บอุยเอี๋ยนนี่ก็มีโอกาสที่จะผิดพลาดสูง

หลายๆอุบายมีความเสี่ยงสูงมาก ถ้าพลาดก็แย่เลย

ขงเบ้งนอกจากเป็นนักลงทุนเชิงรุกแล้ว ยังน่าจะกู้เงินเขามาเล่นด้วย
เพราะด้วยเงื่อนไขหลายๆอย่าง ทำให้ทำศึกแต่ละที ต้องร้อนใจ มุ่งจะเอาชนะให้ได้เปรียบได้กับการกู้เงินเขามาเล่น

เลยมีผิดพลาดได้เมื่อเจอคู่ปรับที่เขี้ยวๆหน่อยอย่างเฮ็กเจียว กับเกียงอุย
เฮ็กเจียวนี่เดี้ยงไปเอง ส่วนเกียงอุยก็ดึงมาเป็นพวกได้

แต่กับคู่ปรับที่ฟ้าส่งมาเกิดและดวงแข็งมากๆอย่างสุมาอี้ ประกอบกับเงื่อนไขที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ขงเบ้งแม้จะเก่งกว่าแต่ก็ไม่อาจจะเอาชนะได้


สุมาอี้เองแม้จะรอบคอบเพียงไหน แต่ก็มีผิดพลาดได้
เกือบจะถูกขงเบ้งเอาไฟเผาจนตาย
(เหมือนกับนักลงทุนทุกคน แม้จะวิเคราะห์มาดีเพียงใด ใคร่ครวญขนาดไหนก็พลาดได้)

แต่อยู่ที่จะจำความผิดพลาดที่เกิดได้รึเปล่า
สุมาอี้หลังจากพลาดท่าจนเกือบตาย ก็ใช้ยุทธวิธีตั้งมั่นไม่ยอมรบ
ถูกขงเบ้งหยามขนาดไหนก็ไม่รบ แต่อดทนและรอโอกาสที่จะมาถึงตน

[miracle]

แต่ตอนนั้น โจโฉ ยังไม่ได้เป็นฮ่องเต้ แต่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว
ซึ่งโจโฉ เคยที่รับตำแหน่งฮ่องเต้แต่โดยขุนนางต่อต้าน จึงไม่รับ ถึงรุ่นลูกถึงได้เป็นฮ่องเต้
ซึ่งเหมือนกับสุมาอี้ ที่ยอมเป็นลูกน้องโจโฉ เพื่อให้ลูกหลานให้เป็นใหญ่
ซึ่งลูกหลานของสุมาอี้ก็ทำซ้ำรอยลูกหลานของโจโฉ ในการยึดอำนาจจากฮ่องเต้ ซึ่งมีการประลองกำลังกันก่อน ถึงรู้ว่า ณ ช่วงเวลาใดสามารถยึดครองได้ โดยไม่มีขุนนางต่อต้าน

[SEHJU]

[quote="mineknight"]ชอบจังเลยคุยเรื่องสามก๊กนี่ ได้เจอคนวิเคราะห์เก่งๆ หลายคน

[ดาวหางสีแดง]

ตระกูลสุมามีอำนาจนานกว่านั้นครับ

เวลา 50 กว่าปี นั้นนับเฉพาะ ราชวงศ์ จิ้นตะวันตก แต่ถ้ารวม ราชวงศ์ จิ้นตะวันออกด้วย ตระกูลสุมาจะครองอำนาจรวม 150 กว่าปี

[SEHJU]

ก่อนลงเรือขงเบ่งก็กังวลอยู่เหมือนกัน (พูดกับโลซก)
อีกอย่างตอนอยู่ในเรือก็ยิ่งกังวล (ดืมย้อมใจ)

ส่วนเรียกลมนั้น คิดว่าขงเบ่งไม่ได้เรียก
เพียงแต่สามารถพยากรณ์ ซึงก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
จึงให้จูล่งมารับ

มั่วๆเอาน่ะครับ ^^

ขณะนั้นขงเบ้งนอนดูภาพอะไรซักอย่างที่ติดบนผนังในเรือ แล้วโลซกก็เข้ามาพอดี ทั้งสองก็โอภาปราศัยกัน
ขงเบ้งถามโลซกว่า อันแม่ทัพนั้นมีกิจอันใด.. โลซกก็ตอบไปอย่างง่ายๆว่า ก็มีหน้าที่คุมทัพ จัดทัพ และนำทัพ
ขงเบ้งยิ้มแล้วก็ได้บอกกล่าวกับโลซกว่า.. แต่เดิมแม่ทัพนั้นคิดแต่ว่า ฝ่ายตนนั้นมีกำลังน้อย มากกว่า หรือเข้มแข็งกว่าศัตรูเพียงใด แม่ทัพจำพวกนั้น
ในปัจจุบันก็มี ลิโป้ อ้วนเสี้ยว เหล่านี้ไม่น่ากลัว อันตัวแม่ทัพหากไม่รู้ซึ่งมรรควิถีแห่งการนำทัพ แท้จริงคือคนถ่อย
ส่วนแม่ทัพที่รู้มรรควิถีแห่งการนำทัพนั้น มิเพียงแต่ว่าใช้กำลังเข้าห่ำหั่นข้าศึกยังนำทัพหมื่นแสนโลดแล่นแดนดิน
ปัจจุบันมี โจโฉและท่านจิวยี่ แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่รู้ซึ้งมรรควิถีแห่งการนำทัพ... ขงเบ้งว่าต่อ ขอยกตัวอย่าง การใช้พลัง อันพลังนี้มีทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น
ที่มองเห็นก็คือ ทหารมีเลือดมีเนื้อ ถือหอกถือทวน ส่วนพลังที่มองไม่เห็นก็มี เดือน ดาว ดิน น้ำ ไฟ เมฆ ลม ภูเขา เหล่านี้ล้วนเป็นพลัง...
ขงเบ้งว่ายาว  แต่โบราณจิวกงวาดวงกลมแบ่งออกเป็น360ส่วน เรียกปฏิทิน ห้าวันว่าโห้ สามโห้ว่าซี่ หกซี่ว่าฤดู สี่ฤดูว่าปี
บ่งบอกฤดูกาลผันผ่านในขวบปีเป็นที่ชัดเจน ยามใดรุ้งหลบกลบหาย ยามใดฝนตกฟ้าร้อง ยามใดดินชื้นอบอ้าว ยามใดเดือนดับอับแสง
ทั้งนี้ต้องรู้ซึ้งเข้าใจ ใช้คล่องได้ที่ ฝังลึกในใจ จะมีฤทธิ์กว่าทหารนับล้าน.....
ขงเบ้งหัวเราะปิดท้ายแลพรางนึกในใจ เมิงเสร็จกรูๆ 5 5
 
ช็อตนี้ในสามก๊กผมชอบมากเลยอ่ะครับ เป็นช่วงที่ขงเบ้งท๊กำลังอปฟอร์มสุดๆ

[ดาวหางสีแดง]

เห็นคุยเรื่องความอำมหิต

ผมเห็นด้วยเลยครับว่าสุมาอี้อำมหิตมากๆ

โจโฉ กับ สุมาอี้ มักจะถูกมองว่า 2 คนนี้เหมือนกันในเรื่องยึดอำนาจจากเจ้านายของตนเอง (จริงๆขงเบ้งก็ด้วยแหละ ต่างกันที่รูปแบบเท่านั้น)

แต่การกระทำของสุมาอี้นั้นอำมหิต กว่าโจโฉเยอะ
ความสำเร็จของสุมาอี้ นอกจากคำว่า อดทน รู้สถานการณ์ แล้วก็อำมหิตนี่แหละ


ในตอนหลังของ 3 ก๊ก
เสาหลักของแต่ละก๊ก คือ ขงเบ้ง  สุมาอี้  แล้วก็ลกซุน

ขงเบ้งอาจจะเก่งที่สุด
สุมาอี้คือคนที่ประสบความสำเร็จที่สุด

แต่ถ้าดูที่จริยะ คุณธรรมในแง่ของการเป็นเสนาบดีที่รับใช้เจ้านาย รับใช้แผ่นดินแล้ว ลกซุนดีที่สุด

[SEHJU]

[quote="ดาวหางสีแดง"]เห็นคุยเรื่องความอำมหิต

ผมเห็นด้วยเลยครับว่าสุมาอี้อำมหิตมากๆ

โจโฉ กับ สุมาอี้ มักจะถูกมองว่า 2 คนนี้เหมือนกันในเรื่องยึดอำนาจจากเจ้านายของตนเอง (จริงๆขงเบ้งก็ด้วยแหละ ต่างกันที่รูปแบบเท่านั้น)

แต่การกระทำของสุมาอี้นั้นอำมหิต กว่าโจโฉเยอะ
ความสำเร็จของสุมาอี้ นอกจากคำว่า อดทน รู้สถานการณ์ แล้วก็อำมหิตนี่แหละ

ในตอนหลังของ 3 ก๊ก
เสาหลักของแต่ละก๊ก คือ ขงเบ้ง

[ดาวหางสีแดง]

ความสำเร็จของสุมาอี้ นอกจากคำว่า อดทน รู้สถานการณ์ แล้วก็อำมหิตนี่แหละ

ตกไปอันนึงครับ ความสำเร็จของสุมาอี้กับตระกูลสุมาอยู่ที่สุมาอี้เป็นคนที่อายุยืนด้วย

โจโฉ เคยบอก โจผี ว่าอย่าให้ สุมาอี้กุมอำนาจทางทหารเด็ดขาด
ซึ่งโจผี ก็ปฏิบัติตาม

โจโฉคงนึกไม่ถึงว่า โจผีจะตายก่อนสุมาอี้

สุมาอี้ซึ่งอดทนมาตลอดมาได้รับโอกาสในยุคโจยอย

หลังโจยอยตายแล้วสุมาอี้ โดนย้ายไปนั่งตบยุงนานถึง 8 ปี
(แต่สุมาอี้ก็อดทนรอโอกาสมาได้ตลอด 8 ปี ซึ่งตอนนั้นก็แก่แล้ว)

จนโจซองไม่ระแวงสงสัยเลยทำให้สุมาอี้ทำรัฐประหารได้สำเร็จโดยใช้กำลังทหารแค่ 3000

[ดาวหางสีแดง]

ซึ่งโจโฉ เคยที่รับตำแหน่งฮ่องเต้แต่โดยขุนนางต่อต้าน จึงไม่รับ ถึงรุ่นลูกถึงได้เป็นฮ่องเต้

คิดว่าโจโฉไม่เคยจะตั้งตนเป็นฮ่องเต้นะครับ

ตอนที่โดนต่อต้าน คือตอนที่จะเลื่อนตำแหน่งเป็นวุยก๋ง ซึ่งถูกซุนฮกคัดค้านอย่างหนัก (ครั้งนี้เป็นต้นเหตุให้ซุนฮกตายด้วย)

แล้วครั้งต่อมาก็โดนคัดค้านตอนจะเลื่อนตำแหน่งจากวุยก๋งเป็นวุยอ๋อง
(และครั้งนี้ก็เป็นเหตุให้ซุนฮิวหลานซุนฮกตาย)

[mineknight]

คุณดาวหางสีแดง(ซาร์) เล่าให้ฟังหน่อยดิว่าขงเบ้ง ทำการยึดอำนาจนายอย่างไรครับ  (ไม่ค่อนสนใจขงเบ้งเท่าไรมันเก่งเวอร์ไป)

ส่วนตัวคิดว่าการศึกที่ขงเบ้งนำทัพหลายๆ ครั้งต้องเสียกระบวนเพราะฮ่องเต้ไม่ได้เรื่อง ส่วนตัวคิดว่าถ้าอาเต๋า(ใช่ป่าวหว่า) เอาการเอางานกว่านี้ ทัพฝ่ายเขาคงน่าจะดีกว่านี้ อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ขงเบ้งแพ้

สุมาอี้ ใช้ที่ชอบลงโทษ แบบซาดิส หรือป่าวครับ เช่นเอาไปต้ม อ่านๆมานานเริ่มสับสน

หากดูสรุปๆ แล้วมาวิเคราะห์ คิดว่าการที่เรามีคนเก่งๆ มาร่วมงานด้วยเป็นสิ่งหนึ่งที่รับประกันได้ว่าเราอาจจะประสบความสำเร็จ แต่มันกลับเป็นความเสี่่ยงมาก หากเราไม่สามารถควบคุมคนเก่งๆ นั้นได้  ซึ่งแสดงให้เห็นหลายๆ ครั้งที่โดนคนเก่งๆ หักหลัง

คิดว่าหนึ่งในนั้น คงจะมีโจโฉเท่านั้นที่สามารถดูคนออก คิดว่าดูคนออกจริงๆ ไม่งั้นคงไม่สั่้งห้ามไม่ให้สุมาอี้ได้ตำแหน่งใหญ่ๆ  เสียดายที่คุณสมบัติดีๆ ของพ่อไม่ได้ส่งต่อมายังลูกเลย   และส่วนตัวคิดว่าโจโฉเป็นคนคิดการใหญ่ ถามว่าจริงๆ อยากเป็นฮ่องเต้ไหม ถ้าเลือกได้ก็คงอยากเป็น แต่ก็มีส่วนเจียมตัวอยู่ รวมทั้งบวกลบคูณหาร แล้วได้ไม่คุ้มเสียด้วย จึงยอมทิ้งโอกาสไป

อ๋อ มีงงตอนหนึ่ง ทำไม่อ้วนสุด กะ ซุนเซ็ก ทำไม่ต้องแย่งเอาตราประทับกันอ่ะ  หากได้ตรานี้ไปจะสามารถทำอะไรได้บ้าง???

[ดาวหางสีแดง]

ขงเบ้งเริ่มกุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ก็หลังจากที่เล่าปี่ตายลง
ตอนนั้นเล่าเสี้ยนยังเด็ก ประกอบกับซูฮั่น(จ๊กก๊ก) เพิ่งจะก่อตั้งมา 2 ปี

ขงเบ้งจึงต้องเป็นหลักในการบริหารให้เล่าเสี้ยน

การปกครองภายใน ขงเบ้งเน้นการคัดบุคลากรที่มีความสามารถ
หลายๆคน ถ้ามีความสามารถจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงๆ
โดยไม่เน้นขั้นตอนตามระบบราชการ
เช่นเจียวอ้วน ม้าเจ็ก อองเป๋ง ลิเงียม เคาเจ้ง บิฮุย

พัฒนาการปกครองและความเป็นอยู่
โดยการปรับปรุงระบบกฎหมายให้เข้มงวด พัฒนาที่ดินเน้นการเพิ่มผลผลิต

ด้านการทหารและต่างประเทศ ยังคงนโยบายเดิม
คือผูกมิตรกับง่อก๊ก ล้มล้างวุยก๊ก ปราบปรามชนเผ่าชายแดน
เน้นการฝึกทหารและพัฒนากองทัพ

เมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง จ๊กก๊กก็แข็งแกร่ง
และฟื้นตัวกลับมาได้หลังจากที่เล่าปี่พาคนไปตาย 75 หมื่น

อำนาจในการบริหารทุกอย่างก็เป็นของขงเบ้งจนหมด
ไม่ต่างอะไรกับโจโฉ

ต่างกันตรงที่ ขงเบ้งไม่ได้ทำเรื่องขอ(บังคับ) ศักดิ์อย่างเจ้า และ อิสริยยศ 9 ประการ และยังให้เกียรติแก่พระเจ้าเล่าเสี้ยนอยู่

[ดาวหางสีแดง]

ขงเบ้งไม่ได้แย่งอำนาจจากเล่าเสี้ยน แต่ไม่ได้คืนอำนาจให้

สิ่งที่ขงเบ้งทำในตอนแรกนับว่าชอบด้วยเหตุผล

แต่เมื่อการบริหารบ้านเมืองลงตัวแล้วและเล่าเสี้ยนเองก็โตแล้ว
ก็น่าที่จะคืนอำนาจการบริหารให้เล่าเสี้ยน

เล่าเสี้ยนเมื่อไม่มีอำนาจในการบริหาร ประกอบกับขุนนางในตำแหน่งสำคัญต่างๆก็เป็นคนที่ขงเบ้งดันขึ้นมาแทบทั้งหมด
ทำให้เล่าเสี้ยนเป็นเพียงแค่นอมินีเท่านั้น

อาจจะมองว่าเล่าเสี้ยนไร้ซึ่งความสามารถ
แต่หน้าที่ของเสนาบดีที่ดี ก็ต้องคอยค้ำจุน ชี้แนะ ให้คำปรึกษามิใช่หรือ?

ไม่ใช่รวบอำนาจทั้งหมดไปแบบนี้


ในการสนทนาระหว่างเล่าปี่กับสุมาเต็กโช
มีตอนนึงสุมาเต็กโชบอกกับเล่าปี่ว่า ขงเบ้งเคยบอกว่าตัวเองเปรียบได้กับกวนจ่ง กับ เล่อยี่

กวนอูซึ่งฟังอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกว่า ขงเบ้งไม่ประมาณตน
(กวนอูขี้อิจฉาแล้วก็ชอบดูถูกคนอื่นอยู่แล้ว)
แต่พอกวนอูฟังต่อน่าจะรู้สึกหมั่นไส้เข้าไปใหญ่
เนื่องจากว่าสุมาเต็กโชบอกต่อว่า ในความคิดเขา ขงเบ้งเหนือกว่า กวนจ่ง กับ เล่อยี่

ความสามารถของขงเบ้งน่าจะเทียบได้กับ เจียงไท่กง กับ เตียว(จาง)เหลียง

[ดาวหางสีแดง]

รายชื่อทั้ง 4 คนในบทสนทนาระหว่างสุมาเต็กโช กับ เล่าปี่นั้น
เป็นสุดยอดกุนซือในยุคก่อน
(ในไทยเรา อาจจะยกย่อง ซุนหวู่ กับ ขงเบ้ง แต่ระดับสากลเขายกย่อง เจียงไท่กง กับ เตียวเหลียง เป็นอันดับหนึ่ง)

ความสามารถของขงเบ้งนั้นเป็นที่ยอมรับ
แต่ในด้านการเป็นเสนาบดีที่ดีนั้น เทียบไม่ได้เลยครับ
กับ ยอดเสนาบดีทั้ง 4 ในอดีต

[ดาวหางสีแดง]

สุมาอี้ ใช้ที่ชอบลงโทษ แบบซาดิส หรือป่าวครับ เช่นเอาไปต้ม อ่านๆมานานเริ่มสับสน

คนที่ลงโทษคนโดยจับไปต้มนั้นคือ ตั๋งโต๊ะ  ครับ
(ในยุคโบราณก็มี โจ้วอ๋อง สุดยอดทรราช อีกคนนึง)

สุมาอี้ อำมหิต แต่ไม่ วิปริตครับ



ในยุคโน้นเป็นยุคแห่งความวุ่นวาย
ทุกคนมีโอกาสที่จะผุดผงาดขึ้นมาได้

ตราหยกเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ บุญบารมี
ถ้าได้ครองตราหยกก็(อาจจะ) ทำให้การสร้างฐานอำนาจ รวบรวมผู้คน
กระทำได้ง่ายขึ้น

[ดาวหางสีแดง]

ส่วนตัวคิดว่าการศึกที่ขงเบ้งนำทัพหลายๆ ครั้งต้องเสียกระบวนเพราะฮ่องเต้ไม่ได้เรื่อง ส่วนตัวคิดว่าถ้าอาเต๋า(ใช่ป่าวหว่า) เอาการเอางานกว่านี้ ทัพฝ่ายเขาคงน่าจะดีกว่านี้ อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ขงเบ้งแพ้

เห็นด้วยครับว่า เล่าเสี้ยนอ่อนแอไป และเป็นเหตุผลนึงที่จ๊กก๊กแพ้

แต่อีกเหตุผลนึงที่ทำให้ขงเบ้งแพ้ ก็น่าจะเป็นเพราะเร่งรีบในการโจมตีวุยก๊กเกินไป

ทำให้ถ้าเจอแม่ทัพที่เจ๋งๆหน่อย(อย่างเช่นเฮ็กเจียว)
ขงเบ้งก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน

การบุกกิสาน 6 ครั้ง ในเวลาไม่กี่ปี ทำให้จ๊กก๊กอ่อนแอลงไปมาก
พอมาถึงรุ่นเกียงอุยยิ่งแล้วใหญ่
เกียงอุยบุกวุยก๊ก 8 ครั้ง ใน 9 ปี

ทำให้จ๊กก๊กอ่อนแอลงเรื่อยๆ ทหารและประชากรลดจำนวนลงมาก เหล่าขุนนาง แม่ทัพก็ทะยอยตายไปเรื่อยๆ

จนโดน เตงงาย + จงโฮย ตีแตก โดยการบุกเพียงครั้งเดียว

ถ้าขงเบ้งพัฒนาจ๊กก๊กให้เข้มแข็ง สะสมกำลังให้พร้อม
ซึ่งความสามารถที่ขงเบ้งมี น่าจะทำให้จ๊กก๊กเข้มแข็งมากๆ
แล้วส่งมอบการใหญ่ให้คนรุ่นต่อไป

จ๊กก๊กก็อาจจะเป็นใหญ่ รวมแผ่นดินได้


แต่นี่พี่แก กะจะรวมแผ่นดินให้ได้ในยุคของตัวเอง
เลยรีบร้อนจะตีวุยก๊กให้แตก ทั้งๆที่ก็ตัวเองก็ยังไม่พร้อมเท่าไร
ทำศึกแต่ละครั้งก็เลยดูเหมือนจะต้องทำอะไรเสี่ยงๆบ่อยเหลือเกิน
(ถ้าเป็นการลงทุน ก็เหมือนกู้เงินเขามาเล่น)
ทำให้ตีวุยก๊กไม่แตกสักที
และเป็นเหตุให้ก๊กตัวเองอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนล่มสลายในที่สุด

[Zionism]

ขงเบ่งคิดว่าถ้าตัวเองตายจะไม่มีใครสามารถแบกรับภาระนี้ได้ครับ

ถ้าเล่าปี่ไม่ยกทัพไปแก้แค้นให้กวนอู ทำให้เสียไพล่คนและขุนพล
(เป็นช่วงที่กองทัพแข็งแกร่งที่สุดแล้ว)
ขงเบ่งอาจจะตีวุยก๊กแตกก็เป็นได้

[ดาวหางสีแดง]

ขงเบ่งคิดว่าถ้าตัวเองตายจะไม่มีใครสามารถแบกรับภาระนี้ได้ครับ

เหตุผลดีครับ นักวิเคราะห์หลายๆท่านก็คิดอย่างนี้
(ซึ่งในแง่ของผู้บริหารแล้ว ความคิดนี้เป็นอันตรายต่อองค์มากเหลือเกิน)

มีอยู่หลายครั้งนะครับที่ ฟ้องว่าขงเบ้งนับถือในความสามารถของผู้อื่น

อย่างตอนที่เล่าปี่จะบุกง่อก๊ก
ตอนนั้นคนที่คัดค้านอย่างรุนแรงมี 2 คน
คนนึงคือจูล่ง อีกคนคือขงเบ้ง
ซึ่งขงเบ้งทำฎีกาถวาย แต่เล่าปี่ปาทิ้งอย่างไม่ไยดี
จนขงเบ้งเสียใจมาก แล้วก็รำพึงว่าถ้าหวดเจ้งยังอยู่ คงจะห้ามเล่าปี่ได้

หวดเจ้งเป็นใครครับ ทำไมขงเบ้งจึงคิดว่าคำทัดทานของหวดเจ้งน่าจะมีน้ำหนักกว่าตัวเอง

หวดเจ้งคนนี้เป็นคีย์แมนคนสำคัญ มีผลงานเป็นรูปธรรมที่ทำให้ เล่าปี่ยึดครองเสฉวน กับ ฮันต๋งได้

การที่ขงเบ้งรำพึงอย่างนี้ก็แสดงว่าขงเบ้งไม่ใช่คนใจคอคับแคบ และยอมรับในความสามารถของผู้อื่น

แม้หวดเจ้งจะชิงป่วยตายไปก่อน แต่ ยังมี เจียวอ้วน บิฮุยและคนอื่นๆที่มีความสามารถอยู่

อีกครั้งก็ตอนที่เจอเกียงอุย เล่นงานจนเกือบตาย สุดท้ายต้องดึงมาเป็นพวก
ขงเบ้งบอกว่า นับจากบังทองตายไป ก็มีเกียงอุยนี่แหละเป็นคู่คิดที่ทันกันกับตนเอง
บังทองคนนี้ขงเบ้งให้การยกย่องว่าในด้านกลยุทธ์ บังทองทำได้เหนือกว่าตัวเอง การที่ขงเบ้งให้การยกย่องเกียงอุยทัดเทียมกับบังทอง จึงเป็นการแสดงว่าให้การยอมรับในความสามารถของเกียงอุยเป็นอย่างสูง

มันก็เลยมีข้อสงสัยว่า

จ๊กก๊กไม่มีคนเก่งคนอื่นอีกหรือ?

จ๊กก๊กมีคนเก่ง แต่ขงเบ้งมองไม่เห็น?

จ๊กก๊กมีคนเก่ง แต่ขงเบ้งแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น?